คนตัวสูงตรงหน้าจ้องมองด้วยสายตานิ่งเฉย มือหนากำข้อมือเล็กแรงขึ้นจนแขนขาวเริ่มขึ้นรอยแดง แต่เธอยังคงยืนนิ่งไม่ขยับและไม่แสดงอาการหวาดกลัวใด ๆ
"ที่เรียกฉันมาก็เพราะโมโหที่ฉันไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัวของคุณเหรอคะ ขอโทษนะคะ ตอนนั้นฉันคงเมามาก" ฉันส่งยิ้มบางให้กับผู้ชายตรงหน้า แต่มันกลับยิ่งเหมือนปลุกเชื้อไฟให้กับเขา
"นี่สีหน้าที่สำนึกแล้วเหรอ" สายตาเรียบเฉยหลุบต่ำมองคนตัวเล็กกว่า เธอเลิกคิ้วช้อนสายตามองเขาอีกครั้ง ใบหน้าสวยยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม
ฉันคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงง่าย ถ้าขอโทษนี่ ไป ๆ
มา ๆ ก็นึกถึงคำขอของยัยเฮเลนขึ้นมา แต่ดูท่าว่าจะเป็นเขาต่างหากที่ไม่ควรมายั่วโมโหฉัน"ดูท่าทางจะจบยากสินะ ก็แค่อยากได้เงินหรือไง ยุ่งยากจริง" ฉันพึมพำกับตัวเองเป็นสำเนียงไทย แล้วล้วงหยิบสมุดเช็คขึ้นมาเขียนตัวเลขลงในนั้น
"..." เขายืนนิ่งและจ้องมองการกระทำของฉันทุกอย่าง จนกระทั่งเช็คหนึ่งใบถูกยื่นไปตรงหน้าเขา
"ฉันจำไม่ได้หรอกนะคะว่าทำอะไรไปบ้าง แต่อย่าถือคนเมาเลยค่ะคุณมาเฟีย นี่เป็นค่าเสียหายที่ฉันก็คิดว่ามันน่าจะมากพอให้เราจบเรื่องนี้" เขาก้มมองเช็คตรงหน้า ก่อนที่จะหยิบมันไปอ่านอย่างตั้งใจ หึ! ก็แค่อยากได้ค่าเสียหายสินะ
แคว่ก!
ฉันจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ เช็คใบนั้นที่ฉันเขียนเองกับมือถูกฉีกแยกออกจากกันแล้วปล่อยร่วงหล่นลงบนพื้น เท้าของผู้ชายตรงหน้าก้าวเหยียบมันอย่างไม่ไยดี ใบหน้าหล่อก้มเข้าใกล้ในระดับสายตา ริมฝีปากแดงคล้ำยิ้มมุมปาก นั่นยิ่งทำให้ฉันโมโหขึ้นไปอีกระดับ
"เงินแค่นี้ชดใช้ไม่ได้หรอก" เขากระซิบพูดด้วยน้ำเสียงสำเนียงภาษาไทยที่ชัดกว่าฉันซะอีก
"...!" งั้นที่ฉันบ่นเมื่อกี้ก็
"ฉันไม่ได้อยากได้เงินเธอ ของแบบนั้นฉันใช้มันซื้อเธอยังได้" หึ! ใหญ่โตมากหรือไงไอ้เด็กบ้า
"คิดว่าเงินของนายมันใหญ่กว่าของชาวบ้านหรือไง คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นเหรอ ก็แค่...เด็ก" สิ้นเสียงของฉันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป มือหนาคว้าข้อมือเล็กแล้วลากไปตามทางที่เขาเดินไป
"กรี๊ด! ปล่อยฉันนะไอ้เด็กนี่ คิดว่าตัวเองเป็นใคร กล้ามาทำกับฉันแบบนี้!" เขากระชากตัวเธออย่างไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะหันมามองยังไง ถึงฉันจะตัวเล็กกว่าแต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรแบบนี้ง่าย ๆ
ปึก!
ขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงยันไปกับผนังข้างประตูหน้าห้องไว้ เขาหันกลับมามองฉันที่ยื้อตัวเองไว้อย่างสุดตัว
"คิดว่ามันจะช่วยได้มั้ย" เราทั้งคู่ต่างสาดสำเนียงภาษาไทยใส่กัน ยิ่งทำให้คนรอบตัวพากันสงสัย
"แค่ฉันเมาแล้วขึ้นไปในที่ของนายแค่นี้มันโมโหมากเลยหรือไง ฉันก็ขอโทษแล้ว ที่ฉันมาวันนี้เพราะไม่อยากให้เพื่อนของฉันมีปัญหา แต่ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอเด็กนิสัยแบบนี้ ฉันอายุมากกว่านายนะไอ้เด็กบ้า คิดว่าเป็นมาเฟียแล้วจะทำอะไรกับชีวิตของใครก็ได้หรือไง!" ฉันหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เพราะใส่เป็นชุดม้วนเดียวจบ
"เธอไม่ได้ทำแค่ขึ้นไปในที่ของฉันไง เธออยากได้ฉันไม่ใช่เหรอ" ครั้งนี้เขาตั้งใจพูดภาษาอิตาลีที่ทำให้คนรอบตัวเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด กลุ่มชายลูกน้องของเขาต่างยืนหันหลังล้อมพวกเราไว้ ทำให้คนอื่น ๆ จะไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ระหว่างฉันและเขาได้
"หึ!" ฉันเหยียดยิ้มมุมปาก จ้องมองผู้ชายที่กำลังฉุดกระชากฉันอยู่ ขาเรียวยกลงแล้วยืนเต็มความสูงทั้งสองข้าง ร่างบางขยับตัวเข้าไปใกล้อย่างท้าทาย นิ้วเรียวเชิดปลายคางของคนตรงหน้าขึ้น
"..." เขามองการกระทำของเธอด้วยสายตาเรียบเฉย ปล่อยให้ผู้หญิงตรงหน้าแตะต้องร่างกายของเขาอย่างตามใจชอบ
"จริง ๆ แล้วนายสนใจฉันใช่ไหมล่ะ" และครั้งนี้ฉันเองก็ตั้งใจพูดให้ทุกคนเข้าใจไปแบบนั้น กลุ่มชายที่ล้อมเราอยู่ต่างหันมองหน้ากันด้วยความตกใจ แต่เขากลับไม่ท่าทีอะไรแสดงออกมา
"..." เขายังคงยืนนิ่งปล่อยให้ฉันลูบไล้นิ้วเรียวไปที่ใบหน้าและลำคอ
"ที่ขมขู่เพื่อนฉันเพราะอยากเจอฉันใช่หรือเปล่า"
"..."
