"แกรู้มั้ยว่าฉันใคร" คำนี้อีกแล้วน่าเบื่อจริง
"เธอเป็นใครฉันจะไปรู้เหรอ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังขัดเวลาดื่มเหล้าฉัน ไปไกล ๆ" ฉันส่งยิ่มให้เธอแล้วคว้าแก้วเหล้าด้านหลังมากระดกเข้าปาก ขมชะมัดเลยเหล้าอะไรเนี่ย
"อย่ามาเมินฉันนะ" ยังไม่จบอีก
"ต้องการอะไรพูดมา จะมาหาเรื่องหรือจะเรียกร้องทวงผู้ชายคืนก็พูด" ฉันต้องจัดการยัยนี่ก่อนเลย แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่ คนรอบ ๆ ข้างเขาก็แทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ปัญหาผู้หญิง ๆ ทะเลาะกัน
"ต้องการให้เลิกยุ่งกับการ์เนทซะ" ฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน
"จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ที่เธอเห็นตรงระเบียงน่ะ!"
"จะแก้ตัวอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงร่าน ๆ" ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงของเพื่อนยัยนั่นพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉันตวัดหางตากลับไปมองที่เธอและขยับปากพูดอย่างช้า ๆ
"สา ระ แน"
"นี่!"
"อะ! อย่าใช้อารมณ์ ทีเธอด่าฉันว่าร่านฉันยังไม่โกรธเลย ฉันจะชมเธอว่าสาระแนบ้างจะเป็นอะไร คนโกรธง่ายคือคนไอคิวต่ำ สมองฮิปโป เธอรู้มั้ยว่าฮิปโปเป็นสัตว์โง่ที่สุดในโลก...แต่ถ้าเธอไม่รู้ นั้นก็หมายความว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่ที่สุด คงพอ ๆ กับยัยนี่ที่ถามว่าตัวเองเป็นใคร" พูดจบฉันก็ยิ้มกว้างให้พวกเธออีกครั้ง พวกนั้นกำมือแน่นด้วยความโกรธแต่ก็ไม่มีใครแสดงกิริยาออกมาคงเพราะเพิ่งโดนคำสอนจากฉันไปเมื่อกี้
"เดียน่าให้ฉันจัดการยัยนี่เองเถอะ" เพื่อนของเดียน่ายังคงไม่หยุดพูด ใช้ได้เลยนิแม่นี่ออกตัวแทนเพื่อน
"นี่ยัยสัตว์สมองเซลล์เดียวถ้าเก่งมากขนาดจะออกตัวให้เพื่อน เก็บเอาแรงไปหาอะไรมาบำรุงสมองเถอะนะน่าจะมีประโยชน์มากกว่า" ฉันเมาแล้วเป็นคนพูดเยอะได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย คอแห้งจัง ฉันหันกลับไปคว้าแก้วเหล้ามากระดกลงคอ
"ผู้หญิงแบบนี้เหรอ ที่การ์เนทถึงกับต้องล็อกประตูไปอยู่ด้วย" นี่เรื่องล็อกประตูนั้นเพราะเขาหนีเธอหรือเปล่านะ ถึงในหัวจะคิดแบบนั้น แต่สิ่งที่พูดออกไปกับตรงกันข้าม
"ก็เพราะปากน่ะสิเขาถึงได้หลงฉันน่ะ" ฉันพูดพร้อมกับเอานิ้วแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ นั้นยิ่งเป็นการยั่วโมโหเธอได้ดีขึ้นไปอีก
"เดียน่าหยุดพูดดีกับมันสักที" เพื่อนข้างตัวของเธอพยายามยุแยงผู้หญิงคนนั้น ชื่อเดียน่าสินะ
"นี่ ยัยเสี้ยม หยุดยุแยงเพื่อนได้แล้ว" ฉันชี้ไปที่เพื่อนของเธอ ยัยนั่นมองฉันพร้อมกับทำหน้างง คงสงสัยความหมายของคำว่าเสี้ยมของฉันสินะ อิตาลีคงไม่มีคำนี้ล่ะสิ
"อีคนเอเชียนี่พูดบ้าอะไร" เพื่อนอีกคนถามขึ้นพร้อมกับกอดอกมองฉันฉันด้วยสายตาดูถูก
"พวกเธอจะไม่โดนตบเพราะเข้ามาหาเรื่องฉันหรอก แต่จะโดนตบเพราะเรียกจิกคนเอเชียนี่แหละ ฉันมือหนักนะ" ฉันปราดหางตามองไปที่เธอทำให้รีบหลบสายตาฉันทันที ยัยพวกนี้เหมือนเด็กหัดแรง อยู่เป็นกลุ่มจะเก่งขึ้นมาหน่อย
"หยุดลามไปหาเพื่อนฉันสักที" ฉันลืมยัยเดียน่าผู้น่ารักนี่ไปเลย
"ฉันเกือบลืมเธอไปแล้วนะเนี่ย ยืนเป็นใบ้อยู่ได้ต้องการอะไรจากฉันอีกมั้ย"
"ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอเข้าหาการ์เนทได้ยังไง เธอไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ เธอไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรกับเขา" ฉันชักจะหมดความอดทนกับผู้หญิงคนนี้แล้ว ถามอะไรคำเดิม ๆ
"ฉันไม่ได้เข้าหาผู้ชายของเธอ ฉันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องผู้ชายไปเคลียร์กันเอาเอง แล้วช่วยไปให้ห่างฉันก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนไปมากกว่านี้" หงุดหงิดแล้ว แต่ดูท่ายัยนั่นจะไม่ยอมจบง่าย ๆ ฉันหันไปมองเธอแล้วถอนหายใจออกมา
"ร่านจริง ๆ แล้วยังหน้าด้านอีกต่างหาก"เสียงของเธอพึมพำกระทบโสตประสาทฉันอย่างน่ารำคาญ
"ดื่มหน่อยมั้ย เผื่ออะไร ๆ มันจะดีขึ้นบ้าง เผื่อสมองจะคิดได้ว่าควรเลิกคบเพื่อนที่ชอบเสี้ยมคนอื่นแบบนี้" ฉันยื่นแก้วเหล้าไปตรงหน้าเธอ
เพล้ง!
มือของฉันถูกปัดออกจนแก้วเหล้าในมือกระเด็นหลุดตกแตกบนพื้น คนที่ทำคือเพื่อนของเดียน่า ยัยคนที่เรียกจิกฉันว่าคนเอเชีย ฉันหันขวับกับไปมองเธอด้วยสีหน้าและสายตาที่เปลี่ยนไป
"เพื่อนฉันเป็นลูกสาวท่านทูต เธอไม่ดื่มของแบบนี้หรอก อย่ามาทำตัวขี้เมาต่ำทรามแถวนี้" เธอพูดด้วยสีหน้าที่ดูถูกฉัน ยัยพวกนี้ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร
"เธอเลี้ยงยัยนี่ด้วยอะไรอะ อาหารเม็ดเหรอ ดูจงรักภักดีมากเลย ถ้าเบื่อแล้วบอกนะจะเอาไปไว้เฝ้าบ้าน" ฉันหันถาม
เดียน่าก่อนที่จะจิกสายตากลับมามองเพื่อนของเธอ ซึ่งยัยนั่นโกรธจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน"แกไม่ต้องเดียน่าฉันจะจัดการยัยนี่เอง" พูดจบเธอก็ตรงเข้ามาฉันทันที
"ฉันให้แกก่อนเลยทีหนึ่ง ตรงนี้" ฉันยืนยิ้มพร้อมกับถอดรองเท้าส้นสูงของตัวเองออกและชี้ไปที่แก้มของตัวเอง นั้นยิ่งทำให้เธอโกรธขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าฉันท้าทายเธอทุกอย่าง
เธอง้างมือขึ้นเหนือหัว แต่ก่อนที่มือนั้นจะมาถึงหน้า ฉันก็เอื้อมมือไปรับข้อมือที่เหวี่ยงมาแล้วกระชากตัวเธอเหวี่ยงเข้าหาเคาน์เตอร์บาร์ด้านหลัง เธอล้มกลิ้งลงใส่เก้าอี้ที่วางเรียงอยู่ ทุกสายตาเริ่มจับจ้องมองมาอย่างสนใจ
เพล้ง!
"กรี๊ด!"
ฉันปัดแก้วเหล้าที่วางเรียงกันอยู่ใส่เธอที่ล้มกองอยู่ที่พื้น ยัยนั่นรีบยกแขนปิดหน้าตัวเองด้วยความกลัว ฉันเดินตรงเข้าไปหาเธอแต่ก็ถูกล็อกแขนทั้งสองข้างไว้จากคนของเดียน่า
ผู้หญิงที่ล้มอยู่ที่พื้นรีบยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะตรงเข้ามาหาฉัน แต่ก็ถูกฉันถีบเข้าที่หน้าท้องจนล้มหงายหลังลงไปอีกรอบ แต่แขนทั้งสองข้างที่ถูกผู้ชายล็อกไว้แน่นนี่ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด
"มีแต่พวกโง่ ๆ จับมันหันมาทางนี้" เสียงของเดียน่าสั่งให้ลูกน้องของเธอที่จับฉันอยู่หันกลับไปทางเธอ
"คุณลูกสาวท่านทูตคะ มันดูเป็นวิธีที่เลวทรามมากเลยค่ะให้ผู้ชายมาจับฉันถึงสองคนแล้วรุมเหรอคะ" ถ้าแบบนี้ก็ไม่ไหวสิ ฉันจะสู้แรงผู้ชายสองต่อหนึ่งได้ยังไง ถูกเหวี่ยงก็ปลิวเป็นใบไม้แล้วเนี่ย
"ปล่อยมัน"
"ขอบใจนะคะที่กรุณา" ฉันกล่าวขอบคุณในจังหวะที่ตัวเองถูกปล่อย
หมับ!
ฉันไม่ได้ถูกปล่อยตามที่ยัยนั่นสั่ง แต่เพียงเปลี่ยนคนจับเท่านั้น ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงสองคนที่เป็นเพื่อนของเธอเข้ามาจับฉันไว้แทน เอาแบบนี้สินะ เดียน่ายืนมองฉันด้วยสายตาอย่างผู้ชนะ
"ระวังฉันหลุดไปได้นะ พวกแกไม่รอดแน่"ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สายตาจ้องมองเดียน่าและเพื่อนของเธอ
เธอเดินตรงเข้ามาใกล้ และเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มฉันลูบไล้ไปตามแก้มไล่ลงมาลำคอ ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มอย่างน่ากลัว เธอง้างมือขวาขึ้นเหนือหัวและเหวี่ยงลงมา แต่ก่อนที่มันจะกระทบหน้าฉันข้อมือถูกจับไว้ด้วยมือหนาของคนสองคน ฉันยิ้มมุมปากและจ้องมองไปยังบุคคลที่เข้ามาร่วม
คินและการ์เนทจับข้อมือของผู้หญิงคนนั้นไว้แน่น ทั้งคู่หันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยมือพร้อมกัน แล้วคินก็เดินผ่าตรงเข้ามาหาฉัน
"ปล่อยเพื่อนฉันยัยพวกสกปรก" เสียงของเคทดังขึ้นพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่จับตัวฉันถูกเหวี่ยงลงไปกองที่พื้น
"มาช้าจังยัยพวกนี้" ฉันหันไปมองเฮเลนที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างฉัน
"แล้วคุณแม่คิมเวลาเมาเคยอยู่นิ่งเหรอคะ ก็เห็นว่าไปรับสายคุณพ่อหายไปนานพวกเราเลยมาเดินตามหาใครจะไปรู้ว่าเธอมาเกาะบาร์สั่งเหล้ากินอยู่ที่นี่"เฮเลนหันมาดุฉันแล้วเธอก็เดินเข้าไปหาการ์เนทที่ยืนมองยัยเดียน่าบีบน้ำตาอยู่
"คิมภัทรชา"
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกฉัน คินจ้องมองฉันด้วยสายตาดุ เมื่อหันไปสบตาน้องตัวเองก็รีบหันตัวกลับไปคว้าแก้วเหล้ามากระดกเข้าปากทันที สายตาเมื่อกี้มันจะฆ่าฉันแน่ เอาให้เมาไปเลยจะได้ตายอย่างไม่ทรมาน
"อึก อึก" แก้วเหล้าที่ยังเหลืออยู่ถูกยกเข้าปากจนหมด
"จะเมาหนีความผิดหรือไง แล้วดูความเละของที่นี่ก็รู้เลยว่าฝีมือใคร" คินกระซิบบ่นในขณะที่ฉันเกาะเขาไว้แน่น ของที่ดื่มไปก่อนน่านี้มันกำลังออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว
"ฝากจัดการด้วยน้องรัก" ฉันเองก็กระซิบตอบเขาไปเช่นกันและหันมองไปยังเฮเลนที่กำลังยืนคุยอยู่กับที่ชื่อเดียน่าและการ์เนท
"ฉันไม่โอเคมากเลยนะที่เธอทำแบบนี้คุณเดียน่า" เฮเลนสวมวิญญาณทายาทมาเฟียเข้าให้แล้ว
"ฮึก ๆ เดียน่าก็แค่เข้ามาคุยด้วยดี ๆ ค่ะ แต่พี่เขาเมาแล้วก็อาละวาดมันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ การ์เนทเดียน่าพูดจริง ๆ นะ" โห สตรอว์เบอร์รีลูกเบ้อเร่อเลย
"ถ้าคุยด้วยดี ๆ คิมไม่มีทางอาละวาด" เฮเลนก็ไม่ยอมเช่นกัน แกรู้ใช่มั้ยว่ายัยนั่นเข้ามาหาเรื่องฉัน
"ฮึก ๆ จริง ๆ นะคะ เดียน่าสาบานเลย ลูกสาวท่าทูตอย่างเดียน่าไม่เคยโกหกค่ะ" เดียน่าพูดด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับบีบน้ำตาไปด้วย ส่วนผู้ชายที่เธอตามจิกตามทวงจากฉันก็เอาแต่ยืนทำหน้านิ่ง
"คินเจ็บ โดนรังแก~" ฉันหันไปอ้อนน้องตัวเอง คินหันมามองทำให้ฉันต้องหุบยิ้มลงและยืนก้มหน้านิ่ง แต่ดูท่าจะเริ่มยืนไม่อยู่แล้วเพราะอาการเมาเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ
"มันน่าเชื่อมากเลยนะ ดูเพื่อนและคนของเธอสิ กับเพื่อนฉันที่มีคนเดียว" เคทถามออกไปและกวาดสายมองไปรอบ ๆ
"ใช่ ฉันสู้ม่ายหวายหรอกนร้า~" ฉันส่งเสียงเห็นด้วยกับเคทในขณะที่ลิ้นพูดไปก็เริ่มพันกัน
"จริงมั้ยที่เพื่อนฉันพูด มีอะไรจะแก้ตัวต่อมั้ยเดียน่า"
เฮเลนเริ่มไล่ต้น ยัยนั่นมองมาฉันด้วยสายตาโกรธแค้น"ไม่จริง เดียน่าแค่มาคุยกับเขาเรื่องการ์เนท ก็เดียน่าเห็นตรงระเบียงน่ะ!" เธอพูดทั้งน้ำตา
"เดียน่า" น้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมกับสายตาดุหันมองเดียน่าของการ์เนท ทำเอาเธอสะอึกในลำคอ เสียงร้องไห้เงียบหายไป
"จัดการเองแล้วกันนะการ์เนท" เฮเลนหันไปบอกผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอ เขาเอาแต่ทำหน้านิ่งแล้วหันมองเฮเลน
"ทำไมต้องจัดการคนเดียวล่ะ ผู้หญิงคนนั้นก็มีส่วนรับผิดชอบด้วยไม่ใช่เหรอ" เขาหันมามองฉันที่ตอนนี้ยืนเกาะไหล่คินไว้แน่นเพื่อหาที่ยืนเนี่ยว
"รับผิดชอบเหรอได้สิ...จัดการด้วยสุดหล่อ" ฉันตบไหล่น้องตัวเองและคินก็รู้หน้าที่ตัวเองดี
"ความเสียหายทั้งหมดของที่นี่ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง"
"เท่านี้ก็น่าจะพอแล้วนะ" ฉันหันไปมองพวกเขาทั้งสองคน ผู้หญิงที่ชื่อเดียน่ามองฉันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรสุด ๆ
"พอหรือยังเดียน่า" เฮเลนถามย้ำในขณะที่เดียน่ายังคงไม่เลิกมองหน้าฉัน คงฝังใจเรื่องที่ระเบียงสินะ
"เราไปกันเถอะคิน" ฉันดึงแขนคินเบา ๆ
"เดี๋ยวต้องจัดการที่นี่ก่อน" คินทำน้าเบื่อหน่ายและมองไปรอบ ๆ ตามพื้นที่กระจัดกระจายไปด้วยเศษแก้วแตก
"จะยืนไม่ไหวแล้วอะ~" ฉันหันอ้อนน้องตัวเอง ตอนนี้เมามากเลยอะ คินถอนหายใจออกมาแล้วยกแขนฉันคล้องคอตัวเอง มือหนาโอบเอวและพยุงพาเดินไปที่รถของตัวเอง
ฉันเดินผ่านเฮเลน เพื่อนของฉันพยักหน้าให้เป็นการรับรู้ว่าเดี๋ยวเธอจะจัดการต่อเอง ส่วนยัยเด็กเดียน่ามองฉันด้วยสายตาแดงก่ำ ฉันยิ้มมุมปากให้เธอก่อนจะเลื่อนสายตามาหยุดที่การ์เนท เขาจ้องมองฉันด้วยสายตานิ่ง น่าหมั่นไส้จริง เพราะเขานั่นแหละที่ทำให้ยัยเดียน่านั้นมาหาเรื่องฉัน
เมื่อนึกอะไรสนุก ๆ ออก ฉันก็เอื้อมมือของตัวเองออกไปสัมผัสข้างแก้มของการ์เนทลูบไล้ไปตามลำคอ เลื่อนลงมาจนถึงแผงออกกว้าง ก่อนที่จะโดนคินดึงมือฉันมาจับไว้แล้วเปลี่ยนเป็นช้อนมือเข้าใต้ขา ออกแรงอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนและพาเดินไปที่รถ
การกระทำของฉันเรียกความตกใจได้จากทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น เฮเลนเอามือปิดปากตัวความตกใจ เดียน่าเบิกกว้างด้วยความตกใจกว่าและการ์เนทหันมามองฉันด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้
ปึง!
เสียงประตูปิดลงหลังจากที่คินจับฉันยัดเข้ามานอนทิ้งไว้เบาะหลัง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วสตาร์ตรถเปิดแอร์ให้ฉันนอนรอ ไฟหน้ารถถูกปิดไว้กันคนรบกวน
"ห้ามวิ่งไปไล่กัดคนนะ นอนอยู่นี่"
"เค้~"
"เพราะแบบนี้แหละถึงไม่อยากให้เมา มันเหนื่อยรู้ไหม" ถึงปากจะบ่นแต่ก็ถอดเสื้อสูทของตัวเองโยนใส่หน้าฉัน
"ไอ้น้องเลว~ งืม ๆ" ฉันกอดเสื้อคินไว้พร้อมกับหลับตา น้ำเมาทุกชนิดที่กินเข้าไปผสมกันภายในตัวกำลังเล่นงานฉันแล้ว ฉันนอนรอคินอยู่บนนอนปล่อยให้เขาไปจัดการสิ่งที่ฉันทำเอาไว้
ไม่รู้ว่าฉันนอนไปนานแค่ไหน แต่อยู่ ๆ ฉันก็สะดุ้งลืมตาตื่นและยันตัวลุกขึ้นนั่ง สายตาจ้องมองไปยังนอกรถ ร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้ารถไป
"เด็กบ้านั้น..." เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถด้วยเท้าเปล่า
ร่างบางเดินโซเซ สายตาจ้องมองไปยังรถหรูคันสีดำที่จอดอยู่ ผู้ชายที่เธอเดินตามมากำลังก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ เธอหยุดชะงักด้วยความงุนงงก่อนที่จะหันกลับไปมองยังรถด้านหลังของเธอ
"ฉันจะไปไหนนะ..." เธอพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยและก็เหมือนจะนึกอะไรออก
"อ่อ ไปขึ้นรถ" พูดกับตัวเองจบเธอก็หันกลับมาเดิมไปทางรถยนต์ที่เปิดไฟจอดอยู่ ร่างบางหยุดชะงักอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง
"นั้นใช่...รถฉันหรือเปล่านะ" ด้วยความเมาที่เล่นงานเธอ ทำให้สายตาเริ่มพร่ามัวแต่รถของเธอคือคันที่สตาร์ตรถทิ้งไว้สิ รถที่อยู่ด้านหลังไม่มีไฟติดด้วยซ้ำ นั้นทำให้เธอคิดว่ารถคันนั้นไม่ใช่รถของเธอ
"คันนั้นสินะรถฉัน"ในที่สุดเธอก็ตัดสิ้นใจได้ แล้วหมุนตัวเดินไปยังรถที่สตาร์ตเครื่องเปิดไฟไว้ เธอเดินมาจนถึงก่อนที่จะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งเบาะหลัง สายตาหันไปสบตากับชายผู้นั่งอยู่บนรถก่อนแล้ว
"เด็กบ้านี่" เสียงเล็กพูดกับตัวเองเบา ๆ และขยับ
"เธอขึ้นมาได้ยังไง รุู้ไหมนี่รถใคร" เสียงผู้ชายอีกคนดังขึ้น ทำให้้เธอหันไปมองเขาทันที ชายที่นั่งเบาะคนขับมองเธอด้วยความตกตะลึง หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาในนิยายกำลังสะกดสายตาเขา แต่สติของเขาก็กลับคืนมาเมื่อได้ยินเสียงของชายผู้เป็นเจ้านาย
"ปิดฉากกั้น"
"คะ ครับ" หลังคำสั่งของชายผู้เป็นเจ้านาย เขาก็กดให้ฉากทึบเลื่อนขึ้นกั้นระหว่างเบาะหน้าและเบาะหลังจนมันปิดสนิท ฉากนี่นอกจากจะกั้นไม่ให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบาะหลังแล้ว ยังกั้นได้แม้กระทั่งเสียง
หลังจากฉากปิดขึ้นจนสนิทปุ่มล็อกรถก็ถูกปิดด้วยเช่นกัน ผู้หญิงที่ก้าวขึ้นรถของเขามาตอนนี้เธอกำลังดันเขาจนหลังชิดประตู แขนเรียวทั้งสองข้างคร่อมยันกระจกไว้ ใบหน้าเนียนโน้มเข้ามาใกล้ ผมยาวสลวยตกลงมาโดนหน้าเขา
การ์เนทจับผมที่ตกลงมาออกจากหน้า ก่อนที่เขาจะรวบผมของเธออ้อมต้นคอมาไว้ที่ฝั่ง ๆ เดียว สายตาของทั้งคู่จับจ้องกันไม่วางตา ตอนนี้เขาก็ไม่เข้าใจตัวเธอว่าเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่ ทั้งที่แฟนตัวเองก็มาด้วยแท้ ๆ แต่ก็ยังจะเข้ามาหาเขาถึงในรถ แต่วันนี้ยัยนี่สวยมากจนทำใจเขาสั่นได้
"นายน่ะ..เป็นแฟนยัยเด็กเดียน่านั่นใช่ไหมล่ะ" อยู่ ๆ เธอก็พูดขึ้น
"ไม่ใช่"
"เหรอ...แต่เด็กนั้นบอกว่ากำลังคบกับนายอยู่~" น้ำเสียงอ้อแอ้ของเธอกำลังทำให้เขาต้องกลั้นยิ้ม
"ก็บอกว่าไม่ใช่"
"ช่างเหอะ แค่จะบอกว่าเด็กนั่นอะมีเพื่อนไม่ดีมาก ๆ เลย ชอบยุแยง นายก็ไปเตือนหน่อยแล้วกัน~" อยู่ ๆ ก็ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาซะงั้น แต่ท่าของเธอตอนนี้กำลังทำให้เขาอดคิดไม่ได้
มือเล็กเปลี่ยนจากยันกระจกมาจับไหล่ไว้แทน ขาเรียวขึ้นนั่งคร่อมอยู่บนตัว หน้าอกอวบอยู่ในระดับสายตา สายตาคมจ้องลึกเข้ามาในตาก่อนที่ใบหน้าของเธอจะขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
ริมฝีปากแดงจูบลงบนริมฝีปากของเขาแน่น ลิ้นเล็กขยับดันเข้ามาในปากของเขาอย่างง่ายดาย มือหนาโอบแผ่นหลังเปลือยแนบชิดเข้าหาตัว มืออีกข้างเกี่ยวสายเดี่ยวชุดเดรสลง เผยให้เห็นบราเซียเกาะอกที่ปกปิดได้แค่บางส่วน เพราะอกอวบที่ใหญ่เกินตัวของเธอมันล้นโผล่ออกมาให้เขาได้เห็น
เธอถอนริมฝีปากออกช้า ๆ แล้วเอียงหน้าซุกลง พรมจูบไปที่ต้นคอ มือเล็กปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด เขาปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองโดยที่เขาไม่ขัดขืนเลยสักนิด
"แฟนเธอล่ะ"คำถามของเขาไม่ได้ทำให้เธอหยุดการกระทำทุกอย่างได้เลย เธอยังคงจูบและขบเม้มไปตามลำคอ ไล่มาจนถึงแผงอก
"..." เธอไม่ตอบ และยังคงง่วนอยู่กับร่างกายของเขา
"ฉันจะถือว่าครั้งนี้เธอก็เข้ามารุกล้ำในที่ของฉันอีกเหมือนเดิมนะ ยัยขี้เมา" เขาพอที่่จะรู้จักตัวเธอได้เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือถ้าเมาเมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนเป็นอีกคนทันที
"พี่เฮเลนแจ้งทุกอย่างไปที่พี่คิมนะครับ เดี๋ยวจะให้มาจัดการเอง" เพื่อนสาวคนสนิทของพี่คิมไปแต่ยิ้มเจือน ๆ ก่อนที่จะก้มมองราคาค่าความเสียหายทั้งหมดบนกระดาษในมือ"ห้าพันยูโรเลยนะเนี่ย" เกือบสองแสนบาทไทย ฝีมือพี่สาวของผมเอง"นี่ถือว่าเบาแล้วครับ" สูงสุดที่เคยจ่ายคือสองล้านบาท สาเหตุเกิดขึ้นจากการเมาแล้วปีนขึ้นไปเต้นบนรถซูเปอร์คาร์จนต้องดูแลสีรถให้เขาใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นี้สบายมาก"แล้วเพื่อนตัวดีของพี่เอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนแล้วล่ะ""ปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ที่รถครับ""จะไม่หลุดหายไปไหนใช่มั้ย" พี่เฮเลนพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว"ไม่หรอกครับ เมาขนาดนั้นแค่เดินก็ยากแล้ว" เล่นกินเหล้าทุกรูปแบบขนาดนั้นคงตีกันเละเทะจากภายใน"ได้ล็อกไว้กับรถหรือเปล่า" คำถามของพี่เฮเลนทำให้เอะใจเล็กน้อย แต่พอนึกสภาพพี่สาวตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย"แค่ลืมตาก็ยากแล้วครับ เดินไปไหนไม่ได้หรอก" พี่เฮเลนทำสีหน้าคิดตามแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย"เดี๋ยวพี่จัดการเองต่อจากนี้ พาคิมกลับบ้านเถอะนะ""ครับ" แล้วก็ลาพี่เฮเลนแล้วเดินไปที่รถทันที ภายนอกแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงรถไม่กี่คันจอดอยู่เท่านั้น หนึ่งในนั้นคือรถคันสีดำที่จอ
รถยนต์คันหรูวิ่งผ่านประตูรั้วทึบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังประตูซ่อนความลึกลับของคฤหาสน์สีดำสุดหรูเอาไว้ บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าสถานที่ภายในแห่งนี้เป็นของใคร รถยนต์ตรงเข้าจอดลงหน้าประตูตัวบ้านประตูรถถูกเปิดออกจากชายชุดดำที่ยืนรอต้อนรับอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักลง และมองหน้ากันด้วยความตกใจ หญิงสาวร่างบางนอนหลับสนิทหนุนตักของชายผู้เป็นเจ้านาย บนตัวของเธอมีเสื้อคลุมสีดำปกปิดอยู่เสื้อเชิ้ตของเจ้านายพวกเขาหลุดลุ่ย กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เจ้านายผู้หวงพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่เคยพาคนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันอุ้มเอง มาเปิดประตูฝั่งนี้" เสียงของผู้เป็นนายดังขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องของตนเอื้อมมือจะมาสัมผัสตัวของเธอ"ครับ"ปึง! ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองหน้ากันอย่างหาคำตอบกับเรื่องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เจ้านายของเขานั่งอยู่ออกร่างสูงยกหัวของเธอที่นอนหนุนตักออกพร้อมกับก้าวลงจากรถ และออกแรงอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเบาจัง เขาได้แค่คิดในใจแล
"อย่าพูดอะไรบ้า ๆ นะ" ไม่! มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย"ไม่ได้พูดอะไรบ้า ๆ แต่พูดจริง" สายตาของเขามันบอกว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ"ไม่ ๆ ๆ เรามาตกลงกัน""ตกลงว่า""ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานฉันจะไม่ถือสา เราจะไม่พูดถึงมันอีก" การ์เนทเอียงคอมองฉันด้วยท่าท่างที่ดูน่ารัก ทำไมอยู่กับฉันนายกลายเป็นเด็กน้อยล่ะ มันแตกต่างจากตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายลิบลับเลย อย่าทำแบบนี้ใจฉันเต้นแรง"หน้าแดงทำไม" การ์เนทถามฉันและยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าใกล้อย่างช้า ๆ ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้า แต่ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสริมฝีปากฉันก็ดันเขาออกแล้วขยับถอยหลังหนี"เด็กบ้านี่..." ฉันพึมพำกับตัวเอง แต่สายตาก็จ้องมองไปที่เขาการ์เนทพาตัวเองขึ้นมายังบนเตียงและคลานเข้ามาหา ฉันถอยหลังจนชิดกับพนักพิงหัวเตียง มือเล็กดึงผ้าห่มมาม้วนตัวแล้วพลิกหมุนลงข้างเตียง เมื่อเท้าแตะพื้นก็วิ่งไปทางประตูห้องทันทีแกร๊ก ๆ ๆกลอนประตูถูกล็อกจากด้านนอกงั้นเหรอ ฉันเขย่าประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดปึง ๆ"เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เงียบ~ปึง ๆ ๆ ๆ ๆ"เปิดประตู!" เงียบ~ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ทุกอย่าง
ณ บริษัทของคิมฉันยังอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกมาเฟียที่ไหนจับตัวไปฆ่าตาย ซึ่งนั้นเป็นเพราะสกิลล์การหลบของฉันเอง หนึ่งวันที่ผ่านมายังคงปกติดี แต่มันน่าเบื่อเกินไป(ฉันกับเจส เรากำลังจะแต่งงานกัน)(กรี๊ด!!)"ดีใจด้วยนะ"ตอนนี้เรากำลังวิดีโอคอลล์กลุ่มกัน คารีน่าเพื่อนสาวในกลุ่มกำลังจะประกาศสละโสดไปอีกหนึ่งคน ถือว่าเป็นวัยที่ต้องแต่งงานกันแล้วทั้งนั้น ฉันก็มีหน้าที่เดินสายร่วมงานแต่งต่อไป(แล้วคิมเมื่อไหร่จะมีแฟน) อยู่ ๆ จุดสนใจก็พุ่งเป้ามาที่ฉันแทน"มีทำไมฉันสวยเกินกว่าจะมีใครมาเหมาะสมย่ะ" เมื่อได้ยินคำตอบของฉันทุกคนต่างแย่งกันสาปแช่งด้วยความหมั่นไส้(ถ้าอยู่ ๆ ยัยคิมเปิดตัวแฟนขึ้นมาคงช็อกน่าดู ผู้ชายแบบไหนนะที่จะจัดการยัยคิมของพวกเราได้) เคทพูดพร้อมกับทำหน้าสงสัย"ไม่มีหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าสวยมากเกินกว่าจะมีใครเหมาะสม" ฉันพูดพร้อมกับยืดอกอย่างภูมิใจ(น่ารำคาญจ้า~) เสียงพวกเพื่อนทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน"ยัยพวกนี้นี่ หยุดพูดเรื่องฉัน แล้วมาช่วยกันคิดเรื่องจัดปาร์ตี้ฉลองให้คารีน่ากันก่อนดีกว่า แล้วปาร์ตี้สละโสดก็จัดต่างหาก" ฉันพูดด้วยอาการดี๊ด๊าสุดตัว(นั่นสินะ เราไปจัดที่คลับการ์เบรียลล่ากันดีมั้
ย้อนกลับไปยี่สิบนาทีก่อน(คิม)"แกหายไปไหนมา" เคทรีบตรงเข้ามาถามเมื่อเห็นเดินกลับมาที่โต๊ะ ทุกคนต่างดูเป็นห่วงที่ฉันหายไป"หลบในห้องน้ำมา โดนผู้ชายตามตื๊อ" ฉันพูดกับทุกคนและยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหมดในทีเดียว"ผู้ชายที่ไหน ให้ฉันจัดการมั้ย" เฮเลนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"ฉันจัดการไปแล้ว""หล่อมั้ย" เคทที่สนใจแต่ความหล่อของผู้ชายหันมาถามฉัน ฉันกลอกตาไปมาและนึกถึงหน้าการ์เนท"ไม่หล่อ ขี้เหร่มาก" ฉันหันไปบอกเคทและเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตัวเอง"จะไปไหนคิม" คารีน่าถามขึ้นด้วยความสงสัย"ฉันมีเรื่องจำเป็นที่ต้องขอกลับไปที่โรงแรมก่อนนะ" ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้ไกล"มีเรื่องอะไร" คารีน่าถามอย่างเป็นห่วง ฉันไล่สายตามองไปที่เพื่อนแต่ละคนก่อนจะหยุดสายตาลงที่คารีน่า"ไปห้องน้ำกับฉันหน่อยคารีน่า" ทุกคนต่างทำหน้าสงสัย แค่คารีน่าก็ยอมไปกับฉันอย่างว่าง่ายปึง!ประตูห้องน้ำปิดลงโดยมีฉันและคารีน่าอยู่ในห้องเดียวกัน"สลับชุดกัน" เธอมองฉันด้วยความสงสัย"คิมเป็นอะไร เหมือนกับว่าจะหนีจากอะไรสักอย่าง""เดี๋ยวเอาไว้ผ่านวันนี้ไปฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ฉันต้องการชุดแบบเป็นกางเกง"
เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ จ้องมองเด็กผู้หญิงที่วิ่งผ่าสายฝนผ่านเขาไป ผมยาวสลวยสีดำ ใบหน้าหวานราวกับนางฟ้า เท้าเปล่าเปื้อนดิน ชุดสวยที่สวมใส่มอมแมมไปด้วยคราบเลือดและดินโคลน ในอ้อมแขนมีร่างแมวนอนหายใจรวยริน"เดี๋ยวมันก็ตาย" คำพูดของเด็กชายทำให้เธอหยุดและหันมาขมวดคิ้วมองเขา"หลานคุณปู่นี่...มันจะไม่ตาย" เธอเถียงสู้อย่างไม่ยอม สายตาไร้ความรู้สึกมองไปยังร่างลูกแมวในอ้อมแขนของเธอ"ช่วยไปก็เท่านั้นยังไงมันก็ต้องตาย" เขาเอาแต่พูดคำเดิมซ้ำ ๆ"มันจะไม่ตาย ยังไงมันก็จะรอด ชีวิตลูกแมวตัวนี้จะเป็นของคิม" พูดจบเธอก็วิ่งไปโดยไม่หันมาสนใจเขา"..." เขาหันมองเธอที่วิ่งฝ่าสายฝนสวนทางกับกลุ่มชายจำนวนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา"ทำไมไม่เรียกชื่อกันบ้างล่ะ.." เสียงพูดแผ่วเบาที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน(ปัจจุบัน)มือเล็กกำลังลูบไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องหยุดชะงักลงกลางคัน เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น มืออีกข้างขยุ้มท้ายทอยเขาไว้และกดหัวลงแนบอก ปลายลิ้นชื้นเลียรอบฐานชมพู สร้างความเสียวไปทั่วทั้งร่างกายคนตัวสูงสอดมือเข้าใต้หว่างขา ปลายนิ้วกรีด สัมผัสร่องเสียวอย่างเบามือ หญิงสาวก้มสบตาด้วยใบหน้าแดงก่ำจากทั้ง
"ฉันชอบที่แกเป็นแบบนี้แหละ" เคทกระซิบพูดอยู่ด้านหลัง เฮเลนเองก็ยิ้มอย่างพอใจ"ค่ะ จะรอวันงานรับตำแหน่งของการ์เนทนะคะ" เมเดียพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ สาบานเถอะว่าเธอพูดออกมาจากใจจริง ส่วนสายตามองฉันหัวจรดเท้า มีแค่คนที่อยู่เบื้องหน้าเท่านั้นที่จะมองเห็น"แล้วเจอกันค่ะ" ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งหมด ถือว่าพลาดที่วันนี้ตั้งใจแต่งตัวแบบนี้ ตอนแรกแค่จะทำให้การ์เนทไม่พอใจ แต่ดูท่าจะเป็นฉันเองที่ไม่พอใจ แล้วยังมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ สายตาแบบนี้ คำพูดแบบนี้"ว่าแต่ที่มาหาเธอที่นี่ เพราะจะพามาแปลงโฉมเตรียมวันงานเหรอการ์เนท ให้ฉันช่วยมั้ย" ฉันมั่นใจแล้วว่าเธอไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ก็ไม่แปลกฉันเป็นสายนักธุรกิจ ไม่ใช่พวกดาราหรือกลุ่มคนทำงานให้รัฐบาลอย่างมาเฟียแบบกาาร์เนทและเฮเลน"ไหนบอกจะมาคุยเรื่องงาน ไม่คุยแล้วเหรอครับ" ดูเหมือนเธอจะลืมจุดประสงค์ ฉันว่าเธอมาหาเขา อยากให้พาเขาไปให้ห่างฉันจริงแต่ความหมั่นไส้มันมีมากกว่านี่สิ"ก็คุยงานก่อนไงคะ เสร็จแล้วฉันจะได้ช่วยเธอ" เธอพูดกับการ์เนทด้วยสีหน้าที่ใจดี"ไปคุยเรื่องงานก่อนเถอะนะการ์เนท ฉันรอได้" ฉันพูดแทรกขึ้น ยอมรับว่าไร้มารยา
หลังจากรับประทานอาหารร่วมกับคุณปู่และคนอื่น ๆ เรียบร้อย ฉันที่เดินคอตกตามหลังการ์เนทมาติด ๆ ในหัวก็คิดหาวิธีหนีจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทำยังไงก็ไร้ปัญญา แกมันโง่ ยัยคิมปึก!"เจ็บ!" ฉันที่มัวแต่เดินก้มหน้ามองเท้าตัวเองไม่สนใจทาง ชนเข้าหลังของการ์เนทอย่างแรง เขาหันกลับมามองฉันที่ยืนกุมจมูกตัวเองไว้แน่น"คิดอะไรอยู่""หาวิธีหนี" ไม่รู้จะโกหกทำไม ที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้มาตลอด"หยุดคิดอะไรที่ทำให้เวลาชีวิตเหลือน้อยลงเถอะ" เขามองฉันด้วยสายตาดุแบบที่ทุกคนต่างกลัว"คิดว่ากลัวหรือไง"พูดจบก็เดินกระแทกแขนเขาและเดินขึ้นไปนั่งบนรถ"ฉันจะไปส่ง มานั่งข้าง ๆ สิ" การ์เนทโน้มตัวเข้ามาในรถ เพราะฉันเลือกที่จะนั่งเบาะหลัง"ฉันจะนั่งตรงไหนของรถก็ได้ แล้วอีกอย่าง ฉันชินที่จะนั่งแบบนี้เพราะมีคนขับให้""ได้สิ...เอาไป" การ์เนทโยนกุญแจรถให้คนของเขาและทำทีจะก้าวขาเข้ามานั่งข้างฉัน"ไปขับ จะเข้ามาทำไม!" เขาหยุดและหันมามองฉันอีกครั้ง แต่ปากก็พูดกับลูกน้องตัวเอง"ไปขับแล้วปิดฉากกั้นด้วย ฉันจะนั่งคุยกับนายหญิงอีกครั้ง" เมื่อได้ยินคำว่าอีกครั้งต่อท้ายของเขาก็ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ ตอนเมามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นในรถ ความ
"ไม่มีไปที่ไหนเหรอครับวันนี้" การ์เนทเดินเข้าไปถามปู่ถึงในห้องทำงาน"อยากให้พาไปที่ไหนก็พูดมาเลย" เขาแกล้งพูดแหย่หลานตัวเอง ก็เดี๋ยวนี้การ์เนทดูจะอยากไปข้างนอกมากขึ้น เหมือนว่ารอจะได้ไปเจอใคร"เปล่าครับ""ถ้าอยากไปหาหนูคิมก็คงต้องรอไปก่อน" ปู่ของเขาพูดขึ้นในขณะที่หลานชายกำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง ทำให้การ์เนทหยุดชะงักและหันมามองที่ปู่"...""ครอบครัวของเธอกลับประเทศไทย สักพักคงกลับมา" เขาพูดได้เพียงเท่านี้"เหรอครับ""เอาไว้ปู่จะโทร. ไปหาเขาให้นะ""ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้" เย็นชาเกินไปแล้วหลานของเขา"ไม่อยากรู้จริงเหรอ""ครับ" ปากไม่ต้องกับใจสุด ๆ"ที่กลับประเทศไทยด่วน เพราะหนูคิมเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้" คำพูดของปู่ทำให้เขายืนนิ่ง"....""หนูคิมถูกส่งตัวไปรักษากับหมอด้านประสาทที่เก่งที่สุด ซึ่งเขาอยู่ที่ประเทศไทย""เป็นอะไรมากหรือเปล่า" การ์เนทตรงเข้ามาถามปู่ของเขาด้วยความเป็นห่วง"ไม่หรอก แล้วอีกอย่างหนูคิมยังเรียนอยู่ที่ไทยด้วย ที่มาก็จะมาแค่ช่วงปิดเทรมเธอก็ต้องกลับไปเรียน"แค่เห็นปฏิกิริยาจากหลานของเขาก็ทำให้ไม่กล้าพูดเลยว่าเธอเข้าสู่สภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากผลกระทบของ
"ฮึก ฮือ!"ย่าของเขาร้องไห้พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายไว้แน่น ลูกชายของเธอก็คือพ่อของการ์เนท เขายืนมองร่างของพ่อที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนอนราบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เกิดมา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพ่อเคยคุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ความผูกพันและความรัก เขาจึงไม่เคยได้รับมันเลยจากทั้งพ่อและแม่เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากที่ว่าพ่อตายเพราะโรคประจำตัวเท่านั้น ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับต่อสื่อและเขางานศพถูกจัดขึ้นและไว้อาลัยแด่บอสมาเฟียลำดับที่หนึ่งของอิตาลี ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาร่วมงาน เด็กชายในชุดสูทสีดำมองใบหน้าเศร้าโศกของย่าก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้"ฮือ! หลานย่า ฮือ!"เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกสงสารหลานตัวเองจับใจ ที่เขาขาดไปทั้งพ่อและแม่ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายดูแลเขาแต่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้"ไม่ต้องร้องนะครับ""ฮือฮือ"คำพูดของหลานยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เด็กคนหนึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่ แต่เขากับไม่มีน้ำตาออกมาให้ได้เห็น ที่ผ่านมาเขาอยู่ท่ามกลางความรักของย่าและปู่เท่านั้น ความรู้สึกต่อพ่อแม่จึงกลายเป็นศูนย์พิธีศพเป็นไปตามธรรมเนียม แต่คนขี้เบื่
"ตอนเย็นการ์เนทไปกับปู่มั้ย" ปู่ของเขาถามขึ้นในขณะที่นั่งมองหลานชายของเขาเดินเลือกดอกไม้"ไปทำอะไรครับ" เขาถามกลับมาไป แต่ไม่หันไปสนใจปู่ของเขาสักนิด ถึงภายนอกจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นถาม"ปู่จะพาการ์เนทไปงานวันเกิดของลูกสาวคนที่ปู่สนิท ไปด้วยกันนะ"เขาพยายามสุดความสามารถที่จะทำให้หลานของเขากลับมามีโลกที่มีชีวิตชีวาแบบเด็กวัยเดียวกัน ถึงบางทีเขาจะยังทำเป็นไม่ใส่ใจคนรอบข้างไปบ้าง แต่การ์เนทก็ดีขึ้นจากตอนแรกที่รับเขามาดูแล"ไม่ครับ""ทำไมล่ะ การ์เนทต้องมีเพื่อนนะ""ไม่จำเป็น" การ์เนทเลือกดอกไม้ที่เขาสนใจขึ้นมาทีละดอก แล้วนำมันมาวางเรียงกันบนโต๊ะ"ถ้าไม่อยากมีเพื่อนแล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดเหรอ""ก็อยู่ได้""ลองไปพบเจอเด็กวัยเดียวกันดูมั้ย" ผู้เป็นปู่พยายามสุดตัวที่จะพาหลานเขาไปให้ได้ อย่างน้อยให้เขาได้เจอสังคมภายนอกมากกว่านี้"ไม่อยากเจอ ขี้เกียจหาของขวัญ""นี่ไง เราจะเอาดอกไม้ที่การ์เนทกำลังจัดไปให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ" คำพูดของปู่ทำให้เขาหยุดมือที่กำลังดึงดอกไม้ขึ้นมาทันที สายตาของเด็กน้อยหันไปมองปู่ของเขา"ไม่มีใครอยากได้ของผมหรอกครับ"เขาไม่รู้เลยว่ามาสนใจ
เพล้ง เพล้ง!"คุณกล้าเอาอีผู้หญิงแบบนั้นขึ้นมาเหนือฉันเหรอ หา!""หุบปาก น่ารำคาญ!""เคยเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย หา!""บอกให้หุบปากไง!"พลั่ก!ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกกับผนังท้อง เธอล้มลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น อาการจุกบริเวณช่วงท้องทำให้เธอนอนตัวงอ ขยับไปไหนไม่ได้"แม่..."เด็กผู้ชายวัยห้าขวบเดินเข้ามาหาเธอและพยายามปกป้องเธอเท่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้"กลับไปที่ห้องการ์เนท!" ผู้เป็นพ่อกระชากแขนเล็กของเด็กชายแล้วลากเขาโยนออกจากห้องอย่างไม่ไยดีปัง!ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงต่อหน้าเขา เสียงทะเลาะดังมากจากภายในห้องนั้นอย่างต่อเนื่อง เด็กชายยืนฟังเสียงอยู่นาน จนกระทั่งพี่เลี้ยงของเขามาพาตัวเขาออกไปตลอดระยะเวลาที่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ ตลอดเวลาเขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตลอด ถึงแม้ว่าแม่เอาแต่ใช้เวลาในหนึ่งวันไล่ตามเฝ้าพ่อของเขาก็ตามความรักและความสนใจเขามักจะได้รับจากคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้มาตลอดคือ พ่อและแม่ของเขาไม่เคยรักกันจนในที่สุดคุณปู่และคุณย่าก็ทนเห็นสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว พวกท่านทั้งสองคนมารับตัวผมไปอยู่ด้วยตอนอายุได
"คุณพ่อขา ฟีฟี่อยากได้ม้า"เด็กสาววัยสามขวบชี้นิ้วไปยังการ์ตูนในจอโทรทัศน์ ม้าโพนีตัวสีชมพูวิ่งไปมาอยู่ตรงหน้า เธอหันมากอดคอผู้เป็นพ่อและซบหน้าลงบนไหล่"อันนั้นเป็นม้าโพนีค่ะ เป็นการ์ตูนก็คงหาให้ฟีฟี่ได้แค่ตุ๊กตา พ่อก็อยากซื้อม้าจริง ๆ ให้ฟีฟี่แบบนั้นนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าจะไปหามาให้จากที่ไหน" เขาอุ้มลูกสาวตัวเล็กมานั่งตัก"ถ้าม้าเป็นสีชมพูแบบนั้นจะต้องน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ สัตว์บนโลกให้เป็นสีชมพูก็น่ารักหมดเลย" เธอเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้าง ยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟีฟี่ทำให้ผู้พบเจอต่างพากันสดใสตามเธอ"สัตว์บนโลกทุกตัวน่ารัก ฟีฟี่ต้องรักพวกเขาให้มาก ๆ นะ อย่าไปรังแกพวกเขา""ค่ะ ฟีฟี่รักสัตว์บนโลกทุกตัว แล้วก็รักคุณพ่อขาด้วย" ฟีฟี่ลุกขึ้นยืนบนโซฟาและกอดคอของผู้เป็นพ่อไว้แน่น"อ๊าก !"เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากประตูบ้าน เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเด็กผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ ฟีฟ่า แฝดผู้น้องโครม!ฟีฟ่าทรงตัวอยู่เซิร์ฟสเก็ตวิ่งเข้ามาในบ้าน ถึงความเร็วจะไม่มาก แต่พื้นของบ้านที่ไม่เหมาะกับการเล่นทำให้ลื่นแล้วล้มกลิ้้งอยู่ที่พื้นการ์เนทหันมองไปยังลูกชายของตัวเอง คนในบ้านต่างวิ่งเข้ามาเพื่อจะ
"ใกล้ถึงแล้วครับ"เสียงคนขับรถเรียกสติให้ฉันกลับไปสนใจสถานที่ตรงหน้า"ค่ะ"สายตามองไปยังอาคารหรูตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สถานที่รวมตัวของกลุ่มมาเฟียจากหลายประเทศ ทุกคนต่างมาเพื่อแสดงความยินดีและแสดงความต้อนรับแก่บอสมาเฟียคนใหม่ รวมไปถึงการประกาศของการผู้นำคนใหม่ของลำดับที่สองและที่สามด้วย นั่นคือเฮเลนและสามีของเธอรถยนต์จอดหยุดลงหน้าทางเข้า ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มชายจำนวนมากต่างยืนเรียงรอต้อนรับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ"เชิญครับ" เขายื่นมือมาให้เธอพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย"ขอบคุณค่ะ" ฉันก้าวเท้าลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่นอกอาคารจำนวนมากต่างจ้องมองมาทางฉันถึงจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากการถูกมอง แต่คนจำนวนเยอะขนาดนี้ฉันก็เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก นี่ขนาดด้านนอกนะ ยังไม่ได้เข้าไปในอาคาร"คนเยอะมากเลยนะคะ" ฉันหันไปพูดกับคริสเตียนที่ออกมารอรับ"ข้างในเยอะกว่านี้ครับ ทุกคนรอพบนายหญิงอยู่" ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันได้ไม่น้อย"ฉันดูสำคัญมากเลยนะคะ""สำคัญสิครับ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับบอสนี่ แล้วอีกอย่างบรรดาญาติก็อยากเห็นผู้หญิงที่การ์เนทเฝ้ารอมาตลอดสิบปีครับ" คำพูด
"นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอการ์เนท""ก็พอเป็นบ้าง""ว้าว ทำข้าวต้มเป็นด้วยสินะ" ฉันมองข้าวต้มในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่"ดูจากในเว็บมาครับ" คำตอบของเขาทำฉันหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"ทำได้น่ากินขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนไทยแท้ ๆ ยังทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นเลย เต็มที่ก็ไข่ดาว" ฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอก เดี๋ยวผมจะจ้างพ่อครัวตามความถนัดของอาหารแต่ละประเทศมาไว้บ้าน เผื่อพี่คิมอยากกินอาหารประเทศอื่น" สายตาที่แสดงออกมาคือเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ"ฉันว่าไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ" ฉันต้องหยุดเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ"เอาแบบนั้นเหรอครับ""เอาแบบนั้นดีแล้ว อย่าต้องให้มีพ่อครัวมากไปกว่านี้เลยนะ" แค่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว"พี่คิมลองชิมมั้ย" การ์เนทใช้ช้อนตักข้าวต้มในหม้อขึ้นมาเป่า แล้วป้อนให้ฉัน"อื้อ~" ฉันแกล้งทำเสียงและกลอกตาไปมา"อร่อยมั้ย""อ่า~""...""อืม~""เดี๋ยวเททิ้งแล้วให้พ่อครับมาทำให้ใหม่แล้วกัน" การ์เนทปิดเตาแล้วทำทีจะยกหม้อไปเททิ้งจริง ๆ"เดี๋ยวสิ ขี้น้อยใจจังเลยนะ อร่อยมาก""ก็พี่คิมทำหน้าเหมือนไม่อร่อย" แค่ฉันแกล้งเล่นก็ทำลายความมั่นใจของเขาไปจนหมดเลยเหรอเนี่ย"อร่
ณ ห้องทำงานของคิมติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่โทร. เข้ามา มือเรียวเอื้อมไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน"สวัสดีค่ะ"(คิม)เสียงจากปลายสายทำให้ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ เบอร์ที่ไม่คุ้นตาแต่เรียกชื่อฉันเหมือนรู้จักกันมานาน เสียงปลายสายก็คุ้นหูพอสมควร"ใครพูดสายคะ" เพื่อความแน่ใจจึงเลือกที่จะถามออกไปเลย(โจเซฟ) ฉันว่าแล้วไง"มีเบอร์ฉันได้ยังไง" หากันง่ายเหลือเกินคนพวกนี้(ขอมาจากเพื่อนเก่าน่ะ) ฉันถอนหายใจใส่โทรศัพท์"แล้วโทร. มามีอะไร"(เธอทะเลาะกับเขาเรื่องที่เราไปกินข้าวกันใช่มั้ย)"รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา" ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองตรงไปยังด้านหน้า(เราเป็นห่วง แล้วตอนนี้ดีกันหรือยัง)"ก็ปกติ"(...ก็ดีแล้ว) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า"โทร. มาถามแค่นี้ใช่มั้ย"(อย่าเพิ่งวางนะ คิมลืมไปหรือยังว่าวันนี้วันอะไร) วันอะไรงั้นเหรอ ฉันมองไปยังวันที่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ"วันศุกร์" มีหวังตอบไปว่ารู้ก็คอขาดพอดี(ฮ่าฮ่า คิมลืมก็ไม่แปลกมันนานมาแล้วนี่...วันนี้วันเกิดเราเอง)"อ่อ งั้นเหรอ"(วันนี้วันเกิดเรา คิมมาหาเราได้ไหม) โจ
"เดี๋ยวฉันต้องไปส่งเคทที่บ้าน ส่วนเฮเลน สามีจะมารับ" ฉันยืนมองเพื่อนสาวสองคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา คนที่เมาหนักสุดน่าจะเป็นเคท"เคทเดี๋ยวมีคนมารับ" หลังจากคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จเขาก็หันมาบอกฉัน"นายจะให้คนไปส่งเคทเหรอ เดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้นะ""ไม่ต้องหรอก คนที่จะมารับรู้บ้านของเธอดี" การ์เนทดูมั่นใจมาก เขาส่งยิ้มให้ฉันและเดินไปสั่งงานกับคนของตัวเอง ฉันได้แต่ยืนมองเพื่อนสองคนที่เมาหลับไม่รู้เรื่องสองคนนี้ถือว่าเป็นคนที่ไปไหนไปกันเสมอ ขอให้ช่วยหรือทำอะไรก็ไม่เคยบ่น แม้แต่วันนี้เมาเละขนาดนี้ก็เพราะฉันไม่สามารถดื่มได้ ทั้งสองคนจึงจัดการให้เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าฉันดื่มไปเยอะ"สามีคุณเฮเลนมาแล้วครับ" ลูกน้องของการ์เนทเดินเข้ามาบอกฉัน พร้อมกับสามีของเฮเลนเดินตามหลังเข้ามา"ขอโทษด้วยนะ" ฉันกล่าวขอโทษเมื่อสามีของเพื่อนสาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาส่งยิ้มให้ฉันและมองไปที่ภรรยาของตัวเอง"ไม่เป็นไร เฮเลนบอกแล้วว่าวันนี้ต้องมาทำอะไร" สามีของเฮเลนเข้าใจธรรมชาติของพวกเราจริง ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและช้อนอุ้มเฮเลนไว้ในอ้อมแขน"ขับรถกลับดี ๆ นะ""ดีกับการ์เนทแล้วใช่มั้ย" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก