S-VVIP BRUTISH ROOMภายใต้เขตหวงห้ามชั้นสามที่เป็นชั้นบนสุด ทั้งชั้นเป็นของห้อง s-vvip ด้านในทั่วตกแต่งอย่างหรูหราคุมโทนสีดำ ด้านบนมีแชนเดอเรียที่ทำจากเพชรแท้ทั้งหมดส่องสว่างไสวให้สามารถมองเห็น แต่ยังมีจุดสนใจมากกว่านี้ ที่ผนังหลังโซฟาที่กว้างใหญ่ มีภาพวาดขนาดใหญ่ติดอยู่ เมื่อใครก็ตามที่เดินเข้ามาจะต้องเห็นภาพนี้เป็นสิ่งแรก คือรูปนกฟีนิกซ์คู่มีสีเงินกับสีทองกลางปีกเด่นสง่า บ่งบอกความยิ่งใหญ่ของคนที่เป็นเจ้าของคลับ“พวกมึงสี่คนคิดอะไรถึงได้พร้อมใจกันมาประเทศไทย” เคอร์วินที่เดินมานั่งเอ่ยถามเพื่อนรักทั้งสี่คนที่จู่ๆ ก็โทรศัพท์มาบอกว่าอยู่ประเทศไทย เมื่อรู้เลยนัดให้มาที่คลับทันที“ก็แค่อยากมาหาที่เที่ยวใหม่ๆ”“กูได้ยินว่าสาวๆ ที่นี่เด็ด เลยอยากรู้ว่าเด็ดจริงไหม?” ลูเซียโน่หรือลูซหยักคิ้วใส่ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ สายตาก็กวาดมองลงไปยังหญิงสาวด้านล่าง“หึ” อีวานหัวเราะในลำคอ นั่งกอดอก ปากบางได้รูปคาบบุหรี่รสชาติช็อกโกแลตรสชาติที่โปรดปราน แน่นอนว่าบุหรี่ที่เขากำลังสูบอยู่ในปาก คือผลิตภัณฑ์จากบริษัทตัวเอง บริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กัญชา บุหรี่มวนบุหรี่ไฟฟ้า รวมไปถึงสารเสพติดที่เอ
พรึบ!จู่ ๆ ก็มีผู้ชายแปลกหน้าสองคนเข้ามาวุ่นวายกับผิงอัน แต่เหมือนทั้งสามคนจะรู้จักกันอยู่แล้ว ขนมปังที่ตอนแรกถูกกันออก และพวกเขาทำเหมือนจะไม่ใส่ใจเธอด้วย แต่หลังจากคนที่ชื่อคาร์ลเตอร์รับสายโทรศัพท์ กลับกลายเป็นว่าเธอถูกอุ้มมาเช่นกัน‘อะไร แก๊งเรียกค่าไถ! ไม่น่าใช่หรอก’‘พวกเขาดูภูมิฐานเกินกว่าจะเป็นโจรกระจอก คนในคลับก็ไม่กล้ายุ่ง นี่เพื่อนฉันไปรู้จักไอ้คนพวกนี้ได้ยังไง!’‘น่ากลัวจนไม่กล้าหายใจเลย’‘รู้สึกมึน ๆ หัวด้วยสิ’ติ๊ง!ส่วนขนมปังจากตอนแรกเงียบไปพักใหญ่เพราะเจอคำขู่ แต่เมื่อได้ยินเสียงลิฟต์ดัง ทำให้เธอดึงสติที่เหม่อลอยและหวาดกลัวให้กลับมา“เป็นบ้าอะไรมาจับเราสองคน บ้านเมืองเรามีกฎหมายนะไอ้พวกฝรั่งตาน้ำข้าว!”“ไอ้X ป่าเถื่อน ปล่อยเลยนะ!”ขนมปังตะโกนด่าทอพวกเขาชนิดที่ขนสวนสัตว์มาได้ทั้งพื้นป่าเลยก็ว่าได้ ดีดดิ้นสุดแรงเกิด มือเล็กทุบตีคาร์ลเตอร์อย่างแรง“เอาไป ของมึง”คำพูดเรียบเฉยของคาร์ลเตอร์ที่พูดกับอีวานเพื่อนสนิทนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาตุบ! คาร์ลเตอร์อุ้มขนมปังมาวางลงที่ข้างอีวาน หรืออาจจะต้องใช้ว่าโยนเธอลงมาเสียมากกว่า“อ๊ะ! วางเบาๆ ไม่ได้รึไงฮะ! ไอ้แก่หัวขาว!” ขนมปังฝีปากกล้าม
“หึ มาต่อเรื่องที่ค้างไว้เมื่อครั้งก่อนกันดีไหม”“ทำไม..ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ได้…-๐-!!!” ขนมปังไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะมาเจอกับอีวานอีกครั้ง ความทรงจำในวันวานที่เธอทำไว้ กำลังไหลย้อนกลับเข้ามาในความคิด‘ฉันจะตายไหมเนี่ย โอ๊ย!’ร่างบางออกแรงดีดดิ้นอีกครั้งแต่มันคงไม่ได้ช่วยอะไรเลย เธอเหมือนถูกของแข็งรัดเอาไว้รอบตัวจนไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย“ดูท่าวันนี้พวกกูคงต้องกลับกันก่อน” เจริคยืนขึ้นเสยผมลวกๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป วันนี้ดูจะมีหลายเรื่องที่ทำเอาเขาแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้เหนือการคาดหมายเท่าไหร่ ‘เรื่องปวดหัวกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วสิ’ สิ่งนี้คือความคิดในหัวของเจริคผู้ที่เปรียบเสมือนยอดพีระมิดของกลุ่ม เขามองขาดทุกการกระทำของเพื่อนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่รู้ว่าต้องการหรือไม่ต้องการอะไรไม่ต้องรอให้อีวานเอ่ยปากบอก เพื่อนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันแค่มองป๊าดเดียวก็สามารถรู้ไปถึงความคิดที่อยู่ภายใต้จิตใจ‘ถ้าเป็นคนที่จะทำลายกำแพงมึงได้ ก็คงดี’ตุบๆ เรนเดลตบไหล่ลูซที่นั่งข้างๆให้ลุกขึ้นเช่นกัน การรวมตัวเพื่อสังสรรค์จบเร็วกว่าที่คิดไว้‘จะไม่มีวันหาเรื่องปวดหัวมาใส่ตัว โชคดีละกันนะ
อีวานลุกขึ้นยืน ร่างสูงกำยำสมส่วนบ่งบอกว่าออกกำลังกายมาอย่างดี ไหล่กว้างที่ยืนบังแสงไฟจากแชนเดอเรียจนมิดเมื่อเขายืนเต็มความสูง “คุณ” น้ำเสียงสั่นเพราะกลัว คนตรงหน้าเธออันตรายเกินกว่าจะล้อเล่นด้วยจริง ๆ “จำคำพูดตัวเองได้ใช่ไหม” อีวานกระชากตัวเล็กขึ้นมาจากโซฟา มือหนาย้ายมากอดรัดเอวคอดกิ่วที่ไม่น่าเกิน 24 นิ้วของเธอแนบชิดติดกับตัวเขา “..” “ตอบ!” “จะ..จำได้ค่ะ” “จำได้ว่า” “อืม.. ค่ะจำได้ ฉันพูดว่าถ้าเจอกันอีก จะให้เห็นขาอ่อน..” เธอตอบแล้วหันหน้าหนีเขาไปอีกทาง ซ่อนใบหน้าแดงก่ำ ‘ไม่น่าไปปากดีใส่เขาเลยขนมปัง’ “ให้เปิดให้ดูตอนนี้เลยไหมคะ ก็แค่ดู” ตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำยังกล้าล้อเล่นกับเขาอีก ‘หึ ท้าทายเก่งเป็นบ้าเลยนะยัยลูกกวางน้อย’ “หึ แต่ฉันไม่ได้อยากแค่ดู” “อึก!” มาเฟียหนุ่มกระแทกริมฝีปากบางสีอมชมพูจาง ๆ ของตัวเองลงจูบหนัก ๆ ใส่ปากอวบอิ่มเป็นกระจับของขนมปัง เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ จากรสชาติของจูบจากอีวาน “บอกแล้วว่าอย่าให้ฉันหาเธอเจอ เพราะหลังจากนี้ ชีวิตเธอมันจะขึ้นอยู่กับฉัน!” อีวานลากเธอออกจากห้อง โยนเธอไปให้บอดี้การ์ด “โอ๊ย! คุณ!” ไอ้ยักษ์นี่ทำไม
เธอหายไปจะมีคนรู้ไหม ปกติเธอก็ไม่ค่อยกลับบ้านด้วยสิ ก็เพราะชอบเที่ยวกลางคืนแล้วเปิดโรงแรมนอนจนทุกคนที่บ้านชินชากับการกระทำนี้ไปแล้ว‘ขอให้ลูกรอดกลับไปในคืนนี้ด้วยนะคะ ลูกยังไม่อยากตาย’ เธออ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้คุ้มครองเพนท์เฮ้าส์ E-vanบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองพาขนมปังมายังเพนท์เฮ้าส์สุดหรูหรา จอดรถที่ชั้นใต้ดินพื้นที่ส่วนตัวของ vip ระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากกว่าปกติของผู้อาศัยทั่วไป“เชิญทางนี้ครับ” อามอร์อ้อมมาเปิดประตูรถให้ขนมปัง ร่างบางเดินออกมาแต่ก็หยุดชะงัก“เจ้านายคุณใจร้าย ไม่สิ เขาเคยใจดีไหมคะ”อยากถามว่าใจร้ายมากไหมแต่จากที่เธอฟังแล้วคงต้องถามหาความใจดีจากเขาเสียมากกว่า“เรื่องนั้น ผมไม่ได้มีหน้าที่ตอบคำถามครับ” อามอร์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ไม่ค่ะ คุณควรตอบฉันมาก่อน แล้วเขาจะทำอะไรฉันบ้าง ฉันจะรอดไปถึงพรุ่งนี้เช้าไหม”“ไว้คุณผู้หญิงเก็บไว้ถามกับนายท่านจะดีกว่าครับ” อามอร์เอ่ย ส่วนฮาร์ทก็ดันหลังเบา ๆ ให้ขนมปังขยับตัวเดิน“เชิญครับคุณผู้หญิง”‘อะไรเนี่ย ไม่ใช่ว่าฉันต้องโดนฆ่าตายเพราะสองคนนี้ก่อนหรอกนะ..’“ฉันควรเขียนจดหมายสั่งเสียก่อนไหม ให้ฉันเขียนจดหมายสั
หรือนี่จะเป็นการเอาคืนอีกวิธีของเขา คือเธอก็ไม่ใช่ว่าจะอดทนรอใครที่ไหนได้นานเป็นชั่วโมงหรอกนะ ร่างบางนั่งกอดอกหน้านิ่ง ขาก็ขยับไปมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้ายังตกใจและรับรู้ถึงอารมณ์ของออร่าความหงุดหงิดจากเธอ ผู้หญิงน่ากลัวก็เวลานี้แหละ“แล้วนี่เจ้านายคุณจะมาเมื่อไหร่คะ?!”“ไม่ทราบครับ” ฮาร์ทตอบไปตามความจริง“แล้วไง !? คือต้องให้ฉันรอเขาไปทั้งคืนเลยไหมคะ! ฉันง่วงนอนแล้วนะ ฉันจะกลับบ้าน!” เธอเริ่มโวยวาย ไม่กลัวละ พอแล้ว พอเธอจะเดินไปใกล้บอดี้การ์ดหนุ่มพวกเขาก็ขยับหนีและยืนกันเธอ“หลบ! ฉันจะกลับบ้าน!”“ใจเย็นนะครับ”“อย่าทำให้เรื่องใหญ่เลยนะครับคุณผู้หญิง”“เหอะ! ใครคะที่ทำให้เรื่องใหญ่ พวกคุณนั่นแหละ!”“มาขู่ให้กลัวไม่พอ ยังมาปล่อยให้ผู้หญิงรออีกเป็นชั่วโมง ถ้าเจอนะจะ..!”“จะทำไม ถ้าฉันให้รอทั้งคืนจะทำไม?” ความรู้สึกที่ชาไปทั้งตัวเพียงแค่ได้ยินเสียง ขนมปังหันไปตามเสียงจากข้างหลัง เมื่อมองขึ้นไปชั้นสองก็พบกับอีวานที่ยืนอยู่ เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไปยืนอยู่บนนั้นได้? ที่นี่มีทางเข้าอื่นอีกเหรอนอกจากประตูที่เธอเข้ามา!!??‘หรือว่าตานั่นกลับมานานแล้วแต่จงใจป
“ฉันจะเล่นสนุกกับตัวเธอหลังจากนี้ ถึงจะเป็นการเล่นที่ถูกวิธี!” อีวานอุ้มเธอขึ้น อุ้มพาไปโซฟา เขานอนคร่อมตัวเธออย่างแนบชิด“ตัวสั่น? จะเล่นละครบทไหนอีกล่ะ?”“ฉันสั่นเพราะหนาวต่างหากล่ะ!”“เหรอ?! ให้ฉันกอดให้อุ่นไหมล่ะ!!”!!“ฉันจะรับผิดชอบในคำพูดตัวเอง ทำเสร็จแล้วก็อย่ามายุ่งกันอีกนะคะ!” ขนมปังไม่กลัวการที่เธอจะต้องมีอะไรกับผู้ชายหรอก เพียงแค่เธอเคยอยากเก็บไว้ให้คนที่จะมาเป็นแฟน หรือไม่ก็คนที่รักก็เท่านั้น แต่เพราะเธอดันไปปากดีใส่คนที่ไม่ควร“จะทำก็รีบทำเถอะค่ะ!” ร่างบางหันหน้านี้และยังหลับตาปี๋ มันก็แค่เซ็กส์นั่นแหละ!“อย่าทำเหมือนไม่เคยไปหน่อยเลย มันไม่เนียน”“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่เคยมันแปลกมากเหรอ!” เธอลืมตามาด่าเขาอีกรอบ ไม่มีวันที่เราจะได้พูดดี ๆ ใส่กันหรอก“ถ้ายอมใช้ปากอมให้คนที่เจอกันครั้งแรก”“เธอไม่ใช่สาวที่บริสุทธิ์หรอก”“บางทีฉันอาจจะเป็นคนที่หนึ่งร้อยหนึ่ง”เพี๊ยะ! มือเล็กยกขึ้นมาฟาดลงไปบนใบหน้า“หยุดพูดจาดูถูกฉันนะ”“หึ ครั้งแรกเลยนะ!” เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกตบ และยังหัวเราะเบา ๆ ครั้งแรกในชีวิตที่อีวานถูกตบ และยังมาจากผู้หญิงคนที่เขาสามารถเป่าหัวเธอได้ง่าย ๆ“คุ
แควกก!“โอ๊ย! ให้ถอดให้ไหมจะกระชากทำไมมันเจ็บ! สั่งให้ลูกน้องคุณเตรียมเสื้อผ้าผ้ามาไว้ให้ฉันด้วย!” ร่างบางรำคาญเขาที่มาทำลายเสื้อผ้าเธอ ขนมปังดันอีวานออกห่าง เธอนั่งขึ้น โดยยังมีอีวานที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขาเธอ ขนมปังจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมดทุกชิ้น ไม่งั้นถ้าปล่อยเขาทำมีหวังเสื้อในกางเกงในเธอก็จะไม่เหลือ!“พอใจยังคะคุณชาย!” เธอล้มตัวนอนลงเหมือนเดิม ขาตั้งชันเป็นรูปตัวเอ็ม มือวางอยู่บริเวณท้องน้อยอีวานมองการกระทำของเธออย่างไม่อยากเชื่อหูและสายตา ขนมปังไม่เหมือนใครจริง ๆ ด้วย บางครั้งเธอก็เหมือนจะกลัวเขา แต่ก็มีความกล้าไม่เบา“ดูสิ ผิวฉันแดงหมดแล้วเห็นไหม” เธอเอ่ยจนก็นอนลงอย่างเดิม ไม่แคร์สายตาที่ถูกจ้องมอง ตอนแรกก็คิดว่าจะสร่างเมา แต่ดูท่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังคงไหลเวียน และบวกกับขนมปังเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย“นี่เธอ..”อีวานกลืนน้ำลายลงคอ สายตาเขากำลังมองไปยังทรวงอกและยอดปทุมถันสีชมพู และเมื่อได้มองต่ำลงมาก็พบกับเนินอวบอูมสีขาวไร้ขนปกคลุม“อื้อ” ขนมปังขนลุกซู่เมื่ออีวานใช้นิ้วมือแตะสัมผัสจุดที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อนอีวานมองเนินขาว ใช้นิ้วแหวกกลีบสีชมพูหวานออก และดันนิ้วเข้าไป
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั