อีวานไหว้ทำความเคารพหน้าพิธีรูปพ่อแม่ขนมปัง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลขนมปังแทนพวกท่าน เขาไม่อยากให้พวกท่านต้องมีห่วงอะไร เขาจะสนับสนุนทุกอย่างในชีวิตของเธอตั้งวินาทีนี้เป็นต้นไป “ไปเดินเล่นกันไหมคะ” “เอาสิ” ขนมปังชวนอีวานไปเดินเล่นตรงท่าน้ำของวัด ตรงนั้นมีให้ปล่อยเต่า ปล่อยปลา ปล่อยนก และให้อาหารปลา ขนมปังสังเกตเห็นมาเฟียหนุ่มบอกสัตว์เหล่านั้นจึงลองเอ่ยชวน “อยากลองปล่อยไหมคะ” “ได้ อยากลองเหมือนกัน” “เดี๋ยวฉันซื้อให้นะคะ” “ใช้เงินฉัน” “ไม่เอาค่ะ งั้นก็หารกัน รอบนี้ฉันจะไม่ยอมให้คุณจ่ายอยู่คนเดียว เอาไงเลือกค่ะ” “ยอมแล้ว” จบที่อีวานยอมให้ขนมปังจ่ายเงิน ขนมปังซื้อเต่าสองตัว นกสองตัว และปลาสองตัวมาปล่อยกับอีวาน โดยขอพรว่าให้เธอได้อยู่เคียงคู่กับชายหนุ่มผู้นี้ด้วยเถิด… ขอพึ่งมูเตลูหน่อยนะ พึ่งตัวเองไม่ไหวแล้ว.. เหนื่อย ทั้งสองคนเดินจับมือกันมาที่สะพานมาให้อาหารปลากิน ปลาตัวใหญ่มากมายแหวกว่ายขึ้นมากิน น้ำกระจายจากแรงแหวกว่ายของปลา “อันนี้ปลาอะไร” “ปลาดุกค่ะ ตัวใหญ่เนอะ” “อืม ปกติเคยเห็นแต่ตัวที่เล็กกว่านี้” อย่างตัวที่ขนมปังซื้อมาปล่อยกับเขา ตัวประมาณท่อนแขนเธอได้ ระห
“คุณคงรู้ว่าฉันดีใจมากที่คุณกลับมา และฉันดีใจที่คุณยืนตรงนี้”“คุณจะเชื่อไหมว่าสิ่งที่พูดมามันไม่ได้ทำให้ฉันอยากหนีออกห่างคุณไปเลยค่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างจริงใจ สบตาเขาระหว่างพูดไปด้วย“ต่อให้ในวันข้างหน้าฉันต้องเสียใจ แต่ฉันจะไม่ยอมเสียคุณไปค่ะ”“เธอชอบฉันใช่ไหม”“ไม่บอกหรอก ไม่อยากแพ้ คนชนะจะได้เอ่ยความต้องการ ฉันจะรอจนกว่าคุณจะเป็นคนบอก ห้าปี สิบปี”“ฉันก็จะรอค่ะ”พรึบ อีวานโอบกอดเธอราวกับหวงแหนหญิงสาว คำพูดทุกคำของเธอมันกำลังเกาะกุมเจาะลงไปที่หัวใจที่ถูกปิดผลึกเอาไว้ ตอนนี้ก่อนผลึกนั้นได้เกิดรอยร้าวเป็นที่เรียบร้อย รอเวลาเพียงให้มันสลายหายไประหว่างนั้นที่พวกเขากำลังกอดกัน พี่ชายขนมปังก็เดินออกมาตาม พร้อมบอกว่ามีคนมาหาเธอและผู้มาเยือนใหม่คนนั้นทำอีวานตกใจ ถึงขั้นขบกรามเข้าหากัน มือก็กำเอาไว้แน่นเมื่อได้ยินชื่อของคนนั้น“ขนมปัง คุณเลย์ตันมาน่ะ”“เลย์ตัน?”“เธอรู้จักกับเลย์ตันด้วยเหรอ”อีวานบีบไหล่เธอแรงมาก จนหน้าเธอแสดงออกว่าเจ็บ“อีวานก็รู้จักคุณเลย์ตันเหรอคะ”“เธอไปรู้จักกับมันได้ยังไง”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น แววตามีความกังวล“อีวานฉันเจ็บ”“เอ่อ สองคนเป็นอะไรเหรอเปล่
สองหนุ่มพี่น้องยืนจ้องกันด้วยแววตาเชือดเฉือนไม่มีใครยอมใคร เลย์ตันเลือกเอ่ยปากพูดก่อนเมื่อตรงนี้เหลือแค่พวกเขา“ได้ข่าวว่าพ่อตายแล้ว เสียใจด้วยนะน้องชาย อย่างนี้แกก็คงเหลือตัวคนเดียวแล้ว” น้ำเสียงไม่ได้มีความเห็นใจแต่ฟังดูเหมือนเหยียดหยามกันมากกว่า“เสือก” ตอบกลับทันควัน อีวานไม่อยากเสวนากับเลย์ตัน เขากำลังจะเดินหนี เลย์ตันก็พูดขึ้นมาอีก“หายไปตั้งสี่เดือนกลับมาอีกทำไมวะ”“ไปแล้วก็ควรจะไปลับซิวะ” มือหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ยืนเก๊กวางท่าเลย์ตันไม่อยากให้อีวานกลับเข้ามายุ่งกับขนมปังอีก เพราะว่าตอนนี้เขาจะแย่งเธอจากอีวาน จะทำให้ทุกคนที่อยู่ข้างมันกลายมาเป็นคนของเขาให้หมด!“กูกลับแล้วมันทำไม มึงนั่นแหละมาทำเหี้ยอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่กลับไปอยู่ที่ของมึงอย่างที่เคยเป็น”“หลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่างลูกชู้” น้ำเสียงเย็นชาพูดข่ม มองด้วยสายตาเหยียดหยามเต็มประดา“ไอ้อีวาน! มึงพูดเหี้ยอะไร” เลย์ตันโกรธจนเส้นเลือดปูดขึ้นหน้าเมื่อเจอคำพูดแทงใจดำ“กูพูดผิดตรงไหน ก็มึงคือลูกชู้” เน้นย้ำคำว่าชู้กระแทกใส่หน้าเลย์ตัน เพราะแม่แต่งงานกับพ่อถูกต้องตามกฎหมายแต่กับพ่อของมันไม่ใช่ ต่อให้รักกันแต่เลือกทำสิ่งที่ผิด
เธอกับพี่ชายก็นำเงินบางส่วนไปทำบุญให้ทางวัด ตอนจบงานจะนำส่วนที่เหลือไปบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า โรงพยาบาล และโรงเรียน เป็นผลบุญกุศลให้พ่อกับแม่“เอาไปพี่อยากให้ พี่ก็อยากทำดีกับเขาบ้าง”คำพูดกำกวมนี่มันอะกัน“รับไป มันตั้งใจให้” อีวานเอ่ยเสียงเรียบ เพราะอีวานก็แอบเอาเช็กกับสดไปให้พายช่วยงานกับค่าใช้จ่ายของงานตั้งแต่วันนี้ถึงวันสุดท้าย“ขอบคุณนะคะคุณ..พี่ลูเซียโน่”เธอยกมือขึ้นไหว้ กำลังจะขอตัวออกมา อีวานจับข้อมือแล้วเอ่ยถาม“จะไปไหน” อีวานมองดูในศาลาแขกที่มาก็ทยอยออกไปจนจะหมดแล้วจะเหลือก็ไอ้เสี้ยนหนามที่มันตำตาเขาเห็นจะมีแค่ไอ้เลย์ตัน!“ฉันต้องเดินไปส่งเขาก่อนค่ะ”“อย่า มันมาเองได้ก็ให้มันเดินกลับออกไปเอง จะไปส่งมันทำไม”“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”สิ้นประโยคนั้นขนมปังก็แกะมืออีวานออกได้สำเร็จ อีวานได้แต่มองตามเธอเดินไปหามัน อยากจะลุกขึ้นเดินตามไปแต่ก็กลัวอดใจจะได้เปิดฉากต่อยตีอีกรอบขนมปังเดินมาหาเลย์ตัน เขายืนรอเธอให้ไปส่งอย่างที่ทำทุกวัน เลย์ตันมางานศพพ่อแม่ขนมปังตั้งแต่วันแรกและเขาก็จะมาทุกวันจนเสร็จงาน“ขอบคุณที่มาร่วมงานทุกวันเลยนะคะคุณเลย์ตัน”“เดินไปคุยไปดีกว่าครับ”เลย์ตันชวนขน
ระหว่างเดินกลับมาศาลาหลังจากไปส่งเลย์ตันขึ้นรถเสร็จ ขนมปังได้รับข้อความจากเพื่อนสนิท นั่นคือผิงอันเธอส่งเมสเซนเจอร์มาทางโทรศัพท์ เป็นข้อความที่ทำให้เธอทั้งตกใจทั้งเสียใจในเวลาเดียวกัน ตัวเธอสั่นเทา ขาแขนรู้สึกอ่อนแรงหลังจากได้เห็นข้อความทั้งหมด ติ๊ง! Messages from Pingan Pingan : ขนมปัง Pingan : พรุ่งนี้ฉันน่าจะถึงบ่าย ๆ Pingan : ไปกับพวกพี่แฝด Kanoompang : โอเค เจอกันแก Pingan : แกรู้ยังเรื่องพ่อคุณอีวานอะ คือ..ท่านเสียแล้วนะ Pingan : เสียวันเดียวกับคุณพ่อคุณแม่เลย Pingan : พี่เคลว์บอกว่าพอเสร็จงานคุณพ่อเขาวันนี้ คุณอีวานก็รีบไปหาแกเลย Kanoompang : แก ไว้ฉันจะทักไปใหม่นะ ร่างบางก้าวเท้าเดินอย่างว่องไวเพื่อไปหาอีวาน ทำไมเขาไม่บอกอะไรเธอเลย เขาจะเสียใจมากแค่ไหนตอนนี้ คงยังทำใจไม่ได้เหมือนกับเธอ ขนาดความเสียใจเขายังไม่แสดงออกมาให้เธอเห็น เขาต้องแสร้งทำว่าตัวเองเข้มแข็งไปถึงไหนกัน อ่อนแอบ้างก็ได้.. พอเดินมาถึงศาลาขนมปังก็ต้องปรับอารมณ์ให้เข้มแข็งต่อหน้าเพื่อน กล่าวขอบคุณเพื่อน ๆ ที่มาช่วยงานก่อน ถึงใจตอนนี้จะไปอยู่ที่เรื่องของเขาอย่างเดียวแล้ว “ขอบคุณพวกแกทุกคนเลยนะมาช่วย
‘อาแต่ก็มีอีกคนที่เกลียดความรักไม่แพ้กัน เจริค’ ทำไมมีแต่ตัวตึงจังวะ ถ้าขนมปังคือคนที่ปลดล็อกอีวาน ส่วนเจริคก็คงจะเป็นน้องดิสนีย์.. ‘ความรักก็ไม่ได้ดีหรือแย่ ใช้ชีวิตให้สนุกแบบฉันดีกว่า วันนี้ทำอะไรดีล่ะ..’ ‘ไปดูมวยดีกว่า’ การชกมวยในความหมายลูเซียโน่ไม่ใช่การต่อยมวยธรรมดา แต่เป็นมวยชีวิตแลกชีวิต..ขนมปังเดินมาขึ้นรถยนต์คันหรูของอีวานที่จอดไว้โดยบอดี้การ์ด แน่นอนว่าบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอยู่รอบ ๆ แค่ไม่ได้ทำให้เอิกเกริก หรือเป็นเป้าสายตาจนเกินไป แต่คงไม่ทันสายตาของนั่งข่าวที่แอบแชะภาพขนมปังกับอีวานในวันนี้ และรอเขียนข่าวในวันพรุ่งนี้จรรยาบรรณของพวกเขาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเรียกกระแสอีกแล้ว บนรถ 🚙 “เธอจะพูดอะไรกับฉัน” “ถึงบ้านแล้วค่อยพูดทีเดียวค่ะ” ขนมปังไม่เคยนิ่งอย่างนี้มาก่อนเลย เรื่องอะไรที่ทำให้เธอโกรธเขา เรื่องผู้หญิง? ไม่น่าจะใช่ เขาไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอยู่แล้วนะ ก็มีแต่เธอคนเดียว “เอางั้นก็ได้” ทำให้บนรถตกอยู่ในความเงียบ เงียบเสียจนได้ยินลมหายใจของกันและกัน บรรยากาศน่าอึดอัดนี้มันอะไร พวกเขากำลังจะทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ.. เมื่อถึงบ้านขนมปังก็ลากแขนอีวานไปยังห้องน
“มันไม่ได้สำคัญถึงขั้นให้เธอต้องใส่ใจ” อีวานหลบสายตาเธอครั้งแรก และคงเป็นขนมปังคนแรกด้วยที่เขาไม่กล้าสู้ทางสายตาด้วย กลัวว่าสายตาที่เคยว่างเปล่านั้นจะเผยความรู้สึกแท้จริงออกมา ว่าตัวเขาเองก็เสียใจเป็น “แล้วความรู้สึกคุณมันไม่สำคัญเหรอคะ” “ความรู้สึกฉัน..” หัวใจแกร่งสั่นไหวไปหมดแล้วตอนนี้ “ใช่ ความรู้สึกของคุณ อย่าทำเหมือนมันไม่มีความหมายเลยค่ะ” “ตัวคุณและความความรู้สึกของคุณมีความหมายกับฉันนะคะอีวาน” สายตาของเธอสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากพูด เธอคือคนที่ห่วงใยเขามากที่สุด พรึบ! ขนมปังดึงอีวานมากอด เธอกอดปลอบเขาแน่นไม่อยากให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว ความอ่อนหวานกำลังเข้ากอบกุมหัวใจมาเฟีย.. “อีวานไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ คุณมีฉัน” “ฉันรอได้ค่ะ” เธอผละออกห่างโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตปากบางไม่ทันให้เขาได้รู้ตัว อีวานจูบตอบอย่างอ่อนโยน ความสัมผัสเพียงแผ่วเบา แต่กลับหนักแน่นไปด้วยความรู้สึก มือหนาประคองใบหน้าหน้าสวยไปด้วยขณะจูบปากเธอ ลิ้มรสความหอมหวานที่ไม่ได้ชิมมานานหลายเดือน เมื่อพวกเขาได้ลิ้มรสความละมุนในปากของกันและจนพอใจ ร่างบางจึงเอ่ยถามถึงเรื่องที่เขาจะคุยกับเธอ
อีวานใจร้อนลงมือจัดการถอดเสื้อผ้าที่เหลือให้เธอเอง เขาดันเธอไปอยู่ใต้ฝักบัวหมุนให้น้ำไหลลงมายังโดนร่างกายพวกเขา อีวานบีบครีมอาบน้ำใส่มือเธอกับมือเขา พวกเขาผลัดกันลูบไล้ครีมลงบนผิวกายให้กัน “ตั้งแต่ไม่อยู่ด้วยกัน มีใครได้แตะต้องคุณไหมคะ” มือเล็กถูไถบริเวณหน้าอกแกร่งเลื่อนไปตรงไหล่ ย้อนกลับมาที่เดิมแล้วต่ำลงไปจนถึงหน้าท้อง กล้ามเนื้อแข็งขึ้นเป็นก้อนบ่งบอกว่าออกกำลังกาย “ตั้งแต่เจอเธอฉันก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย” มาเฟียหนุ่มลูบครีมอาบน้ำทั่วแผ่นหลังเนียน ลูบไปจนถึงก้นงอน “อ๊ะ! อีวาน” อีวานบีบขย้ำก้นสวยของเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้ทำให้ทั้งคู่แนบชิดกันไปทุกส่วน มือหนึ่งข้างของเขาย้ายมาตรงเนินความสาว ลูบไล้แหวกนิ้วสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักของเธอ นิ้วยาวใส่เข้าไปสองนิ้วควงไปมา ดึงเข้าดึงออกและแวะเล่นกับจุกที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุข “อ๊าส์ อ๊ะเสียวจังเลยค่ะ” “ถ้ามากกว่านิ้วจะขนาดไหน” “ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเลยค่ะ” เสียงเล็กหวานออดอ้อน “ฉันไม่มีถุงยาง วันนี้คงทำได้แค่ภายนอก” “ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ปลอดภัย” ขนมปังมีแอปพลิเคชันนับรอบเดือน ซึ่งวันนี้ปลอดภัยไม่ต้องห่วง แต่ถ้าให้ดีที่สุดก็คื
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั