Share

3 ผู้บริจาคเลือด

last update Last Updated: 2024-12-20 15:22:53

3

ผู้บริจาคเลือด

         พรึ่บ

         แสงไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดับลงพร้อมกัน ส่งผลให้ห้องทั้งห้องมืดสนิทลงในทันใด มีเพียงแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้นที่ยังสว่างไสวอยู่

         ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีก็มีเหตุการณ์ไฟตกอยู่เช่นกัน แต่เพียงครู่เดียวไฟก็ติดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

         เจ้าของห้องเปิดประตูออกไปชะเง้อมองดูข้างนอก ก่อนจะพบว่าโถงทางเดินและอาคารอื่นก็ไฟดับเหมือนกัน

         ปกติแล้วทางตึกมีระบบไฟสำรองให้ตลอด ที่ไฟดับนานขนาดนี้แสดงว่ารอบเมื่อกี้เป็นการใช้ไฟสำรองจนหมดเรียบร้อยแล้ว

         ดูเหมือนว่าจะมีการดับไฟเพื่อปรับปรุงระบบหรือซ่อมแซมอะไรสักอย่าง แต่เขาดันไม่เห็นประกาศนี่สิ

         Exam is coming: บ้านพวกนายไฟดับปะวะ

         ×เอ็กซ์×: เออ ดับ แต่เขาก็แจ้งนานแล้วนะ

         Exam is coming: อ้าวเหรอ ดับถึงกี่โมงวะ

         ×เอ็กซ์×: ถึงเช้าโน่นแหละ นอนไม่ลงว่ะ ร้อน

         49ก็มีหัวใจ: วอร์ปะล่ะ

         ลางานหนึ่งวัน งดทัก: +1

         ปอนด์แฟนมิ้งค์: +++

         Exam is coming: ขอผ่านว่ะ ไม่มีอารมณ์

         กลุ่มแชทที่ข้อสอบพิมพ์ถามลงไปคือกลุ่มของเพื่อนสมัยปริญญาตรี ที่ยังติดต่อกันอยู่ก็เพราะคอยชวนกันเล่นเกมบ้างเป็นบางครั้งนี่แหละ เกมที่เล่นกันก็มีอยู่เกมเดียวคือเกมแนว MOBA จับทีมต่อสู้ยิงป้อมแบบห้าต่อห้า

         ถึงแม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากนักตามประสาผู้ชาย แต่ก็คอยแชร์คลิปตลกๆ ให้กันอยู่เสมอ เวลามีใครเดือดร้อนอะไรก็พร้อมช่วยกันตลอด

         เป็นเพราะเพื่อนกลุ่มนี้ที่คอยสนับสนุน ทำให้ข้อสอบก้าวผ่านความกดดันในการเรียนและงานวิจัยมาได้ จนเขาประสบความสำเร็จและมีทุกวันนี้

         หากไม่ได้คนรอบกายที่ดีกับเขามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เจ้านายสมัยทำงานพาร์ทไทม์ และเพื่อนร่วมชั้นเรียน เด็กกำพร้าธรรมดาๆ ไร้ซึ่งตระกูลสนับสนุน คงจะเดินทางมาไม่ถึงจุดนี้ และอาจจะล้ม พังทลายลงได้ทุกเมื่อ

         เขานับว่าโชคดีกว่าใครหลายๆ คนที่ไม่มีโอกาสแบบเขา

         บางทีเขายังคิดอยู่บ่อยๆ ว่าตัวเองมีดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์ด้วยซ้ำ

         อากาศภายในห้องเริ่มร้อนขึ้นเพราะไม่มีความเย็นของเครื่องปรับอากาศคอยช่วยเหลือ จนชายหนุ่มต้องเดินไปเปิดหน้าต่างและประตูระเบียงทิ้งไว้ให้ลมพัดเข้ามา

         ทว่ากลิ่นหอมที่โชยมากับสายลมช่างดึงดูดซะจนคนที่ไม่สามารถรับรู้กลิ่นอาหารได้มาหลายวันแทบจะน้ำลายไหล

         มันหอมยิ่งกว่าอาหารที่เคยได้กลิ่นมาทั้งชีวิต

         เมื่อมาถึงจุดที่น้ำลายหยดออกมาเพราะห้ามไว้ไม่อยู่ ข้อสอบก็ตัดสินใจปีนระเบียงลงไปจากชั้นสองเพื่อตามกลิ่นเย้ายวนนั่นไป

         หวังว่าจะเป็นกลิ่นของอาหารนะ เขากินข้าวไม่ลงมาตั้งสามวันแล้ว จนตอนนี้สมองเริ่มเบลอไปหมด ทำงานก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ได้แต่สั่งอาหารเสริมมากระเดือกประทังชีวิต

         เขากระโดดลงมายืนที่พื้นดินอย่างง่ายดายด้วยพละกำลังที่มากขึ้น ก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดเพื่อตามหากลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ยังคงโชยมาไม่หยุด

         จะให้อธิบายยังไงดีล่ะ ความคิดแรกหลังจากได้กลิ่นคือความหอมของขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ แต่พอดมไปสักพักก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นอันกลมกล่อมของอาหารจานเนื้อที่เพิ่งปรุงเสร็จ

         ยิ่งเดินจนแทบจะวิ่งตามไป กลิ่นก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น จนท้องร้องโครกครากประท้วงลั่นท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด

         เดินเข้าไปยังสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเขตซีซ่า ก็เริ่มมีกลิ่นอื่นมาปะปน

         เป็นกลิ่นเลือด...

         และข้อสอบก็ได้พบกับต้นตอของกลิ่นนั้น

         “เหี้ยยย”

         ใช่ เหี้ยจริงๆ

         เจ้าตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่เกินครึ่งหนึ่งของตัวเขานอนนิ่งสนิทอยู่บนพื้นหญ้า รอยแผลเหวอะหวะจนเลือดไหลซึมออกมาไม่หยุด บ่งบอกถึงความสดใหม่ของการตาย

         ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะได้กลิ่นเลือดสัตว์ แถมยังค่อนข้างหอมอีกด้วย แต่ถึงยังไงก็สู้กลิ่นที่เขาตามหาไม่ได้อยู่ดี

         ข้อสอบตัดความสงสัยว่าทำไมกลิ่นเลือดสัตว์จึงหอมออก ก่อนจะเดินตามกลิ่นเดิมไปต่ออีกเพียงห้านาที ชายหนุ่มก็มาถึงบริเวณที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น สมองที่ควรคิดสงสัยเรื่องทำไมอาหารถึงมาอยู่ในป่าได้กลับไม่ฟังก์ชันเท่าที่ควร

         สุดท้ายเขาก็มาหยุดอยู่หลังต้นไม้ ชะเง้อมองไปยังที่มาของกลิ่น

         กลิ่นแผ่ออกมารอบร่างกายสูงใหญ่ของอัลฟ่าตนนั้นไม่ผิดแน่

         อัลฟ่าคนใหญ่คนโตที่เขาเห็นเมื่อไม่กี่วันก่อน

         ถึงแม้จะเป็นคืนเดือนมืด แต่ข้อสอบสามารถมองเห็นสีหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นนิ่งอยู่กับที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ผ่านไปสองนาที เขาถึงจะขยับขาก้าวเดิน พาร่างของตนไปตามเส้นทางออกจากสวนสาธารณะแห่งนี้