"เร่งให้มาเจอภายในสามสามวัน เพราะอยากเจอฉันอีกครั้งใจจะขาดเลยล่ะสิ"
"..." ไม่มีการแสดงออกทางสีหน้าใด ๆ ออกมา
"เพิ่งเคยเจอคนสวยขนาดนี้สินะ ฉันชินแล้วแหละ แต่ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ชอบเด็ก เรื่องของเราคงเป็นไปไม่ได้" ฉันส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับตบบ่าเบา ๆ นายก็หล่อมากเลยนะแต่ฉันไม่เคยคิดว่าการมีแฟนมันจำเป็นกับชีวิตขนาดนั้น
"พูดจบยัง" ในที่สุดเข้าก็เปิดปากพูด
"จบแล้ว แต่ไม่ต้องเสียใจไปนะ ฉะ!"
"พูดมาก...นอกจากขี้เหร่แล้วยังพูดมาก" ฉันยังพูดไม่จบก็ถูกขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาของเขา สายตาดูถูกจ้องมองหน้าฉัน เป็นครั้งแรกที่ฉันถูกมองด้วยสายตาแบบนี้
"..." ฉันยืนกำมือแน่น จ้องมองเขาตาไม่กะพริบก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ กล้ามากไอ้เด็กนี่!
"ที่เรียกมาเนี่ยแค่อยากถามว่าเข้าไปได้ยังไง ฉันจะได้จัดการคนที่ปล่อยเธอหลุดเข้ามาถูกคน ไม่ได้สนใจอะไรเธอหรอก...เธอไม่ได้สวยอะไรสำหรับฉัน" เป็นอีกครั้งที่ถูกด่าว่าไม่สวย
"ไม่...สวย...งั้นเหรอ" เสียงบ่นพึมพำของฉันทำเอาเขาหัวเราะในลำคอ
"หึ! ถ้าแบบนี้สวย..." เขาหยุดพูดก่อนที่จะขยับตัวเข้ามาใกล้ มือหนาจับปลายผมฉันม้วนเล่น ดวงตาคมและเย็นชาจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตา
"...." ฉันข้องใจกับคำว่าไม่สวยมาก จะว่าอะไรก็ได้แต่คำว่าไม่สวยนี่...เด็กบ้านี่กำลังทำฉันระเบิดแล้ว
"อยากรู้มาตรฐานของเธอจังว่าวัดที่อะไร หน้าหรือนี่..." เขาจิ้มไปที่หน้าผากของฉันเบา ๆ
เพียะ! ฉันปัดมือเขาออกแล้วจ้องหน้าเขาไม่ละสายตา
"ไอ้เด็กเวร..." สำเนียงที่มีเราสองคนเท่านั้นรู้ เขาเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะกระชากแขนฉันลากเข้าไปในห้อง
ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบไว้ในมือของเขาเพียงข้างเดียว และมืออีกข้างโอบเข้าที่เอว ก่อนออกแรงอุ้มตัวฉันไปอย่างง่ายดาย ถึงจะแหกปากแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง
"กรี๊ด! ไอ้เด็กบ้า บอกว่าฉันไม่สวยแล้วโง่เหรอ!"
พึ่บ! ปึง!
ฉันถูกเหวี่ยงลงไปกองที่พื้นทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง เขาไม่สนใจสักนิดว่าฉันจะกลิ้งอยู่ในสภาพไหน ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนโซฟาแล้วไขว่ห้างมองด้วยสายตาสมเพช ฉันลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับปากระเป๋าในมือไปใส่เขาโดยไม่สนใจว่าราคาของกระเป๋ามันจะแพงมากแค่ไหน
ปึง!
เขาเอียงตัวหลบมันได้อย่างง่ายดาย กระเป๋าของฉันที่ถูกปาไปกระทบเข้ากับผนังห้อง
"ไม่เก็บให้นะ เชิญพาความสวยของตัวเองไปเก็บเอาเอง" เขายังคงพูดย้ำเรื่องจี้จุดฉันซ้ำ ๆ
"จะเอายังไงพูดมา" ฉันต้องการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแล้ว ก่อนที่ร่างมารจะเข้า
"คุกเข่าขอโทษดีมั้ย...หรือใช้อย่างอื่นขอโทษดี" เขาไล่สายตามองไปทั่วร่างกายของฉัน
"เพ้อเจ้อ" พูดจบก็ต้องเดินวนไปหยิบกระเป๋าที่ปาไปเองด้านหลังเขา ฉันก้มลงหยิบกระเป๋าที่พื้นพร้อมกับแอบมองคนที่นั่งหันหลังให้อยู่ แล้วยืนขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าในมือหมุนตัวกลับมาด้วยความตั้งใจที่จะให้โดนคนที่นั่งอยู่สักนิด แต่เขาก็หลบได้อีกครั้งอย่างสบาย ๆ ฉันมองเขาด้วยความตกใจก่อนที่สายตาจะชำเลืองไปพบกับภาพสะท้อนในโทรทัศน์ที่ติดอยู่ผนังห้อง รอยยิ้มของคนที่นั่งหันหลังให้ฉันกำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่สะท้อนให้เห็น ที่เขาหลบได้เพราะภาพสะท้อนบนจอดำนั่น
เขาเอื้อมมือมาดึงแขนฉันอย่างไม่ทันตั้งตัวแล้วกระชากเข้ามาใกล้ หน้าท้องของฉันชิดกับพนักพิงโซฟา แขนเล็กถูกกระชากให้เอนตัวลงมา เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ลมหายใจร้อนเป่ารดหน้า รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งก่อนที่ใบหน้านั้นจะหายไปจากระยะสายตา แต่สัมผัสได้ถึงความนุ่มที่ริมฝีปากแทน
"...!" ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ริมฝีปากร้อนกดทับอย่างหนักหน่วง ก่อนที่จะขยับรุกเร้าอย่างดูดดื่ม มือเล็กพยายามดันตัวเองไว้กับพนักพิงแต่ก็โดนมือหนาของเขากดท้ายทอยไม่ให้ขยับหนี ฉันเอื้อมมืออีกข้างไปจับแขนของเขาและดึงออกแต่ก็ไม่เป็นผล
ลิ้นร้อนรุกเร้าดันสอดเข้ามาในริมฝีปากอย่างยากลำบาก เพราะเธอเม้มไว้แน่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ เขาขบริมฝีปากล่างเบา ๆ ก่อนจะถอนริมฝีปากออก เขามองผู้หญิงตรงหน้าที่ยืนนิ่งไม่ขยับ
"ยังไม่ตายใช่ไหม" เขาปล่อยมือออกจากท้ายทอยของเธอพร้อมกับเอ่ยปาากถาม
"ไอ้เด็ก...เวร" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเอง มือของเธอกำโซฟาไว้แน่น
"หื้อ...เมื่อคืนเธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อนฉันยังไม่ว่าอะไรเลยนะ"
"อะไรนะ..." ผู้ชายภาพในหัวฉันตอนนั้นคือหมอนี่เหรอ
"เธอเริ่มก่อน ใครกันแน่ที่สนใจใคร"
"..." ฉันยืนกุมหัวตัวเองแล้วพยายามนึกเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น แต่ทำยังไงก็นึกไม่ออก
"ถือว่าเราหายกัน ฉันไม่ทำอะไรผู้หญิงแบบเธอหรอกนะ ทำไปก็ตายเปล่า" ฉันหันขวับกับไปมองที่เขาทันที ในชีวิตไม่เคยมีใครมองฉันด้วยสายตาสมเพชได้มากขนาดนี้เลย
"หึ...สรุปว่าสนใจฉันก็ยอมรับเถอะ อยู่ ๆ จะมาจูบฉันทำไม" ฉันยังไม่เลิกปั่นประสาทเขา
"ถ้าสนใจ...แล้วจะเลิกกับแฟนมาเป็นของฉันไหมล่ะ" แฟน? ฉันมีแฟนตอนไหน อ่อ! ยัยเฮเลนคงโกหกไว้สินะ อาจจะเป็นแผนกันเขาให้ไม่ทำอะไรฉันมากกว่านี้ก็ได้
"อยากได้ฉัน..."
