บ้านหลังดำที่ติดไฟส่องสว่างทั่วบ้านและสนามหญ้าทำให้ใบหน้าที่หวาดกลัวในตอนแรกของปาลินเริ่มสดใสขึ้น ถึงตอนแรกที่รถสีส้มของไอ้พี่ฝนคลั่งทะยานเข้ามาจอดในตัวบ้านที่มืดตื๊อ แต่พอเขาปรบมือทีสองทีไฟก็สว่างวับเหมือนมีเวทย์มนต์
เจ้าของบ้านรีบเลื่อนประตูบานใหญ่แล้วกวักมือเรียกเธอเข้าไป พิรุณเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ครัวรินน้ำรินท่าแล้วส่งแก้วน้ำมาให้ ปาลินรับมาแล้วหมุนแก้วตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรในนี้หรือไม่
"เธอเห็นพี่เป็นคนยังไง" เขาเอ่ยถามขณะกระดกนมขวดใหญ่ แถมยังแทนตัวเองว่าพี่...เหอฟังแล้วโคตรสยอง
"คนบ้าอ่ะดิ" ปาลินแอบสบถแต่พิรุณได้ยินเต็มสองรูหู
"รู้ไหมว่าพามาทำไม"
"พามานอน"
พรวด!!
นมในปากที่เพิ่งกรอกลงคอถูกพ่นออกมาเป็นละอองฝอยพิรุณหน้าแดงก่ำรีบเดินหายเข้าห้องน้ำไปหลายนาที ปาลินเกาหัวตัวเองงุนงงกับการกระทำเงอะงะของเขา ก็เธอพูดไม่ถูกเหรอเขาจงใจพาเธอมานอน
เพราะนมที่เปื้อนเปรอะเลอะเทอะเสื้อเชิ้ตดำทำให้เขาต้องถอดออก พิรุณเดินกลับออกมาด้วยสภาพครึ่งบนเปลือยเปล่าโชว์ซิกแพ็กแน่นกำยำ ปาลินที่นั่งบีบมือตัวเองอยู่บนโซฟาตวัดมองดูตาค้างแล้วรีบหันไปมองทางอื่น
"ทำไมถึงคิดว่าจะพามานอน"
ปาลินหันหน้าไปมองพิรุณที่กำลังโน้มหน้าเข้ามาคลอเคลียข้างแก้มของเธอ
"ก็นี่มันดึกแล้วถ้าไม่พามานอนแล้วจะพามาทำอะไรล่ะคะ"
"เธอเข้าใจว่านอนแบบไหนกันปาลิน" เขาเดินอ้อมมานั่งลงบนโซฟาข้างเธอยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนตัก เอาศอกเท้าคางเขม็งมองหน้าคนถูกถาม
"นอนแบบนั้นไงคะ แบบนั้นอ่ะ"
"ก็พูดมาสิพี่ไม่เข้าใจ"
โอ๊ยทำเป็นเนียนไม่เข้าใจอยากจะให้เธอพูดออกมาให้ได้เลยใช่ไหม
"ก็มีเซ็กส์กันไงคะ" พอได้พูดออกมาแล้วหน้าของปาลินก็ร้อนผ่าวขึ้นมากระทันหัน และคนด้านข้างก็เขยิบเข้ามากระทันหันเช่นเดียวกัน พิรุณพาดแขนลงมาวางบนหลังโซฟาโน้มหน้าเข้ามาใกล้
"เคยหรือเปล่า"
"ไม่....ไม่เคยค่ะ" ปาลินตะกุกตะกักรีบโอบกอดตัวเองหัวเอนลงไปยังที่วางแขนของโซฟาสีแดงกำมะหยี่ที่สีเดียวกับชุดเดรสของเธอ เพราะตอนนี้คนช่างซักกำลังโน้มตัวลงมาใกล้ทุกที
"อยากเรียนไหมพี่จะสอนให้" เขากระซิบข้างหูแล้วคร่อมมือสองข้างแนบกับลำตัวของเธอ
"ไม่อยากเรียนค่ะ ไม่เป็นไรไม่ต้องหรอกค่ะ แล้วอีกอย่างลินก็ไม่ช่ำชองไม่เชี่ยวชาญเดี๋ยวมันอาจจะไม่ว้าวก็ได้ค่ะ"
"ไม่เสียวน่ะเหรอ"
"ฮะ..คือไม่ว้าวก็คือไม่ว้าวไม่เกี่ยวอะไรกับเสียวซะหน่อย" ปาลินรีบเอามือปิดหน้าตัวเองไว้ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดดูท่าจะมีแต่ลงลึกถึงรายละเอียดมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
"เธอนี่มันม้าดีดกะโหลกดีจัง" เขาบอกแล้วลุกขึ้นเดินนำขึ้นไปชั้นบนที่มองเห็นเตียงนอนตั้งเด่นอยู่ใต้หลังคา
"มานอนเถอะเดี๋ยวพี่ไปนอนอีกห้อง" เขาบอกแล้วปิดไฟทั้งหมดของบ้านเหลือเพียงโคมไฟหัวเตียงเท่านั้น พิรุณกวักมือเรียกปาลินให้มาหาเขา หญิงสาวเดินเก้กังขึ้นบันไดบ้านมาอย่างหวั่นใจ ถึงจะเคยไปนอนค้างบ้านเพื่อนผู้ชายมาก่อน แต่ไอ้พี่ฝนคลั่งคนนี้ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟน ก็แค่คู่ดูตัวที่พ่อเขากับแม่เธอพยายามจับให้ดองกัน
"นอนสิ" เขายืนกอดอกอยู่ปลายเตียง แล้วรอจนกว่าเธอจะคลานขึ้นไปนอน
"ค่ะค่ะนอนแล้ว ๆ " ก็เขาเล่นทำหน้าดุยังกะผีถ้าเธอยังลีลาอยู่ไม่รู้ผีจะอาละวาดขึ้นมาหรือเปล่า ปาลินคลานต้วมเตี้ยมขึ้นไปนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดมิดยันคอ พิรุณกระตุกยิ้มคลานขึ้นมาอย่างเร็ว ปาลินตัวลีบแทบจะละลายหายไปกับพื้นเตียง ดวงหน้าเปี่ยมด้วยเลศนัยรุดก้มลงมา
"เปิดผ้าหน่อยเด็กดื้อ" เสียงทุ้มสั่งปาลินยอมทำตามเพราะกลัวว่าคุณพี่จะคลั่งอะไรขึ้นมาอีกเดี๋ยวคราวนี้แหละเธอไม่ได้นอนแน่
ฟอด!
แก้มของเธอถูกจมูกโด่งของพิรุณฝังจมลงมาเต็ม ๆ แค่โดนเขาหอมฟอดเดียวร่างที่กำลังสั่นเทิ้มก็หนาววาบไปทั้งตัวแล้ว ถ้าเข้าทำมากกว่าหอมมีหวังเธอจิกเกร็งตายก่อนแน่
"หอม" เขาบอกสั้น ๆ แล้วคลานลงเตียงจากนั้นก็เดินหายวับเข้าอีกห้องไปอย่างรวดเร็ว อีตาคนนี้นี่มันยังไงกันแน่ชอบพรวดพราดแล้วก็ชอบจากไปแบบงงงวย
เวลา ตี 2.00 น.
"อย่านะ..ปล่อยฉันฮึก! ไอ้ชั่วบอกให้ปล่อยไงเล่าฮึก!"
เพราะประตูห้องของพิรุณเปิดแง้มไว้เผื่อว่าปาลินจะเอาอะไรกลางดึกจึงทำให้เขาได้ยินเสียงร้องสะอึกสะอื้นที่ดังมาจากข้างนอก เขารีบเดินออกมาดูแล้วเห็นปาลินกำลังหลับหูหลับตาผลักโน่นผลักนี่ออกไปร่างกายดีดดิ้นดูทุรนทุราย ใบหน้าเต็มด้วยคราบน้ำตาที่บ่าไหลออกมาไม่รู้ตัว ถ้าเธอกำลังฝันร้ายก็คงจะเป็นฝันที่น่ากลัวที่สุด
"ลิน" แววตาที่เต็มด้วยความห่วงหาอาทรเคลื่อนเข้ามากอบกุมดวงหน้าที่กำลังละเมอเพ้อพบ
"ฮึก!.. ปล่อยนะ อย่า..ขอร้อง ขอ..อื้อ! เพราะเสียงฟูมฟายไร้สติทำให้เขาตัดสินใจสงบเสียงร้องนั้นด้วยริมฝีปากของตนเอง ปากหยักคมดูดเคล้าละเมียดละไมหวังให้ฝันร้ายกลายเป็นฝันดี ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาหวังเสียงสะอื้นจากปากเล็กบางเงียบกริบลงในพริบตาเดียว
"เป็นอะไรไปลิน" เขากระซิบอยู่ข้างแก้มที่หลับไม่รู้เรื่องแล้วจึงใช้นิ้วเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาออกไปอย่างละมุน นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตของพิรุณ ปรมะเมคินทร์ที่เคยอ่อนโยนแบบนี้กับใครสักคนเป็นครั้งแรก และเขารู้สึกโชคดีเหลือเกินที่คน ๆ นั้นคือ ปาลิน
เจ้าของบ้านเปิดไฟสว่างตั้งแต่ตีห้าแต่เขาก็เลือกจะเปิดไฟที่ห้องชั้นล่างเพื่อที่จะให้ไม่รบกวนแขกสาวที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนชั้นบน หลังจากที่เมื่อคืนปาลินนอนละเมอร้องไห้เสียอกเสียใจยกใหญ่เขาก็เลยต้องนั่งตบหลังเพื่อกล่อมให้เธอหลับสนิทอีกรอบ เพราะการที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพที่เหมือนมีเรื่องราวในใจที่เก็บกดไว้มานาน จนทำให้เก็บไปฝันร้าย เขาเองก็นอนไม่หลับกลิ่นกาแฟคั่วบดหอมกรุ่นลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน ถึงแสงบนห้องนอนใต้หลังคานี้จะไม่สว่างแต่กลิ่นหอมของกาเฟอีนก็ปลุกให้ร่างกายที่หลับใหลตื่นตัว ปาลินลุกลงจากเตียงนอนแล้วเดินลงมาชั้นล่างเห็นแผ่นหลังกว้างที่อยู่ในชุดทำงานตั้งแต่เช้ามืด"ตื่นเช้าจัง" เสียงเล็กทักขึ้นจากด้านหลัง พิรุณที่นั่งตรวจตารางานของเจ้านายประจำวันจึงได้รีบหันมาดู"พี่ทำลินตื่นเหรอ" เขาว่าแล้ววางไอแพดลงแล้วตรงไปรินน้ำใส่แก้วปาลินจึงเดินตามไปเพราะกำลังรู้สึกว่าคอแห้งอยู่พอดี เธอรับน้ำมาดื่มจนหมดทุกหยดไม่มีเหลือ"กินนี่ด้วย" เขาส่งขนมปังปิ้งทาแยมกับนมให้หนึ่งแก้ว ปาลินรับมาแล้วนั่งกินเงียบ ๆ มองอิริยาบถของเจ้าของบ้านที่เดินไปเดินมาจนเธอเริ่มตาลายแถมยังออกไปสั่งงานกับพวกชายชุดดำข้า
"ตอนเย็นพี่จะให้คนมารับเธอ พี่มีธุระก็เลยอาจจะมารับไม่ได้"ปาลินชำเลืองมองหน้าของคนขับที่มีสีหน้าแววตาเคร่งขรึมและขึงขังแปลก ๆ หรือว่าเขากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่อีกแล้ว เวลาหงุดหงิดทีไรมันก็ออกทางสีหน้าอันแสนเย็นชาเหมือนน้ำแข็งของเขาทุกที"โมโหใครมาเหรอคะ"พิรุณกัดฟันจนเห็นสันกรามเป็นรูปเด่นชัด มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นบีบแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามหลังมือ"หรือว่าโมโหอะไรลินหรือเปล่า ลินทำอะไรไม่ถูกใจเหรอคะ" นัยน์ตาเรียวรีบตวัดมองแล้วดันแผ่นหลังของปาลินเข้ามากอด จมูกโด่งกดแนบไว้กับซอกคอ เขาโกรธเขาเกลียดคนที่ทำกับปาลินยัยเด็กม้าดีดกะโหลกคนนี้ของเขา ถ้าเจ๊กัลยาไม่เปิดปากเล่าเขาคงไม่มีวันรู้ว่าเคยเกิดเรื่องร้ายกับปาลินเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมือน้อยจึงได้ตัดสินใจเอื้อมไปโอบกอดเขาหวังปลอบโยน เปลือกตาที่หลับพริ้มซุกอยู่กับคออุ่นเปิดออกแล้วดันตัวของปาลินให้มองหน้าของเขาตรง ๆ"โมโหคนอื่น ไม่ได้โมโหลิน เจอกันตอนมื้อค่ำพี่ขออนุญาตแม่ลินเรียบร้อยแล้ว ไปกินข้าวที่บ้านพี่นะพี่จะเตรียมของอร่อยไว้ให้" ทำไมเขาดันกลายเป็นคนอบอุ่นละมุนจนหัวใจเธอฟูฟ่องไปหมด หรือว่าผีห่าซาตานจะกลับขุมนรกไปแล้ว
เจ้าของบ้านยืนเท้าสะเอวมองว่าที่ภรรยาตั้งแต่หัวจรดเท้า คนที่สำรวจมองจึงไม่รู้จะทำตัวยังไงได้แต่อมยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้แล้วรีบสับขาเดินขึ้นไปชั้นบน "ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" หมับ! ข้อมือของเธอถูกยึดจับแน่น พิรุณออกแรงกระชากนิดเดียว ปาลินก็เซถลาเข้ามาอยู่ในวงแขนให้เขารวบกอดได้พอดี"ทำอะไรคะ..คือ ยังไม่ได้ปิดม่านเลยนะคะ""แค่กอดเองต้องปิดม่านด้วยเหรอ อ้อ...ลินอยากให้พี่ทำมากกว่านั้นใช่ไหม ได้" ว่าจบรีโมทในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ถูกล้วงออกมาแล้วจัดการกดให้ผ้าม่านรอบตัวบ้านเคลื่อนตัวปิดจนไม่เห็นสิ่งใดข้างนอกอีก"พกรีโมทม่านตอนนอนด้วยเหรอคะ""เพิ่งคิดจะพกก็ตอนที่ลินเธอมาอยู่ด้วย""แปลกดีเนอะ เอ่อ...พี่กอดเสร็จแล้วปล่อยได้หรือยังคะ พรุ่งนี้ลินต้องทำงานนะคะ""พรุ่งนี้วันเสาร์นะเธอจะไปทำงานล่วงเวลาเหรอ ขยันเกินไปหน่อยไหม""เอ้าเหรอคะสงสัยจะหลงวันซะแล้ว""ไหน ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดคืนนี้ก็มาหาไรทำกันดีกว่า""เล่นเกมกันไหมคะลินเล่นเก่งมากเลยนะ" "พี่ชอบเกมกายกรรมมากกว่า" พิรุณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังประทับริมฝีปากลงไปยังหน้าผากมน หัวใจของปาลินเต้นตึกตักเหมือนกับจะหลุดกระเด็นออกมา มือสองข้างที่โอบกอดเอวเล็กเคลื่อ
รสจูบของพิรุณทำให้ร่างเล็กหนาววูบวาบทั้งที่อากาศประเทศไทยร้อนเกือบ 40 องศา แถมภายในบ้านของเขาก็ไม่ได้หนาวจัดหากเทียบกับเวลานี้ ปลายลิ้นที่ควานหาอะไรสักอย่างในปากเธอมันจวนเจียนทำให้หูตาสมองของเธอวิ่งไปกองรวมกันจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตอนนี้ตัวเองได้ถูกเขารวบอุ้มมาวางบนเตียงนอนที่ห้องใต้หลังคาตั้งแต่เมื่อไหร่กว่าสำนึกทั้งหลายจะตื่นรู้ก็เป็นต้นที่กางเกงขายาวของเธอถูกรูดถอดออกไปจากขาเสียแล้ว ปาลินรีบบีบขาของตัวเองเข้าหากันมือสองข้างกำขนานปิดทรวงอกคัพซีพอดีตัวของตน ยามที่นัยน์ตาเรียวคมตวัดกราดมองทุกสัดส่วนของเธอราวกับมันเป็นงานศิลป์ราคาแพงพิรุณเห็นชัดเจนว่ายัยตัวแสบของเขากำลังตัวสั่น และเป็นอาการสั่นที่เขาไม่เคยเห็นจากไหนมาก่อน หรือเป็นเพราะปมในใจที่ฝังกลบอยู่ข้างในตัวของปาลินที่สั่งการให้ร่างกายนี้เกร็งและดูหวาดหวั่นมากกว่าคนทั่วไป "มีอะไรคะ" ดวงหน้าเล็กที่เอียงอายไม่กล้าสบตาเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย "พี่ขอถามคำถามสุดท้ายไอ้เลวนั่นมันทำอะไรกับลินบ้าง ลินถึงสั่นขนาดนี้" ปาลินถัดกายขึ้นพิงพนักเตียงแล้วถึงผ้าห่มขึ้นมาปิดท่อนบนของตัวก่อนจะทำใจยอมเล่าเรื่องสมัยก่อนให้พิรุณฟั
มือเล็กวางทาบลงบนผิวแก้วของพิรุณเลื่อนจับใบหูที่สวมต่างหูสีเงินทรงกรวยข้างเดียวชายหนุ่มยกยิ้มกับอิริยาบถที่อ่อนโยนของปาลินทั้งที่ปกติแทบจะยียวนกวนประสาทใส่เขาอยู่ตลอดเวลา แต่เวลานี้ลูกสาวคนเล็กของเจ๊กัลยาที่เขาเห็นมาตั้งแต่เรียมหาลัยเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้วและกำลังจะเป็นภรรยาของเขาอีกด้วย "ลิน" เสียงกระซิบเรียกชื่อเธอแผ่วเบาพลางจรดริมฝีปากลงมาบนไหปลาร้านิ้วชี้ที่สวมหัวแหวนสลักชื่อรูปตัว R กรีดไล้ลงมาที่เนินอกเต่งปาลินหลับตาพริ้ม "มองพี่" เพราะเขาสั่งให้เธอมองเธอจึงต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าเนื้อปากที่มีสีคล้ายกับเนื้อแซลมอลส้มอ่อนกำลังจ่อค้างอยู่ที่ยอดถันของเธอ"พี่เรน" ปาลินกัดริมฝีปากเด็กสาวคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าการกระทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการปลุกเร้าอะดรีนาลีนที่คุกกรุ่นอยู่ในกายให้เดือดจนถึงขีดสุด และนั่นจึงกระตุ้นให้ปากสีสวยของเขาประกบดูดลงมาที่ยอดอกชูชันของปาลินในทันที"อื้อ...พี่เรน" เจ้าของทรวงอกอิ่นแอ่นต้านปากและชิวหาที่ร้อนชุ่ม เธอรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าลิ้นของเขากำลังเขี่ยตุ่มไตของเธอบางจังหวะก็ขบลงมาที่ป้านวงกลม บางครั้งก็ดูดทึ้งจนตัวของเธอแทบจะสิ้นสติ มือนุ่มตะ
ใบหน้าขาวที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับกลีบกุหลาบกลางลำตัวของปาลินรู้สึกร้อนผ่าวและซ่าบซ่านไม่ต่างกับเรือนร่างที่อ่อนไหว ทั้งที่เขามักจะเป็นฝ่ายถูกปรนเปรอจากสาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะทำให้เขาหนาวที่หน้าขาได้เท่ากับเธอคนนี้ แต่ก่อนเขาเคยเกลียดขี้หน้าเด็กคนนี้จนแทบคลั่ง เขาโคตรไม่ชอบเลยที่เธอพยายามอ่อยผู้ที่เป็นเหมือนพี่ชายผู้มีพระคุณหนึ่งเดียวของเขา ทว่าเมื่อได้รับรู้เรื่องราวที่ทำให้เด็กสาวเป็นคนร้าย ๆ แรง ๆ นั่นก็เพราะเธอกำลังสร้างกำแพงขึ้นมาปกป้องตัวเอง แต่นับจากนี้ต่อไปเขาจะเป็นคนทุบกำแพงนั่นให้ละเอียด และไม่ว่าใครก็ตามที่หวังจะเข้ามาแตะต้องผู้หญิงคนนี้ เขาจะสนองคืนให้เป็นร้อยเท่าพันเท่าชิวหาแดงที่จ้วงแหย่อย่างเอาเป็นเอาตายกวาดต้อนน้ำผึ้งรสเลิศออกมาจากภายในของปาลินอย่างไม่มีหยุดพัก ขณะดวงหน้าแดงระเรื่อกำลังแหงนหงายขบเม้มข่มอารมณ์ที่สุดสยิวนี้ไว้อย่างทรมาน"พี่เรน...อ๊า" พิรุณออกแรงดูดกลืนครั้งสุดท้ายลงไปที่ปุ่มกระสันครานั้นร่างที่ส่ายบิดเร่าก็กระตุกแอ่นเกร็งค้างนิ่ง ปาลินหลับตาพริ้มหายใจกระชั้น มุมปากกระจับของเขายกขึ้นพร้อมคร่อมตัวลงมามองดูดวงหน้าที่กำลังปรือมอง
ตลาดเรืองทรัยพ์999สายตานับสิบนับร้อยกวาดมองลูกสาวเจ้าของตลาดปากแจ๋วอย่างเจ๊กัลยาที่เดินมาพร้อมกับลูกชายสุดหล่อเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าสัวเทิดวิช พิรุณที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำสวมหมวกแก๊ปเหล่มองหน้าแฟนสาวที่กำลังเดินตัวเกร็งอย่างสงสัย"เป็นอะไรลิน""ก็ดูพวกแม่ค้าสิคะมองลินอย่างกับเป็นตัวประหลาด เพราะว่าวันนี้ลินดันมากับพี่เรน" พิรุณกวาดสายตาเย็นชาส่งให้ทุกคนพลันใดเหล่าแม่ค้าแม่ขายก็หลุบตาต่ำทำเป็นขายของโดยไม่หันมาสนใจปาลินอีก"ไม่มองแล้วเห็นไหม"ปาลินอมยิ้มสงสัยพวกแม่ค้าในตลาดของเธอคงจะเจอรังสีอำมหิตของพี่เรนสาดส่องใส่เข้าให้แล้ว"หนูลิน ขนมครกไหมลูกป้าทำเสร็จกำลังร้อน ๆ ของโปรดหนูนี่"ร้านขนมครกเจ้าประจำของปาลินกวักมือเรียกลูกสาวเจ้าของตลาดเข้าไปแล้วส่งถุงขนมครกให้พร้อมกับทำหน้าขนมครกที่เธอชอบไว้ให้ได้อย่างตรงเป๊ะถูกใจ"เท่าไหร่ครับ" ปาลินที่กำลังควักเหรียญออกมาจากกระเป๋าชะงักงัน"20 บาทจ้ะ"พิรุณส่งแบงค์ยี่สิบให้แม่ค้าขนมครกแล้วจูงมือปาลินไปดูของกินร้านอื่น ทั้งสองเดินเลือกซื้อของกินจนเยอะแยะแถมปาลินยังซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งไปฝากลูกน้องของแฟนหนุ่มจนครบคนชายหนุ่มฉีกยิ้มเห็นเขี้ยวขาวเมื่
Crazy Rain Lounge & Barชั้น 29 ของตึกสูงแห่งนี้เป็นสถานที่รวมพลของคนรักอาหารรสเลิศหรูราคาแพงและวิวหลักล้าน เลานจ์แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นได้เพียงห้าปีเท่านั้นแต่กลับโด่งดังจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยการบริหารงานที่เฉียบคมและเก่งกาจชนิดหาตัวจับยากของพิรุณ ปรมะเมคินทร์ที่ปกติเขาจะเป็นคนนั่งไม่ติดมักจะท่องเที่ยวและเช็คอินต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งจนภายหลังเขาได้ตัดสินใจมาทำงานเป็นเลขาให้อธิกะ ชีวิตที่เคยเร่ร่อนไร้จุดหมายก็หยุดลงและตอนนี้ก็จอดสนิทที่ปาลิน หาญหิรัญเพียงคนเดียวแถมยังเป็นการจอดที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิต เพราะเขาได้เลือกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่จะเป็นแม่ของลูก ๆ"พี่เรนมันต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ" ปาลินกางแขนกว้างขณะยืนอยู่ในลิฟต์ที่พาเธอขึ้นไปชั้นยี่สิบเก้าให้พิรุณดูเสื้อสูทสีดำตัวใหญ่โคร่งของเขาที่สวมทับชุดเดรสสยิวที่เขาซื้อมาให้เธอใส่ซึ่งยาวจนปิดหัวเข่าของเธอ แถมเขายังให้เธอใส่รองเท้าผ้าใบมาแทนที่จะได้ใส่รองเท้าส้นสูงสวยเดินสับ ๆ ควงแฟนหนุ่มได้อย่างไม่อายใคร กลายเป็นว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นไม่ต่างกับเด็กกะโปโลยังไม่รู้จักโตเลยสักนิด"พี่หวงของพี่นินาแล้วลินก็มีแต่เสื้อยืดกางเ
วันนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ พ่อแม่ลูกทั้งสี่คนจึงพากันจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านลุงโทนธรรม และเพื่อฉลองงานวันเกิดอันอบอุ่นให้กับดาเนีย ซึ่งของกินจำนวนมากถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือของพ่อบ้านมาเฟียสองคน คือ พิรุณ กับ สุริยะ สองเพื่อนซี้ที่โตมาพร้อมกันตั้งแต่วัยอนุบาล เพียงแค่สบตาก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรทั้งสองแข่งกันสับเนื้ออย่างสนุก พิรุณสับไก่ย่าง ส่วนสุริยะก็สับเป็ดย่าง ปาลินกับดาเนียเอียงคอซุบซิบกันรู้สึกว่าสามีของพวกเธอจะจริงจังกับการสับมากเกินไป จนลูกน้องที่นั่งรอยืนกลืนน้ำลายกันเป็นแถว ๆ เพราะลูกพี่เอาแต่บรรจงสับอย่างละเมียดละไม"พิเรนทร์! โมนเหวข่ะ เหวจะแย่" พราวมนต์คือผู้กล้าที่เข้าไปเขย่าขาของปะป๊าเรนให้หยุดสับไก่ย่างสักที "อาแช็คอาแช็คเม่ก เม่กจากิมเปรต" กลเมฆเองก็ไม่ยอมเข้าไปเกาะขาอาแซ็คพยายามเขย่งสุดตัวเพื่อจะดูว่าเมื่อไหร่จะได้กินเป็ด"โอเคครับ ปะป๊าสับไก่ให้น้องมนต์เสร็จแล้วครับ อันนี้น้ำจิ้มนะลูกมีแบบเผ็ดกับไม่เผ็ด ปะป๊าทำเองเลยนะ" พิรุณยื่นถาดหลุมของเด็กที่มีไก่ของโปรดสับเป็นชิ้นน้อย ๆ ให้ลูกสาวไปรับประทานที่โต๊ะกับคุณแม่"ขบคูนค่าพิเรนทร์" พิรุณฉีกยิ้มเอ็นดูลูกสาวที่ต
พัฒนาการของพราวมนต์และกลเมฆล่วงเลยมาจนถึงสี่ขวบและพร้อมที่จะเข้าสู่ชั้นเตรียมอนุบาลปาลินกับพิรุณจึงพาไปสมัครเรียนที่โรงเรียนในเครือเวหะศิลปการ หรือโรงเรียนอนุบาลเวหะซึ่งมีทัพฟ้า เพื่อนสนิทในกลุ่มเดอะเซฟเฟอร์นั่งแท่นบริหารต่อจากครอบครัว"หวัดดีคร้าบ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ เชิญเลยครับผม" ผู้อำนวยการหนุ่มสุดหล่อหุ่นสูงชะลูดราวกับดารายืนยกมือไหว้ผู้ปกครองต้อนรับภาคการศึกษาใหม่อย่างอ่อนน้อม"ฮานึล! " ชื่อเกาหลีของเขามักจะไม่ค่อยได้ถูกเรียกบ่อยนักแต่ถ้ามีคนกล้าเรียกขึ้นมาก็เดาได้เลยว่าเป็นฝีมือของเพื่อนในแก็ง ผู้อำนวยการหนุ่มหันไปแล้วยิ้มกว้างทันทีที่เห็นใบหน้าของพิรุณยืนยิ้มแป้นให้ด้านข้างมีลูกชายวัยสี่ขวบยืนเกาะขาพ่ออยู่ด้านข้าง"ไอ้เรนมาแล้วเหรอวะ สวัสดีครับคุณลิน อ้าวสวัสดีครับพราวมนต์กลเมฆ จำอาได้ไหม คงจำไม่ได้แหละเนอะอาเคยวีดีโอคอลคุยกับพวกหนูด้วยตอนนั้นแค่สองขวบเองมั้ง" "ซาหวัดเดค้าบอาฝ้า ซาหวัดเดค่าอาเฟ้อ" ลูกแฝดสองคนของเพื่อนที่ยังพูดจาไม่ค่อยชัดทำเอาทัพฟ้าถึงกับหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดู"ลินกับพี่เรนฝากลูกด้วยนะคะคุณฟ้า ทัพฟ้าหรือฮานึล ลูกเสี้ยวไทยเกาหลีที่ต้นตระกูลเป็นคนเกาหลีแล้วย
"พี่จะเสริฟ์พิซซ่าให้ลินกินไปยันเช้าเลย จัดให้หกถาดจุก ๆ เลยดีไหมครับ" สิ้นเสียงที่คลอเคลียรดแถวเนินอกของเธอ ปากกระจับก็ตะโบมดูดลงมาบนยอดถันอย่างกับทารกเพศชาย ขณะที่ดูดกลืนอกของเธอมือทั้งสองข้างก็นวดบีบเต้าที่พองขยายไปด้วย นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยไฟปรารถนาปรือขึ้นมองดูใบหน้าที่หลับพริ้มรับเคลิบเคลิ้มในรสราคะ"อึ้ม...ปะป๊าเรนดูดแรงไปแล้วนะคะ...อ๊าพี่เรน!" ก็คนมันคิดถึงเมียใจจะขาด จะให้มาเนิ่บนาบอ้อยอิ่งอยู่ได้ยังไง แต่ถึงแม่ตัวเล็กของเขาจะบอกว่าเขาดูดแรง แต่ก็แอ่นหน้าอกต้านรับริมฝีปากของเขาไม่หยุดนิ้วทั้งสิบของปาลินแทรกเข้าไปในเรือนผมมือไม้ไล้วนหัวทุยจนสะเปะสะปะด้วยความซ่านเสียวเกินบรรยาย คงเพราะตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องและเริ่มมีน้ำนม เต้านมที่คอยปั๊มนมให้ลูกอยู่เป็นประจำมันเริ่มอ่อนไหวได้ง่ายขึ้น ทั้งที่พี่เรนยังไม่ได้แตะส่วนอื่นของร่างกายแต่เธอก็เกือบไปถึงเส้นชัยก่อนเขาเสียแล้วคนที่กำลังหลงอยู่ในรสสวาทถูกกดแช่ลงกับหมอนใบโตกว่าจะรู้ตัวว่าสามีเปลื้องผ้าจนเหลือแต่เนื้อตัวว่างเปล่าก็เป็นตอนที่มือหยาบโลนดันเนินขาอ่อนนุ่มด้านในของเธอจนฉีกออกกว้าง"ฮ้า....อ๊ะพี่เรนขา" ใบหน้าขาวแทรกเข้ามาที่กลางห
กั้งกับคิงที่อยู่ในชุดพ่อบ้านสวมผ้ากันเปื้อนสีดำสรีนฟ้อนต์ว่า 'พ่อบ้านเรดเรน' กับเจ๊กัลยาช่วยกันเลี้ยงพราวมนต์กับกลเมฆที่เริ่มคลานไปทั่วและซุกซนตามวัย ทันใดที่ทั้งสองเห็นเจ้านายแบกนายหญิงออกมาจากรถ พวกเขาก็วิ่งถลาเข้าไปหาบอสด้วยความคิดถึง"บอสคร้าบบบบ" ลูกน้องคู่หูดูโอ้ร้องเรียกพร้อมกัน"แต่งตัวอะไรของพวกมึง" กั้งกับคิงยิ้ม"ก็ชุดพ่อบ้านไงครับ โน่นทุกคนก็มีเหมือนกันหมด" คิงชี้ไปที่ลูกน้องอีกสิบคนที่ช่วยกันตัดหญ้า ปลูกดอกไม้ อาบน้ำหมา และทำความสะอาดบ้านรอต้อนรับบอสอย่างขยันขันแข็ง ทุกคนต่างมีชุดผ้ากันเปื้อนสีดำสกีนคำว่าพ่อบ้านเรดเรนเหมือนกันหมดทุกคน"ลินทำให้เองแหละค่ะน่ารักดี แต่พี่เรนวางลินก่อนได้ไหม"ฉิบหายแล้วเมียเปลี่ยนลูกน้องหน้าโหดเข้าสู่โหมดฟรุ้งฟริ้งได้ภายในหกเดือน แล้วแบบนี้แก็งอื่นกลุ่มอื่นมันจะกลัวกันไหมวะเนี่ย พิรุณยอมวางภรรยาลง ปาลินยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยทันที"อะไรตัวแสบ" คิ้วเข้มกระตุกอย่างสงสัย ปาลินวิ่งหายเข้าไปในบ้านแล้ววิ่งออกมาสะบัดผ้ากันเปื้อนสีดำสกรีนลายเดียวกันกับลูกน้องของตน"ลินมีของพี่เรนด้วย ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะคุณสามี....จุ๊บ!" ปาลินสวมผ้ากันเปื้อนให้พิ
6 เดือนผ่านไปพิรุณเดินทางกลับมาจากนิวยอร์กพร้อมกับเชสและทนายความกริช ทนายคนสนิทรุ่นพ่อของลุงโทนธรรม แต่ดาเนียที่ไปด้วยกันนั้นเลือกที่จะไปเรียนต่อที่สถาบันแฟชั่นอีกสามปี เพื่อหลบไปเลียแผลใจ ดวงหน้าคมขาวยิ้มสดใสเมื่อเขาแอบหลบซ่อนอยู่ภายในห้องทำงานในสุดของเลานจ์ซึ่งเป็นห้องกระจกเงาที่อยู่หลังห้องของปาลินอีกชั้น เรียกได้ว่าเป็นห้องแห่งความลับที่ใช้หลบศัตรูยามมีภยันอันตรายเขากลับมาถึงตั้งแต่เมื่อเช้าและรีบบอกเชสว่าเขาจะมาแอบดูปาลินทำงานสักพักหนึ่ง เขาอยากนั่งมองเมียเงียบ ๆ และดูว่ายัยตัวเล็กของเขานั้นเก่งกาจขนาดไหน เพราะตั้งแต่เขาจากไปภรรยาที่ใคร ๆ เคยสบประมาทก็งัดความสามารถในการเป็นผู้นำชายฉกรรจ์อีกหลายสิบชีวิตขึ้นมาและคุมพวกเขาได้อยู่หมัด ด้วยรอยยิ้มหวานแต่ยามเอาจริงก็ดูน่าเกรงขามและสง่างามจนลูกน้องใต้อาณัติของเขายังต้องยอมก้มหัวให้นายหญิง"น้ำแตงโมปั่นค่ะคุณลิน" จูน ผู้จัดการของเลานจ์เดินนำน้ำแตงโมเข้ามาเสริฟ์พลางชำเลืองมองห้องกระจกเงาที่ซ้อนอยู่ติดกับห้องทำงานของนายหญิง จูนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนปาลินเหลือบมองใบหน้าที่เอาแต่ยืนยิ้มของผู้จัดการ"มีความสุขอะไรคะวันนี้" ปาลินยิ้มทัก"ปะ....เ
หลังจากที่เมื่อคืนพิรุณกับปาลินรีบร้อนกลับบ้านเพื่อจะมาบอกลาแม่เพชรไพร แต่เธอก็รีบกลับไปพร้อมกับเจ้าสัวเทิดวิช และโทรตามให้เจ๊กัลยามาดูแลหลานแฝดแทน คืนนั้นทั้งคืนปาลินอดวิตกกังวลแทนสามีไม่ได้เพราะเท่าที่เธอและเขารู้ก็มีเพียงแค่ เกิดเรื่องวุ่นวายที่ไร่วิโอล่า แล้วพอถามแม่ของเธอ เจ๊กัลยาก็เอาแต่ส่ายหน้าบอกไม่รู้ท่าเดียว มันทำให้เธอนอนกระสับกระส่ายทั้งคืนจนตื่นนอนตั้งแต่ตีห้าเพื่อปั๊มนมให้ลูก ๆ ระหว่างนั้นจึงเปิดทีวีดู ดวงตาที่สะลืมสะลืออยู่นั้นเบิกตากว้างสว่างโล่งทันทีที่เห็นข่าวไร่องุ่นถูกไฟไหม้ และไร่ที่ว่านั้นก็คือไร่วิโอล่านั่นเอง"พี่เรนคะ พี่เรนมาดูนี่เร็ว" พิรุณที่กำลังแก้ผ้าอยู่นั้นรีบตะครุบเอาผ้าขนหนูมาพันเอวสอบเอาไว้ เพราะเมียรักรีบลากแขนให้ไปดูบางสิ่งที่ด้านล่าง"อะไรครับลิน หรือลินอยากกินพี่เป็นมื้อเช้าครับ""ไม่ใช่ซะหน่อยค่ะ ลินจะให้พี่เรนดูข่าวในทีวี ดูสิคะข่าวไร่องุ่นวิโอล่าถูกลอบวางเพลิง"พิรุณกดเร่งเสียงในโทรทัศน์ที่ผู้รายงานข่าวเป็นบุคคลที่เขารู้จักดี ไพรัช กิตติโชจน์ พ่อตาของชิตพล เพื่อนสนิทของบอสธิ"เกิดอะไรขึ้นกันแน่" พิรุณรีบโทรตามเชสให้สืบข่าวดังกล่าว ส่วนเขาโทรไ
หลังจากที่ปาลินกับดาเนียทักทายกันและพูดคุยกันอย่างถูกปากถูกคอ โทนธรรมก็เดินมาพร้อมกับเชสแล้วกวักมือเรียกพิรุณให้เข้ามาหา เขาทำหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยเมื่อได้รับรู้ว่า พันธมิตรคู่ค้าหนุ่มคนใหม่ที่มีอายุไล่เลี่ยกับหลานชายนั้นมีประวัติโชกโชนมาก่อน"ถึงฉันจะเรื่องมากไม่อยากให้แม่หนูปาลินนั่นแต่งงานกับแก แต่ดู ๆ แล้วก็คงไม่มีใครรับมือแกได้ดีเท่าหนูลินอีกแล้ว อีกเรื่องลุงขอโทษด้วยล่ะกันที่คอยยัดเยียดผู้หญิงให้แกตลอด ส่วนเรื่องชนะศรลุงจะคอยจับตาดูให้อีกแรง ถ้ามันคิดตุกติกกับฉัน ยังไงฉันก็ไม่เก็บมันไว้หรอก แกพาเมียกลับบ้าน ป่านนี้ลูกกระจองอแงกันหมดแล้ว""ทำไมลุงถึง" พิรุณรู้สึกอึ้งแล้วเหลือบมองหน้าเชส มือขวาคนสนิทได้แต่ยิ้มส่งให้เป็นคำตอบ เขาแทบจะไม่เชื่อเลยว่าลุงจะยอมรับเมียของเขา ทั้งที่ผ่านมาคัดค้านมาตลอด"เฮ้อ!....ถ้าแกจะถามฉันว่าเพราะอะไร ก็คงเป็นเพราะลูกแฝดของแก เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไร ฉันก็ขี้เกียจจะพรากพ่อแม่ลูก แค่แม่ยัยเนียตายไปตั้งแต่ยัยเนียยังเด็กฉันก็รู้สึกว่าตัวเองมีเวรกรรมติดตัวมากพ่อแล้ว ถึงต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาตลอดแบบนี้""แสดงว่าคุณปู่โทนธรรมเห่อหลานซะแล้ว แต่ต่อไปยัยเนียก
กลางงานแถลงข่าวเปิดตัวร่างสูงโปร่งที่สูงกว่าพิรุณ เดินผ่าวงล้อมตรงเข้ามาทักทายเขาจากทางด้านหลัง มือหนาวางลงบนบ่ากว้า กั้งกับคิงผงะแล้วปรี่เข้าไปซ้อนอยู่ด้านหลังนายหญิงเมื่อเห็นบุคคลที่มีใบหน้าเย็นชากว่าเจ้านายของตน กับแววตาไร้ความปราณีตวัดมองมา เขาพยักหน้าทักปาลินเล็กน้อย ก่อนที่พิรุณเพื่อนสนิทที่สุดของเขาจะหันหน้ามาปะทะ"แซ็ค!" พิรุณตกใจที่เห็นเพื่อนของตนในงานของลุงโทนธรรม"กูมีเรื่องจะคุยด้วย" เพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันเกือบห้าปีเต็มพากันเข้าไปคุยในห้องวีไอพีของโรงแรม นัยน์ตาว่างเปล่าที่เต็มด้วยความโศกสลดยังคงอาบชุ่มเจือปนอยู่จนผู้ล่วงรู้อดีตที่เจ็บช้ำของเพื่อนรักอย่างพิรุณถึงกับรู้สึกสร้อยเศร้าไม่ต่างจากเพื่อนซี้"มึงไปบอสตันมาใช่ไหม" พิรุณทักพลางส่งวิสกี้ให้เพื่อนจิบ เขารับมาจิบไปอึกใหญ่แล้ววางแก้วลง"อืม" เสียงทุ้มทรุดตัวลงนั่งบนโซฟายกขาข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้าง "เมื่อวานน้องสาวมึงมาวุ่นวายกับกู""กูขอโทษด้วยว่ะที่ดาเนียไปตอแยมึง" เขาเอ่ยแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม"ก็ไม่ได้ตอแยอะไร แค่มาสมัครงานเลขา""แล้วมึงรับดาเนียเข้าทำงานหรือเปล่า""กูรับเลขามาสามคน คนนึงปรนนิบัติตอนกลางคืน คนนึงตอนกลางวั
โรงแรมห้าดาวชื่อดังเป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวโครงการใหญ่แห่งใหม่ระหว่างโทนธรรม ประเมคินทร์ และ ชนะศร ภพนคร ภายในงานเต็มด้วยสื่อมวลชนจำนวนมาก ชายหนุ่มใบหน้าหล่อนิ่งเย็นชาในมาดนักธุรกิจผู้มีเชื่อและผู้บริหารเลานจ์หรูในกลางมหานคร พิรุณ ประมะเมคินทร์เป็นที่จับตามองของทั้งบุคคลผู้มีชื่อเสียง และเหล่านักธุรกิจหนุ่มสาวจำนวนมากทว่าทุกคนภายในงานก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับคู่ควงที่ไม่เคยมีใครแทบจะได้พบเห็นหน้าตา และเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของชายหนุ่มผู้มีดวงหน้าขาวสว่างดั่งจันทร์สาดส่อง ไม่ว่าใครที่ชายตามองตางก็ต้องหยุดพิจารณาความสุขุมของมาเฟียนักธุรกิจผู้นี้แต่ใครจะปรายตามองหว่านเสน่ห์ให้เขามากเพียงใด จริตน้อยใหญ่ทั้งหลายที่โปรยมาให้เขาได้เชยชม เขาก็ไม่อาจตอบรับหญิงใดได้อีก เพราะเขามีสายตาและหัวใจมอบให้แด่ ปาลิน ประมะเมคินทร์แต่เพียงผู้เดียว"พี่เรนคะ คนเยอะจังเลยลินไม่ค่อยชินที่มีแต่คนจ้องมองมาที่ลินตลอดเวลา" มือเย็นเฉียบกอบกุมมืออุ่นของสามี นัยน์ตาละมุนหลุบมองมือที่สั่นระริกของภรรยาแล้วจูงให้เธอเดินมาในมุมมืดของโถงทางเดินด้วยกัน"หายใจเข้าลึก ๆ ไหนลองสิครับ" ปาลินสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วส่งยิ้มให้สามี