ณ ห้องพักส่วนตัว
ชั้นบนสุดของคลับ การ์เบรียลล่า
"อ่า"
เสียงหอบหายใจดังขึ้นพร้อมกับมือหนาเอื้อมไปเปิดผมที่ตกปิดหน้าขึ้นทัดไว้ข้างหู สายตาจับจ้องไปยังผู้หญิงที่นั่งลงอยู่หว่างขา
ใบหน้าสไตล์ลูกครึ่งที่ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างอิตาลี รัสเซีย ญี่ปุ่น ดวงตาคม นัยน์ตาสีดำที่เมื่อมองใครคนคนนั้นถูกเหมือนโดนสะกด จมูกโด่งรับกับใบหน้า ริมฝีปากแดงคล้ำเม้มเป็นเส้นตรง รอยสักที่น่าสัมผัสถูกจัดเรียงไว้อย่างหน้ามอง เธอจ้องมองใบหน้าหล่อชวนหลงใหล พร้อมกับเปิดปากเล็กครอบครองแก่นกายรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ เขาขบกรามแน่นด้วยความเสียวซ่านแล่นไปทั่วท้อง มือหนาลูบหัวของเธออย่างเบามือ
"อ่า" เสียงครางในลำคอดังขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อลิ้นร้อนแตะส่วนปลายไล่ลงไปยังด้านข้าง และวนอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ
"ขึ้นมา" เสียงแหบพร่าออกคำสั่ง
ผู้หญิงตรงหน้าเขาลุกขึ้นยืนแล้วถกชายกระโปรงชุดเดรสขึ้นคร่อมบนตักเขา ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงครอบครองแก่นกายเข้าไปในร่องชื้นจนมิด
"อื้อ~" เธอครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ สะโพกอวบขยับไปตามมือหนาบังคับ เสียงเนื้อกระทบกันดังเป็นจังหวะ ริมฝีปากแดงก้มดูดอกอวบก่อนจะออกแรงขบเม้ม ทำเอาเธอกลั้นไม่อยู่
"อือ อ๊ะ อ๊ะ~ การ์เนท...ไม่ไหวแล้ว"
"อ่า" เขาขบกรามแน่น ทั้งสองขยับสะโพกเข้าหากัน เล็บยาวจิกลงบนไหล่กว้างเพราะความเสียวที่ได้รับแล่นไปทั่วท้องน้อย
"อ๊ะ อ๊ะ!" เสียงครางของเธอยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาไม่น้อย
มือหนายกสะโพกเธอขึ้น พร้อมกับจับมันชูชันจ่อตรง
หน้าเธอ ปากเรียวก้มครอบครองมันโดยที่เขาไม่ต้องสั่ง มือเล็กกำพร้อมกับรูดขึ้นลงไปตามจังหวะของปากเธอ
"อ่า"
น้ำคาวถูกปล่อยออก เธอดูดกลืนมันจนหมดไม่ให้พลาดออกมาแม้แต่หยดเดียว เมื่อเสร็จหน้าที่แล้วเธอก็ลุกขึ้นแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่ก่อนที่จะออกจากห้องไปเธอก็ไม่ลืมที่จะหันมาย้ำสิ่งที่ต้องการกับเขาอีกครั้ง
"อย่าลืมข้อตกลงของเรานะการ์เนท พ่อของฉันต้องปลอดภัยจากการตัดสินขององค์กรนะ"
"อือ" เขาขานรับเพียงสั้น ๆ ร่างบางก็เดินออกจากห้องไป เขาพาร่างกายตัวเองไปชำระล้างกลิ่นคาวในห้องน้ำ แค่ตัวเธอเนี่ยนะจะมีราคามากพอได้รับความช่วยเหลือจากฉัน
"โง่จริง ๆ" เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายไป
ปึง!
ร่างสูงเปลือยท่อนบนหันไปมองตามเสียงที่ดังมาจากประตู เขาจ้องมองมันสักพักแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะมีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไงก็ที่นี่มีเพียงแค่เขาและคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่ขึ้นมาได้
ปึง! มือที่กำลังติดกระดุมเสื้อหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองยังประตูอีกครั้ง เสียงที่เกิดขึ้นเหมือนคนกำลังเอาอะไรเหวี่ยงใส่ประตู
ปึง! ครั้งนี้เขาไม่ยืนฟังมันเฉย ๆ ใครมันกล้ามาทำเสียงดังที่นี่ สิ่งต้องห้ามเมื่อเขาอยู่คือ เสียงดัง ความวุ่นวาย
ปัง! ประตูถูกกระชากออกอย่างแรง จนมันกระเด้งไปกระทบกับผนังห้องด้านหลัง ดวงตาสีนิลจ้องมองภาพตรงหน้า ผู้หญิงคนหนึ่งยืนก้มหน้าเกาะขอบประตูไว้แน่น มืออีกข้างถือรองเท้ากับกระเป๋าไว้ในมือคู่กัน เธอไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยซ้ำ
"เธอเป็นใคร"
"หลบ" เธอก็ดันตัวเขาออกแล้วก้มหน้าเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ
เขาไล่สายตามองตามแผ่นหลังตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด ผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาได้ยังไง ใครส่งเธอมาให้หรือไง แต่ดูจากสภาพเดินเอียงไปขนาดนี้ เมาแน่นอน
พึ่บ!
ร่างบางทิ้งตัวลงบนที่นอน กระเป๋าและรองเท้าในมือถูกโยนทิ้งไว้ตามพื้น เขายืนจ้องมองภาพตรงหน้าและพยายามเก็บอารมณ์ ยัยนี่เป็นใครไม่รู้ รู้แค่ว่าเมา แล้วขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้อีก
"เธอเป็นใคร…"
"อื้อ~" เธอนอนคว่ำหน้าลงบนที่นอน
"จะถามอีกแค่ครั้งเดียวนะ เธอเป็นใคร"
"น่า...รำ...คาญ" เสียงบ่นอู้อี้ดังลอดออกมา
"..." ผู้หญิงคนนี้เป็นใครวะเนี่ย แต่เพราะเธอเมาเขาเลยไม่อยากทำอะไรมาก
"น้ำ ขอน้ำหน่อย" เธอแบมือพร้อมกับมาด้านหลังพร้อมกับบอกสิ่งที่ต้องการ
"ออกไปซะ"
"น้ำ"
"จะเดินออกไปเองหรือจะให้โยนออกไป"
"น้ำ...หน่อย" คนบนเตียงยังบ่นพึมพำแต่คำขอเดิม ๆ ความอดทนเขาไม่ได้มีสูงซะด้วยสิ
พึ่บ! เขาคว้าต้นแขนของเธอ เพียงออกแรงนิดเดียวคนตัวเล็กก็ปลิวมาตามแรงดึง ผมยาวปกปิดหน้าทำให้เห็นหน้าของเธอไม่ชัด
"อะไรเนี่ย!"เธอยังมีแรงขืนตัวไว้
"ออกไป"
"ปล่อย!" เธอก้มหน้าก้มตาพยายามแกะมือที่ต้นแขนออก
"มานี่" เขาออกแรงดึงเธอให้ลุกจากที่นอน แต่เธอก็ออกแรงยื้อตัวเองไว้เหมือนกัน
พลั่ก!
เธอใช้เท้ายันเข้าที่ท้องของผู้ชายตรงหน้า แต่ด้วยแรงที่มีเพียงน้อยนิดของเธอมันเป็นเหมือนการสะกิดเบา ๆ เท่านั้น
"เป็นใครเนี่ยเข้ามาในห้องฉันได้ไง หา!" เสียงแหลมเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ตัวเองจะทรงตัวไม่อยู่ เธอทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งเมื่อเขาเผลอปล่อยมือ
"..." เขายืนมองคนเมาที่กำลังพยายามคลานไปกลางเตียงแต่ก็ไปไม่ถึงเธอจึงเอื้อมไปคว้าเอาหมอนกอดไว้แทน ชุด
เดรสแหวกข้างอ้ากว้างขึ้นเมื่อเธอยกขาเกยกับหมอน เรียวขาสวยเรียบเนียนทำให้เขาเผลอยืนจ้องมันซะนาน
"นายเป็นใคร~" เสียงเล็กแหลมของเธอถามขึ้นทำให้เขาได้สติ ดวงตากลมจ้องผ่านผมที่ปกปิดหน้า
"เจ้าของที่นี่"
"นี่มันบ้านฉัน นายเป็นใคร!" เธอตะโกนโหวกเหวก
"ก็บอกว่าเจ้าของที่นี่ ออกไป!"
หมับ!
เมื่อเขาจับแขนเพื่อที่จะพาตัวเธอออกไป แต่ดันเป็นเขาที่ทรงตัวไม่ดี ทำให้ถูกคนบนเตียงดึงไปทับบนตัวเธอแทน
"หล่อจังเลยน้า~"
เขายันตัวขึ้น ในขณะเดียวกันผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างกับเอื้อมมือมาสัมผัสกับรอยสักตามลำคอ เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ นิ้วเรียวกรีดเล็บไล่ไปตามใบหน้า ลำคอ เลื่อนลงมาแผงอกกว้าง สายตาที่จ้องมองผ่านผมที่ปกปิดหน้าทำให้เธอเริ่มรำคาญ
มือเล็กเสยผมที่ปิดหน้าตัวเองออก ทำให้เขาได้เห็นเธอชัดขึ้น แสงไฟที่ส่องมาจากมุมห้องจะสว่างเพียงน้อยนิด แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากแค่ไหน แต่เมื่อกี้เธอชมเขาหล่อด้วยงั้นสิ
"คิน~ หล่อจังเลยนร้า" เธอเปล่งเสียงพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลายเป็นพูดถึงคนอื่น
"แฟนเธอเหรอ" อยู่ ๆ ก็จะไปอยากรู้เรื่องของคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อทำไม
"อ่า~ คินน่ะหล่อที่สุดในสายตาฉันแล้ว" เธอเริ่มพูดเพ้อไปถึงคนอื่น คงจะเป็นแฟนเธอสินะ
“เธอออกไปจากที่นี่ได้แล้ว” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปกระชากแขนเธอ
“ไม่! ที่นี่มันบ้านฉัน” เธอยังคงพยายามขืนตัวเองให้นอนลงไปยังที่นอนตามเดิม
เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับจ้องมองภาพตรงหน้า ในขณะที่ตัวเองก็ยังคร่อมร่างของเธออยู่ ดวงตาสีนิลไล่สายตามองใบหน้าสวยของเธอ ริมฝีปากแดงยังคงบ่นพึมพำอย่างไม่ได้ศัพท์ ในขณะที่มือของเธอจับต้นแขนของเขาไว้แน่น ยัยนี่ก็แค่เมา เดี๋ยวเรียกให้คนมาเอาตัวลงไปแล้วกัน แต่หลุดขึ้นมาได้ยังไงค่อยไปจัดการตามหลังเอา
เขายันตัวขึ้นลุกจากเธอ มือเล็กเปลี่ยนจากจับต้นแขนมาเป็นคล้องคอเขาแล้วดึงเข้าหาตัวแทน ใบหน้าใกล้ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหล้าผสมกับกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงจากตัวเธอ ดวงตากลมมองเขาก่อนจะเผยยิ้มหวานที่ทำเอาเขาใจเต้นแรง
“จมูกสวยจัง ปากก็สวย…หน้าสวยจัง” เธอเอานิ้วเรียวไล่จิ้มไปตามส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า เขาขยับหน้าหนีเธอก็ดึงให้เขาชิดเข้ามาอีก
“…” เขาได้แต่เงียบแล้วปล่อยให้เธอสัมผัสเขาอยู่แบบนั้น นิ้วของเธอลูบไล้ไปตามข้างแก้มแล้วเลื่อนมายังต้นคอ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำแต่ปล่อยให้เธอสัมผัสตัวเขาโดยไม่ต่อต้าน ซึ่งปกติเขาไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสตัวมั่วซั่ว
พึ่บ!
ร่างบางเปลี่ยนจากถูกเขาคร่อมมาเป็นขึ้นคร่อมเขาแทน ชุดเดรสแหวกขึ้นมาถึงต้นขามือทั้งสองข้างกดข้อมือเขาไว้ข้างหัว แรงที่มีน้อยนิดของเธอมันทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้วนอกจะเขาจะเป็นฝ่ายสมยอมมันซะเอง
“นายเป็นใคร” เธอถามเขาอีกครั้ง
“ฉันต้องถามว่าเธอน่ะเป็นใคร” ดวงตาคมปรือมองเขา พร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก
“เจ้าของที่นี่” คนเมายังยืนยันคำเดิมซ้ำ ๆ
“ถ้าจะเป็นเจ้าของที่นี่ เธอต้องได้ฉันด้วยสิ” เธอขมวดคิ้วจ้องมองหน้าผม
“เจ้าของที่นี่มีแค่ฉันกับคินเท่าน้าน~” ชื่อนี้อีกแล้วคงนึกถึงแฟนตลอดเวลาเลยสิ สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนก็แปลกแล้ว แต่สภาพของเธอตอนนี้ถ้าเป็นคนอื่นยัยนี่คงไม่รอดแล้ว แต่เขาไม่นิยมผู้หญิงขี้เมา
“ที่นี่คลับการ์เบรียลล่าเธอเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า”
“นี่บ้านฉัน ฉันจำประตูบ้านได้” เธอชี้ไปทางประตูบานใหญ่สีดำที่เธอเป็นคนทุบมันตอนจะเข้ามา
“เมาเกินร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนี่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ ลุก!” เขาไม่ใช่พวกใจร้ายใช้กำลังกับผู้หญิงขนาดนั้น แต่ประเภทที่ดื้อด้านแบบนี้ก็ต้องออกแรงกันหน่อย
“หยุด อย่าดิ้นนะ” เธอโน้มหน้าเข้าใกล้แล้วเอียงหน้าซุกข้างลำคอ
“…” กำลังจะเป็นผู้ชายที่ถูกผู้หญิงข่มขืนหรือไง
จุ๊บ!
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจูบลงข้างลำคอแล้วขบเม้มแรง ๆ มือหนาดันไหล่เธอออก เธอยิ้มให้พร้อมกับจับมือผมมาแนบไว้ข้างแก้ม นิ้วเรียวลากยาวไปตามแผงอก ไล่จนไปถึงหน้าท้องและหัวเข้มขัด
“เธอ…ต้องการ” ผมถามขึ้นในขณะที่เธอยังคงยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ชื่ออาราย~”
“…”
“ชื่อ…อะไร”
“ไม่ต้องรู้” คนเมาทำหน้าบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินคำตอบ
“คิดว่าหล่อแล้วจะปฏิเสธอะไรก็ได้ไง ถามแค่นี้ทำไมต้องหวงชื่อด้วย”
“แล้วเธอล่ะชื่ออะไร” ผมลองถามกลับบ้างในขณะที่คนเมายังคงบ่นพึมพำไม่เลิก เป็นคนเมาที่ขี้บ่นจริง ๆ นะ
“คิมฉันชื่อคิม” เธอตอบกลับมาอย่างง่ายดาย แต่สายตาของเธอยังคงจดจ้องไปยังรอยสักตามลำตัว
“เธอขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง” ผมลองถามเธออีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มตั้งสติได้แล้วนิดหน่อย
“ที่นี่มันบ้านฉัน นั่นก็ประตูห้องฉัน ฉันจำได้แม่น ฉันไม่เมา...แล้วนายเป็นใคร” ผมจ้องมองไปยังริมฝีปากเล็กที่พูดไม่หยุดริมฝีปากอวบอิ่มที่น่าสัมผัส นั้นกำลังสะกดสายตาผม ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าของเธอมันน่ามองจนละสายตาไม่ได้
“ฟังนะ เธอเมา ที่นี่มันคลับของฉันยัยขี้เมา!” เธอทำหน้าตกใจพร้อมกับหันมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะหยุดมามองที่หน้าผม
“คิน” เธอเรียกชื่อนี้อีกแล้ว
“ฉันไม่ใช่คนที่ชื่อคิน”
“ไม่ใช่…ตามคินมารับฉันเดี๋ยวนี้ ที่นี่ที่ไหน กรี๊ด!” เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวหรือไง
“หุปปาก”
“ใครวะเนี่ย!” เธอตะโกนออกมาเป็นสำเนียงภาษาไทยอย่างลืมตัว แต่ผมเองที่พูดได้ห้าภาษาจึงฟังมันออก
“ฉันถามเธอมารอบที่ร้อยแล้วว่าเธอเป็นใคร” สำเนียงที่ตอบเธอกลับไปก็เป็นภาษาไทยเช่นกัน เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“นายพูดภาษาไทยได้!”
“อยู่ตะโกนแหกปากสักทีได้ไหม” เสียงดังน่ารำคาญชะมัดผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้
“นายจะทำอะไรฉัน”
“เธอต่างหากที่จะทำอะไรฉัน รอยนี่ก็ฝีมือเธอ” คนตัวเล็กเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รอยแดงตรงคอของเขา
“….” ริมฝีปากที่น่าสัมผัสเม้มเป็นเส้นตรง เธอกวาดสายตาไล่ไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอคร่อมร่างของเขาอยู่
“ ถ้าจะมองขนาดนี้บอกฉันตรง ๆ เลยก็ได้นะ” ดวงตาคมจ้องมองไปยังเนินอกขาวที่โผล่พ้นชุด
“กรี๊ด! กล้าดียังไงมามองฉันแบบนี้” ดูเหมือนว่าเธอจะสร่างเมาขึ้นมาแล้ว
ร่างบางดันตัวเองออกจากเขา แต่ยังไม่ทันได้ลุกมือหนาโอบรัดที่เอวบาง แล้วดึงเข้าหาตัว อกอวบแนบชิดกับแผงอกกว้าง ขายาวของเขา ยกขึ้นแทรกกลางระหว่างขาเรียว
“กรี๊ด!!” ถึงตัวจะเล็กแต่พลังเสียงก็ใช่ย่อยตัวแค่นี้แต่เสียงดังชะมัด
“หุบปาก”
“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด!!!” ยิ่งห้ามก็ยิ่งเสียงดัง ยิ่งโดนโอบรัดเธอก็ยิ่งแผลงฤทธิ์ มือเล็กพยายามทั้งดันทั้งตีทั้งทุบเพื่อให้หลุดออกจากตัวเขา
พึ่บ!
เมื่อความอดทนสิ้นสุดจึงเป็นผมที่เปลี่ยนเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมตัวแทน แต่ใช่ว่าเพียงเท่านี้จะหยุดเธอได้
“กรี๊ด!” สุดยอดเลย ตัวแค่นี้ปอดใหญ่ขนาดไหนแหกปากออกมาได้ขนาดนี้
“หยุด แหกปาก!”
“ไม่! ทำไมจะฆ่าฉันหรือไง ใหญ่มาจากไหน เป็นใครกล้ามาสั่งฉัน รู้มั้ยว่าฉะ! อื้อ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบปากเล็กก็ถูกทาบทับด้วยริมฝีปากของคนตัวสูง ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกรวบไว้เหนือหัวด้วยมือหนาเพียงมือเดียว
ยิ่งเธอดิ้นหรือส่งเสียงก็ยิ่งถูกกดริมฝีปากให้แนบชิดกว่าเดิม ลิ้นร้อนชื้นซุกไซ้ชิมความหวานในปากเล็ก ยิ่งเธอขัดขืนเขาก็ยิ่งไล่ต้อน ในหัวบอกให้เขาพอได้แล้ว แต่ร่างกายของเขา กลับตอบสนองอย่างตรงกันข้าม ในตัวของเขามีแต่คำว่ายังไม่พอต้องการอีก วนซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น
เธอสะบัดหน้าหนี ทำให้ริมฝีปากที่แนบชิดแยกออกจากกันและกัน เมื่อเธอได้เป็นอิสระจากพันธนาการของเขา ปากของเธอก็ทำหน้าที่ของมันทันที
“กรี๊ด!!!” เธอกรี๊ดใส่หูเขาเต็มเสียง ทำให้เขาต้องปล่อยมือจากข้อมือของเธอ มาปิดหูตัวเองไว้
“หนวกหู!”
ปัง!
เสียงตะโกนของเขาและเธอทำให้พวกลูกน้องที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยความตกใจ เราทั้งสองหันไปตามเสียงดังที่เกิดขึ้น ผู้ชายจำนวนสิบกว่าคนต่างยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
“เอ่อ…” พวกเขาต่างทำอะไรไม่ถูก
ภาพตรงหน้าคือเจ้านายของเขากำลังคร่อมร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เสื้อผ้าของเจ้านายเขาหลุดลุ่ย เท้าของผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างยกขึ้นยันหน้าท้องเขาไว้ สถานการณ์ตอนนี้ทำให้พวกเขามองได้สองแบบ คือพวกเขาเข้ามาขัดจังหวะความสุขของเจ้านาย กับอีกแบบคือพวกเขาเข้ามาช่วยชีวิตเจ้านาย
“มาเอายัยนี่ออกไป” สิ้นเสียงคำสั่งผู้ชายสิบกว่าคนต่างพากันเข้ามาดึงตัวเธอออก แต่ใช่ว่าเธอจะยอมง่าย ๆ ร่างบางยันตัวลุกพร้อมกับที่เขาลุกออกจากตัวเธอเช่นกัน เธอม้วนตัวข้ามไปลงอีกฝั่งของเตียงแล้ววิ่งออกไปทางประตู แต่ด้วยชุดที่มันยาวทำให้เธอเหยียบชายกระโปรงแล้วสะดุดล้มลงบนพื้น
ปึง!
“ฮ่า อุ๊ปส์!” เธอหันไปมองตามเสียงหัวเราะ มองเขาที่กำลังกลั้นขำยืนติดกระดุมเสื้อมองเธออยู่
“ขำอะไรไอ้บ้า!” คำพูดของเธอทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ สายตาดุหันไปจ้องมอง
“เอาตัวมา” ผู้ชายที่ยืนอยู่ต่างพากันเดินตรงเข้าไปหาเธอ
“หยุด! ใครโดนตัวฉันไม่จบแน่” ร่างบางลุกขึ้นจากพื้นยืนประจันหน้าพวกเขา สายตาแข็งกร้าวที่ไม่กลัวใครของเธอทำให้ทุกคนต่างหยุดนิ่ง เธอละสายตาจากพวกเขาแล้วหันไปจ้องมองคนที่อยู่ด้านหลังสุด
“จะให้พวกนี้จับหรือจะให้ฉันจับเอง”
“ก็ลองสิ”
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้กัน ทุกคนแหวกทางให้กับชายผู้เป็นเจ้านาย เขาก้าวเท้าเดินเธอก็ก้าวถอยหลัง จนเธอหยุดอยู่ตรงประตูทางออก เมื่อเขาสังเกตได้ว่าเธอกำลังจะวิ่งหนีก็พุ่งตัวไปคว้าข้อมือเล็กไว้ได้ซะก่อน เขาย่อตัวลงแล้วอุ้มเธอพาดบ่า มือเล็กทุบหลังเขาเพื่อให้ปล่อย แต่แปลกที่ไม่มีแม้แต่เสียงร้องออกมา
“อึก!”
“อย่าบอกนะ”
“แหวะ~”
เขารับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหลจากกลางหลังไปจนถึงขากางเกง ร่างสูงได้แต่ยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับไปไหน
“แหวะ~” ยังจะมีรอบสองตามมาติด ๆ
พึ่บ!
เขาวางตัวเธอลงกับพื้นแล้วเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับตรงเข้าไปยังห้องน้ำ สุดท้ายก็ต้องอาบน้ำอีกรอบหนึ่ง ถึงตอนนี้เขาจะโกรธมากแค่ไหนแต่ยัยนั่นก็เป็นผู้หญิงขี้เมาคนหนึ่ง เธอคงไม่ได้ตั้งใจล่ะมั้ง
“เอ่อ…ทำยังไงกับเธอดีครับ มีคนมาตามหาตัวเธอด้วยครับ” ลูกน้องของเขาที่เดินตามหลังมาถามขึ้น ผมหันกลับไปมองยังร่างบางที่นั่งสลบเหมือดอยู่ข้างประตู
“ฉันจะเป็นคนไปส่งยัยนี่เอง”
“ครับ”
แล้วผมก็เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายของตัวเองอีกครั้ง เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าอ้วกใส่เขา แต่เขาจะไม่โทษเธอเพราะเขาก็เป็นคนจับเธอพาดบ่าเองโดยที่ลืมไปว่ายัยนี่เมาแค่ไหน
สามสิบนาทีผ่านไป
“กรี๊ด!”
เธอแหกปากกรี๊ดตลอดทางที่เดินลงมา และไม่มีท่าทีที่จะยอมสงบเลย ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าถ้ากรี๊ดได้ขนาดนี้ ปอดเธอจะขนาดไหน
“คิม…” เสียงเรียกชื่อเธอเบา ๆ ดังขึ้นเมื่อผมก้าวลงมาถึงด้านล่างก่อน คนที่เรียกเธอคือเฮเลน ทายาทแก๊งมาเฟียที่แต่งงานวันนี้
“เพื่อนเหรอ” ผมหันไปถามเธอในขณะที่เธอยืนมองตาค้าง
“การ์เนท…คิมไม่ได้ทำอะไรให้นายไม่พอใจใช่ไหม” เกินคำว่าไม่พอใจไปแล้ว
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ายัยนี่ขึ้นไปได้ยังไง แต่ถ้าเพื่อนเธอหายเมาเมื่อไหร่พามาพบฉันด้วย” เธอเอามือปิดปากด้วยความตกใจ ตอนเมายังเก่งได้ขนาดนี้ ฉันก็อยากรู้ถ้าตอนสร่างเมาแล้วจะเก่งขนาดไหน
“โทษทีนะ พอดีว่ามารับยัยนั่น”
ทุกสายตาหันไปมองยังผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนรออยู่ ผู้ชายคนนั้นมีใบหน้าคล้ายยัยขี้เมาอยู่บ้าง เขาจ้องมองไปยังผู้หญิงที่ดิ้นอยู่ด้านหลัง
“คิน!”
เธอสะบัดหลุดจากการเกาะกุมแล้ววิ่งผ่านผมตรงไปหาผู้ชายตรงหน้า คนนี้น่ะที่ร้องหาตลอดเวลา ผมจ้องมือที่เขาโอบเอวเธอไว้ สายตาของเราทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากัน ยัยขี้เมานั่นซบลงบนอกกว้าง
“ยัยนี่ทำอะไรเสียหายหรือเปล่าครับ” ผู้ชายคนนั้นหันไปถามกลุ่มเพื่อนของเธอ
“มะ…”
“มี” แต่ยังไม่ทันที่กลุ่มเพื่อนของเธอจะได้ตอบผมก็พูดขึ้นมาซะก่อน
“ครับ ผมจะชดใช้ให้ทุกบาท ช่วยแจ้งมาที่นี่ด้วยครับ”เขายื่นกระดาษมาให้ลูกน้องของผม ในนั้นเป็นเบอร์โทรศัพท์
“…”
สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา เธอเอามือคล้องคอเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ผู้ชายที่มารับสอดมือใต้ขาเรียวแล้วอุ้มเธอออกไป เมื่อเขาหันหลังเดินออกจากคลับ ผู้หญิงในอ้อมแขนก็หันกลับมามองทางผมก่อนจะส่งจูบให้พร้อมชูนิ้วกลางขึ้น
“ยัยคิม~” เสียงของกลุ่มเพื่อนเธอร้องมาด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมหันหลังกลับไปมองที่พวกเขาก่อนที่จะเดินกลับไปด้านบน
“ฉันให้เวลาสามวัน เอายัยนั่นกลับมาหาฉัน ไม่งั้นมีปัญหาแน่
ร่างบางถูกอุ้มออกจากคลับอย่างทุลักทุเล แขนเรียวคล้องคอน้องชายเธอไว้แน่น เพราะถ้าปล่อยมือออกเมื่อไหร่คือร่วงทันที"กรี๊ด! อย่าปล่อยนะไอ้คิน" ไอ้น้องบ้านี่พร้อมที่จะโยนฉันทิ้งได้ทุกเมื่อจริง ๆ"เมาเป็นหมาเลย" เสียงบ่นที่มาพร้อมกับสายตาสมเพชจ้องมองฉันที่อยู่ในวงแขน"ไอ้น้องเลว ทำไมมาช้าฮะ สุดหล่อ" ฉันปรือตามองน้องตัวเองที่ตอนนี้มันทำหน้าเบื่อหน่ายเต็มกลืนแล้ว"จะด่าหรือจะชม เอาดี ๆ ขี้เกียจมาเลยไม่รีบ แล้วกินไรเข้าไปตัวหนักชะมัด" คินบ่นในขณะที่อุ้มฉันเดินไปตรงที่รถ"ฉันโดนรังแก กรี๊ด!"ปึก! ยังพูดไม่ทันจบคินก็โยนฉันลงพื้นทันที ข้อศอกกระแทกกับประตูรถ ทำให้ชาไปทั้งแขน"ใครจะไปรังแกพี่ได้ พี่ไม่ใช่คน" คินก้มมองฉันที่นั่งกองอยู่ที่พื้นด้วยสายตาดูถูกดูแคลน นี่ฉันเป็นพี่สาวแกนะ"ไอ้น้องบ้า แกกล้าโยนฉันแบบนี้เลยเหรอ" ฉันร้องโอดครวญอยู่ที่พื้น ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่คินจะอ่อนโยนกับพี่สาวคนนี้ ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ถ้ามีเมียผู้หญิงแบบไหนจะเอาคนแบบมันอยู่"พวกนายเอาพี่ฉันกลับบ้านได้ไหม" คินหันไปถามกลุ่มชายชุดดำที่ยืนรออยู่นอกจากไม่สนใจสภาพของฉันแล้ว มันยังไม่คิดที่จะพาฉันกลับบ้านด้วยตัวเองด้วยซ้ำน้อง
รถลัมโบร์กินีคันหรูแล่นเข้ายังลานจอดรถภายในตึกองค์กรมาเฟียประจำอิตาลี สถานที่ต้องห้ามของบุคคลธรรมดา สายตาทุกคู่ที่อยู่บริเวณนั้นจ้องมองร่างบางที่กำลังก้าวเท้าลงจากรถ ผมสลวยสีดำถูกปล่อยยาวกลางหลัง ชุดเดรสสั้นสีแดงทำให้เธอโดดเด่นท่ามกลางชุดสีดำของทุกคนรอบตัวเธอเดินตรงไปยังประตูทางเข้าพร้อมกับยื่นบัตรไปยังคนเฝ้าประตู พวกเขามีสีหน้าตกใจและจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอลดแว่นตากันแดดลง สายตาคมจ้องมองเขาทีละคน"มาพบคนที่ชื่อการ์เนทค่ะ" ริมฝีปากแดงเอ่ยชื่อของคนที่จะเข้าพบ ทำให้พวกเขาลนลานรีบเปิดประตูให้เธอผ่านไปอย่างง่ายดาย"ลืมถามว่าชั้นไหนอีก" เธอหันมองหาคนที่พอช่วยเธอได้บ้าง จนในที่สุดเธอก็เจอเข้ากับผู้ชายสูงวัยคนหนึ่ง เขากำลังเดินไปทางลิฟต์ด้วยไม้เท้า เขาส่งยิ้มให้ทุกคนที่เดินผ่านไปด้วยความใจดี จนในที่สุดเขาก็เดินมาหยุดลงหน้าลิฟต์ข้างเธอติ๊ง!ประตูลิฟต์เปิดออก เธอผายมือเป็นการบอกให้เขาเข้าไปก่อน แล้วเธอจึงเดินตามเขาเข้าไป ประตูลิฟต์ถูกปิดลง ภายในเหลือเพียงแค่เธอและผู้ชายสูงวัยเท่านั้น เขาหันมามองเธอแล้วส่งยิ้มใจดีมาให้ เธอเองก็ยิ้มตอบเขาเช่นกัน"ไม่เคยเห็นหนูเลย มาพบใครที่นี่เหรอ" ผู
คนตัวสูงตรงหน้าจ้องมองด้วยสายตานิ่งเฉย มือหนากำข้อมือเล็กแรงขึ้นจนแขนขาวเริ่มขึ้นรอยแดง แต่เธอยังคงยืนนิ่งไม่ขยับและไม่แสดงอาการหวาดกลัวใด ๆ"ที่เรียกฉันมาก็เพราะโมโหที่ฉันไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัวของคุณเหรอคะ ขอโทษนะคะ ตอนนั้นฉันคงเมามาก" ฉันส่งยิ้มบางให้กับผู้ชายตรงหน้า แต่มันกลับยิ่งเหมือนปลุกเชื้อไฟให้กับเขา"นี่สีหน้าที่สำนึกแล้วเหรอ" สายตาเรียบเฉยหลุบต่ำมองคนตัวเล็กกว่า เธอเลิกคิ้วช้อนสายตามองเขาอีกครั้ง ใบหน้าสวยยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมฉันคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงง่าย ถ้าขอโทษนี่ ไป ๆ มา ๆ ก็นึกถึงคำขอของยัยเฮเลนขึ้นมา แต่ดูท่าว่าจะเป็นเขาต่างหากที่ไม่ควรมายั่วโมโหฉัน"ดูท่าทางจะจบยากสินะ ก็แค่อยากได้เงินหรือไง ยุ่งยากจริง" ฉันพึมพำกับตัวเองเป็นสำเนียงไทย แล้วล้วงหยิบสมุดเช็คขึ้นมาเขียนตัวเลขลงในนั้น"..." เขายืนนิ่งและจ้องมองการกระทำของฉันทุกอย่าง จนกระทั่งเช็คหนึ่งใบถูกยื่นไปตรงหน้าเขา"ฉันจำไม่ได้หรอกนะคะว่าทำอะไรไปบ้าง แต่อย่าถือคนเมาเลยค่ะคุณมาเฟีย นี่เป็นค่าเสียหายที่ฉันก็คิดว่ามันน่าจะมากพอให้เราจบเรื่องนี้" เขาก้มมองเช็คตรงหน้า ก่อนที่จะหยิบมันไปอ่านอย่างตั้งใจ หึ! ก็แค่อยากไ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาฉึบ ๆ ๆมีดคมถูกกรีดลงบนแตงกวาอย่างช้า ๆ หม้อต้มกำลังเดือดได้ที่ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะยืนเหม่อไม่สนใจมัน แม่บ้านต่างยืนมุงดูหน้าประตูทางเข้าห้องครัวเพราะวันนี้ดูท่านายหญิงของพวกเขาจะอารมณ์ไม่ดีอย่างหนักตึก ๆเสียงฝีเท้าของคนเป็นน้องชายดังขึ้นตามจังหวะการวิ่ง เขาหยุดลงหน้าห้องครัว มองกลุ่มแม่บ้านต่างยืมมุงกันอยู่ทางเข้า ทุกคนต่างเปิดทางให้เขาเข้าไปยังด้านใน พี่สาวของเขาที่กำลังยืนเหม่อลอยและหั่นแตงกวาไปด้วย"เปลี่ยนจากหั่นแตงกวามาปาดคอตัวเองดีมั้ย ถ้าจะยืนเหม่อขนาดนี้" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินผ่านหลังหญิงสาวไปปิดเตา"อ๊ะ!" ฉันตกใจเมื่อมีดในมือถูกแย่งไป คินขมวดคิ้วมองพี่ตัวเองอย่างรำคาญ"เกิดบ้าอะไรถึงมาทำอาหารเอง แล้วไล่คนอื่นออกทำไม" ฉันทำหน้าบึ้งตึงและมองไปยังกลุ่มแม่บ้านที่โดนฉันไล่ออกไปเมื่อเช้า"ไม่ได้ไล่ออก แค่ไล่ให้ไปไกล ๆ ฉันต้องใช้สมาธิในการทำอาหารอย่างมาก" แค่ฉันบอกว่าจะทำอาหารเอง ทุกคนก็พากันตกใจแล้ววุ่นวายกับฉันไม่หยุด มันน่าตกใจกันมากหรือไง"ทุกคนไปทำอะไรก็ไป เดี๋ยวพี่คิมฉันจัดการเอง" คินหันไปสั่งกลุ่มคนด้านหลัง แล้วจึงหันกลับมามองหน้าฉัน"เห้อ~"
หญิงสาวในชุดเดรสสีดำสั้นเว้าโชว์แผ่นหลังเนียน ผมยาวสลวยปล่อยตรงกลางหลังพลิ้วไหวไปตามจังหวะก้าวเดิน ชุดและผมสีดำของเธอขับให้ผิวขาวเนียนผ่องเด่นชัดยิ่งขึ้นสายตาของผู้ชายมากมายต่างจับจ้องมองเธอเป็นตาเดียว ใบหน้าสวยมองผ่านพวกเขาไปอย่างไม่สนใจ ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่สนใจเธอ กลุ่มผู้หญิงก็ต่างหันมาสนใจผู้ชายที่เธอคล้องแขนเข้างานมาด้วย"ทำไมต้องควงแขน" คินหันมาถามฉันที่เกาะแขนมันไว้แน่น มองตาเป็นมันเลยนะยะพวกนี้ ฮึ! ถึงฉันจะเป็นพี่สาวที่สวยและใจดีแต่ก็หวงน้องชายมาก"แกเห็นสายตาหิวกระหายพวกนั้นไหม ฉันหวงน้องตัวเองมันผิดหรือไง""แม่ซื้อเข้าร่างเหรอ เป็นบ้าอะไรมาหวง" ไอ้นี่ปากร้ายจริง ๆ"หรือแกอยากได้ยัยพวกนั้น ฉันอ่านสายตาออกนะ ดูสายตานั่นสิอย่างกับจะกลืนกินแกไปทั้งตัว" ฉันสะกิดให้คินมองไปยังรอบ ๆ"พี่คิม" คินเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย"อะไร""น่ารำคาญ ถ้ายังไม่ปล่อยจะกลับแล้วนะ" ฉันรีบปล่อยมืออกจากแขนทันที"ดุจังโว้ย นึกว่าหมา" ฉันแยกเขี้ยวใส่น้องตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่สนใจตามเคย เราทั้งคู่เดินตรงมาหยุดที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อน สาว ๆ ต่างหันมองเราพร้อมกับแต่สายตาต่างรวมไปที่คินคนเดียวแปะ!ฉันปรบมื
"แกรู้มั้ยว่าฉันใคร" คำนี้อีกแล้วน่าเบื่อจริง"เธอเป็นใครฉันจะไปรู้เหรอ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังขัดเวลาดื่มเหล้าฉัน ไปไกล ๆ" ฉันส่งยิ่มให้เธอแล้วคว้าแก้วเหล้าด้านหลังมากระดกเข้าปาก ขมชะมัดเลยเหล้าอะไรเนี่ย"อย่ามาเมินฉันนะ" ยังไม่จบอีก"ต้องการอะไรพูดมา จะมาหาเรื่องหรือจะเรียกร้องทวงผู้ชายคืนก็พูด" ฉันต้องจัดการยัยนี่ก่อนเลย แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่ คนรอบ ๆ ข้างเขาก็แทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ปัญหาผู้หญิง ๆ ทะเลาะกัน"ต้องการให้เลิกยุ่งกับการ์เนทซะ" ฉันไปยุ่งกับเขาตอนไหน"จะพูดว่ายังไงดีล่ะ ที่เธอเห็นตรงระเบียงน่ะ!""จะแก้ตัวอะไร เธอก็แค่ผู้หญิงร่าน ๆ" ฉันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงของเพื่อนยัยนั่นพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉันตวัดหางตากลับไปมองที่เธอและขยับปากพูดอย่างช้า ๆ"สา ระ แน""นี่!""อะ! อย่าใช้อารมณ์ ทีเธอด่าฉันว่าร่านฉันยังไม่โกรธเลย ฉันจะชมเธอว่าสาระแนบ้างจะเป็นอะไร คนโกรธง่ายคือคนไอคิวต่ำ สมองฮิปโป เธอรู้มั้ยว่าฮิปโปเป็นสัตว์โง่ที่สุดในโลก...แต่ถ้าเธอไม่รู้ นั้นก็หมายความว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่ที่สุด คงพอ ๆ กับยัยนี่ที่ถามว่าตัวเองเป็นใคร" พูดจบฉันก็ยิ้มกว้างให้พวกเธออีกครั
"พี่เฮเลนแจ้งทุกอย่างไปที่พี่คิมนะครับ เดี๋ยวจะให้มาจัดการเอง" เพื่อนสาวคนสนิทของพี่คิมไปแต่ยิ้มเจือน ๆ ก่อนที่จะก้มมองราคาค่าความเสียหายทั้งหมดบนกระดาษในมือ"ห้าพันยูโรเลยนะเนี่ย" เกือบสองแสนบาทไทย ฝีมือพี่สาวของผมเอง"นี่ถือว่าเบาแล้วครับ" สูงสุดที่เคยจ่ายคือสองล้านบาท สาเหตุเกิดขึ้นจากการเมาแล้วปีนขึ้นไปเต้นบนรถซูเปอร์คาร์จนต้องดูแลสีรถให้เขาใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นี้สบายมาก"แล้วเพื่อนตัวดีของพี่เอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนแล้วล่ะ""ปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ที่รถครับ""จะไม่หลุดหายไปไหนใช่มั้ย" พี่เฮเลนพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว"ไม่หรอกครับ เมาขนาดนั้นแค่เดินก็ยากแล้ว" เล่นกินเหล้าทุกรูปแบบขนาดนั้นคงตีกันเละเทะจากภายใน"ได้ล็อกไว้กับรถหรือเปล่า" คำถามของพี่เฮเลนทำให้เอะใจเล็กน้อย แต่พอนึกสภาพพี่สาวตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาเลย"แค่ลืมตาก็ยากแล้วครับ เดินไปไหนไม่ได้หรอก" พี่เฮเลนทำสีหน้าคิดตามแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย"เดี๋ยวพี่จัดการเองต่อจากนี้ พาคิมกลับบ้านเถอะนะ""ครับ" แล้วก็ลาพี่เฮเลนแล้วเดินไปที่รถทันที ภายนอกแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงรถไม่กี่คันจอดอยู่เท่านั้น หนึ่งในนั้นคือรถคันสีดำที่จอ
รถยนต์คันหรูวิ่งผ่านประตูรั้วทึบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังประตูซ่อนความลึกลับของคฤหาสน์สีดำสุดหรูเอาไว้ บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ได้ว่าสถานที่ภายในแห่งนี้เป็นของใคร รถยนต์ตรงเข้าจอดลงหน้าประตูตัวบ้านประตูรถถูกเปิดออกจากชายชุดดำที่ยืนรอต้อนรับอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักลง และมองหน้ากันด้วยความตกใจ หญิงสาวร่างบางนอนหลับสนิทหนุนตักของชายผู้เป็นเจ้านาย บนตัวของเธอมีเสื้อคลุมสีดำปกปิดอยู่เสื้อเชิ้ตของเจ้านายพวกเขาหลุดลุ่ย กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออก สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เจ้านายผู้หวงพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาไม่เคยพาคนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันอุ้มเอง มาเปิดประตูฝั่งนี้" เสียงของผู้เป็นนายดังขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องของตนเอื้อมมือจะมาสัมผัสตัวของเธอ"ครับ"ปึง! ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองหน้ากันอย่างหาคำตอบกับเรื่องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ก่อนที่จะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เจ้านายของเขานั่งอยู่ออกร่างสูงยกหัวของเธอที่นอนหนุนตักออกพร้อมกับก้าวลงจากรถ และออกแรงอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเบาจัง เขาได้แค่คิดในใจแล
"ไม่มีไปที่ไหนเหรอครับวันนี้" การ์เนทเดินเข้าไปถามปู่ถึงในห้องทำงาน"อยากให้พาไปที่ไหนก็พูดมาเลย" เขาแกล้งพูดแหย่หลานตัวเอง ก็เดี๋ยวนี้การ์เนทดูจะอยากไปข้างนอกมากขึ้น เหมือนว่ารอจะได้ไปเจอใคร"เปล่าครับ""ถ้าอยากไปหาหนูคิมก็คงต้องรอไปก่อน" ปู่ของเขาพูดขึ้นในขณะที่หลานชายกำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง ทำให้การ์เนทหยุดชะงักและหันมามองที่ปู่"...""ครอบครัวของเธอกลับประเทศไทย สักพักคงกลับมา" เขาพูดได้เพียงเท่านี้"เหรอครับ""เอาไว้ปู่จะโทร. ไปหาเขาให้นะ""ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้" เย็นชาเกินไปแล้วหลานของเขา"ไม่อยากรู้จริงเหรอ""ครับ" ปากไม่ต้องกับใจสุด ๆ"ที่กลับประเทศไทยด่วน เพราะหนูคิมเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้" คำพูดของปู่ทำให้เขายืนนิ่ง"....""หนูคิมถูกส่งตัวไปรักษากับหมอด้านประสาทที่เก่งที่สุด ซึ่งเขาอยู่ที่ประเทศไทย""เป็นอะไรมากหรือเปล่า" การ์เนทตรงเข้ามาถามปู่ของเขาด้วยความเป็นห่วง"ไม่หรอก แล้วอีกอย่างหนูคิมยังเรียนอยู่ที่ไทยด้วย ที่มาก็จะมาแค่ช่วงปิดเทรมเธอก็ต้องกลับไปเรียน"แค่เห็นปฏิกิริยาจากหลานของเขาก็ทำให้ไม่กล้าพูดเลยว่าเธอเข้าสู่สภาวะสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากผลกระทบของ
"ฮึก ฮือ!"ย่าของเขาร้องไห้พร้อมกับกอดร่างไร้วิญญาณของลูกชายไว้แน่น ลูกชายของเธอก็คือพ่อของการ์เนท เขายืนมองร่างของพ่อที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนอนราบอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เกิดมา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพ่อเคยคุยกับเขาบ้างหรือเปล่า ความผูกพันและความรัก เขาจึงไม่เคยได้รับมันเลยจากทั้งพ่อและแม่เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากที่ว่าพ่อตายเพราะโรคประจำตัวเท่านั้น ทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับต่อสื่อและเขางานศพถูกจัดขึ้นและไว้อาลัยแด่บอสมาเฟียลำดับที่หนึ่งของอิตาลี ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาร่วมงาน เด็กชายในชุดสูทสีดำมองใบหน้าเศร้าโศกของย่าก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้"ฮือ! หลานย่า ฮือ!"เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกสงสารหลานตัวเองจับใจ ที่เขาขาดไปทั้งพ่อและแม่ ถึงเธอจะเป็นฝ่ายดูแลเขาแต่ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้"ไม่ต้องร้องนะครับ""ฮือฮือ"คำพูดของหลานยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เด็กคนหนึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่ แต่เขากับไม่มีน้ำตาออกมาให้ได้เห็น ที่ผ่านมาเขาอยู่ท่ามกลางความรักของย่าและปู่เท่านั้น ความรู้สึกต่อพ่อแม่จึงกลายเป็นศูนย์พิธีศพเป็นไปตามธรรมเนียม แต่คนขี้เบื่
"ตอนเย็นการ์เนทไปกับปู่มั้ย" ปู่ของเขาถามขึ้นในขณะที่นั่งมองหลานชายของเขาเดินเลือกดอกไม้"ไปทำอะไรครับ" เขาถามกลับมาไป แต่ไม่หันไปสนใจปู่ของเขาสักนิด ถึงภายนอกจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นถาม"ปู่จะพาการ์เนทไปงานวันเกิดของลูกสาวคนที่ปู่สนิท ไปด้วยกันนะ"เขาพยายามสุดความสามารถที่จะทำให้หลานของเขากลับมามีโลกที่มีชีวิตชีวาแบบเด็กวัยเดียวกัน ถึงบางทีเขาจะยังทำเป็นไม่ใส่ใจคนรอบข้างไปบ้าง แต่การ์เนทก็ดีขึ้นจากตอนแรกที่รับเขามาดูแล"ไม่ครับ""ทำไมล่ะ การ์เนทต้องมีเพื่อนนะ""ไม่จำเป็น" การ์เนทเลือกดอกไม้ที่เขาสนใจขึ้นมาทีละดอก แล้วนำมันมาวางเรียงกันบนโต๊ะ"ถ้าไม่อยากมีเพื่อนแล้วจะอยู่คนเดียวไปตลอดเหรอ""ก็อยู่ได้""ลองไปพบเจอเด็กวัยเดียวกันดูมั้ย" ผู้เป็นปู่พยายามสุดตัวที่จะพาหลานเขาไปให้ได้ อย่างน้อยให้เขาได้เจอสังคมภายนอกมากกว่านี้"ไม่อยากเจอ ขี้เกียจหาของขวัญ""นี่ไง เราจะเอาดอกไม้ที่การ์เนทกำลังจัดไปให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ" คำพูดของปู่ทำให้เขาหยุดมือที่กำลังดึงดอกไม้ขึ้นมาทันที สายตาของเด็กน้อยหันไปมองปู่ของเขา"ไม่มีใครอยากได้ของผมหรอกครับ"เขาไม่รู้เลยว่ามาสนใจ
เพล้ง เพล้ง!"คุณกล้าเอาอีผู้หญิงแบบนั้นขึ้นมาเหนือฉันเหรอ หา!""หุบปาก น่ารำคาญ!""เคยเห็นแก่หน้าฉันบ้างมั้ย หา!""บอกให้หุบปากไง!"พลั่ก!ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกกับผนังท้อง เธอล้มลงบนพื้นและนอนกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น อาการจุกบริเวณช่วงท้องทำให้เธอนอนตัวงอ ขยับไปไหนไม่ได้"แม่..."เด็กผู้ชายวัยห้าขวบเดินเข้ามาหาเธอและพยายามปกป้องเธอเท่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้"กลับไปที่ห้องการ์เนท!" ผู้เป็นพ่อกระชากแขนเล็กของเด็กชายแล้วลากเขาโยนออกจากห้องอย่างไม่ไยดีปัง!ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงต่อหน้าเขา เสียงทะเลาะดังมากจากภายในห้องนั้นอย่างต่อเนื่อง เด็กชายยืนฟังเสียงอยู่นาน จนกระทั่งพี่เลี้ยงของเขามาพาตัวเขาออกไปตลอดระยะเวลาที่จำความได้ เขาไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ ตลอดเวลาเขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตลอด ถึงแม้ว่าแม่เอาแต่ใช้เวลาในหนึ่งวันไล่ตามเฝ้าพ่อของเขาก็ตามความรักและความสนใจเขามักจะได้รับจากคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้มาตลอดคือ พ่อและแม่ของเขาไม่เคยรักกันจนในที่สุดคุณปู่และคุณย่าก็ทนเห็นสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว พวกท่านทั้งสองคนมารับตัวผมไปอยู่ด้วยตอนอายุได
"คุณพ่อขา ฟีฟี่อยากได้ม้า"เด็กสาววัยสามขวบชี้นิ้วไปยังการ์ตูนในจอโทรทัศน์ ม้าโพนีตัวสีชมพูวิ่งไปมาอยู่ตรงหน้า เธอหันมากอดคอผู้เป็นพ่อและซบหน้าลงบนไหล่"อันนั้นเป็นม้าโพนีค่ะ เป็นการ์ตูนก็คงหาให้ฟีฟี่ได้แค่ตุ๊กตา พ่อก็อยากซื้อม้าจริง ๆ ให้ฟีฟี่แบบนั้นนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าจะไปหามาให้จากที่ไหน" เขาอุ้มลูกสาวตัวเล็กมานั่งตัก"ถ้าม้าเป็นสีชมพูแบบนั้นจะต้องน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ สัตว์บนโลกให้เป็นสีชมพูก็น่ารักหมดเลย" เธอเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้าง ยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟีฟี่ทำให้ผู้พบเจอต่างพากันสดใสตามเธอ"สัตว์บนโลกทุกตัวน่ารัก ฟีฟี่ต้องรักพวกเขาให้มาก ๆ นะ อย่าไปรังแกพวกเขา""ค่ะ ฟีฟี่รักสัตว์บนโลกทุกตัว แล้วก็รักคุณพ่อขาด้วย" ฟีฟี่ลุกขึ้นยืนบนโซฟาและกอดคอของผู้เป็นพ่อไว้แน่น"อ๊าก !"เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากประตูบ้าน เด็กผู้ชายที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเด็กผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ ฟีฟ่า แฝดผู้น้องโครม!ฟีฟ่าทรงตัวอยู่เซิร์ฟสเก็ตวิ่งเข้ามาในบ้าน ถึงความเร็วจะไม่มาก แต่พื้นของบ้านที่ไม่เหมาะกับการเล่นทำให้ลื่นแล้วล้มกลิ้้งอยู่ที่พื้นการ์เนทหันมองไปยังลูกชายของตัวเอง คนในบ้านต่างวิ่งเข้ามาเพื่อจะ
"ใกล้ถึงแล้วครับ"เสียงคนขับรถเรียกสติให้ฉันกลับไปสนใจสถานที่ตรงหน้า"ค่ะ"สายตามองไปยังอาคารหรูตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สถานที่รวมตัวของกลุ่มมาเฟียจากหลายประเทศ ทุกคนต่างมาเพื่อแสดงความยินดีและแสดงความต้อนรับแก่บอสมาเฟียคนใหม่ รวมไปถึงการประกาศของการผู้นำคนใหม่ของลำดับที่สองและที่สามด้วย นั่นคือเฮเลนและสามีของเธอรถยนต์จอดหยุดลงหน้าทางเข้า ประตูรถถูกเปิดออก กลุ่มชายจำนวนมากต่างยืนเรียงรอต้อนรับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ"เชิญครับ" เขายื่นมือมาให้เธอพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย"ขอบคุณค่ะ" ฉันก้าวเท้าลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่นอกอาคารจำนวนมากต่างจ้องมองมาทางฉันถึงจะเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากการถูกมอง แต่คนจำนวนเยอะขนาดนี้ฉันก็เพิ่งได้สัมผัสครั้งแรก นี่ขนาดด้านนอกนะ ยังไม่ได้เข้าไปในอาคาร"คนเยอะมากเลยนะคะ" ฉันหันไปพูดกับคริสเตียนที่ออกมารอรับ"ข้างในเยอะกว่านี้ครับ ทุกคนรอพบนายหญิงอยู่" ถึงจะฟังดูเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันได้ไม่น้อย"ฉันดูสำคัญมากเลยนะคะ""สำคัญสิครับ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับบอสนี่ แล้วอีกอย่างบรรดาญาติก็อยากเห็นผู้หญิงที่การ์เนทเฝ้ารอมาตลอดสิบปีครับ" คำพูด
"นายทำอาหารเป็นด้วยเหรอการ์เนท""ก็พอเป็นบ้าง""ว้าว ทำข้าวต้มเป็นด้วยสินะ" ฉันมองข้าวต้มในหม้อที่กำลังเดือดได้ที่"ดูจากในเว็บมาครับ" คำตอบของเขาทำฉันหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"ทำได้น่ากินขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนไทยแท้ ๆ ยังทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นเลย เต็มที่ก็ไข่ดาว" ฉันนี่น่าขายหน้าจริง ๆ"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอก เดี๋ยวผมจะจ้างพ่อครัวตามความถนัดของอาหารแต่ละประเทศมาไว้บ้าน เผื่อพี่คิมอยากกินอาหารประเทศอื่น" สายตาที่แสดงออกมาคือเขาจะทำแบบนั้นจริง ๆ"ฉันว่าไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ" ฉันต้องหยุดเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ"เอาแบบนั้นเหรอครับ""เอาแบบนั้นดีแล้ว อย่าต้องให้มีพ่อครัวมากไปกว่านี้เลยนะ" แค่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว"พี่คิมลองชิมมั้ย" การ์เนทใช้ช้อนตักข้าวต้มในหม้อขึ้นมาเป่า แล้วป้อนให้ฉัน"อื้อ~" ฉันแกล้งทำเสียงและกลอกตาไปมา"อร่อยมั้ย""อ่า~""...""อืม~""เดี๋ยวเททิ้งแล้วให้พ่อครับมาทำให้ใหม่แล้วกัน" การ์เนทปิดเตาแล้วทำทีจะยกหม้อไปเททิ้งจริง ๆ"เดี๋ยวสิ ขี้น้อยใจจังเลยนะ อร่อยมาก""ก็พี่คิมทำหน้าเหมือนไม่อร่อย" แค่ฉันแกล้งเล่นก็ทำลายความมั่นใจของเขาไปจนหมดเลยเหรอเนี่ย"อร่
ณ ห้องทำงานของคิมติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่โทร. เข้ามา มือเรียวเอื้อมไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน"สวัสดีค่ะ"(คิม)เสียงจากปลายสายทำให้ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ เบอร์ที่ไม่คุ้นตาแต่เรียกชื่อฉันเหมือนรู้จักกันมานาน เสียงปลายสายก็คุ้นหูพอสมควร"ใครพูดสายคะ" เพื่อความแน่ใจจึงเลือกที่จะถามออกไปเลย(โจเซฟ) ฉันว่าแล้วไง"มีเบอร์ฉันได้ยังไง" หากันง่ายเหลือเกินคนพวกนี้(ขอมาจากเพื่อนเก่าน่ะ) ฉันถอนหายใจใส่โทรศัพท์"แล้วโทร. มามีอะไร"(เธอทะเลาะกับเขาเรื่องที่เราไปกินข้าวกันใช่มั้ย)"รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา" ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองตรงไปยังด้านหน้า(เราเป็นห่วง แล้วตอนนี้ดีกันหรือยัง)"ก็ปกติ"(...ก็ดีแล้ว) ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า"โทร. มาถามแค่นี้ใช่มั้ย"(อย่าเพิ่งวางนะ คิมลืมไปหรือยังว่าวันนี้วันอะไร) วันอะไรงั้นเหรอ ฉันมองไปยังวันที่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ"วันศุกร์" มีหวังตอบไปว่ารู้ก็คอขาดพอดี(ฮ่าฮ่า คิมลืมก็ไม่แปลกมันนานมาแล้วนี่...วันนี้วันเกิดเราเอง)"อ่อ งั้นเหรอ"(วันนี้วันเกิดเรา คิมมาหาเราได้ไหม) โจ
"เดี๋ยวฉันต้องไปส่งเคทที่บ้าน ส่วนเฮเลน สามีจะมารับ" ฉันยืนมองเพื่อนสาวสองคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา คนที่เมาหนักสุดน่าจะเป็นเคท"เคทเดี๋ยวมีคนมารับ" หลังจากคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จเขาก็หันมาบอกฉัน"นายจะให้คนไปส่งเคทเหรอ เดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้นะ""ไม่ต้องหรอก คนที่จะมารับรู้บ้านของเธอดี" การ์เนทดูมั่นใจมาก เขาส่งยิ้มให้ฉันและเดินไปสั่งงานกับคนของตัวเอง ฉันได้แต่ยืนมองเพื่อนสองคนที่เมาหลับไม่รู้เรื่องสองคนนี้ถือว่าเป็นคนที่ไปไหนไปกันเสมอ ขอให้ช่วยหรือทำอะไรก็ไม่เคยบ่น แม้แต่วันนี้เมาเละขนาดนี้ก็เพราะฉันไม่สามารถดื่มได้ ทั้งสองคนจึงจัดการให้เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าฉันดื่มไปเยอะ"สามีคุณเฮเลนมาแล้วครับ" ลูกน้องของการ์เนทเดินเข้ามาบอกฉัน พร้อมกับสามีของเฮเลนเดินตามหลังเข้ามา"ขอโทษด้วยนะ" ฉันกล่าวขอโทษเมื่อสามีของเพื่อนสาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาส่งยิ้มให้ฉันและมองไปที่ภรรยาของตัวเอง"ไม่เป็นไร เฮเลนบอกแล้วว่าวันนี้ต้องมาทำอะไร" สามีของเฮเลนเข้าใจธรรมชาติของพวกเราจริง ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอและช้อนอุ้มเฮเลนไว้ในอ้อมแขน"ขับรถกลับดี ๆ นะ""ดีกับการ์เนทแล้วใช่มั้ย" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก