หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ฉึบ ๆ ๆ
มีดคมถูกกรีดลงบนแตงกวาอย่างช้า ๆ หม้อต้มกำลังเดือดได้ที่ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะยืนเหม่อไม่สนใจมัน แม่บ้านต่างยืนมุงดูหน้าประตูทางเข้าห้องครัวเพราะวันนี้ดูท่านายหญิงของพวกเขาจะอารมณ์ไม่ดีอย่างหนัก
ตึก ๆ
เสียงฝีเท้าของคนเป็นน้องชายดังขึ้นตามจังหวะการวิ่ง เขาหยุดลงหน้าห้องครัว มองกลุ่มแม่บ้านต่างยืมมุงกันอยู่ทางเข้า ทุกคนต่างเปิดทางให้เขาเข้าไปยังด้านใน พี่สาวของเขาที่กำลังยืนเหม่อลอยและหั่นแตงกวาไปด้วย
"เปลี่ยนจากหั่นแตงกวามาปาดคอตัวเองดีมั้ย ถ้าจะยืนเหม่อขนาดนี้" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินผ่านหลังหญิงสาวไปปิดเตา
"อ๊ะ!" ฉันตกใจเมื่อมีดในมือถูกแย่งไป คินขมวดคิ้วมองพี่ตัวเองอย่างรำคาญ
"เกิดบ้าอะไรถึงมาทำอาหารเอง แล้วไล่คนอื่นออกทำไม" ฉันทำหน้าบึ้งตึงและมองไปยังกลุ่มแม่บ้านที่โดนฉันไล่ออกไปเมื่อเช้า
"ไม่ได้ไล่ออก แค่ไล่ให้ไปไกล ๆ ฉันต้องใช้สมาธิในการทำอาหารอย่างมาก" แค่ฉันบอกว่าจะทำอาหารเอง ทุกคนก็พากันตกใจแล้ววุ่นวายกับฉันไม่หยุด มันน่าตกใจกันมากหรือไง
"ทุกคนไปทำอะไรก็ไป เดี๋ยวพี่คิมฉันจัดการเอง" คินหันไปสั่งกลุ่มคนด้านหลัง แล้วจึงหันกลับมามองหน้าฉัน
"เห้อ~" ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
"อาการเป็นไง บ้าน้อย บ้ามากหรือคลุ้มคลั่ง" นี่แกคงเป็นห่วงพี่สาวคนนี้จริง ๆ สินะ
"เดินสายกลาง" คินพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วลากแขนฉันเดินออกจากห้องครัวมายังห้องนั่งเล่น
"ไม่ต้องเกิดอยากเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาทำอาหารตอนนี้หรอก นอกจากมันจะกินไม่ได้แล้วเดี๋ยวไฟจะไหม้บ้าน อยู่เฉย ๆ แล้วรอกินเหอะนะ" คินหันมาบ่นฉันทิ้งท้าย ก่อนที่เขาจะเดินไปสั่งพ่อครัวให้จัดเตรียมอาหารเช้า
ที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปงานการกุศลกับกลุ่มเพื่อนที่ตระกูลยัยเฮเลนจัดขึ้นทุกปี แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าคนที่มาร่วมงานด้วยมากกว่า
ฉันคิดว่าคงไม่ต้องไปพบเจอหมอนั่นแล้วแท้ ๆ แต่เขาเองก็เป็นตัวแทนมาปีแรกเช่นกัน ฉันดันไปรับปากกับยัยพวกนั้นไว้แล้วด้วย การจะไม่ไปมันจะเสียมารยาทไหมนะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับว่าฉันกลัวสิ
"คิน~" ฉันแหกปากเรียกน้องตัวเองขึ้นมา
"ไม่ทำ" คินตอบกลับมาทันทีที่ฉันยังไม่ทันจะพูด เขาเดินกลับมานั่งลงบนโซฟาอีกมุมสายตาจ้องมองฉันอย่างไม่ไว้วางใจ
"ฟังก่อนดิ"
"อะไรที่จะขอหรือให้ทำไม่เคยมีเรื่องดีหรอก ไม่ต้องมาพูด" นั้นไง มันรู้อีก
"อันนี้เรื่องดี จริง ๆ นะ"
"..." คินเลิกคิ้วมองอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่ แต่ก็เหมือนจะยอมรับฟังฉันจึงรีบพูดต่อก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ
"ไปงานการกุศลเป็นเพื่อนหน่อย" นี่แหละ! ฉันจะได้ไม่ไปสร้างวีรกรรมอีก
"งานการกุศลที่บริษัทเรามีส่วนร่วมทุกปีอะนะ" ใช่แล้ว บริษัทของเราเข้าร่วมทุกปี เลยทำให้ฉันกับเฮเลนสนิทกันมาก
"ใช่ ๆ การดูแลเด็ก ๆ และผู้อพยพไงตอนเด็ก ๆ เราก็เคยไปด้วยกันพร้อมกับพ่อ" คินพยักหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนขึ้นมาได้
"ที่พี่พยายามจะหลอกให้ฉันกินนมหมาอะเหรอ" สายตาของคินดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น
"พี่เป็นพี่สาวที่ปกป้องน้องมาตลอดไม่เคยทำอะไรแบบนั้นหรอก" ฉันยิ้มหวานให้กับน้องชายตัวเองด้วยสีหน้าที่คิดว่าใสซื่อที่สุดในชีวิต
"พูดอะไรออกมาไม่อายตัวเองเลยหรือไง"
เหตุการณ์ความรักระหว่างพี่น้องครั้งที่หนึ่ง
ย้อนกลับไปสมัยตอนที่คินอายุเจ็ดขวบและฉันอายุสิบขวบ
"หยุดจับมันสลับเต้านมได้แล้วพี่คิม" น้องชายของเธอพูดขึ้นเพราะทนไม่ไหวกับการที่พี่สาวของเขาจับลูกหมาที่กำลังกินนมสลับเต้ากันไปมา
"กลัวมันกินไม่อิ่มนี่"
"มันจะไม่อิ่มก็ตรงที่พี่ทำแบบนี้แหละ"
"มันน่าสงสารนะ เราเอามันกลับไปดีมั้ย"ฉันเสนอความคิดเห็นและมองมันด้วยความสงสาร
"มันมีเจ้าของ หยุดอยากได้หมาของคนอื่นไปทั่วสักที" ปลอกคอที่คอของมันแสดงถึงความมีเจ้าของได้อย่างชัดเจน
"จริงสินะ...คินลองดูดนมหมาดูสิ พี่อยากรู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า" ฉันหันไปยิ้มกว้างให้น้องชายตัวเอง ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาเย็นชาจากคนเป็นน้อง
"คนปกติที่ไหนจะให้น้องตัวเองดูดนมหมา"
"พี่แค่อยากรู้ว่ามันอร่อยมั้ย ดูสิพวกมันแย่งกันใหญ่เลย" ฉันเท้าคางมองพวกมันด้วยความเอ็นดู
"พี่เป็นสุนัขจิ้งจอกสินะ ถึงมองว่ามันน่าอร่อย" ยังดีที่มันให้ฉันเป็นสุนัขจิ้งจอก
"คินลองดูดดูสิ" ฉันจับข้อมือน้องชายตัวเองไว้แน่น เพราะเห็นว่าเขากำลังจะลุกหนี
"ปล่อย" คินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"นั่งลงน้องรัก" ฉันพยายามดึงให้คินนั่งลง
"ปล่อย"
"ลองดูดนมหมาดูสิคิน~"
"ยัยจิ้งจอก ปล่อยนะ!" ด้วยที่คนเป็นน้องตัวเล็กกว่า ทำให้เขาโดนกระชากให้นั่งลงได้อย่างง่ายดาย ฉันกระโดดล็อกคอคินไว้แน่นและพยายามกดหน้าเขาใส่ท้องของหมาแม่ลูกอ่อน ซึ่งมันก็กระดิกหางและมองเราทั้งคู่
ปึก!
