Share

Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)
Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)
Author: นัก(ละ)เลง

1 ตายแล้วฟื้น

last update Last Updated: 2024-12-20 15:21:35

1

ตายแล้วฟื้น

         เฮือก!

         ร่างร่างหนึ่งสะดุ้งตื่นขึ้นจากห้วงนิทราอันแสนยาวนานในความรู้สึก

         น่าแปลกที่ความมืดมิดรอบด้านไม่เป็นอุปสรรคต่อสายตาของเขาเลยสักนิด ฝ่ามือเรียวยาวและเนียนนุ่ม เพราะการทำงานอยู่หน้าจอคอมแทบตลอดเวลา แปะป่ายไปสัมผัสยังฝาผนังไม้แข็งรอบตัวอย่างงงงวย

         ทั้งรูปร่างและสัมผัสแบบนี้...

         ใช่แน่ๆ เขาอยู่ในโลงศพ!

         แต่จำได้ว่าครั้งล่าสุดเขายังอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลยนี่นา ถึงเขาจะเป็นเบต้าธรรมดาทั่วไป แต่เขาก็มีสิทธิที่จะได้รับการรักษาเหมือนกันนะ

         จู่ๆ จะไม่ตรวจสอบให้ดี แล้วมาฝังกันทั้งเป็นเนี่ยนะ!?

         คิดอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้มือพยายามดันฝาโลงให้เปิดออก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยสักนิด

         หรือว่าเขาจะถูกฝังอยู่ใต้ดินไปแล้ว! ฉิบหาย!

         “ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย”

         ปังๆๆ

         ข้อสอบทั้งเคาะทั้งตะโกนเรียกให้คนช่วย เผื่อจะมีใครได้ยิน แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ

         แม่งเอ๊ย! เขาต้องถูกฝังทั้งเป็นอย่างงี้จริงๆ เรอะ แฟนก็ยังไม่มี แล้วลูกๆ ในเกมใครจะดูแลต่อ

         กุกกัก กุกกัก

         น่าแปลกที่เมื่อใช้ทั้งมือและเท้าทุบไปทุบมา ฝาโลงศพก็เริ่มขยับได้ ต้องเป็นเพราะอะดรีนาลินความอยากเอาตัวรอดของเขาแน่ๆ ที่ทำให้แข็งแกร่งจนเริ่มเขยื้อนฝาไม้อันหนักอึ้งได้

         ขณะที่กำลังคิดว่า หรือจะลองรวบรวมพละกำลังทั้งหมดไปที่ฝ่าเท้าและกระเด้งตัวเตะในทีเดียวดี ฝาโลงก็ถูกเคลื่อนออกไปเสียก่อน เผยให้เห็นแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา จนเขาต้องยกมือขึ้นบังแสงอันเจิดจ้านั้น

         ลืมตาอีกที ก็เห็นใบหน้าขาวผ่องชะเง้อมองเข้ามาในช่องว่างที่ถูกเปิดออก แต่เส้นผมสีดำละเอียดที่ยาวซะจนจะห้อยมาโดนหน้าของเขาอยู่แล้วนั้น ทำให้ภาพที่เห็นช่างดูน่ากลัวซะเหลือเกิน อย่างกับผีจูออนที่เขาเคยฟังยูทูปเบอร์เล่าไว้ไม่มีผิด

         ถ้าหากไม่เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้ดวงตาเรียวเฉี่ยวแบบคนจีนซะก่อน เขาก็คงนึกว่าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณที่สิงสถิตอยู่แถวนี้แน่ๆ

         ผู้ชายผมยาวคนนั้นใช้มือเพียงข้างเดียวดันฝาโลงให้เลื่อนเปิดจนหล่นลงกับพื้นเสียงดัง ส่งผลให้ข้อสอบลุกขึ้นนั่ง และปีนออกไปได้ ก่อนจะค้นพบว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในหลุมจริงๆ แต่โชคดีที่หลุมนี้ยังไม่ถูกดินฝังกลบเอาซะก่อน

         “ทำไมคุณร้องเรียกไม่หยุด ทำไมถึงไม่ใช้ค้อนทุบออกมาล่ะ”

         ผู้ช่วยเหลือถามพลางพยักพเยิดไปยังค้อนเหล็กที่มีด้ามจับขนาดพอดีมือซึ่งวางไว้ในโลง อยู่เหนือหัวนอนของเขาไปเพียงไม่กี่คืบ

         “อะ อ้าว” เส้นผมบังภูเขาชัดๆ ข้อสอบแทบจะทึ้งหัวตัวเองที่ไม่ได้คิดให้ดีเหมือนกับที่ทำงานวิจัย

         การที่ได้ออกมายืนข้างนอก ทำให้ข้อสอบได้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น ชายคนที่มาช่วยเขาไว้เป็นผู้ชายที่ดูแปลกเสียเต็มประดา เพราะนอกจากผมยาวสลวยจนถึงสะโพกแล้ว ยังใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวแดงผูกทับด้วยสายคาดเอวสีดำ ดูคล้ายๆ ชุดตามประเพณีของคนชนชาติญี่ปุ่นอีกด้วย

         “ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะครับ คุณ?” ต้องถามชื่อผู้มีพระคุณซะหน่อย

         “ชาแมน เป็นสัปเหร่อน่ะ”

         “คุณเป็นคนที่ฝังผมงั้นเหรอ”

         “อ่าฮะ”

         “คุณฝังคนทั้งเป็นโดยไม่เช็คให้ดีได้ยังไง” ชายหนุ่มโวยวาย อยากจะเอาคำขอบคุณกลับคืนมาเสียเหลือเกิน

         คนที่โดนกล่าวหาเอียงคอ เอานิ้วแคะหู “คุณน่ะ ตายไปแล้วจริงๆ”

         “ถ้าตายแล้วผมจะมายืนคุยกับคุณอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”

         คราวนี้คนฟังถึงกับกลอกตามองบน

         “คุณก็แค่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาก็เท่านั้นเอง” เขาพูดน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป ก่อนจะกระโดดขึ้นจากหลุมฝังศพอย่างง่ายดาย “อย่าลืมเอาโลงศพกลับไปด้วยล่ะ มันรวมอยู่ในค่าชาปณกิจที่เป็นสวัสดิการของพลเรือนอย่างคุณอยู่แล้ว”

         “...”

         “ผมไปล่ะ อย่าตายอีกก็แล้วกัน”

         จากนั้นก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับยกหลังมือโบกให้เบาๆ ด้วยท่าทางที่คิดว่าตัวเองเท่เสียเต็มประดา ทิ้งให้ข้อสอบได้แต่มองตามไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

         นี่เขาคิดว่าตัวเองเป็นพวกซามูไรพเนจรหรือยังไงกัน บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไปเอาง่ายๆ

         ชายหนุ่มเจ้าของเสื้อเชิ้ตทำงานแขนยาวสีขาวที่ขัดกับกางเกงอยู่บ้านสบายๆ ขาเท่าเข่า ได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเองเมื่อนึกตามคำพูดนั้น

         จำได้ว่าเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เขาถูกลูกหลงจนเลือดสาดเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด แต่น่าแปลกที่กลับไม่รู้สึกเหนอะหนะตัวเลยสักนิด คงเพราะถูกสัปเหร่อจัดการร่างให้เป็นอย่างดี จึงเหลือเพียงคราบเลือดขนาดใหญ่เปื้อนด้านข้างของเสื้อเชิ้ตอยู่เท่านั้น

         ข้อสอบยกนาฬิกาสปอร์ตขึ้นดู เพื่อเช็ควันเวลา ก่อนจะพบว่ามันระบุวันที่เป็นวันถัดมาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น และเวลาที่ปรากฏก็คือ อีกสิบนาทีจะเที่ยงวัน

         ไม่ได้การล่ะ เขาต้องรีบไปเข้างานด่วน ช่วงเช้าก็หายไปโดยไม่ลาแล้ว ขืนบ่ายยังไม่ไปอีก ได้โดนหักเงินเดือนแน่

         คิดได้ดังนั้น ร่างสูงของคนที่เพิ่งตื่นขึ้นมาในโลงศพก็รีบปีนป่ายขอบหลุมขึ้นไป เพื่อเดินทางไปยังศูนย์วิจัยเอ็กวายแซด (XYZ) ที่เป็นสถานที่ทำงานของนักวิจัยหัวกะทิอย่างเขา

         ทิ้งเรื่องแปลกพิศวงเอาไว้เบื้องหลัง

         ย้อนกลับไปตอนเย็นวันก่อนหน้า

         ณ ห้างสรรพสินค้าเพียงหนึ่งเดียวของเขตซีซ่า ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ชายขอบของเมืองหลวง

         ชายหนุ่มเจ้าของรูปหน้าหล่อเหลา แต่ค่อนข้างจะเป็นพิมพ์นิยมไปหน่อย เลยไม่ได้ดูโดดเด่นมากนัก กำลังเดินเข้าไปในซูเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันทั่วไป

         เขาใช้นิ้วชี้ดันแว่นสายตาขณะเดินไปยังล็อคของสดอย่างช่ำชองโดยไม่ต้องดูป้ายบอกทางใดๆ

         เขามีผมสีน้ำตาลในทรงทูบล็อคข้างหน้าเป็นหน้าม้ายาวพอดีคิ้ว รับกับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ส่งผลให้ผิวหน้าที่ปกติก็ขาวอยู่แล้วดูสว่างมากยิ่งขึ้น

         แต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มเป็นจุดรวมสายตาหลายๆ สายตาไม่ใช่หน้าตา รูปร่างที่สูงตามมาตรฐาน หรือกลิ่นฟีโรโมน (ที่ไม่มี) แต่ประการใด หากแต่เป็นการแต่งกายที่ไม่เข้ากันเลยสักนิด เหมือนคนที่ทำงานอยู่ที่บ้านแล้วใส่เพียงเสื้อเชิ้ตเพื่อเข้าประชุมออนไลน์

         กางเกงผ้าคอตตอนยาวเท่าเข่าลายชายหาดและต้นมะพร้าวนั้นช่างตรงข้ามกันกับเสื้อเชิ้ตซะเหลือเกิน

         มือเรียวหยิบเนื้อส่วน Scotch Fillet หรือก็คือเนื้อริบอายที่เอากระดูกออกแล้วมาเป็นจำนวนมาก เหมาะกับการทำสเต๊กที่เป็นเมนูสิ้นคิดของเขา เพราะมันทั้งทำง่ายและรวดเร็ว

         สำหรับคนที่มักจะฝากท้องไว้ที่ร้านป้าข้างอพาร์ตเม้นต์อยู่เป็นประจำแบบเขา เมนูที่มักจะทำกินเองเวลาเบื่อๆ ก็มีแค่พวกสเต๊ก ไม่ก็มาม่าไปเลย

         ทำอาหารกินเองมาตั้งแต่เด็กจนเบื่อแล้ว พอทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้แบบเหลือๆ ก็อยากจะให้เวลาตัวเองได้ทำอย่างอื่นบ้าง

         เพราะข้อสอบเป็นเบต้าที่กำพร้ามาตั้งแต่ยังแบเบาะ ทำให้เขาถูกเลี้ยงมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของทางรัฐที่ค่อนข้างจะแออัด โชคดีที่ยังสามารถเรียนโรงเรียนรัฐได้อย่างฟรีๆ ทำให้พออายุสิบห้าก็เริ่มปีกกล้าขาแข็งย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเองได้ โดยที่ทำงานพาร์ทไทม์เสริมไปเรื่อย ไม่ว่าจะเป็น เด็กแจกใบปลิว เด็กล้างรถ เด็กปั๊ม หรือว่าจะทำงานในร้านสะดวกซื้อ

         สุดท้ายเขาก็ส่งเสียตัวเองจนเรียนจบปริญญาตรี และพาตัวเองเข้ามาทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยเอ็กวายแซดหรือศูนย์วิจัยที่สิบสามได้สำเร็จ

         การที่เขาได้เข้าทำงานในศูนย์วิจัยแห่งนี้นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของเบต้าตัวน้อยๆ เลยเชียว

         เพราะมันพิสูจน์ว่าเขาคือหัวกะทิที่ฝ่าฟันด่านสัมภาษณ์งานจากผู้สมัครหลายร้อยคนมาได้สำเร็จน่ะสิ!

         มีหน้าที่การงานมั่นคงขนาดนี้ อนาคตเขาต้องหาแฟนได้ไม่ยากแน่ๆ

         จังหวะที่กำลังโชว์ความคล่องแคล่วของการหยิบจับสินค้าอุปโภคอื่นๆ ลงรถเข็นให้สาวๆ ได้เห็นความโปรเฟสชั่นแนลของเขา ก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเสียก่อน

         จู่ๆ ฝูงชนก็ไหลทะลักมาจากไหนไม่ทราบ พุ่งเข้ามายังซูเปอร์มาเก็ตอย่างกับเขื่อนแตก

         “เฮ้ คุณ ที่นี่เขามีนาทีทองกันเหรอครับ ทำไมคนถึงวิ่งมากันเยอะขนาดนี้”

         “ผมก็ยืนเลือกของอยู่ข้างๆ คุณ ผมจะไปรู้อะไรได้ล่ะ”

         การถามคนแปลกหน้าไม่เป็นผล แต่เสียงโหวกเหวกโวยวายและร้องตะโกนลั่น ทำให้ข้อสอบเริ่มจับใจความได้

         “หาที่หลบเร็ว มีคนบ้าไล่ฆ่าคน”

         “มีเหตุกราดยิงอยู่ข้างนอก อย่าเพิ่งออกไป”

         “พี่ๆ ไอ้คนบ้านั่นมันมากี่คนเหรอครับ” ข้อสอบจับแขนเพื่อหยุดคุณลุงคนหนึ่งเอาไว้ทัน

         “กี่คนก็ไม่รู้ แต่เสียงปืนดังมาก นี่ข้าก็วิ่งตามคนอื่นๆ เข้ามานั่นแหละ ยังไม่ทันจะได้เห็นหน้าตาโจรเลย” คุณลุงว่า “เอ็งก็รีบไปหาที่หลบซะล่ะ”

         หลังจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก เขาเดินตามฝูงชนไปยังบันไดหนีไฟที่อยู่ในซูเปอร์มาเก็ต เพราะกลัวว่าหากออกไปทางด้านหน้าจะปะทะเข้ากับคนบ้าหรือผู้ก่อการร้ายเอาได้

         ปัง! ปัง!

         “กรี๊ดดด”

         เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้กลุ่มคนที่ยังไปไม่ถึงบันไดหนีไฟได้แต่กรีดร้องและหมอบลงอย่างตกใจ

         ข้อสอบก็เช่นกัน เขามองหาที่มาของเสียงนั้น ก่อนจะได้เห็นหน้าของคนบ้าในมาสคอตมังกรเขียวตัวอ้วน เห็นแล้วแอบนึกถึงปิ้งย่างเจ้าโปรดเจ้าหนึ่ง ถ้าไม่ติดว่าชายคนนั้นพกทั้งปืนสั้นและปืนกลมาล่ะก็...เขาคงจะเข้าไปขอถ่ายรูปด้วยแล้ว

         จากนั้นรู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงปืนกลดังรัวๆ วิถีกระสุนสาดไปทั่วซูเปอร์มาเก็ต จนสินค้ากระจัดกระจายฟุ้งไปทั่ว เสียงคนร้องดังระงม

         นี่มันไม่ใช่แค่การขู่หรือจับตัวประกันแล้ว มีมันเป็นการกราดยิงไปมั่วๆ โดยไร้ซึ่งจุดหมายชัดๆ

         พ่อแก้วแม่แก้ว ถ้าลูกช้างรอดไปได้นะ ลูกจะถวายตัวเป็นผัวให้โอเมก้าเลย

         อืม ไม่ดีๆ เรื่องนี้มีแต่เขาที่ได้ประโยชน์ งั้นจะขอถวายเป็นตุ๊กตาน้องเต่าตัวโปรดของเขาแทนก็แล้วกัน

         บนบานไปก็คลานหนีไปด้วยอย่างรวดเร็ว นี่ไงข้อดีของการใส่กางเกงขาสั้นมา ทำอะไรก็สะดวกแบบนี้ยังไงล่ะ

         นับว่าเขายังโชคดีอยู่ เพราะสามารถหนีมาจนถึงประตูบันไดหนีไฟได้สำเร็จ

         ทว่า...

         ปัง!

         ฮั่นแน่~ คิดว่าเป็นเขาที่ถูกยิงใช่มั้ยล่ะ?

         คำตอบคือ ก็ใช่น่ะสิ! จะไปเหลือเร้อ

         แต่หลังจากที่เขาถูกยิงเข้าที่เอวซ้าย ก็พยายามหนีขึ้นบันไดหนีไฟจนรอดออกมาจากห้างได้สำเร็จ

         และไม่รู้เป็นเพราะอะดรีนาลินหรือความกล้าบ้าบิ่นหรืออะไร ที่ทำให้เขาลากสังขารไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าตัวคนเดียว โดยไม่คิดที่จะเดินไปอีกด้านของห้างเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าตำรวจที่กำลังเข้ามาเคลียร์พื้นที่เลยสักนิด

         ทันทีที่บุรุษพยาบาลเห็นร่างอันบาดเจ็บของชายหนุ่ม ก็เรียกเตียงรถเข็นให้ทันที

         “ช่วยน้องคนนี้ก่อน”

         หลังจากที่ได้ขึ้นไปนอนบนเตียง สติเขาก็แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รับรู้เพียงภาพเลื่อนลอยของบุคลากรในชุดสีขาว และเพดานห้องเท่านั้น

         นั่นคือทั้งหมดที่เขาจำได้...

         ถ้าคิดตามที่สัปเหร่อคนนั้นบอก การที่จู่ๆ เขามาโผล่ในโลงศพทั้งๆ ที่ถึงมือหมอเรียบร้อยแล้ว ก็มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น คือเขาตายแล้วฟื้นคืนชีพ!

         อย่างงี้เขายังต้องไปแก้บนอยู่มั้ย เพราะเขาไม่ได้รอดตาย แต่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาต่างหาก

         “หืมมม”

         กลุ่มคนที่ยืนบังบันไดทางขึ้นซึ่งเป็นทางที่ข้อสอบต้องใช้เพื่อไปยังชั้นสามที่มีแผนกเอชเอชซี (HHZ) ตั้งอยู่ ทำให้ข้อสอบหลุดจากภวังค์ความคิด ด้วยไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน

         “ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมาเอง”

         “ตัวจริงดูน่าเกรงขามกว่าที่คิดนะ”

         “แต่ฉันว่าเหมือนที่เขาลือกันไว้ไม่มีผิด”

         “เสียดายจัง เรามาไม่ทันเห็น”

         เสียงซุบซิบดังมาจากเหล่าพนักงานในอาคาร ที่ดูท่าแล้วน่าจะพากันยกโขยงลงมาแทบทั้งตึก

         หรือว่าอาคารที่ไม่ค่อยจะได้รับความสนใจจากบุคคลภายนอกแห่งนี้ จะมีคนใหญ่คนโตมา?

         ถึงจะแอบอยากรู้เรื่องรู้ราวกับเขายังไง ก็ไม่มีเวลาเหลือให้เขาได้ถามอีกต่อไป เพราะใกล้จะถึงเวลาเข้างานรอบบ่ายอยู่แล้ว และเหล่าคนมุงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดทางให้คนเดินผ่านเลยสักนิด

         ไม่แน่ใจว่ากำลังรอให้คนคนนั้นเดินลงมาหรือยังไงกันแน่

         สุดท้ายคนที่กลัวว่าจะเข้างานไม่ทัน ก็ตัดสินใจเดินอ้อมไปใช้บันไดหนีไฟที่ออกแบบมาได้อย่างเฮงซวยเอามากๆ เพราะมันเป็นบันไดที่อยู่นอกอาคารและทำจากเหล็กที่ดูก๊องแก๊งเกินไป แถมยังขึ้นสนิมจนไม่มีใครกล้าใช้

         หากเกิดเหตุเพลิงไหม้จริงๆ ก็คงจะหนีลงมาตามบันไดปกตินั่นแหละ คงไม่มีใครอุตริใช้บันไดโทรมๆ นี่หรอก

         ถึงสักที...

         ข้อสอบกดรหัสเข้าประตูที่เกือบจะลืมไปแล้วเพราะเป็นรหัสเฉพาะของบันไดหนีไฟเท่านั้น ก่อนจะผลักประตูหนักๆ เข้าไปข้างในอาคาร

         ดูเหมือนการได้นอนหลับในโลงศพ จะทำให้เขามีแรงมากขึ้น เพราะเดินขึ้นบันไดมาชั้นสามแล้วยังไม่มีความรู้สึกเหนื่อยหอบเลยแม้แต่นิดเดียว

         ที่ผ่านมาเขาคงจะพักผ่อนน้อยไปหน่อย

         ร่างสูงขยับเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ที่เพิ่งแวะไปเปลี่ยนที่บ้านมาให้เข้าที่เข้าทาง ขยับแว่นสายตาด้วยความประหม่านิดหน่อยด้วยไม่รู้จะโดนต่อว่าอะไรบ้างที่ขาดงานโดยไม่บอกกล่าว ก่อนจะก้าวขาฉับๆ ไปยังประตูทางเข้าแผนก แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมา

         อ่า... คันฟันชะมัด

         ชายหนุ่มรู้สึกคันฟันอยากหาอะไรมากัดจนเริ่มหงุดหงิด สุดท้ายเลยต้องหยิบผืนผ้าเช็ดหน้าสีเขียวลายเต่าที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาขึ้นมาหลบมุมงับเล่น

         “แง่ม แง่ม”

         ได้ขบฟันไปหลายทีก็เริ่มผ่อนคลายจนหลับตาพริ้ม

         อืม ค่อยหายมันเขี้ยวหน่อย

         เขาทิ้งทวน กัดผ้าเช็ดหน้าก่อนจะกระชากออกเป็นครั้งสุดท้ายโดยไม่กลัวว่าฟันจะโยก ยัดผ้าเช็ดหน้ากลับลงกระเป๋ากางเกงลวกๆ แล้วก้าวขาออกไปทำงานที่เขารัก

         โดยไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้น มีสายคู่หนึ่งมองกระทำอันแปลกประหลาดของเขาอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ

         ...สายตาของคนใหญ่คนโตที่มาเยือนอาคารโทรมๆ แห่งนี้

Related chapters

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   2 ประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนไป

    2ประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนไป ปีนี้เป็นปีคริสต์ศักราชสองพันห้าสิบ ดาวเคราะห์ดวงนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยเฉพาะประเทศทีแอลที่เพศหลัก เพศรอง และระบบชนชั้นยังคงฝังรากลึกอยู่ นอกจากเพศชายหญิง อัลฟ่า เบต้า และโอเมก้าแล้ว ยังมีเพศรองแยกย่อยออกไปอีกตามการค้นพบของหมอและเหล่านักวิทยาศาสตร์ แต่สุดท้ายเพศย่อยๆ เหล่านั้นก็มีน้อยซะจนมีบรรจุไว้ในหนังสือเรียนแค่เพียงสองหน้าเท่านั้น และแทบไม่มีใครได้พูดถึงมันอีกเลย อัลฟ่ายังคงเป็นเพศที่มีจำนวนน้อยและมีอำนาจมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่พลังกดข่มที่มีมาตั้งแต่กำเนิด หากยังรวมถึงอำนาจของตระกูลที่ถูกฝังรากลึกมาตั้งแต่ระบบการปกครองแบบกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้อัลฟ่ามีอำนาจมากทั้งในแวดวงการเมืองและเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ และดูเหมือนจะย่ำแย่มากยิ่งขึ้น ตราบใดที่ระบบเส้นสายและการผูกขาดสินค้าบางอย่างยังไม่หมดไป ปัญหาเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้ว อาชีพที่อัลฟ่ามักทำจะเป็นพวกตำแหน่งระดับสูงในแวดวงทหาร ตำรวจ นักการเมือง หรือไม่ก็เป็นพวกนักลง

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   3 ผู้บริจาคเลือด

    3ผู้บริจาคเลือด พรึ่บ แสงไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดับลงพร้อมกัน ส่งผลให้ห้องทั้งห้องมืดสนิทลงในทันใด มีเพียงแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้นที่ยังสว่างไสวอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีก็มีเหตุการณ์ไฟตกอยู่เช่นกัน แต่เพียงครู่เดียวไฟก็ติดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าของห้องเปิดประตูออกไปชะเง้อมองดูข้างนอก ก่อนจะพบว่าโถงทางเดินและอาคารอื่นก็ไฟดับเหมือนกัน ปกติแล้วทางตึกมีระบบไฟสำรองให้ตลอด ที่ไฟดับนานขนาดนี้แสดงว่ารอบเมื่อกี้เป็นการใช้ไฟสำรองจนหมดเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีการดับไฟเพื่อปรับปรุงระบบหรือซ่อมแซมอะไรสักอย่าง แต่เขาดันไม่เห็นประกาศนี่สิ Exam is coming: บ้านพวกนายไฟดับปะวะ ×เอ็กซ์×: เออ ดับ แต่เขาก็แจ้งนานแล้วนะ Exam is coming: อ้าวเหรอ ดับถึงกี่โมงวะ ×เอ็กซ์×: ถึงเช้าโน่นแหละ นอนไม่ลงว่ะ ร้อน 49ก็มีหัวใจ: วอร์ปะล่ะ ลางานหนึ่งวัน งดทัก: +1 ปอนด์แฟนมิ้งค์: +++ Exam is coming: ขอผ่านว่ะ ไม่มีอารมณ์ กลุ่มแชทที่ข้อสอบพิมพ์ถามลงไปคือกลุ่มของเพื่อนสมัยปริ

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   4 ดูดเลือดครั้งที่สอง

    4ดูดเลือดครั้งที่สอง “หลบจ้า หลบ” “กระเทียมหนึ่งพวงสามสิบ สองพวงอม เอ้ย กินกำลังพอดีจ้า เอาไปเลยห้าสิบพอ” “เนื้อจ้าเนื้อ เนื้อสดๆ อ้าว พ่อหนุ่ม มาดูเนื้อมั้ย หรือจะดูเอ็น แต่ต้องไปดูร้านโน้นนะ ที่คนขายหล่อๆ น่ะ” “ขอบคุณครับป้าใจ มาดูเอ็นได้ทางนี้เลย เครื่องในก็มีเพียบ ตับไตไส้พุง หรือจะเอาหัวใจผมไปก็ได้นะ” “ทางนี้จ้าทางนี้ ซื้อเยอะแถมเยอะ ซื้อน้อยก็แถมเยอะอีกเหมือนกัน แจกจ้าแจก อยากกลับบ้านแล้ว ป่านนี้ไอ้แก่ที่บ้านแอบไปหาเมียน้อยแล้ว” โครม! “อุ้ย ตาเถร” “บัดสีบัดตาเซิ้ง” “บัดเถลิง!” คนแทบทั้งตลาดตบมุกพร้อมๆ กัน ให้กับคุณยายคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รถเข็นผักชนกับคน และใช้คำได้แบบผิดๆ ไม่ใช่แค่พูดผิดธรรมดา แต่ใช้ผิดความหมายไปเลย เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจและความครึกครื้นของตลาดสดแห่งนี้ ทำให้ข้อสอบที่ออกมาเดินหาซื้อของที่น่าจะพอกินได้ รู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเข้าแต่ซูเปอร์มาเก็ต แต่พอเจอเหตุการณ์ถูกคนบ้ายิงเข้าไป เขาก็ไม่กล้าเฉียดกรายเข้าใกล้ห้างแห่งนั้นอีกเลย

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   5 ถุงเลือดส่วนตัว

    5ถุงเลือดส่วนตัว บรรยากาศอันร่มรื่นเงียบสงบของวัดขนาดเล็ก ช่างจรรโลงใจเป็นที่สุด หลังจากนอนกับพื้นและในตู้เสื้อผ้ามาครึ่งเดือน เขาก็ได้แวะไปตรวจสอบและคอนเฟิร์มว่าโลงศพที่สั่งทำเป็นที่ถูกใจ ได้ฟังก์ชันครบถ้วนตามต้องการ จากนั้นก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือและเปลี่ยนที่อยู่ในการจัดส่งให้เขานำไปส่งในค่ายทหารแทน ไหนๆ วันนี้ก็ได้หยุดงานแล้ว เขาก็เลยแวะมาวัดที่อยู่ข้างๆ ร้านโลงศพเสียหน่อย ของที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บเยอะ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าหากทำโปรเจกต์ลับนั่นเสร็จแล้ว จะโดนไล่ออกกลับมาอยู่ที่พักเดิมหรือเปล่า ก็เลยจะเอาไปแต่ของใช้จำเป็นเท่านั้น หากถามว่าผู้พันอาชวินจะรู้มั้ยว่าเขาเป็นคนที่แอบดูดเลือดอีกฝ่ายไป... เขามั่นใจว่าไม่ เพราะปฏิกิริยาของอัลฟ่าตนนั้นเมื่อตอนเจอกันวันก่อนดูปกติดีทุกอย่าง ดูเหมือนคนที่เคยเจอเขาครั้งเดียวตอนตกจากระเบียงห้อง แต่ถามว่าเจ้าของเลือดหอมหวานนั่นรู้สึกระแคะระคายอะไรบ้างมั้ย เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้แต่พยายามทำตัวปกติ เพราะยังไงเขาก็คงไม่ได้เจอเจ้านายคนใหม่บ่อยนัก ชั้นลบหนึ่งกับชั้นบนส

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   6 หาเหยื่อใหม่

    6หาเหยื่อใหม่ ทำไมวันนี้มีแต่คนมองเขาเยอะแปลกๆ หรือเพราะเลือดคุณภาพดีเมื่อคืน ทำให้เขาดูแข็งแรงขึ้น ดูหล่อขึ้น? ตั้งแต่ข้อสอบเดินเข้ามาในอาคารทำงาน ไล่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งลงไปยันชั้นลบหนึ่งแล้ว ที่ใครต่อใครต่างก็มองมาทางเขา ไม่รู้ว่ามองด้วยเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่การมองเหยียดหรือมองในแง่ร้ายแน่ๆ “นายไม่ได้สายตาสั้นหรอกเหรอ” คำทักทายจากเพื่อนร่วมห้องทำงานเดียวกันวันนี้แปลกไปกว่าทุกที ทำให้ชายหนุ่มรู้สาเหตุทันที เอ้า! เขาลืมใส่แว่นเสียสนิท แต่ถึงไม่ได้ใส่แว่น ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้กลับงดงามสดใสชัดเจนไปซะหมด มิน่าตอนเช้าตอนเขาตื่นขึ้นมาในโลงศพถึงได้ลืมควานหาแว่นมาใส่ตามความเคยชิน ก็ทุกสิ่งทุกอย่างมันชัดเจนซะขนาดนี้ เขาก็นึกว่าตัวเองใส่แว่นอยู่น่ะสิ “ขี้เกียจใส่แว่นน่ะ” ตอบกลับไปแบบกลางๆ ให้อีกฝ่ายไปเดาเอาเองว่าเขาใส่คอนแทคเลนส์อยู่หรือเป็นคนสายตาปกติที่ใส่แว่นเล่นๆ กันแน่ ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาทำแว่นหล่นทิ้งไว้ไหน เพราะหลังจากดื่มเลือดเสร็จ เขาก็แวะไปที่อาคารศูนย์วิจัยต่อ กว่าจะได้กลับบ้านมานอนก็ตีสองแล

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   7 กรีดเลือดเสนอตัว

    7กรีดเลือดเสนอตัว “นี่ครับ อาหารที่พี่สั่ง” พนักงานร้านข้าวต้มโต้รุ่งหยิบจานอาหารจำนวนมากบนถาด วางลงบนโต๊ะที่มีผู้ชายนั่งกันอยู่สองคน “ขอสั่งยำสามกรอบ กับไชโป๊ผัดไข่เพิ่มด้วยนะ” “คุณจะกินเพิ่มอีกเหรอครับ” เพื่อนร่วมโต๊ะถึงกับหันขวับไปถามคนที่สั่งอาหารเพิ่ม ทั้งที่บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยยำไข่เค็ม ผัดผักบุ้ง ผัดหอยลาย หมูมะนาว ใบเหลียงผัดไข่ ยำกุนเชียง และปลาราดพริกแล้ว “ฉันสั่งมาให้เธอ” “แต่ผมไม่หิว” “ไหนบอกมาหาของกินไง” ของกินที่เขาหมายถึงน่ะ คือเลือดต่างหากเล่า “...” ข้อสอบบุ้ยปากอย่างเซ็งๆ โดนหลอกยังไม่พอ ต้องโดนพามาเจอกับอาหารที่เขาไม่ได้กลิ่น แถมยังกินไม่ได้อีก นี่มันจะบังคับกันเกินไปแล้ว! “อะ กินเยอะๆ” นอกจากจะไม่เข้าใจลูกน้องของตนแล้ว ยังตักกับข้าวใส่ถ้วยข้าวต้มกุ๊ยเล็กๆ จนล้นทะลักอีก “คุณมีความคิดเห็นยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้บ้างครับ” นักวิจัยหนุ่มเขี่ยข้าวต้มไปมา “ไม่น่าจะเป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” ปึก! “ใช่มะ ผมก็คิดแบบ

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   8 รสนิยมประหลาด

    8รสนิยมประหลาด อาชวินมองสัตว์ตัวจ้อยที่กำลังหาทางบินหนีออกจากห้องทำงานด้วยสีหน้าสงบ แต่ข้างในจิตใจนั้นเหลวเป๋วสิ้นดี ใจอ่อนยวบยาบไปหมดเมื่อได้เห็นสัตว์ขนปุกปุย แถมยังตัวเล็กจิ๋วแบบที่ตนชอบนักชอบหนา ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่าเขามีรสนิยมชอบสัตว์ตัวเล็ก และไม่คิดที่จะเลี้ยงแมวป่า เสือ หรือสิงโตเหมือนญาติคนอื่นๆ แต่ต่อให้เขาจะคลั่งไคล้และแอบเล่นกับลูกแมว นก หนูแฮมสเตอร์มามากแค่ไหน เจ้าค้างคาวตรงหน้ากลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในใจ มาแรงแซงทางโค้งบดเบียดสัตว์อื่นหล่นตุ้บไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องอาศัยพละกำลังอันมากล้นของอัลฟ่าเพื่อพยายามกดพลังของผีดูดเลือดอีกต่อไป เพราะเขาสามารถใช้เพียงอุ้งมือเดียวรวบสองเท้าของค้างคาว จับห้อยหัว หิ้วไปมาได้อย่างสะดวกสบาย “เป็นค้างคาวไปตลอดเลยก็ดีนะ” “จี๊ดๆๆๆ” เสียงประท้วงของค้างคาวดังขึ้น “โอ้ ยังฟังรู้เรื่องอยู่สินะ” เพียงขยับตัวนิดเดียว กรงนกขนาดใหญ่อันว่างเปล่าที่ถูกตั้งอยู่ในห้องมาเนิ่นนานก็ถูกเติมเต็มไปด้วยร่างของค้างคาวที่พยายามจะพุ่งหนี แต่ก็ไม่ทันประตูกรงที่ถู

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   9 กลับสู่จุดเริ่มต้น

    9กลับสู่จุดเริ่มต้น “ถ้าช่วย แล้วผมจะได้อะไร” “...” “เลือด ผมจะไปหากินที่ไหนก็ได้ เงิน ผมก็มีพอใช้อยู่แล้ว” “เธอคิดว่าเธออยู่ในจุดที่ต่อรองได้อย่างงั้นเหรอ?” คนที่หลงลืมไปว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกรู้ความลับเข้า เริ่มวิตกกังวล “นี่คุณคิดจะแบล็กเมล์ผมหรือไง” อาชวินไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นเดินโทงๆ ไปหยิบเสื้อผ้าขนาดเล็กที่สุดในตู้มาโยนลงตรงหน้าคนที่ผิวกายทำให้เขารู้สึกไม่มีสมาธิจะคุยด้วยเท่าไหร่ จากนั้นก็เดินไปหยิบกุญแจมาปลดโซ่ที่ล็อกข้อเท้าอีกฝ่ายออก คนที่จู่ๆ ถูกปล่อยตัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมปกปิดเรือนร่างของตนอย่างรวดเร็ว “เอาเถอะ ฉันอยากบังคับคนที่ไม่ยินยอมหรอกนะ” คนฟังแอบรู้สึกเฟลอยู่หน่อยๆ โธ่เอ๊ย ไม่น่าอวดเก่งเลยเรา ดันถามถึงของแลกเปลี่ยน แล้วสุดท้ายเขาก็ไม่สนใจ ไม่เอาด้วยสักอย่าง รู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่เอ่ยปากจะทำให้ แล้วอีกฝ่ายดันไม่เอา ข้อสอบไม่อยากจะยอมรับเลยว่า ถึงแม้เขาจะมีตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมาย แต่การได้ดูดเลือดผู้พันเสียหลายครั้ง มันทำให้เขาติดใจและ

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   บทส่งท้าย (ตอนจบ)

    บทส่งท้าย แม้จะเป็นแฟนกันแล้ว แต่คนบ้างานก็ยังคงบ้างานต่อไป ดีหน่อย ที่ถึงแม้จะมีไปประชุมต่างเขตจนต้องกลับบ้านดึกดื่นเป็นบางวัน แต่อาชวินก็ไม่เคยไปค้างที่อื่น และไม่หอบเอางานกลับมาทำที่บ้าน ข้อสอบที่นับวันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวเป็นแม่บ้านเข้าไปทุกที ได้แต่นั่งกอดตุ๊กตาน้องเต่า เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในเรดดิตและสอดส่องหาของแต่งบ้านต่อไป ถึงแม้จะทำงานกันคนละอาคาร แต่ยามเลิกงาน ข้อสอบกับอาชวินมักจะเจอกันอยู่เสมอ ไม่ที่บ้านของเขา ก็บ้านของอีกคน เดินไปมาหาสู่กันจนอาชวินขอให้เขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสองชั้นของตนแทน เลยได้ถือโอกาสย้ายของทุกอย่างออกมาจากอพาร์ตเม้นต์ที่อยู่นอกเขตทหาร จะได้ปล่อยเช่าซะ พอย้ายของมา ก็เลยได้ตกแต่งบ้านอย่างจริงจังเสียที บ้านที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นตอนนี้ เลยมีของตกแต่งเพิ่มขึ้นมา ทำให้ดูเป็นเหมือนบ้านมากขึ้น นอกจากนี้บ้านของอาชวินยังมีห้องนอนที่ชั้นหนึ่งเยื้องออกไปทางข้างหลัง สะดวกให้ตัวเลขอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก วันนี้อาชวินก็บินไปทำงานที่ต่างเขตแต่เช้ามืด และน่าจะกลับมาถึงเร็วๆ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   22 คำเตือนสุดท้าย

    22คำเตือนสุดท้าย บรรยากาศกำลังได้ที่ แต่ดันถูกตัวป่วนสองตัวมาขัดเสียยับ อาชวินมองชาแมนกับรุจีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านได้อย่างถูกจังหวะสุดๆ โดยที่ตนยังจับมือคนตัวเล็กกว่าไว้อยู่ “นายไม่ได้เตือนข้อสอบไว้เหรอ” แวมไพร์สาวสวยที่เดินนวยนาดมานั่งยังโซฟาตัวที่นักสืบเพิ่งลุกออกไปได้ไม่นาน หันไปถามแวมไพร์สัปเหร่อที่เลือกยืนพิงโต๊ะหน้าทีวี “เตือนแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ฟัง” ชาแมนตอบ ข้อสอบพยายามดึงมือออกจากอุ้งมืออุ่นสบาย เพราะถูกจับจ้องมาจากแวมไพร์ทั้งสองตนจนชักจะเขินอยู่หน่อยๆ “เตือนถูกจุดหรือเปล่า” “ก็เตือนเรื่องเหยื่อจะถูกดูดเลือดจนป่วยตาย” “นายคิดว่าคนอย่างผู้พันจะตายได้ง่ายๆ งั้นเหรอ” “เออ จริงด้วย” แวมไพร์รุ่นน้องได้แต่หันไปมองคนโน้นคนนี้ซุบซิบกันไปมาโดยไม่สนเลยว่าคนที่ถูกนินทาจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ “ข้อสอบ ฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อยสิ” รุจีว่า “ไม่เอาแบบคราวก่อนแล้วนะครับ” นักวิจัยหนุ่มหมายถึงตอนที่ถูกจับหิ้ววิ่งด้วยความเร็วสูงซะจนคลื่นไส้ “คุยที่นี่แหละ ข้อสอบไม่ม

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   21 ต้องการคนปกป้อง

    21ต้องการคนปกป้อง แม้เจ้าค้างคาวจะกระพือปีกขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาและขยับเบี่ยงตัวอย่างตกใจตามเสียงเรียกของอาชวิน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นกระสุนล็อกเป้า เทคโนโลยีพิเศษที่สามารถเปลี่ยนทิศทางตามเป้าหมายได้ถึงสองครั้งติด เป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพงมาก หาได้จากในฐานทัพเท่านั้น และถูกควบคุมไม่ให้มีขายในตลาดใต้ดิน “ข้อสอบ!” ผู้พันหนุ่มร้องอย่างตกใจ นาทีที่เห็นร่างจิ๋วถูกยิงจนตกลงมากับพื้น เป็นชั่วเสี้ยววินาทีที่เหมือนกับโลกทั้งโลกหยุดหมุน แต่สติและสัญชาตญาณที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้เขารีบเก็บค้างคาวน้อยที่นอนสลบไสลลงในกระเป๋าเป้ วิ่งหาที่ซ่อนจากกระสุนสุดแสนจะอันตรายนั่น ชายหนุ่มหาที่หลบได้ก็ลอบประเมินสถานการณ์ในใจ หากศัตรูมาคนเดียวก็คุ้มที่จะเสี่ยงจัดการซะให้เรียบร้อย ดีกว่าเขาเป็นฝ่ายถูกตามล่าฝ่ายเดียวจนไม่มีเวลาปฐมพยาบาลให้ข้อสอบ สายตาคมหยิบแว่นมองในที่มืดที่ถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายแว่นตาธรรมดาขึ้นสวม ลอบสังเกตดูการเคลื่อนไหวรอบกาย หากทว่ามีกลิ่นหอมหวานโชยออกมาจากในกระเป๋าสะพาย เหมือนกลิ่นโอเมก้ากำลังฮีต... กลิ่นเดียวกับที่เข

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   20 ผู้ช่วยเหลือ

    20ผู้ช่วยเหลือ หลังจากซักถามลักษณะภูมิประเทศที่เกิดเหตุและช่วงเวลาคร่าวๆ ที่ตัวเลขเห็นในนิมิต ข้อสอบก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุจะเกิดในคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้กันแน่ สิ่งที่เขาทำได้คือต้องออกไปหาผู้พันให้เจอโดยเร็วที่สุด “อ้าว คุณข้อสอบจะไปไหนน่ะ” นาทีถามคนที่เพิ่งเดินเข้ามายังไม่ทันจะข้ามพ้นวงกบประตู และรีบหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย เลยได้แต่ยืนเกาหัวอย่างงงๆ ตอนแรกนักวิจัยหนุ่มกะจะแวะมาเอากระเป๋าเป้เพื่อใส่อุปกรณ์ยังชีพต่างๆ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนแปลงร่างเป็นค้างคาวเพื่อบินตามหาน่าจะสะดวกกว่า เลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์เงียบๆ ไหว้วานให้ชาแมนมาเฝ้ายามผลัดที่สามช่วงใกล้รุ่งเช้าแทนเขา จากนั้นแวมไพร์หนุ่มก็อาศัยมุมมืดของป่า แปลงร่างเป็นแวมไพร์ตัวกระจ้อยที่ไม่รู้จะมีแรงบินได้ไกลแค่ไหน บินตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปสู่ภูมิประเทศแบบป่าชายเลน โชคดีที่ป่าชายเลนมีความยาวเพียงแค่ห้ากิโลเมตรและมีอยู่เพียงฝั่งเดียวของพื้นที่ที่ใช้ในการทำภารกิจ ทำให้ข้อสอบสามารถสโคปพื้นท

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   19 อีกขั้นของความสัมพันธ์

    19อีกขั้นของความสัมพันธ์ บรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ที่ก้าวเดินไปด้วยกันมีแต่ความเงียบสงบ หลังจากที่อาชวินโผล่มาช่วยพาข้อสอบออกจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดตอนนั้น พวกเขาก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันอีก สุดท้ายคนที่ทนความเงียบไม่ไหว ก็เป็นฝ่ายพูดออกไปก่อน “ผมไม่ขอบคุณคุณหรอกนะ” เพราะผู้พันทำให้เขาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ “ไม่ดีใจเหรอที่ได้รู้จักแวมไพร์ตนอื่นเพิ่ม” ข้อสอบหันขวับไปมองคนพูดหยอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แล้วคุณจะรู้สึกดีใจมั้ยล่ะครับถ้าเจอคนอุ้มแล้วพาวิ่งไปด้วยความเร็วสูงแบบนั้น” นักวิจัยหนุ่มแหวใส่ “เหวอออ” ก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างกายลอยขึ้นมาอยู่เหนือพื้น “อุ้มแบบนี้หรือเปล่า” น้ำเสียงเจือรอยขำ ทำให้คนที่กอดคออีกฝ่ายแน่นเพราะกลัวตก จัดการทุบไหล่กว้างของอัลฟ่าหนุ่มเข้าให้หนึ่งป้าบ “คุณนี่มัน...” กวนตีนกว่าที่คิด “อารมณ์ดีได้หรือยัง” ลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก้มเย็น ทำให้ข้อสอบที่เผลอสบตาผู้พันครู่หนึ่งต้องเบนหน้าหลบ ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงไปมากกว่านี้ “ไม่ใช่อุ้

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   18 มนุษย์ก็แค่ของเล่น

    18มนุษย์ก็แค่ของเล่น คนที่นอนมาตลอดทางค่อยๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาหลังจากรู้สึกได้ถึงรถตู้หรูเจ็ดที่นั่งที่จอดนิ่งสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป พอขยับตัวก็รู้สึกได้ถึงเสื้อโค้ทที่ไหลลงไปกองอยู่บนตัก หันไปทางขวาก็เห็นคนที่นั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดทางกำลังเก็บแท็ปเล็ตที่เพิ่งปิดลงใส่กระเป๋า ตั้งแต่ขึ้นรถที่มีเพียงเขา ผู้พัน และคนขับรถมา ผู้พันอาชวินก็ไม่ซักถามอะไรสักคำ เอาแต่บอกให้เขานอนพักผ่อนให้เต็มที่ คนที่เตรียมใจว่าจะโดนดุเลยได้แต่แกล้งหลับตาอย่างงงๆ จนสุดท้ายก็เผลอหลับไปเอง หลับยาวจนมาตื่นเอาตอนนี้ “ขอบคุณครับ” ข้อสอบยื่นเสื้อโค้ทคืนให้กับคนที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของ หัวใจอุ่นวาบนิดหน่อยกับความห่วงที่อีกฝ่ายแสดงออกมาทั้งตอนที่ฝากนาทีเอายามาให้ และตอนนี้ “วันนี้ก็พักผ่อนซะเยอะๆ ล่ะ พรุ่งนี้ไปฝึกแค่ช่วงเช้าชั่วโมงเดียวพอ” จริงๆ อาชวินไม่อยากให้ข้อสอบมาฝึกต่อเลยด้วยซ้ำ แต่การจะให้คนตัวเล็กอยู่ใกล้ๆ กับเขาได้ ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น “เดี๋ยวก่อน” ผู้พันหนุ่มจับข้อมือ รั้งร่างของคนที่กำลังจะเปิด

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   17 คนเนื้อหอม

    17คนเนื้อหอม หากเด็กตรงหน้าอายุมากกว่านี้ล่ะก็... คนอื่นคงนึกว่ามีสาวหนีตามเขามาแน่ “ทำไมหนูถึงมาที่นี่ล่ะ” หลังจากที่เรียกเด็กหญิงวัยเก้าขวบนามว่าตัวเลขเข้ามาในบ้าน เพื่อป้องกันการครหานินทาจากเหล่าเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว ข้อสอบก็เริ่มเปิดประเด็นทันที “หนูหิวค่ะ” พรืดดด แขนที่กำลังกอดอกอยู่อย่างคนจริงจังเลื่อนไถลไปบนโต๊ะหน้าโซฟาตามอาการเซของตน ทำไมเขาต้องเจอแต่คนที่ชอบไม่ตอบคำถามเขาก็ไม่รู้ เห็นกิริยาท่าทางของเด็กคนนี้แล้ว นึกถึงใครบางคนขึ้นมาตงิดๆ ถ้าบอกว่าเป็นพ่อลูกกันเขาคงจะเชื่อได้ง่ายๆ สุดท้ายนักวิจัยหนุ่มเลยต้องกระเตงตัวเลขไปฝากท้องที่ร้านป้าอ้วน ซึ่งอยู่นอกเขตทหาร “อ้าว ข้อสอบ หายไปไหนตั้งนาน นึกว่าจะลืมร้านป้าไปเสียแล้ว” แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งที่กำลังควงตะหลิวโชว์ลีลาการผัดคะน้าน้ำมันหอยอยู่ ร้องทักดังลั่น “แล้วนี่เด็กที่ไหน น้องสาวเหรอ น่ารักน่าชังน่าเอ็นดูจริงเชียว” “ครับ” ตอบรับอย่างขี้เกียจอธิบาย ก่อนจะหันไปบอกเด็กที่แต่งตัวสีขาวดำเหมือนเดิมซึ่งยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง “อยากกินอ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   16 เสพติดความเย็น

    16เสพติดความเย็น ท่ามกลางแสงสลัวของสุสานร้างกลางป่า ที่มีลมโชยและเสียงอีการ้องคลอเป็นระยะๆ มีร่างเปลือยเปล่าสองร่างเกาะเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนบนโลงศพ ความรู้สึกคับแน่นของการถูกสองนิ้วใหญ่ชำแรกเข้ามาในช่องทางเบื้องหลัง ดึงข้อสอบลงมาจากห้วงความฝันที่ล่องลอยอยู่จากการเล้าโลมอันช่ำชองของคนแก่กว่า อัลฟ่าหนุ่มค่อยๆ ขยับมือที่ชโลมไว้ด้วยเจลหล่อลื่นเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อมของคนที่ยังไม่เคยมาก่อน ปากทางสีชมพูสวยที่บานเข้าออกตามการขยับนิ้วของเขา มันช่างดึงดูดซะจนอยากจะจับแก่นกายยัดลงไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่หน้าตาเหยเกของร่างข้างใต้ ทำให้ผู้พันหนุ่มได้แต่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เขาพรมจูบตามเปลือกตา ขมับ ข้างแก้ม จูบริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดซับความอึดอัดของอีกฝ่ายมาไว้กับตัว จากสองนิ้วก็เพิ่มเป็นสาม มืออีกข้างจับเข้าที่แก่นกายขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เท่าของเขา เพื่อช่วยเพิ่มความหฤหรรษ์ให้คนที่กำลังจะต้องทนรับความเป็นจริงในอีกไม่กี่อึดใจ เมื่อนิ้วมือแกร่งหลุดออกมา ปลายลำของเขาก็ถูไถเบาๆ บนปากทางรักสีหวาน คนที่ถูกเล้าโลมจนเสียวซ่านอยากจะ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   15 แก้ทาง

    15แก้ทาง คราวนี้ข้อสอบมั่นใจในมนต์สะกดที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีของตัวเองมาก ดวงตาอันแดงก่ำในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการทนกลิ่นเลือดไม่ไหว แต่เป็นการที่เขาฝึกฝนตัวเองจนสามารถควบคุมการสะกดจิตได้ สีหน้าและท่าทางของผู้พันตัวโตพลันเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เหมือนกับครั้งแรกๆ ที่เขาสะกดอีกฝ่ายซะจนอยู่หมัด ฝ่ามือซีดขยับโบกไปมาหน้าดวงตาคมเข้ม ก่อนจะจับมือซ้ายที่สวมถุงมือสีขาวอยู่ยกขึ้นลงเหมือนเล่นกับตุ๊กตา ไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อต้านของร่างใหญ่ให้เห็น “หึ อัลฟ่าหรือจะสู้แวมไพร์” คนที่ใจพองโตกับความรู้สึกของการกลับมาเป็นผู้ล่าอีกครั้ง ใช้มือทั้งสองกดบ่ากว้างของคนที่นั่งอยู่ไว้แน่น เขี้ยวเล็กสองซี่ที่โผล่ขึ้นมาฝังลงไปบนลำคอแกร่งที่ยังคงเผยให้เห็นเส้นเลือดสวยไม่ต่างจากเดิม ของเหลวสีแดงที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานแพร่กระจายความอุ่นวาบลงสู่หลอดอาหาร ระเบิดรสชาติกลมกล่อมซาบซ่านในปากจนถึงคอ กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งร่างให้เปิดออก หลังจากดื่มไปในปริมาณที่เพียงพอแล้ว ข้อสอบก็หยุดยั้งตัวเองได้อย่างเฉียบขาดอย่างแวมไพร์มืออาชีพ ไอ้อยากน่ะก็อยากอยู่หรอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status