"หึ" เขาหัวเราะในลำคอ
"ยอมรับสินะว่าสนใจฉันจริง ๆ" ฉันยิ้มเยาะเย้ยเขาบ้าง
"ฉันชอบผู้หญิงสวย แล้วก็ฉลาดนะ"
"อื้อ~" นี่มันฉันนี่ มันไม่ใช่ฉันตรงไหน
"ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอหมดเลย ถ้าเอาเธอมาคงเอามาเป็นคนให้อาหารงูบ้านฉัน ดูจะมีประโยชน์แค่นี้" สายตาช่างดูแคลนอะไรฉันขนาดนี้ ได้เลย...ฉันจะจำชื่อเขาไว้ การ์เนท
"แต่ถ้าฉันเอานายมา..." ฉันพูดขึ้นพร้อมเดินผ่านเขาไปยังหน้าประตู การ์เนทนั่งมองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูเขาจะยอมปล่อยให้ฉันไปอย่างง่ายดาย
"...."
"ฉันยอมเอาของฉันถูพื้นดีกว่า ดูท่าจะมีประโยชน์แค่นี้" พูดจบฉันก็เดินออกจากห้องไปทันที โดยไม่หันไปสนใจผู้ชายในห้องจะมีอาการยังไง คนของเขาต่างหันมองฉันเป็นตาเดียว สภาพฉันเหมือนไปสู้สงครามโลกครั้งที่สามมายังไงยังงั้น หมดอารมณ์ชอปปิงแล้วโว้ย!
"กรี๊ด!" ฉันแหกปากมาอย่างทนไม่ไหว ภาพเหตุการณ์ในห้องยังคงวนเวียนอยู่ในหัวฉัน ไอ้เด็กเวร คนรอบข้างต่างพากกันตกใจกับความบ้าของฉันที่เกิดขึ้น
ภายในห้อง
หลังจากที่เธอออกจากห้องไป คำพูดของผู้หญิงคนนั้นยังคงวนเวียนในหูเขา ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกที่กล้าท้าทายเขาในทุก ๆ เรื่องขนาดนี้ สายตาหนักแน่นที่ไม่อ่อนไหวกับอะไรง่าย ๆ แบบนั้น มันกำลังทำให้เขาเริ่มสนใจขึ้นมาทีละนิด แต่ยัยนั่นมีแฟนแล้วงั้นสินะ เขากดโทรศัพท์โทร. ออกหาคนของตัวเอง
ตู๊ด ตู๊ด!
(ครับ) ปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงตกใจไม่น้อยที่เขาโทร. ไป
"รู้เรื่องที่มีผู้หญิงมาหาฉันแล้วใช่มั้ย" ยังไงคนสนิทของปู่ก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน
(รู้แล้วครับ)
"ฉันอยากรู้เรื่องของผู้หญิงคนนั้นทั้งหมด"
(อยากรู้หรืออยากได้ครับ) ปลายสายถ้ากล้าแหย่เขาขนาดนี้แสดงว่าคุณปู่อยู่ด้วย
"ไม่ต้องพูดมาก" พูดจบเขาก็วางสายทันที เขาจ้องมองไปยังจอมืดบนโทรทัศน์แล้วนึกถึงสิ่งที่เขาทำลงไป เขาทำตามใจที่ตัวเองอยากทำโดยไม่คิดไตร่ตรองเป็นครั้งแรก จู่ ๆ ก็อยากสัมผัสยัยนั่นขึ้นมาจนห้ามตัวเองไม่อยู่งั้นเหรอ แต่ติดตรงที่ผู้หญิงแฟนแล้ว
"ใครเขาสนใจเรื่องนั้นกัน..." รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้น พร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเองเบา ๆ
ณ บ้านของคิม
ฉันขับรถเข้ามาจอดในตัวบ้านเทียบข้างกับรถมาเซราติของน้องชายตัวเอง มันอยู่บ้านด้วยงั้นเหรอ ฉันมองรถสีขาวด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเองก่อนจะก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้าน
เมื่อเดินเข้ามาก็พบกับร่างสูงของน้องชายตัวเองคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนั่งเล่น คินเหยียดเท้าวางบนโต๊ะด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย ฉันเดินผ่านไปยังห้องตัวเอง แต่ก็ต้องหยุดชะงักแล้วหมุนตัวกลับมาแนบหูแอบฟัง เมื่อได้ยินชื่อของบุคคลปริศนา
"โซเหมาขนมไปทำอะไร" ชื่อผู้หญิงงั้นเหรอ
"..." ฉันก้มลงที่พื้นแล้วคลานเข่าเข้าไปใกล้
"แจกคนในบริษัทเหรอ แล้วทำอะไรอีก" คินยังคงคุณโทรศัพท์ต่อโดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่าฉันคลานมาจากด้านหลัง
"..." น้องฉันตามเฝ้าใครอยู่หรือไง
"มีคนตามจีบ...เป็นใคร" จับใจความไม่ได้สรุปมันคุยกับใครวะเนี่ย
"เอาประวัติแบบละเอียด แค่นี้แหละ" มันวางสายแล้ว ฉันยังจับใจความไม่ได้เลยนะ
"..." ฉันคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับพยายามคิดว่าชื่อที่ได้ยินเป็นใคร
"ทำตัวเหมือนไม่อยากมีวันพรุ่งนี้เลยนะพี่คิม" เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นมาทำเอาฉันสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพราะถูกจับได้
"เห็นได้ไง"
"ตัวอย่างกับตึก ใครเขาจะมองไม่เห็น" ฉันเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับคิน น้องชายสุดที่รักมองฉันด้วยสายตาสมเพชก่อนจะเอ่ยปากถาม
"ไปไล่กัดคนที่ไหนทำไมสภาพเป็นแบบนี้"
"แกว่าฉันเป็นกระต่ายเหรอ"
"หมา"
"ไอ้น้องเลว..มีเรื่องนิดหน่อย" คินหันมามองฉันและขมวดคิ้ว
"ทำไมล่ะ เขาไม่ยอมให้อาหารเม็ดเหรอ" ไม่ว่าจะยังไง คินยังคงปากร้ายกับทุกคนเสมอ
"เออ พอใจยัง!"
"มากเลยล่ะ" คินกดโทรศัพท์ในมือและไม่สนใจฉัน ต่อมความอยากรู้ทำงานอะว่าเมื่อกี้มันคุยเรื่องอะไร
"เมื่อกี้...แกตามเฝ้าใครอยู่เหรอ" คำถามของฉันทำเอาคินหยุดชะงักทันที ก่อนจะมองฉันด้วยด้วยตาดุ
"ยุ่ง..." เรียบเฉย แต่เจ็บ
"แกเฝ้าผู้หญิงที่ไหนเหรอ ฉันได้ยินชื่อไม่ชัด ชื่ออะไรนะ...โท โส หรืออะไรนะ โซ" คินถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้ววางโทรศัพท์ในมือลง
"อยากรู้เหรอ"
"อื้อ~" ฉันพยักหน้าและขยับตัวเข้าไปนั่งข้าง ๆ
"ถ้าบอกว่าแฟนล่ะ"
"...!" คำตอบของมันทำเอาฉันตกใจอ้าปากค้าง ไอ้คินใช้คำว่าแฟนกับผู้หญิงเหรอ
"แฟนน่ะ ถ้าน้องของพี่จะมีแฟน" คินยังคงย้ำคำเดิมอีกครั้ง คำว่าแฟนที่ออกมาจากปากคนอย่างน้องชายฉันเนี่ยนะ
"เป็นคำพูดที่น่าสยดสยองอะไรขนาดนี้...ผู้หญิงแบบไหนจะมาทนแกได้ น้องเลวของพี่" ฉันตบบ่าน้องตัวเองด้วยความเห็นใจ คินปราดหางตามองและปัดมืออกอย่างรำคาญ
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบที่...ตรงข้ามกับพี่ทุกอย่าง ไม่กินอาหารเม็ด และไม่วิ่งไล่กัดคน"
"ไอ้คิน ไอ้เวร!"
ฉันกระโจนเข้าบีบคอคินทันที ไอ้น้องเวรแต่ละคำที่มันพูดออกมา ไม่เคยมีใครหยุดมันอยู่เลย เมื่อไหร่วันนั้นจะมาถึง...วันที่มันจะเป็นลูกหมา วันที่จะมีคนจัดการมันได้ ไอ้ลูกหมาคิน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาฉึบ ๆ ๆมีดคมถูกกรีดลงบนแตงกวาอย่างช้า ๆ หม้อต้มกำลังเดือดได้ที่ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะยืนเหม่อไม่สนใจมัน แม่บ้านต่างยืนมุงดูหน้าประตูทางเข้าห้องครัวเพราะวันนี้ดูท่านายหญิงของพวกเขาจะอารมณ์ไม่ดีอย่างหนักตึก ๆเสียงฝีเท้าของคนเป็นน้องชายดังขึ้นตามจังหวะการวิ่ง เขาหยุดลงหน้าห้องครัว มองกลุ่มแม่บ้านต่างยืมมุงกันอยู่ทางเข้า ทุกคนต่างเปิดทางให้เขาเข้าไปยังด้านใน พี่สาวของเขาที่กำลังยืนเหม่อลอยและหั่นแตงกวาไปด้วย"เปลี่ยนจากหั่นแตงกวามาปาดคอตัวเองดีมั้ย ถ้าจะยืนเหม่อขนาดนี้" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินผ่านหลังหญิงสาวไปปิดเตา"อ๊ะ!" ฉันตกใจเมื่อมีดในมือถูกแย่งไป คินขมวดคิ้วมองพี่ตัวเองอย่างรำคาญ"เกิดบ้าอะไรถึงมาทำอาหารเอง แล้วไล่คนอื่นออกทำไม" ฉันทำหน้าบึ้งตึงและมองไปยังกลุ่มแม่บ้านที่โดนฉันไล่ออกไปเมื่อเช้า"ไม่ได้ไล่ออก แค่ไล่ให้ไปไกล ๆ ฉันต้องใช้สมาธิในการทำอาหารอย่างมาก" แค่ฉันบอกว่าจะทำอาหารเอง ทุกคนก็พากันตกใจแล้ววุ่นวายกับฉันไม่หยุด มันน่าตกใจกันมากหรือไง"ทุกคนไปทำอะไรก็ไป เดี๋ยวพี่คิมฉันจัดการเอง" คินหันไปสั่งกลุ่มคนด้านหลัง แล้วจึงหันกลับมามองหน้าฉัน"เห้อ~"
หญิงสาวในชุดเดรสสีดำสั้นเว้าโชว์แผ่นหลังเนียน ผมยาวสลวยปล่อยตรงกลางหลังพลิ้วไหวไปตามจังหวะก้าวเดิน ชุดและผมสีดำของเธอขับให้ผิวขาวเนียนผ่องเด่นชัดยิ่งขึ้นสายตาของผู้ชายมากมายต่างจับจ้องมองเธอเป็นตาเดียว ใบหน้าสวยมองผ่านพวกเขาไปอย่างไม่สนใจ ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่สนใจเธอ กลุ่มผู้หญิงก็ต่างหันมาสนใจผู้ชายที่เธอคล้องแขนเข้างานมาด้วย"ทำไมต้องควงแขน" คินหันมาถามฉันที่เกาะแขนมันไว้แน่น มองตาเป็นมันเลยนะยะพวกนี้ ฮึ! ถึงฉันจะเป็นพี่สาวที่สวยและใจดีแต่ก็หวงน้องชายมาก"แกเห็นสายตาหิวกระหายพวกนั้นไหม ฉันหวงน้องตัวเองมันผิดหรือไง""แม่ซื้อเข้าร่างเหรอ เป็นบ้าอะไรมาหวง" ไอ้นี่ปากร้ายจริง ๆ"หรือแกอยากได้ยัยพวกนั้น ฉันอ่านสายตาออกนะ ดูสายตานั่นสิอย่างกับจะกลืนกินแกไปทั้งตัว" ฉันสะกิดให้คินมองไปยังรอบ ๆ"พี่คิม" คินเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย"อะไร""น่ารำคาญ ถ้ายังไม่ปล่อยจะกลับแล้วนะ" ฉันรีบปล่อยมืออกจากแขนทันที"ดุจังโว้ย นึกว่าหมา" ฉันแยกเขี้ยวใส่น้องตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่สนใจตามเคย เราทั้งคู่เดินตรงมาหยุดที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อน สาว ๆ ต่างหันมองเราพร้อมกับแต่สายตาต่างรวมไปที่คินคนเดียวแปะ!ฉันปรบมื
"แกรู้มั้ยว่าฉันใคร" คำนี้อีกแล้วน่าเบื่อจริง"เธอเป็นใครฉันจะไปรู้เหรอ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังขัดเวลาดื่มเหล้าฉัน ไปไกล ๆ" ฉันส่งยิ่มให้เธอแล้วคว้าแก้วเหล้าด้านหลังมากระดกเข้าปาก ขมชะมัดเลยเหล้าอะไรเนี่ย"อย่ามาเมินฉันนะ" ยังไม่จบอีก"ต้องการอะไรพูดมา จะมาหาเรื่องหรือจะเรียกร้องทวงผู้ชายคืนก็พูด" ฉันต้องจัดการยัยนี่ก่อนเลย แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่ คนรอบ ๆ ข้างเขาก็แทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ปัญหาผู้หญิง ๆ ทะเลาะกัน"ต้องการให้เลิกยุ่งกับการ์เนทซะ" ฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน"จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ที่เธอเห็นตรงระเบียงน่ะ!""จะแก้ตัวอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงร่าน ๆ" ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงของเพื่อนยัยนั่นพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉันตวัดหางตากลับไปมองที่เธอและขยับปากพูดอย่างช้า ๆ"สา ระ แน""นี่!""อะ! อย่าใช้อารมณ์ ทีเธอด่าฉันว่าร่านฉันยังไม่โกรธเลย ฉันจะชมเธอว่าสาระแนบ้างจะเป็นอะไร คนโกรธง่ายคือคนไอคิวต่ำ สมองฮิปโป เธอรู้มั้ยว่าฮิปโปเป็นสัตว์โง่ที่สุดในโลก...แต่ถ้าเธอไม่รู้ นั้นก็หมายความว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่ที่สุด คงพอ ๆ กับยัยนี่ที่ถามว่าตัวเองเป็นใคร" พูดจบฉันก็ยิ้มกว้างให้พวกเธออีกครั
"พี่เฮเลนแจ้งทุกอย่างไปที่พี่คิมนะครับ เดี๋ยวจะให้มาจัดการเอง" เพื่อนสาวคนสนิทของพี่คิมไปแต่ยิ้มเจือน ๆ ก่อนที่จะก้มมองราคาค่าความเสียหายทั้งหมดบนกระดาษในมือ"ห้าพันยูโรเลยนะเนี่ย" เกือบสองแสนบาทไทย ฝีมือพี่สาวของผมเอง"นี่ถือว่าเบาแล้วครับ" สูงสุดที่เคยจ่ายคือสองล้านบาท สาเหตุเกิดขึ้นจากการเมาแล้วปีนขึ้นไปเต้นบนรถซูเปอร์คาร์จนต้องดูแลสีรถให้เขาใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นี้สบายมาก"แล้วเพื่อนตัวดีของพี่เอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนแล้วล่ะ""ปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ที่รถครับ""จะไม่หลุดหายไปไหนใช่มั้ย" พี่เฮเลนพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว"ไม่หรอกครับ เมาขนาดนั้นแค่เดินก็ยากแล้ว" เล่นกินเหล้าทุกรูปแบบขนาดนั้นคงตีกันเละเทะจากภายใน"ได้ล็อกไว้กับรถหรือเปล่า" คำถามของพี่เฮเลนทำให้เอะใจเล็กน้อย แต่พอนึกสภาพพี่สาวตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย"แค่ลืมตาก็ยากแล้วครับ เดินไปไหนไม่ได้หรอก" พี่เฮเลนทำสีหน้าคิดตามแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย"เดี๋ยวพี่จัดการเองต่อจากนี้ พาคิมกลับบ้านเถอะนะ""ครับ" แล้วก็ลาพี่เฮเลนแล้วเดินไปที่รถทันที ภายนอกแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงรถไม่กี่คันจอดอยู่เท่านั้น หนึ่งในนั้นคือรถคันสีดำที่จอ
รถยนต์คันหรูวิ่งผ่านประตูรั้วทึบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังประตูซ่อนความลึกลับของคฤหาสน์สีดำสุดหรูเอาไว้ บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าสถานที่ภายในแห่งนี้เป็นของใคร รถยนต์ตรงเข้าจอดลงหน้าประตูตัวบ้านประตูรถถูกเปิดออกจากชายชุดดำที่ยืนรอต้อนรับอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักลง และมองหน้ากันด้วยความตกใจ หญิงสาวร่างบางนอนหลับสนิทหนุนตักของชายผู้เป็นเจ้านาย บนตัวของเธอมีเสื้อคลุมสีดำปกปิดอยู่เสื้อเชิ้ตของเจ้านายพวกเขาหลุดลุ่ย กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เจ้านายผู้หวงพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่เคยพาคนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันอุ้มเอง มาเปิดประตูฝั่งนี้" เสียงของผู้เป็นนายดังขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องของตนเอื้อมมือจะมาสัมผัสตัวของเธอ"ครับ"ปึง! ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองหน้ากันอย่างหาคำตอบกับเรื่องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เจ้านายของเขานั่งอยู่ออกร่างสูงยกหัวของเธอที่นอนหนุนตักออกพร้อมกับก้าวลงจากรถ และออกแรงอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเบาจัง เขาได้แค่คิดในใจแล
"อย่าพูดอะไรบ้า ๆ นะ" ไม่! มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย"ไม่ได้พูดอะไรบ้า ๆ แต่พูดจริง" สายตาของเขามันบอกว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ"ไม่ ๆ ๆ เรามาตกลงกัน""ตกลงว่า""ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานฉันจะไม่ถือสา เราจะไม่พูดถึงมันอีก" การ์เนทเอียงคอมองฉันด้วยท่าท่างที่ดูน่ารัก ทำไมอยู่กับฉันนายกลายเป็นเด็กน้อยล่ะ มันแตกต่างจากตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายลิบลับเลย อย่าทำแบบนี้ใจฉันเต้นแรง"หน้าแดงทำไม" การ์เนทถามฉันและยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าใกล้อย่างช้า ๆ ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้า แต่ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสริมฝีปากฉันก็ดันเขาออกแล้วขยับถอยหลังหนี"เด็กบ้านี่..." ฉันพึมพำกับตัวเอง แต่สายตาก็จ้องมองไปที่เขาการ์เนทพาตัวเองขึ้นมายังบนเตียงและคลานเข้ามาหา ฉันถอยหลังจนชิดกับพนักพิงหัวเตียง มือเล็กดึงผ้าห่มมาม้วนตัวแล้วพลิกหมุนลงข้างเตียง เมื่อเท้าแตะพื้นก็วิ่งไปทางประตูห้องทันทีแกร๊ก ๆ ๆกลอนประตูถูกล็อกจากด้านนอกงั้นเหรอ ฉันเขย่าประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดปึง ๆ"เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เงียบ~ปึง ๆ ๆ ๆ ๆ"เปิดประตู!" เงียบ~ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ทุกอย่าง
ณ บริษัทของคิมฉันยังอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกมาเฟียที่ไหนจับตัวไปฆ่าตาย ซึ่งนั้นเป็นเพราะสกิลล์การหลบของฉันเอง หนึ่งวันที่ผ่านมายังคงปกติดี แต่มันน่าเบื่อเกินไป(ฉันกับเจส เรากำลังจะแต่งงานกัน)(กรี๊ด!!)"ดีใจด้วยนะ"ตอนนี้เรากำลังวิดีโอคอลล์กลุ่มกัน คารีน่าเพื่อนสาวในกลุ่มกำลังจะประกาศสละโสดไปอีกหนึ่งคน ถือว่าเป็นวัยที่ต้องแต่งงานกันแล้วทั้งนั้น ฉันก็มีหน้าที่เดินสายร่วมงานแต่งต่อไป(แล้วคิมเมื่อไหร่จะมีแฟน) อยู่ ๆ จุดสนใจก็พุ่งเป้ามาที่ฉันแทน"มีทำไมฉันสวยเกินกว่าจะมีใครมาเหมาะสมย่ะ" เมื่อได้ยินคำตอบของฉันทุกคนต่างแย่งกันสาปแช่งด้วยความหมั่นไส้(ถ้าอยู่ ๆ ยัยคิมเปิดตัวแฟนขึ้นมาคงช็อกน่าดู ผู้ชายแบบไหนนะที่จะจัดการยัยคิมของพวกเราได้) เคทพูดพร้อมกับทำหน้าสงสัย"ไม่มีหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าสวยมากเกินกว่าจะมีใครเหมาะสม" ฉันพูดพร้อมกับยืดอกอย่างภูมิใจ(น่ารำคาญจ้า~) เสียงพวกเพื่อนทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน"ยัยพวกนี้นี่ หยุดพูดเรื่องฉัน แล้วมาช่วยกันคิดเรื่องจัดปาร์ตี้ฉลองให้คารีน่ากันก่อนดีกว่า แล้วปาร์ตี้สละโสดก็จัดต่างหาก" ฉันพูดด้วยอาการดี๊ด๊าสุดตัว(นั่นสินะ เราไปจัดที่คลับการ์เบรียลล่ากันดีมั้
ย้อนกลับไปยี่สิบนาทีก่อน(คิม)"แกหายไปไหนมา" เคทรีบตรงเข้ามาถามเมื่อเห็นเดินกลับมาที่โต๊ะ ทุกคนต่างดูเป็นห่วงที่ฉันหายไป"หลบในห้องน้ำมา โดนผู้ชายตามตื๊อ" ฉันพูดกับทุกคนและยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหมดในทีเดียว"ผู้ชายที่ไหน ให้ฉันจัดการมั้ย" เฮเลนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"ฉันจัดการไปแล้ว""หล่อมั้ย" เคทที่สนใจแต่ความหล่อของผู้ชายหันมาถามฉัน ฉันกลอกตาไปมาและนึกถึงหน้าการ์เนท"ไม่หล่อ ขี้เหร่มาก" ฉันหันไปบอกเคทและเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตัวเอง"จะไปไหนคิม" คารีน่าถามขึ้นด้วยความสงสัย"ฉันมีเรื่องจำเป็นที่ต้องขอกลับไปที่โรงแรมก่อนนะ" ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้ไกล"มีเรื่องอะไร" คารีน่าถามอย่างเป็นห่วง ฉันไล่สายตามองไปที่เพื่อนแต่ละคนก่อนจะหยุดสายตาลงที่คารีน่า"ไปห้องน้ำกับฉันหน่อยคารีน่า" ทุกคนต่างทำหน้าสงสัย แค่คารีน่าก็ยอมไปกับฉันอย่างว่าง่ายปึง!ประตูห้องน้ำปิดลงโดยมีฉันและคารีน่าอยู่ในห้องเดียวกัน"สลับชุดกัน" เธอมองฉันด้วยความสงสัย"คิมเป็นอะไร เหมือนกับว่าจะหนีจากอะไรสักอย่าง""เดี๋ยวเอาไว้ผ่านวันนี้ไปฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ฉันต้องการชุดแบบเป็นกางเกง"
"ไม่มีไปที่ไหนเหรอครับวันนี้" การ์เนทเดินเข้าไปถามปู่ถึงในห้องทำงาน"อยากให้พาไปที่ไหนก็พูดมาเลย" เขาแกล้งพูดแหย่หลานตัวเอง ก็เดี๋ยวนี้การ์เนทดูจะอยากไปข้างนอกมากขึ้น เหมือนว่ารอจะได้ไปเจอใคร"เปล่าครับ""ถ้าอยากไปหาหนูคิมก็คงต้องรอไปก่อน" ปู่ของเขาพูดขึ้นในขณะที่หลานชายกำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง ทำให้การ์เนทหยุดชะงักและหันมามองที่ปู่"...""ครอบครัวของเธอกลับประเทศไทย สักพักคงกลับมา" เขาพูดได้เพียงเท่านี้"เหรอครับ""เอาไว้ปู่จะโทร. ไปหาเขาให้นะ""ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้" เย็นชาเกินไปแล้วหลานของเขา"ไม่อยากรู้จริงเหรอ""ครับ" ปากไม่ต้องกับใจสุด ๆ"ที่กลับประเทศไทยด่วน เพราะหนูคิมเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้" คำพูดของปู่ทำให้เขายืนนิ่ง"....""หนูคิมถูกส่งตัวไปรักษากับหมอด้านประสาทที่เก่งที่สุด ซึ่งเขาอยู่ที่ประเทศไทย""เป็นอะไรมากหรือเปล่า" การ์เนทตรงเข้ามาถามปู่ของเขาด้วยความเป็นห่วง"ไม่หรอก แล้วอีกอย่างหนูคิมยังเรียนอยู่ที่ไทยด้วย ที่มาก็จะมาแค่ช่วงปิดเทรมเธอก็ต้องกลับไปเรียน"แค่เห็นปฏิกิริยาจากหลานของเขาก็ทำให้ไม่กล้าพูดเลยว่าเธอเข้าสู่สภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากผลกระทบของ
"ฮึก ฮือ!"ย่าของเขาร้องไห้พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายไว้แน่น ลูกชายของเธอก็คือพ่อของการ์เนท เขายืนมองร่างของพ่อที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนอนราบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เกิดมา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพ่อเคยคุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ความผูกพันและความรัก เขาจึงไม่เคยได้รับมันเลยจากทั้งพ่อและแม่เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากที่ว่าพ่อตายเพราะโรคประจำตัวเท่านั้น ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับต่อสื่อและเขางานศพถูกจัดขึ้นและไว้อาลัยแด่บอสมาเฟียลำดับที่หนึ่งของอิตาลี ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาร่วมงาน เด็กชายในชุดสูทสีดำมองใบหน้าเศร้าโศกของย่าก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้"ฮือ! หลานย่า ฮือ!"เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกสงสารหลานตัวเองจับใจ ที่เขาขาดไปทั้งพ่อและแม่ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายดูแลเขาแต่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้"ไม่ต้องร้องนะครับ""ฮือฮือ"คำพูดของหลานยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เด็กคนหนึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่ แต่เขากับไม่มีน้ำตาออกมาให้ได้เห็น ที่ผ่านมาเขาอยู่ท่ามกลางความรักของย่าและปู่เท่านั้น ความรู้สึกต่อพ่อแม่จึงกลายเป็นศูนย์พิธีศพเป็นไปตามธรรมเนียม แต่คนขี้เบื่
"ตอนเย็นการ์เนทไปกับปู่มั้ย" ปู่ของเขาถามขึ้นในขณะที่นั่งมองหลานชายของเขาเดินเลือกดอกไม้"ไปทำอะไรครับ" เขาถามกลับมาไป แต่ไม่หันไปสนใจปู่ของเขาสักนิด ถึงภายนอกจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นถาม"ปู่จะพาการ์เนทไปงานวันเกิดของลูกสาวคนที่ปู่สนิท ไปด้วยกันนะ"เขาพยายามสุดความสามารถที่จะทำให้หลานของเขากลับมามีโลกที่มีชีวิตชีวาแบบเด็กวัยเดียวกัน ถึงบางทีเขาจะยังทำเป็นไม่ใส่ใจคนรอบข้างไปบ้าง แต่การ์เนทก็ดีขึ้นจากตอนแรกที่รับเขามาดูแล"ไม่ครับ""ทำไมล่ะ การ์เนทต้องมีเพื่อนนะ""ไม่จำเป็น" การ์เนทเลือกดอกไม้ที่เขาสนใจขึ้นมาทีละดอก แล้วนำมันมาวางเรียงกันบนโต๊ะ"ถ้าไม่อยากมีเพื่อนแล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดเหรอ""ก็อยู่ได้""ลองไปพบเจอเด็กวัยเดียวกันดูมั้ย" ผู้เป็นปู่พยายามสุดตัวที่จะพาหลานเขาไปให้ได้ อย่างน้อยให้เขาได้เจอสังคมภายนอกมากกว่านี้"ไม่อยากเจอ ขี้เกียจหาของขวัญ""นี่ไง เราจะเอาดอกไม้ที่การ์เนทกำลังจัดไปให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ" คำพูดของปู่ทำให้เขาหยุดมือที่กำลังดึงดอกไม้ขึ้นมาทันที สายตาของเด็กน้อยหันไปมองปู่ของเขา"ไม่มีใครอยากได้ของผมหรอกครับ"เขาไม่รู้เลยว่ามาสนใจ
เพล้ง เพล้ง!"คุณกล้าเอาอีผู้หญิงแบบนั้นขึ้นมาเหนือฉันเหรอ หา!""หุบปาก น่ารำคาญ!""เคยเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย หา!""บอกให้หุบปากไง!"พลั่ก!ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกกับผนังท้อง เธอล้มลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น อาการจุกบริเวณช่วงท้องทำให้เธอนอนตัวงอ ขยับไปไหนไม่ได้"แม่..."เด็กผู้ชายวัยห้าขวบเดินเข้ามาหาเธอและพยายามปกป้องเธอเท่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้"กลับไปที่ห้องการ์เนท!" ผู้เป็นพ่อกระชากแขนเล็กของเด็กชายแล้วลากเขาโยนออกจากห้องอย่างไม่ไยดีปัง!ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงต่อหน้าเขา เสียงทะเลาะดังมากจากภายในห้องนั้นอย่างต่อเนื่อง เด็กชายยืนฟังเสียงอยู่นาน จนกระทั่งพี่เลี้ยงของเขามาพาตัวเขาออกไปตลอดระยะเวลาที่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ ตลอดเวลาเขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตลอด ถึงแม้ว่าแม่เอาแต่ใช้เวลาในหนึ่งวันไล่ตามเฝ้าพ่อของเขาก็ตามความรักและความสนใจเขามักจะได้รับจากคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้มาตลอดคือ พ่อและแม่ของเขาไม่เคยรักกันจนในที่สุดคุณปู่และคุณย่าก็ทนเห็นสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว พวกท่านทั้งสองคนมารับตัวผมไปอยู่ด้วยตอนอายุได
"คุณพ่อขา ฟีฟี่อยากได้ม้า"เด็กสาววัยสามขวบชี้นิ้วไปยังการ์ตูนในจอโทรทัศน์ ม้าโพนีตัวสีชมพูวิ่งไปมาอยู่ตรงหน้า เธอหันมากอดคอผู้เป็นพ่อและซบหน้าลงบนไหล่"อันนั้นเป็นม้าโพนีค่ะ เป็นการ์ตูนก็คงหาให้ฟีฟี่ได้แค่ตุ๊กตา พ่อก็อยากซื้อม้าจริง ๆ ให้ฟีฟี่แบบนั้นนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าจะไปหามาให้จากที่ไหน" เขาอุ้มลูกสาวตัวเล็กมานั่งตัก"ถ้าม้าเป็นสีชมพูแบบนั้นจะต้องน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ สัตว์บนโลกให้เป็นสีชมพูก็น่ารักหมดเลย" เธอเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้าง ยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟีฟี่ทำให้ผู้พบเจอต่างพากันสดใสตามเธอ"สัตว์บนโลกทุกตัวน่ารัก ฟีฟี่ต้องรักพวกเขาให้มาก ๆ นะ อย่าไปรังแกพวกเขา""ค่ะ ฟีฟี่รักสัตว์บนโลกทุกตัว แล้วก็รักคุณพ่อขาด้วย" ฟีฟี่ลุกขึ้นยืนบนโซฟาและกอดคอของผู้เป็นพ่อไว้แน่น"อ๊าก !"เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากประตูบ้าน เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเด็กผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ ฟีฟ่า แฝดผู้น้องโครม!ฟีฟ่าทรงตัวอยู่เซิร์ฟสเก็ตวิ่งเข้ามาในบ้าน ถึงความเร็วจะไม่มาก แต่พื้นของบ้านที่ไม่เหมาะกับการเล่นทำให้ลื่นแล้วล้มกลิ้้งอยู่ที่พื้นการ์เนทหันมองไปยังลูกชายของตัวเอง คนในบ้านต่างวิ่งเข้ามาเพื่อจะ
"ใกล้ถึงแล้วครับ"เสียงคนขับรถเรียกสติให้ฉันกลับไปสนใจสถานที่ตรงหน้า"ค่ะ"สายตามองไปยังอาคารหรูตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สถานที่รวมตัวของกลุ่มมาเฟียจากหลายประเทศ ทุกคนต่างมาเพื่อแสดงความยินดีและแสดงความต้อนรับแก่บอสมาเฟียคนใหม่ รวมไปถึงการประกาศของการผู้นำคนใหม่ของลำดับที่สองและที่สามด้วย นั่นคือเฮเลนและสามีของเธอรถยนต์จอดหยุดลงหน้าทางเข้า ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มชายจำนวนมากต่างยืนเรียงรอต้อนรับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ"เชิญครับ" เขายื่นมือมาให้เธอพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย"ขอบคุณค่ะ" ฉันก้าวเท้าลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่นอกอาคารจำนวนมากต่างจ้องมองมาทางฉันถึงจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากการถูกมอง แต่คนจำนวนเยอะขนาดนี้ฉันก็เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก นี่ขนาดด้านนอกนะ ยังไม่ได้เข้าไปในอาคาร"คนเยอะมากเลยนะคะ" ฉันหันไปพูดกับคริสเตียนที่ออกมารอรับ"ข้างในเยอะกว่านี้ครับ ทุกคนรอพบนายหญิงอยู่" ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันได้ไม่น้อย"ฉันดูสำคัญมากเลยนะคะ""สำคัญสิครับ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับบอสนี่ แล้วอีกอย่างบรรดาญาติก็อยากเห็นผู้หญิงที่การ์เนทเฝ้ารอมาตลอดสิบปีครับ" คำพูด
"นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอการ์เนท""ก็พอเป็นบ้าง""ว้าว ทำข้าวต้มเป็นด้วยสินะ" ฉันมองข้าวต้มในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่"ดูจากในเว็บมาครับ" คำตอบของเขาทำฉันหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"ทำได้น่ากินขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนไทยแท้ ๆ ยังทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นเลย เต็มที่ก็ไข่ดาว" ฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอก เดี๋ยวผมจะจ้างพ่อครัวตามความถนัดของอาหารแต่ละประเทศมาไว้บ้าน เผื่อพี่คิมอยากกินอาหารประเทศอื่น" สายตาที่แสดงออกมาคือเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ"ฉันว่าไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ" ฉันต้องหยุดเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ"เอาแบบนั้นเหรอครับ""เอาแบบนั้นดีแล้ว อย่าต้องให้มีพ่อครัวมากไปกว่านี้เลยนะ" แค่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว"พี่คิมลองชิมมั้ย" การ์เนทใช้ช้อนตักข้าวต้มในหม้อขึ้นมาเป่า แล้วป้อนให้ฉัน"อื้อ~" ฉันแกล้งทำเสียงและกลอกตาไปมา"อร่อยมั้ย""อ่า~""...""อืม~""เดี๋ยวเททิ้งแล้วให้พ่อครับมาทำให้ใหม่แล้วกัน" การ์เนทปิดเตาแล้วทำทีจะยกหม้อไปเททิ้งจริง ๆ"เดี๋ยวสิ ขี้น้อยใจจังเลยนะ อร่อยมาก""ก็พี่คิมทำหน้าเหมือนไม่อร่อย" แค่ฉันแกล้งเล่นก็ทำลายความมั่นใจของเขาไปจนหมดเลยเหรอเนี่ย"อร่
ณ ห้องทำงานของคิมติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่โทร. เข้ามา มือเรียวเอื้อมไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน"สวัสดีค่ะ"(คิม)เสียงจากปลายสายทำให้ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ เบอร์ที่ไม่คุ้นตาแต่เรียกชื่อฉันเหมือนรู้จักกันมานาน เสียงปลายสายก็คุ้นหูพอสมควร"ใครพูดสายคะ" เพื่อความแน่ใจจึงเลือกที่จะถามออกไปเลย(โจเซฟ) ฉันว่าแล้วไง"มีเบอร์ฉันได้ยังไง" หากันง่ายเหลือเกินคนพวกนี้(ขอมาจากเพื่อนเก่าน่ะ) ฉันถอนหายใจใส่โทรศัพท์"แล้วโทร. มามีอะไร"(เธอทะเลาะกับเขาเรื่องที่เราไปกินข้าวกันใช่มั้ย)"รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา" ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองตรงไปยังด้านหน้า(เราเป็นห่วง แล้วตอนนี้ดีกันหรือยัง)"ก็ปกติ"(...ก็ดีแล้ว) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า"โทร. มาถามแค่นี้ใช่มั้ย"(อย่าเพิ่งวางนะ คิมลืมไปหรือยังว่าวันนี้วันอะไร) วันอะไรงั้นเหรอ ฉันมองไปยังวันที่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ"วันศุกร์" มีหวังตอบไปว่ารู้ก็คอขาดพอดี(ฮ่าฮ่า คิมลืมก็ไม่แปลกมันนานมาแล้วนี่...วันนี้วันเกิดเราเอง)"อ่อ งั้นเหรอ"(วันนี้วันเกิดเรา คิมมาหาเราได้ไหม) โจ
"เดี๋ยวฉันต้องไปส่งเคทที่บ้าน ส่วนเฮเลน สามีจะมารับ" ฉันยืนมองเพื่อนสาวสองคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา คนที่เมาหนักสุดน่าจะเป็นเคท"เคทเดี๋ยวมีคนมารับ" หลังจากคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จเขาก็หันมาบอกฉัน"นายจะให้คนไปส่งเคทเหรอ เดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้นะ""ไม่ต้องหรอก คนที่จะมารับรู้บ้านของเธอดี" การ์เนทดูมั่นใจมาก เขาส่งยิ้มให้ฉันและเดินไปสั่งงานกับคนของตัวเอง ฉันได้แต่ยืนมองเพื่อนสองคนที่เมาหลับไม่รู้เรื่องสองคนนี้ถือว่าเป็นคนที่ไปไหนไปกันเสมอ ขอให้ช่วยหรือทำอะไรก็ไม่เคยบ่น แม้แต่วันนี้เมาเละขนาดนี้ก็เพราะฉันไม่สามารถดื่มได้ ทั้งสองคนจึงจัดการให้เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าฉันดื่มไปเยอะ"สามีคุณเฮเลนมาแล้วครับ" ลูกน้องของการ์เนทเดินเข้ามาบอกฉัน พร้อมกับสามีของเฮเลนเดินตามหลังเข้ามา"ขอโทษด้วยนะ" ฉันกล่าวขอโทษเมื่อสามีของเพื่อนสาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาส่งยิ้มให้ฉันและมองไปที่ภรรยาของตัวเอง"ไม่เป็นไร เฮเลนบอกแล้วว่าวันนี้ต้องมาทำอะไร" สามีของเฮเลนเข้าใจธรรมชาติของพวกเราจริง ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและช้อนอุ้มเฮเลนไว้ในอ้อมแขน"ขับรถกลับดี ๆ นะ""ดีกับการ์เนทแล้วใช่มั้ย" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก