หญิงสาวในชุดเดรสสีดำสั้นเว้าโชว์แผ่นหลังเนียน ผมยาวสลวยปล่อยตรงกลางหลังพลิ้วไหวไปตามจังหวะก้าวเดิน ชุดและผมสีดำของเธอขับให้ผิวขาวเนียนผ่องเด่นชัดยิ่งขึ้น
สายตาของผู้ชายมากมายต่างจับจ้องมองเธอเป็นตาเดียว ใบหน้าสวยมองผ่านพวกเขาไปอย่างไม่สนใจ ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่สนใจเธอ กลุ่มผู้หญิงก็ต่างหันมาสนใจผู้ชายที่เธอคล้องแขนเข้างานมาด้วย
"ทำไมต้องควงแขน" คินหันมาถามฉันที่เกาะแขนมันไว้แน่น มองตาเป็นมันเลยนะยะพวกนี้ ฮึ! ถึงฉันจะเป็นพี่สาวที่สวยและใจดีแต่ก็หวงน้องชายมาก
"แกเห็นสายตาหิวกระหายพวกนั้นไหม ฉันหวงน้องตัวเองมันผิดหรือไง"
"แม่ซื้อเข้าร่างเหรอ เป็นบ้าอะไรมาหวง" ไอ้นี่ปากร้าย
จริง ๆ"หรือแกอยากได้ยัยพวกนั้น ฉันอ่านสายตาออกนะ ดูสายตานั่นสิอย่างกับจะกลืนกินแกไปทั้งตัว" ฉันสะกิดให้คินมองไปยังรอบ ๆ
"พี่คิม" คินเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
"อะไร"
"น่ารำคาญ ถ้ายังไม่ปล่อยจะกลับแล้วนะ" ฉันรีบปล่อยมืออกจากแขนทันที
"ดุจังโว้ย นึกว่าหมา" ฉันแยกเขี้ยวใส่น้องตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่สนใจตามเคย เราทั้งคู่เดินตรงมาหยุดที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อน สาว ๆ ต่างหันมองเราพร้อมกับแต่สายตาต่างรวมไปที่คินคนเดียว
แปะ!
ฉันปรบมือใส่ตรงหน้าพวกเธอเพื่อเรียกสติ ยัยพวกนั้นหันมามองฉันเหมือนจะขย้ำหัว ก่อนที่จะหันกลับไปยิ้มทำหน้าสวยใส่คิน
"Hi~" พวกเธอทักทายขึ้นพร้อมกัน สนใจฉันกันซะทีไหนพวกนี้ คินส่งยิ้มให้พวกเธอก็ต่างพากันยิ้มอย่างเขินอาย
"หยุดความคิดพวกแก" ฉันที่ทนเห็นน้องตัวเองต้องมาเจอฝูงชะนีแทะโลมแบบนี้ไม่ไหวต้องออกตัวปกป้อง
"ยัยคิม แกเอาน้องชายไปแอบไว้ส่วนไหนของมุมโลกมาทำไมฉันเพิ่งเคยเห็น" เคท ดีกรีดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ดังขยับเข้ามากระซิบถามฉัน
"หยุดความคิดไงเตือนแล้วนะ" ยัยนี่ตัวอันตรายที่สวยเพราะความสวยและความแซ่บของเธอทำให้ไม่เคยพลาดผู้ชายที่เธอสนใจ แต่คงใช้ไม่ได้กับคินเพราะมันมีสีหน้านิ่งเฉยอย่างกับรูปปั้น
"ทำไม การที่มีฉันเป็นแฟนน้องชายมันก็ดีนี่" ยัยเพื่อนคนนี้ไปเอาความมั่นใจผิด ๆ แบบนี้มาจากไหน
"ฟังนะเคท...ฉันกับคินเรามีดีเอ็นเอเดียวกัน เพราะฉะนั้น...นิสัยไม่ต่างกัน" เคทส่งเสียงขัดใจอย่างหงุดหงิดและมองคินด้วยสายตาที่เสียดาย
"ชิ! ยัยปีศาจ" ยัยเคทผ่านไปหนึ่งคนแต่ก็ยังมีรอบตัวอีกหลายคนที่ต่างนั่งจ้องน้องฉัน เห้อ~ ยัยพวกนี้นิไม่รู้น้องชายนางมารของฉันซะแล้ว
"ฉันไม่อยากมีน้องสะใภ้แบบพวกแกหยุดมองน้องฉันเดี๋ยวนี้!"
ฉันกดเสียงให้ต่ำและไล่มองพวกเพื่อนสาวทีละคน ซึ่งยัยพวกนั้นก็มีท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน ส่วนพวกที่เจอคินแล้วเมื่องานช่วงเช้าก็ต่างเคยเห็นความบ้าระหว่างเราสองคนพี่น้องมาแล้ว จึงไม่ได้มีท่าทีที่ตื่นเต้นแต่อย่างใด
"อ๊ะ!" ฉันยกมือเรียกบริกรที่กำลังเดินมาทางนี้ พูดมากแล้วก็คอแห้ง ฉันเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์บนถาด แต่ก็ถูกมือของน้องตัวเองจับไว้
"บอกไว้ว่าไง" คินเอียงหน้าเข้ามากระซิบถามข้างหู ฉันหันกับไปทำหน้าอ้อนวอนให้เขา
"แก้วเดียวนะ" คินมีท่าทีชั่งใจแต่ก็ยังคงไม่อนุญาตเช่นเดิม
"ไม่"
"นะพ่อนะ" ไม่ใช่น้องแล้วนี่มันพ่อคนที่สองของฉันชัด ๆ
"ไม่" คินดึงแก้วไวน์ในมือออกแล้วหยิบแก้วน้ำส้มยัดใส่มือให้ฉันแทน ฉันก้มมองแก้วในมือด้วยตาละห้อย
"อุ๊ย! แม่คิมอดเมาเหรอคะวันนี้" กลุ่มเพื่อนของฉันต่างพากันหัวเราะกับคำพูดของเฮเลนที่เดินเข้ามาพอดี
"อย่าพูดเลย..." พูดจบก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มจนหมด
"เมาน้ำส้มไปแล้วกันวันนี้" คินพูดขึ้นพร้อมกับปราดหางตามองฉัน
"ปล่อยยัยนี่นั่งเมาน้ำส้มอยู่นี่แหละ จะได้ไม่ไปสร้างเรื่องที่ไหนได้อีก ดีนะรอบนั้นการ์เนทไม่ถือสามาก"
สิ้นเสียงของเฮเลนทุกคนต่างหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียวรวมถึงคินด้วย แต่น้องฉันก็ชินกับอะไรแบบนี้มากแล้วแหละเพราะงั้นเวลาไปไหนมาไหนกับคินถึงโดนห้ามเรื่องเมาตลอด เพราะมันขี้เกียจตามเก็บ
"จริงด้วยที่แกทำเรื่องไว้ครั้งนั้นน่ะ รอดมาได้ไง" เสียงของเพื่อนสาวในกลุ่มถามขึ้นด้วยความอยากรู้ พูดอะไรมากก็ไม่ได้ซะด้วยเรื่องทุกอย่างมันผ่านไปได้ก็ดีแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั้นปล่อยให้มันตายไปกับฉันแล้วกันนะ
"รอดมาได้เพราะ...ความสวย" ทุกคนต่างทำหน้าจะอ้วกเมื่อฉันพูดจบ แต่ยังมีน้องฉันที่เข้าข้างกันเสมอ
"ไร้สาระ" คินพูดขึ้นลอย ๆ พร้อมกับยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ ฉันมองแก้วในมือตาวาวแต่ก็ทำได้แค่มอง
"ปล่อยให้ยัยนี่หลงตัวเองไปอยู่ตรงนี้แหละ คินไปกับพี่หน่อยสิพวกผู้ใหญ่เขาอยากเจอทายาทคนเล็กของเจทีกรุ๊ปสักหน่อย" แค่มางานแรกผู้ใหญ่ก็พากันสนใจในตัวมันเลยเหรอ แต่...ถ้าไอ้คินไม่อยู่ตรงนี้ฉันก็ ฮึ ๆ ๆ
"ไปทำความรู้จักกับผู้ใหญ่เขาไว้เยอะ ๆ นาน ๆ เลยนะ
คิน~" ฉันรีบพูดอย่างอารมณ์ดี ก็ถ้าคินไม่อยู่ก็เป็นการเปิดทางให้ฉันน่ะสิ จะจิบแค่เบา ๆ เดี๋ยวน้องจับได้"ดูดีใจเกินหน้าเกินตานะ" คินหันมามองฉันอย่างจับผิด
"ไม่นิ" ฉันส่งยิ้มกว้างให้น้องตัวเอง
"ถ้าพี่เมา...ผมจะจับพี่มัดไว้กับรถแล้วลากกลับบ้าน" คิน
ขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดกับฉันเป็นสำเนียงไทย ไอ้นี่! ทำจริงสินะรอยยิ้มนั่นน่ะ"รับทราบจ้าพ่อ~"
ฉันขานรับอย่างว่าง่ายแต่ดูเหมือนว่าคินจะไม่เชื่อ ไม่ใช่แค่คินหรอกเพื่อนฉันก็ด้วย ทุกคนต่างมองตามหลังคินที่เดินไปพร้อมเฮเลน เมื่อพ้นทางเพื่อนทุกคนก็เรียกบริกรอย่างพร้อมเพรียง
"ฉันชอบเวลาแกเมาคิม" เคทพูดพร้อมกับส่งแก้วไวน์มาให้
"มันดีเหรอเคท" ฉันแกล้งถามพร้อมกับมองไปยังทิศทางที่คินเดินไป
"เอาแค่จิบ ๆ น้องชายแกไม่ว่าหรอก" เพื่อนอีกคนต่างส่งเสริมและส่งแก้วมาให้อีกใบ
"มันจะดีใช่ปะล่ะ" ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน แล้วก็ยื่นแก้วมาชนกันกลางโต๊ะ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ร่างบางเดินเซไปตามทางเดินริมระเบียง ในมือถือแก้วไวน์ อีกข้างจับโทรศัพท์แนบหู สายตาจ้องมองไปยังแสงไฟจากสวนข้างโรงแรม
"แค่มางานวันแรกก็มีผู้ใหญ่สนใจแล้วค่ะพ่อ" เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นพ่อ ตอนนี้ยอมรับว่าเริ่มมึนนิดหน่อย ไวน์นี่แรงใช้ได้เลยนะ แป๊บเดียวทำฉันเซได้
(อยู่ด้วยกัน ทะเลาะกันหรือเปล่า) พ่อถามกลับมาอย่างรู้ทัน
"แค่วันละสามเวลาเองค่ะพ่อ เมื่อก่อนทะเลาะหกเวลาตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ รักกันดี" จริง ๆ นะ ยังไงฉันก็รักน้องมาก
(ก็ยังดี)
"พ่อคะ...คิมถามอะไรหน่อยสิ" จู่ ๆ ฉันก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองสงสัยมาตลอด แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะถาม ตอนนี้ความกล้ามันเริ่มทำงานแล้ว
(ถามมาสิ) พ่อน่าจะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุด เพราะท่านทำงานร่วมกับคนกลุ่มนี้มานานแล้ว
"มาเฟียเนี่ยเขาเป็นยังไงเหรอคะ" ถ้าในหนังที่รู้จักต้องโหด ดิบ เถื่อน ใช่มั้ยล่ะ แต่ที่ฉันเจอกับสุขุม นิ่ง เยือกเย็นแต่ก็รับรู้ได้ถึงอำนาจและความน่ากลัว
(อยู่ ๆ ทำไมอยากรู้เรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ) นั่นสินะ อยากรู้ไว้รับมือล่ะมั้ง เผื่อเกิดอะไรขึ้นอีกจะตั้งหลักได้ทัน
"ก็...ถือซะว่าเป็นความรู้รอบตัวค่ะพ่อ ที่นี่คิมต้องทำธุรกิจกับคนมากมาย ก็อยากศึกษาเอาไว้เตรียมรับมือค่ะ" ฉันจะอยากมามีความรู้รอบตัวอะไรในตอนที่สติมีเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์แบบนี้
(งั้นเหรอ...มาเฟียของอิตาลี พวกเขาไม่เหมือนในละครที่ลูกเคยดูหรือในหนังสือที่ลูกเคยอ่าน พวกเขามีเกียรติ เงิน อำนาจที่อยู่เหนือกฎหมาย)
"...." ฉันยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มพร้อมกับฟังพ่ออย่างตั้งใจ
(พวกเขาทำธุรกิจแค่บังหน้า จริง ๆ แล้วเขาทำงานให้รัฐบาลและราชวงศ์ ไม่แปลกอะไรเลยที่พวกเขาจะสามารถควบคุมกฎหมายได้ตามใจตัวเอง แม้แต่รัฐบาลก็ยังต้องเกรงใจ)
"...." ที่ผ่านมาฉัน...มีเรื่องกับคนที่อยู่เหนือกฎหมายงั้นเหรอ
(มาเฟียแต่ละกลุ่มมีอำนาจที่แตกต่างกัน แต่การจัดลำดับคือจัดตามอำนาจในมือที่แท้จริง อย่างลำดับที่หนึ่งในตอนนี้ พวกเขาน่าจะมีกลุ่มลูกน้องในมือราว ๆ หลักหมื่นคนขึ้นไปนะ...เท่าที่พ่อรู้มาก็ประมาณนี้) การดูแลคนมากขนาดนั้นต้องใช้เงินมหาศาลขนาดไหนกันนะ
"...ดูน่ากลัวมากเลยนะคะพ่อ" ที่ผ่านฉันมีเรื่องกับทายาทมาเฟียที่ปกครองคนหลักหมื่นงั้นเหรอ
(แต่ถึงลูกจะไปทะเลาะกับพวกเขา ยังไงซะพวกเขาก็จะไม่ทำร้ายผู้หญิงขี้เมาตัวเล็ก ๆ อย่างคิมภัทรชาของพ่อหรอก...)
"โธ่ ! พ่อคะ"
(แต่...อย่าทำให้มาเฟียมาตกหลุมพรางของลูกล่ะ เพราะมันจะไม่มีโอกาสให้ลูกได้หนีเขาเลย)
"พ่อเมาหรือเปล่า พ่อพูดอะไร" พ่อพูดอะไรแปลก ๆ ไม่มีใครเหมาะสมกับฉันหรอก
(พ่อก็พูดกับลม พูดกับหลอดไฟ...อย่าไปทำให้มาเฟียที่ไหนมารักล่ะ ลูกจะไม่มีทางหนีเขาพ้น) พ่อนี่ อยู่ ๆ ก็พูดอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว
"รับทราบค่ะพ่อ ลูกสาวของพ่อสวยและเพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้ จะมีใครที่ไหนเหมาะสมกับหนูได้คะ"
(ฮ่า ๆ ๆ โอเค ลูกสาวพ่อสวยที่สุดอยู่แล้ว ดูแลน้องดี ๆ ระวังน้องชายตัวแสบด้วยล่ะ นั่นก็ใช่ย่อย นิ่งก็น่ากลัวขยับก็น่ากลัว) พ่อนี่รู้ทุกอย่างที่เป็นลูกตัวเองจริง ๆ เลย
"ค่ะพ่อ คิมก็ไม่รู้ว่าใครจะดูแลใครนะคะ"
(มีกันอยู่แค่สองคน ถึงจะทะเลาะกันทุกวันแต่พ่อก็รู้ว่าคิมรักน้องมาก)
"แต่เหมือนน้องจะไม่รักนะพ่อ"
(ไม่หรอก ไม่มีใครมาทำอะไรคิมได้ถ้าอยู่กับน้อง) คินเป็นผู้ชายคนที่สองรองจากพ่อที่ฉันอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยจากคนอื่น แต่มากลัวมันแทน
"มีแต่มันนั่นแหละจะฆ่าคิม"
(ฮ่า ๆ อยู่ด้วยกันดี ๆ บอกคินด้วยว่าว่างเมื่อไหร่โทร. มาหาพ่อหน่อย แค่นี้นะลูกพ่อวางแล้ว ปาร์ตี้ให้สนุก)
"ค่ะพ่อ"
ติ๊ด!
แล้วพ่อก็วางสายจากฉันไป ข้างนอกอากาศดีจัง ลมเย็นพัดผ่านตัวฉันไป แต่กับไม่รู้สึกหนาวเพราะฤทธิ์ความร้อนจากภายในของแอลกอฮอล์
"อยากรู้เรื่องมาเฟียไปทำไม" เสียงทุ้มต่ำกระซิบถามข้างหูจากด้านหลัง ทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัวด้วยคความตกใจ หันหลังกลับไปก็เจอกับใบหน้าเนียนของการ์เนทที่อยู่กันไม่ถึงคืบ
"แอบฟังฉันคุยโทรศัพท์เหรอ"
"เปล่า" เขาปฏิเสธพร้อมกับยกบุหรี่สีดำในมือให้ดู
"เขาก็เรียกว่าแอบฟัง ถ้าไม่คิดจะแอบฟังก็ต้องทำอะไรเสียงดัง ๆ ให้ฉันรู้ตัวสิว่ามีคนมา"
"ฉันมีมารยาทนะ ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นในขณะที่ก็รู้ว่าเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่" การ์เนทเดินผ่านฉันไปยืนพิงที่ราวเหล็ก ฉันมองค้อนใส่เขาก่อนจะเดินไปทางประตู เพื่อจะออกไปจากตรงนี้
กึก ๆ
ประตูถูกล็อกจากด้านใน ฉันมองไปตามกระจกก็เห็นเงาผู้ชายยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู
"นี่ ช่วยบอกให้คนของคุณเปิดประตูด้วยค่ะ"
"..." เขายังคงยืนนิ่งและสูบบุหรี่ต่อ
"ได้ยินหรือเปล่าคะที่พูด" แต่ยิ่งพูดดีด้วยเขาก็ยิ่งทำเป็นไม่ได้ยิน
"..." ได้! ฉันเดินตรงเข้าไปใกล้เขา แก้วไวน์ในมือถูกยกดื่มจนหมดในทีเดียวแล้ววางลงบนโต๊ะ
"ไม่มีหูหรือไง หา!" สิ่งที่ไม่ชอบสำหรับฉันคือการโดนเมิน
"มีอะไร" การ์เนทหันกลับมามองฉัน สายตาไล่มองไปตามร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
"เปิดประตู"
"นี่สวยที่สุดแล้วเหรอ ยัยขี้เหร่" นอกจากจะไม่ฟังฉันแล้ว ยังจะกล้าว่าฉันอีก ไอ้เด็กนี่!
"มีหูไว้กั้นหัวหรือไงถึงไม่ได้ยินที่ฉันพูด"
"อยากให้เปิดประตู" การ์เนทถามย้ำอีกครั้ง
"ก็ได้ยินที่พูดนี่ เปิดประตู" ฉันชี้ไปทางประตูเพื่อย้ำกับเขาอีกครั้ง
"ได้...เปิด" สิ้นเสียงคำสั่งของเขาประตูก็ถูกเปิดออก หางตาฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วหลังจากนั้นฉันก็ถูกจับให้หันกลับมาหาการ์เนท
มือหนาของเขาโอบหลังและดึงตัวฉันให้หันกลับมาทางเขา มืออีกครั้งทิ้งบุหรี่ลงพื้นและยกอุดปากฉันไว้แน่นไม่ให้ส่งเสียงใด ๆ ออก
ริมฝีปากร้อนทาบทับลงต้นคอขาว ก่อนจะขยับพรมจูบอย่างเน้นย้ำช้า ๆ ฉันดันอกเขาไว้แต่ก็สู้แรงไม่ไว้ มือของเขาลูบวนไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่า ลำพังเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็จะทำให้ยืนไม่ต้องอยู่แล้ว แต่นี่ยังมาเจอเรื่องบ้าอะไรขึ้นมาอีก
"การ์...เนท ฮึก" ฉันไม่สามารถหันกับไปอธิบายอะไรได้เลย จึงได้ยินแต่เสียงของผู้หญิงคนนั้นพึมพำปนสะอึกสะอื้น
"ช่วยออกไปด้วย อย่ารบกวนครับ" เสียงผู้ชายอีกคนดังขึ้นจากด้านหลัง แต่คนตรงหน้าฉันก็ยังคงไม่หยุด
"ฮึก ฮือ!" เสียงผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าและเสียงประตูที่ปิดลง
ปึง!
"อา" เมื่อประตูปิดลง การ์เนทก็ปล่อยมือจากฉันที ตอนนี้ได้ยืนนิ่งด้วยความตกใจและงงกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น
"..."
"ยังหายใจอยู่หรือเปล่า" เสียงของเขาทำให้ดึงสติฉันกลับมาได้
"ทำบ้าอะไรลงไป.." ฉันพยายามกดเสียงให้นิ่งที่สุด แต่การ์เนทกับไม่มีท่าทีรู้ร้อนรู้หนาว เขายังคงจุดบุหรี่สูบอีกมวนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
"ก็บอกเองว่าให้เปิดประตู"
"แล้วการเปิดประตูมันเกี่ยวอะไรกับเรื่อง...หา!" ตอนนี้คือพร้อมระเบิดมาก แต่เขาก็ยังคงมีท่าทีที่เรียบเฉย
"ไม่เกี่ยว...แค่อยากทำ" การพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแบบนั้นมันคืออะไร
"ไอ้เด็ก...เวร"
"ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าเด็กเวรดีเลย...อยากรู้จักเด็กเวรให้มากกว่านี้มั้ย" เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่เดินเข้ามาใกล้ฉันด้วย
"คิดว่าทำแค่นี้แล้วฉันกลัวเหรอ" ฉันเป็นฝ่ายขยับเข้าไปหาเขาเองฉันว่าฉันพอจะรู้จุดอ่อนของเด็กบ้านี่ดี ถ้าฉันทำตัวว่าเหนือกว่าเขาจะไม่พอใจทันที
"หึ" เขาจ้องหน้าฉันก่อนจะปล่อยควันบุหรี่ออกจากปาก
"ยอมรับแล้วสิว่าสนใจฉัน" ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เขาเองก็ไม่มีท่าทีหลบหรือดันฉันออก
"เธอจะเสนอตัวให้ฉันเหรอ"
"ต้องเสียใจด้วยนะ เพราะฉันไม่ชอบแย่งของ ๆ คนอื่น" ผู้หญิงคนเมื่อกี้ฉันต้องไปอธิบายให้เธอฟัง เพราะฉันบริสุทธิ์ใจจริง
"แต่ฉันไม่สนเรื่องนั้นนะ ถ้าเธอโอเคฉันก็โอเค" การ์เนท
พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย คนอะไรจะนิ่งได้ขนาดนี้"แต่ฉันไม่โอเค ฉันไม่เอาความสวยของตัวเองไปแรกกับเรื่องอะไรแบบนี้หรอกนะ เสียใจด้วย" ฉันส่งยิ้มหวานให้เขา
การ์เนทดับบุหรี่ในมือแล้วมองฉันอย่างตั้งใจ"นี่สวยเหรอ...แต่มีอย่างหนึ่งที่ชัดกว่าความสวยคือความไม่ฉลาด" แล้วเขาก็เดินผ่านฉันไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"การ์เนท...ไอ้เด็กเวร" ฉันยืนกำมือแน่นด้วยความโมโห พยายามระงับอารมณ์ตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันเดินกลับเข้ามางานแล้วตรงไปยังบาร์เครื่องดื่มทันที
"อะไรก็ได้จัดมาแรง ๆ" ฉันเกาะบาร์เคาน์เตอร์แน่น สายตากวาดมองไปรอบเพื่อหาตัวของคนที่เพิ่งว่าฉันไป
"นี่ครับคุณผู้หญิง" บาร์เทนเดอร์ทยอยส่งแก้วเครื่องดื่มมาให้ฉันไม่ขาดสาย ให้ขณะที่ฉันก็ยกดื่มไม่พักเช่นกัน นอกจากจะว่าฉันว่าไม่สวยแล้วยังกล้าว่าฉันโง่อีก
"เอามาอีก เอามาเรื่อย ๆ จนกว่าฉันจะบอกว่าพอ"
"ดะ ได้ครับ" บาร์เทนเดอร์มองฉันอย่างหวาดกลัว และผสมเหล้ามาให้ฉันไม่ขาดช่วง
"ขอโทษนะคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาขัดจังหวะการดื่มของฉัน
"หา!" ฉันหันกลับไปมองเธอ ที่มองฉันด้วยสายตาดูถูกก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าใสซื่อ
"คุณ...ที่อยู่กับการ์เนทเมื่อกี้ใช่มั้ยคะ" อ่อ เธอต้องเป็นผู้หญิงคนเมื่อกี้แน่ ๆ
"ใช่คะ เรื่องเมื่อกี้ฉะ!"
"ไม่ต้องพูด...ร่าน"
"อะไร...นะ" เมื่อกี้ฉันไม่ได้หูแว่วใช่มั้ย
"บอกว่าร่านค่ะ" ครั้งนี้เธอพูดอย่างชัดถอยชัดดำและยืนยิ้มให้ฉัน ฉันมองข้ามไปด้านหลังของเธอก็พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่เดินเข้ามาและยังมีกลุ่มผู้ชายที่คาดว่าจะเป็นลูกน้องของเธออยู่ด้วย
"ฮึ! ไม่แปลกใจเลยนะคะที่ผู้ชายเขาไม่เลือก แล้วยังล็อกประตูมาอยู่กับฉันอีก" ที่บอกว่าจะอธิบายขอถอนคำพูดแล้วกันนะคะ
"ต้องแรดขนาดไหนคะ ถึงจะกล้าเอาเรื่องแบบนี้มาพูดได้ดังขนาดนี้" ดูท่าเธอก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ปึก! แก้วในมือถูกกระดกเข้ามาจนหมด ฉันหันตัวกลับมาเผชิญหน้า แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบแก้วไวน์ติดมือมาด้วย เผื่อด่าแล้วคอแห้ง
"แล้วต้องโง่ขนาดไหนคะที่ไม่คิดจะถามความเป็นจริงจากคนอื่นสักหน่อย เข้าใจค่ะว่าอยากได้ผู้ชายแค่ไหน แต่ฉันไม่ใช่ประเภทเดียวกันกับคุณนะคะที่จะต้องเข้ามาหาเรื่องคนอื่นเพราะผู้ชาย"
"นี่เธอด่าฉันว่าโง่แล้วไม่มีสมอง น่าสมเพชงั้นเหรออีร่าน" ยัยนี่ตีความหมายได้เร็วดีนี่ แต่คำสุดท้ายเนี่ยด่าบ่อยจังนะ
"ฉันยังไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นสักคำเลย~" ฉันส่งยิ้มให้กับผู้หญิงตรงหน้า เธอกำมือแน่นเหมือนพยายามระงับอารมณ์
"งั้นเหรอ...คะ"
"อา~ หวงผู้ชายคนนั้นขนาดต้องเข้ามาหาเรื่องคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ" เรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้ แต่ฉันไม่ชอบให้ใครที่ไม่สนิทมาเรียกจิกหัวเลย ตอนนี้ก็เริ่มกรึ่ม ๆ แล้วด้วย น้องฉันหายไปไหนนะ ฉันกวาดสายตามองหาคิน แต่กับพบกลุ่มคนที่ยืมล้อมพวกเราไว้ ดูท่าจะเป็นคนของยัยนี่สินะ
"ไม่ได้แค่เรียกว่าหวง แต่ฉันกับเขาเรากำลังคบกันมันก็ไม่แปลกใช่มั้ยคะที่ฉันจะเข้ามาตักเตือนคุณ" ยัยนี่พูดเพ้อเจ้ออะไร
"อ่อ! หวงกระดูกสินะ" ผู้หญิงคนนั้นหันกับมามองฉันทันที มือของเธอเอื้อมไปคว้าแก้วจากคนข้าง ๆ เพื่อจะสาดใส่ฉัน
ซ่า!
แต่ฉันที่อ่านเกมได้ไวกว่า แก้วไวน์สีแดงเข้มในมือถูกสาดใส่เธอในจังหวะที่เธอหันกลับมาพอดี ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยัยนั่นตัวสั่นด้วยความโกรธ เพื่อนของเธอล้อมกันเข้ามา แต่ฉันที่ตัวคนเดียวยืนมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง
"ทุเรศดีนะคะ ทั้งนิสัยและ...สารรูป"
"คุณ!!" กลุ่มชายด้านหลังจะตรงเข้ามาหาฉันแต่ก็โดนผู้หญิงคนนั้นห้ามไว้ก่อน
"อย่าเข้ามายุ่ง! ห้ามบอกพ่อเรื่องนี้" เธอหันกลับไปสั่งพวกคนของตัวเอง พวกเขาล้อมเข้ามาให้แคบขึ้นเพื่ิอกันสายตาจากคนด้านนอก ที่นี่ก็ถิ่นมาเฟียดี ๆ นี่เองแหละ แต่ทำกร่างขนาดนี้เด็กเพิ่งโตสินะ
"บอกคุณพ่อดีกว่าค่ะ เวลาตายท่านจะได้รับรู้" ฉันเหยียดยิ้มและจ้องมองผู้หญิงตรงหน้า แกนี่นะคิม ช่วยกลัวคนอื่นบ้างได้ไหม เบื่อตัวเองที่เป็นแบบนี้
"คิดว่าการ์เนทจะมาช่วยผู้หญิงแบบเธอเหรอคะ จะตายแล้วยังปากดี" เอาเหอะ ๆ ก็แค่เรื่องผู้ชายเสียเวลากินเหล้าของฉันหมด
ฉันหันไปยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกอีกครั้ง สายตาเหลือบมองไปยังผู้หญิงตรงหน้า เธอใช้จังหวะที่ฉันเผลอเดินเข้ามาหา แก้วไวน์ที่หมดแล้วถูกยกขึ้นเหนือหัวแล้วปาลงบนพื้นตรงเท้าของเธอ แม่นอย่างกับจับวาง
เพล้ง!
"ถ้าเดินเข้าใกล้กว่านี้ ฉันจะปาใส่หน้าเธอ...รับรองว่าฉันน่ะแม่นมาก" ยัยนี่แค่มาขัดจังหวะการดื่มเหล้าที่ต้องทำเวลาแข่งกับน้องฉันจะมา แล้วยังจะมาหาเรื่องให้หงุดหงิดเพิ่มอีก
"แกรู้มั้ยว่าฉันใคร" คำนี้อีกแล้วน่าเบื่อจริง"เธอเป็นใครฉันจะไปรู้เหรอ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังขัดเวลาดื่มเหล้าฉัน ไปไกล ๆ" ฉันส่งยิ่มให้เธอแล้วคว้าแก้วเหล้าด้านหลังมากระดกเข้าปาก ขมชะมัดเลยเหล้าอะไรเนี่ย"อย่ามาเมินฉันนะ" ยังไม่จบอีก"ต้องการอะไรพูดมา จะมาหาเรื่องหรือจะเรียกร้องทวงผู้ชายคืนก็พูด" ฉันต้องจัดการยัยนี่ก่อนเลย แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่ คนรอบ ๆ ข้างเขาก็แทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ปัญหาผู้หญิง ๆ ทะเลาะกัน"ต้องการให้เลิกยุ่งกับการ์เนทซะ" ฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน"จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ที่เธอเห็นตรงระเบียงน่ะ!""จะแก้ตัวอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงร่าน ๆ" ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงของเพื่อนยัยนั่นพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉันตวัดหางตากลับไปมองที่เธอและขยับปากพูดอย่างช้า ๆ"สา ระ แน""นี่!""อะ! อย่าใช้อารมณ์ ทีเธอด่าฉันว่าร่านฉันยังไม่โกรธเลย ฉันจะชมเธอว่าสาระแนบ้างจะเป็นอะไร คนโกรธง่ายคือคนไอคิวต่ำ สมองฮิปโป เธอรู้มั้ยว่าฮิปโปเป็นสัตว์โง่ที่สุดในโลก...แต่ถ้าเธอไม่รู้ นั้นก็หมายความว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่ที่สุด คงพอ ๆ กับยัยนี่ที่ถามว่าตัวเองเป็นใคร" พูดจบฉันก็ยิ้มกว้างให้พวกเธออีกครั
"พี่เฮเลนแจ้งทุกอย่างไปที่พี่คิมนะครับ เดี๋ยวจะให้มาจัดการเอง" เพื่อนสาวคนสนิทของพี่คิมไปแต่ยิ้มเจือน ๆ ก่อนที่จะก้มมองราคาค่าความเสียหายทั้งหมดบนกระดาษในมือ"ห้าพันยูโรเลยนะเนี่ย" เกือบสองแสนบาทไทย ฝีมือพี่สาวของผมเอง"นี่ถือว่าเบาแล้วครับ" สูงสุดที่เคยจ่ายคือสองล้านบาท สาเหตุเกิดขึ้นจากการเมาแล้วปีนขึ้นไปเต้นบนรถซูเปอร์คาร์จนต้องดูแลสีรถให้เขาใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นี้สบายมาก"แล้วเพื่อนตัวดีของพี่เอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนแล้วล่ะ""ปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ที่รถครับ""จะไม่หลุดหายไปไหนใช่มั้ย" พี่เฮเลนพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว"ไม่หรอกครับ เมาขนาดนั้นแค่เดินก็ยากแล้ว" เล่นกินเหล้าทุกรูปแบบขนาดนั้นคงตีกันเละเทะจากภายใน"ได้ล็อกไว้กับรถหรือเปล่า" คำถามของพี่เฮเลนทำให้เอะใจเล็กน้อย แต่พอนึกสภาพพี่สาวตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย"แค่ลืมตาก็ยากแล้วครับ เดินไปไหนไม่ได้หรอก" พี่เฮเลนทำสีหน้าคิดตามแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย"เดี๋ยวพี่จัดการเองต่อจากนี้ พาคิมกลับบ้านเถอะนะ""ครับ" แล้วก็ลาพี่เฮเลนแล้วเดินไปที่รถทันที ภายนอกแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงรถไม่กี่คันจอดอยู่เท่านั้น หนึ่งในนั้นคือรถคันสีดำที่จอ
รถยนต์คันหรูวิ่งผ่านประตูรั้วทึบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังประตูซ่อนความลึกลับของคฤหาสน์สีดำสุดหรูเอาไว้ บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าสถานที่ภายในแห่งนี้เป็นของใคร รถยนต์ตรงเข้าจอดลงหน้าประตูตัวบ้านประตูรถถูกเปิดออกจากชายชุดดำที่ยืนรอต้อนรับอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักลง และมองหน้ากันด้วยความตกใจ หญิงสาวร่างบางนอนหลับสนิทหนุนตักของชายผู้เป็นเจ้านาย บนตัวของเธอมีเสื้อคลุมสีดำปกปิดอยู่เสื้อเชิ้ตของเจ้านายพวกเขาหลุดลุ่ย กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เจ้านายผู้หวงพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่เคยพาคนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันอุ้มเอง มาเปิดประตูฝั่งนี้" เสียงของผู้เป็นนายดังขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องของตนเอื้อมมือจะมาสัมผัสตัวของเธอ"ครับ"ปึง! ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองหน้ากันอย่างหาคำตอบกับเรื่องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เจ้านายของเขานั่งอยู่ออกร่างสูงยกหัวของเธอที่นอนหนุนตักออกพร้อมกับก้าวลงจากรถ และออกแรงอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเบาจัง เขาได้แค่คิดในใจแล
"อย่าพูดอะไรบ้า ๆ นะ" ไม่! มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย"ไม่ได้พูดอะไรบ้า ๆ แต่พูดจริง" สายตาของเขามันบอกว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ"ไม่ ๆ ๆ เรามาตกลงกัน""ตกลงว่า""ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานฉันจะไม่ถือสา เราจะไม่พูดถึงมันอีก" การ์เนทเอียงคอมองฉันด้วยท่าท่างที่ดูน่ารัก ทำไมอยู่กับฉันนายกลายเป็นเด็กน้อยล่ะ มันแตกต่างจากตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายลิบลับเลย อย่าทำแบบนี้ใจฉันเต้นแรง"หน้าแดงทำไม" การ์เนทถามฉันและยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าใกล้อย่างช้า ๆ ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้า แต่ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสริมฝีปากฉันก็ดันเขาออกแล้วขยับถอยหลังหนี"เด็กบ้านี่..." ฉันพึมพำกับตัวเอง แต่สายตาก็จ้องมองไปที่เขาการ์เนทพาตัวเองขึ้นมายังบนเตียงและคลานเข้ามาหา ฉันถอยหลังจนชิดกับพนักพิงหัวเตียง มือเล็กดึงผ้าห่มมาม้วนตัวแล้วพลิกหมุนลงข้างเตียง เมื่อเท้าแตะพื้นก็วิ่งไปทางประตูห้องทันทีแกร๊ก ๆ ๆกลอนประตูถูกล็อกจากด้านนอกงั้นเหรอ ฉันเขย่าประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดปึง ๆ"เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เงียบ~ปึง ๆ ๆ ๆ ๆ"เปิดประตู!" เงียบ~ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ทุกอย่าง
ณ บริษัทของคิมฉันยังอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกมาเฟียที่ไหนจับตัวไปฆ่าตาย ซึ่งนั้นเป็นเพราะสกิลล์การหลบของฉันเอง หนึ่งวันที่ผ่านมายังคงปกติดี แต่มันน่าเบื่อเกินไป(ฉันกับเจส เรากำลังจะแต่งงานกัน)(กรี๊ด!!)"ดีใจด้วยนะ"ตอนนี้เรากำลังวิดีโอคอลล์กลุ่มกัน คารีน่าเพื่อนสาวในกลุ่มกำลังจะประกาศสละโสดไปอีกหนึ่งคน ถือว่าเป็นวัยที่ต้องแต่งงานกันแล้วทั้งนั้น ฉันก็มีหน้าที่เดินสายร่วมงานแต่งต่อไป(แล้วคิมเมื่อไหร่จะมีแฟน) อยู่ ๆ จุดสนใจก็พุ่งเป้ามาที่ฉันแทน"มีทำไมฉันสวยเกินกว่าจะมีใครมาเหมาะสมย่ะ" เมื่อได้ยินคำตอบของฉันทุกคนต่างแย่งกันสาปแช่งด้วยความหมั่นไส้(ถ้าอยู่ ๆ ยัยคิมเปิดตัวแฟนขึ้นมาคงช็อกน่าดู ผู้ชายแบบไหนนะที่จะจัดการยัยคิมของพวกเราได้) เคทพูดพร้อมกับทำหน้าสงสัย"ไม่มีหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าสวยมากเกินกว่าจะมีใครเหมาะสม" ฉันพูดพร้อมกับยืดอกอย่างภูมิใจ(น่ารำคาญจ้า~) เสียงพวกเพื่อนทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน"ยัยพวกนี้นี่ หยุดพูดเรื่องฉัน แล้วมาช่วยกันคิดเรื่องจัดปาร์ตี้ฉลองให้คารีน่ากันก่อนดีกว่า แล้วปาร์ตี้สละโสดก็จัดต่างหาก" ฉันพูดด้วยอาการดี๊ด๊าสุดตัว(นั่นสินะ เราไปจัดที่คลับการ์เบรียลล่ากันดีมั้
ย้อนกลับไปยี่สิบนาทีก่อน(คิม)"แกหายไปไหนมา" เคทรีบตรงเข้ามาถามเมื่อเห็นเดินกลับมาที่โต๊ะ ทุกคนต่างดูเป็นห่วงที่ฉันหายไป"หลบในห้องน้ำมา โดนผู้ชายตามตื๊อ" ฉันพูดกับทุกคนและยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหมดในทีเดียว"ผู้ชายที่ไหน ให้ฉันจัดการมั้ย" เฮเลนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"ฉันจัดการไปแล้ว""หล่อมั้ย" เคทที่สนใจแต่ความหล่อของผู้ชายหันมาถามฉัน ฉันกลอกตาไปมาและนึกถึงหน้าการ์เนท"ไม่หล่อ ขี้เหร่มาก" ฉันหันไปบอกเคทและเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตัวเอง"จะไปไหนคิม" คารีน่าถามขึ้นด้วยความสงสัย"ฉันมีเรื่องจำเป็นที่ต้องขอกลับไปที่โรงแรมก่อนนะ" ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้ไกล"มีเรื่องอะไร" คารีน่าถามอย่างเป็นห่วง ฉันไล่สายตามองไปที่เพื่อนแต่ละคนก่อนจะหยุดสายตาลงที่คารีน่า"ไปห้องน้ำกับฉันหน่อยคารีน่า" ทุกคนต่างทำหน้าสงสัย แค่คารีน่าก็ยอมไปกับฉันอย่างว่าง่ายปึง!ประตูห้องน้ำปิดลงโดยมีฉันและคารีน่าอยู่ในห้องเดียวกัน"สลับชุดกัน" เธอมองฉันด้วยความสงสัย"คิมเป็นอะไร เหมือนกับว่าจะหนีจากอะไรสักอย่าง""เดี๋ยวเอาไว้ผ่านวันนี้ไปฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ฉันต้องการชุดแบบเป็นกางเกง"
เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ จ้องมองเด็กผู้หญิงที่วิ่งผ่าสายฝนผ่านเขาไป ผมยาวสลวยสีดำ ใบหน้าหวานราวกับนางฟ้า เท้าเปล่าเปื้อนดิน ชุดสวยที่สวมใส่มอมแมมไปด้วยคราบเลือดและดินโคลน ในอ้อมแขนมีร่างแมวนอนหายใจรวยริน"เดี๋ยวมันก็ตาย" คำพูดของเด็กชายทำให้เธอหยุดและหันมาขมวดคิ้วมองเขา"หลานคุณปู่นี่...มันจะไม่ตาย" เธอเถียงสู้อย่างไม่ยอม สายตาไร้ความรู้สึกมองไปยังร่างลูกแมวในอ้อมแขนของเธอ"ช่วยไปก็เท่านั้นยังไงมันก็ต้องตาย" เขาเอาแต่พูดคำเดิมซ้ำ ๆ"มันจะไม่ตาย ยังไงมันก็จะรอด ชีวิตลูกแมวตัวนี้จะเป็นของคิม" พูดจบเธอก็วิ่งไปโดยไม่หันมาสนใจเขา"..." เขาหันมองเธอที่วิ่งฝ่าสายฝนสวนทางกับกลุ่มชายจำนวนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา"ทำไมไม่เรียกชื่อกันบ้างล่ะ.." เสียงพูดแผ่วเบาที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน(ปัจจุบัน)มือเล็กกำลังลูบไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องหยุดชะงักลงกลางคัน เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น มืออีกข้างขยุ้มท้ายทอยเขาไว้และกดหัวลงแนบอก ปลายลิ้นชื้นเลียรอบฐานชมพู สร้างความเสียวไปทั่วทั้งร่างกายคนตัวสูงสอดมือเข้าใต้หว่างขา ปลายนิ้วกรีด สัมผัสร่องเสียวอย่างเบามือ หญิงสาวก้มสบตาด้วยใบหน้าแดงก่ำจากทั้ง
"ฉันชอบที่แกเป็นแบบนี้แหละ" เคทกระซิบพูดอยู่ด้านหลัง เฮเลนเองก็ยิ้มอย่างพอใจ"ค่ะ จะรอวันงานรับตำแหน่งของการ์เนทนะคะ" เมเดียพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ สาบานเถอะว่าเธอพูดออกมาจากใจจริง ส่วนสายตามองฉันหัวจรดเท้า มีแค่คนที่อยู่เบื้องหน้าเท่านั้นที่จะมองเห็น"แล้วเจอกันค่ะ" ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งหมด ถือว่าพลาดที่วันนี้ตั้งใจแต่งตัวแบบนี้ ตอนแรกแค่จะทำให้การ์เนทไม่พอใจ แต่ดูท่าจะเป็นฉันเองที่ไม่พอใจ แล้วยังมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ สายตาแบบนี้ คำพูดแบบนี้"ว่าแต่ที่มาหาเธอที่นี่ เพราะจะพามาแปลงโฉมเตรียมวันงานเหรอการ์เนท ให้ฉันช่วยมั้ย" ฉันมั่นใจแล้วว่าเธอไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ก็ไม่แปลกฉันเป็นสายนักธุรกิจ ไม่ใช่พวกดาราหรือกลุ่มคนทำงานให้รัฐบาลอย่างมาเฟียแบบกาาร์เนทและเฮเลน"ไหนบอกจะมาคุยเรื่องงาน ไม่คุยแล้วเหรอครับ" ดูเหมือนเธอจะลืมจุดประสงค์ ฉันว่าเธอมาหาเขา อยากให้พาเขาไปให้ห่างฉันจริงแต่ความหมั่นไส้มันมีมากกว่านี่สิ"ก็คุยงานก่อนไงคะ เสร็จแล้วฉันจะได้ช่วยเธอ" เธอพูดกับการ์เนทด้วยสีหน้าที่ใจดี"ไปคุยเรื่องงานก่อนเถอะนะการ์เนท ฉันรอได้" ฉันพูดแทรกขึ้น ยอมรับว่าไร้มารยา
"ไม่มีไปที่ไหนเหรอครับวันนี้" การ์เนทเดินเข้าไปถามปู่ถึงในห้องทำงาน"อยากให้พาไปที่ไหนก็พูดมาเลย" เขาแกล้งพูดแหย่หลานตัวเอง ก็เดี๋ยวนี้การ์เนทดูจะอยากไปข้างนอกมากขึ้น เหมือนว่ารอจะได้ไปเจอใคร"เปล่าครับ""ถ้าอยากไปหาหนูคิมก็คงต้องรอไปก่อน" ปู่ของเขาพูดขึ้นในขณะที่หลานชายกำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง ทำให้การ์เนทหยุดชะงักและหันมามองที่ปู่"...""ครอบครัวของเธอกลับประเทศไทย สักพักคงกลับมา" เขาพูดได้เพียงเท่านี้"เหรอครับ""เอาไว้ปู่จะโทร. ไปหาเขาให้นะ""ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้" เย็นชาเกินไปแล้วหลานของเขา"ไม่อยากรู้จริงเหรอ""ครับ" ปากไม่ต้องกับใจสุด ๆ"ที่กลับประเทศไทยด่วน เพราะหนูคิมเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้" คำพูดของปู่ทำให้เขายืนนิ่ง"....""หนูคิมถูกส่งตัวไปรักษากับหมอด้านประสาทที่เก่งที่สุด ซึ่งเขาอยู่ที่ประเทศไทย""เป็นอะไรมากหรือเปล่า" การ์เนทตรงเข้ามาถามปู่ของเขาด้วยความเป็นห่วง"ไม่หรอก แล้วอีกอย่างหนูคิมยังเรียนอยู่ที่ไทยด้วย ที่มาก็จะมาแค่ช่วงปิดเทรมเธอก็ต้องกลับไปเรียน"แค่เห็นปฏิกิริยาจากหลานของเขาก็ทำให้ไม่กล้าพูดเลยว่าเธอเข้าสู่สภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากผลกระทบของ
"ฮึก ฮือ!"ย่าของเขาร้องไห้พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายไว้แน่น ลูกชายของเธอก็คือพ่อของการ์เนท เขายืนมองร่างของพ่อที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนอนราบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เกิดมา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพ่อเคยคุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ความผูกพันและความรัก เขาจึงไม่เคยได้รับมันเลยจากทั้งพ่อและแม่เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากที่ว่าพ่อตายเพราะโรคประจำตัวเท่านั้น ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับต่อสื่อและเขางานศพถูกจัดขึ้นและไว้อาลัยแด่บอสมาเฟียลำดับที่หนึ่งของอิตาลี ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาร่วมงาน เด็กชายในชุดสูทสีดำมองใบหน้าเศร้าโศกของย่าก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้"ฮือ! หลานย่า ฮือ!"เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกสงสารหลานตัวเองจับใจ ที่เขาขาดไปทั้งพ่อและแม่ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายดูแลเขาแต่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้"ไม่ต้องร้องนะครับ""ฮือฮือ"คำพูดของหลานยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เด็กคนหนึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่ แต่เขากับไม่มีน้ำตาออกมาให้ได้เห็น ที่ผ่านมาเขาอยู่ท่ามกลางความรักของย่าและปู่เท่านั้น ความรู้สึกต่อพ่อแม่จึงกลายเป็นศูนย์พิธีศพเป็นไปตามธรรมเนียม แต่คนขี้เบื่
"ตอนเย็นการ์เนทไปกับปู่มั้ย" ปู่ของเขาถามขึ้นในขณะที่นั่งมองหลานชายของเขาเดินเลือกดอกไม้"ไปทำอะไรครับ" เขาถามกลับมาไป แต่ไม่หันไปสนใจปู่ของเขาสักนิด ถึงภายนอกจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นถาม"ปู่จะพาการ์เนทไปงานวันเกิดของลูกสาวคนที่ปู่สนิท ไปด้วยกันนะ"เขาพยายามสุดความสามารถที่จะทำให้หลานของเขากลับมามีโลกที่มีชีวิตชีวาแบบเด็กวัยเดียวกัน ถึงบางทีเขาจะยังทำเป็นไม่ใส่ใจคนรอบข้างไปบ้าง แต่การ์เนทก็ดีขึ้นจากตอนแรกที่รับเขามาดูแล"ไม่ครับ""ทำไมล่ะ การ์เนทต้องมีเพื่อนนะ""ไม่จำเป็น" การ์เนทเลือกดอกไม้ที่เขาสนใจขึ้นมาทีละดอก แล้วนำมันมาวางเรียงกันบนโต๊ะ"ถ้าไม่อยากมีเพื่อนแล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดเหรอ""ก็อยู่ได้""ลองไปพบเจอเด็กวัยเดียวกันดูมั้ย" ผู้เป็นปู่พยายามสุดตัวที่จะพาหลานเขาไปให้ได้ อย่างน้อยให้เขาได้เจอสังคมภายนอกมากกว่านี้"ไม่อยากเจอ ขี้เกียจหาของขวัญ""นี่ไง เราจะเอาดอกไม้ที่การ์เนทกำลังจัดไปให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ" คำพูดของปู่ทำให้เขาหยุดมือที่กำลังดึงดอกไม้ขึ้นมาทันที สายตาของเด็กน้อยหันไปมองปู่ของเขา"ไม่มีใครอยากได้ของผมหรอกครับ"เขาไม่รู้เลยว่ามาสนใจ
เพล้ง เพล้ง!"คุณกล้าเอาอีผู้หญิงแบบนั้นขึ้นมาเหนือฉันเหรอ หา!""หุบปาก น่ารำคาญ!""เคยเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย หา!""บอกให้หุบปากไง!"พลั่ก!ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกกับผนังท้อง เธอล้มลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น อาการจุกบริเวณช่วงท้องทำให้เธอนอนตัวงอ ขยับไปไหนไม่ได้"แม่..."เด็กผู้ชายวัยห้าขวบเดินเข้ามาหาเธอและพยายามปกป้องเธอเท่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้"กลับไปที่ห้องการ์เนท!" ผู้เป็นพ่อกระชากแขนเล็กของเด็กชายแล้วลากเขาโยนออกจากห้องอย่างไม่ไยดีปัง!ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงต่อหน้าเขา เสียงทะเลาะดังมากจากภายในห้องนั้นอย่างต่อเนื่อง เด็กชายยืนฟังเสียงอยู่นาน จนกระทั่งพี่เลี้ยงของเขามาพาตัวเขาออกไปตลอดระยะเวลาที่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ ตลอดเวลาเขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตลอด ถึงแม้ว่าแม่เอาแต่ใช้เวลาในหนึ่งวันไล่ตามเฝ้าพ่อของเขาก็ตามความรักและความสนใจเขามักจะได้รับจากคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้มาตลอดคือ พ่อและแม่ของเขาไม่เคยรักกันจนในที่สุดคุณปู่และคุณย่าก็ทนเห็นสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว พวกท่านทั้งสองคนมารับตัวผมไปอยู่ด้วยตอนอายุได
"คุณพ่อขา ฟีฟี่อยากได้ม้า"เด็กสาววัยสามขวบชี้นิ้วไปยังการ์ตูนในจอโทรทัศน์ ม้าโพนีตัวสีชมพูวิ่งไปมาอยู่ตรงหน้า เธอหันมากอดคอผู้เป็นพ่อและซบหน้าลงบนไหล่"อันนั้นเป็นม้าโพนีค่ะ เป็นการ์ตูนก็คงหาให้ฟีฟี่ได้แค่ตุ๊กตา พ่อก็อยากซื้อม้าจริง ๆ ให้ฟีฟี่แบบนั้นนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าจะไปหามาให้จากที่ไหน" เขาอุ้มลูกสาวตัวเล็กมานั่งตัก"ถ้าม้าเป็นสีชมพูแบบนั้นจะต้องน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ สัตว์บนโลกให้เป็นสีชมพูก็น่ารักหมดเลย" เธอเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้าง ยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟีฟี่ทำให้ผู้พบเจอต่างพากันสดใสตามเธอ"สัตว์บนโลกทุกตัวน่ารัก ฟีฟี่ต้องรักพวกเขาให้มาก ๆ นะ อย่าไปรังแกพวกเขา""ค่ะ ฟีฟี่รักสัตว์บนโลกทุกตัว แล้วก็รักคุณพ่อขาด้วย" ฟีฟี่ลุกขึ้นยืนบนโซฟาและกอดคอของผู้เป็นพ่อไว้แน่น"อ๊าก !"เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากประตูบ้าน เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเด็กผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ ฟีฟ่า แฝดผู้น้องโครม!ฟีฟ่าทรงตัวอยู่เซิร์ฟสเก็ตวิ่งเข้ามาในบ้าน ถึงความเร็วจะไม่มาก แต่พื้นของบ้านที่ไม่เหมาะกับการเล่นทำให้ลื่นแล้วล้มกลิ้้งอยู่ที่พื้นการ์เนทหันมองไปยังลูกชายของตัวเอง คนในบ้านต่างวิ่งเข้ามาเพื่อจะ
"ใกล้ถึงแล้วครับ"เสียงคนขับรถเรียกสติให้ฉันกลับไปสนใจสถานที่ตรงหน้า"ค่ะ"สายตามองไปยังอาคารหรูตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สถานที่รวมตัวของกลุ่มมาเฟียจากหลายประเทศ ทุกคนต่างมาเพื่อแสดงความยินดีและแสดงความต้อนรับแก่บอสมาเฟียคนใหม่ รวมไปถึงการประกาศของการผู้นำคนใหม่ของลำดับที่สองและที่สามด้วย นั่นคือเฮเลนและสามีของเธอรถยนต์จอดหยุดลงหน้าทางเข้า ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มชายจำนวนมากต่างยืนเรียงรอต้อนรับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ"เชิญครับ" เขายื่นมือมาให้เธอพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย"ขอบคุณค่ะ" ฉันก้าวเท้าลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่นอกอาคารจำนวนมากต่างจ้องมองมาทางฉันถึงจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากการถูกมอง แต่คนจำนวนเยอะขนาดนี้ฉันก็เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก นี่ขนาดด้านนอกนะ ยังไม่ได้เข้าไปในอาคาร"คนเยอะมากเลยนะคะ" ฉันหันไปพูดกับคริสเตียนที่ออกมารอรับ"ข้างในเยอะกว่านี้ครับ ทุกคนรอพบนายหญิงอยู่" ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันได้ไม่น้อย"ฉันดูสำคัญมากเลยนะคะ""สำคัญสิครับ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับบอสนี่ แล้วอีกอย่างบรรดาญาติก็อยากเห็นผู้หญิงที่การ์เนทเฝ้ารอมาตลอดสิบปีครับ" คำพูด
"นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอการ์เนท""ก็พอเป็นบ้าง""ว้าว ทำข้าวต้มเป็นด้วยสินะ" ฉันมองข้าวต้มในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่"ดูจากในเว็บมาครับ" คำตอบของเขาทำฉันหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"ทำได้น่ากินขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนไทยแท้ ๆ ยังทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นเลย เต็มที่ก็ไข่ดาว" ฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอก เดี๋ยวผมจะจ้างพ่อครัวตามความถนัดของอาหารแต่ละประเทศมาไว้บ้าน เผื่อพี่คิมอยากกินอาหารประเทศอื่น" สายตาที่แสดงออกมาคือเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ"ฉันว่าไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ" ฉันต้องหยุดเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ"เอาแบบนั้นเหรอครับ""เอาแบบนั้นดีแล้ว อย่าต้องให้มีพ่อครัวมากไปกว่านี้เลยนะ" แค่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว"พี่คิมลองชิมมั้ย" การ์เนทใช้ช้อนตักข้าวต้มในหม้อขึ้นมาเป่า แล้วป้อนให้ฉัน"อื้อ~" ฉันแกล้งทำเสียงและกลอกตาไปมา"อร่อยมั้ย""อ่า~""...""อืม~""เดี๋ยวเททิ้งแล้วให้พ่อครับมาทำให้ใหม่แล้วกัน" การ์เนทปิดเตาแล้วทำทีจะยกหม้อไปเททิ้งจริง ๆ"เดี๋ยวสิ ขี้น้อยใจจังเลยนะ อร่อยมาก""ก็พี่คิมทำหน้าเหมือนไม่อร่อย" แค่ฉันแกล้งเล่นก็ทำลายความมั่นใจของเขาไปจนหมดเลยเหรอเนี่ย"อร่
ณ ห้องทำงานของคิมติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่โทร. เข้ามา มือเรียวเอื้อมไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน"สวัสดีค่ะ"(คิม)เสียงจากปลายสายทำให้ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ เบอร์ที่ไม่คุ้นตาแต่เรียกชื่อฉันเหมือนรู้จักกันมานาน เสียงปลายสายก็คุ้นหูพอสมควร"ใครพูดสายคะ" เพื่อความแน่ใจจึงเลือกที่จะถามออกไปเลย(โจเซฟ) ฉันว่าแล้วไง"มีเบอร์ฉันได้ยังไง" หากันง่ายเหลือเกินคนพวกนี้(ขอมาจากเพื่อนเก่าน่ะ) ฉันถอนหายใจใส่โทรศัพท์"แล้วโทร. มามีอะไร"(เธอทะเลาะกับเขาเรื่องที่เราไปกินข้าวกันใช่มั้ย)"รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา" ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองตรงไปยังด้านหน้า(เราเป็นห่วง แล้วตอนนี้ดีกันหรือยัง)"ก็ปกติ"(...ก็ดีแล้ว) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า"โทร. มาถามแค่นี้ใช่มั้ย"(อย่าเพิ่งวางนะ คิมลืมไปหรือยังว่าวันนี้วันอะไร) วันอะไรงั้นเหรอ ฉันมองไปยังวันที่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ"วันศุกร์" มีหวังตอบไปว่ารู้ก็คอขาดพอดี(ฮ่าฮ่า คิมลืมก็ไม่แปลกมันนานมาแล้วนี่...วันนี้วันเกิดเราเอง)"อ่อ งั้นเหรอ"(วันนี้วันเกิดเรา คิมมาหาเราได้ไหม) โจ
"เดี๋ยวฉันต้องไปส่งเคทที่บ้าน ส่วนเฮเลน สามีจะมารับ" ฉันยืนมองเพื่อนสาวสองคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา คนที่เมาหนักสุดน่าจะเป็นเคท"เคทเดี๋ยวมีคนมารับ" หลังจากคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จเขาก็หันมาบอกฉัน"นายจะให้คนไปส่งเคทเหรอ เดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้นะ""ไม่ต้องหรอก คนที่จะมารับรู้บ้านของเธอดี" การ์เนทดูมั่นใจมาก เขาส่งยิ้มให้ฉันและเดินไปสั่งงานกับคนของตัวเอง ฉันได้แต่ยืนมองเพื่อนสองคนที่เมาหลับไม่รู้เรื่องสองคนนี้ถือว่าเป็นคนที่ไปไหนไปกันเสมอ ขอให้ช่วยหรือทำอะไรก็ไม่เคยบ่น แม้แต่วันนี้เมาเละขนาดนี้ก็เพราะฉันไม่สามารถดื่มได้ ทั้งสองคนจึงจัดการให้เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าฉันดื่มไปเยอะ"สามีคุณเฮเลนมาแล้วครับ" ลูกน้องของการ์เนทเดินเข้ามาบอกฉัน พร้อมกับสามีของเฮเลนเดินตามหลังเข้ามา"ขอโทษด้วยนะ" ฉันกล่าวขอโทษเมื่อสามีของเพื่อนสาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาส่งยิ้มให้ฉันและมองไปที่ภรรยาของตัวเอง"ไม่เป็นไร เฮเลนบอกแล้วว่าวันนี้ต้องมาทำอะไร" สามีของเฮเลนเข้าใจธรรมชาติของพวกเราจริง ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและช้อนอุ้มเฮเลนไว้ในอ้อมแขน"ขับรถกลับดี ๆ นะ""ดีกับการ์เนทแล้วใช่มั้ย" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก