Share

6 หาเหยื่อใหม่

last update Dernière mise à jour: 2024-12-20 15:28:27

6

หาเหยื่อใหม่

         ทำไมวันนี้มีแต่คนมองเขาเยอะแปลกๆ

         หรือเพราะเลือดคุณภาพดีเมื่อคืน ทำให้เขาดูแข็งแรงขึ้น ดูหล่อขึ้น?

         ตั้งแต่ข้อสอบเดินเข้ามาในอาคารทำงาน ไล่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งลงไปยันชั้นลบหนึ่งแล้ว ที่ใครต่อใครต่างก็มองมาทางเขา ไม่รู้ว่ามองด้วยเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่การมองเหยียดหรือมองในแง่ร้ายแน่ๆ

         “นายไม่ได้สายตาสั้นหรอกเหรอ”

         คำทักทายจากเพื่อนร่วมห้องทำงานเดียวกันวันนี้แปลกไปกว่าทุกที ทำให้ชายหนุ่มรู้สาเหตุทันที

         เอ้า! เขาลืมใส่แว่นเสียสนิท

         แต่ถึงไม่ได้ใส่แว่น ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้กลับงดงามสดใสชัดเจนไปซะหมด มิน่าตอนเช้าตอนเขาตื่นขึ้นมาในโลงศพถึงได้ลืมควานหาแว่นมาใส่ตามความเคยชิน

         ก็ทุกสิ่งทุกอย่างมันชัดเจนซะขนาดนี้ เขาก็นึกว่าตัวเองใส่แว่นอยู่น่ะสิ

         “ขี้เกียจใส่แว่นน่ะ” ตอบกลับไปแบบกลางๆ ให้อีกฝ่ายไปเดาเอาเองว่าเขาใส่คอนแทคเลนส์อยู่หรือเป็นคนสายตาปกติที่ใส่แว่นเล่นๆ กันแน่

         ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาทำแว่นหล่นทิ้งไว้ไหน เพราะหลังจากดื่มเลือดเสร็จ เขาก็แวะไปที่อาคารศูนย์วิจัยต่อ กว่าจะได้กลับบ้านมานอนก็ตีสองแล้ว

         ส่วนผลการวิเคราะห์เลือดเมื่อหลายวันก่อนน่ะเหรอ ก็...อืม เอาเป็นว่ายังสรุปอะไรไม่ได้ก็แล้วกัน ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อน

         “คุณข้อสอบ ท่านผู้พันเรียกพบครับ”

         ยังไม่ทันที่เขาจะตอบอะไรออกไป เลขาโอเมก้าขี้สงสัยก็โผล่เข้ามาเสียก่อน

         ทำไมเขาถึงหาว่าอีกฝ่ายขี้สงสัยน่ะเหรอ?

         เจอหน้ากันทีไร ก็ถามเอาๆ จนคนที่ไม่ค่อยอยากพูดกับคนอื่นแบบเขาโดนซักจนจะสะอาดหมดแล้ว

         ทีอยู่กับเจ้านายไม่เห็นจะพูดอะไร ทีอยู่กับเขานี่ทั้งคุยทั้งถามไม่หยุดจนปวดหูไปหมด

         “วันนี้คุณข้อสอบไม่ใส่แว่นแล้วหน้าตาดูเปลี่ยนไปเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ” นาทีชวนคุยขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด

         “...”

         “อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมว่าแบบนี้ก็ดี ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ”

         คนที่จู่ๆ ก็โดนชมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยไม่ได้เขินแต่อย่างใด กลับงงคนที่ก่อนหน้านี้ดูไม่ค่อยจะชอบหน้าเขาเสียมากกว่า

         ถามแบบจับผิดมาตั้งนาน วันนี้ดันมาแปลก กินอะไรผิดสำแดงมาหรือไง

         “ถึงกับอึ้งไปเลย นี่ผมชมจริงๆ นะ”

         “ขอบคุณครับ”

         หรือว่าเขากำลังโดนโอเมก้าจีบ?

         ถึงแม้สมัยก่อนจะโดนลูกค้าที่ร้านสะดวกซื้อแซวเล่นอยู่บ่อยๆ แต่ยังไม่เคยเจอใครมาจีบแบบจริงๆ จังๆ สักที

         ข้อสอบเลิกสนใจคนที่ชวนคุยอะไรแปลกๆ เพราะสงสัยเรื่องสายตาของตัวเองมากกว่า

         เป็นไปได้ไหมว่าพอเขาได้ดื่มเลือดคนครบสามครั้ง ค่าสายตาจึงกลับมาเป็นศูนย์

         “เชิญครับ” นาทีผายมือไปทางประตูห้องทำงานที่ถูกเปิดออกกว้าง เมื่อพวกเขาเดินขึ้นมาถึงชั้นบนสุด หน้าของทำงานของผู้พัน

         “อ้าว คุณไม่เข้าไปด้วยเหรอ”

         คราวนี้คนพูดเยอะเพียงแค่ยิ้มให้อย่างสุภาพ ก่อนจะปิดประตูลงต่อหน้าต่อตา ทิ้งนักวิจัยหนุ่มให้อยู่เพียงลำพังกับเจ้านายของตน

         ห้องทำงานยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มีเพียงกล้องวงจรปิดที่เพิ่มมากขึ้น

         อืม... แล้วคนที่เพิ่งถูกเขาดูดเลือดไปเมื่อคืนก็ดูตัวซีดลงนิดหน่อย

         คงไม่ตายง่ายๆ หรอกมั้ง

         “สวัสดีครับ”

         ข้อสอบยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าตามมารยาท ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับและผายมือให้เขานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของตน

         “แว่นตาของเธอใช่มั้ย” เจ้าของห้องพยักพเยิดไปยังแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมทรงแฟชั่นที่วางอยู่บนแท็ปเล็ต

         “ไม่ใช่ครับ”

         ฉิบหายแล้วไง นึกว่าลืมแว่นตาไว้ที่บ้านตัวเอง ที่ไหนได้กลับลืมไว้ที่บ้านของท่านผู้พัน!

         ต้องเป็นตอนที่เขาพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายแน่ๆ

         นึกย้อนไปแล้วก็ยังหงุดหงิดไม่หาย เมื่อคืนเขาลบความจำเหยื่อเสร็จ กำลังจะจากไปดีๆ อยู่แล้วเชียว กลับถูกอีกฝ่ายกระชากข้อมืออย่างแรงจนเผลอล้มไปนอนพังพาบเกยตักหนา แถมยังโดนตีก้นเสียแรงอีก

         มันน่าเจ็บใจตรงนี้แหละ ตีก้นเชียวนะ! ครูเขายังไม่เคยตีเขาแบบนี้เลย

         “แล้วทำไมวันนี้ไม่ใส่แว่น”

         ชายหนุ่มที่โดนซักไซ้ขยับตัวอย่างอึดอัดกับบรรยากาศที่เริ่มกดดันแปลกๆ

         เหมือนนักโทษกำลังโดนสอบปากคำเลย

         “ผมไม่ได้สายตาสั้น แว่นที่ผมใส่ก็เป็นแว่นแฟชั่นเฉยๆ”

         โชคดีที่ประสบการณ์ทำงานพาร์ทไทม์อันล้นหลาม ทำให้เขาโกหกได้อย่างลื่นไหล แต่ก็แอบเหงื่อตกอยู่เหมือนกัน ถึงแม้คนปกติจะไม่รับรู้ถึงฟีโรโมนของอัลฟ่า แต่ความกดดันของคนที่คุมลูกน้องมาเป็นร้อยเป็นพันนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

         เหงื่อแทบแตก ตัวเกือบสั่น

         “อ้อ... ฉันคงเข้าใจผิดไปเอง”

         ถึงจะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงฟังดูไม่เชื่อเลยสักนิด นิ้วชี้กับนิ้วโป้งที่ดูใหญ่ยาวกว่านิ้วมือของนักวิจัยหนุ่มค่อนข้างมากหนีบแว่นตาที่วางอยู่ขึ้นมามองเพียงเล็กน้อย

         ฟึ่บ

         ก่อนจะโยนผ่านหน้าของข้อสอบ พุ่งลงไปยังถังขยะขนาดเล็กที่อยู่ข้างประตูอย่างแม่นยำ

         เฮ้ย! แว่นตานั่นเขาตัดมาตั้งแพงนะ เกือบเท่าหนึ่งในสามของเงินเดือนเลย

         “เอาล่ะ งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว เธอกลับไปได้”

         “อ้าว” คนที่กำหมัดแน่นถึงกับร้องอุทาน ไหนว่าจะเรียกมาคุยเรื่องงานไง

         ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจความในใจของเขา เพราะพูดต่อว่า

         “เดี๋ยวอีกสองวันจะมีประชุมความคืบหน้าตามที่แจ้งไว้ ส่วนเรื่องงาน ถ้ามีอะไรก็ติดต่อทางอีเมลหรือโทรมาได้ตลอด หรือจะขึ้นมาหาฉันบ่อยๆ ก็ได้”

         ท้ายประโยคทอดเสียง แถมสายตายังดูลุ่มลึกแปลกๆ หากแต่คนฟังกลับไม่รับรู้แต่ประการใด

         หึ เกรงว่าถ้าผมขึ้นมาหาคุณบ่อยๆ เลือดคุณจะหมดตัวซะก่อนน่ะสิ ท่านผู้พัน

         “ครับ”

         ข้อสอบเพียงตอบรับสั้นๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแบบคนปกติ ไม่ได้เป็นค้างคาวหนีออกทางหน้าต่างแบบครั้งก่อน

         โดยไม่ลืมเมียงมองไปยังถังขยะเป็นครั้งสุดท้ายอย่างเสียดาย

         ปึง!

         ไม่ได้การล่ะ

         ข้อสอบตบโต๊ะที่ร้านอาหารตามสั่งเสียงดังเมื่อความคิดตกผลึก

         “ว้าย หี้แหก”

         ป้าอ้วนสะดุ้งตัวโยน ตะหลิวกระเด็นตกพื้น มือยกขึ้นมาลูบหน้าอกปลอบขวัญตัวเอง

         “ขอโทษครับป้า” คนที่แวะมาเอาของที่บ้านเก่า และมาสั่งอาหารของป้าอ้วนไปแจกน้องหมา รีบเอ่ยออกมา ไม่นึกว่าการกระทำของเขาจะทำให้อีกฝ่ายตกใจได้ขนาดนี้

         “มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จานะ อย่าเพิ่งทำลายข้าวของ” ลุงใหญ่ที่กำลังล้างจานอยู่ถึงกับโผล่หน้าออกมาพูดด้วย

         “ครับๆๆ”

         ได้แต่พยักหน้ารัวๆ เป็นไก่จิก ไม่กล้าขยับตัวหยิบจับอะไรอีก โชคดีที่เขาไม่เผลอใช้พละกำลังของแวมไพร์จนทำโต๊ะหัก

         เมื่อกี้เขากำลังคิดเรื่องของผู้พันอาชวินอยู่ และเขาก็คิดได้ว่าท่านผู้พันจะต้องระแคะระคายอะไรแน่ๆ ถึงได้ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม แถมยังเรียกเขาไปถามเรื่องแว่นโดยที่ไม่มีเรื่องสำคัญเรื่องอื่นอีก

         ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้ ทำไมเขาถึงโง่อย่างงี้นะ

         สงสัยเขาต้องหักห้ามใจจากเลือดอันแสนพิเศษ ไปหาถุงเลือดเดินได้คนอื่นแทน

         ได้พักในเขตบ้านพักทหารก็ดีเหมือนกัน ตัวเลือกเยอะแยะ มันต้องมีเลือดที่อร่อยเหมือนที่เขาเคยกินบ้างแหละน่า

         โดยไม่รอช้า หลังจากทำธุระที่บ้านเก่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในยามค่ำคืน เขาก็เดินออกจากบ้านในเขตทหารของตนไปตามถนนที่มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟทันใด

         เพียงเดินออกจากซอยได้ไม่นาน ก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ตีกันไปหมด แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน เขาก็ยังไม่เจอกลิ่นเลือดที่หอมเย้ายวนชวนดื่มเหมือนเลือดของอัลฟ่าคนนั้น

         สุดท้ายข้อสอบก็เลยสุ่มๆ เลือกบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดเหมือนบ้านของเขา ไม่ใช่บ้านสองชั้นและมีพื้นที่สำหรับสวนรอบบ้านแบบบ้านของผู้พัน

         อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่าเหยื่อในคราวนี้จะเป็นเพียงทหารธรรมดาๆ ไม่นำปัญหามาให้กับเขา

         กลิ่นเลือดจากบ้านหลังนี้มีเพียงกลิ่นเดียว ทำให้แวมไพร์หนุ่มรู้ว่าไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่ในบ้านด้วย

         แต่ขณะที่กำลังจะเปิดประตูบ้านเข้าไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังซึ่งอยู่ติดกัน ก็ดึงดูดความสนใจไปได้อย่างชะงัก

         เหล่าผู้ชายร่างใหญ่โตหลายคนกำลังวิ่งเข้าไปยังบ้านหลังนั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ชายคนอื่นกำลังทยอยตามมาช้าๆ

         ชายร่างผอมในฮู้ดดี้สีแดง (แต่คนละตัวกับครั้งก่อน) ทนความอยากรู้อยากเห็นของตนไม่ไหว ตัดสินใจเดินไปยังบ้านข้างๆ แทน

         น่าแปลกที่ถึงแม้เขาจะเดินไปแบบโต้งๆ ไม่ได้พรางตัวใดๆ ก็ไม่มีใครให้ความสนใจกับเขาเลยสักนิด

         ทุกคนต่างมุ่งเข้าไปในบ้านที่ประตูถูกเปิดโล่งไว้ พุ่งไปยังคนที่มีกลิ่นเลือดเหมือนกลิ่นน้ำหอมที่ค่อนข้างจะฉุนเกินไปหน่อย ไม่ตรงกับรสนิยมของข้อสอบ

         ถ้าเดาไม่ผิด การที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้มีอยู่กรณีเดียวเท่านั้นคือมีโอเมก้ากำลังฮีตและส่งกลิ่นฟีโรโมนฟุ้งกระจายไปทั่ว

         ไม่น่าเชื่อว่าในค่ายทหารที่ควรจะมีการป้องกันไม่ให้โอเมก้าฮีตอย่างเคร่งครัด จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้

         แวมไพร์หนุ่มเดินไปหยุดอยู่ข้างนอกหน้าต่างห้องห้องหนึ่งที่มีเสียงดังลอดออกมาชัดเจน

         “อ๊า แรงอีก แรงกว่านี้”

         เสียงครางกระเส่าดังมาจากร่างชายหนุ่มที่เกือบจะเปลือยเปล่า ผู้กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงควีนไซต์ เสื้อผ้าบนร่างถูกดึงทึ้งฉีกกระจายจากแรงของตนและชายหนุ่มร่างใหญ่โตอีกคน

         ปั่บๆๆ

         เสียงกระทบของเนื้อสดดังลั่นห้องไปหมด

         ถึงแม้จะไม่ได้กลิ่นฟีโรโมน แต่กลิ่นคาวโลกีย์ของน้ำกามก็ฟุ้งกระจายเต็มห้องจนคนที่แอบมองอยู่เกือบสำลัก มันปนกับกลิ่นเลือดฉุนๆ จนทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียน

         “อมของกูนี่”

         “อ๊อก”

         ไม่เพียงเท่านั้น ร่างของชายหนุ่มที่เข้ามาในห้องอีกคนก็รูดซิปกางเกงและจับแก่นกายอันใหญ่โตยัดเข้าไปในปากเล็กจนมิดด้าม เล่นเอาเจ้าของปากจุกไปหมด

         “ร่านนักนะมึง” ชายคนแรกกระแทกแรงขึ้นเมื่อเห็นคนที่กำลังฮีตเต็มใจอมให้กับชายอีกคนอย่างช่ำชอง จนเตียงสั่นสะเทือนไปหมด

         หนังโป๊ก็เคยดูมาบ้าง แต่ไม่นึกว่าจะได้ดูหนังสดแบบนี้

         คนถ้ำมองกำขอบหน้าต่างแน่นจนเห็นเส้นเลือดบนมือชัดเจน

         “ดี... ลึกมาก ตอดอีก ซี้ดดด ฉันชอบ”

         แต่ขณะที่กำลังลุ้นอยู่กับฉากเข้าด้ายเข้าเข็ม โลกของข้อสอบพลันมืดสนิทด้วยมือใหญ่ของใครบางคน

         พลั่ก!

         แขนของผู้บุกรุกถูกจับ ร่างทั้งร่างถูกเหวี่ยงผ่านอากาศจนกระแทกพื้นอย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยความแข็งแกร่งของแวมไพร์

         “อะ อ้าว”

         พอมองร่างที่กำลังนั่งลูบเอวตัวเองอยู่บนพื้น ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ เพราะคนที่เขาเพิ่งประทุษร้ายไปเมื่อครู่คือเจ้านายของเขาเอง

         “เป็นอะไรมั้ยครับ ท่านผู้พัน”

         หวังว่าเลือดในตัวจะยังปกติดีนะ...

         หากคนที่ได้รับความเป็นห่วงเป็นใยรู้ความในใจที่แท้จริง คงจะเจ็บปวดน่าดู

         อาชวินในชุดเสื้อยืดกางเกงบอลอยู่บ้านสบายๆ ขับเน้นให้เห็นกล้ามเนื้อทั้งท่อนแขนและท่อนขา ยอมรับความช่วยเหลือจากมือเล็กที่ยื่นมาช่วยพยุง

         “ผมเผลอไปหน่อยน่ะครับ นึกว่าเป็นพวกคนไม่ดี แหะๆ”

         สงสัยผู้พันจะยังงงแน่ๆ ว่าทำไมเบต้ารูปร่างธรรมดาๆ ถึงมีแรงจนจับอัลฟ่าทุ่มได้ เลยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

         ข้อสอบหันกลับไปสนใจที่เหตุการณ์ข้างในบ้านต่อ

         ดูเหมือนว่าชายคนแรกจะยังไม่ได้เสร็จสมดังใจหมาย เพราะถูกขัดจังหวะจากอัลฟ่าคนอื่นๆ ที่ได้กลิ่นฮีตและเริ่มทยอยเข้ามาในห้อง แต่ละคนล้วนขาดสติยั้งคิด ต่างอยากจะเข้าไปมีอะไรกับโอเมก้าหนุ่มจนเริ่มเกิดการต่อสู้กันขึ้น

         ทุกอย่างมันวุ่นวายจนสายตาของคนถ้ำมองยังโฟกัสไม่ถูก รู้ตัวอีกทีโอเมก้าหนุ่มที่กำลังขาดของแบบสุดๆ ก็เป็นฝ่ายจับไอ้นั่นยัดเข้าไปช่องสวาทของตนถึงสองแท่ง

         เขมือบทีเดียวสองอันเลยเนี่ยนะ!

         เร่าร้อนมากคุณน้าาา

         ได้เห็นฉากแบบนี้เต็มสองตา แวมไพร์หนุ่มถึงกับช็อก ขาแข็งก้าวไม่ออก

         อาชวินที่เห็นร่างเล็กกว่ายืนเป็นบื้อใบ้ไปแล้ว เลยจัดการอุ้มคนตัวแข็งขึ้นพาดบ่า พาเดินหนีออกไปจากหนังสดนี้

         กว่าข้อสอบจะได้สติกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็อยู่ห่างจากบ้านหลังนั้นมาไกลแล้ว

         “ปล่อยผมลงเถอะครับ”

         เพียงแค่เอ่ยบอก อัลฟ่าตัวโตก็ปล่อยเขาลงอย่างง่ายดาย

         “ได้สติก็ดีแล้ว”

         “ทำไมคุณถึงไม่รัตเหมือนอัลฟ่าคนอื่นล่ะครับ”

         ร่างทั้งสองเดินเคียงข้างกันริมถนนในยามค่ำคืน ถึงแม้จะอยู่ใกล้กันค่อนข้างนานกว่าปกติ แต่ข้อสอบก็สามารถทนความเย้ายวนของกลิ่นเลือดได้ เนื่องจากเขาเพิ่งดูดเลือดอีกฝ่ายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

         “เป็นพรสวรรค์ที่สืบทอดต่อกันมาในตระกูลน่ะ”

         เท่าที่ข้อสอบทราบ ตระกูลธาดาศิริกุลของผู้พันอาชวิน เป็นตระกูลที่มีประวัติมายาวนานตั้งแต่สมัยประเทศทีแอลเพิ่งเริ่มมีการบันทึกประวัติศาสตร์ของตน แต่เดิมชื่อว่าตระกูลทาดา มีบทบาทสำคัญทางด้านขุนนางและการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งของสายเลือด ที่มักจะให้กำเนิดอัลฟ่าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ทุกคนล้วนเกิดมาเป็นอัลฟ่า

         ปัจจุบันตระกูลนี้มีบทบาทค่อนข้างเยอะทางด้านบัญชาการรบ และมีธุรกิจผลิตอาวุธสำหรับการสู้รบกับดาวอื่น เป็นคู่ค้าสำคัญกับรัฐบาลทีเอลและรัฐบาลหลายๆ ประเทศ

         ความที่มีลูกหลานในตระกูลทำงานอยู่ฝ่ายยุทธศาสตร์การรบ ไม่ได้ทำให้งานวิจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตทหารรั่วไหลออกไปสู่ธุรกิจตระกูลแต่อย่างใด เพราะอาวุธของภาคเอกชนและรัฐบาลต่างใช้เทคโนโลยีของใครของมัน

         มีบ้างที่ถูกสงสัยและใส่ร้ายป้ายสีจากเหล่านักข่าว แต่ตระกูลธาดาศิริกุลก็กำราบทุกอย่างไว้ได้เสมอ

         “อย่างงี้นี่เอง” พยักหน้าหงึกๆ จนผมสีน้ำตาลเข้มพลิ้วไหว เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ส่องประกายสีทองสวยท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน “เอ๊ะ แต่ความลับแบบนี้คุณเอามาบอกผมได้เหรอ”

         รอยยิ้มผุดขึ้นน้อยๆ บนใบหน้าที่มักจะเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา

         “เธอเชื่อด้วยเหรอ”

         “อ้าว”

         “มีที่ไหนเล่าเรื่องพรรค์นั้น ฉันก็แค่ฝึกฝนตัวเองมาตั้งแต่เด็กก็เท่านั้นเอง”

         “โธ่ หลอกกันได้ลงคอ”

         ฮึ่ย เกลียดจริง ไอ้พวกคนที่หลอกคนอื่นได้หน้าตายเนี่ย ต่อไปนี้เขาจะไว้ใจใครได้บ้าง

         หมดอารมณ์จะคุยต่อ เด็กน้อยในคราบนักวิจัยหนุ่มเลยเดินหนีออกมาอย่างเซ็งๆ

         “จะไปไหน”

         “ไปหาของกินครับ”

         ตอบโดยไม่ทันได้คิดเพราะเจ็บใจที่ตัวเองไม่ทันคนสักที โดยไม่รู้เลยว่าคนที่ได้ยินถึงกับขบกรามแน่นให้กับคำพูดนั้น

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   7 กรีดเลือดเสนอตัว

    7กรีดเลือดเสนอตัว “นี่ครับ อาหารที่พี่สั่ง” พนักงานร้านข้าวต้มโต้รุ่งหยิบจานอาหารจำนวนมากบนถาด วางลงบนโต๊ะที่มีผู้ชายนั่งกันอยู่สองคน “ขอสั่งยำสามกรอบ กับไชโป๊ผัดไข่เพิ่มด้วยนะ” “คุณจะกินเพิ่มอีกเหรอครับ” เพื่อนร่วมโต๊ะถึงกับหันขวับไปถามคนที่สั่งอาหารเพิ่ม ทั้งที่บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยยำไข่เค็ม ผัดผักบุ้ง ผัดหอยลาย หมูมะนาว ใบเหลียงผัดไข่ ยำกุนเชียง และปลาราดพริกแล้ว “ฉันสั่งมาให้เธอ” “แต่ผมไม่หิว” “ไหนบอกมาหาของกินไง” ของกินที่เขาหมายถึงน่ะ คือเลือดต่างหากเล่า “...” ข้อสอบบุ้ยปากอย่างเซ็งๆ โดนหลอกยังไม่พอ ต้องโดนพามาเจอกับอาหารที่เขาไม่ได้กลิ่น แถมยังกินไม่ได้อีก นี่มันจะบังคับกันเกินไปแล้ว! “อะ กินเยอะๆ” นอกจากจะไม่เข้าใจลูกน้องของตนแล้ว ยังตักกับข้าวใส่ถ้วยข้าวต้มกุ๊ยเล็กๆ จนล้นทะลักอีก “คุณมีความคิดเห็นยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้บ้างครับ” นักวิจัยหนุ่มเขี่ยข้าวต้มไปมา “ไม่น่าจะเป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” ปึก! “ใช่มะ ผมก็คิดแบบ

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   8 รสนิยมประหลาด

    8รสนิยมประหลาด อาชวินมองสัตว์ตัวจ้อยที่กำลังหาทางบินหนีออกจากห้องทำงานด้วยสีหน้าสงบ แต่ข้างในจิตใจนั้นเหลวเป๋วสิ้นดี ใจอ่อนยวบยาบไปหมดเมื่อได้เห็นสัตว์ขนปุกปุย แถมยังตัวเล็กจิ๋วแบบที่ตนชอบนักชอบหนา ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่าเขามีรสนิยมชอบสัตว์ตัวเล็ก และไม่คิดที่จะเลี้ยงแมวป่า เสือ หรือสิงโตเหมือนญาติคนอื่นๆ แต่ต่อให้เขาจะคลั่งไคล้และแอบเล่นกับลูกแมว นก หนูแฮมสเตอร์มามากแค่ไหน เจ้าค้างคาวตรงหน้ากลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในใจ มาแรงแซงทางโค้งบดเบียดสัตว์อื่นหล่นตุ้บไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องอาศัยพละกำลังอันมากล้นของอัลฟ่าเพื่อพยายามกดพลังของผีดูดเลือดอีกต่อไป เพราะเขาสามารถใช้เพียงอุ้งมือเดียวรวบสองเท้าของค้างคาว จับห้อยหัว หิ้วไปมาได้อย่างสะดวกสบาย “เป็นค้างคาวไปตลอดเลยก็ดีนะ” “จี๊ดๆๆๆ” เสียงประท้วงของค้างคาวดังขึ้น “โอ้ ยังฟังรู้เรื่องอยู่สินะ” เพียงขยับตัวนิดเดียว กรงนกขนาดใหญ่อันว่างเปล่าที่ถูกตั้งอยู่ในห้องมาเนิ่นนานก็ถูกเติมเต็มไปด้วยร่างของค้างคาวที่พยายามจะพุ่งหนี แต่ก็ไม่ทันประตูกรงที่ถู

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   9 กลับสู่จุดเริ่มต้น

    9กลับสู่จุดเริ่มต้น “ถ้าช่วย แล้วผมจะได้อะไร” “...” “เลือด ผมจะไปหากินที่ไหนก็ได้ เงิน ผมก็มีพอใช้อยู่แล้ว” “เธอคิดว่าเธออยู่ในจุดที่ต่อรองได้อย่างงั้นเหรอ?” คนที่หลงลืมไปว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกรู้ความลับเข้า เริ่มวิตกกังวล “นี่คุณคิดจะแบล็กเมล์ผมหรือไง” อาชวินไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นเดินโทงๆ ไปหยิบเสื้อผ้าขนาดเล็กที่สุดในตู้มาโยนลงตรงหน้าคนที่ผิวกายทำให้เขารู้สึกไม่มีสมาธิจะคุยด้วยเท่าไหร่ จากนั้นก็เดินไปหยิบกุญแจมาปลดโซ่ที่ล็อกข้อเท้าอีกฝ่ายออก คนที่จู่ๆ ถูกปล่อยตัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมปกปิดเรือนร่างของตนอย่างรวดเร็ว “เอาเถอะ ฉันอยากบังคับคนที่ไม่ยินยอมหรอกนะ” คนฟังแอบรู้สึกเฟลอยู่หน่อยๆ โธ่เอ๊ย ไม่น่าอวดเก่งเลยเรา ดันถามถึงของแลกเปลี่ยน แล้วสุดท้ายเขาก็ไม่สนใจ ไม่เอาด้วยสักอย่าง รู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่เอ่ยปากจะทำให้ แล้วอีกฝ่ายดันไม่เอา ข้อสอบไม่อยากจะยอมรับเลยว่า ถึงแม้เขาจะมีตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมาย แต่การได้ดูดเลือดผู้พันเสียหลายครั้ง มันทำให้เขาติดใจและ

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   10 ตับๆ ตับๆ

    10ตับๆ ตับๆ บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างเคร่งเครียด “เขาจะปักหลักอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอ” “มีแววว่าจะใช่ว่ะ” เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นเบาๆ จากเหล่าทหารในชั้นลบหนึ่ง ถึงแม้จะย้ายมาทำงานอีกที่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยคือเสียงพูดคุยถึงเรื่องคนอื่นอย่างคนคันปาก ไม่เว้นแม้กระทั่งจากปากของทหารหาญตัวใหญ่ยักษ์ ผ่านเหตุการณ์อันน่าอัปยศอดสูของการเผยร่างค้างคาวหกเต้าและเรือนร่างเปลือยเปล่าให้พันตรีอาชวินได้เห็นมาก็หลายวันแล้ว แต่ไม่มีวันไหนที่เจ้านายจะกลับไปทำงานยังห้องทำงานชั้นบนสุดของตน วันๆ เอาแต่นั่งในห้องทำงานที่ชั้นลบหนึ่ง จนข้อสอบรู้สึกเหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรมาตามเฝ้า “อะแฮ่มๆ ฉันมีเรื่องจะแจ้ง” และแน่นอนว่านาที เลขาหน้าห้องก็ต้องคอยเดินไปเดินกลับระหว่างชั้นล่างสุดและบนสุดอยู่บ่อยๆ เพราะความเอาแต่ใจของเจ้านายตน โอเมก้าหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้กล่าวประกาศ “วันนี้ท่านผู้พันจะพาทุกคนไปเลี้ยงอาหารเย็น ใครมีธุระอะไรให้ยกเลิกซะ” “โอ้โห ลาภปาก” “เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรเหรอ”

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   11 หนูน้อยข้อสอบ

    11หนูน้อยข้อสอบ “มาติดต่ออะไรเหรอคะ ต้องการพบผู้อำนวยการหรือเปล่า” มะเหมี่ยวเอ่ยกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีเขียวมะกอกและกางเกงแบบทหาร เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน เพราะบุคลิกภาพที่ดูทรงอำนาจซึ่งแผ่ออกมา บ่งบอกถึงความสูงศักดิ์และความโดดเด่นที่แตกต่างไปจากคนอื่น คนที่โดดเด่นแบบนี้ ไม่มีทางที่เธอจะจำไม่ได้ “ผมอยากมาบริจาคน่ะครับ” “ถ้าอย่างนั้นเชิญที่ห้องผู้อำนวยการก่อนเลยค่ะ” หญิงวัยกลางคนเดินนำไปยังห้องสำนักงานขนาดเล็กที่อยู่ชั้นแรกของอาคาร “เสียดาย คุณมาช้าไปหน่อย เด็กๆ เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จ” “ครับ” อาชวินเพียงตอบรับสั้นๆ เหตุผลที่เขามาที่นี่ในวันนี้ก็เพราะเขานึกถึงประวัติของข้อสอบขึ้นมาได้ ตอนที่อ่านประวัติคร่าวๆ เป็นครั้งแรก ในนั้นระบุว่าลูกน้องตนเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติ และถูกเลี้ยงดูมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสองขวบดี เนื่องจากเขามาทำธุระแถวนี้ ก็เลยอยากแวะมาที่นี่ด้วย ธุระที่เขาทำก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มาก่อเหตุในเขตบ้านพักทหารคืนนั้น

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   12 ตัวขัดขวาง

    12ตัวขัดขวาง คนที่กำลังเดินออกจากที่ทำงานถึงกับชะงักเมื่อเห็นผู้ชายที่ยืนพิงรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่สีดำอยู่ ทรงผมและการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เขาเป็นจุดรวมความสนใจของคนที่ผ่านไปมา มองมาซะขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ได้ว่ามารอเขาโดยเฉพาะ “ไฮ” ชาแมนยกมือขาวๆ ขึ้นทักทาย “มาหาผมมีอะไรหรือเปล่า” “คุณสนิทกับทหารคนนั้นเหรอ” สัปเหร่อหนุ่มพยักพเยิดไปทางผู้พันอาชวินที่กำลังเดินลงมาจากอาคาร คนที่มีชนักติดหลังรีบหันหน้ากลับมาอย่างร้อนตัวทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคืนก่อนเขาก่อเรื่องอะไรไว้ โชคดีที่วันนี้อีกฝ่ายน่าจะมีประชุมทั้งวัน ทำให้ไม่ได้ลงมาสิงสถิตยังชั้นลบหนึ่งเหมือนวันอื่น แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะหนีรอดไปได้สักกี่น้ำ ทำงานก็ทำที่เดียวกัน บ้านก็ใกล้กันซะขนาดนี้ “เป็นเจ้านายกับลูกน้อง จะให้สนิทขนาดไหนล่ะ” ข้อสอบตอบ “แน่ใจเร้อออ” คำพูดล้อเลียนกับหน้าตาเหมือนคนไม่เชื่อ ทำให้นักวิจัยหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น หรือว่าเขาจะไปรู้อะไรบางอย่างมา? “ผมไปเอามอเตอร์ไซต์ก่อนดีกว่า จะไปคุยกันที่ไ

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   13 แวมไพร์สาวสวย

    13แวมไพร์สาวสวย ขวับ หันไปมองข้างหลังก่อนจะหันหน้ากลับ ขวับ หันไปอีกที แต่ไม่เจอแม้แต่สิ่งมีชีวิตใดๆ คราวนี้ข้อสอบเดินต่อไป ไม่คิดจะหันกลับไปมองอีกแต่อย่างใด เอาจริงเขาไม่ต้องหันกลับไปมอง ก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังแอบตามเขาอยู่ ก็ตอนนี้น่ะคือยามค่ำคืนที่เขาสามารถรับรู้กลิ่นเลือดจากสิ่งมีชีวิตได้ทุกสิ่งอย่างน่ะสิ แต่ที่เมื่อกี้หันหลังไปมองก็เพราะอยากจะแกล้งใครบางคนให้ใจหายใจคว่ำเล่นๆ เฉยๆ ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ เพื่อนร่วมงานจากแผนกเอชเอชซีถึงได้คอยแอบเดินตามเขาต้อยๆ ตั้งแต่เขาเดินออกจากบ้านมาเดินเล่น วันนี้หลังเลิกงาน ข้อสอบแวะซื้ออาหารร้านป้าอ้วนไปแจกจ่ายให้กับสัตว์จรจัด ก่อนจะกลับมาบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้า เล่นเกมไปสองตา และออกมาเดินเล่น กะจะเดินไปเรื่อยๆ จนถึงภูเขาที่ล้อมเขตทหารไว้ และหาที่ฝึกพละกำลังของตน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบตามเขามาตั้งแต่ตอนไหน แต่ทันทีที่พระอาทิตย์ตกดิน กลิ่นแบบเดียวกับที่เคยได้รับตอนเจอกันที่ห้องทดลองของศูนย์วิจัยเอ็กวายแซดก็โชยมา นักวิ

    Dernière mise à jour : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   14 เมียเก็บ...ไม่ เหยื่อเก็บ...ใช่

    14เมียเก็บ...ไม่ เหยื่อเก็บ...ใช่ ณ สนามฝึกลับเขตยูฟ่า เหล่าทหารหาญยศร้อยตรีขึ้นไปที่วันๆ มักจะใช้ชีวิตอยู่ในอาคารซะเป็นส่วนใหญ่ ล้วนปรากฏกายอยู่ในที่แห่งนี้ ในทุกปี ทหารที่ทำงานอยู่ในเขตต่างๆ จะต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปฝึกฝนร่างกายที่เขตข้างเคียงเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน และคราวนี้ก็ถึงเวลาของหน่วยรบที่สิบเอ็ด เขตเจ็ด ที่อาชวินเป็นผู้บัญชาการ ฝ่ายยุทธศาสตร์การรบที่อาชวินดูแลอยู่ จริงๆ แล้วหมายรวมถึงทุกหน่วยรบในเขตเจ็ด แต่หากนับอำนาจทางการทหารแล้ว อาชวินมีอำนาจในการดูแลเพียงหน่วยรบที่สิบเอ็ดที่มีทหารทั้งหมดหนึ่งร้อยคนเท่านั้น การต้องฝึกฝนร่างกายเป็นประจำทุกปีนับว่าเป็นไอเดียที่ดี ช่วยลดจำนวนทหารพุงพลุ้ยลงได้มาก แต่ข้อสอบไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงต้องมาด้วย นักวิจัยหนุ่มได้แต่ยืนถือกระเป๋าเสื้อผ้าเคว้งคว้างท่ามกลางดงชายล้วนที่กำลังเลือกเตียงนอนของตนเอง โรงนอนขนาดใหญ่ที่เขาจะต้องใช้เป็นที่ซุกหัวนอนต่อไปอีกเป็นเวลาหนึ่งเดือนนั้น เต็มไปด้วยเตียงสองชั้นและตู้เสื้อผ้าเหล็กที่ตั้งอยู่ข้างเตียงเป็นจำนวนมาก โชคดีที่ในยุคสมัย

    Dernière mise à jour : 2024-12-20

Latest chapter

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   บทส่งท้าย (ตอนจบ)

    บทส่งท้าย แม้จะเป็นแฟนกันแล้ว แต่คนบ้างานก็ยังคงบ้างานต่อไป ดีหน่อย ที่ถึงแม้จะมีไปประชุมต่างเขตจนต้องกลับบ้านดึกดื่นเป็นบางวัน แต่อาชวินก็ไม่เคยไปค้างที่อื่น และไม่หอบเอางานกลับมาทำที่บ้าน ข้อสอบที่นับวันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวเป็นแม่บ้านเข้าไปทุกที ได้แต่นั่งกอดตุ๊กตาน้องเต่า เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในเรดดิตและสอดส่องหาของแต่งบ้านต่อไป ถึงแม้จะทำงานกันคนละอาคาร แต่ยามเลิกงาน ข้อสอบกับอาชวินมักจะเจอกันอยู่เสมอ ไม่ที่บ้านของเขา ก็บ้านของอีกคน เดินไปมาหาสู่กันจนอาชวินขอให้เขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสองชั้นของตนแทน เลยได้ถือโอกาสย้ายของทุกอย่างออกมาจากอพาร์ตเม้นต์ที่อยู่นอกเขตทหาร จะได้ปล่อยเช่าซะ พอย้ายของมา ก็เลยได้ตกแต่งบ้านอย่างจริงจังเสียที บ้านที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นตอนนี้ เลยมีของตกแต่งเพิ่มขึ้นมา ทำให้ดูเป็นเหมือนบ้านมากขึ้น นอกจากนี้บ้านของอาชวินยังมีห้องนอนที่ชั้นหนึ่งเยื้องออกไปทางข้างหลัง สะดวกให้ตัวเลขอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก วันนี้อาชวินก็บินไปทำงานที่ต่างเขตแต่เช้ามืด และน่าจะกลับมาถึงเร็วๆ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   22 คำเตือนสุดท้าย

    22คำเตือนสุดท้าย บรรยากาศกำลังได้ที่ แต่ดันถูกตัวป่วนสองตัวมาขัดเสียยับ อาชวินมองชาแมนกับรุจีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านได้อย่างถูกจังหวะสุดๆ โดยที่ตนยังจับมือคนตัวเล็กกว่าไว้อยู่ “นายไม่ได้เตือนข้อสอบไว้เหรอ” แวมไพร์สาวสวยที่เดินนวยนาดมานั่งยังโซฟาตัวที่นักสืบเพิ่งลุกออกไปได้ไม่นาน หันไปถามแวมไพร์สัปเหร่อที่เลือกยืนพิงโต๊ะหน้าทีวี “เตือนแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ฟัง” ชาแมนตอบ ข้อสอบพยายามดึงมือออกจากอุ้งมืออุ่นสบาย เพราะถูกจับจ้องมาจากแวมไพร์ทั้งสองตนจนชักจะเขินอยู่หน่อยๆ “เตือนถูกจุดหรือเปล่า” “ก็เตือนเรื่องเหยื่อจะถูกดูดเลือดจนป่วยตาย” “นายคิดว่าคนอย่างผู้พันจะตายได้ง่ายๆ งั้นเหรอ” “เออ จริงด้วย” แวมไพร์รุ่นน้องได้แต่หันไปมองคนโน้นคนนี้ซุบซิบกันไปมาโดยไม่สนเลยว่าคนที่ถูกนินทาจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ “ข้อสอบ ฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อยสิ” รุจีว่า “ไม่เอาแบบคราวก่อนแล้วนะครับ” นักวิจัยหนุ่มหมายถึงตอนที่ถูกจับหิ้ววิ่งด้วยความเร็วสูงซะจนคลื่นไส้ “คุยที่นี่แหละ ข้อสอบไม่ม

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   21 ต้องการคนปกป้อง

    21ต้องการคนปกป้อง แม้เจ้าค้างคาวจะกระพือปีกขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาและขยับเบี่ยงตัวอย่างตกใจตามเสียงเรียกของอาชวิน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นกระสุนล็อกเป้า เทคโนโลยีพิเศษที่สามารถเปลี่ยนทิศทางตามเป้าหมายได้ถึงสองครั้งติด เป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพงมาก หาได้จากในฐานทัพเท่านั้น และถูกควบคุมไม่ให้มีขายในตลาดใต้ดิน “ข้อสอบ!” ผู้พันหนุ่มร้องอย่างตกใจ นาทีที่เห็นร่างจิ๋วถูกยิงจนตกลงมากับพื้น เป็นชั่วเสี้ยววินาทีที่เหมือนกับโลกทั้งโลกหยุดหมุน แต่สติและสัญชาตญาณที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้เขารีบเก็บค้างคาวน้อยที่นอนสลบไสลลงในกระเป๋าเป้ วิ่งหาที่ซ่อนจากกระสุนสุดแสนจะอันตรายนั่น ชายหนุ่มหาที่หลบได้ก็ลอบประเมินสถานการณ์ในใจ หากศัตรูมาคนเดียวก็คุ้มที่จะเสี่ยงจัดการซะให้เรียบร้อย ดีกว่าเขาเป็นฝ่ายถูกตามล่าฝ่ายเดียวจนไม่มีเวลาปฐมพยาบาลให้ข้อสอบ สายตาคมหยิบแว่นมองในที่มืดที่ถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายแว่นตาธรรมดาขึ้นสวม ลอบสังเกตดูการเคลื่อนไหวรอบกาย หากทว่ามีกลิ่นหอมหวานโชยออกมาจากในกระเป๋าสะพาย เหมือนกลิ่นโอเมก้ากำลังฮีต... กลิ่นเดียวกับที่เข

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   20 ผู้ช่วยเหลือ

    20ผู้ช่วยเหลือ หลังจากซักถามลักษณะภูมิประเทศที่เกิดเหตุและช่วงเวลาคร่าวๆ ที่ตัวเลขเห็นในนิมิต ข้อสอบก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุจะเกิดในคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้กันแน่ สิ่งที่เขาทำได้คือต้องออกไปหาผู้พันให้เจอโดยเร็วที่สุด “อ้าว คุณข้อสอบจะไปไหนน่ะ” นาทีถามคนที่เพิ่งเดินเข้ามายังไม่ทันจะข้ามพ้นวงกบประตู และรีบหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย เลยได้แต่ยืนเกาหัวอย่างงงๆ ตอนแรกนักวิจัยหนุ่มกะจะแวะมาเอากระเป๋าเป้เพื่อใส่อุปกรณ์ยังชีพต่างๆ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนแปลงร่างเป็นค้างคาวเพื่อบินตามหาน่าจะสะดวกกว่า เลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์เงียบๆ ไหว้วานให้ชาแมนมาเฝ้ายามผลัดที่สามช่วงใกล้รุ่งเช้าแทนเขา จากนั้นแวมไพร์หนุ่มก็อาศัยมุมมืดของป่า แปลงร่างเป็นแวมไพร์ตัวกระจ้อยที่ไม่รู้จะมีแรงบินได้ไกลแค่ไหน บินตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปสู่ภูมิประเทศแบบป่าชายเลน โชคดีที่ป่าชายเลนมีความยาวเพียงแค่ห้ากิโลเมตรและมีอยู่เพียงฝั่งเดียวของพื้นที่ที่ใช้ในการทำภารกิจ ทำให้ข้อสอบสามารถสโคปพื้นท

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   19 อีกขั้นของความสัมพันธ์

    19อีกขั้นของความสัมพันธ์ บรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ที่ก้าวเดินไปด้วยกันมีแต่ความเงียบสงบ หลังจากที่อาชวินโผล่มาช่วยพาข้อสอบออกจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดตอนนั้น พวกเขาก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันอีก สุดท้ายคนที่ทนความเงียบไม่ไหว ก็เป็นฝ่ายพูดออกไปก่อน “ผมไม่ขอบคุณคุณหรอกนะ” เพราะผู้พันทำให้เขาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ “ไม่ดีใจเหรอที่ได้รู้จักแวมไพร์ตนอื่นเพิ่ม” ข้อสอบหันขวับไปมองคนพูดหยอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แล้วคุณจะรู้สึกดีใจมั้ยล่ะครับถ้าเจอคนอุ้มแล้วพาวิ่งไปด้วยความเร็วสูงแบบนั้น” นักวิจัยหนุ่มแหวใส่ “เหวอออ” ก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างกายลอยขึ้นมาอยู่เหนือพื้น “อุ้มแบบนี้หรือเปล่า” น้ำเสียงเจือรอยขำ ทำให้คนที่กอดคออีกฝ่ายแน่นเพราะกลัวตก จัดการทุบไหล่กว้างของอัลฟ่าหนุ่มเข้าให้หนึ่งป้าบ “คุณนี่มัน...” กวนตีนกว่าที่คิด “อารมณ์ดีได้หรือยัง” ลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก้มเย็น ทำให้ข้อสอบที่เผลอสบตาผู้พันครู่หนึ่งต้องเบนหน้าหลบ ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงไปมากกว่านี้ “ไม่ใช่อุ้

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   18 มนุษย์ก็แค่ของเล่น

    18มนุษย์ก็แค่ของเล่น คนที่นอนมาตลอดทางค่อยๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาหลังจากรู้สึกได้ถึงรถตู้หรูเจ็ดที่นั่งที่จอดนิ่งสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป พอขยับตัวก็รู้สึกได้ถึงเสื้อโค้ทที่ไหลลงไปกองอยู่บนตัก หันไปทางขวาก็เห็นคนที่นั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดทางกำลังเก็บแท็ปเล็ตที่เพิ่งปิดลงใส่กระเป๋า ตั้งแต่ขึ้นรถที่มีเพียงเขา ผู้พัน และคนขับรถมา ผู้พันอาชวินก็ไม่ซักถามอะไรสักคำ เอาแต่บอกให้เขานอนพักผ่อนให้เต็มที่ คนที่เตรียมใจว่าจะโดนดุเลยได้แต่แกล้งหลับตาอย่างงงๆ จนสุดท้ายก็เผลอหลับไปเอง หลับยาวจนมาตื่นเอาตอนนี้ “ขอบคุณครับ” ข้อสอบยื่นเสื้อโค้ทคืนให้กับคนที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของ หัวใจอุ่นวาบนิดหน่อยกับความห่วงที่อีกฝ่ายแสดงออกมาทั้งตอนที่ฝากนาทีเอายามาให้ และตอนนี้ “วันนี้ก็พักผ่อนซะเยอะๆ ล่ะ พรุ่งนี้ไปฝึกแค่ช่วงเช้าชั่วโมงเดียวพอ” จริงๆ อาชวินไม่อยากให้ข้อสอบมาฝึกต่อเลยด้วยซ้ำ แต่การจะให้คนตัวเล็กอยู่ใกล้ๆ กับเขาได้ ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น “เดี๋ยวก่อน” ผู้พันหนุ่มจับข้อมือ รั้งร่างของคนที่กำลังจะเปิด

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   17 คนเนื้อหอม

    17คนเนื้อหอม หากเด็กตรงหน้าอายุมากกว่านี้ล่ะก็... คนอื่นคงนึกว่ามีสาวหนีตามเขามาแน่ “ทำไมหนูถึงมาที่นี่ล่ะ” หลังจากที่เรียกเด็กหญิงวัยเก้าขวบนามว่าตัวเลขเข้ามาในบ้าน เพื่อป้องกันการครหานินทาจากเหล่าเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว ข้อสอบก็เริ่มเปิดประเด็นทันที “หนูหิวค่ะ” พรืดดด แขนที่กำลังกอดอกอยู่อย่างคนจริงจังเลื่อนไถลไปบนโต๊ะหน้าโซฟาตามอาการเซของตน ทำไมเขาต้องเจอแต่คนที่ชอบไม่ตอบคำถามเขาก็ไม่รู้ เห็นกิริยาท่าทางของเด็กคนนี้แล้ว นึกถึงใครบางคนขึ้นมาตงิดๆ ถ้าบอกว่าเป็นพ่อลูกกันเขาคงจะเชื่อได้ง่ายๆ สุดท้ายนักวิจัยหนุ่มเลยต้องกระเตงตัวเลขไปฝากท้องที่ร้านป้าอ้วน ซึ่งอยู่นอกเขตทหาร “อ้าว ข้อสอบ หายไปไหนตั้งนาน นึกว่าจะลืมร้านป้าไปเสียแล้ว” แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งที่กำลังควงตะหลิวโชว์ลีลาการผัดคะน้าน้ำมันหอยอยู่ ร้องทักดังลั่น “แล้วนี่เด็กที่ไหน น้องสาวเหรอ น่ารักน่าชังน่าเอ็นดูจริงเชียว” “ครับ” ตอบรับอย่างขี้เกียจอธิบาย ก่อนจะหันไปบอกเด็กที่แต่งตัวสีขาวดำเหมือนเดิมซึ่งยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง “อยากกินอ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   16 เสพติดความเย็น

    16เสพติดความเย็น ท่ามกลางแสงสลัวของสุสานร้างกลางป่า ที่มีลมโชยและเสียงอีการ้องคลอเป็นระยะๆ มีร่างเปลือยเปล่าสองร่างเกาะเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนบนโลงศพ ความรู้สึกคับแน่นของการถูกสองนิ้วใหญ่ชำแรกเข้ามาในช่องทางเบื้องหลัง ดึงข้อสอบลงมาจากห้วงความฝันที่ล่องลอยอยู่จากการเล้าโลมอันช่ำชองของคนแก่กว่า อัลฟ่าหนุ่มค่อยๆ ขยับมือที่ชโลมไว้ด้วยเจลหล่อลื่นเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อมของคนที่ยังไม่เคยมาก่อน ปากทางสีชมพูสวยที่บานเข้าออกตามการขยับนิ้วของเขา มันช่างดึงดูดซะจนอยากจะจับแก่นกายยัดลงไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่หน้าตาเหยเกของร่างข้างใต้ ทำให้ผู้พันหนุ่มได้แต่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เขาพรมจูบตามเปลือกตา ขมับ ข้างแก้ม จูบริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดซับความอึดอัดของอีกฝ่ายมาไว้กับตัว จากสองนิ้วก็เพิ่มเป็นสาม มืออีกข้างจับเข้าที่แก่นกายขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เท่าของเขา เพื่อช่วยเพิ่มความหฤหรรษ์ให้คนที่กำลังจะต้องทนรับความเป็นจริงในอีกไม่กี่อึดใจ เมื่อนิ้วมือแกร่งหลุดออกมา ปลายลำของเขาก็ถูไถเบาๆ บนปากทางรักสีหวาน คนที่ถูกเล้าโลมจนเสียวซ่านอยากจะ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   15 แก้ทาง

    15แก้ทาง คราวนี้ข้อสอบมั่นใจในมนต์สะกดที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีของตัวเองมาก ดวงตาอันแดงก่ำในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการทนกลิ่นเลือดไม่ไหว แต่เป็นการที่เขาฝึกฝนตัวเองจนสามารถควบคุมการสะกดจิตได้ สีหน้าและท่าทางของผู้พันตัวโตพลันเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เหมือนกับครั้งแรกๆ ที่เขาสะกดอีกฝ่ายซะจนอยู่หมัด ฝ่ามือซีดขยับโบกไปมาหน้าดวงตาคมเข้ม ก่อนจะจับมือซ้ายที่สวมถุงมือสีขาวอยู่ยกขึ้นลงเหมือนเล่นกับตุ๊กตา ไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อต้านของร่างใหญ่ให้เห็น “หึ อัลฟ่าหรือจะสู้แวมไพร์” คนที่ใจพองโตกับความรู้สึกของการกลับมาเป็นผู้ล่าอีกครั้ง ใช้มือทั้งสองกดบ่ากว้างของคนที่นั่งอยู่ไว้แน่น เขี้ยวเล็กสองซี่ที่โผล่ขึ้นมาฝังลงไปบนลำคอแกร่งที่ยังคงเผยให้เห็นเส้นเลือดสวยไม่ต่างจากเดิม ของเหลวสีแดงที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานแพร่กระจายความอุ่นวาบลงสู่หลอดอาหาร ระเบิดรสชาติกลมกล่อมซาบซ่านในปากจนถึงคอ กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งร่างให้เปิดออก หลังจากดื่มไปในปริมาณที่เพียงพอแล้ว ข้อสอบก็หยุดยั้งตัวเองได้อย่างเฉียบขาดอย่างแวมไพร์มืออาชีพ ไอ้อยากน่ะก็อยากอยู่หรอ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status