พิรุณ ปรมะเมคินทร์ตัดสินใจกลับมารับตำแหน่งเลขาของบริษัท อธิกะ คอนสตรัคชั่นที่เมืองไทยหลังจากที่ตนนั้นได้ให้คำมั่นสัญญากับพี่ธิ รุ่นพี่ชาวไทยที่ช่วยเหลือเขาไว้ที่ริมแม่น้ำฮัดซันในอเมริกา ตอนนั้นเขาถูกกลุ่มอันธพาลซ้อมปางตาย
โชคดีที่ได้รุ่นพี่คนนี้ช่วยไว้และติดต่อหาลุงที่เมืองไทยเพื่อแจ้งว่าเขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นชายหนุ่มจึงรับปากกว่าถ้าเคลียร์งานของพ่อที่ลาสเวกัสเสร็จเรียบร้อย ตนจะกลับมาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของพี่ธิเพื่อตอบแทนที่ไม่ทอดทิ้งเขาในช่วงเวลานั้น
ทายาทรุ่นสองของ PMK Group กลับมาบริหารงานของตระกูลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องรวมทั้งเปิดบริษัทที่นั่งแท่นเป็นประธานบริษัทที่ชื่อว่าเครซี่เรนด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง และยังปลุกปั้นผับเรดเรนกับเลานจ์หรูใจกลางมหานครกรุงเทพอันพลุกพล่านจนโด่งดั่งภายในระยะเวลาห้าปีเท่านั้น
ถึงช่วงเวลากลางวันเขาจะเป็นเลขาทั่วไปที่ทำงานอยู่ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างราวกับพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง แต่ตกเย็นเมื่อตะวันลาลับขอบฟ้า เลขามาดนิ่งก็กลายเป็น ‘ฝนคลั่ง’ ที่พร้อมเอาชนะศัตรูทุกคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวาย และดูเหมือนว่าศัตรูคนล่าสุดจะเป็น ‘ปาลิน หาญหิรัญ’ เด็กสาวมหาลัยคณะบริหารที่เข้ามาฝึกงานที่บริษัทก่อสร้างชื่อดังแห่งนี้แถมยังสร้างวีรกรรมร้อยแปดให้เขาต้องปวดหัวปวดขมับอยู่เรื่อย
แต่ช่วงเวลาแสนสั้นที่ได้เจอหน้าเธอและมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งทำให้เขารู้สึกว่าเธอเป็นสีสันของชีวิต จนรู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก กระทั่งจบโครงการฝึกงานเธอก็หายหน้าหายตาไปมุมานะเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
********************************************
บ้านหลังใหญ่สไตล์นอร์ดิกตั้งตระหง่านอยู่หลังซอยที่เงียบเชียบไร้ผู้คน ซึ่งก่อนถึงบ้านหลังดำลึกลับด้านหน้ามีตลาดสดขนาดใหญ่เรืองทรัพย์999 ของเจ๊กัลยา ทุกเช้าพิรุณจะปั่นจักรยานมาเพื่อซื้อปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้กลับไปฝากลูกน้องที่ยืนตัวนิ่งเฝ้าบ้าน แต่เช้านี้เป็นวันแรกที่เขาได้พบกับลูกสาวคนเล็กของเจ๊กัลยา หาญหิรัญที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ และยังเคยมีประเด็นกับเขาสมัยตอนที่เคยฝึกงานในบริษัทอธิกะ คอนสตรัคชั่น
ปาลินที่อยู่ใสชุดเสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งกางเกงยีนส์ขาสั้นเดินตามแม่ต้อย ๆ ไปตามแผงขายของ เมื่อเจ๊กัลเห็นลูกค้าน้ำเต้าหู้หนุ่มสุดหล่อก็จำได้แม่นยำว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกเพียงคนเดียวของเจ้าสัวเทิดวิช
"พ่อหนุ่มเธอใช่ พิรุณ ลูกคุณเทิดหรือเปล่า" ใบหน้าชุ่มเหงื่อที่เพิ่งวิ่งจ๊อกกิ้งมาเหลือบมองหน้าเจ๊กัลยาแล้วจึงเหล่มองเด็กสาวด้านหลังที่กำลังกลอกตามองบนใส่เขาอยู่
"ใช่ครับ" เจ๊กัลยาฉีกยิ้มอย่างมีนัยนะแอบแฝง
"โสดหรือเปล่า แต่งงานหรือยัง"
เอาแล้วไงปาลินคิดในใจงานหลักของแม่คือเก็บค่าเช่าแผง ส่วนงานอดิเรกคือหาผัวให้พวกพี่สาวของเธอ
"แม่ไม่คิดจะถามหนูบ้างเหรอว่าหนูโสดไหม อยากแต่งงานหรือเปล่า" ปาลินพูดขึ้นแกมประชดประชัน
"หืม..พี่แกมันยังโหนคานกันอยู่เลย ให้พี่แกได้แต่งงานก่อน แล้วแกค่อยแต่ง"
"เหอะ...ลำเอียงชัด ๆ " เจ๊กัลยาหมั่นไส้กับคำพูดลูกสาว จึงได้หันไปดึงหูลูกสาวจนกาง "โอ๊ย..แม่แม๊หนูเจ็บนะ"
"หึหึ" พิรุณหลุดขำ แล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิม "ผมโสดครับ" เมื่อเจ๊กัลยาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งให้ชายหนุ่มอายุ 29 ปีแล้วรีบปล่อยใบหูของปาลินอย่างเร็ว
"น้าดีใจที่เธอยังโสด อีกไม่นานคงได้ดองกันนะพ่อหนุ่มหล่อ" เจ๊กัลยาตบบ่าของพิรุณแล้วปล่อยทิ้งให้ปาลินยืนทำหน้าเจื่อนเบื่อโลกอยู่ตรงนั้นคนเดียว
"กินข้าวหรือยัง" ปาลินมองซ้ายมองขวานี่เขาถามเธอหรือถามใครอยู่
"ถามฉันเหรอ"
"แล้วตรงนี้มีคนอื่นหรือไง"
"ยังไม่ได้กิน" พิรุณเลิกคิ้วสูงส่งถุงปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ให้ปาลิน เธอก้มมองของในมือเขา แล้วเหลือบมองหน้าเขาอย่างง ๆ
"เธอมันงี่เง่า!" เขาสบถใส่หย่อนถุงของกินลงไปในตะกร้ากับข้าวของเธอ เดินจากไปไม่พูดอะไรต่อ การกระทำที่ผีเข้าผีออกของเขามันทำให้เธอร้อน ๆ หนาว ๆ อยู่ตลอด ทีเมื่อก่อนเธอฝึกงานอยู่ที่บริษัทอธิกะ เขาทำอย่างกับว่าเธอเป็นต้วร้าย แต่เธอก็ยอมรับว่าเธอเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่นั่นเป็นเพราะเธอหาอะไรสนุกทำเพื่อข้ามเวลาเหงา ๆ ของตัวเอง และการที่ได้รุกจีบผู้ชายสักคนที่ดูมีภูมิฐานแบบเจ้านายของอิตาพิรุณนี่ก็ดูจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด และเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่เธอคิดว่าน่าจะฝากผีฝากไข้ได้ และเพื่อทำให้แม่กับพี่สาวต่างพ่อคิดว่าคนแบบเธอก็มีคนอยากคบหาด้วย
ที่ผ่านมาไม่ว่าเธอจะรักจะชอบใครก็ไม่มีใครคบเธอได้นานเกินสามเดือน นั่นเพราะว่าแม่กับพี่สาวจอมจุ้นนั่นเอง
เพราะพวกเขากลัวว่าเธอจะพลาดท่าเหมือนตอนที่ยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง ตอนนั้นเธอเคยคบเพื่อนผิด การคบเพื่อนโดยไม่ดูคุณภาพของเพื่อนให้ดีเสียก่อน มันมักจะนำพาหายนะมาให้เรา
หายนะที่ว่านั้นก็สร้างปมในใจของเธอและครอบครัวอย่างมาก เพราะเพื่อนกลุ่มนั้นหลอกพาเธอไปขายตัวให้รุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่ง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่าทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมให้เธอคบหาใครก็ตาม แม้กระทั่งคบเพื่อนสักคนยังแทบจะแสกนกรรมทุกตารางนิ้ว ถามหมอดูไม่ต่ำกว่าสองสำนัก
ปาลินทรุดตัวนั่งลงเช็คอีเมล์ในคอมแล้วเสมองถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ว่าไปเธอก็หิวอยู่เหมือนกันแต่กำลังรอจดหมายตอบรับจากบริษัทอธิกะเรื่องการสัมภาษณ์งาน เพราะเธอรออีเมล์มาตั้งแต่เมื่อวานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะตอบกลับมา หรือว่าบางทีอาจจะไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว เพราะเธอเคยสร้างวีกรรมกับครอบครัวพี่ครีมและคุณธิไว้จนเกือบทำเขาแตกคอกัน
บนโต๊ะทำงานเนื้อไม้สีดำที่อยู่ใจกลางบ้านทรงสูงนัยน์ตาเรียวเย็นชากำลังนั่งมองอีเมล์ฉบับหนึ่งที่มาลี ผู้จัดการทั่วไปที่อาสาจัดการไปทั่วได้ส่งอีเมล์ของปาลิน หาญหิรัญมาให้เขาช่วยพิจารณาดู ไม่ว่าอะไรหรือใครที่จะมาข้องเกี่ยวกับผู้มีพระคุณอย่าง พี่ธิ หรือบอสธิ เขาจะต้องระมัดระวังและตรวจทุกคนทุกสิ่งอย่างละเอียด
ฟากเดียวกันหญิงสาวที่เริ่มรออีเมล์ไม่ไหวได้ตัดสินใจกินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ของพิรุณจนหมดเกลี้ยง แล้วพลันใดนั้นบางอย่างก็เด้งเข้ามาในกล่องข้อความ ปาลินมือไม้สั่นรีบเปิดดูด้วยความตื่นเต้น
"ยินดีต้อนรับนะปาลิน รอบหน้าเธอต้องเลี้ยงข้าวฉัน ขอให้มีความสุขกับการทำงานที่บริษัท จาก พิรุณ"
"หา...ไหงนายนั่นมาตอบจดหมายการสัมภาษณ์งานของฉันได้เนี่ย ละลาบละล้วงใหญ่แล้ว แล้วใครจะไปเลี้ยงข้าวนายกันฝันไปเหอะ"
ปาลินเคี้ยวปาท่องโก๋แหง่บ ๆ ด้วยสีหน้าหงุดหงิด ถึงเธอจะกินของที่เขาซื้อมาให้ แต่เธอไม่ได้บอกให้เขาซื้อให้สักหน่อยเรื่องอะไรต้องเลี้ยงข้าวด้วย
ขณะที่ปาลินกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำนอนเพราะพรุ่งนี้จะได้ไปทำงานกับบริษัทที่เคยฝึกงาน หญิงสาวจึงรีบเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับการเป็นพนักงานออฟฟิศวันแรกอย่างเต็มที่ ทว่าจู่ ๆ ใครบางคนก็กระชากประตูห้องของเธอเข้ามา อาการที่สะลืมสะลืออยู่นั้นก็สว่างจ้าจนลืมไปเลยว่าเคยง่วง
"ไอ้ลิน..แม่จะให้พี่ไปดูตัวว่ะ แกไปแทนได้ไหมวะ" พี่พุดพี่สาวอายุย่าง 27 ปีของเธอที่ติดสตรีมเกมส์อย่างหนักจนตาดำเป็นเบ้าเหมือนไปเช่าชุดแพนด้ามาใส่ตลอดเวลาบอกด้วยสีหน้าเว้าวอนปานขาดใจ
"เรื่องอะไรต้องเป็นลิน แม่ให้ใครไปก็คนนั้น ไปดูตัวนะคะ ไม่ใช่ไปส่องสัตว์โลกถึงจะแทนกันได้อ่ะ" ปาลินบอกแล้วเลิกผ้าคลุมโป่งนอนต่อโดยไม่สนใจพี่สาว
"โถแกช่วยพี่คนนี้หน่อยนะ ไม่มีใครช่วยฉันได้แล้ว เพราะบ้านเราก็เหลือแค่แกกับฉันที่ยังนั่งแกว่งขาอยู่บนคานอยู่เท่านั้น"
"ไม่เอาอ่ะลินเพิ่งจะเริ่มใช้ชีวิตเองนะ ยังไม่ทันได้ไปทำงานเป็นเรื่องเป็นราวเลย จะให้ไปดูตัวแล้วมีผัวเลยลินไม่เอาเด็ดขาด"
"แกก็รู้นี่ว่าฉันเป็นอะไรอ่ะ" ปาลินฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพี่สาวเป็นสายหญิงรักหญิงที่คบหญิงมากกว่าสองคน ต้องเรียกว่าคาสโนวี่ตัวแม่เลยมั้งถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็เธอจะจับตัดไอ้จ้อนแล้วโยนให้แพะกินให้หมดเกลี้ยงเลย
"พี่ก็บอกกับแม่ไปตามตรงสิว่าพี่ชอบผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายอ่ะ"
"แล้วแกคิดว่าแม่จะยอมรับได้เหรอวะ"
พี่พุดพูดทั้งน้ำตาแล้วทรุดตัวนั่งถ่างขากว้างขวางประตูห้องนอนของเธอ เพราะในบ้านนี้มีแค่เธอคนเดียวที่สนิทกับพี่พุดมากที่สุด และเป็นเธอคนเดียวที่คอยรับฟังปัญหาของพี่สาว
"เออๆ หนูไปให้ก็ได้ค่ะ ก็แค่ดูตัวเอง บางทีถ้าลินทำไรเปิ่น ๆ โก๊ะ ๆ เดี๋ยวฝั่งผู้ชายก็วิ่งจุกตูดกลับเองล่ะเนอะ" ปาลินพูดให้กำลังใจตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตแบบปกติอีกต่อไป
"แม่หนูมาเสนอให้น้องไปดูตัวแทน" พุดจับน้องสาวแต่งหน้าทำผมจนสวยแปลกตาทำให้เจ๊กัลยาที่กำลังนั่งกดเครื่องคิดเลขอยู่นั้นถึงกับต้องถอดแว่นออกมากวาดมองดูลูกสาวคนเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า
"แกจะให้น้องตัดหน้าได้ไงยัยพุด มันยังเด็กอยู่เลย" เจ๊กัลยาทักท้วง
"มัน 22 แล้วนะแม่ ไม่เด็กแล้วนะ นี่ดู! อกเอวตูดมีครบหมด มันเด็กตรงไหนอ่ะแม่ แล้วแม่ดูหนูกับน้องนะ แม่ว่าใครมันประดับหน้าตาของแม่ได้มากกว่ากันคะ " พี่พุดพยายามบอกใบ้แม่ว่าน้องสาวอย่างเธอนั้นสวยพอที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้เหมือนกัน ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่สาวที่คอยชมน้องคนนี้เสมอ
Crazy Rain Lounge & Bar เจ๊กัลยาจัดแจงให้คนขับรถตู้พาลูกสาวคนเล็กมาส่งที่หน้าตึกสูงระฟ้าแล้วมีชายในชุดสูทสีดำสองคนเดินลงมาต้อนรับเธอ ปาลินรู้สึกประหม่าเล็กน้อยมือของเธอชื้นเหงื่อไปหมด เธอเดินตามชายสองคนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 29 ยามที่ประตูลิฟต์เปิดออก กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยและเสียงเพลงคลาสสิกก็ทำให้บรรยากาศที่ชวนหดหู่อยู่ในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความผ่อนคลาย ดวงตากลมซุกซนตวัดเห็นป้ายพลาสวูดขนาดใหญี่ที่เขียนว่า Crazy Rain ก็รู้สึกว่าชื่อนี้มันคุ้นหูเหมือนกับร้านที่พี่บอสธิเคยมาจัดงานวันเกิดให้กับพี่ครีม แต่ตอนนั้นเธอไปต่างจังหวัดกับพวกพี่สาวก็เลยไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วย"ทางนี้ค่ะคุณปาลิน" ผู้หญิงหน้าตาสะสวยติดป้ายแจ้งตำแหน่งไว้ที่อกว่าเป็นผู้จัดการร้านนำทางเธอเข้าไปยังห้องด้านในสุด ทว่าห้องด้านในที่หรูหรานั้นกลับไม่ได้มีแค่เธอ แต่ยังมีผู้หญิงอีกสองคนนั่งตัวทื่อเหมือนกลัวอะไรสักอย่างอยู่ข้างในนั้นทันใดที่ปลายรองเท้าส้นสูงสีดำก้าวเข้าไปในห้องดังกล่าว ใบหน้าคมขาวที่โคตรเย็นชาก็ตวัดมองมาหาเธอด้วยความตื่นตะลึง ซึ่งเธอเองก็ตกอกตกใจไม่แพ้กัน พิรุณในชุดเสื้อเชิ้ตดำปลดกระดุมโชว์แผงอกขาวจ
บ้านหลังดำที่ติดไฟส่องสว่างทั่วบ้านและสนามหญ้าทำให้ใบหน้าที่หวาดกลัวในตอนแรกของปาลินเริ่มสดใสขึ้น ถึงตอนแรกที่รถสีส้มของไอ้พี่ฝนคลั่งทะยานเข้ามาจอดในตัวบ้านที่มืดตื๊อ แต่พอเขาปรบมือทีสองทีไฟก็สว่างวับเหมือนมีเวทย์มนต์เจ้าของบ้านรีบเลื่อนประตูบานใหญ่แล้วกวักมือเรียกเธอเข้าไป พิรุณเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ครัวรินน้ำรินท่าแล้วส่งแก้วน้ำมาให้ ปาลินรับมาแล้วหมุนแก้วตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรในนี้หรือไม่"เธอเห็นพี่เป็นคนยังไง" เขาเอ่ยถามขณะกระดกนมขวดใหญ่ แถมยังแทนตัวเองว่าพี่...เหอฟังแล้วโคตรสยอง"คนบ้าอ่ะดิ" ปาลินแอบสบถแต่พิรุณได้ยินเต็มสองรูหู"รู้ไหมว่าพามาทำไม""พามานอน"พรวด!!นมในปากที่เพิ่งกรอกลงคอถูกพ่นออกมาเป็นละอองฝอยพิรุณหน้าแดงก่ำรีบเดินหายเข้าห้องน้ำไปหลายนาที ปาลินเกาหัวตัวเองงุนงงกับการกระทำเงอะงะของเขา ก็เธอพูดไม่ถูกเหรอเขาจงใจพาเธอมานอนเพราะนมที่เปื้อนเปรอะเลอะเทอะเสื้อเชิ้ตดำทำให้เขาต้องถอดออก พิรุณเดินกลับออกมาด้วยสภาพครึ่งบนเปลือยเปล่าโชว์ซิกแพ็กแน่นกำยำ ปาลินที่นั่งบีบมือตัวเองอยู่บนโซฟาตวัดมองดูตาค้างแล้วรีบหันไปมองทางอื่น"ทำไมถึงคิดว่าจะพามานอน"ปาลินหันหน้าไปมองพิ
เจ้าของบ้านเปิดไฟสว่างตั้งแต่ตีห้าแต่เขาก็เลือกจะเปิดไฟที่ห้องชั้นล่างเพื่อที่จะให้ไม่รบกวนแขกสาวที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนชั้นบน หลังจากที่เมื่อคืนปาลินนอนละเมอร้องไห้เสียอกเสียใจยกใหญ่เขาก็เลยต้องนั่งตบหลังเพื่อกล่อมให้เธอหลับสนิทอีกรอบ เพราะการที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพที่เหมือนมีเรื่องราวในใจที่เก็บกดไว้มานาน จนทำให้เก็บไปฝันร้าย เขาเองก็นอนไม่หลับกลิ่นกาแฟคั่วบดหอมกรุ่นลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน ถึงแสงบนห้องนอนใต้หลังคานี้จะไม่สว่างแต่กลิ่นหอมของกาเฟอีนก็ปลุกให้ร่างกายที่หลับใหลตื่นตัว ปาลินลุกลงจากเตียงนอนแล้วเดินลงมาชั้นล่างเห็นแผ่นหลังกว้างที่อยู่ในชุดทำงานตั้งแต่เช้ามืด"ตื่นเช้าจัง" เสียงเล็กทักขึ้นจากด้านหลัง พิรุณที่นั่งตรวจตารางานของเจ้านายประจำวันจึงได้รีบหันมาดู"พี่ทำลินตื่นเหรอ" เขาว่าแล้ววางไอแพดลงแล้วตรงไปรินน้ำใส่แก้วปาลินจึงเดินตามไปเพราะกำลังรู้สึกว่าคอแห้งอยู่พอดี เธอรับน้ำมาดื่มจนหมดทุกหยดไม่มีเหลือ"กินนี่ด้วย" เขาส่งขนมปังปิ้งทาแยมกับนมให้หนึ่งแก้ว ปาลินรับมาแล้วนั่งกินเงียบ ๆ มองอิริยาบถของเจ้าของบ้านที่เดินไปเดินมาจนเธอเริ่มตาลายแถมยังออกไปสั่งงานกับพวกชายชุดดำข้า
"ตอนเย็นพี่จะให้คนมารับเธอ พี่มีธุระก็เลยอาจจะมารับไม่ได้"ปาลินชำเลืองมองหน้าของคนขับที่มีสีหน้าแววตาเคร่งขรึมและขึงขังแปลก ๆ หรือว่าเขากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่อีกแล้ว เวลาหงุดหงิดทีไรมันก็ออกทางสีหน้าอันแสนเย็นชาเหมือนน้ำแข็งของเขาทุกที"โมโหใครมาเหรอคะ"พิรุณกัดฟันจนเห็นสันกรามเป็นรูปเด่นชัด มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นบีบแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามหลังมือ"หรือว่าโมโหอะไรลินหรือเปล่า ลินทำอะไรไม่ถูกใจเหรอคะ" นัยน์ตาเรียวรีบตวัดมองแล้วดันแผ่นหลังของปาลินเข้ามากอด จมูกโด่งกดแนบไว้กับซอกคอ เขาโกรธเขาเกลียดคนที่ทำกับปาลินยัยเด็กม้าดีดกะโหลกคนนี้ของเขา ถ้าเจ๊กัลยาไม่เปิดปากเล่าเขาคงไม่มีวันรู้ว่าเคยเกิดเรื่องร้ายกับปาลินเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมือน้อยจึงได้ตัดสินใจเอื้อมไปโอบกอดเขาหวังปลอบโยน เปลือกตาที่หลับพริ้มซุกอยู่กับคออุ่นเปิดออกแล้วดันตัวของปาลินให้มองหน้าของเขาตรง ๆ"โมโหคนอื่น ไม่ได้โมโหลิน เจอกันตอนมื้อค่ำพี่ขออนุญาตแม่ลินเรียบร้อยแล้ว ไปกินข้าวที่บ้านพี่นะพี่จะเตรียมของอร่อยไว้ให้" ทำไมเขาดันกลายเป็นคนอบอุ่นละมุนจนหัวใจเธอฟูฟ่องไปหมด หรือว่าผีห่าซาตานจะกลับขุมนรกไปแล้ว
เจ้าของบ้านยืนเท้าสะเอวมองว่าที่ภรรยาตั้งแต่หัวจรดเท้า คนที่สำรวจมองจึงไม่รู้จะทำตัวยังไงได้แต่อมยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้แล้วรีบสับขาเดินขึ้นไปชั้นบน "ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" หมับ! ข้อมือของเธอถูกยึดจับแน่น พิรุณออกแรงกระชากนิดเดียว ปาลินก็เซถลาเข้ามาอยู่ในวงแขนให้เขารวบกอดได้พอดี"ทำอะไรคะ..คือ ยังไม่ได้ปิดม่านเลยนะคะ""แค่กอดเองต้องปิดม่านด้วยเหรอ อ้อ...ลินอยากให้พี่ทำมากกว่านั้นใช่ไหม ได้" ว่าจบรีโมทในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ถูกล้วงออกมาแล้วจัดการกดให้ผ้าม่านรอบตัวบ้านเคลื่อนตัวปิดจนไม่เห็นสิ่งใดข้างนอกอีก"พกรีโมทม่านตอนนอนด้วยเหรอคะ""เพิ่งคิดจะพกก็ตอนที่ลินเธอมาอยู่ด้วย""แปลกดีเนอะ เอ่อ...พี่กอดเสร็จแล้วปล่อยได้หรือยังคะ พรุ่งนี้ลินต้องทำงานนะคะ""พรุ่งนี้วันเสาร์นะเธอจะไปทำงานล่วงเวลาเหรอ ขยันเกินไปหน่อยไหม""เอ้าเหรอคะสงสัยจะหลงวันซะแล้ว""ไหน ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดคืนนี้ก็มาหาไรทำกันดีกว่า""เล่นเกมกันไหมคะลินเล่นเก่งมากเลยนะ" "พี่ชอบเกมกายกรรมมากกว่า" พิรุณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังประทับริมฝีปากลงไปยังหน้าผากมน หัวใจของปาลินเต้นตึกตักเหมือนกับจะหลุดกระเด็นออกมา มือสองข้างที่โอบกอดเอวเล็กเคลื่อ
รสจูบของพิรุณทำให้ร่างเล็กหนาววูบวาบทั้งที่อากาศประเทศไทยร้อนเกือบ 40 องศา แถมภายในบ้านของเขาก็ไม่ได้หนาวจัดหากเทียบกับเวลานี้ ปลายลิ้นที่ควานหาอะไรสักอย่างในปากเธอมันจวนเจียนทำให้หูตาสมองของเธอวิ่งไปกองรวมกันจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตอนนี้ตัวเองได้ถูกเขารวบอุ้มมาวางบนเตียงนอนที่ห้องใต้หลังคาตั้งแต่เมื่อไหร่กว่าสำนึกทั้งหลายจะตื่นรู้ก็เป็นต้นที่กางเกงขายาวของเธอถูกรูดถอดออกไปจากขาเสียแล้ว ปาลินรีบบีบขาของตัวเองเข้าหากันมือสองข้างกำขนานปิดทรวงอกคัพซีพอดีตัวของตน ยามที่นัยน์ตาเรียวคมตวัดกราดมองทุกสัดส่วนของเธอราวกับมันเป็นงานศิลป์ราคาแพงพิรุณเห็นชัดเจนว่ายัยตัวแสบของเขากำลังตัวสั่น และเป็นอาการสั่นที่เขาไม่เคยเห็นจากไหนมาก่อน หรือเป็นเพราะปมในใจที่ฝังกลบอยู่ข้างในตัวของปาลินที่สั่งการให้ร่างกายนี้เกร็งและดูหวาดหวั่นมากกว่าคนทั่วไป "มีอะไรคะ" ดวงหน้าเล็กที่เอียงอายไม่กล้าสบตาเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย "พี่ขอถามคำถามสุดท้ายไอ้เลวนั่นมันทำอะไรกับลินบ้าง ลินถึงสั่นขนาดนี้" ปาลินถัดกายขึ้นพิงพนักเตียงแล้วถึงผ้าห่มขึ้นมาปิดท่อนบนของตัวก่อนจะทำใจยอมเล่าเรื่องสมัยก่อนให้พิรุณฟั
มือเล็กวางทาบลงบนผิวแก้วของพิรุณเลื่อนจับใบหูที่สวมต่างหูสีเงินทรงกรวยข้างเดียวชายหนุ่มยกยิ้มกับอิริยาบถที่อ่อนโยนของปาลินทั้งที่ปกติแทบจะยียวนกวนประสาทใส่เขาอยู่ตลอดเวลา แต่เวลานี้ลูกสาวคนเล็กของเจ๊กัลยาที่เขาเห็นมาตั้งแต่เรียมหาลัยเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้วและกำลังจะเป็นภรรยาของเขาอีกด้วย "ลิน" เสียงกระซิบเรียกชื่อเธอแผ่วเบาพลางจรดริมฝีปากลงมาบนไหปลาร้านิ้วชี้ที่สวมหัวแหวนสลักชื่อรูปตัว R กรีดไล้ลงมาที่เนินอกเต่งปาลินหลับตาพริ้ม "มองพี่" เพราะเขาสั่งให้เธอมองเธอจึงต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าเนื้อปากที่มีสีคล้ายกับเนื้อแซลมอลส้มอ่อนกำลังจ่อค้างอยู่ที่ยอดถันของเธอ"พี่เรน" ปาลินกัดริมฝีปากเด็กสาวคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าการกระทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการปลุกเร้าอะดรีนาลีนที่คุกกรุ่นอยู่ในกายให้เดือดจนถึงขีดสุด และนั่นจึงกระตุ้นให้ปากสีสวยของเขาประกบดูดลงมาที่ยอดอกชูชันของปาลินในทันที"อื้อ...พี่เรน" เจ้าของทรวงอกอิ่นแอ่นต้านปากและชิวหาที่ร้อนชุ่ม เธอรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าลิ้นของเขากำลังเขี่ยตุ่มไตของเธอบางจังหวะก็ขบลงมาที่ป้านวงกลม บางครั้งก็ดูดทึ้งจนตัวของเธอแทบจะสิ้นสติ มือนุ่มตะ
ใบหน้าขาวที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับกลีบกุหลาบกลางลำตัวของปาลินรู้สึกร้อนผ่าวและซ่าบซ่านไม่ต่างกับเรือนร่างที่อ่อนไหว ทั้งที่เขามักจะเป็นฝ่ายถูกปรนเปรอจากสาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะทำให้เขาหนาวที่หน้าขาได้เท่ากับเธอคนนี้ แต่ก่อนเขาเคยเกลียดขี้หน้าเด็กคนนี้จนแทบคลั่ง เขาโคตรไม่ชอบเลยที่เธอพยายามอ่อยผู้ที่เป็นเหมือนพี่ชายผู้มีพระคุณหนึ่งเดียวของเขา ทว่าเมื่อได้รับรู้เรื่องราวที่ทำให้เด็กสาวเป็นคนร้าย ๆ แรง ๆ นั่นก็เพราะเธอกำลังสร้างกำแพงขึ้นมาปกป้องตัวเอง แต่นับจากนี้ต่อไปเขาจะเป็นคนทุบกำแพงนั่นให้ละเอียด และไม่ว่าใครก็ตามที่หวังจะเข้ามาแตะต้องผู้หญิงคนนี้ เขาจะสนองคืนให้เป็นร้อยเท่าพันเท่าชิวหาแดงที่จ้วงแหย่อย่างเอาเป็นเอาตายกวาดต้อนน้ำผึ้งรสเลิศออกมาจากภายในของปาลินอย่างไม่มีหยุดพัก ขณะดวงหน้าแดงระเรื่อกำลังแหงนหงายขบเม้มข่มอารมณ์ที่สุดสยิวนี้ไว้อย่างทรมาน"พี่เรน...อ๊า" พิรุณออกแรงดูดกลืนครั้งสุดท้ายลงไปที่ปุ่มกระสันครานั้นร่างที่ส่ายบิดเร่าก็กระตุกแอ่นเกร็งค้างนิ่ง ปาลินหลับตาพริ้มหายใจกระชั้น มุมปากกระจับของเขายกขึ้นพร้อมคร่อมตัวลงมามองดูดวงหน้าที่กำลังปรือมอง
ปาลินลุกขึ้นจากเตียงนอนบิดขี้เกียจไปมาสองสามทีโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของพิรุณกำลังจ้องมองอยู่ที่หน้าประตูห้อง เรียวปากแดงกระตุกยิ้มกอดอกมองอิริยาบถที่วาบหวิวของปาลิน แม่เด็กน้อยช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าตัวเองกำลังโป๊เปลือยอล่างฉ่างอยู่ต่อหน้าต่อตา สงสัยจะลืมตัวคิดว่าอยู่คนเดียวหรือยังไง"เช้านี้พี่ก็จัดให้ได้นะถ้าลินต้องการ" ดวงตากลมเบิกค้างค่อย ๆ หันไปทางต้นเสียงที่แฝงนัยนะ และเธอก็รู้ตัวเองดีกว่าตนนั้นกำลังล่อนจ้อนปราศจากเสื้อผ้า"พะ....พี่เรน"พรึ่บ! กรี๊ด! พิรุณพุ่งเข้ามาถลกผ้าห่มออกแล้วบดเบียดตัวเองลงมาถึงจะมีเสื้อเชิ้ตขวางกั้นแต่เนื้อนุ่มหยุ่นด้านล่างก็ทำให้เขารู้สึกหนาวสะท้านได้อยู่ดี "ก็อ่อยพี่เอง""ลินไม่ได้อ่อยนะคะ ลินแค่ลืมตัวนิดหน่อยเองอ่ะ""ลืมบ่อย ๆ ก็ดีครับ ลืมทุกวันเลยนะต่อไปโอเคไหมเด็กดื้อ""วันนี้จะพาลินไปทำงานด้วยไม่ใช่เหรอคะ มามัวโอ้เอ้อยู่เดี๋ยวก็สายกันพอดี" เขาไม่ยอมฟังสิ่งที่ปาลินพร่ำบอกแต่เริ่มใช้จมูกซุกไซร้ไปตามลำคอเล็ก "อื้อ..พี่เรนหยุดก่อน อย่าสิคะ" "พี่จะบ้าตายกับลินแล้ว พี่อยากได้ลินอีกแล้วครับ ช่วยพี่ที" "ไม่ได้นะคะ วันนี้เราต้องไปทำงานกันค่ะ ทำงานก่อน
"เป็นไงบ้างเหนื่อยไหม เหงื่อเต็มตัวเลย" เสียงแตกพร่าที่มีเหงื่อชะโลมทั่วกายไม่ต่างจากร่างเล็กเปิดปากถามใบหน้าที่ซุกกดอยู่กับหัวไหล่ของเขาแน่นิ่งหอบหายใจกระชั้น"เหนื่อยค่ะ แล้วพี่เรนล่ะคะ" ปาลินยกหัวขึ้นจากไหล่แกร่งสบตาหวาน ปากเล็กบ้างกัดยั่วกระพริบตาปริบ ๆมึงตายแน่ไอ้เรน! ดูเมียมึงสิแม่งน่ารักฉิบหาย!พอทำหน้าแบบนี้แล้วก็อยากจะจัดอีกสักสองสามยก ให้หมดแรงกันไปข้างหนึ่งเลยโว้ย!"พี่มีโปรโมชั่นให้ลินด้วยครับ ซื้อหนึ่งแถมสอง สาม สี่...." ยังไม่ทันที่ดวงหน้าเล็กจะได้ตอบรับโปรโมชั่นที่เขาว่าเรียวปากดุก็ประกบดูดลงมาตามลำคอของเธอ ถ้าเขาดูดแรงขนาดนี้มีหวังพรุ่งนี้เช้าคงเป็นรอยแดงเห็นชัดแน่เลย แต่ช่างมันเถอะอย่างน้อยมันก็เป็นรอยรักจากพี่เรน "เปลี่ยนบรรยากาศหน่อยดีกว่า" เขาว่าแล้วประคองบั้นท้ายที่ยังเกาะเกี่ยวเอวสอบของเขาแน่แล้วหย่อนตัวของปาลินลงบนเก้าอี้ผ้ากำมะหยี่สีแดงที่ใช้นั่งกินข้าวอยู่ทุกวัน"ทำอะไรคะ...."ยันที่วางแขนสองข้างอย่างงุนงน พลันใดข้อเท้าเล็กก็ถูกจับอ้าออก"ก็แถมโปรให้คนสวยไงครับ""คะ....อ๊าพี่เรน อื้อ" ลิ้นคมฉกแว่บเข้ามากลางรอยแยกที่แฉะเยิ้มปลายนิ้วดันกลีบดอกไม้อวบอูมปาดชิมทุกอ
สาวในชุดนอนกระโปรงผ้าซาตินสีแดงเดินมานั่งข้างพิรุณที่กำลังนั่งตรวจเอกสารกองโตสีหน้าเคร่งเครียด ยิ่งเห็นเขาทำหน้าเหมือนยักษ์แบบนี้เธอก็ไม่กล้าจะบอกเขาไปตรง ๆ"ช่วยไหมคะ" นัยน์ตาเรียวตวัดมองแล้วส่งเอกสารมาให้ปาลิน โถถังนึกว่าพ่อคุณจะบอกว่าไม่เป็นไรครับลินพี่ทำเองเสียอีกแต่นี่กลับรีบส่งมาให้อย่างไว ปาลินนั่งเบิกตากว้างช่วยอ่านเอกสารสัญญาจ้างต่าง ๆ และข้อเสนอที่ลูกค้าขอเพิ่มเติมรวมทั้งงานที่ยังมีปัญหาและงานที่ใกล้เสร็จใกล้ส่งมอบให้กับลูกค้า หญิงสาวแอบชำเลืองมองนาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาห้าทุ่มครึ่งตาย ๆ ดึกขนาดนี้เธอคงไม่ต้องทำอะไรกับพี่เรนแล้วล่ะกว่าจะตรวจไอ้กองเอกสารบ้านี่เสร็จก็ตีหนึ่งตีสองพอดีล่ะมั้ง"เฮ้อ!" ปาลินถอนหายใจอย่างลืมตัวพิรุณที่กำลังนั่งขีดเขียนลงบนกระดาษจึงได้กระแทกปากกาลง "ลิน! จะเอาอะไรก็พูดมาเพชรนิลจินดาหรืออยากกินพิซซ่าตอนดึกพี่ก็สั่งให้ได้นะ" อิตาบ้าใครอยากกินพิซซ่ากันเล่า อยากกินตับพี่เรนนั่นแหละทีงี้ล่ะอ่อนต่อโลกรู้ไม่ทันเธอขึ้นมาเชียว"ไม่ได้อยากกินไอ้ของพรรค์นั้นซะหน่อย อยากกินคนพูดนั่นแหละ" เพราะห้องที่เงียบเชียบทำให้คนที่หูดีมากอย่างพิรุณได้ยินเสียงพึมพำเต็มสองรู
พิรุณขับรถเงียบมาตลอดทางส่วนคนด้านข้างก็เอาแต่นั่งทำตาปริบ ๆ มองบรรยากาศนอกรถก่อนที่จะตวัดหันมามองหน้าเขาสายตาดูหวานยาดเยิ้มกว่าครั้งไหน หลังจากที่เมื่อสักครู่ยัยตัวร้ายของเขาเกือบสังเวยชีวิตไอ้ตัวใหญ่นั่นต่อหน้าทุกคนในผับ เขาก็รีบพาแม่คุณออกมาจากร้านเพราะกลัวว่าจะเผลอไปยิงธนูใส่ใครเข้าอีก"พี่เรนอยากกินลูกธนูของลินไหมคะ"พิรุณชะงักหน้าซีดนี่แม่คุณโดนผีตัวไหนเข้าสิงกันทำไมพักนี้อยู่ในโหมดโหดมาจากนรกเหลือเกิน สงสัยไอ้เรนมึงคงต้องเปลี่ยนให้เมียมาคุมผับแทนมึงแล้วมั้ง เพราะรัศมีการเล็งธนูถือว่าแม่นมากแต่ที่พลาดคงเพราะว่าปาลินน่าจะจงใจแค่ข่มขู่ไอ้ยักษ์ตัวใหญ่นั่น"พี่ไม่ชอบลูกธนูเลยครับลิน พี่ชอบกินลินมากกว่า""ว่างายยยค้าาา...หืม" ปาลินถามเสียงแผ่วแล้วผลอยหลับคาเบาะนั่ง อย่าบอกนะว่ายัยเด็กดื้อแอบสั่งของมึนเมามากิน"เด็กดื้อแอบสั่งเหล้ามากินหรือเปล่า""......."พิรุณหันไปดูคนที่พูดจาไม่เป็นภาษาอีกทีแม่คุณก็หลับสนิทไปซะแล้ว เดี๋ยวเหอะถ้าตื่นขึ้นมาจะลงโทษซะให้เข็ด"มันน่านัก น่าจับฟัดให้แหลกคาปากคามือไปเลย" เขาบ่นพึมพำแล้วรีบเหยียบคันเร่งเพื่อไปถึงเพ้นท์เฮ้าส์ให้เร็วที่สุดร่างนุ่มนิ่มไม่รู้
ปาลินบอกกับพิรุณว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะให้เขาทวงสัญญาอันวาบหวามในเวลาที่เธอยังระบมไปทั้งตัวแบบนี้ และเขาก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไรแถมยังดูแลเธอดีทุกอย่าง อาหารการกินก็ประเคนหามาให้เป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์เต็มที่เธอเขาเอาแต่ทำงานออนไลน์อยู่บ้านทั้งส่งงานและประชุมส่วนเธอเองก็แอบติดต่อพี่มาลีผู้จัดการทั่วไปว่าหากมีงานอะไรให้เธอช่วยก็ขอให้บอก เพื่อทำให้เธอไม่รู้สึกว่างจนเกินไประหว่างที่พักรักษาตัวขณะที่ปาลินเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็แอบเห็นเจ้าของเพ้นท์เฮ้าส์หรูกำลังวิดีโอคอลอยู่กับใครบางคนในห้องทำงาน หญิงสาวจึงเดินกระโผลกกระเผลกไปแอบดูอยู่ข้างขอบประตูห้องอย่างเงียบ ๆ"ป้าจะส่งลูกสาวไปขัดดอกคุณเรนแล้วกัน เงินตั้งสองสามล้านป้ายังไม่มีปัญญาคืนให้เจ้าสัวหรอก ป้าเลยบอกเจ้าสัวว่าจะส่งลูกสาวไปให้คุณเรนแทน เจ้าสัวบอกให้มาถามคุณเรนก่อน""คงไม่ได้หรอกครับผมมีภรรยาแล้ว""ตาย ๆ ไม่เห็นเจ้าสัวบอกป้าเลยนี่ แล้วแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่เห็นมีใครรู้สักคน""ยังหรอกครับผมรอจังหวะอยู่ แต่ป้าไม่ต้องส่งน้องนัชชามาให้ผมนะครับ ผมไม่รับขัดดอกใครแล้ว ผมเลิกถาวรครับ""โถรับ ๆ ไปเถอะกินนอนชั่วคราวจะไปคิดมากอะไรล่ะจ๊ะ
เช้าของวันใหม่พิรุณโทรไปลางานที่บริษัทหลังจากเขาจัดการส่งงานที่เจรจากับลูกค้ารายใหญ่แล้วสรุปข้อมูลทั้งหมดส่งให้เรียบร้อยเขาก็ขอตัวมาเคลียร์ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ทายาทมาเฟียหนึ่งเดียวของเจ้าสัวเทิดวิชถึงกับเดือดดาลขั้นสุด บริเวณสนามหญ้าชายในชุดสูทจำนวนสิบคนถูกเรียกตัวมาตั้งแต่ตีห้า และปกติพิรุณจะแจกของกินเลี้ยงทุกคนแต่วันนี้ไม่มีอะไรสักอย่างให้ลูกน้องของตนเองนอกจากการสอบปากคำเขาเดินกอดอกไปมาคิงกั้งเองก็กลืนน้ำลายเอื๊อกยามที่ดวงตาเรียวตวัดลงมาเพื่อเค้นเอาความจริง เจ้านายหนุ่มตวัดไปหาเชสที่เดินมาพร้อมกับบางสิ่งที่เขาให้มือขวาคนสนิทไปจัดการสืบมา ไอแพดที่มีคลิปจากกล้องวงจรปิดถูกเปิดต่อหน้าลูกน้องทุกคนและภาพที่ปาลินโดนทำร้ายนั้นก็ทำให้หัวใจของเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยง"มึงโกหกกูทำไมไอ้คิงไอ้กั้ง ตอบมา!!" ใบหน้าเหี้ยมเกรียมตวาดเสียงดังลั่นพลางส่งไอแพดคืนกลับไปให้เชส"ขอ..ขอโทษครับนายพวกเราผิดไปแล้วครับ" กั้งและคิงทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงกับพื้นหญ้ายกมือขอร้องเจ้านายหนุ่มที่กำลังยืนกำหมัดแน่นเพื่อระงับโทสะ"เอาเถอะกูเข้าใจว่านายหญิงพวกมึงห้ามบอก กูจะไม่เอาเรื่องแต่นับจากนี้ไปพวกมึงห้ามแยกจากนายหญิงอีกเป
ปาลินยกมือไหว้กั้งกับคิงที่วิ่งเต้นหายาหาของที่เธอต้องการมาให้ทั้งสองคนทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ายกมือขอร้องนายหญิงผู้แสนดีคิงกับกั้งที่เป็นสายอ่อนไหวง่ายน้ำตานองหน้าสงสารนายหญิงจับขั้วหัวใจ"ขอบคุณนะคะอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ" ปาลินทรุดตัวลงนั่งพับเพียบตอนนี้เธออำพรางตัวเองภายใต้หน้ากากสีดำและสวมฮู้ดตัวใหญ่ยักษ์พร้อมกับกางเกงวอร์มขายาวสวมถุงมือสองข้างเพื่อปิดรอยเหยียบที่หลังมือข้างหนึ่งไม่ให้พิรุณเห็น ตอนนี้เธอไม่ต่างกับพวกสต็อคเกอร์ในมุมมืดเลยสักนิด"ฮึก...ฮึกคุณลินครับแต่แผลคุณลินเต็มตัวเลยนะครับ แล้วถ้านายถามพวกเราต้องตอบว่าอะไรดีครับ" กั้งนั่งเช็ดน้ำตาที่นองหน้า"ก็อย่างที่ลินบอกให้ตอบว่าลินเป็นหวัดเป็นโควิดอะไรก็ได้ เขาจะได้อยู่ห่าง ๆ ลิน""แล้วคุณลินกินอะไรหรือยังครับพอดีตอนพวกเราออกตามหาคุณลินแวะซื้อข้าวต้มปลาร้านเด็ดมาให้ด้วย เดี๋ยวยังไงผมไปเทใส่ชามให้นะครับ กว่านายจะกลับก็คงจะสี่ห้าทุ่มพอดี""ขอบคุณค่ะ"กั้งกับคิงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะกินข้าวและมองดูนายหญิงกินข้าวต้มด้วยสีหน้าเหยเกเจ็บปวดเพราะปากที่แตกทั้งสองข้างทำให้การกินอาหารเป็นอย่างทุลักทุเล"ซี๊ด!" ปาลินร้องเพราะรู
แสงของรุ่งอรุณสาดส่องสว่างทั่วทั้งบ้านปลุกเรียกให้คนที่เพิ่งสร่างเมาฟื้นขึ้นปาลินขยี้ดวงตาที่แห้งตึงหรี่มองภาพเบื้องหน้าพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของพิรุณ แถมยังสวมเสื้อฮู้ดตัวใหญ่โคร่งของเขาทับไว้อีกชั้น"ตื่นแล้วแล้วเหรอ หิวหรือยัง" ใบหน้าขาวที่เพิ่งเซทผมเปิดจนเห็นกรอบหน้าเรียวยาวและเสื้อเชิ้ตสีกรมที่ยังไม่ได้กลัดกระดุมนั่นก็ทำให้เห็นหัวนมชมพูวับแวมออกมา ลำคอเล็กรู้สึกแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายลงคอ วันนี้พี่เรนของเธอทำไมถึงหล่อละลายได้ขนาดนี้ หล่อจนเธอคิดไปถึงเรื่องใต้สะดือตั้งแต่ไก่โห่ ยัยลินเอ้ยแกนี่มันยัยหื่นขนานแท้"หิวค่ะ" ปาลินอมยิ้มพิรุณทรุดนั่งลงข้างเธอแล้วเกลี่ยผมที่ยุ่งเหยิงปรกใบหน้าเล็กได้ชัดเจน"พี่ทำ American breakfast ไว้ให้ หิวก็ลงไปกินได้เลยวันนี้พี่ต้องไปต่างจังหวัดคงจะกลับมาดึก พี่มีงานของบริษัทที่ต้องไปเจรจาแทนบอส เพราะบอสธิติดประชุมพี่ในฐานะเลขาพี่เลยต้องไปจัดการเอง ตอนเย็นพี่จะให้คนมารับลินกลับบ้านนะครับ อยากกินอะไรก็บอกไอ้สองตัวข้างนอกนั่น" ปาลินมองตามสายตาของพิรุณที่ตวัดออกไปหาชายในชุดสูทดำสองคนที่โค้งคำนับส่งให้เธอ"พวกเขาชื่ออะไรเหรอคะ""คิง กับ กั้ง เป็นอีกสอ
Crazy Rain Lounge & Barชั้น 29 ของตึกสูงแห่งนี้เป็นสถานที่รวมพลของคนรักอาหารรสเลิศหรูราคาแพงและวิวหลักล้าน เลานจ์แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นได้เพียงห้าปีเท่านั้นแต่กลับโด่งดังจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยการบริหารงานที่เฉียบคมและเก่งกาจชนิดหาตัวจับยากของพิรุณ ปรมะเมคินทร์ที่ปกติเขาจะเป็นคนนั่งไม่ติดมักจะท่องเที่ยวและเช็คอินต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งจนภายหลังเขาได้ตัดสินใจมาทำงานเป็นเลขาให้อธิกะ ชีวิตที่เคยเร่ร่อนไร้จุดหมายก็หยุดลงและตอนนี้ก็จอดสนิทที่ปาลิน หาญหิรัญเพียงคนเดียวแถมยังเป็นการจอดที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิต เพราะเขาได้เลือกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่จะเป็นแม่ของลูก ๆ"พี่เรนมันต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ" ปาลินกางแขนกว้างขณะยืนอยู่ในลิฟต์ที่พาเธอขึ้นไปชั้นยี่สิบเก้าให้พิรุณดูเสื้อสูทสีดำตัวใหญ่โคร่งของเขาที่สวมทับชุดเดรสสยิวที่เขาซื้อมาให้เธอใส่ซึ่งยาวจนปิดหัวเข่าของเธอ แถมเขายังให้เธอใส่รองเท้าผ้าใบมาแทนที่จะได้ใส่รองเท้าส้นสูงสวยเดินสับ ๆ ควงแฟนหนุ่มได้อย่างไม่อายใคร กลายเป็นว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นไม่ต่างกับเด็กกะโปโลยังไม่รู้จักโตเลยสักนิด"พี่หวงของพี่นินาแล้วลินก็มีแต่เสื้อยืดกางเ