ร่างเล็กสวมชุดคลุมสีขาวสะอาดตา ยืนส่องตัวเองในกระจกเงาภายในห้องน้ำ พลางถอนหายใจดังเฮือก ๆ อยู่หลายครั้ง
"เธอไม่มีทางเลือกนี่ อย่าคิดมากสิ เปียโน" คนตัวเล็กยังคงปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น ก๊อก ก๊อก "เธอถ่วงเวลาอยู่หรือเปล่า" เปียโนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เสียงเข้มที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำมันบ่งบอกอารมณ์ที่มีอยู่ตอนนี้ น้ำเสียงของเขาค่อนข้างจะหงุดหงิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหมุนตัวออกจากหน้ากระจกแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง พรึ่บ ทันทีที่ร่างเล็กปรากฏตัว เขาก็ดันเธอจนติดผนังลมหายใจผ่าวร้อนระยะประชิดจนเธอได้กลิ่นเหล้าจาง ๆ ออกมา ดวงตาของเขาที่มองต่ำมาที่ริมฝีปากมันทำเอาเปียโนหายใจแทบลำบาก อย่าว่าแต่จ้องมองเขาคงอดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากหยักลงมาที่เรียวปากเธอจนเปียโนต้องผลักเขาถอยออกไปด้วยความเผลอตัว ผลัก ! "เออ คุณตินไปที่เตียงก่อนไม่ได้หรือคะ" "ทำไม จะที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละที่นี่ห้องของฉัน ฉันอยากทำตรงไหนมันก็ยอมได้" "แต่....." "ฉันรู้สึกว่าเธอค่อนข้างจะเรื่องมาก... ก็ได้!" สิ้นสุดคำพูดห้วน ๆ แบบนั้นร่างของเปียโนก็ถูกช้อนขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว จนตัวลอยขึ้นสูง เธอใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดลำคอเขาไว้กลัวจะเป็นอันตราย เมื่อมาถึงเตียงกว้างเท่านั้น ออสตินก็ว่างเธอลงช้า ๆ พลันหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตึก ตึก ดวงตาคู่นั้นจ้องมองที่ริมฝีปากสวยอีกครั้งก่อนที่เขาจะจูบ เป็นจูบที่กดลึกดูดดื่มเปลือกตาของเปียโนค่อย ๆ หลับลงช้า ๆ รับสัมผัสที่เขากำลังจะมอบให้ จูบที่แสนเร่าร้อนไม่ได้อ่อนโยนกับเธอเท่าไรนักซ้ำลิ้นชื้นยังพยายามแทรกเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่มจนแทบหายใจไม่ออก ฮึก ฮืมม พยายามร้องท้วงขอลมหายใจที่ขาดหายแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มร่างสูงจะไม่ยอมลดละแม้แต่น้อย เขายังยกมือขึ้นมาบีมคางเธอแน่นจนเปียโนเผลออ้าปากทำให้ลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาจนสำเร็จ ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวฝันพลางดูดริมฝีปากจนดัง จ๊วบ ฮึก ในที่สุดเธอก็ต้องผลักเขาถอนออกไป วินาทีนั้นสิ่งที่ร่างเล็กทำได้คือพยายามกอบโกยลมหายใจเข้าไปเลี้ยงปอด อาการหอบกระเส่าของเธอตอนนี้ยิ่งปลุกอารมณ์ชายได้เป็นอย่างดี "อย่าดื้อสิ" "หนูหายใจไม่ออก" คำพูดกระเส่าของคนตัวเล็กทำให้ชายหนุ่มเจ้าของคอนโดหรู ต้องเหยียดยิ้มออกมาเล็กน้อย โดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นจากเตียงถอดเสื้อผ้าอย่างคล่องตัว การกระทำนั้น ทำให้เปียโนต้องหลบสายตาหนี ใครจะไปกล้ามองก็สิ่งที่มันโชว์อยู่ตรงหน้าเธอนั้น มันคือความเป็นชายที่ใหญ่ยาวพร้อมความแข็งขืนตื่นตัวเต็มที่ เปียโนอยากจะร้องไห้ออกมาเสียตอนนั้น เธอรู้สึกสมเพชตัวเองที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้แต่เพราะความกตัญญูที่เธอมีต่อผู้มีพระคุณ อย่างไรเสียเธอก็ทำเพื่อช่วยเหลือพ่อของเธอ ออสตินเดินไปหยิบคอนดอมที่ลิ้นชักหัวเตียง ก่อนที่เขาจะใช้ปากฉีกมัน แต่เสียงการกระทำเหล่านั้นมันทำให้เปียโนรู้สึกละอายขึ้นไปอีก "เคยมากี่ครั้งแล้ว?" "คะ?" ไม่รู้ว่าเขาจะถามคำนี้กับเธอขณะที่เขายืนหันหลังสวมถุงอย่างอยู่ แต่คำถามแบบนี้มันเหมือนจะดูถูกเธอมากเกินไป หากจะตอบว่ายังไม่เคยก็รู้สึกละอายไปอีก เปียโนได้แต่เงียบก้มหน้าเม้มปากแน่นอยู่อย่างนั้น สิ้นเสียงในขณะที่เธอไม่ตอบ ออสตินก็สาวเท้ามาที่เตียงนอน ตอนนี้เขาตัวเปล่าล่อนจ้อน ส่วนกลางชายแข็งจนชี้โด่ง ยิ่งดวงตากลมเห็นแบบนั้นเธอยิ่งละอายพร้อมกลัวเข้าไปใหญ่ ในขณะที่นั่งขดตัวบนเตียงพร้อมหลบหน้าสั่นเทาอยู่อย่างนั้น มือหนาก็เอื้อมมาจับที่ข้อเท้าเธอแล้วดังมันลงมาอย่างแรง ทำให้เปียโนต้องร้องออกมาด้วยความกลัว "อ้ายย" ออสตินเริ่มเร้าโรมริมฝีปากหว่านพรมความร้อนไปตั้งแต่ใบหูและซอกคอขาว ๆ มืออีกข้างล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมแม้ว่าเธอจะพยายามปกป้องตัวเอง พยายามจับมือเข้าไปไม่ให้มันซุกซนต่อไป แต่เขากลับจับมือเธอพันธนาการไว้เหนือหัวไม่ให้ต่อต้านให้เสียอารมณ์ สัมผัสแนบชิดปลายจมูกของเขาซุกไซ้ลงมาเรื่อย ๆ สัมผัสนี้มันชวนให้คนตัวเล็กรู้สึกวาบหวามไปกับเขา เปียโนหลับตานิ่งยอมให้เขาได้ทำตามอำเภอใจแต่ใครจะรู้ว่าภายในใจตอนนี้ของเธอมันรู้สึกสมเพชตัวเองขนาดไหนที่ยอมขายเรือนร่างให้คนที่พึ่งรู้จัก เขาเห็นว่าเธอนิ่งก็เริ่มจัดการกับชุดคลุมสีขาวเพียงมันหลุดออกจากตัวเธอเท่านั้น ออสตินก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เรือนร่างขาวนวลเนียน ทุกจุดของร่างกายสวยงามไปเสียหมด "อย่ามองแบบนั้นสิคะ หนูอาย" เธอยกมือมาปกปิดเนื้อตัวพลางหลบหน้าหนี แต่เขากับไล่ฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่างเธออย่างช้า ๆ ทำให้ร่างกายของเปียโนสั่นสะท้านความรู้สึกนี้เธอเองก็ไม่เคยสัมผัส จนกระทั่งฝ่ามือนั้นหยุดอยู่ที่จุดสำคัญทำเอาดวงตากลมเบิกกว้างแล้วหันมามองเขา "ตรงนั้น คือ หนู!" เธอรู้สึกอายไม่อยากให้เขาสัมผัสมันสักนิดแต่คงช้าไป เมื่อนิ้วเรียวยาวแหวกร่องสวยพร้อมจับสองขาของเธอแยกออก "อืมม" เปียโนได้แต่เม้มปากแน่นขึ้นไปอีก ในขณะที่เขาก้มลงมาหยอกล้อกับหน้าอกสวยของเธอ ลิ้นชื้นตวัดลากเลียจนคนตัวเล็กเริ่มบิดเร้าร่างกายรู้สึกได้ถึงความผิดแปลก ท่อนบนเขาใช้ลิ้นสากทว่าท่อนล่างเขากำลังใช้นิ้วหยอกล้อมันอยู่ "พอเถอะค่ะ ฮือ " ทำไมมันรู้สึกทรมานร่างกายขนาดนี้ มือบางพยายามกุมผ้าปูแน่น ทันทีที่ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาที่กึ่งกลาง เธอรู้สึกว่าขาของเธอถูกดันให้แยกกว้างขึ้น "ทำแค่นี้เธอก็คล้อยตามแล้วรู้สึกว่าเธอตื่นตัวเร็วมาก" รู้สึกว่ามันน่าอายชะมัดที่เขาพูดมาขนาดนั้น เปียโนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เธอหลบตาไม่อยากเห็นอะไรอีกต่อไป จนกระทั่งรู้สึกถึงความโอฬารแข็งตัวเต็มที่ดันเข้ามาตรงช่องทางอ่อนนุ่มพยายามแทรกเข้ามาอย่างช้า ๆ ทว่า "ทำไมดันไม่เข้าวะ แน่นชะมัด" เสียงเขาบ่นกับตัวเองขณะที่ใบหน้าสวยเริ่มบิดเบี้ยวแน่นอนว่าเธอรู้สึกเจ็บ นี่มันเป็นครั้งแรกของเธอแต่จะบอกเขาอย่างไรได้ "ฮื้อ เจ็บ" ร่างเล็กบิดตัวไปมามือบางบีบหมอนแน่น น้ำเสียงเธอเหมือนกำลังงอแงกับสิ่งที่เขาทำตอนนี้ "อย่าเกร็งสิ เธอเกร็งตัวหรือเปล่าฉันใส่ไม่เข้า" .สีหน้าของเปียโนบ่งบอกอารมณ์ของความเจ็บปวด เธอรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายจะฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทุกครั้งที่ออสตินพยายามดันท่อนเอ็นที่แข็งขืนเข้ามาด้านในตัวเธอ"หนูเจ็บ พอเถอะค่ะ ไม่เอาแล้ว""ก็บอกว่าอย่าเกร็งไง" เขาใช้น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมาเป็นคำสั่ง จนเปียโนต้องเงียบปาก เธอหวาดกลัวพร้อมเนื้อตัวสั่นเทาไปหมดชายหนุ่มกัดฟันจนสันกรามนูนเด่น สายตาคมจ้องส่วนนั้นอย่างโมโห "แม่ง!"เขาสบถถ้อยคำหยาบคายออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทีหัวเสีย เท้าหนักเดินไปที่หัวเตียงอีกครั้งก่อนจะหยิบเจลชนิดหล่อลื่นขึ้นมาชโลมไปที่ถุงยางอนามัย คราวนี้มั่นใจแล้วว่ายังไงต้องดันมันเข้าไปให้ได้เปียโนยังนอนอยู่ท่าเดิมสองขาของเธอสั่นเทาไปหมดเพราะเกร็งกับความเจ็บเมื่อครู่ ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายด้วยซ้ำ ร่างสูงก็เข้าประชิดตัวเธออีกครั้ง"หนูไม่ไหวแล้ว พอเถอะค่ะ" เพราะรู้สึกเหมือนทางเข้ามันจะฉีกขาดเธอเจ็บจนแทบทนไม่ไหวแต่นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่ออสตินจะหยุด เขาจ่อแท่งร้อนเข้าไปอีกครั้งพร้อมกับดันขาเรียวของเปียโนแยกออก"อ้ายย อื้อ เจ็บบ""หุบปากสักทีได้ไหม เธอจะงอแงอะไรตอนนี้" ที่งอแงเพราะความเป็นชายของเขามันใหญ่มโหฬารต่างหา
23.20 โดยประมาณเปียโนเดินทางกลับมาที่ห้องพัก เวลาในตอนนี้ค่อนข้างดึกพอสมควรเธอคิดว่าพ่อน่าจะหลับไปแล้ว เมื่อมาถึงหน้าห้องสิ่งที่เธอแปลกใจคือ ประตูห้องไม่ได้ปิดสนิทแถมด้านในห้องยังคงมีดวงไฟสว่างอยู่"อย่าบอกนะว่าพ่อยังไม่หลับ"เธอค่อย ๆ ย่างเท้าน้อย ๆ เข้าไปมืออีกข้างก็ใช้ดันประตู ทว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้า"พ่อค่ะ!!!"ร่างของนิลภพล้มคว่ำหน้าอยู่ที่พื้น เธอรีบโผตัวเข้าไปพยุงร่างพ่อให้หงายขึ้นมา ร่างนั้นนอนนิ่งสนิทแต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่"พ่อ พ่อเป็นอะไรไปค่ะ" เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเธอ สิ่งที่พอตั้งสติได้ก็คือการโทรเรียกรถโรงพยาบาลโรงพยาบาลเปียโนยังคงอยู่ในอาการที่เรียกว่าตื่นตระหนกสุดขีดเธอกลัวว่าพ่อของเธอจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากกว่านั้น ทันทีที่รถจอดเปลพยาบาลก็วิ่งมารับร่างที่ไม่มีสติเข็นส่งห้องฉุกเฉินเมื่อร่างของนิลภพถูกเข็นเข้าไปแล้ว เปียโนก็ยื่นตัวสั่นพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอาบที่แก้มขาว ๆ ของเธอ สองมือบีมกันแน่นเธอคิดอะไรไม่ออก ญาติสักคนก็ไม่มีไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ในตอนนี้ร่างเล็กยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินสักพักใหญ่ คุณหมอที่อยู่เวรในห้องก็ออกมาแจ้งให้เธอได้ทราบถึง
ความสงสัยของเปียโนพลันเกิดขึ้นในตอนนั้น ทำไมรุ่นพี่ถึงอยากให้เธอไปทำงานที่บริษัทของเขา ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ยังไม่จบหลักสูตรด้วยซ้ำ"งานที่บริษัทพี่เหรอคะ เปียเรียนไม่จบใบประกาศก็ไม่มีใครจะรับเข้าทำงาน""ก็พี่นี่ไง พี่รู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะสมหากจะฝากเปียเข้าไปทำงาน แต่อนาคตข้างหน้าพี่ต้องเข้าไปบริหารส่วนเรื่องการเรียนก็ย้ายมาเรียนเป็นภาคสมทบแบบนี้พี่ว่ามันน่าจะดีกว่า"อย่าว่าแต่เปียโนที่คิดตามคนที่นั่งข้างเธออย่างแมงเม่าก็แอบแปลกใจมาก จริงอยู่ว่าเธอรู้ โอโซนชอบเพื่อนของเธอแต่ไม่คิดว่าเขาจะจริงจังจนอยากให้เปียโนเข้าไปทำงานที่บริษัท"ว่าไง อยากไปไหม""เปียขอคิดดูก่อนแล้วกันค่ะ" ที่ต้องบอกว่าขอคิดเพราะเธอเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปแล้วเขาจะให้เธอทำแผนกอะไร เงินเดือนเท่าไร เธอเรียนยังไม่จบ วุฒิการศึกษาก็ไม่มีแม้ว่ารุ่นพี่จะยืนกรานช่วยให้เธอเข้าทำงานได้แต่คนที่บริษัทอาจจะมองเธอไม่ดีอยู่ "เอาละ ๆ เปียที่แกเรียกฉันมาวันนี้มีอะไรหรือเปล่า"เปียโนนึกขึ้นได้ว่าอยากจะคุยเรื่องงานกับเพื่อน แต่ดูเหมือนมันจะยากไปเสียแล้วก็รุ่นพี่ที่เธอไม่อยากให้เขารู้ดันอยู่ด้วย เปียโนทำหน้าตาเลิ่กลั่กมองโอโซนแว็บแรก เพียง
สองวันถัดมาจากเหตุการณ์ที่ทำให้นิลภพได้เข้าโรงพยาบาลเมื่อสองวันก่อน ทำให้หมอเจ้าของไข้เร่งคิวให้เข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นไปค่อนข้างลำบากเนื่องจากเนื้องอกเริ่มรุกล้ำเข้ามาเกือบถึงก้านสมองแต่อย่างนั้นก็ทำให้การผ่าตัดในเช้าของวันนี้เป็นไปได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ส่วนเปียโนเธอง่วนอยู่กับเรื่องการผ่าตัดเอกสารที่ต้องยื่นกับทางโรงพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้เธอไม่มีเวลาแม้จะรับสายใครทั้งนั้น แม้กระทั่งสายของออสตินเจ้าของโครงการพันล้านบาท"อย่าให้ฉันได้เจอตัวเธอนะ ยัยสิบแปดมงกุฎ"คิ้วหนาย่นลงจนเป็นปมพร้อมทั้งสันกรามที่นูนเด่นขึ้นเมื่อคมเขี้ยวขบแน่นเข้าหากัน สิ่งที่ออสตินคิดคือเปียโนหลอกเอาเงินเขาใช้ตัวเข้าแลกเพียงหนึ่งครั้งแต่ได้ไปห้าแสนมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีกภายในอกเริ่มร้อนระอุโทสะที่มีมันฝั่งแน่น ขณะนั้นเองเลขาคนสนิทของเขาก็เดินเข้ามาภายในห้องทำงานหรู"นายครับ มิสเตอร์จอร์นมาถึงแล้วครับ" ธนาเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมทั้งกุมมือตัวเองก้มหน้านิ่ง "เอ่อ ไปเชิญเขาเข้ามาได้""ครับนาย"มิสเตอร์จอห์นที่ว่าเป็นชาวต่างชาติที่สนใจร่วมลงทุนกับโครงการใหม่ที่จะถึงภายในไม่กี่เดือนข้า
วันเวลาผ่านไปจากสองวันก็เป็นหนึ่งอาทิตย์การตอบสนองด้านการผ่าตัดของนิลภพดีขึ้นตามลำดับจนได้ออกจากห้องไอซียูมาพักฟื้นที่ห้องธรรมดาได้ปกติ ส่วนเปียโนก็มีหน้าที่เฝ้าไข้พ่อไม่ห่างกาย และยังคงเดินทางกลับไปที่ห้องเพื่อให้อาหารสำลีทุกวัน ห้องพัก(อพาร์ตเมนต์) "สำลีช่วงนี้แกต้องอยู่คนเดียวก่อนรู้ไหม พ่อยังต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล แกอาจจะเหงาหน่อยนะแต่ไม่ต้องห่วงฉันไม่ทิ้งแกแน่นอน" เหมียว พูดจบก็ยิ้มให้แมวสีขาวขนฟูเธอมองมันด้วยความรักเจ้าสำลีกำลังก้มหน้ากินอาหารจากในถาด ส่วนเปียโนเธอก็มองอยู่อย่างนั้นรู้สึกว่าการเกิดเป็นสัตว์ก็น่าจะดีเหมือนกันไม่ต้องรับรู้อะไรมาก ไม่ต้องแบกรับสภาพหนี้สินที่มากมายระหว่างที่ใช้ความคิดเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ร่างเล็กหันไปมองตามเสียงเธอย่นคิ้วเรียวลงเล็กน้อยไม่รู้ว่าใครที่มาเคาะเรียกตอนนี้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูห้อง แอ๊ดด "มาหาใครคะ" เมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ที่หน้าห้องเธอก็รีบเอ่ยถามตามมารยาทกลัวว่าจะมีคนเคาะห้องผิด "เธอใช่ไหมลูกสาว นิลภพ" "ใช่ค่ะ" "เราสองคนมาตามสัญญาที่เขียนไว้ในใบเงินกู้ ครบสัญญาที่ต
รถหรูเคลื่อนตัวมาได้ไกลพอสมควร อยู่ ๆ เขาก็สั่งให้ลูกน้องจอดสนิท"จอด! มึงลงไปได้แล้ว" เสียงเข้มดุดันสั่งให้ธนาลงจากรถคำสั่งนั้นมันทำให้เปียโนต้องมองตามร่างของคนสนิมเขา"จอดทำไมค่ะ?" หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะงวยงงอยู่สักนิดเพราะเห็นว่าถนนเส้นนี้ท่าทางจะเปลี่ยว หรือเพราะว่าเธอเอาเงินเขามาแล้วขาดการติดต่อเขาเลยอยากจะทำร้ายเธอแววตาหวาดกลัวเริ่มแสดงออกชัดเจน เปียโนเริ่มมองฝั่งถนนทั้งสองข้าง ด้านนอกมีคนของเขายืนคุมอยู่"เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเสียเวลาตามหาเธอนานเท่าไร""คือ หนูมีเหตุผล พอดี.....ฮีบ" ชายหนุ่มไม่รอให้เธอได้พูดอะไรมาก เขาเอื้อมมือมาบีมที่คางของเธอแน่นขึ้นจนคนตัวเล็กรู้สึกถึงความเจ็บ"หนูเจ็บ""อย่ามาเล่นลิ้น ตอนที่ฉันให้เงินเธอฉันเคยบอกเธอว่ายังไงจำไม่ได้หรือเธอแกล้งลืม"ใบหน้าของเปียโนเริ่มบิดเบี้ยวเพราะแรงบีบของฝ่ามือชาย ปากเล็กเริ่มห่อขึ้นรูปจนเธอต้องรีบยกมือมาแกะมือเขาแต่มันก็ไม่เป็นผล เขายังบีบแน่นแต่พอเห็นว่าเธอน่าจะเจ็บจนมีน้ำตาเขาก็เริ่มปล่อยมือออกฮึก!น้ำตาของเปียโนไหลออกมาอาบแก้มแต่เธอก็พยายามอดกลั้นไม่ให้มีเสียงสะอื้นร่ำไห้ เธอรู้สึกเจ็บบริเวณข้างแก้มรู้สึกเหมือนกรามมันจ
เขาไม่ฟังเสียงร้องห้ามใด ๆ จากคนตัวเล็กแต่สิ่งที่ออสตินทำคือฉีกเสื้อยืดที่เธอสวมใส่จนขาดวิ่นแคว๊ก"กรี๊ดดด คุณติน" มิหนำซ้ำเขายังกดจมูกโด่งลั่นลงที่ซอกคอของเปียโน เรียวปากหยักได้รูปดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเต็มไปหมด"ฮื้อ ปล่อยนะ" เธอทั้งร้องขอและร้องไห้ในคราวเดียวกัน แต่เพราะช่วงนี้คนตัวเล็กพักผ่อนน้อยจึงทำให้เธอเกิดหมดสติในอ้อมกอดเขาพรึ่บเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหยุดนิ่งไม่ขัดขืนต่อสู้ ออสตินจึงละใบหน้าคมนั้นขึ้นมอง "เปียโน อย่ามาแกล้งสลบแถวนี้"แต่เธอก็ไม่ได้ตอบโต้ หญิงสาวหลับตานิ่ง ร่างกายของเธอค่อนข้างที่จะอ่อนเพลีย ออสตินช้อนเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว ก่อนที่เขาจะพาเธอมาที่เตียงกว้าง จากนั้นก็เรียกธนาคนสนิทเขามาพบ"ไปตามหมอมา""ครับนาย" กลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย ออสตินเลยสั่งลูกน้องให้ตามหมอมาตรวจอาการของเปียโนเวลาผ่านไปสักพักหมอก็ถูกพาตัวเข้ามาในห้องหรูของออสติน "อยู่ ๆ เธอก็เป็นลม"เป็นประโยคบอกเล่าของออสติน เมื่อบอกหมอแบบนั้นเขาก็เดินออกไปรอข้างนอกปล่อยให้หมอได้ตรวจเปียโนโดยละเอียด ทว่า เพียงแค่หมอเห็นเสื้อผ้าของเธอที่ขาดวิ่นรอยจ้ำแดงที่คอก็พอรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าพูดเพ
ดูท่าว่าคนตัวสูงจะไม่ฟังด้วยซ้ำว่าเปียโนเธอมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องไปแต่สิ่งที่เขาทำนั้น คือการดึงตัวเธอกลับมาที่เตียงนอนอีกครั้ง พร้อมออกคำสั่ง"ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปไหน เธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น""คุณติน แต่นี่มันเป็นเรื่องสำคัญนะคะ""แล้ว?"เปียโนอดกลั้นพร้อมทั้งกัดฟันแน่นรู้สึกว่าเขาไม่เห็นคนอื่นสำคัญเท่าตัวเองจริง ๆ พอเขาพูดจบก็สั่งให้แม่บ้านเฝ้าเปียโนเอาไว้ส่วนตัวเขาก็เดินออกมาข้างนอกห้อง"ไอ้ธนา!!!""ครับนาย" เสียงที่แผดดังลั่นคฤหาสน์หลังใหญ่ทำให้ธนาต้องรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายตนเอง"มึงไปสืบเรื่องของเธอดูสิว่า สิ่งที่เธอพูดมาจริงหรือเปล่า""ครับ"เมื่อธนาเร่งออกจากตัวบ้านหลังใหญ่ ออสตินก็เอี้ยวตัวกลับไปมองที่ห้องที่เขาพึ่งจะออกมาเมื่อครู่ พร้อมน้ำเสียงที่เอ่ยพูดกับตัวเองเบา ๆ "หากเธอโกหกฉันละก็ฉันเอาเธอตายแน่"มหาวิทยาลัย"อะไรนะคะ เปียโนติดต่อไม่ได้และไม่ได้ไปเฝ้าพ่องั้นเหรอ"แมงเม่านิ่งอึ้งไปหลายวินาที โดยปกติแล้วเพื่อนของเธอจะไม่ไปไหนยิ่งพ่อป่วยแบบนี้เปียโนไม่น่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวด้วยซ้ำ นอกเสียจากจะมีเรื่องกับเพื่อนสาวเธอ"เมื่อวานทั้งวันหนูก็ไม่ได้โทรหาเปียโนเลย เอ้...
หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
เปียโนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ตามเดิม เมื่อมาถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือคุยกับเจ้าของบ้าน"พี่ธนาค่ะ เจ้านายพี่อยู่ที่ไหนคะ""คุณตินพึ่งขึ้นข้างบนเมื่อกี้ครับ"เปียโนมองไปที่ชั้นบนของบ้านก่อนที่เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ย่างขึ้นบันไดฉับ ๆ เมื่อมาถึงห้องเขาเธอก็จัดการเคาะเรียกสองครั้ง ก่อนที่เสียงคนข้างในจะอนุญาตให้เข้าไปแอ๊ดดดเปียโนแทรกร่างเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังนอนเหยียดตัวยาวบนที่นอน พร้อมกับหลับตานิ่ง"คุณติน คุณทำแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่""เธอพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน" เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้เปียโนรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ขอบเตียงแล้วโพล่งเสียงดังฟังชัด"หนูถามคุณว่าคุณเล่นอะไรอยู่"พรึ่บ"อร๊ายยย" ร่างของเปียโนถูกดึงลงมาแล้วออสตินก็เหวี่ยงเธอลงนอนราบเป็นเขาที่ขึ้นไปทับร่าง"หูไม่ได้หนวกสักหน่อยพูดเสียงดังทำไมกัน""ก็คุณบอกว่าไม่ได้ยิน""เอ้...เราไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงมานานเท่าไรแล้วนะ ว่าแต่ครั้งก่อนที่อยู่คอนโดฉันก็ไม่ได้ป้องกันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมเธอไม่ท้องแอบซื้อยามากินหรือเปล่า""ห๊ะ คุณพูดอะไรเนี่ย" สิ่งที่เป
เวลาเดินทางไม่เคยหยุดนิ่ง จากอาทิตย์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเดือน เปียโนเองก็เริ่มคิดอยากจะกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้จะดีขึ้นเจ้าหนี้ที่เคยโทรมาทวงก็ดันเงียบหาย แม้จะแอบแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถามนิลภพ รู้แค่ว่าพ่อดูมีความสุขมากขึ้นสุขภาพร่างกายก็ค่อนข้างแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน ระหว่างที่เปียโนนั่งเช็ดถูถ้วยชามอยู่ในครัว มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืดมือเรียวเล็กล้วงลงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์พ่อของเธอเปียโนก็รีบกดรับ"ค่ะพ่อ"(ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก)"พ่อมีอะไรหรือคะ"(พ่ออยากให้หนูมาหาพ่อหน่อย พ่อมีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวพ่อส่งพิกัดไปให้)"ได้สิคะ" หลังจากที่วางสายพ่อ แม้ว่าจะเกิดความสงสัยในคำพูดของพ่อแต่เปียโนก็ต้องเก็บเอาไว้ รอให้ถึงเวลาก็น่าจะเห็นเอง#คอนโดมิเนียมหรู"ทำไมพ่อถึงให้มาที่นี่นะ" คำถามที่เกิดกับตัวเองพร้อมดวงตาที่แหงนขึ้นไปมองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า ก่อนที่เท้า น้อย ๆ ของเธอจะย่างเข้าไปในตัวตึกเมื่อรู้ตำแหน่งแล้วเปียโนก็มุ่งหน้าไปที่ชั้นห้าของอาคารแห่งนี้เบอร์ห้องที่พ่อบอกไว้เธอเดินมาถึงก่อนที่เท้าจะหยุดนิ่ง แล้วจัดการเคาะประตูเรียกก๊อ
เย็นของวันนั้นออสตินกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดน่าจะเป็นใบหน้าหวาน ๆ ของสาวใช้ที่บ้านเปียโนยกเมนูอาหารเย็นขึ้นมาตั้งที่โต๊ะ เมนูอาหารล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น"นั่งทานด้วยกันสิ""ไม่เป็นไรค่ะ""ฉันบอกให้นั่งก็นั่งเถอะน่า"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย เปียโนก็ต้องยอมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง ส่วนออสตินดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่คนตัวเล็กยอมที่จะนั่งทานเป็นเพื่อนเขา"ไหนลองเสนอเมนูที่เธอทำสิ""ก็มีแค่ผัดผักใส่หมู ส่วนแกงส้ม กับพะโล้ ป้าแม่บ้านเป็นคนทำ" เพียงแค่เสนอเมนูอาหารออสตินก็ไม่รอช้าที่จะตักผัดผักใส่ในจานตัวเอง แค่อาหารเข้าไปในปากก็เคี้ยวอย่างอร่อยทำเหมือนว่าไม่เคยทานมันมาก่อน และเขายังเอ่ยปากชมฝีมือเธอ"อร่อยดีนี่" แต่สิ่งที่มันทำให้เปียโนย่นคิ้วเรียวก็คือ เขาไม่แตะจานอื่นเลย ยิ่งทำให้เปียโนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าอาการผีเข้าผีออกเมื่อก่อนมันหายไปไหนแล้ว คนที่นั่งทานอาหารตรงหน้าเธอตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนเปียโนตักต้มพะโล้ใส่ในจาน พร้อมกับเหลือบสายตามองเขาบ่อยครั้ง ส่วนเขานะเหรอไม่สนใจเมนูอื่นตรงหน้าระหว่างที่ทานอาหาร เสียงรถอีกคันก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ไม่กี่อ
หลายวันผ่านพ้นทุกอย่างภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับเปียโนแล้วเธอรู้สึกว่าออสตินอ่อนโยนขึ้นไม่กระโชกโฮกฮากปากร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดูจะสงบลงเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือเขากินยาผิดซองกันแน่แต่หลายวันมานี้สิ่งที่เธอเองก็เริ่มแปลกอีกอย่างคือเพื่อนสาวที่ติดต่อกันประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะติดต่อมาหาเธอเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าแมงเม่าเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงเพื่อนก็อยากจะโทรหา เปียโนไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเพื่อนทันทีครืด ครืด (เสียงรอสาย)(ว่าไงเปีย)"ก็แค่คิดถึงยุ่งเหรอช่วงนี้ไม่เห็นโทรหาฉันบ้าง"(เออ คือ ใช่ ๆ ฉันยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาแกเลย)"จริงสิ แกเจอพี่โอโซนบ้างหรือเปล่าเขาบอกไหมว่าฉันออกจากงานแล้ว"(บะ บอกเหรอ อ้อ ฉันจะไปเจอเขาได้อย่างไรละ ว่าแต่แก่ได้งานแถวไหนเห็นว่ากลับมาอยู่กับคุณลุง)"ทำไมแกรู้ว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อ"(นั่นสินะ ฮ่า ฮ่า ฉันเดา)"ยัยเม่าเธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า ดูแกเปลี่ยนไปนะ"(ไม่มีสักหน่อย)"จริงนะ" (ที่รัก)"เอ้นั้นเสียงใคร แกอยู่กับผู้ชายเหรอ"(ไม่มี ๆ แค่นี้นะแกฉันยุ่งอยู่)แมงเม่ารีบตัดสายทำให้เรียวคิ้วของเปียโนย่นลงเล็กน้อย เก
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่แคธี่มาเที่ยวเมืองไทยได้ร่วมอาทิตย์ เธอก็ต้องกลับไปที่เยอรมันตามเดิม ส่วนคนที่มาส่งก็คงเป็นออสตินกับเควิน"ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยดูแลพวกเรา""ยินดี"แคธี่ยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดหนุ่มหล่อตรงหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็โบกมือลากัน ส่วนเควินดูเหมือนจะติดใจสาวผมทองเพื่อนของแคธี่ ดูเหมือนว่าเขาเองจะยิ้มไม่หุบเช่นกันสองหนุ่มแยกย้ายและเดินทางกลับเพราะการไปส่งในครั้งนี้ใช้รถคนละคันกันออสตินไม่ได้เข้าไปที่บริษัท แต่เขามีนัดกับนิลภพที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่นัดในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินและการตัดสินใจของนิลภพด้วยณ ร้านคาเฟ่"ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน""ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็พึ่งมาถึง" นิลภพพูดจาอย่างสุภาพอ่อนโยนแม้ว่าออสตินจะเป็นรุ่นลูกของเขา แต่หน้าที่การงานอิทธิพลต่าง ๆ ของ T.GROP เขาเองก็พอรู้จักอยู่บ้างออสตินหย่อนสะโพกลงนั่งด้านหน้าของเขาคือกาแฟร้อนที่นิลภพพึ่งสั่งไว้รอเป็นจังหวะที่ออสตินมาถึงพอดี ออสตินยกกาแฟขึ้นมาจิบ เมื่อวางแก้วลงก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างไม่มีจังหวะ พร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทางมาดเข้ม"หวังว่าคูณจะได้คำตอบให้ผมแล้วนะครับ""ผมถ
เวลาเดินทางมาเร็วกว่าที่คิด เปียโนเธอยังคงทำหน้าที่แม่บ้านที่บ้านหลังใหญ่ ส่วนออสตินก็กลับมาอยู่ที่บ้านได้หลายวันไม่ได้ไปนอนค้างที่คอนโด และที่น่าแปลกมากที่สุดคือ เขาดูอ่อนโยนขึ้นมากแม้จะกลับมาอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนใจเปียโนอย่างที่เคยทำ แถมปากยังไม่เหวี่ยงไปแซะเธอเหมือนเมื่อก่อนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"นายครับวันพรุ่งนี้แล้วนะครับที่ต้องไปรับคุณแคธี่กับเพื่อนเธอ""อืมกูรู้แล้ว"อยากจะปฏิเสธแม่เรื่องดูแลแคธี่แต่ก็ต้องห้ามใจไว้ เพราะตัวเองต้องพึ่งพาแม่เรื่องนำเข้าสินค้าแปรรูปที่พึ่งลงทุนเป็นหุ้นส่วนกับครอบครัวอนันต์ธวัช ออสตินได้แต่ทำใจที่จะบริการสาว ๆ ที่กำลังจะมาถึงในเร็ววัน สนามบินออสตินยืนล้วงกระเป๋า ท่าทางสง่ามาดนักธุรกิจทำให้คนแถวนั้นหันมามองอยู่บอยครั้ง เมื่อเห็นสาวผมทองพร้อมเพื่อนอีกสองคนเดินลากกระเป๋ามา ชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นให้สัญญาณ"Hi ออสติน""Hi แคธี่" ทั้งสองทักทายกันเหมือนชาวตะวันตก การกอดกันแปะแก้มกันคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา แคธี่ไม่ลืมที่จะแนะนำเพื่อนทั้งสองที่มาด้วย ส่วนออสตินก็จัดการพาสาว ๆ ไปที่โรงแรมที่เขาจองไว้วันนั้นแทบจะทั้งวันที่ออสตินไม่ได
หลังจากถูกส่งตัวกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ตามเดิมก็เอาแต่คิดเรื่องข้อเสนอของเจ้าของบริษัทใหญ่ ข้อเสนอเหมือนจะมัดมือชกก็จริงแต่ที่เขาพูดมามันก็ถูกไม่รู้ว่าวันไหนเจ้าหนี้จะตามมาทวง หากเป็นแบบนั้นลูกสาวอาจจะได้รับอันตรายได้ "พ่อขอโทษนะเปีย ที่พ่อทำเพราะอยากให้หนูสบายกว่านี้"บ้านหลังใหญ่ตอนนี้เปียโนได้ลาออกจากบริษัทของโอโซน เธอกลับมาที่บ้านเพื่อทำงานตามที่ออสตินสั่งกับกลุ่มแม่บ้านพวกนั้นเธอจำสิ่งที่ออสตินพูดได้ดีว่า หากต้องการเงินก็เป็นแม่บ้านเหมือนคนอื่น อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องตกงาน"คุณคะ มันจะดีเหรอคะที่มาช่วยทำงานบ้านแบบนี้""ดีสิ หนูทำไหวค่ะ อีกอย่างหนูไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในบ้านหลังนี้ก็แค่คนอาศัย" เธอพูดพร้อมรอยยิ้มก็จริงแต่ในใจเธอมันเศร้าจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว"งั้น ฝากคุณขึ้นไปเก็บห้องนายท่านด้วยนะคะ วันนี้คุณตินจะกลับมาพักที่บ้าน""อ๋อ ค่ะ"เปียโนเอื้อมมือรับอุปกรณ์ทำความสะอาดก่อนที่จะสาวเท้าไปยังห้องออสติน เมื่อแทรกร่างเข้ามาแล้วก็กวาดสายตามอง"ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เราจะหลุดพ้นจากเขา"เปียโนพูดออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เดินไปที่เตียงนอนกว้างจัดการทำความสะอาดรื้อผ้าปูที่นอนเพื่อเปลี่ยนอันใ
เปียโนรอโอโซนอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งเดิม เธอสั่งเครื่องดื่มเย็นมานั่งดื่มรอเพื่อฆ่าเวลาอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งเห็นร่างสูงใบหน้าขาวหล่อเดินมา ทว่า เขายังอยู่ในชุดเดิม"ขอโทษนะที่ให้รอ พอดีพี่ติดธุระนิดหน่อย"คำพูดของโอโซนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยปกติแล้วหากเจอหน้าเปียโนก็ต้องดูกระตือรือร้นมากกว่านี้ แต่ท่าทีแบบนี้มันดูเฉย ๆ ทำเอาเปียโนเองก็พลอยแปลกใจไปด้วย"พี่ยังไม่ได้เข้าบ้านหรือคะ ชุดนี้น่าจะตั้งแต่เมื่อวาน""อ๋อ คือ พี่นอนค้างบ้านเพื่อนไง อีกอย่างมันคนละทางกับบ้านพี่ ว่าแต่เปียโนมีอะไรหรือเปล่า""คือ พี่โซนคะ คือเปีย เปียขอลาออกค่ะ คือเปียขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเสียเวลา""ทำไมละ เกิดอะไรขึ้น หรือว่ามีงานที่อื่น หรือเพราะเจ้าหนี้มาทวงหรือเปล่า ให้พี่โอนเงินให้ตอนนี้ไหม""ไม่เป็นไรค่ะ เปียคุยกับเจ้าหนี้แล้ว อีกอย่างเปียอยากกลับไปดูแลพ่อ บริษัทที่นี่ไกล เปียอาจจะกลับไปหางานทำใกล้ ๆ ""อ้อ อย่างนี้นี่เอง"โอโซนพยายามเข้าใจได้ว่าปริมณฑลกับเขตที่เปียเช่าอยู่มันไกลกันจริง เมื่อคนตัวเล็กให้เหตุผลแบบนั้น โอโซนเองก็ไม่รู้ว่าจะขัดขวางอย่างไร"งั้นให้พี่ช่วยหางานให้ไหม""ไม่เป็นไรค่ะ เปียหาไว้แล้ว""