เท้าเล็ก ๆ ของคินยันเข้าที่ท้องของฉันจนหงายหลังไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลุกหนีก็ถูกฉันกระโดดล็อกคอไว้แน่นอีกครั้ง
"ดูดนมหมาก่อน~"
"พี่บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!" แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เสียงแหกปากของเราสองคนดังจนคุณพ่อและคุณแม่รีบวิ่งมาจับแยกออกและนั้นก็เป็นเหตุการณ์ของความรักระหว่างพี่น้อง
เหตุการณ์แห่งความรักระหว่างพี่น้องครั้งที่สอง
Happy birthday, Happy birthday, Happy birthday to you
วันเกิดครบรอบอายุสิบขวบของคิน น้องชายของฉันผู้ที่ต้องมีความสุขมากที่สุดในวันเกิด กลับต้องมาระวังพี่สาวตัวดีของเขาที่จ้องจะปาเค้กใส่
"ขอพรก่อนนะลูก" คุณแม่พูดพร้อมกับลูบหัวลูกชาย
เบา ๆ"ครับแม่" คินเอามือกุมประกบกันพร้อมกับขอพรในใจ แต่ตามหลักแล้วเขาจะต้องหลับตาขอพร แต่ความไม่ไว้ใจพี่ตัวเองทำให้เขาจ้องมองพี่สาวของเขาไม่วางตา
ฟู่~ คินเป่าเทียนทั้งหมดดับในครั้งเดียว
"คินขอพรว่าอะไรเหรอ" ฉันที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้นด้วยความอยากรู้
"ขอให้เป็นลูกคนเดียว" คำตอบของคินทำเอาพ่อกับแม่และคนอื่นส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอพรวันเกิดแบบนี้ ตั้งแต่อายุห้าขวบ คินขอพรแบบนี้ตลอด
"..." ฉันจ้องมองหน้าน้องตัวเอง ได้!เลยน้องรัก
แปะ!
เค้กก้อนเล็กในมือที่ฉันแอบมันไว้ใต้โต๊ะ ถูกปาเข้าเต็มหน้าผู้เป็นเจ้าของวันเกิด พ่อแม่และบรรดาญาติ ๆ ต่างมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ คินปาดเค้กที่หน้าออกช้า ๆ พร้อมกับแสยะยิ้ม
แปะ!
เค้กก้อนขนาดกลางถูกปาเข้าเต็มหน้าฉัน ซึ่งคินก็แอบเตรียมไว้เช่นกัน ฉันปาดเค้กออกหน้าแล้วแสยะยิ้มให้น้องชายตัวเอง
"แกจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย!"
"ใช่ แล้วจะทำไม!" แล้วหลังจากนั้นสงครามเค้กก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะปีไหน ๆ วันเกิดของฉันหรือคินก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เสมอ จนในที่สุดพวกเราก็ไม่มีการเป่าเค้กวันเกิดอีกเลย
ปัจจุบัน
"ได้โปรดไปดูแลห้ามปรามพี่สาวคนสวยของแกไม่ให้ทำเรื่องที่เกินความคาดหมายที ได้โปรด~" ฉันเกาะแขนคินไว้แน่นพร้อมกับส่งสายตาหวานซึ้งไปให้
"ได้โปรด...ไปไกล ๆ" น้ำเสียงเย็นชาของคนเป็นน้องทำเอาฉันอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ
"นะ ๆ ๆ คินนะ ไปด้วยกันหน่อยนะ" ฉันพยายามอ้อนวอนเขาอีกครั้ง
"ปกติก็ไปกับกลุ่มเพื่อนทุกปี รอบนี้เป็นอะไรอยากให้ไปด้วย" คินจ้องฉันอย่างจับผิด จะบอกได้ไหมว่าไปทำอะไรมา ไม่เอาดีกว่า ถึงยังไงคินมันก็ไม่สนใจฉันอยู่ดี ต้องทำเป็นคนดีที่รักน้องอยากให้น้องไปด้วย
"ก็อยากให้น้องไปเปิดตัว เดี๋ยวน้องก็ต้องขึ้นเป็นผู้ดูแลสาขาที่ไทยการไปพบเจอคนเยอะ ๆ มันก็ดีไม่ใช่เหรอ" เอาล่ะ!แม่น้ำทั่วทั้งโลกพร้อมแล้ว
"แล้วยังไงต่อ" ดูเหมือนว่าจะยังไม่เชื่อ
"ที่นั่นก็เจอกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลของอิตาลีมากมายเลยนะ การสนิทกับมาเฟียไว้มันก็ดีกับธุรกิจ"
"อือ แล้วยังไงอีก"
"เพราะที่นั่นจะมีแต่มาเฟียระดับสูง พวกเขาครอบคลุมไปถึงเหล่าอัยการและตำรวจ อำนาจที่แทบจะเรียกว่าเหนือกฎหมายน่ะมันมีอยู่จริง"
"อันนี้รู้อยู่แล้ว" แล้วแกจะถามฉันทำไมวะ
"ไม่รู้แหละ แกต้องไปกับฉันน้องชาย"
"ไม่" ฉันอ้าปากค้างมองหน้าน้องชายตัวเองที่ตอนนี้มันทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"นะคินนะ ไปกับพี่นะ" ฉันใช้ลูกอ้อนอีกครั้ง อย่างน้อยมีคินไปเกิดฉันเมาทิ้งตัวในงานเลี้ยงตอนเย็นก็ยังสบายใจว่ามีคนลากกลับ จะได้ไม่ไประรานคนอื่นเขาจนเกิดเรื่องอีก
"ไปแล้วจะได้อะไร" ไม่เคยทำอะไรให้โดยไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนจริง ๆ
"อะไรก็ได้พี่สาวยอมหมด"
"งั้นเหรอ" คินยิ้มให้ฉันและเหมือนพยายามนึกถึงสิ่งที่จะขอ
"ค่อย ๆ นึกก็ได้ ตอนนี้รับปากก่อนว่าจะไปด้วย" ขอแค่รับปากเท่านั้น
"ก็ได้...แต่"
"อะไรเหรอ" ฉันยิ้มกว้างด้วยความดีใจ อย่างน้อยก็ไม่ตายเพียงลำพังแล้ว
"พี่ห้ามกินเหล้า ห้ามเมา...ห้ามอาละวาด ทำได้ใช่มั้ย
คิมภัทรชา" โธ่! ปาร์ตี้น้ำเมาของฉัน"โอเคค่ะภาคิน"
"แล้วเรื่องที่จะขอนึกออกแล้ว ผมจะกลับไทยสองอาทิตย์ ไม่ต้องตามโอเคนะ"
"งึก งึก~"ฉันพยักหน้าอย่างยอมรับข้อตกลงแต่ในใจกำลังร้องไห้ดังสายเลือดเหล้าจ๋า~
วันงานการกุศล
งานการกุศลที่จะถูกจัดขึ้นทุกปี ตระกูลของเฮเลนจะเป็นหัวเรือหลักที่เป็นผู้ดูแลเรื่องทั้งหมดในงาน สถานที่จัดงานคือค่ายอพยพและดูแลของเหล่าผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ บริษัทของเราทำการค้ากับทวีปยุโรป ที่นี่จึงไม่ใช่ที่แรกที่บริษัทของเราเข้าร่วมดูแล
อาหารและของใช้จำเป็นจำนวนมากถูกขนเข้ามาไม่ขาดสาย ถึงจะได้รับการดูแลอย่างดีจากรัฐบาล แต่เรื่องการดูแลสภาพจิตใจก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ที่นี่มีเด็ก ๆ มากมายที่ต้องอยู่เพียงลำพัง เด็กที่กำพร้าตั้งแต่เป็นทารกและเด็กที่ต้องกำพร้าจากการสูญเสียในระหว่างทางการอพยพ
แต่สิ่งที่ฉันสงสัยในตอนนี้คือไอ้น้องชายสุดที่รักของฉันมันไปไหน ฉันเห็นมันยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อกี้ พอหันมาอีกทีก็ไม่เจอแล้ว
"นี่ ๆ พี่คนสวย" เสียงเล็กของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกฉันพร้อมกับดึงขากางเกง ในมือของเธอมีถุงเปล่าใบเล็กถืออยู่
"ว่าไงคะคนสวย" ฉันนั่งย่องลงกับพื้นพร้อมกับดึงแว่นกันแดดขึ้นคาดผมไว้
"จะขอ...ขนมอีกได้มั้ยเพื่อนของหนู...ไม่กล้ามา" เธอชี้ไปยังต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีเด็กผู้หญิงสองคนแอบมองอยู่
"ขอเยอะ ๆ ได้เลย เดี๋ยวพี่จะพาไปเอานะ" พูดจบฉันก็จับมือเด็กสาวให้เดินตามไปยังจุดรับขนม
"เฮเลนขอขนมและของจำเป็นให้เด็กคนนี้เยอะ ๆ หน่อยสิ เธอมีเพื่อนที่ไม่กล้ามาเอาอีกสองคน" ฉันเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะและชะโงกหน้าข้ามกองลังที่วางเทินกันอยู่
"เอาเยอะแค่ไหน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง เสียงนี้มัน...
"ขอ...เยอะ ๆ เลย...ค่ะ" เด็กสาวที่มากับฉันเป็นฝ่ายหันกลับไปตอบ ในขณะที่ฉันได้แต่ยืนนิ่งและกวาดสายตามองหา
เฮเลน แต่ตรงนี้ไม่มีใครอยู่เลย"ได้สิ" ฉันชำเลืองสายตามองไปยังเด็กผู้หญิงที่จูงมืออยู่ ก็พบกับมือหนาของเขาลูบหัวเธอ
"ขอบ...คุณ...ค่ะ" เธอปล่อยมือจากฉันแล้วถือถุงเดินตามเขาไป เอาไงดีอะ...วิ่งหนีเลยไหม
"จะยืนอยู่แบบนั้นอีกนานไหม" เสียงเรียกของผู้ชายที่ชื่อการ์เนททำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ เพราะกำลังคิดอะไร
เพลิน ๆ"เอ่อ เดี๋ยวพี่ช่วย" เมื่อดึงสติของตัวเองกลับมาได้ฉันก็เดินเข้าหาเด็กผู้หญิงทันทีโดยที่ไม่สนใจผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ
"ขออันนี้อีกได้มั้ย"
เธอหยิบซองขนมสีชมพูชูให้ฉันดู พร้อมกับร้องขอมันเพิ่ม ฉันหันซ้ายหันขวาและลุกขึ้นยืน เปิดกล่องหาขนมที่เธอต้องการทีละใบ จนที่สุดก็เห็นว่ามันเทินอยู่บนกล่องที่สูงที่สุด ใครมันเป็นคนเทินขึ้นไป
ฉันเขย่งปลายเท้าขึ้นและเอื้อมมือขึ้นไปเพื่อที่จะเอาลังนั้นลงมา แต่ก็พบว่าตัวสั้นเกินเอื้อมไม่ถึง ฉันกวาดสายมองหาตัวช่วยก็พบตัวผู้ชายร่างสูงที่ดูท่าจะสูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร เขาสามารถหยิบมันลงมาได้สบาย ๆ และที่สำคัญเขาคือการ์เนท
"ขอร้องสิ" ประโยคแรกที่เขาพูดกับฉันตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์วันนั้นมา
"..." ฉันเดินผ่านเขาไปยกเอาเก้าอี้นั่งมาตั้งพร้อมกับขึ้นไปยืนเหยียบแล้วหยิบลังขนมที่ต้องการนั่นเอง
"ปกติไม่สวยอยู่แล้ว ถ้าตกลงมาหน้าขูดกับพื้นก็คงยิ่งไม่สวยไปกว่าเดิม" การ์เนทพูดลอย ๆ แต่ตั้งใจให้ฉันได้ยิน ไอ้ลังนี่มันหนักจังแฮะ!
"หุบปาก" ฉันพูดขึ้นลอย ๆ บ้าง และยังคงตั้งใจหยิบลังต่อไป ขนาดต่อขาเพิ่มแล้วนะยังไม่ถึงอีกเหรอ
"แค่บอกให้หยิบให้หน่อยมันจะตายหรือไง"
"ก็บอกว่าหุบปาก กรี๊ด!"
เพราะหันหน้ามาว่าเขา ทำให้ฉันเกิดทรงตัวไม่อยู่ร่วงตกจากเก้าอี้ แต่ทิศทางตกคือพุ่งตัวไปทางการ์เนทและตามแบบฉบับนิยายโรแมนติกผู้ชายจะต้องรับผู้หญิงไว้ในอ้อมแขนอย่างหวานซึ้ง
ปึก!
แต่ความเป็นจริงนั้น ไอ้ทายาทมาเฟียนี่มันยืนมองฉันร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ไยดี แล้วยังไม่ช่วยดึงฉันขึ้นอีก เขากลับเดินผ่านฉันไปหาเด็กผู้หญิงพร้อมกับหยิบขนมจำนวนมากใส่ถุงให้เธอก่อนที่เธอจะวิ่งหายไป
"อ้าว เธอลงไปนอนทำอะไรตรงนั้น" ฉันหันไปมองยังเสียงเยาะเย้ยของการ์เนท
"สาบานว่าไม่เห็น!" ฉันยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เจ็บสะโพกเลย รุ่นนี้จะมีอะไหล่เปลี่ยนไหมเนี่ย
"ไหวไหมป้า" ป้า...ไอ้เด็กนี่เรียกฉันป้า!
"เหอะ ๆ ไอ้เด็ก...บ้า" ฉันกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดและเจ็บใจ สายตาของเขามองฉันด้วยความสมเพชอีกครั้ง
"อะไร ๆ ก็เด็ก จะให้พูดมั้ยว่าโดนเด็กทำอะไรมา"
การ์เนทมองฉันด้วยสายตาที่เหนือกว่า"หุบปะ!"
"ใครทำอะไรใครเหรอ" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงของผู้ชายที่ฉันตามหาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง คินเดินตรงเข้ามาใกล้และมองสภาพฉันสลับกับมองหน้าการ์เนท
"หึ" การ์เนทหัวเราะในลำคอพร้อมกับจ้องกลับไปที่คินเช่นกัน
"ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะ" คินเข้ามาช่วยพยุงฉันไว้ มือของเขาโอบเอวฉันไว้แน่น และสายตาของการ์เนทก็จ้องมองไปที่มือของคินเช่นกัน
"อุบัติเหตุนิดหน่อย" แต่ฉันไม่ได้สนใจความเจ็บของตัวเองแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจคือเขาทั้งคู่
"คุณใช่คนที่ผมเจอวันนั้นมั้ยครับ" คินเป็นฝ่ายถามก่อนอย่างสุภาพ
"ครับ" และการ์เนทเองก็ตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกัน
"ตกลงผู้หญิงคนนี้ได้ทำอะไรที่คลับของคุณเสียหายมั้ยครับ เพราะไม่เห็นมีใครแจ้งอะไรมา" พวกเขาเคยเจอกันสินะ คงเป็นวันที่ไปรับฉันที่คลับ แต่น้องฉันไม่รู้ใช่มั้ยว่าพี่สาวไปสร้างเรื่องอะไรมา
"ผมได้รับการชดใช้แล้วครับ" ถึงการ์เนทจะตอบคินแต่สายตาของเขาจ้องมองมาที่ฉัน ในใจตอนนี้ภาวนาขออย่าให้เขาพูดอะไรไปมากกว่านี้
"โอเคใช่มั้ย" คินเอียงหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหู การกระทำของคินมันกลับทำให้สายตาของการ์เนทเปลี่ยนไป
"อื้อ" ฉันขานรับในลำคอเบา ๆ และกระตุกชายเสื้อของ
คินเป็นสัญญาณว่าให้ออกไปจากตรงนี้"ผมขอตัวพาเธอไปพักก่อนนะครับ" คินกล่าวลาอย่างสุภาพอีกครั้งและพยุงตัวฉันให้เดินไปยังที่นั่ง ฉันรู้สึกแปลก ๆ ในสายตาของผู้ชายคนนั้น เหมือนมันมีความไม่พอใจปนอยู่ในแววตา เมื่อเห็นว่าคินมาหรือไม่ฉันก็คิดไปเอง
"แกไปไหนมา" ฉันหันไปถามคินทันทีที่เดินห่างออกมาไกลพอสมควร
"อยู่แถว ๆ นี้"
"ฉันเห็นนะว่าแกไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง" ไอ้นี่มันเสือ เผลอไม่ได้
"ก็ไปเฉย ๆ"
"ไม่เชื่อ"
"อยากลงไปกลิ้งกับพื้นมั้ย" ไม่ได้พูดเปล่าแต่คินมันดันตัวฉันออกจริง ๆ
"อย่านะน้องรักของพี่ ตอนนี้เจ็บตูดมากเลย แล้วไป
เฉย ๆ เนี่ยไปทำอะไร" ฉันยกแขนคล้องคอคินไว้แน่นเพราะกลัวจะโดนปล่อยทิ้งจริง ๆ แต่ด้วยความสูงที่ต่างกันเกินทำให้น้องชายของฉันต้องก้มตัวลงมาเล็กน้อย"ก็ไปเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรนี่ ถึงจะโดนอ่อยมาสุดตัวขนาดนั้นแต่ใครจะไปมีอารมณ์ในที่แบบนี้"
"แสดงว่าถ้าที่อื่นก็อาจจะทำ" เนี่ย ไอ้เสือน้องพี่
"ไม่ทำ" อะไรนะ ฉันหูฝาดหรือเปล่า
"ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับแก ใครทำให้ใจแกเปลี่ยนน้องชายของพี่" คินปราดสายตามองฉันก่อนจะยิ้มมุมปาก
"มีแฟนแล้ว" คำพูดของคินทำให้ฉันต้องยกมือห้าม
"หยุดพูดคำนี้ มันออกมาจากปากคนแบบแกฉันขนลุก" ฉันรับไม่ได้ที่ไอ้นี่จะมีแฟน คนอย่างภาคินมีความรัก บ้าไปแล้ว
"มีจริง ๆ นะ กำลังจีบอยู่" คินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"การย้ายศาสนาไม่ได้ช่วยให้รีเช็ตบาปกรรมนะ หยุดโกหก" นี่ฉันต้องมาสอนน้องตัวเองเรื่องบาปบุญคุณโทษเหรอเนี่ย ฉันก็แยกไม่ออกว่ามันพูดเล่นหรือพูดจริง ถ้าเรื่องจริงฉันคงช็อกน้ำลายฟูมปาก
"แล้วงานเลี้ยงคืนนี้จะยังอยู่หรือเปล่า" คินถามขึ้นพร้อมกับมองสภาพฉัน
"อยู่สิ ใครจะพลาดฉันนัดธีมงานไว้กับพวกเพื่อนหมดแล้ว แกต้องใส่คู่กับฉันด้วย" คินทำหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ตามใจฉันอยู่ดี
"น่ารำคาญจัง" ฮุฮุ~ เดี๋ยวไอ้คินก็โดนคนนู้นคนนี้ลากไปลากมาในจังหวะนั้นแหละ
น้ำเมาจ๋า~ เป็นอาทิตย์แล้วที่ฉันไม่ได้ดื่ม แต่วันนี้จะเอาแบบเบา ๆ ไม่ให้น้องชายจับได้
หญิงสาวในชุดเดรสสีดำสั้นเว้าโชว์แผ่นหลังเนียน ผมยาวสลวยปล่อยตรงกลางหลังพลิ้วไหวไปตามจังหวะก้าวเดิน ชุดและผมสีดำของเธอขับให้ผิวขาวเนียนผ่องเด่นชัดยิ่งขึ้นสายตาของผู้ชายมากมายต่างจับจ้องมองเธอเป็นตาเดียว ใบหน้าสวยมองผ่านพวกเขาไปอย่างไม่สนใจ ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่สนใจเธอ กลุ่มผู้หญิงก็ต่างหันมาสนใจผู้ชายที่เธอคล้องแขนเข้างานมาด้วย"ทำไมต้องควงแขน" คินหันมาถามฉันที่เกาะแขนมันไว้แน่น มองตาเป็นมันเลยนะยะพวกนี้ ฮึ! ถึงฉันจะเป็นพี่สาวที่สวยและใจดีแต่ก็หวงน้องชายมาก"แกเห็นสายตาหิวกระหายพวกนั้นไหม ฉันหวงน้องตัวเองมันผิดหรือไง""แม่ซื้อเข้าร่างเหรอ เป็นบ้าอะไรมาหวง" ไอ้นี่ปากร้ายจริง ๆ"หรือแกอยากได้ยัยพวกนั้น ฉันอ่านสายตาออกนะ ดูสายตานั่นสิอย่างกับจะกลืนกินแกไปทั้งตัว" ฉันสะกิดให้คินมองไปยังรอบ ๆ"พี่คิม" คินเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย"อะไร""น่ารำคาญ ถ้ายังไม่ปล่อยจะกลับแล้วนะ" ฉันรีบปล่อยมืออกจากแขนทันที"ดุจังโว้ย นึกว่าหมา" ฉันแยกเขี้ยวใส่น้องตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่สนใจตามเคย เราทั้งคู่เดินตรงมาหยุดที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อน สาว ๆ ต่างหันมองเราพร้อมกับแต่สายตาต่างรวมไปที่คินคนเดียวแปะ!ฉันปรบมื
"แกรู้มั้ยว่าฉันใคร" คำนี้อีกแล้วน่าเบื่อจริง"เธอเป็นใครฉันจะไปรู้เหรอ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังขัดเวลาดื่มเหล้าฉัน ไปไกล ๆ" ฉันส่งยิ่มให้เธอแล้วคว้าแก้วเหล้าด้านหลังมากระดกเข้าปาก ขมชะมัดเลยเหล้าอะไรเนี่ย"อย่ามาเมินฉันนะ" ยังไม่จบอีก"ต้องการอะไรพูดมา จะมาหาเรื่องหรือจะเรียกร้องทวงผู้ชายคืนก็พูด" ฉันต้องจัดการยัยนี่ก่อนเลย แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่ คนรอบ ๆ ข้างเขาก็แทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ปัญหาผู้หญิง ๆ ทะเลาะกัน"ต้องการให้เลิกยุ่งกับการ์เนทซะ" ฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน"จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ที่เธอเห็นตรงระเบียงน่ะ!""จะแก้ตัวอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงร่าน ๆ" ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงของเพื่อนยัยนั่นพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉันตวัดหางตากลับไปมองที่เธอและขยับปากพูดอย่างช้า ๆ"สา ระ แน""นี่!""อะ! อย่าใช้อารมณ์ ทีเธอด่าฉันว่าร่านฉันยังไม่โกรธเลย ฉันจะชมเธอว่าสาระแนบ้างจะเป็นอะไร คนโกรธง่ายคือคนไอคิวต่ำ สมองฮิปโป เธอรู้มั้ยว่าฮิปโปเป็นสัตว์โง่ที่สุดในโลก...แต่ถ้าเธอไม่รู้ นั้นก็หมายความว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่ที่สุด คงพอ ๆ กับยัยนี่ที่ถามว่าตัวเองเป็นใคร" พูดจบฉันก็ยิ้มกว้างให้พวกเธออีกครั
"พี่เฮเลนแจ้งทุกอย่างไปที่พี่คิมนะครับ เดี๋ยวจะให้มาจัดการเอง" เพื่อนสาวคนสนิทของพี่คิมไปแต่ยิ้มเจือน ๆ ก่อนที่จะก้มมองราคาค่าความเสียหายทั้งหมดบนกระดาษในมือ"ห้าพันยูโรเลยนะเนี่ย" เกือบสองแสนบาทไทย ฝีมือพี่สาวของผมเอง"นี่ถือว่าเบาแล้วครับ" สูงสุดที่เคยจ่ายคือสองล้านบาท สาเหตุเกิดขึ้นจากการเมาแล้วปีนขึ้นไปเต้นบนรถซูเปอร์คาร์จนต้องดูแลสีรถให้เขาใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นี้สบายมาก"แล้วเพื่อนตัวดีของพี่เอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนแล้วล่ะ""ปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ที่รถครับ""จะไม่หลุดหายไปไหนใช่มั้ย" พี่เฮเลนพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว"ไม่หรอกครับ เมาขนาดนั้นแค่เดินก็ยากแล้ว" เล่นกินเหล้าทุกรูปแบบขนาดนั้นคงตีกันเละเทะจากภายใน"ได้ล็อกไว้กับรถหรือเปล่า" คำถามของพี่เฮเลนทำให้เอะใจเล็กน้อย แต่พอนึกสภาพพี่สาวตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย"แค่ลืมตาก็ยากแล้วครับ เดินไปไหนไม่ได้หรอก" พี่เฮเลนทำสีหน้าคิดตามแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย"เดี๋ยวพี่จัดการเองต่อจากนี้ พาคิมกลับบ้านเถอะนะ""ครับ" แล้วก็ลาพี่เฮเลนแล้วเดินไปที่รถทันที ภายนอกแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงรถไม่กี่คันจอดอยู่เท่านั้น หนึ่งในนั้นคือรถคันสีดำที่จอ
รถยนต์คันหรูวิ่งผ่านประตูรั้วทึบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังประตูซ่อนความลึกลับของคฤหาสน์สีดำสุดหรูเอาไว้ บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าสถานที่ภายในแห่งนี้เป็นของใคร รถยนต์ตรงเข้าจอดลงหน้าประตูตัวบ้านประตูรถถูกเปิดออกจากชายชุดดำที่ยืนรอต้อนรับอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักลง และมองหน้ากันด้วยความตกใจ หญิงสาวร่างบางนอนหลับสนิทหนุนตักของชายผู้เป็นเจ้านาย บนตัวของเธอมีเสื้อคลุมสีดำปกปิดอยู่เสื้อเชิ้ตของเจ้านายพวกเขาหลุดลุ่ย กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เจ้านายผู้หวงพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่เคยพาคนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันอุ้มเอง มาเปิดประตูฝั่งนี้" เสียงของผู้เป็นนายดังขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องของตนเอื้อมมือจะมาสัมผัสตัวของเธอ"ครับ"ปึง! ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองหน้ากันอย่างหาคำตอบกับเรื่องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เจ้านายของเขานั่งอยู่ออกร่างสูงยกหัวของเธอที่นอนหนุนตักออกพร้อมกับก้าวลงจากรถ และออกแรงอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเบาจัง เขาได้แค่คิดในใจแล
"อย่าพูดอะไรบ้า ๆ นะ" ไม่! มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย"ไม่ได้พูดอะไรบ้า ๆ แต่พูดจริง" สายตาของเขามันบอกว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ"ไม่ ๆ ๆ เรามาตกลงกัน""ตกลงว่า""ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานฉันจะไม่ถือสา เราจะไม่พูดถึงมันอีก" การ์เนทเอียงคอมองฉันด้วยท่าท่างที่ดูน่ารัก ทำไมอยู่กับฉันนายกลายเป็นเด็กน้อยล่ะ มันแตกต่างจากตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายลิบลับเลย อย่าทำแบบนี้ใจฉันเต้นแรง"หน้าแดงทำไม" การ์เนทถามฉันและยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าใกล้อย่างช้า ๆ ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้า แต่ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสริมฝีปากฉันก็ดันเขาออกแล้วขยับถอยหลังหนี"เด็กบ้านี่..." ฉันพึมพำกับตัวเอง แต่สายตาก็จ้องมองไปที่เขาการ์เนทพาตัวเองขึ้นมายังบนเตียงและคลานเข้ามาหา ฉันถอยหลังจนชิดกับพนักพิงหัวเตียง มือเล็กดึงผ้าห่มมาม้วนตัวแล้วพลิกหมุนลงข้างเตียง เมื่อเท้าแตะพื้นก็วิ่งไปทางประตูห้องทันทีแกร๊ก ๆ ๆกลอนประตูถูกล็อกจากด้านนอกงั้นเหรอ ฉันเขย่าประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดปึง ๆ"เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เงียบ~ปึง ๆ ๆ ๆ ๆ"เปิดประตู!" เงียบ~ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ทุกอย่าง
ณ บริษัทของคิมฉันยังอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกมาเฟียที่ไหนจับตัวไปฆ่าตาย ซึ่งนั้นเป็นเพราะสกิลล์การหลบของฉันเอง หนึ่งวันที่ผ่านมายังคงปกติดี แต่มันน่าเบื่อเกินไป(ฉันกับเจส เรากำลังจะแต่งงานกัน)(กรี๊ด!!)"ดีใจด้วยนะ"ตอนนี้เรากำลังวิดีโอคอลล์กลุ่มกัน คารีน่าเพื่อนสาวในกลุ่มกำลังจะประกาศสละโสดไปอีกหนึ่งคน ถือว่าเป็นวัยที่ต้องแต่งงานกันแล้วทั้งนั้น ฉันก็มีหน้าที่เดินสายร่วมงานแต่งต่อไป(แล้วคิมเมื่อไหร่จะมีแฟน) อยู่ ๆ จุดสนใจก็พุ่งเป้ามาที่ฉันแทน"มีทำไมฉันสวยเกินกว่าจะมีใครมาเหมาะสมย่ะ" เมื่อได้ยินคำตอบของฉันทุกคนต่างแย่งกันสาปแช่งด้วยความหมั่นไส้(ถ้าอยู่ ๆ ยัยคิมเปิดตัวแฟนขึ้นมาคงช็อกน่าดู ผู้ชายแบบไหนนะที่จะจัดการยัยคิมของพวกเราได้) เคทพูดพร้อมกับทำหน้าสงสัย"ไม่มีหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าสวยมากเกินกว่าจะมีใครเหมาะสม" ฉันพูดพร้อมกับยืดอกอย่างภูมิใจ(น่ารำคาญจ้า~) เสียงพวกเพื่อนทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน"ยัยพวกนี้นี่ หยุดพูดเรื่องฉัน แล้วมาช่วยกันคิดเรื่องจัดปาร์ตี้ฉลองให้คารีน่ากันก่อนดีกว่า แล้วปาร์ตี้สละโสดก็จัดต่างหาก" ฉันพูดด้วยอาการดี๊ด๊าสุดตัว(นั่นสินะ เราไปจัดที่คลับการ์เบรียลล่ากันดีมั้
ย้อนกลับไปยี่สิบนาทีก่อน(คิม)"แกหายไปไหนมา" เคทรีบตรงเข้ามาถามเมื่อเห็นเดินกลับมาที่โต๊ะ ทุกคนต่างดูเป็นห่วงที่ฉันหายไป"หลบในห้องน้ำมา โดนผู้ชายตามตื๊อ" ฉันพูดกับทุกคนและยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหมดในทีเดียว"ผู้ชายที่ไหน ให้ฉันจัดการมั้ย" เฮเลนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"ฉันจัดการไปแล้ว""หล่อมั้ย" เคทที่สนใจแต่ความหล่อของผู้ชายหันมาถามฉัน ฉันกลอกตาไปมาและนึกถึงหน้าการ์เนท"ไม่หล่อ ขี้เหร่มาก" ฉันหันไปบอกเคทและเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตัวเอง"จะไปไหนคิม" คารีน่าถามขึ้นด้วยความสงสัย"ฉันมีเรื่องจำเป็นที่ต้องขอกลับไปที่โรงแรมก่อนนะ" ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้ไกล"มีเรื่องอะไร" คารีน่าถามอย่างเป็นห่วง ฉันไล่สายตามองไปที่เพื่อนแต่ละคนก่อนจะหยุดสายตาลงที่คารีน่า"ไปห้องน้ำกับฉันหน่อยคารีน่า" ทุกคนต่างทำหน้าสงสัย แค่คารีน่าก็ยอมไปกับฉันอย่างว่าง่ายปึง!ประตูห้องน้ำปิดลงโดยมีฉันและคารีน่าอยู่ในห้องเดียวกัน"สลับชุดกัน" เธอมองฉันด้วยความสงสัย"คิมเป็นอะไร เหมือนกับว่าจะหนีจากอะไรสักอย่าง""เดี๋ยวเอาไว้ผ่านวันนี้ไปฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ฉันต้องการชุดแบบเป็นกางเกง"
เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ จ้องมองเด็กผู้หญิงที่วิ่งผ่าสายฝนผ่านเขาไป ผมยาวสลวยสีดำ ใบหน้าหวานราวกับนางฟ้า เท้าเปล่าเปื้อนดิน ชุดสวยที่สวมใส่มอมแมมไปด้วยคราบเลือดและดินโคลน ในอ้อมแขนมีร่างแมวนอนหายใจรวยริน"เดี๋ยวมันก็ตาย" คำพูดของเด็กชายทำให้เธอหยุดและหันมาขมวดคิ้วมองเขา"หลานคุณปู่นี่...มันจะไม่ตาย" เธอเถียงสู้อย่างไม่ยอม สายตาไร้ความรู้สึกมองไปยังร่างลูกแมวในอ้อมแขนของเธอ"ช่วยไปก็เท่านั้นยังไงมันก็ต้องตาย" เขาเอาแต่พูดคำเดิมซ้ำ ๆ"มันจะไม่ตาย ยังไงมันก็จะรอด ชีวิตลูกแมวตัวนี้จะเป็นของคิม" พูดจบเธอก็วิ่งไปโดยไม่หันมาสนใจเขา"..." เขาหันมองเธอที่วิ่งฝ่าสายฝนสวนทางกับกลุ่มชายจำนวนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา"ทำไมไม่เรียกชื่อกันบ้างล่ะ.." เสียงพูดแผ่วเบาที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน(ปัจจุบัน)มือเล็กกำลังลูบไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องหยุดชะงักลงกลางคัน เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น มืออีกข้างขยุ้มท้ายทอยเขาไว้และกดหัวลงแนบอก ปลายลิ้นชื้นเลียรอบฐานชมพู สร้างความเสียวไปทั่วทั้งร่างกายคนตัวสูงสอดมือเข้าใต้หว่างขา ปลายนิ้วกรีด สัมผัสร่องเสียวอย่างเบามือ หญิงสาวก้มสบตาด้วยใบหน้าแดงก่ำจากทั้ง
"ไม่มีไปที่ไหนเหรอครับวันนี้" การ์เนทเดินเข้าไปถามปู่ถึงในห้องทำงาน"อยากให้พาไปที่ไหนก็พูดมาเลย" เขาแกล้งพูดแหย่หลานตัวเอง ก็เดี๋ยวนี้การ์เนทดูจะอยากไปข้างนอกมากขึ้น เหมือนว่ารอจะได้ไปเจอใคร"เปล่าครับ""ถ้าอยากไปหาหนูคิมก็คงต้องรอไปก่อน" ปู่ของเขาพูดขึ้นในขณะที่หลานชายกำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง ทำให้การ์เนทหยุดชะงักและหันมามองที่ปู่"...""ครอบครัวของเธอกลับประเทศไทย สักพักคงกลับมา" เขาพูดได้เพียงเท่านี้"เหรอครับ""เอาไว้ปู่จะโทร. ไปหาเขาให้นะ""ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้" เย็นชาเกินไปแล้วหลานของเขา"ไม่อยากรู้จริงเหรอ""ครับ" ปากไม่ต้องกับใจสุด ๆ"ที่กลับประเทศไทยด่วน เพราะหนูคิมเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้" คำพูดของปู่ทำให้เขายืนนิ่ง"....""หนูคิมถูกส่งตัวไปรักษากับหมอด้านประสาทที่เก่งที่สุด ซึ่งเขาอยู่ที่ประเทศไทย""เป็นอะไรมากหรือเปล่า" การ์เนทตรงเข้ามาถามปู่ของเขาด้วยความเป็นห่วง"ไม่หรอก แล้วอีกอย่างหนูคิมยังเรียนอยู่ที่ไทยด้วย ที่มาก็จะมาแค่ช่วงปิดเทรมเธอก็ต้องกลับไปเรียน"แค่เห็นปฏิกิริยาจากหลานของเขาก็ทำให้ไม่กล้าพูดเลยว่าเธอเข้าสู่สภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากผลกระทบของ
"ฮึก ฮือ!"ย่าของเขาร้องไห้พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายไว้แน่น ลูกชายของเธอก็คือพ่อของการ์เนท เขายืนมองร่างของพ่อที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนอนราบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เกิดมา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพ่อเคยคุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ความผูกพันและความรัก เขาจึงไม่เคยได้รับมันเลยจากทั้งพ่อและแม่เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากที่ว่าพ่อตายเพราะโรคประจำตัวเท่านั้น ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับต่อสื่อและเขางานศพถูกจัดขึ้นและไว้อาลัยแด่บอสมาเฟียลำดับที่หนึ่งของอิตาลี ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาร่วมงาน เด็กชายในชุดสูทสีดำมองใบหน้าเศร้าโศกของย่าก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้"ฮือ! หลานย่า ฮือ!"เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกสงสารหลานตัวเองจับใจ ที่เขาขาดไปทั้งพ่อและแม่ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายดูแลเขาแต่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้"ไม่ต้องร้องนะครับ""ฮือฮือ"คำพูดของหลานยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เด็กคนหนึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่ แต่เขากับไม่มีน้ำตาออกมาให้ได้เห็น ที่ผ่านมาเขาอยู่ท่ามกลางความรักของย่าและปู่เท่านั้น ความรู้สึกต่อพ่อแม่จึงกลายเป็นศูนย์พิธีศพเป็นไปตามธรรมเนียม แต่คนขี้เบื่
"ตอนเย็นการ์เนทไปกับปู่มั้ย" ปู่ของเขาถามขึ้นในขณะที่นั่งมองหลานชายของเขาเดินเลือกดอกไม้"ไปทำอะไรครับ" เขาถามกลับมาไป แต่ไม่หันไปสนใจปู่ของเขาสักนิด ถึงภายนอกจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นถาม"ปู่จะพาการ์เนทไปงานวันเกิดของลูกสาวคนที่ปู่สนิท ไปด้วยกันนะ"เขาพยายามสุดความสามารถที่จะทำให้หลานของเขากลับมามีโลกที่มีชีวิตชีวาแบบเด็กวัยเดียวกัน ถึงบางทีเขาจะยังทำเป็นไม่ใส่ใจคนรอบข้างไปบ้าง แต่การ์เนทก็ดีขึ้นจากตอนแรกที่รับเขามาดูแล"ไม่ครับ""ทำไมล่ะ การ์เนทต้องมีเพื่อนนะ""ไม่จำเป็น" การ์เนทเลือกดอกไม้ที่เขาสนใจขึ้นมาทีละดอก แล้วนำมันมาวางเรียงกันบนโต๊ะ"ถ้าไม่อยากมีเพื่อนแล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดเหรอ""ก็อยู่ได้""ลองไปพบเจอเด็กวัยเดียวกันดูมั้ย" ผู้เป็นปู่พยายามสุดตัวที่จะพาหลานเขาไปให้ได้ อย่างน้อยให้เขาได้เจอสังคมภายนอกมากกว่านี้"ไม่อยากเจอ ขี้เกียจหาของขวัญ""นี่ไง เราจะเอาดอกไม้ที่การ์เนทกำลังจัดไปให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ" คำพูดของปู่ทำให้เขาหยุดมือที่กำลังดึงดอกไม้ขึ้นมาทันที สายตาของเด็กน้อยหันไปมองปู่ของเขา"ไม่มีใครอยากได้ของผมหรอกครับ"เขาไม่รู้เลยว่ามาสนใจ
เพล้ง เพล้ง!"คุณกล้าเอาอีผู้หญิงแบบนั้นขึ้นมาเหนือฉันเหรอ หา!""หุบปาก น่ารำคาญ!""เคยเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย หา!""บอกให้หุบปากไง!"พลั่ก!ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกกับผนังท้อง เธอล้มลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น อาการจุกบริเวณช่วงท้องทำให้เธอนอนตัวงอ ขยับไปไหนไม่ได้"แม่..."เด็กผู้ชายวัยห้าขวบเดินเข้ามาหาเธอและพยายามปกป้องเธอเท่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้"กลับไปที่ห้องการ์เนท!" ผู้เป็นพ่อกระชากแขนเล็กของเด็กชายแล้วลากเขาโยนออกจากห้องอย่างไม่ไยดีปัง!ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงต่อหน้าเขา เสียงทะเลาะดังมากจากภายในห้องนั้นอย่างต่อเนื่อง เด็กชายยืนฟังเสียงอยู่นาน จนกระทั่งพี่เลี้ยงของเขามาพาตัวเขาออกไปตลอดระยะเวลาที่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ ตลอดเวลาเขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตลอด ถึงแม้ว่าแม่เอาแต่ใช้เวลาในหนึ่งวันไล่ตามเฝ้าพ่อของเขาก็ตามความรักและความสนใจเขามักจะได้รับจากคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้มาตลอดคือ พ่อและแม่ของเขาไม่เคยรักกันจนในที่สุดคุณปู่และคุณย่าก็ทนเห็นสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว พวกท่านทั้งสองคนมารับตัวผมไปอยู่ด้วยตอนอายุได
"คุณพ่อขา ฟีฟี่อยากได้ม้า"เด็กสาววัยสามขวบชี้นิ้วไปยังการ์ตูนในจอโทรทัศน์ ม้าโพนีตัวสีชมพูวิ่งไปมาอยู่ตรงหน้า เธอหันมากอดคอผู้เป็นพ่อและซบหน้าลงบนไหล่"อันนั้นเป็นม้าโพนีค่ะ เป็นการ์ตูนก็คงหาให้ฟีฟี่ได้แค่ตุ๊กตา พ่อก็อยากซื้อม้าจริง ๆ ให้ฟีฟี่แบบนั้นนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าจะไปหามาให้จากที่ไหน" เขาอุ้มลูกสาวตัวเล็กมานั่งตัก"ถ้าม้าเป็นสีชมพูแบบนั้นจะต้องน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ สัตว์บนโลกให้เป็นสีชมพูก็น่ารักหมดเลย" เธอเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้าง ยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟีฟี่ทำให้ผู้พบเจอต่างพากันสดใสตามเธอ"สัตว์บนโลกทุกตัวน่ารัก ฟีฟี่ต้องรักพวกเขาให้มาก ๆ นะ อย่าไปรังแกพวกเขา""ค่ะ ฟีฟี่รักสัตว์บนโลกทุกตัว แล้วก็รักคุณพ่อขาด้วย" ฟีฟี่ลุกขึ้นยืนบนโซฟาและกอดคอของผู้เป็นพ่อไว้แน่น"อ๊าก !"เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากประตูบ้าน เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเด็กผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ ฟีฟ่า แฝดผู้น้องโครม!ฟีฟ่าทรงตัวอยู่เซิร์ฟสเก็ตวิ่งเข้ามาในบ้าน ถึงความเร็วจะไม่มาก แต่พื้นของบ้านที่ไม่เหมาะกับการเล่นทำให้ลื่นแล้วล้มกลิ้้งอยู่ที่พื้นการ์เนทหันมองไปยังลูกชายของตัวเอง คนในบ้านต่างวิ่งเข้ามาเพื่อจะ
"ใกล้ถึงแล้วครับ"เสียงคนขับรถเรียกสติให้ฉันกลับไปสนใจสถานที่ตรงหน้า"ค่ะ"สายตามองไปยังอาคารหรูตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สถานที่รวมตัวของกลุ่มมาเฟียจากหลายประเทศ ทุกคนต่างมาเพื่อแสดงความยินดีและแสดงความต้อนรับแก่บอสมาเฟียคนใหม่ รวมไปถึงการประกาศของการผู้นำคนใหม่ของลำดับที่สองและที่สามด้วย นั่นคือเฮเลนและสามีของเธอรถยนต์จอดหยุดลงหน้าทางเข้า ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มชายจำนวนมากต่างยืนเรียงรอต้อนรับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ"เชิญครับ" เขายื่นมือมาให้เธอพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย"ขอบคุณค่ะ" ฉันก้าวเท้าลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่นอกอาคารจำนวนมากต่างจ้องมองมาทางฉันถึงจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากการถูกมอง แต่คนจำนวนเยอะขนาดนี้ฉันก็เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก นี่ขนาดด้านนอกนะ ยังไม่ได้เข้าไปในอาคาร"คนเยอะมากเลยนะคะ" ฉันหันไปพูดกับคริสเตียนที่ออกมารอรับ"ข้างในเยอะกว่านี้ครับ ทุกคนรอพบนายหญิงอยู่" ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันได้ไม่น้อย"ฉันดูสำคัญมากเลยนะคะ""สำคัญสิครับ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับบอสนี่ แล้วอีกอย่างบรรดาญาติก็อยากเห็นผู้หญิงที่การ์เนทเฝ้ารอมาตลอดสิบปีครับ" คำพูด
"นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอการ์เนท""ก็พอเป็นบ้าง""ว้าว ทำข้าวต้มเป็นด้วยสินะ" ฉันมองข้าวต้มในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่"ดูจากในเว็บมาครับ" คำตอบของเขาทำฉันหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"ทำได้น่ากินขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนไทยแท้ ๆ ยังทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นเลย เต็มที่ก็ไข่ดาว" ฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอก เดี๋ยวผมจะจ้างพ่อครัวตามความถนัดของอาหารแต่ละประเทศมาไว้บ้าน เผื่อพี่คิมอยากกินอาหารประเทศอื่น" สายตาที่แสดงออกมาคือเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ"ฉันว่าไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ" ฉันต้องหยุดเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ"เอาแบบนั้นเหรอครับ""เอาแบบนั้นดีแล้ว อย่าต้องให้มีพ่อครัวมากไปกว่านี้เลยนะ" แค่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว"พี่คิมลองชิมมั้ย" การ์เนทใช้ช้อนตักข้าวต้มในหม้อขึ้นมาเป่า แล้วป้อนให้ฉัน"อื้อ~" ฉันแกล้งทำเสียงและกลอกตาไปมา"อร่อยมั้ย""อ่า~""...""อืม~""เดี๋ยวเททิ้งแล้วให้พ่อครับมาทำให้ใหม่แล้วกัน" การ์เนทปิดเตาแล้วทำทีจะยกหม้อไปเททิ้งจริง ๆ"เดี๋ยวสิ ขี้น้อยใจจังเลยนะ อร่อยมาก""ก็พี่คิมทำหน้าเหมือนไม่อร่อย" แค่ฉันแกล้งเล่นก็ทำลายความมั่นใจของเขาไปจนหมดเลยเหรอเนี่ย"อร่
ณ ห้องทำงานของคิมติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่โทร. เข้ามา มือเรียวเอื้อมไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน"สวัสดีค่ะ"(คิม)เสียงจากปลายสายทำให้ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ เบอร์ที่ไม่คุ้นตาแต่เรียกชื่อฉันเหมือนรู้จักกันมานาน เสียงปลายสายก็คุ้นหูพอสมควร"ใครพูดสายคะ" เพื่อความแน่ใจจึงเลือกที่จะถามออกไปเลย(โจเซฟ) ฉันว่าแล้วไง"มีเบอร์ฉันได้ยังไง" หากันง่ายเหลือเกินคนพวกนี้(ขอมาจากเพื่อนเก่าน่ะ) ฉันถอนหายใจใส่โทรศัพท์"แล้วโทร. มามีอะไร"(เธอทะเลาะกับเขาเรื่องที่เราไปกินข้าวกันใช่มั้ย)"รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา" ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองตรงไปยังด้านหน้า(เราเป็นห่วง แล้วตอนนี้ดีกันหรือยัง)"ก็ปกติ"(...ก็ดีแล้ว) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า"โทร. มาถามแค่นี้ใช่มั้ย"(อย่าเพิ่งวางนะ คิมลืมไปหรือยังว่าวันนี้วันอะไร) วันอะไรงั้นเหรอ ฉันมองไปยังวันที่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ"วันศุกร์" มีหวังตอบไปว่ารู้ก็คอขาดพอดี(ฮ่าฮ่า คิมลืมก็ไม่แปลกมันนานมาแล้วนี่...วันนี้วันเกิดเราเอง)"อ่อ งั้นเหรอ"(วันนี้วันเกิดเรา คิมมาหาเราได้ไหม) โจ
"เดี๋ยวฉันต้องไปส่งเคทที่บ้าน ส่วนเฮเลน สามีจะมารับ" ฉันยืนมองเพื่อนสาวสองคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา คนที่เมาหนักสุดน่าจะเป็นเคท"เคทเดี๋ยวมีคนมารับ" หลังจากคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จเขาก็หันมาบอกฉัน"นายจะให้คนไปส่งเคทเหรอ เดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้นะ""ไม่ต้องหรอก คนที่จะมารับรู้บ้านของเธอดี" การ์เนทดูมั่นใจมาก เขาส่งยิ้มให้ฉันและเดินไปสั่งงานกับคนของตัวเอง ฉันได้แต่ยืนมองเพื่อนสองคนที่เมาหลับไม่รู้เรื่องสองคนนี้ถือว่าเป็นคนที่ไปไหนไปกันเสมอ ขอให้ช่วยหรือทำอะไรก็ไม่เคยบ่น แม้แต่วันนี้เมาเละขนาดนี้ก็เพราะฉันไม่สามารถดื่มได้ ทั้งสองคนจึงจัดการให้เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าฉันดื่มไปเยอะ"สามีคุณเฮเลนมาแล้วครับ" ลูกน้องของการ์เนทเดินเข้ามาบอกฉัน พร้อมกับสามีของเฮเลนเดินตามหลังเข้ามา"ขอโทษด้วยนะ" ฉันกล่าวขอโทษเมื่อสามีของเพื่อนสาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาส่งยิ้มให้ฉันและมองไปที่ภรรยาของตัวเอง"ไม่เป็นไร เฮเลนบอกแล้วว่าวันนี้ต้องมาทำอะไร" สามีของเฮเลนเข้าใจธรรมชาติของพวกเราจริง ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและช้อนอุ้มเฮเลนไว้ในอ้อมแขน"ขับรถกลับดี ๆ นะ""ดีกับการ์เนทแล้วใช่มั้ย" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก