หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
"พ่ออย่าเป็นอะไรนะคะ ฮือ..ฮึก"หญิงสาวในชุดลำลองสบายสวมกางเกงวอร์มและเสื้อยืดวิ่งตามเปลพยาบาลที่กำลังเข็นพ่อของเธอเข้าห้องฉุกเฉินนิลภพวัยห้าสิบหกปีอดีตนักธุรกิจอสังหาฯ ที่เคยร่ำรวยอู้ฟู่ต้องประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักหลังจากที่กลับมาจากคุยธุระเรื่องคดีของเขาหากจะย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน นิลภพเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างแต่ด้วยเหตุผิดพลาดทางหน้าที่การงานจึงทำให้เขากลายเป็นบุคคลล้มละลายแถมยังมีหนี้สินจนท่วมหัวส่วนลูกสาวเพียงคนเดียวก็กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัยปีสาม ด้านภรรยานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กด้วยโรคประจำตัว'เปียโน' ลูกสาวอันเป็นที่รักและยังเป็นทุกอย่างของนิลภพเขายอมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกอยากให้ลูกสาวสุขสบายเพราะเขาคิดว่าลูกขาดแม่จึงอยากเติมเต็มให้ทุกอย่าง แต่ใครจะไปคิดละว่าบริษัทจะถึงคราวเคราะห์เพียงแค่มีคนลักลอบข้อมูลให้คู่แข่งนิลวรรณหรือ เปียโน เธอค่อนข้างบอบบางคงเพราะผู้เป็นบิดาเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน และตั้งแต่เกิดเรื่องกับครอบครัวเธอ เธอก็พยายามช่วยพ่อทุกอย่างจากที่ไม่เคยทำอะไรก็หันมารับงานร้านกาแฟ ร้านขนมช่วงวันหยุดหญิงสาวใบหน้าสะสวยดวง
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ "พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ""มาแล้วเหรอลูก"เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอรอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น"หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา""เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน"ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที"แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน""พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ"" x-ray ??"คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด"พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ"เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นใบหน้าสวยคมดวงต
เสียงเพลงขับกล่อมเบา ๆ ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรรูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ผมของเขาดำขลับเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าใสแต่ดูเย็นชาเป็นนิจมือหนายกแก้วลวดลายหรูภายในแก้วมีน้ำเมาสีเข้มก่อนที่เขาจะยกมันเทลงลำคอเกร็งแอ๊ดเสียงเปิดประตูของผู้ที่เข้ามาใหม่ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเหลือบขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าที่นิ่งสนิทนี้ไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ออกมา ทันทีที่แก้ววางลงที่เดิมเสียงเข้มนั้นก็โปร่งขึ้นถาม"มาแต่หัววันขนาดนี้ท่านประธานคงมีเรื่องเครียดสินะ" คนที่เอ่ยถามเสียงราบเรียบนี้คือเจ้าของเลานจ์แหล่งผ่อนคลายของนักธุรกิจหลายคน 'เควิน'"นิดหน่อย โครงการใหม่ค่อนข้างล่าช้า วิศวกรคุมงานก็เกิดป่วยกะทันหัน"น้ำเสียงห้วนห้าวพร้อมทั้งล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุด จนไฟสว่างโร่ เขาสูบมันเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันสีหม่นออกมา กิริยาเหล่านี้ทำเอาผู้ที่เป็นเจ้าของรวมทั้งเป็นเพื่อนสนิทต้องส่ายหัว ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดความผิดพลาดกับงานใหญ่มันมาคู่กันเสมอเควิน เดินเข้าไปช้า ๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายพันล้านบาทและโครงการอ
ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบกระโจนตัวไปผลักที่อกของชายร่างท้วมใหญ่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความน่ากลัวหนำซ้ำยังจ้องหน้าเสี่ยใหญ่เขม็ง"คะ คุณติน ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่เห็นว่าน้องเขาเมาเลยอยากช่วย"เสี่ยโชคโกหกหน้าตายพร้อมทั้งกวาดสายตามามองเปียโนที่ยืนตัวสั่นเทาเล็กน้อย "ไปได้แล้ว""ครับ" เสียงเข้มโพล่งบอกชายร่างท้วมตรงหน้า ออสตินเป็นที่รู้จักในวงการ อสังหา ฯ มากไม่ว่าจะรุ่นใหญ่รุ่นเล็กก็ต้องรู้จักเขา ไม่เพียงเท่านั้นอิทธิพลที่อยู่ในมือของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ก็พ่อของเขาเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ไม่เพียงกิจการที่อยู่ในไทยยังมีกิจการร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นของครอบครัวฝั่งมารดาอีก"ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยท่าทีตื่นกลัวเล็กน้อย เปียโนกำลังจะสาวเท้าออกไปจากบริเวณนั้นด้วยซ้ำ แต่เสียงเข้มก็ต้องรั้งเธอไว้อีกครั้ง"เดี๋ยว!"เปียโนชะงักหยุดเท้านิ่ง ใบหน้าของเธอก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นความสวย"เธอพึ่งมาทำงานที่นี่เหรอ""คะ ค่ะ" ตอบเสียงสั่น จนออสตินต้องสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก แต่เหตุนั้นทำให้เปียโนต้องถอยหลังอัตโนมัติ"เป็นเด็กนั่งดริ้งเหรอ แล้วอย่าง
วันถัดมาเปียโนตัดสินใจแล้วว่าข้อเสนอของออสตินนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่พอจะช่วยพ่อของเธอได้รับการผ่าตัด ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ที่เขาเสนอมาแบบนั้นต้องการอะไรถึงแม้ว่าเธอจะถูกเลี้ยงมาราวกับคุณหนูสุขสบายก็ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคนรวย ๆ เสียเมื่อไหร่ร่างเล็กนั่งชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่เธอจะยกมือถือขึ้นมาแนบที่ใบหู เบอร์โทรที่ต่อสายออกไปนั้น แน่นอนว่าเป็นเบอร์ของหนุ่มหล่อร่างสูงตืด ตืด รอสัญญาณอยู่สักพักทันทีที่ปลายสายกดรับพร้อมเสียงเข้มก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น"สวัสดีครับ""......""ฮัลโหล"ดูเหมือนความกลัวจะวิ่งแทรกเข้ามาทำให้เปียโนแทบจะเปล่งเสียงไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดคำไหนก่อนดีทว่าระหว่างนั้นปลายสายเองก็ทำท่าเหมือนจะว่างเสียด้วยซ้ำ"สะ สวัสดีค่ะ""ครับ""เอ่อ คือจำหนูได้ไหมคนที่คุณช่วยในเลานจ์วันนั้น"ปลายสายเงียบไปสักพักเหมือนเป็นช่วงต่อลมหายใจให้เธอ เปียโนเองก็เริ่มผ่อนลมออกจากปากช้า ๆ "อ้อ.....""คือหนูอยากจะฟังข้อเสนออีกครั้งค่ะ""ข้อเสนองั้นเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะไม่สนใจมันเสียอีก""คือ......""เอาเถอะ หากเธอสนใจละก็เย็นนี้มาเจอฉันที่เลานจ์""คะค่ะ"ปลายสายว่างกะทันหัน ท
เสียงที่ถามมันแผ่วเบาอยู่ข้างหูลมหายใจผ่าวร้อนที่รดต้นคอเธออยู่เธอสัมผัสมันได้ดี ทำเอาขนอ่อน ๆ ตามร่างกายลุกซู่"คุณออสตินค่ะ""เรียกฉันคุณตินก็พอ""คะ คือ หนูมีข้อตกลงที่มากกว่านั้น"คราวนี้ชายหนุ่มต้องผละร่างกายที่เคยชิดใกล้ให้ถอยห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาคมของเขาจ้องมองใบหน้าเนียนด้วยความสงสัยข้อตกลงที่มากกว่านั้น"ว่ามาสิ""คือ หนูพูดอย่างไม่อายก็ได้ หนูต้องการเงิน!""ต้องการเงินงั้นเหรอ?""หนูจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก""เท่าไร่?"เขาไม่ถามถึงเหตุผลที่เปียโนต้องใช้ด้วยซ้ำ ทำเอาหญิงสาวใบหน้าสวยต้องสบตาคู่คมของเขาพร้อมความคิดในใจเหมือนมันจะง่ายหรือว่านี่เป็นการลองใจเธอ"หนูไม่รู้ว่ามันจะมากไปไหม หากคุณตินต้องการ เอ่อ.....""ฉันอยากรู้แค่จำนวนเงินไม่ต้องพล่ามอะไรมากมาย""อ้อ ค่ะ....." คำพูดที่แสนเยือกเย็นนั้นทำเอาเปียโนชะงักไปสักพักแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะตอบเขา "ห้าแสนค่ะ"ริมฝีปากของเขาเหยียดเป็นเส้นตรงสีหน้าไม่แสดงอาการใด ๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ ทุกการกระทำนั้นมันอยู่ในสายตาของเปียโนเป็นอย่างดี ร่างเล็กเดาไม่ออกเลยว่าตอนนี้หนุ่มหล่อตรงหน้าเธอคิดอะไรอยู่ หรือเขาอาจจ
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักของสองพ่อลูก นานมากแล้วที่ไม่ได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านนับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวของเธอ"อร่อยไหมคะพ่อ" เปียโนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มสดใสของเธอ ส่วนนิลภพเขาก็พยักหน้าตอบรับลูกสาว หากจะถามว่าอร่อยไหมในเวลานี้มันไม่มีรสชาติเสียมากกว่าแต่ที่ต้องยอมมาทานเพราะไม่อยากทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องเสียความรู้สึก ในเวลานี้ใครจะกินข้าวได้คล่องคอทั้งหนี้สินรัดตัวไหนจะมีเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่ยอมรับการผ่าตัดเปียโนก็ไม่สบายใจกลัวว่าจะเป็นอันตรายมากไปกว่านี้ครืด ครืด ในขณะที่ความสุขกำลังวิ่งวนอยู่ในหัวใจของคนตัวเล็ก เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นทำเอารอยยิ้มที่มีก่อนหน้าต้องหุบลงก็เบอร์ที่เธอบันทึกไว้ในนามบัตรมันขึ้นชื่ออย่างชัดเจน ออสติน"พ่อค่ะ หนูขอไปรับสายก่อนนะ สงสัยเพื่อนที่มหาลัยโทรมา""จ้ะ"หลังจากที่ลุกออกจากโต๊ะอาหาร เปียโนก็หลบมาคุยโทรศัพท์ด้านนอก"สวัสดีค่ะ"(เห็นเธอเงียบไปหลายวัน ไม่เห็นจะโทรหาฉันเลย หรือว่าเงินที่ได้ไปมันคุ้มแล้ว)"คือหนูติดธุระ ว่าแต่คุณตินมีอะไรหรือเปล่าคะ"(วันนี้ฉันอยากจะเจอเธอหน่อย)"วันนี้หรือคะ"(ทำไม เธอติดปัญหาอะไร)"คือ.
หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
เปียโนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ตามเดิม เมื่อมาถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือคุยกับเจ้าของบ้าน"พี่ธนาค่ะ เจ้านายพี่อยู่ที่ไหนคะ""คุณตินพึ่งขึ้นข้างบนเมื่อกี้ครับ"เปียโนมองไปที่ชั้นบนของบ้านก่อนที่เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ย่างขึ้นบันไดฉับ ๆ เมื่อมาถึงห้องเขาเธอก็จัดการเคาะเรียกสองครั้ง ก่อนที่เสียงคนข้างในจะอนุญาตให้เข้าไปแอ๊ดดดเปียโนแทรกร่างเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังนอนเหยียดตัวยาวบนที่นอน พร้อมกับหลับตานิ่ง"คุณติน คุณทำแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่""เธอพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน" เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้เปียโนรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ขอบเตียงแล้วโพล่งเสียงดังฟังชัด"หนูถามคุณว่าคุณเล่นอะไรอยู่"พรึ่บ"อร๊ายยย" ร่างของเปียโนถูกดึงลงมาแล้วออสตินก็เหวี่ยงเธอลงนอนราบเป็นเขาที่ขึ้นไปทับร่าง"หูไม่ได้หนวกสักหน่อยพูดเสียงดังทำไมกัน""ก็คุณบอกว่าไม่ได้ยิน""เอ้...เราไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงมานานเท่าไรแล้วนะ ว่าแต่ครั้งก่อนที่อยู่คอนโดฉันก็ไม่ได้ป้องกันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมเธอไม่ท้องแอบซื้อยามากินหรือเปล่า""ห๊ะ คุณพูดอะไรเนี่ย" สิ่งที่เป
เวลาเดินทางไม่เคยหยุดนิ่ง จากอาทิตย์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเดือน เปียโนเองก็เริ่มคิดอยากจะกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้จะดีขึ้นเจ้าหนี้ที่เคยโทรมาทวงก็ดันเงียบหาย แม้จะแอบแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถามนิลภพ รู้แค่ว่าพ่อดูมีความสุขมากขึ้นสุขภาพร่างกายก็ค่อนข้างแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน ระหว่างที่เปียโนนั่งเช็ดถูถ้วยชามอยู่ในครัว มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืดมือเรียวเล็กล้วงลงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์พ่อของเธอเปียโนก็รีบกดรับ"ค่ะพ่อ"(ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก)"พ่อมีอะไรหรือคะ"(พ่ออยากให้หนูมาหาพ่อหน่อย พ่อมีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวพ่อส่งพิกัดไปให้)"ได้สิคะ" หลังจากที่วางสายพ่อ แม้ว่าจะเกิดความสงสัยในคำพูดของพ่อแต่เปียโนก็ต้องเก็บเอาไว้ รอให้ถึงเวลาก็น่าจะเห็นเอง#คอนโดมิเนียมหรู"ทำไมพ่อถึงให้มาที่นี่นะ" คำถามที่เกิดกับตัวเองพร้อมดวงตาที่แหงนขึ้นไปมองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า ก่อนที่เท้า น้อย ๆ ของเธอจะย่างเข้าไปในตัวตึกเมื่อรู้ตำแหน่งแล้วเปียโนก็มุ่งหน้าไปที่ชั้นห้าของอาคารแห่งนี้เบอร์ห้องที่พ่อบอกไว้เธอเดินมาถึงก่อนที่เท้าจะหยุดนิ่ง แล้วจัดการเคาะประตูเรียกก๊อ
เย็นของวันนั้นออสตินกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดน่าจะเป็นใบหน้าหวาน ๆ ของสาวใช้ที่บ้านเปียโนยกเมนูอาหารเย็นขึ้นมาตั้งที่โต๊ะ เมนูอาหารล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น"นั่งทานด้วยกันสิ""ไม่เป็นไรค่ะ""ฉันบอกให้นั่งก็นั่งเถอะน่า"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย เปียโนก็ต้องยอมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง ส่วนออสตินดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่คนตัวเล็กยอมที่จะนั่งทานเป็นเพื่อนเขา"ไหนลองเสนอเมนูที่เธอทำสิ""ก็มีแค่ผัดผักใส่หมู ส่วนแกงส้ม กับพะโล้ ป้าแม่บ้านเป็นคนทำ" เพียงแค่เสนอเมนูอาหารออสตินก็ไม่รอช้าที่จะตักผัดผักใส่ในจานตัวเอง แค่อาหารเข้าไปในปากก็เคี้ยวอย่างอร่อยทำเหมือนว่าไม่เคยทานมันมาก่อน และเขายังเอ่ยปากชมฝีมือเธอ"อร่อยดีนี่" แต่สิ่งที่มันทำให้เปียโนย่นคิ้วเรียวก็คือ เขาไม่แตะจานอื่นเลย ยิ่งทำให้เปียโนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าอาการผีเข้าผีออกเมื่อก่อนมันหายไปไหนแล้ว คนที่นั่งทานอาหารตรงหน้าเธอตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนเปียโนตักต้มพะโล้ใส่ในจาน พร้อมกับเหลือบสายตามองเขาบ่อยครั้ง ส่วนเขานะเหรอไม่สนใจเมนูอื่นตรงหน้าระหว่างที่ทานอาหาร เสียงรถอีกคันก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ไม่กี่อ
หลายวันผ่านพ้นทุกอย่างภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับเปียโนแล้วเธอรู้สึกว่าออสตินอ่อนโยนขึ้นไม่กระโชกโฮกฮากปากร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดูจะสงบลงเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือเขากินยาผิดซองกันแน่แต่หลายวันมานี้สิ่งที่เธอเองก็เริ่มแปลกอีกอย่างคือเพื่อนสาวที่ติดต่อกันประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะติดต่อมาหาเธอเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าแมงเม่าเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงเพื่อนก็อยากจะโทรหา เปียโนไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเพื่อนทันทีครืด ครืด (เสียงรอสาย)(ว่าไงเปีย)"ก็แค่คิดถึงยุ่งเหรอช่วงนี้ไม่เห็นโทรหาฉันบ้าง"(เออ คือ ใช่ ๆ ฉันยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาแกเลย)"จริงสิ แกเจอพี่โอโซนบ้างหรือเปล่าเขาบอกไหมว่าฉันออกจากงานแล้ว"(บะ บอกเหรอ อ้อ ฉันจะไปเจอเขาได้อย่างไรละ ว่าแต่แก่ได้งานแถวไหนเห็นว่ากลับมาอยู่กับคุณลุง)"ทำไมแกรู้ว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อ"(นั่นสินะ ฮ่า ฮ่า ฉันเดา)"ยัยเม่าเธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า ดูแกเปลี่ยนไปนะ"(ไม่มีสักหน่อย)"จริงนะ" (ที่รัก)"เอ้นั้นเสียงใคร แกอยู่กับผู้ชายเหรอ"(ไม่มี ๆ แค่นี้นะแกฉันยุ่งอยู่)แมงเม่ารีบตัดสายทำให้เรียวคิ้วของเปียโนย่นลงเล็กน้อย เก
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่แคธี่มาเที่ยวเมืองไทยได้ร่วมอาทิตย์ เธอก็ต้องกลับไปที่เยอรมันตามเดิม ส่วนคนที่มาส่งก็คงเป็นออสตินกับเควิน"ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยดูแลพวกเรา""ยินดี"แคธี่ยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดหนุ่มหล่อตรงหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็โบกมือลากัน ส่วนเควินดูเหมือนจะติดใจสาวผมทองเพื่อนของแคธี่ ดูเหมือนว่าเขาเองจะยิ้มไม่หุบเช่นกันสองหนุ่มแยกย้ายและเดินทางกลับเพราะการไปส่งในครั้งนี้ใช้รถคนละคันกันออสตินไม่ได้เข้าไปที่บริษัท แต่เขามีนัดกับนิลภพที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่นัดในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินและการตัดสินใจของนิลภพด้วยณ ร้านคาเฟ่"ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน""ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็พึ่งมาถึง" นิลภพพูดจาอย่างสุภาพอ่อนโยนแม้ว่าออสตินจะเป็นรุ่นลูกของเขา แต่หน้าที่การงานอิทธิพลต่าง ๆ ของ T.GROP เขาเองก็พอรู้จักอยู่บ้างออสตินหย่อนสะโพกลงนั่งด้านหน้าของเขาคือกาแฟร้อนที่นิลภพพึ่งสั่งไว้รอเป็นจังหวะที่ออสตินมาถึงพอดี ออสตินยกกาแฟขึ้นมาจิบ เมื่อวางแก้วลงก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างไม่มีจังหวะ พร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทางมาดเข้ม"หวังว่าคูณจะได้คำตอบให้ผมแล้วนะครับ""ผมถ
เวลาเดินทางมาเร็วกว่าที่คิด เปียโนเธอยังคงทำหน้าที่แม่บ้านที่บ้านหลังใหญ่ ส่วนออสตินก็กลับมาอยู่ที่บ้านได้หลายวันไม่ได้ไปนอนค้างที่คอนโด และที่น่าแปลกมากที่สุดคือ เขาดูอ่อนโยนขึ้นมากแม้จะกลับมาอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนใจเปียโนอย่างที่เคยทำ แถมปากยังไม่เหวี่ยงไปแซะเธอเหมือนเมื่อก่อนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"นายครับวันพรุ่งนี้แล้วนะครับที่ต้องไปรับคุณแคธี่กับเพื่อนเธอ""อืมกูรู้แล้ว"อยากจะปฏิเสธแม่เรื่องดูแลแคธี่แต่ก็ต้องห้ามใจไว้ เพราะตัวเองต้องพึ่งพาแม่เรื่องนำเข้าสินค้าแปรรูปที่พึ่งลงทุนเป็นหุ้นส่วนกับครอบครัวอนันต์ธวัช ออสตินได้แต่ทำใจที่จะบริการสาว ๆ ที่กำลังจะมาถึงในเร็ววัน สนามบินออสตินยืนล้วงกระเป๋า ท่าทางสง่ามาดนักธุรกิจทำให้คนแถวนั้นหันมามองอยู่บอยครั้ง เมื่อเห็นสาวผมทองพร้อมเพื่อนอีกสองคนเดินลากกระเป๋ามา ชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นให้สัญญาณ"Hi ออสติน""Hi แคธี่" ทั้งสองทักทายกันเหมือนชาวตะวันตก การกอดกันแปะแก้มกันคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา แคธี่ไม่ลืมที่จะแนะนำเพื่อนทั้งสองที่มาด้วย ส่วนออสตินก็จัดการพาสาว ๆ ไปที่โรงแรมที่เขาจองไว้วันนั้นแทบจะทั้งวันที่ออสตินไม่ได
หลังจากถูกส่งตัวกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ตามเดิมก็เอาแต่คิดเรื่องข้อเสนอของเจ้าของบริษัทใหญ่ ข้อเสนอเหมือนจะมัดมือชกก็จริงแต่ที่เขาพูดมามันก็ถูกไม่รู้ว่าวันไหนเจ้าหนี้จะตามมาทวง หากเป็นแบบนั้นลูกสาวอาจจะได้รับอันตรายได้ "พ่อขอโทษนะเปีย ที่พ่อทำเพราะอยากให้หนูสบายกว่านี้"บ้านหลังใหญ่ตอนนี้เปียโนได้ลาออกจากบริษัทของโอโซน เธอกลับมาที่บ้านเพื่อทำงานตามที่ออสตินสั่งกับกลุ่มแม่บ้านพวกนั้นเธอจำสิ่งที่ออสตินพูดได้ดีว่า หากต้องการเงินก็เป็นแม่บ้านเหมือนคนอื่น อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องตกงาน"คุณคะ มันจะดีเหรอคะที่มาช่วยทำงานบ้านแบบนี้""ดีสิ หนูทำไหวค่ะ อีกอย่างหนูไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในบ้านหลังนี้ก็แค่คนอาศัย" เธอพูดพร้อมรอยยิ้มก็จริงแต่ในใจเธอมันเศร้าจนแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว"งั้น ฝากคุณขึ้นไปเก็บห้องนายท่านด้วยนะคะ วันนี้คุณตินจะกลับมาพักที่บ้าน""อ๋อ ค่ะ"เปียโนเอื้อมมือรับอุปกรณ์ทำความสะอาดก่อนที่จะสาวเท้าไปยังห้องออสติน เมื่อแทรกร่างเข้ามาแล้วก็กวาดสายตามอง"ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เราจะหลุดพ้นจากเขา"เปียโนพูดออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เดินไปที่เตียงนอนกว้างจัดการทำความสะอาดรื้อผ้าปูที่นอนเพื่อเปลี่ยนอันใ
เปียโนรอโอโซนอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งเดิม เธอสั่งเครื่องดื่มเย็นมานั่งดื่มรอเพื่อฆ่าเวลาอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งเห็นร่างสูงใบหน้าขาวหล่อเดินมา ทว่า เขายังอยู่ในชุดเดิม"ขอโทษนะที่ให้รอ พอดีพี่ติดธุระนิดหน่อย"คำพูดของโอโซนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยปกติแล้วหากเจอหน้าเปียโนก็ต้องดูกระตือรือร้นมากกว่านี้ แต่ท่าทีแบบนี้มันดูเฉย ๆ ทำเอาเปียโนเองก็พลอยแปลกใจไปด้วย"พี่ยังไม่ได้เข้าบ้านหรือคะ ชุดนี้น่าจะตั้งแต่เมื่อวาน""อ๋อ คือ พี่นอนค้างบ้านเพื่อนไง อีกอย่างมันคนละทางกับบ้านพี่ ว่าแต่เปียโนมีอะไรหรือเปล่า""คือ พี่โซนคะ คือเปีย เปียขอลาออกค่ะ คือเปียขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเสียเวลา""ทำไมละ เกิดอะไรขึ้น หรือว่ามีงานที่อื่น หรือเพราะเจ้าหนี้มาทวงหรือเปล่า ให้พี่โอนเงินให้ตอนนี้ไหม""ไม่เป็นไรค่ะ เปียคุยกับเจ้าหนี้แล้ว อีกอย่างเปียอยากกลับไปดูแลพ่อ บริษัทที่นี่ไกล เปียอาจจะกลับไปหางานทำใกล้ ๆ ""อ้อ อย่างนี้นี่เอง"โอโซนพยายามเข้าใจได้ว่าปริมณฑลกับเขตที่เปียเช่าอยู่มันไกลกันจริง เมื่อคนตัวเล็กให้เหตุผลแบบนั้น โอโซนเองก็ไม่รู้ว่าจะขัดขวางอย่างไร"งั้นให้พี่ช่วยหางานให้ไหม""ไม่เป็นไรค่ะ เปียหาไว้แล้ว""