Ep. 1
“น้าเอ๋ย...เหมยปวดท้อง..ฮือ..” เสียงร้องโอดโอยของหลานสาวตัวน้อย..ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นในกลางดึก..มือเล็กๆขาวๆของดอกเหมยกุมมือฉันไว้แน่น..ใบหน้าขาวนวลเนียนที่มีเลือดฝาดอยู่เป็นนิจ..กลับซีดเผือดจนน่าตกใจ..
“เหมย..เดี๋ยวน้าเอ๋ยจะพาไปโรงพยาบาลนะ..” ด้วยอารามตกใจฉันอุ้มร่างเล็กไว้แนบอก..คว้ากุญแจรถวิ่งออกไปนอกบ้าน..เปิดประตูรถค่อยๆวางหลานสาวตัวน้อยลงที่เบาะหน้าคาดเข็มขัดนิรภัย..ส่วนตัวเองก็พุ่งพรวดเข้ามานั่งที่คนขับและบึ่งรถออกไปทันที..โชคดีที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ใกล้ที่สุดแทบไม่มีผู้ป่วยเลย..พอจอดรถเสร็จฉันก็อุ้มดอกเหมยไปที่หน้าห้องฉุกเฉินทันที..
“คุณแม่..น้องเป็นอะไรมาคะ” พยาบาลสาวทำการซักประวัติ..หลังจากที่ส่งตัวหลานสาวไปพบแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินแล้ว..และฉันก็ไม่ได้สนใจจะแก้ตัวว่าไม่ใช่แม่ของเด็กแต่อย่างใด..
“น้องปวดท้องค่ะ ในรถก็มีอาเจียนด้วย” ระหว่างทางนอกจากอาการปวดท้องแล้ว..ดอกเหมยยังอ้วกไม่หยุด..ฉันกลัวจนแทบขับรถไปต่อไม่ไหว..กลัวหลานสาวจะเป็นอะไรไป..หัวใจของฉันคงแหลกสลาย..
“เดี๋ยวคุณหมอจะออกมาตรวจอาการนะคะ” พยาบาลสาวคนเดิมเดินเข้าไปในห้องพักแพทย์เวรห้องฉุกเฉิน..ฉันนั่งกุมมือหลานรักด้วยความเป็นห่วง..ดอกเหมยเพิ่งจะหยุดอาเจียนเมื่อตะกี้..มือเล็กๆป้อมๆกุมท้องด้วยความเจ็บปวดจนฉันแทบอยากจะเจ็บแทน..ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์เดินออกมาจากห้องพักแพทย์..ครึ่งของใบหน้าของหมอหนุ่มปิดด้วยแมสค์..ฉันไม่ได้สนใจจะมองมากนักเพราะใจของฉันจดจ่ออยู่กับอาการเจ็บป่วยของหลานสาว..
“จากการตรวจเบื้องต้นน่าจะเป็นอาการอาหารเป็นพิษนะครับ..หมอจะให้เกลือแร่ผงเพราะอาการที่ตามมาของอาการอาหารเป็นพิษคนไข้จะมีอาการท้องเสีย..ให้ดื่มน้ำเกลือแร่..ก็น่าจะไม่เป็นอะไรมากครับ” เสียงทุ้มนุ่มที่แสนจะคุ้นเคยของแพทย์เวรทำใจฉันสั่นอย่างบอกไม่ถูก..จนต้องเงยหน้าขึ้นมามอง..วินาทีที่เราสบตากัน..ฉันรู้สึกสมองอื้ออึงประมวลผลไม่ได้..ความทรงจำในอดีตแล่นเข้ามาเป็นฉากๆ..
' อัปสรแปลว่านางฟ้า..เอ๋ยจะเป็นนางฟ้าของมาร์คตลอดไป ' ประโยคนี้ก้องอยู่ในหัวของฉันเหมือนเพลงที่เปิดรีมิกซ์วนไปมาเกือบร้อยรอบ..หมอหนุ่มถอดแมสค์ออกใบหน้าขาวจัดที่แสนจะหล่อเหลาที่การันตีด้วยตำแหน่งอดีตเดือนของมหาวิทยาลัย..ก็ตกตะลึงที่เจอฉันไม่แพ้กัน..
“เอ๋ย / มาร์ค” และเราก็พูดออกมาพร้อมกัน..จากนั้นฉันและหมอมาร์คก็เล่นเกมจ้องตากันอยู่นานร่วมสิบนาที..
“น้าเอ๋ย..เหมยอยากกลับบ้าน” กระทั่งมือเล็กๆของดอกเหมยเกาะเกี่ยวชายเสื้อฉันเบาๆ ฉันจึงได้สติหันกลับมาสนใจหลานสาวตัวน้อย..
“ขอบคุณนะคะคุณหมอภาวิชญ์” ฉันค้อมศีรษะและพยายามสลัดภาพในอดีตออกจากความคิด..และเรียกหมอหนุ่มด้วยชื่อจริงอย่างห่างเหิน..ถ้าเรียกชื่อจริงพร้อมนามสกุลต่อท้ายฉันก็จะทำ..
“ไปค่ะคนเก่งของน้าเอ๋ยกลับบ้านกัน” ฉันอุ้มดอกเหมยอย่างทุลักทุเลเพราะตัวของหลานสาวก็ไม่ใช่เล็กๆ..ตอนที่อุ้มขึ้นรถด้วยความตกใจและกลัวจนทำอะไรไม่ถูก..จึงแบกดอกเหมยได้อย่างสบายๆ..มือหนาของหมอหนุ่มเข้ามาช้อนร่างเล็กของเด็กน้อยแนบอก..
“เดี๋ยวมาร์คช่วย เอ๋ยอุ้มไม่ไหวหรอก” หมอมาร์คแทนตัวเองด้วยชื่ออย่างเคยและเรียกฉันอย่างสนิทสนมเหมือนครั้งที่เราเคยคบกัน..
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันอุ้มหลานสาวเองได้” ฉันต้องแสดงจุดยืนให้เขาเห็นว่าฉันไม่ได้อาลัยอาวรณ์กับอดีตที่เคยหวานชื่นและลงท้ายด้วยความขมขื่นนั้นเลย..
“เอ๋ย..ทำไมทำตัวห่างเหินกับมาร์คอย่างนั้นทั้งที่เราเคย..” ก่อนที่อดีตแฟนหนุ่มจะพูดจบ..
“หยุด!!!” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดังพอดู..จนดอกเหมยตกใจ..
“น้าเอ๋ยเป็นอะไรคะ” หลานสาวตัวน้อยตะเกียกตะกายลงมาจากอ้อมอกของหมอมาร์คเพราะเห็นฉันทำหน้าไม่พอใจและทำตัวไม่เป็นมิตรกับหมอหนุ่ม..
“น้าเอ๋ยขอโทษ..น้าเอ๋ยไม่ได้ตั้งใจพูดเสียงดังนะคะ เรากลับบ้านกันดีกว่า..ไว้ดอกเหมยหายดี น้าเอ๋ยจะพาไปกินไอศกรีมที่ห้างนะคะ” ฉันเห็นดวงตากลมโตใสแจ๋วที่กำลังมองด้วยความสนใจว่าทำไมฉันถึงพูดกับหมอมาร์คเสียงดัง..จึงรีบปรับโทนเสียงและใบหน้าให้เป็นปกติทันที..
“ดอกเหมยขอชวนคุณน้าหมอไปด้วยได้ไหมคะ..คุณน้าหมอช่วยชีวิตของดอกเหมยไว้” หลานรักของฉันซึ่งสนิทกับคนอื่นยาก..กลับประทับใจและถึงขั้นชวนหมอหนุ่มที่พึ่งเคยเจอหน้าไปกินไอศกรีมด้วย..
“ตอนนี้กี่โมงแล้วคะคนเก่ง” ฉันกดหน้าจอมือถือให้ดอกเหมยดูนาฬิกา..
“ห้าทุ่มค่ะ..”
“ห้าทุ่มปกติดอกเหมยทำอะไรที่บ้านคะ” ฉันถามต่อ..ใบหน้าเล็กๆนิ่งคิด
“นอนค่ะ..”
“ขนาดตอนนี้เป็นเวลานอนคุณหมอยังทำงานเลยค่ะ..แล้วแบบนี้จะไปทานไอศกรีมกับเราได้ยังไงคะ..”
“ช่วงวันเสาร์คุณน้าว่างตอนบ่าย..บ่ายวันเสาร์คุณน้าหมอจะเลี้ยงไอศกรีมดอกเหมยดีไหมครับ” ร่างสูงของหมอมาร์คนั่งลงต่อหน้าหลานสาวของฉัน..ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มเดียวกันพร้อมกับพูดประโยคนั้น..
' อัปสรแปลว่านางฟ้า..เอ๋ยจะเป็นนางฟ้าของมาร์คตลอดไป ' และนั่นทำให้ฉันรู้ว่า..คำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง..
ฉันแค่นยิ้มกับตัวเองอย่างขมขื่น..
“ได้ไหมคะน้าเอ๋ย..ดอกเหมยอยากให้คุณน้าหมอไปด้วย” มือเล็กของหลานสาวเขย่าแขนของฉันอย่างกระตือรือร้น..ใบหน้าเล็กๆนั้นยิ้มอย่างดีใจ..ทำไมดอกเหมยต้องมาถูกชะตากับหมอมาร์คด้วยนะ..ฉันรู้สึกเหมือนโดนแย่งความรักหลานสาวตัวน้อยที่ฉันฟูมฟักมากับมือหันไปสนใจคนอื่น..ดวงตาสีเข้มสบตาฉันอย่างขอคำตอบ..พร้อมๆกับดวงตากลมโตของหลานสาว..จนฉันถอนหายใจด้วยความหนักหน่วงในใจ..แค่ครั้งเดียว..ครั้งเดียวเท่านั้น..ที่เขาจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดหลานของฉัน..ฉันบอกกับตัวเองในใจ
“ก็ได้..” พอฉันตอบออกมา..ทั้งอดีตแฟนหนุ่มและดอกเหมยก็แทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ..
“งั้นบ่ายวันเสาร์ มาร์คไปรับเอ๋ยที่บ้านนะ ส่งโลเคชั่นมาสิ..เอ่อ..ขอเบอร์ ขอแอดไลน์ด้วยนะ” มือหนาขาวนวลเนียนเหมือนกับคนไม่เคยออกกลางแจ้ง..ส่งมือถือตัวเองให้ฉัน..
“เจอกันที่ห้างเลยค่ะคุณหมอภาวิชญ์ บ่ายโมงที่ร้านไอศกรีมหาไม่ยากหรอกค่ะ” ฉันเปิดประตูรถและอุ้มดอกเหมยวางลงที่เบาะหน้า..
“เอ๋ย...ทำไมเอ๋ยต้องทำตัวห่างเหินกับมาร์ค” น้ำเสียงทุ้มเจือไปด้วยความรู้สึกตัดพ้อต่อว่า..
“คุณหมอภาวิชญ์คะ เราแค่เคยสนิทกันเท่านั้น..หยุดเรียกชื่อเล่นของฉันอย่างสนิทสนมแบบนั้นซะที..” พอปิดประตูรถ..ฉันจึงกล้าที่พูดต่อหน้าเขาโดยที่ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของหลานสาว..
“เอ๋ย..มาร์คขอโทษนะ..มาร์คไม่เคยลืมเอ๋ยซักนาทีเลยนะ” มือหนาถือวิสาสะกุมมือฉันไว้แน่น..และเกือบจะตกหลุมพรางกับคำพูดหวานๆนั้น..สิ่งที่หมอหนุ่มทำไว้กับฉันมันเหมือนรอยแผลที่บาดลึก..และแก้วที่เคยมีรอยร้าวนั้นไม่อาจประสานคืนมาได้สนิทใจ..
“ดิฉันเองก็..ไม่เคยคิดถึงคุณหมอภาวิชญ์แม้สักวินาทีเดียวค่ะ” ฉันยกยิ้มที่มุมปากและแกะมือที่อดีตคนรักกุมไว้แน่นหนึบออก..ฉันจะไม่มีวันกลับไปให้ความรักครั้งเก่าทำร้ายอีกต่อไปแล้ว..ไม่มีวัน..
Ep. 2Mark talksสี่ปีที่แล้ว....เป็นช่วงที่เอ๋ยซึ่งเรียนครุศาสตร์ซึ่งเธอฝึกสอนครบหนึ่งปีแล้ว..และเตรียมสอบบรรจุแต่งตั้งเพื่อรับราชการครู..ส่วนผมจบปีห้าและกำลังจะเป็นหมอเอ็กเทิร์นปีหก..วันนั้นผมพาเพื่อนมาฉลองที่คอนโด..แอลกอฮอล์ของมึนเมาจัดเต็มเหมือนเป็นการปลดปล่อยจากการสอบที่เคร่งเครียด..ผมดื่มหนักพอสมควร..รู้สึกมึนหัวจึงนั่งพักที่โซฟามองเพื่อนชายหญิงที่กำลังเมาได้ที่ตะโกนคุยกันเสียงดังอย่างสนุกสนาน..ร่างบางของเอมิเพื่อนนักศึกษาแพทย์นั่งลงที่ข้างๆผม..กลิ่นน้ำหอมเจือกลิ่นวิสกี้ชั้นดีที่มิกกี้ลูกชายเจ้าของห้างดังหอบหิ้วมาจากบ้านเพื่อให้เพื่อนได้ลิ้มลองรสชาติเหล้าชั้นดี..หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้ๆผม..“มาร์ค..เรามาสนุกกันไหม..ฉันไม่บอกใครหรอก..” ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีแดงเลื่อนมาใกล้ๆใบหน้าของผม..พลางช้อนสายตามองอย่างยั่วยวน..ทุกคนในห้องต่างไม่มีใครสนใจใคร..“เฮ้ย..จะบ้าเหรอ? เพื่อนกันจะนอนด้วยกันได้ไง” ผมเขยิบตัวออกห่าง..ที่สำคัญผมรักเอ๋ยมาก..และไม่มีวันนอกใจเอ๋ย..“ทำไม..แกกลัวยัยครูเอ๋ยนั่นมากเหรอ?” เอมิหัวเราะในลำคอ..“เออ..” ถ้าเอ๋ยมาเห็นห้องในสภาพนี้..เอ๋ยต้องต่อว่าผมแน่ๆ..เพราะเธอ
Ep. 3พอสอนคาบสุดท้ายเสร็จได้เวลาเลิกเรียน..ฉันต้องรีบไปรับดอกเหมยที่โรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด..พอเดินมาถึงโรงรถปรากฏว่า..ล้อหลังแบนสนิทแถมยังมีตะปูเสียบโชว์เป็นหลักฐานชั้นดีว่าทำไมล้อถึงแฟ่บได้ขนาดนั้น..ฉันดูเวลาในนาฬิกาข้อมือ..ตอนนี้หลานรักคงกำลังยืนรออยู่ที่หน้าโรงเรียนแน่ๆ..“ครูเอ๋ย..มีอะไรรึเปล่าครับ” เสียงห้าวทุ้มทรงเสน่ห์ของรองผู้อำนวยการภาณิณดังขึ้น..ร่างสูงจอดรถคันหรูอยู่ตรงหน้าฉัน“รถของดิฉันเหยียบตะปูค่ะ..แบนสนิทเลย” ฉันทำหน้าเสียพลางถอนหายใจ..“เดี๋ยวผมช่วยครับ..” รองภาณิณจอดรถถอดเสื้อสูทพลางพับแขนเสื้อเชิร์ตสีขาวตัวในขึ้น..“ไม่เป็นไรค่ะ..ดิฉันรีบไปรับหลาน” ฉันกดโทรศัพท์โทรหาครูเตยเพื่อนสาวที่เป็นครูประจำชั้นของดอกเหมยว่าให้ช่วยดูแลหลานสาวไปก่อน..และจะรีบหารถออกไปรับ“งั้นเอาอย่างนี้..ครูเอ๋ยทิ้งรถไว้โรงเรียนเดี๋ยวผมจะให้ช่างมาเปลี่ยนยางสำรองให้..ผมจะพาไปรับหลานเอง..” ท่านรองเปิดประตูให้..เหมือนเชื้อเชิญฉันเป็นนัยๆ จนฉันไม่กล้าปฏิเสธและเดินขึ้นรถของเขา..“หลานสาวอยู่โรงเรียนอะไรครับ” ท่านรองถามขึ้น..ฉันแอบพิจารณาชายในฝันของมะปรางอย่างตั้งใจ..ชายหนุ่มไม่ได้มีผิวกายที่ขาว
Ep. 4Mark talks“เหมยเป็นอะไรคะ” เสียงหวานๆของเอ๋ยพูดด้วยความตกใจและรีบปล่อยมือจากผู้ชายคนที่เอ๋ยเพิ่งจะแนะนำว่าเป็นแฟนทันที“เหมยไม่อยากให้น้าเอ๋ยมีแฟน..ฮือ....เหมยเสียใจ” หลานสาวของเอ๋ยนอนที่พื้นและร้องไห้เหมือนเสียอกเสียใจที่กำลังจะโดนผู้ชายคนนั้นแย่งน้าเอ๋ยที่รักไปจากตัวเอง..“เหมยไม่ร้องไห้นะคะ..” อดีตคนรักของผมพยายามปลอบใจหลานสาว..แต่ดอกเหมยยังร้องไห้ไม่หยุด..“ก็ได้ค่ะ..น้าเอ๋ยไม่มีแฟนก็ได้” ร่างบางถอนหายใจ..พลางใช้มือลูบหลังเด็กหญิงตัวน้อยเบาๆ..“จริงๆนะคะ..ฮึก...ฮือ..” ใบหน้าเล็กๆขาวนวลเนียนแดงก่ำเพราะเพิ่งจะผ่านการร้องไห้อย่างหนัก..และผมรู้แล้วว่าจะเข้าหาเอ๋ยได้ยังไง..ผมไม่เชื่อสักนิดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแฟนเอ๋ย..เพราะถ้าเป็นคนรักจริงๆดอกเหมยคงไม่แสดงท่าทีต่อต้านขนาดนี้หรอก..แสดงว่าเอ๋ยแค่อยากให้ผมเลิกยุ่งกับตัวเองเท่านั้นแหละ..แต่สายตาของหนุ่มหล่อเข้มคนนี้มองเอ๋ยด้วยแววตาที่เรียกได้ว่าชื่นชมและชอบเอ๋ยแน่นอน..แต่ผมว่า..ผมได้เปรียบผู้ชายคนนี้อย่างหนึ่ง..“ดอกเหมยครับ..หิวไหม..น้าหมอจะเอารถมารับนะครับ..ดอกเหมยรอตรงนี้กับน้าเอ๋ยนะครับ”“หิวมากค่ะ..ฮือ..น้าเอ๋ยไปกับน้าหมอนะคะ..ฮ
Ep. 5พอไปส่งดอกเหมยเสร็จหมอมาร์คก็มาส่งฉันที่โรงเรียน..ฉันต้องจำยอมมากับเขาเพราะว่าดอกเหมยอยากมากับน้าหมอมาร์คแค่คนเดียว..หมอหนุ่มจอดรถหน้าตึกและเมื่อฉันเดินลงจากรถเรียบร้อยแล้วแทนที่เขาจะออกรถไป..หมอมาร์คกลับลงจากรถและยืนมองฉันขณะที่กำลังจะขึ้นตึก..ครูหลายคนแถวนั้นหันมามองด้วยความสนใจเพราะร้อยวันพันปี..ครูเอ๋ยจะมีผู้ชายมาส่งฉัน..เรียกง่ายๆคือไม่มีเลยตะหาก“หมอมาร์คไปได้แล้วค่ะ..ขอบคุณที่มาส่ง” ร่างสูงยังยืนยิ้มโชว์ใบหน้าหล่อๆให้ครูสาวที่เดินผ่านไปผ่านมาได้หัวใจสั่นเล่นๆ..“เอ๋ยเดินขึ้นไปก่อนสิ..แล้วมาร์คค่อยไป”“หมอมาร์คสวัสดีค่ะ” เสียงของมะปรางเพื่อนรักดังขึ้น..เจ้าหล่อนเดินตรงเข้ามาหาฉันกับหมอมาร์ค..“ครูมะปรางสวัสดีครับ..ไม่ได้เจอกันนานเลย..แต่เดี๋ยวคงได้เจอกันบ่อยๆ” อดีตคนรักของฉันยิ้มกว้างแถมพูดเหมือนมีนัยสำคัญ..และเพื่อนรักของฉันก็คงกำลังคิดไปถึงไหนต่อไหนเพราะหันมาทำตาล้อเลียนฉัน..“โล่งอกซะที..ในที่สุดเอ๋ยก็ยอมคืนดีกับหมอมาร์ค..” ยัยเพื่อนทรยศยกมือทาบอก..ทำท่าทีปลื้มปริ่มยินดีที่ฉันยอมกลับไปรีเทิร์นกับหมอมาร์คเหมือนที่หล่อนกรอกหูฉันอยู่ทุกวัน..“ไม่ได้คืนดี..และคงไม่มีวันนั้น
Ep. 6Mommy Linjong talksหลังจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนขอกลับไปทำงานโดยฝากเด็กหญิงตัวน้อยๆไว้กับฉัน..ฉันมองร่างเล็กๆนั้นอย่างพิจารณา..ใบหน้าเล็กขาวนวลเนียนอมเลือดฝาดธรรมชาติ..ดวงตากลมโตรับกับคิ้วโก่งราวกับวาดไว้..จมูกเล็กๆที่โด่งเป็นสันนั่นอีก..โตขึ้นคงไม่ต้องศัลยกรรมให้เสียเงิน..ที่สำคัญยังมีปากบางอมชมพูเหมือนคนสุขภาพดี..จะว่าไปหน้าตาของอาดอกเหมยก็คล้ายๆกับเอ๋ย..อาจเพราะหมอมาร์คบอกว่าเด็กคนนี้เป็นหลานสาวของอาเอ๋ยนั่นเอง..“แม่หนูลื้ออยากกินอะไร..เดี๋ยวฉัน..เอ่อ..อาม่าจะให้ไปซื้อให้” ฉันแทนตัวเองว่าอาม่าเพราะนึกเอ็นดูเด็กน้อยเด็กอะไรก็ไม่รู้น่ารักน่าเอ็นดูจนฉันอยากได้เป็นหลานจริงๆ..รอแต่หมอมาร์คเมื่อไหร่จะแต่งงานก็ไม่รู้..อาเอ๋ยมาจะถามให้รู้เรื่อง..จะได้ผลิตทายาทซะที..ลูกของหมอมาร์คกับอาเอ๋ยคงจะน่ารักน่าชังเหมือนอาดอกเหมยแน่ๆ..“เหมยอยากกินขนมเค้กค่ะคุณย่า” น้ำเสียงใสๆพูดอย่างออดอ้อน..แถมมือเล็กป้อมๆนั้นก็กอดแขนฉันพลางถูใบหน้าไปมา..โอ้ย..ทำไมเด็กนี่น่ารักอะไรอย่างนี้..“อาสมหมาย..ไปซื้อขนมเค้กเจ้าดังที่ห้างมาสิบกล่อง” ฉันส่งเสียงเรียกพนักงานในโชว์รูม..ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดในชุดฟอร์มพนัก
Ep. 7“เอ๋ย..แกจะไปไหน” ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตูรถยนต์เสียงเรียกของมะปรางดังขึ้น..“ก็ไปรับดอกเหมยแล้วก็กลับบ้านไง” ตอนนี้ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว..ฉันจึงเก็บกระเป๋าข้าวของเพื่อจะไปรับหลานสาว..“แกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเหรอ? ประชุมเกี่ยวกับการประเมินโรงเรียนด่วน..” จริงสิ..พอสอนเสร็จฉันก็ยังไม่ได้จับโทรศัพท์เลย..พอเปิดมาเท่านั้นแหละ..ข้อความจากไลน์ส่วนตัวเอย..ไลน์กลุ่มเอย..เด้งขึ้นมารัวๆ..บันทึกข้อความเรียกประชุมด่วนแบบนี้ไม่แคล้วคงได้แจกข้าวกล่องในห้องประชุมเลยทีเดียว..“โทรไปบอกยัยเตยสิ..ฝากหลานไว้ก่อน” ครูเตยเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมะปรางเพื่อนรักของฉัน..ฉันต่อสายโทรหาครูเตยทันที..“เตย..พอดีเอ๋ยมีประชุมด่วน..ฝากเหมยไว้บ้านเตยได้ไหม..พอประชุมเสร็จเอ๋ยจะรีบไปรับ..วะ..ว่าไงนะ..ไปกับหมอมาร์คแล้ว” ปลายสายบอกว่ามีคุณหมอรูปหล่อมารับดอกเหมยไปแล้ว..ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน..อดีตคนรักของฉันนั่นเอง..[ มีแฟนเป็นหมอรูปหล่อก็ไม่บอกนะแก.. ]“ใครบอกว่าหมอมาร์คเป็นแฟนฉัน..” ฉันแทบจะกรี๊ด..นี่อีตาหมอมาร์คต้องไปบอกครูเตยแบบนั้นแน่ๆ..[ ดอกเหมยบอกเอง..คุณหมอก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ] คงจะยิ้มอย่างมีความสุขที่สามารถทำใ
Ep. 8 Mommy Linjong talksทันทีที่เห็นหลานสาวของอดีตคนรักลูกชายเดินจูงมือมากับหมอมาร์ค..ฉันก็รีบตรงเข้าไปหาอาดอกเหมยด้วยความดีใจ..ไม่รู้ว่าตัวเองถูกชะตากับเด็กคนนี้อะไรนักหนา..“อาเหมยของอาม่า..มานี่เร็วเข้า..อาม่าซื้อตุ๊กตาบาร์บี้มาให้ด้วย” เมื่อตอนบ่ายฉันไปห้างเพื่อซื้อของเล่นให้ดอกเหมย..ตอนนี้ลูกชายยังไม่มีหลานให้เลี้ยง..เลี้ยงอาดอกเหมยไปพลางๆก่อนก็ได้..“อาม่า..คิดถึงจังเลยค่ะ” เด็กน้อยก็ช่างพูดช่างเจรจาน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน..อาจเพราะมัวแต่สนใจดอกเหมยเลยไม่ทันมองหน้าหมอมาร์คที่ตาแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตา..“อามาร์ค..ลื้อร้องไห้ทำไม..”“ม้า...” ฉันตกใจที่ลูกชายคนเดียวเข้ามากอดฉันแน่น..ซบใบหน้าลงมาที่ไหล่..พลางสะอื้นเบาๆ“ลื้อเป็นอะไร..ไหนบอกม้าสิ..” ฉันใช้มือลูบหลังลูกชายตัวโตที่ตอนนี้ร้องไห้เป็นเด็กๆ..“ดอกเหมยเป็นลูกของมาร์คกับเอ๋ย..” พอลูกชายพูดจบ..ฉันถึงกับตกตะลึงไปพักใหญ่..ผละจากลูกชายมองหน้าเด็กหญิงตัวน้อย..จะว่าไป..เด็กคนนี้นอกจากจะหน้าเหมือนอาเอ๋ยแต่ก็มีส่วนคล้ายอามาร์คอยู่เหมือนกัน..โดยเฉพาะดวงตาสีเข้มที่กำลังจ้องมองด้วยควา
Ep. 9 ฉันไปรับดอกเหมยที่โชว์รูมรถหรูของหม่าม้า..ปรากฏว่านอกจากหม่าม้าจะพาดอกเหมยทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว..ยังอาบน้ำปะแป้งเปลี่ยนเป็นชุดนอนให้อีกด้วยเพราะกว่าที่ฉันจะเลิกประชุมก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม..ตอนที่ไปรับดอกเหมยซึ่งเล่นทำกิจกรรมที่โรงเรียนมาทั้งวันก็ออกอาการง่วงเหงาหาวนอนและหลับมาในรถ..จนฉันต้องอุ้มเด็กน้อยมาที่เตียง..ตอนนี้หลานสาวไม่ได้ตัวเล็กเหมือนแต่ก่อน..อุ้มแต่ละทีไหล่แทบทรุด..พอส่งดอกเหมยเข้านอนฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนและเชคกลอนประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยเพราะผู้หญิงกับเด็กตัวเล็กๆอยู่แค่สองคนในบ้าน..ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ปลอดภัย..เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นแบบรัวๆ..ใครมาตอนนี้นะ..มะปรางเหรอ? ฉันแง้มผ้าม่านโผล่หน้าออกไปที่ประตูหน้าบ้าน..ร่างสูงของหมอมาร์คที่สวมเสื้อกาวน์แขนสั้นกับกางเกงสแลคยืนอยู่หน้าบ้าน..ฉันหันไปมองนาฬิกาตอนนี้สามทุ่มเศษๆ...แต่จะใจร้ายไม่ยอมออกไปดูก็ใช่เรื่อง..ออกไปถามสักหน่อยดีกว่า..เพราะหลายวันมานี้ก็มีเขากับหม่าม้าช่วยดูแลดอกเหมยหลังเลิกเรียน..“หมอมาร์คมาทำไมดึกดื่น”“เอ๋ย..มาร์คมีเรื่องสำคัญจะพูด..เอ๋ยเปิดประตูให้มาร์คได้ไหม” ตาของหมอหนุ่มแดงก่ำเหมือนผ่า
30. The end You’re my world. Mark talksคุณเคยรักใครสักคนไหม? รักมากจนคิดไม่ออกเลยว่าถ้าขาดเธอหรือเขาคนนั้นไปจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในช่วงเวลาที่ผมมีเธอ ผมไม่เคยมานั่งนึกนั่งจินตนาการเรื่องอะไรแบบนี้หรอก จนกระทั่งวันที่เธอจากผมไป แค่คิดว่าชีวิตนี้ไม่มีเธออีกแล้ว หัวใจของผมก็บีบรัดแน่นจนเจ็บ เจ็บจนหายใจไม่ออกและไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกสีเทาๆนี้ต่อไป โชคยังดีที่ผมยังมีเพื่อนๆอย่าง หมอมิกกี้ หมอปาล์มและหมอเป้ ที่อยู่ข้างๆในวันที่ไม่มีใคร ผมเพียรพยายามตามหาเธอในที่ๆคิดว่าเธอจะอยู่ บ้านที่ผมเคยไปเธอเมื่อครั้งเราคบหากันก็ประกาศขาย เอ๋ยทิ้งผมไปโดยที่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัวอะไรเลย ผมใช้ชีวิตอยู่แบบไร้วิญญาณอยู่เกือบสี่ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง..“มาร์คอยู่เวรแทนกูด้วยนะเพื่อน วันนี้แม่กูมา” ไอ้หมอมิกถึงกับยกมือไหว้ แม่ที่ว่าก็คงไม่แคล้วแม่ทูนหัวอย่างแน่นอน ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธเพราะเพิ่งจะออกจากเวรวอร์ดเมื่อเช้า ถึงจิตใจจะทนไหวแต่ร่างกายที่พร้อมจะหลับอยู่ทุกเมื่อมันเริ่มประท้วงว่าผมควรจะนอนยาวๆสักที“ขออีกวันนะมาร์คเพื่อนรัก วันนี้คงไม่เยินหรอก ก
Ep. 29“วันนี้หมอมาร์คจะเซอร์ไพรซ์อะไรน้า” คำถามของมะปรางทำให้ฉันอดนึกถึงเหตุการณ์วันวาเลนไทน์เมื่อหกปีที่แล้วอย่างเสียไม่ได้ มันเป็นครั้งแรกที่เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง คืนพิเศษฉันโดนสามีหนุ่มหลอกล่อว่าไปเอาของขวัญที่คอนโดของเขา จนถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าของขวัญที่ว่าคืออะไรแถมหลังจากผ่านเรื่องอย่างว่าฉันก็เป็นไข้จนไม่ได้ไปเรียนถึงสองวันและเหตุการณ์นั้นทำให้มะปรางพูดแซวอยู่นาน..“อาจจะเซอร์ไพร้ซ์ด้วยการไม่ว่างก็ได้นะ หมอนะจ้ะเผื่อติดเคสด่วนไรงี้” ฉันพูดไปตามความจริงแต่ถามว่ามาร์คติดงานแล้วฉันจะต้องงอนหรือน้อยใจ ฉันก็ไม่ใช่สาวใสวัยรุ่นแล้วถ้าไม่ว่างวันนี้ก็ไปกินข้าวกันวันอื่นก็ได้เพราะอาชีพแพทย์เอาเวลาแน่นอนนักไม่ได้“แล้วนี่ถามจริงท้องจริงรึเปล่า ทำไมหน้าท้องแบนราบอย่างนั้น บอกมานะหนูน้อยซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” มือเล็กๆของมะปรางลูบไปตามหน้าท้องที่แบนราบยิ่งกว่าตอนไม่ท้องเพราะช่วงแรกฉันแพ้ท้องมาก แทบจะกอดโถชักโครกนอน แต่มาร์คก็ช่วยหาของเปรี้ยวๆขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆหรือลูกอมให้ฉันกินตลอดและเขาก็คือคนที่ช่วยให้ฉันผ่านช่วงทรมานนั้นมาได้ ถ้าฉันคลื่นไส้จนนอนไม่ได้เขาก็จะนั่งลูบหลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็
Ep. 28“เอ๋ย สวัสดี” แก๊งคุณหมอเพื่อนสนิทของมาร์ค ซึ่งมีคุณหมอมิกกี้ คุณหมอปาล์มและคุณหมอเป้เดินเข้ามาในบ้านใหม่ที่เราเพิ่งเข้าอยู่ได้เพียงอาทิตย์กว่าๆ เพียงเพราะสามีหนุ่มเห็นว่าบ้านหลังเดิมไม่มีพื้นที่หน้าบ้านกว้างๆให้ลูกๆได้วิ่งเล่น ส่วนบ้านหลังเดิมที่ฉันซื้อดาวน์ไว้ มาร์คก็จัดการใช้เงินก้อนปิดงวดทั้งหมดและเตรียมปล่อยขาย“สวัสดีค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้แขกผู้มาเยือนพลางเชื้อเชิญให้ทุกคนนั่งพักที่โซฟาห้องรับแขก“ดอกเหมย สวัสดีเพื่อนๆคุณพ่อสิลูก” หนูน้อยเงยขึ้นจากกิจกรรมวาดภาพระบายสี ลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือตรงมายังกลุ่มคุณลุงหมอแล้วยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มจนตาหยีจนเห็นฟันทุกซี่“ดอกเหมยน่ารักน่าชังจังเลยลูก คุณลุงซื้อตุ๊กตามาฝากด้วย” คุณหมอมิกกี้ส่งกล่องของเล่นให้ดอกเหมย มือหนาลูบไปตามเส้นผมเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู“ขอบคุณค่ะ ของคุณลุงคนนี้กับคนนี้ไม่มีเหรอคะ?” เด็กน้อยถามพาซื่อไปตามประสาเด็กที่คิดว่าทุกคนที่มาเยี่ยมต้องมีของฝาก เรียกเสียงหัวเราะให้กับแก๊งคุณหมอ“เหมยไม่ถามแบบนั้นนะคะ ถ้าคุณลุงจะให้คงจะให้เอง” ฉันเอ็ดลูกสาวแกมสั่งสอนไปในตัว เหมยยังเด็กมากเพิ่งจะพูดรู้ความระบบความคิดบางอย่างอาจยังไ
Ep. 27Aey and Mark the first time (2)ฉันมองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาที่สับสนปนความอยากรู้อยากลอง“เอ๋ย เป็นของมาร์คได้ไหม?”“..............” ฉันกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่แอบทำใจไว้ก่อนแล้วแต่ไม่คิดว่าวันที่ต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งจะมาถึงเร็วกว่าที่กำหนดไว้..“เอ๋ย รังเกียจมาร์คเหรอ?” ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับหนุ่มตี๋งอง้ำคล้ายจะผิดหวังที่ฉันนิ่งเงียบ จนฉันรีบโบกมือปฏิเสธ“ไม่ใช่แบบนั้นนะมาร์ค คือว่าเอ๋ย..เอ๋ย..” คือฉันไม่ได้รังเกียจมาร์คเหมือนที่ชายหนุ่มเข้าใจ แต่ฉันยังไม่พร้อมจะมีอะไรกับเขาต่างหาก“ถ้าไม่รังเกียจมาร์ค มาร์คทำต่อได้ไหม..” พอพูดจบเขาก็แตะริมฝีปากไล่ไปสันกรามเรื่อยลงมาจนถึงซอกคอทั้งสองข้าง ความรู้สึกประหลาดจู่โจมเข้ามาอีกครั้งใจนึกอยากจะปัดป้องแต่กลับไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนเป็นอัมพาตชั่วคราว อากาศในห้องนอนเย็นเยียบแม้ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ หากแต่อยู่ในช่วงกุมภาพันธ์สภาพอากาศยังคงเย็นสบายในช่วงกลางคืน ทว่าอุณหภูมิร่างกายกลับพุ่งสูงตามอารมณ์อย่างว่าที่เริ่มก่อตัวขึ้น ว่าที่คุณหมอค่อยๆรั้งชุดเดรสของฉันขึ้นมาเหนืออกและถอดมันออกจนเหลือแต่บราเซียสีหวานกับแพนตี
Ep. 26Aey and Mark the first time (1)วันวาเลนไทน์ หกปีที่แล้ว....@ คอนโดหมอมาร์ค“แม่ง..เหี้ย..โคตรเลว” ขณะที่เหล่านักศึกษาแพทย์ปีสามกำลังจับกลุ่มกันติวหนังสือ นักศึกษาแพทย์เป้ผุดลุกขึ้นมาจากที่นั่ง เรียกความสนใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังใช้สมาธิจดจ่อกับหนังสือได้เป็นอย่างดี“มึงเป็นอะไรไอ้เป้ กูเห็นมึงแปลกๆตั้งแต่เข้ามาแล้ว” มิกกี้หนุ่มหล่อพ่อรวยมากลูกชายเจ้าของห้างดังเอ่ยถามเจือความเป็นห่วงที่จู่ๆเพื่อนสนิทก็ลุกขึ้นมาโวยวาย“ก็นาเดียแฟนกู..ไม่สิอดีต พาผู้ชายมานอนในห้องกู แม่ง..คาหนังคาเขา” เป้กำโทรศัพท์แน่นด้วยความโกรธ เขาแทบจะปามันทิ้งถ้าไม่ติดว่ากำลังผ่อนมันอยู่อ่ะนะ“เห้..คา..เลยเหรอวะ โหมึงถ่ายคลิปไว้มั้ย?” ปาล์มหนุ่มอารมณ์ดีของกลุ่มพูดขึ้นมา เขาตั้งใจทำให้อารมณ์โกรธของเป้ลดลงไม่ได้ตั้งใจกวนบาทาเพื่อนแต่อย่างใด..“ไอ้ปาล์มมึงกวนกูเหรอ? เจ็บใจว่ะ”“มึงเป็นผัวนาเดียก่อนไอ้นั่น เรียกร้องสิทธิ์เลยถ้ามึงยังเสียดายเค้า” มิกกี้แนะนำเพราะคงเห็นเพื่อนทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเลิก ทำยังกะละครทั้งรักทั้งแค้นอะไรอย่างนั้น..“ผัวอะไร กูไม่เคยฟีทกะเขา” พอเป้บอกความลับนี้ออกมา ทำเอาทุกคนทำหน้าประหลา
Ep. 25“ป๊าครับ นี่เอ๋ยกับดอกเหมย” หมอมาร์คแนะนำฉันกับผู้เป็นพ่อของตัวเองหรือมีศักดิ์เป็นพ่อสามีของฉันนั่นเอง เจ้าสัวธนาเป็นชายวัยค่อนกลางคนที่ยังดูแข็งแรง ใบหน้าของมาร์คละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อแทบจะถอดแบบกันมาทั้งหมด ฉันยกมือไหว้พร้อมกับดอกเหมยที่เดินเข้าไปกราบที่ตักแบบน่ารักจนผู้เป็นปู่อดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้“สวัสดีค่ะอากง”“อามาร์ค ลูกลื้อนี่มันน่ารักน่าชังจริงๆ ตาเหมือนลื้อแต่คิ้วจมูกปากเหมือนอาเอ๋ย” คุณปู่ลูบเส้นผมของหลานสาวเบาๆใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา“อาม่าซื้อขนมกับของเล่นมาฝากด้วยนะ” คุณลินจงให้พนักงานหอบถุงกระดาษเกือบๆสิบถุงมาวางตรงหน้าหลานสาวคนโปรด เด็กน้อยมองของตรงหน้าอย่างตาวาว ใบหน้าเล็กๆน่ารักยิ้มกว้างอย่างมีความสุขที่จะได้ของเล่นชิ้นโปรดตามที่ผู้เป็นย่ารับปากไว้“โอโห เยอะจังเลยค่ะอาม่า เหมยจะเล่นวันละตัว” ดอกเหมยหยิบตุ๊กตาบาร์บี้คอลเลคชั่นต่างๆออกมาจากกล่อง ดวงตาแป๋วๆทอประกายความสุขที่ได้ของที่ตัวเองอยากได้“อาม่าทอดไก่ร้อนๆ อาดอกเหมยหิวรึยังลูก”“หิวค่ะ คุณแม่กับน้องก็หิว” ลูกสาวตัวน้อยเดินเข้ามาพลางซบใบหน้าเล็กๆที่ท้องของฉัน ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพี่
Ep. 24Mark talksเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือของเอ๋ยแผดเสียงดังลั่น ทว่าเจ้าของเครื่องที่ตั้งปลุกไว้ยังนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนามือเล็กๆนั้นกอดรัดตัวผมอย่างแนบแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน ผมแอบอมยิ้มและกดริมฝีปากตัวเองที่แก้มขาวนวลเนียนทั้งสองข้างนั้นอย่างหลงใหล“อือ กี่โมงแล้วมาร์ค” ใบหน้าสวยหวานค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะถูกผมก่อกวน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเหตุการณ์ในอดีต ผมต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีเอ๋ยอยู่หลายปีบางครั้งก็ฝันร้ายกลางดึก พอเราได้มาอยู่ด้วยกันผมกลัวว่าวันหนึ่งเรื่องราวของเราจะเป็นแค่ความฝันพอผมลืมตาขึ้นครั้งใดก็คว้าร่างบางมากอดมาหอมอยู่เกือบทั้งคืน เหมือนเป็นการย้ำเตือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง“เจ็ดโมง ตั้งปลุกทำไมเหรอ?” ผมเอ่ยถามอย่างงุนงงเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เอ๋ยไม่ได้ไปทำงานนี่นา ผมเองก็อยากนอนกอดเอ๋ยไปเรื่อยๆ ใช้เวลาช่วงเช้าอยู่ด้วยกันนานๆ“ว้าย สายแล้ว เอ๋ยมีค่ายที่โรงเรียน ” ภรรยาสาวแทบจะร้องกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ หญิงสาวสปริงตัวจากที่นอนวิ่งเข้าห้องน้ำใช้เวลาในนั้นเพียงไม่กี่นาที ร่างบางอยู่ในชุดเสื้อยืดที่สกรีนด้านหลังเป็นชื่อค่ายกับกางเกงสแล็กสีดำเอ๋ยกำลังรวบผมขึ้นสูงและท
Ep. 23ตอนกลางวันของวันศุกร์ฉันนั่งเขี่ยข้าวมันไก่อย่างใจลอย..อาหารในจานไม่ได้พร่องไปเลยสักนิด..“เป็นไรอ่ะเอ๋ย..เห็นไม่เจริญอาหารมาหลายวันแล้ว..” มะปรางถือวิสาะตักข้าวในจานของฉันเข้าปาก..แก้มกลมๆเคี้ยวหยับๆอย่างเอร็ดอร่อย..ผิดกับฉันที่ช่วงนี้ไม่รู้สึกอยากอาหารเอาซะเลย..“ไม่รู้เหมือนกัน..” ฉันถอนหายใจยาวๆรู้สึกหน่วงๆในใจ..สาเหตุอาจเป็นเพราะสามีหนุ่มเข้าเวรติดกันสองวันหลังจากนั้นเขาก็ไปวันรวมญาติที่กรุงเทพฯ กับคุณลินจง..เกือบห้าวันแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน..ซึ่งตั้งแต่แต่งงานเราไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้..ขนาดวันที่เข้าเวรดึกเขาจะแวะมากินข้าวเย็นกับฉันและลูกสาวตัวน้อยก่อนเสมอ..พอไม่เจอกันหลายวันฉันก็เลยรู้สึกคิดถึงหมอมาร์คอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน..ครืด..ครืด..เสียงเตือนเสียงเรียกเข้าดังขึ้นแบบรัวๆ..Mark is calling….ฉันหยิบมือถือขึ้นมากดรับสายแบบวิดิโอคอลและเดินออกไปที่ระเบียงห้องเพราะกลัวรบกวนครูท่านอื่นที่กำลังพักผ่อนทานข้าวตรวจงานนักเรียนในช่วงพักเที่ยง..[ เอ๋ย..กินข้าวรึยังครับ ] ใบหน้าขาวจัดยิ้มกว้าง หมอหนุ่มสวมเสื้อยืดสีแดง ด้านหลังมีญาติๆสวมชุดสีเดียวกันกำลังทานอาหารคุยกันเสียงดัง..ช
Ep. 22“เอ๋ย..ยัยเตยบอกว่าตอนไปตรวจสุขภาพประจำปี เห็นพยาบาลสาวสวยวัยกระเตาะจบใหม่ ซื้อขนมมาฝากหมอมาร์ค..แถมยังคุยกันแบบสนิทสนมด้วยล่ะ..” ครูมะปรางเพื่อนสาวคนสนิทจีบปากจีบคอพูดในขณะที่เรากำลังทานอาหารกลางวันอยู่ห้องพักครู..วินาทีนั้นบอกตามตรงว่ารู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ..แต่ด้วยความที่อายุมากขึ้นและฉันบอกตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล..นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าเรายังไม่เห็นด้วยตาตัวเอง..ที่สำคัญเรื่องราวในอดีตคอยย้ำเตือนสติฉันอยู่ตลอดเวลาว่า..ที่ฉันเสียคนรักไปเกือบสี่ปีเพราะความใจร้อนด่วนตัดสินใจของตัวเองโดยไม่ฟังเหตุผลของคนรัก..เพราะฉะนั้นคราวนี้ฉันจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรก็ตามมาทำให้ชีวิตคู่ของฉันพังเด็ดขาด..“เอ๋ย..เป็นอะไรอ่ะ..เงียบไปนานเลย..หึงเหรอ..” เพื่อนรักเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบไปนาน..แววตาของเจ้าหล่อนมองฉันเหมือนจะแซวอยู่ในที..“มาร์คก็แบบนี้แหละ..เค้าเป็นคนอัธยาศัยดี..ใครจะไปตีหน้ายักษ์ไม่รับของคนอื่นกันล่ะ..” ถึงจะบอกว่าไม่คิดอะไรมันก็อดคิดไม่ได้..เพราะฉันก็ไม่ได้เป็นสาวน้อยแรกรุ่น..อายุก็เยอะขึ้นถึงจะไม่ถึงสามสิบ..แต่ก็ดูเป็นหญิงสาวเต็มตัว..เผื่อมาร์คอาจจ