         กลิ่นที่เบาบางลงตามระยะห่างที่มากขึ้น ทำให้ข้อสอบยิ่งมั่นใจ

         ขณะที่คิดไม่ตกว่าควรทำอะไรต่อ นัยน์ตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว ร่างกายขยับไปตามความปรารถนาส่วนลึกในจิตใจโดยไร้ซึ่งเหตุผล พุ่งไปยังเจ้าของกลิ่นหอมนั้น

         เห็นร่างใหญ่ผงะถอยหลังตั้งท่าต่อสู้ ข้อสอบก็แอบตกใจเช่นกัน

         โดยไม่ต้องคิดว่าจะทำยังไงต่อ เหมือนมีพลังบางอย่างส่งผลให้ดวงตาสีแดงที่สบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนั้นสามารถสะกดอีกฝ่ายให้หยุดนิ่งได้

         ตอนนี้ตาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่มืดโฟกัสไปยังลำคอที่มีเส้นเลือดกำลังเต้นตุบๆ อยู่ เหมือนรู้ว่าหากเขาฉีกกระชากสิ่งนั้นออก ก็จะพบกับที่มาของกลิ่นอันชวนฝัน

         ถึงแม้เขาจะรับรู้และจดจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ แต่ข้อสอบก็ไม่อาจห้ามสัญชาตญาณที่ชักนำร่างของตน

         ริมฝีปากร้อนแตะลงบนคอหนาเพียงผิวเผิน ก่อนจะส่งเขี้ยวเล็กๆ หากแต่แหลมคมทั้งสองซี่กัดทะลุไปจนเจอกับเลือดชั้นดีที่ค่อยๆ ไหลทะลักเข้าสู่โพรงปากตามแรงดูดของเขา

         เลือดอุ่นๆ สดใหม่ที่ให้รสชาติแสนอร่อยยิ่งกว่าอาหารใดๆ ที่เคยได้ลิ้มรสมา จุดประกายความหื่นกระหายจนเกือบจะกลายเป็นตะกละตะกลามของแวมไพร์มือใหม่

         เลือดที่ควรจะเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงและมีกลิ่นคาว แรกลิ้มรสกลับเปรี้ยวนำหวานตามเหมือนกาแฟฟิลเตอร์ชั้นดี ตามด้วยรสเผ็ดเล็กๆ ของสมุนไพร น้ำหนักของเลือดบนลิ้นก็กำลังพอดี ไม่มีบอดี้ที่บางหรือหนักเกินไป และเมื่อกลืนลงไปแล้ว ก็มีรสของความหวานคั่งค้างอยู่ในปากเนิ่นนาน

         กลิ่นก็เช่นกัน เริ่มจากกลิ่นของขนมปังสดใหม่ (ท็อปโน้ต) แปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นนุ่มนวลของผลไม้สีม่วง ตามด้วยกลิ่นที่ช่วยให้จิตใจสงบของไอดินหลังฝนตก ปิดท้ายด้วยกลิ่นดอกไม้ที่คงค้างอยู่ในลำคอ (อาฟเตอร์เทส)

         เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ รู้เพียงว่าความกระหายของผู้บุกรุกดูท่าจะไม่มีที่สิ้นสุด

         ร่างที่ถูกสะกดจากนัยน์ตาแดงและสารบางอย่างจากเขี้ยวคมเริ่มขยับตัวได้

         การขยับเพียงน้อยนิดนี้ ทำให้แวมไพร์ตัวจ้อยได้สติ หยุดความอยากของตนไว้ได้ทันก่อนที่อีกฝ่ายจะเลือดหมดตัวไปเสียก่อน

         พอได้เติมเต็มกระเพาะที่ขาดอาหารมานาน สติสัมปชัญญะของข้อสอบก็เริ่มแจ่มชัดขึ้น เขาสบตาที่กำลังเปลี่ยนจากเลื่อนลอยมาเป็นคนที่เริ่มได้สติ ด้วยไม่แน่ใจว่ามนต์สะกดนั้นหมดไปแล้วหรือยัง

         “ผมขอโทษ” น้ำเสียงติดจะสั่นๆ ด้วยไม่รู้ต้องทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่มือก็พยายามเช็ดทำความสะอาดปากของตนที่มีเลือดเลอะอยู่ประปราย

         “เกิดอะไรขึ้น” คำถามอย่างคนงงงวย ทำเอาข้อสอบไปต่อไม่ถูก

         ต้องให้เขาตอบว่ายังไง? ตอบว่า เมื่อกี้คุณเป็นอาหาร เป็นถุงเลือดของผมงี้เหรอ?

         ได้โดนฆ่าตายกันพอดี บรึ๋ย~

         ถ้าจำไม่ผิด เหมือนเขาเคยฟังยูทูปเบอร์เล่าถึงประวัติ (ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า) ของแวมไพร์ ว่ามีความสามารถในการลบความทรงจำของคนที่เพิ่งถูกดูดเลือดไป

         “จงลืมซะ”

         พูดออกไปอย่างไม่มั่นใจ แต่มือนี่ทำท่าเหมือนปล่อยพลังใส่ไปเรียบร้อย

         “ทำบ้าอะไร”

         ดุฉิบหาย...

         ดูเหมือนว่าเขาจะปล่อยพลังผิดท่าไปหน่อย คราวนี้ต้องรวบรวมพลังก่อน

         “โอมมม พลังแห่ง... แห่ง... เอ่อ ดวงดาวก็แล้วกัน พลังแห่งดวงดาวจงสถิตแก่ข้า บันดาลให้เจ้าอัลฟ่าคนนี้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดซะ”

         พูดพร้อมขยับตัวออกท่าทางที่คิดมามั่วๆ ซั่วๆ แบบเก้ๆ กังๆ ไปด้วย

         เหมือนคราวนี้โชคจะเข้าข้าง เพราะจู่ๆ สายลมก็พัดมาหอบหนึ่ง กระจายกลิ่นอายของแวมไพร์ให้ปะปนไปกับแสงจันทร์ที่โผล่พ้นกลีบเมฆมาเพียงครู่ ส่งผ่านไปยังร่างของเหยื่อ และทำให้เขาสลบไป

         ตึ่ง!

         เมื่อเห็นว่าชายร่างใหญ่ล้มทั้งยืน เจ้าหัวขโมย (เลือด) ก็รีบเผ่นแน่บกลับไปยังบ้านของตนทันที

         หวังว่าพลังลบความทรงจำของเขาจะได้ผลนะ

         ณ ร้านขายโลงศพและอุปกรณ์สำหรับงานศพ

         ร่างของชายหนุ่มที่กำลังด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าร้านมานานสองนาน ทำให้เจ้าของร้านต้องส่งเสียงเรียก

         “ไอ้หนุ่ม หาอะไรอยู่ล่ะ”

         โอเมก้าชายวางลูกชายวัยหกเดือนของตนลงในเปล ก่อนจะเดินออกมาหาเขา

         “ที่ร้านพี่รับทำโลงศพไหมครับ”

         “รับๆ เข้ามาดูแค็ตตาล็อกข้างในก่อนสิ”

         หลังจากนั้นคนที่สองจิตสองใจอยู่นานว่าควรซื้อโลงศพแบบสำเร็จรูปไปเลยดี หรือควรสั่งทำให้ได้แบบที่ตนเองต้องการ ก็ตัดสินใจได้เมื่อได้เห็นข้อเสนอมากมายจากพ่อค้า

         เพราะวัสดุที่ใช้ไม่ได้เว่อวังอะไร ราคาเลยไม่แพงนัก เน้นให้ระบายอากาศได้ดี และเหมาะกับสรีระของเขา ระยะเวลาในการรอก็เพียงไม่ถึงสัปดาห์

         ไม่กี่วันเท่านั้น ที่เขาต้องทนกับการนอนหลับๆ ตื่นๆ

         หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ข้อสอบก็มั่นใจว่าตัวเองฟื้นคืนชีพมาเป็นแวมไพร์

         ไอ้พละกำลังที่มากขึ้น การมองเห็นได้ดีในที่มืด ผิวที่ขาวซีดขึ้น และการที่ไม่สามารถกินอาหารเหมือนมนุษย์ปกติได้... คือผลพวงจากการที่เขากลายเป็นแวมไพร์

         นอกจากควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาได้กลิ่นเลือดหอมหวานและสามารถสะกดจิตเหยื่อได้แล้ว เขาก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองมีความสามารถอะไรอีกไหม

         และทำไมเมื่อคืนเขาถึงได้กลิ่นเลือดของอัลฟ่าในรัศมีที่ไกลแสนไกล ในขณะที่ตอนที่เห็นอัลฟ่าห่างๆ เป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน กลับไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

         เมื่อคืน หลังจากที่ถุงเลือดเฉพาะกิจของเขาสลบไปเรียบร้อย เขาก็หนีออกมาโดยที่ไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม

         แต่สัญชาตญาณบางอย่างในตัวเขา ทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายถูกลบความทรงจำไปเรียบร้อย

         “นี่ใบเสร็จค่ามัดจำ ขอบคุณที่อุดหนุนนะเจ้าหนุ่ม”

         พรึ่บ!

         “อ้าว”

         ยังไม่ทันที่จะได้รับกระดาษมา ก็มีมือหนึ่งมาแย่งไป แถมเจ้าตัวยังอ่านออกเสียงโดยไม่มีความเกรงใจเลยสักนิด

         รู้จักมั้ย ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีน่ะ

         “สั่งทำโลงศพขนาดสองเมตร ไม้อัดผสมอย่างดีเคลือบกันน้ำ ระบบเปิดปิดฝาโลงด้วยรีโมท ใส่ลำโพงบิ๊วอิน มีช่องเก็บของขนาดเล็ก มีแผ่นไม้ดึงเข้าออกได้ไว้วางแล็ปท็อปทำงาน... นี่คุณสั่งโลงศพหรือสั่งหลุมหลบภัยกันแน่”

         ท่าทางกวนประสาทของสัปเหร่อที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่ทำให้ข้อสอบของขึ้นเลยสักนิด เพราะเขาเจอคนมาหลากหลายประเภทตั้งแต่ยังเด็ก

         “แล้วในกระดาษมันเขียนว่าอะไรล่ะครับ”

         “โอ้ เด็กเนิร์ดอารมณ์ร้ายซะด้วย”

         “ผมก็พูดไปตามเหตุตามผล น้ำเสียงผมก็ออกจะเรียบขนาดนั้น”

         คนอะไร จู่ๆ ก็มาหาเรื่องคนอื่น

         “ชาแมน อย่าแกล้งลูกค้าพี่สิ” พี่เจ้าของร้านยกมือเท้าเอว ทำเสียงดุใส่ เหมือนคนที่รู้จักอีกฝ่ายมาเนิ่นนาน

         แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาทำอาชีพสัปเหร่อ คงจะมีเหตุให้ต้องมาติดต่อร้านนี้บ่อยๆ

         “อาฮะ” ชาแมนยื่นใบเสร็จคืนให้ “ผมแนะนำให้คุณเพิ่มแผ่นดูดซับเสียงไปด้วยนะ”

         “...”

         “ท่าทางคุณจะดูสบายดีนี่... ดูไม่อดอาหาร”

         ทิ้งท้ายด้วยคำพูดแปลกๆ เสร็จ ชาแมนก็เดินหายไปทางประตูหลังร้าน ทิ้งให้คนที่คิดอะไรเป็นตรรกะเหตุผลอยู่ตลอดเวลารู้สึกสงสัย จนเกิดเป็นข้อสันนิษฐานหลายๆ อย่าง

         “จริงๆ แล้วแวมไพร์ไม่ได้หมายถึงผีดูดเลือดอย่างเดียว แต่พอมีพวกการ์ตูนกับนิยายจับเรื่องนี้มาทำกันมากขึ้น ทุกคนเลยติดภาพจำนี้กัน บ้างก็ว่าแวมไพร์คือคนที่เกิดมามีสัญลักษณ์ของปีศาจ ตายอย่างผิดธรรมชาติ หรือไม่ก็ถูกแวมไพร์เปลี่ยนให้มาเป็นพวกเดียวกัน ว่าง่ายว่านะ เจ้าพวกนี้เนี่ย...”

         เสียงพูดของยูทูปเบอร์สายเล่าเรื่อง ดังออกมาจากลำโพงของคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่

         เจ้าของห้องในชุดนอนฮู้ดดี้สีแดงเข้มตัวโปรดกำลังพิมพ์แชทต๊อกแต๊กๆ ตอบโต้หัวข้อสนทนาทางวิชาการในเรดดิต (Reddit)

         ถึงข้อสอบจะคุยไม่เก่ง แต่ในโลกออนไลน์ เขานี่แหละ...นักเลงคีย์บอร์ดตัวจริง

         ด้วยความที่หมกมุ่นกับวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่เคยหยุดอัปเดตความรู้ใหม่ๆ รวมถึงแบ่งปันความรู้ความสามารถให้กับเหล่าคนช่างสงสัยในเรทดิตด้วย

         หูก็ยังคงเงี่ยฟังข้อมูลจากยูทูปเบอร์ที่เล่าเกี่ยวกับแวมไพร์ไปด้วย

         ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองฟื้นคืนชีพ แล้วได้ภาระ (?) มาเป็นร่างกายที่เอาใจยากแบบนี้ นักวิจัยหนุ่มก็พยายามหาข้อมูลจากหนังสือเก่าๆ ในห้องสมุดกลาง รวมถึงจากโลกออนไลน์ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้รับล้วนแต่เป็นจินตนาการไร้สาระ ไร้มูลเหตุที่มาที่ไปเต็มไปหมด

         พอเอาทุกอย่างมาสรุปรวมกันก็เลยได้ข้อมูลที่ออกจะมหาศาลและเลอะเทอะไปเสียหน่อย ถึงแม้จะคัดมาเฉพาะข้อมูลที่มีการพูดซ้ำทางโลกออนไลน์มาเกินหนึ่งพันครั้งก็ตาม

         หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งแยกอยู่อีกจอขณะนี้ปรากฏเป็นภาพกลุ่มกลุ่มหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่มีแต่คนโพสต์อวดการตกแต่งห้องภายในบ้านของตน ซึ่งเทรนด์ตอนนี้ก็ยังคงเป็นความมินิมอลอยู่

         การตกแต่งห้องคืองานอดิเรกของข้อสอบ

         เพราะบ้านคือที่ซุกหัวนอนของเขา คือที่ผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยจากการทำงานหนัก การได้เห็นภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปตามการแทนที่ของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หรือแม้แต่ของประดับตกแต่งชิ้นเล็กๆ ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก

         เขาสามารถใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ นั่งชื่นชมการตกแต่งห้องของตัวเองได้ด้วยซ้ำ

         “นอกเหนือจากสิ่งที่เป็นเรื่องพื้นฐานของแวมไพร์อย่างที่ว่าง่ายเล่าให้ฟังไปเมื่อกี้แล้ว ยังมีเรื่องที่ดูเป็นไปได้ยากอย่างการกลายร่างเป็นค้างคาว นี่ๆๆ ผมจะเปิดที่มาให้ดู มีการ์ตูนหลายเรื่องเลยที่เปรียบแวมไพร์เป็นค้างคาว”

         น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของหนุ่มน้อยหน้าใสทรงโอเมก้า แต่ข้อสอบไม่แน่ใจว่าเขาใช่โอเมก้าจริงๆ มั้ย ดังมาถึงจุดที่ดึงดูดความสนใจของข้อสอบออกจากการหยิบยกทฤษฎีขึ้นโต้เถียงกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญ (ที่ยังชำนาญไม่เท่าเขา) คนอื่นๆ

         ค้างคาวอย่างงั้นเหรอ? เขาจะแปลงร่างเป็นค้างคาวได้ไหมนะ

         ชายหนุ่มรีบสลับหน้าจอไปดูตัวอย่างคลิปวีดีโอที่ยูทูปเบอร์นามว่าง่ายกำลังเปิดโชว์ แสดงให้เห็นเหตุการณ์หรือขั้นตอนการแปลงร่างเป็นค้างคาวของเหล่าแวมไพร์ในการ์ตูน

         เพียงมองอย่างเดียวดูจะไม่ทันใจ เพราะเจ้าของร่างขาวซีดรีบลุกขึ้นยืนและพยายามออกท่าทางตามเรียบร้อย

         “ฮึบ”

         ให้ตายสิ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ท่าทาง มันอยู่ที่ข้างในความคิดของแวมไพร์พวกนั้นต่างหากเล่า

         ไม่รู้ว่าต้องคิดหรือท่องคาถาอะไรที่จะทำให้แปลงร่างได้

         เปลือกตาหนาปิดแน่น จินตนาการถึงภาพตัวเองที่ตัดฉับเปลี่ยนเป็นค้างคาวในฟุตเทจเดียว แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด

         หรือเขาต้องกระโดดลงไป แล้วจะบินได้เอง วิธีเดียวกับแม่นกที่สอนลูกนก

         แต่คราวก่อนเขาก็กระโดดลงไปจากระเบียงชั้นสองของห้องตัวเองอย่างง่ายดาย ไม่เห็นจะแปลงร่างเองเลย

         หลังจากคิดสรตะวุ่นวายอยู่ในหัวเต็มไปหมด เจ้าของฮู้ดดี้ก็เดินถอยหลังมาจนชิดผนังฝั่งตรงข้ามของประตูระเบียง ก่อนจะออกแรงพุ่งตัวไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

         ฟ้าววว

         ตุบ!

         โลกรอบตัวไม่ได้ดูใหญ่ขึ้น แถมเท้าก็ไม่ได้สัมผัสผืนหญ้าแต่ประการใด

         แต่เขากำลังถูกคนที่บริจาค (?) เลือดให้ รับไว้ในท่าเจ้าหญิงน่ะสิ!!!

Related chapters

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   4 ดูดเลือดครั้งที่สอง

    4ดูดเลือดครั้งที่สอง “หลบจ้า หลบ” “กระเทียมหนึ่งพวงสามสิบ สองพวงอม เอ้ย กินกำลังพอดีจ้า เอาไปเลยห้าสิบพอ” “เนื้อจ้าเนื้อ เนื้อสดๆ อ้าว พ่อหนุ่ม มาดูเนื้อมั้ย หรือจะดูเอ็น แต่ต้องไปดูร้านโน้นนะ ที่คนขายหล่อๆ น่ะ” “ขอบคุณครับป้าใจ มาดูเอ็นได้ทางนี้เลย เครื่องในก็มีเพียบ ตับไตไส้พุง หรือจะเอาหัวใจผมไปก็ได้นะ” “ทางนี้จ้าทางนี้ ซื้อเยอะแถมเยอะ ซื้อน้อยก็แถมเยอะอีกเหมือนกัน แจกจ้าแจก อยากกลับบ้านแล้ว ป่านนี้ไอ้แก่ที่บ้านแอบไปหาเมียน้อยแล้ว” โครม! “อุ้ย ตาเถร” “บัดสีบัดตาเซิ้ง” “บัดเถลิง!” คนแทบทั้งตลาดตบมุกพร้อมๆ กัน ให้กับคุณยายคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รถเข็นผักชนกับคน และใช้คำได้แบบผิดๆ ไม่ใช่แค่พูดผิดธรรมดา แต่ใช้ผิดความหมายไปเลย เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจและความครึกครื้นของตลาดสดแห่งนี้ ทำให้ข้อสอบที่ออกมาเดินหาซื้อของที่น่าจะพอกินได้ รู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเข้าแต่ซูเปอร์มาเก็ต แต่พอเจอเหตุการณ์ถูกคนบ้ายิงเข้าไป เขาก็ไม่กล้าเฉียดกรายเข้าใกล้ห้างแห่งนั้นอีกเลย

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   5 ถุงเลือดส่วนตัว

    5ถุงเลือดส่วนตัว บรรยากาศอันร่มรื่นเงียบสงบของวัดขนาดเล็ก ช่างจรรโลงใจเป็นที่สุด หลังจากนอนกับพื้นและในตู้เสื้อผ้ามาครึ่งเดือน เขาก็ได้แวะไปตรวจสอบและคอนเฟิร์มว่าโลงศพที่สั่งทำเป็นที่ถูกใจ ได้ฟังก์ชันครบถ้วนตามต้องการ จากนั้นก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือและเปลี่ยนที่อยู่ในการจัดส่งให้เขานำไปส่งในค่ายทหารแทน ไหนๆ วันนี้ก็ได้หยุดงานแล้ว เขาก็เลยแวะมาวัดที่อยู่ข้างๆ ร้านโลงศพเสียหน่อย ของที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บเยอะ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าหากทำโปรเจกต์ลับนั่นเสร็จแล้ว จะโดนไล่ออกกลับมาอยู่ที่พักเดิมหรือเปล่า ก็เลยจะเอาไปแต่ของใช้จำเป็นเท่านั้น หากถามว่าผู้พันอาชวินจะรู้มั้ยว่าเขาเป็นคนที่แอบดูดเลือดอีกฝ่ายไป... เขามั่นใจว่าไม่ เพราะปฏิกิริยาของอัลฟ่าตนนั้นเมื่อตอนเจอกันวันก่อนดูปกติดีทุกอย่าง ดูเหมือนคนที่เคยเจอเขาครั้งเดียวตอนตกจากระเบียงห้อง แต่ถามว่าเจ้าของเลือดหอมหวานนั่นรู้สึกระแคะระคายอะไรบ้างมั้ย เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้แต่พยายามทำตัวปกติ เพราะยังไงเขาก็คงไม่ได้เจอเจ้านายคนใหม่บ่อยนัก ชั้นลบหนึ่งกับชั้นบนส

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   6 หาเหยื่อใหม่

    6หาเหยื่อใหม่ ทำไมวันนี้มีแต่คนมองเขาเยอะแปลกๆ หรือเพราะเลือดคุณภาพดีเมื่อคืน ทำให้เขาดูแข็งแรงขึ้น ดูหล่อขึ้น? ตั้งแต่ข้อสอบเดินเข้ามาในอาคารทำงาน ไล่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งลงไปยันชั้นลบหนึ่งแล้ว ที่ใครต่อใครต่างก็มองมาทางเขา ไม่รู้ว่ามองด้วยเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่การมองเหยียดหรือมองในแง่ร้ายแน่ๆ “นายไม่ได้สายตาสั้นหรอกเหรอ” คำทักทายจากเพื่อนร่วมห้องทำงานเดียวกันวันนี้แปลกไปกว่าทุกที ทำให้ชายหนุ่มรู้สาเหตุทันที เอ้า! เขาลืมใส่แว่นเสียสนิท แต่ถึงไม่ได้ใส่แว่น ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้กลับงดงามสดใสชัดเจนไปซะหมด มิน่าตอนเช้าตอนเขาตื่นขึ้นมาในโลงศพถึงได้ลืมควานหาแว่นมาใส่ตามความเคยชิน ก็ทุกสิ่งทุกอย่างมันชัดเจนซะขนาดนี้ เขาก็นึกว่าตัวเองใส่แว่นอยู่น่ะสิ “ขี้เกียจใส่แว่นน่ะ” ตอบกลับไปแบบกลางๆ ให้อีกฝ่ายไปเดาเอาเองว่าเขาใส่คอนแทคเลนส์อยู่หรือเป็นคนสายตาปกติที่ใส่แว่นเล่นๆ กันแน่ ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนเขาทำแว่นหล่นทิ้งไว้ไหน เพราะหลังจากดื่มเลือดเสร็จ เขาก็แวะไปที่อาคารศูนย์วิจัยต่อ กว่าจะได้กลับบ้านมานอนก็ตีสองแล

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   7 กรีดเลือดเสนอตัว

    7กรีดเลือดเสนอตัว “นี่ครับ อาหารที่พี่สั่ง” พนักงานร้านข้าวต้มโต้รุ่งหยิบจานอาหารจำนวนมากบนถาด วางลงบนโต๊ะที่มีผู้ชายนั่งกันอยู่สองคน “ขอสั่งยำสามกรอบ กับไชโป๊ผัดไข่เพิ่มด้วยนะ” “คุณจะกินเพิ่มอีกเหรอครับ” เพื่อนร่วมโต๊ะถึงกับหันขวับไปถามคนที่สั่งอาหารเพิ่ม ทั้งที่บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยยำไข่เค็ม ผัดผักบุ้ง ผัดหอยลาย หมูมะนาว ใบเหลียงผัดไข่ ยำกุนเชียง และปลาราดพริกแล้ว “ฉันสั่งมาให้เธอ” “แต่ผมไม่หิว” “ไหนบอกมาหาของกินไง” ของกินที่เขาหมายถึงน่ะ คือเลือดต่างหากเล่า “...” ข้อสอบบุ้ยปากอย่างเซ็งๆ โดนหลอกยังไม่พอ ต้องโดนพามาเจอกับอาหารที่เขาไม่ได้กลิ่น แถมยังกินไม่ได้อีก นี่มันจะบังคับกันเกินไปแล้ว! “อะ กินเยอะๆ” นอกจากจะไม่เข้าใจลูกน้องของตนแล้ว ยังตักกับข้าวใส่ถ้วยข้าวต้มกุ๊ยเล็กๆ จนล้นทะลักอีก “คุณมีความคิดเห็นยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้บ้างครับ” นักวิจัยหนุ่มเขี่ยข้าวต้มไปมา “ไม่น่าจะเป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” ปึก! “ใช่มะ ผมก็คิดแบบ

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   8 รสนิยมประหลาด

    8รสนิยมประหลาด อาชวินมองสัตว์ตัวจ้อยที่กำลังหาทางบินหนีออกจากห้องทำงานด้วยสีหน้าสงบ แต่ข้างในจิตใจนั้นเหลวเป๋วสิ้นดี ใจอ่อนยวบยาบไปหมดเมื่อได้เห็นสัตว์ขนปุกปุย แถมยังตัวเล็กจิ๋วแบบที่ตนชอบนักชอบหนา ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่าเขามีรสนิยมชอบสัตว์ตัวเล็ก และไม่คิดที่จะเลี้ยงแมวป่า เสือ หรือสิงโตเหมือนญาติคนอื่นๆ แต่ต่อให้เขาจะคลั่งไคล้และแอบเล่นกับลูกแมว นก หนูแฮมสเตอร์มามากแค่ไหน เจ้าค้างคาวตรงหน้ากลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในใจ มาแรงแซงทางโค้งบดเบียดสัตว์อื่นหล่นตุ้บไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องอาศัยพละกำลังอันมากล้นของอัลฟ่าเพื่อพยายามกดพลังของผีดูดเลือดอีกต่อไป เพราะเขาสามารถใช้เพียงอุ้งมือเดียวรวบสองเท้าของค้างคาว จับห้อยหัว หิ้วไปมาได้อย่างสะดวกสบาย “เป็นค้างคาวไปตลอดเลยก็ดีนะ” “จี๊ดๆๆๆ” เสียงประท้วงของค้างคาวดังขึ้น “โอ้ ยังฟังรู้เรื่องอยู่สินะ” เพียงขยับตัวนิดเดียว กรงนกขนาดใหญ่อันว่างเปล่าที่ถูกตั้งอยู่ในห้องมาเนิ่นนานก็ถูกเติมเต็มไปด้วยร่างของค้างคาวที่พยายามจะพุ่งหนี แต่ก็ไม่ทันประตูกรงที่ถู

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   9 กลับสู่จุดเริ่มต้น

    9กลับสู่จุดเริ่มต้น “ถ้าช่วย แล้วผมจะได้อะไร” “...” “เลือด ผมจะไปหากินที่ไหนก็ได้ เงิน ผมก็มีพอใช้อยู่แล้ว” “เธอคิดว่าเธออยู่ในจุดที่ต่อรองได้อย่างงั้นเหรอ?” คนที่หลงลืมไปว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกรู้ความลับเข้า เริ่มวิตกกังวล “นี่คุณคิดจะแบล็กเมล์ผมหรือไง” อาชวินไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นเดินโทงๆ ไปหยิบเสื้อผ้าขนาดเล็กที่สุดในตู้มาโยนลงตรงหน้าคนที่ผิวกายทำให้เขารู้สึกไม่มีสมาธิจะคุยด้วยเท่าไหร่ จากนั้นก็เดินไปหยิบกุญแจมาปลดโซ่ที่ล็อกข้อเท้าอีกฝ่ายออก คนที่จู่ๆ ถูกปล่อยตัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมปกปิดเรือนร่างของตนอย่างรวดเร็ว “เอาเถอะ ฉันอยากบังคับคนที่ไม่ยินยอมหรอกนะ” คนฟังแอบรู้สึกเฟลอยู่หน่อยๆ โธ่เอ๊ย ไม่น่าอวดเก่งเลยเรา ดันถามถึงของแลกเปลี่ยน แล้วสุดท้ายเขาก็ไม่สนใจ ไม่เอาด้วยสักอย่าง รู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่เอ่ยปากจะทำให้ แล้วอีกฝ่ายดันไม่เอา ข้อสอบไม่อยากจะยอมรับเลยว่า ถึงแม้เขาจะมีตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมาย แต่การได้ดูดเลือดผู้พันเสียหลายครั้ง มันทำให้เขาติดใจและ

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   10 ตับๆ ตับๆ

    10ตับๆ ตับๆ บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างเคร่งเครียด “เขาจะปักหลักอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอ” “มีแววว่าจะใช่ว่ะ” เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นเบาๆ จากเหล่าทหารในชั้นลบหนึ่ง ถึงแม้จะย้ายมาทำงานอีกที่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยคือเสียงพูดคุยถึงเรื่องคนอื่นอย่างคนคันปาก ไม่เว้นแม้กระทั่งจากปากของทหารหาญตัวใหญ่ยักษ์ ผ่านเหตุการณ์อันน่าอัปยศอดสูของการเผยร่างค้างคาวหกเต้าและเรือนร่างเปลือยเปล่าให้พันตรีอาชวินได้เห็นมาก็หลายวันแล้ว แต่ไม่มีวันไหนที่เจ้านายจะกลับไปทำงานยังห้องทำงานชั้นบนสุดของตน วันๆ เอาแต่นั่งในห้องทำงานที่ชั้นลบหนึ่ง จนข้อสอบรู้สึกเหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรมาตามเฝ้า “อะแฮ่มๆ ฉันมีเรื่องจะแจ้ง” และแน่นอนว่านาที เลขาหน้าห้องก็ต้องคอยเดินไปเดินกลับระหว่างชั้นล่างสุดและบนสุดอยู่บ่อยๆ เพราะความเอาแต่ใจของเจ้านายตน โอเมก้าหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้กล่าวประกาศ “วันนี้ท่านผู้พันจะพาทุกคนไปเลี้ยงอาหารเย็น ใครมีธุระอะไรให้ยกเลิกซะ” “โอ้โห ลาภปาก” “เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรเหรอ”

    Last Updated : 2024-12-20
  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   11 หนูน้อยข้อสอบ

    11หนูน้อยข้อสอบ “มาติดต่ออะไรเหรอคะ ต้องการพบผู้อำนวยการหรือเปล่า” มะเหมี่ยวเอ่ยกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีเขียวมะกอกและกางเกงแบบทหาร เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน เพราะบุคลิกภาพที่ดูทรงอำนาจซึ่งแผ่ออกมา บ่งบอกถึงความสูงศักดิ์และความโดดเด่นที่แตกต่างไปจากคนอื่น คนที่โดดเด่นแบบนี้ ไม่มีทางที่เธอจะจำไม่ได้ “ผมอยากมาบริจาคน่ะครับ” “ถ้าอย่างนั้นเชิญที่ห้องผู้อำนวยการก่อนเลยค่ะ” หญิงวัยกลางคนเดินนำไปยังห้องสำนักงานขนาดเล็กที่อยู่ชั้นแรกของอาคาร “เสียดาย คุณมาช้าไปหน่อย เด็กๆ เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จ” “ครับ” อาชวินเพียงตอบรับสั้นๆ เหตุผลที่เขามาที่นี่ในวันนี้ก็เพราะเขานึกถึงประวัติของข้อสอบขึ้นมาได้ ตอนที่อ่านประวัติคร่าวๆ เป็นครั้งแรก ในนั้นระบุว่าลูกน้องตนเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติ และถูกเลี้ยงดูมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสองขวบดี เนื่องจากเขามาทำธุระแถวนี้ ก็เลยอยากแวะมาที่นี่ด้วย ธุระที่เขาทำก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มาก่อเหตุในเขตบ้านพักทหารคืนนั้น

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   บทส่งท้าย (ตอนจบ)

    บทส่งท้าย แม้จะเป็นแฟนกันแล้ว แต่คนบ้างานก็ยังคงบ้างานต่อไป ดีหน่อย ที่ถึงแม้จะมีไปประชุมต่างเขตจนต้องกลับบ้านดึกดื่นเป็นบางวัน แต่อาชวินก็ไม่เคยไปค้างที่อื่น และไม่หอบเอางานกลับมาทำที่บ้าน ข้อสอบที่นับวันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวเป็นแม่บ้านเข้าไปทุกที ได้แต่นั่งกอดตุ๊กตาน้องเต่า เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในเรดดิตและสอดส่องหาของแต่งบ้านต่อไป ถึงแม้จะทำงานกันคนละอาคาร แต่ยามเลิกงาน ข้อสอบกับอาชวินมักจะเจอกันอยู่เสมอ ไม่ที่บ้านของเขา ก็บ้านของอีกคน เดินไปมาหาสู่กันจนอาชวินขอให้เขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสองชั้นของตนแทน เลยได้ถือโอกาสย้ายของทุกอย่างออกมาจากอพาร์ตเม้นต์ที่อยู่นอกเขตทหาร จะได้ปล่อยเช่าซะ พอย้ายของมา ก็เลยได้ตกแต่งบ้านอย่างจริงจังเสียที บ้านที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นตอนนี้ เลยมีของตกแต่งเพิ่มขึ้นมา ทำให้ดูเป็นเหมือนบ้านมากขึ้น นอกจากนี้บ้านของอาชวินยังมีห้องนอนที่ชั้นหนึ่งเยื้องออกไปทางข้างหลัง สะดวกให้ตัวเลขอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก วันนี้อาชวินก็บินไปทำงานที่ต่างเขตแต่เช้ามืด และน่าจะกลับมาถึงเร็วๆ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   22 คำเตือนสุดท้าย

    22คำเตือนสุดท้าย บรรยากาศกำลังได้ที่ แต่ดันถูกตัวป่วนสองตัวมาขัดเสียยับ อาชวินมองชาแมนกับรุจีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านได้อย่างถูกจังหวะสุดๆ โดยที่ตนยังจับมือคนตัวเล็กกว่าไว้อยู่ “นายไม่ได้เตือนข้อสอบไว้เหรอ” แวมไพร์สาวสวยที่เดินนวยนาดมานั่งยังโซฟาตัวที่นักสืบเพิ่งลุกออกไปได้ไม่นาน หันไปถามแวมไพร์สัปเหร่อที่เลือกยืนพิงโต๊ะหน้าทีวี “เตือนแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ฟัง” ชาแมนตอบ ข้อสอบพยายามดึงมือออกจากอุ้งมืออุ่นสบาย เพราะถูกจับจ้องมาจากแวมไพร์ทั้งสองตนจนชักจะเขินอยู่หน่อยๆ “เตือนถูกจุดหรือเปล่า” “ก็เตือนเรื่องเหยื่อจะถูกดูดเลือดจนป่วยตาย” “นายคิดว่าคนอย่างผู้พันจะตายได้ง่ายๆ งั้นเหรอ” “เออ จริงด้วย” แวมไพร์รุ่นน้องได้แต่หันไปมองคนโน้นคนนี้ซุบซิบกันไปมาโดยไม่สนเลยว่าคนที่ถูกนินทาจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ “ข้อสอบ ฉันขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อยสิ” รุจีว่า “ไม่เอาแบบคราวก่อนแล้วนะครับ” นักวิจัยหนุ่มหมายถึงตอนที่ถูกจับหิ้ววิ่งด้วยความเร็วสูงซะจนคลื่นไส้ “คุยที่นี่แหละ ข้อสอบไม่ม

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   21 ต้องการคนปกป้อง

    21ต้องการคนปกป้อง แม้เจ้าค้างคาวจะกระพือปีกขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาและขยับเบี่ยงตัวอย่างตกใจตามเสียงเรียกของอาชวิน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นกระสุนล็อกเป้า เทคโนโลยีพิเศษที่สามารถเปลี่ยนทิศทางตามเป้าหมายได้ถึงสองครั้งติด เป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพงมาก หาได้จากในฐานทัพเท่านั้น และถูกควบคุมไม่ให้มีขายในตลาดใต้ดิน “ข้อสอบ!” ผู้พันหนุ่มร้องอย่างตกใจ นาทีที่เห็นร่างจิ๋วถูกยิงจนตกลงมากับพื้น เป็นชั่วเสี้ยววินาทีที่เหมือนกับโลกทั้งโลกหยุดหมุน แต่สติและสัญชาตญาณที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้เขารีบเก็บค้างคาวน้อยที่นอนสลบไสลลงในกระเป๋าเป้ วิ่งหาที่ซ่อนจากกระสุนสุดแสนจะอันตรายนั่น ชายหนุ่มหาที่หลบได้ก็ลอบประเมินสถานการณ์ในใจ หากศัตรูมาคนเดียวก็คุ้มที่จะเสี่ยงจัดการซะให้เรียบร้อย ดีกว่าเขาเป็นฝ่ายถูกตามล่าฝ่ายเดียวจนไม่มีเวลาปฐมพยาบาลให้ข้อสอบ สายตาคมหยิบแว่นมองในที่มืดที่ถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายแว่นตาธรรมดาขึ้นสวม ลอบสังเกตดูการเคลื่อนไหวรอบกาย หากทว่ามีกลิ่นหอมหวานโชยออกมาจากในกระเป๋าสะพาย เหมือนกลิ่นโอเมก้ากำลังฮีต... กลิ่นเดียวกับที่เข

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   20 ผู้ช่วยเหลือ

    20ผู้ช่วยเหลือ หลังจากซักถามลักษณะภูมิประเทศที่เกิดเหตุและช่วงเวลาคร่าวๆ ที่ตัวเลขเห็นในนิมิต ข้อสอบก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุจะเกิดในคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้กันแน่ สิ่งที่เขาทำได้คือต้องออกไปหาผู้พันให้เจอโดยเร็วที่สุด “อ้าว คุณข้อสอบจะไปไหนน่ะ” นาทีถามคนที่เพิ่งเดินเข้ามายังไม่ทันจะข้ามพ้นวงกบประตู และรีบหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย เลยได้แต่ยืนเกาหัวอย่างงงๆ ตอนแรกนักวิจัยหนุ่มกะจะแวะมาเอากระเป๋าเป้เพื่อใส่อุปกรณ์ยังชีพต่างๆ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนแปลงร่างเป็นค้างคาวเพื่อบินตามหาน่าจะสะดวกกว่า เลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์เงียบๆ ไหว้วานให้ชาแมนมาเฝ้ายามผลัดที่สามช่วงใกล้รุ่งเช้าแทนเขา จากนั้นแวมไพร์หนุ่มก็อาศัยมุมมืดของป่า แปลงร่างเป็นแวมไพร์ตัวกระจ้อยที่ไม่รู้จะมีแรงบินได้ไกลแค่ไหน บินตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปสู่ภูมิประเทศแบบป่าชายเลน โชคดีที่ป่าชายเลนมีความยาวเพียงแค่ห้ากิโลเมตรและมีอยู่เพียงฝั่งเดียวของพื้นที่ที่ใช้ในการทำภารกิจ ทำให้ข้อสอบสามารถสโคปพื้นท

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   19 อีกขั้นของความสัมพันธ์

    19อีกขั้นของความสัมพันธ์ บรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ที่ก้าวเดินไปด้วยกันมีแต่ความเงียบสงบ หลังจากที่อาชวินโผล่มาช่วยพาข้อสอบออกจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดตอนนั้น พวกเขาก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันอีก สุดท้ายคนที่ทนความเงียบไม่ไหว ก็เป็นฝ่ายพูดออกไปก่อน “ผมไม่ขอบคุณคุณหรอกนะ” เพราะผู้พันทำให้เขาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ “ไม่ดีใจเหรอที่ได้รู้จักแวมไพร์ตนอื่นเพิ่ม” ข้อสอบหันขวับไปมองคนพูดหยอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แล้วคุณจะรู้สึกดีใจมั้ยล่ะครับถ้าเจอคนอุ้มแล้วพาวิ่งไปด้วยความเร็วสูงแบบนั้น” นักวิจัยหนุ่มแหวใส่ “เหวอออ” ก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างกายลอยขึ้นมาอยู่เหนือพื้น “อุ้มแบบนี้หรือเปล่า” น้ำเสียงเจือรอยขำ ทำให้คนที่กอดคออีกฝ่ายแน่นเพราะกลัวตก จัดการทุบไหล่กว้างของอัลฟ่าหนุ่มเข้าให้หนึ่งป้าบ “คุณนี่มัน...” กวนตีนกว่าที่คิด “อารมณ์ดีได้หรือยัง” ลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก้มเย็น ทำให้ข้อสอบที่เผลอสบตาผู้พันครู่หนึ่งต้องเบนหน้าหลบ ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงไปมากกว่านี้ “ไม่ใช่อุ้

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   18 มนุษย์ก็แค่ของเล่น

    18มนุษย์ก็แค่ของเล่น คนที่นอนมาตลอดทางค่อยๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาหลังจากรู้สึกได้ถึงรถตู้หรูเจ็ดที่นั่งที่จอดนิ่งสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป พอขยับตัวก็รู้สึกได้ถึงเสื้อโค้ทที่ไหลลงไปกองอยู่บนตัก หันไปทางขวาก็เห็นคนที่นั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดทางกำลังเก็บแท็ปเล็ตที่เพิ่งปิดลงใส่กระเป๋า ตั้งแต่ขึ้นรถที่มีเพียงเขา ผู้พัน และคนขับรถมา ผู้พันอาชวินก็ไม่ซักถามอะไรสักคำ เอาแต่บอกให้เขานอนพักผ่อนให้เต็มที่ คนที่เตรียมใจว่าจะโดนดุเลยได้แต่แกล้งหลับตาอย่างงงๆ จนสุดท้ายก็เผลอหลับไปเอง หลับยาวจนมาตื่นเอาตอนนี้ “ขอบคุณครับ” ข้อสอบยื่นเสื้อโค้ทคืนให้กับคนที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของ หัวใจอุ่นวาบนิดหน่อยกับความห่วงที่อีกฝ่ายแสดงออกมาทั้งตอนที่ฝากนาทีเอายามาให้ และตอนนี้ “วันนี้ก็พักผ่อนซะเยอะๆ ล่ะ พรุ่งนี้ไปฝึกแค่ช่วงเช้าชั่วโมงเดียวพอ” จริงๆ อาชวินไม่อยากให้ข้อสอบมาฝึกต่อเลยด้วยซ้ำ แต่การจะให้คนตัวเล็กอยู่ใกล้ๆ กับเขาได้ ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น “เดี๋ยวก่อน” ผู้พันหนุ่มจับข้อมือ รั้งร่างของคนที่กำลังจะเปิด

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   17 คนเนื้อหอม

    17คนเนื้อหอม หากเด็กตรงหน้าอายุมากกว่านี้ล่ะก็... คนอื่นคงนึกว่ามีสาวหนีตามเขามาแน่ “ทำไมหนูถึงมาที่นี่ล่ะ” หลังจากที่เรียกเด็กหญิงวัยเก้าขวบนามว่าตัวเลขเข้ามาในบ้าน เพื่อป้องกันการครหานินทาจากเหล่าเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว ข้อสอบก็เริ่มเปิดประเด็นทันที “หนูหิวค่ะ” พรืดดด แขนที่กำลังกอดอกอยู่อย่างคนจริงจังเลื่อนไถลไปบนโต๊ะหน้าโซฟาตามอาการเซของตน ทำไมเขาต้องเจอแต่คนที่ชอบไม่ตอบคำถามเขาก็ไม่รู้ เห็นกิริยาท่าทางของเด็กคนนี้แล้ว นึกถึงใครบางคนขึ้นมาตงิดๆ ถ้าบอกว่าเป็นพ่อลูกกันเขาคงจะเชื่อได้ง่ายๆ สุดท้ายนักวิจัยหนุ่มเลยต้องกระเตงตัวเลขไปฝากท้องที่ร้านป้าอ้วน ซึ่งอยู่นอกเขตทหาร “อ้าว ข้อสอบ หายไปไหนตั้งนาน นึกว่าจะลืมร้านป้าไปเสียแล้ว” แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งที่กำลังควงตะหลิวโชว์ลีลาการผัดคะน้าน้ำมันหอยอยู่ ร้องทักดังลั่น “แล้วนี่เด็กที่ไหน น้องสาวเหรอ น่ารักน่าชังน่าเอ็นดูจริงเชียว” “ครับ” ตอบรับอย่างขี้เกียจอธิบาย ก่อนจะหันไปบอกเด็กที่แต่งตัวสีขาวดำเหมือนเดิมซึ่งยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง “อยากกินอ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   16 เสพติดความเย็น

    16เสพติดความเย็น ท่ามกลางแสงสลัวของสุสานร้างกลางป่า ที่มีลมโชยและเสียงอีการ้องคลอเป็นระยะๆ มีร่างเปลือยเปล่าสองร่างเกาะเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนบนโลงศพ ความรู้สึกคับแน่นของการถูกสองนิ้วใหญ่ชำแรกเข้ามาในช่องทางเบื้องหลัง ดึงข้อสอบลงมาจากห้วงความฝันที่ล่องลอยอยู่จากการเล้าโลมอันช่ำชองของคนแก่กว่า อัลฟ่าหนุ่มค่อยๆ ขยับมือที่ชโลมไว้ด้วยเจลหล่อลื่นเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อมของคนที่ยังไม่เคยมาก่อน ปากทางสีชมพูสวยที่บานเข้าออกตามการขยับนิ้วของเขา มันช่างดึงดูดซะจนอยากจะจับแก่นกายยัดลงไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่หน้าตาเหยเกของร่างข้างใต้ ทำให้ผู้พันหนุ่มได้แต่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เขาพรมจูบตามเปลือกตา ขมับ ข้างแก้ม จูบริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดซับความอึดอัดของอีกฝ่ายมาไว้กับตัว จากสองนิ้วก็เพิ่มเป็นสาม มืออีกข้างจับเข้าที่แก่นกายขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เท่าของเขา เพื่อช่วยเพิ่มความหฤหรรษ์ให้คนที่กำลังจะต้องทนรับความเป็นจริงในอีกไม่กี่อึดใจ เมื่อนิ้วมือแกร่งหลุดออกมา ปลายลำของเขาก็ถูไถเบาๆ บนปากทางรักสีหวาน คนที่ถูกเล้าโลมจนเสียวซ่านอยากจะ

  • Bite & Suck เมื่อผมคืนชีพเป็นแวมไพร์ (Omegaverse)   15 แก้ทาง

    15แก้ทาง คราวนี้ข้อสอบมั่นใจในมนต์สะกดที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีของตัวเองมาก ดวงตาอันแดงก่ำในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการทนกลิ่นเลือดไม่ไหว แต่เป็นการที่เขาฝึกฝนตัวเองจนสามารถควบคุมการสะกดจิตได้ สีหน้าและท่าทางของผู้พันตัวโตพลันเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เหมือนกับครั้งแรกๆ ที่เขาสะกดอีกฝ่ายซะจนอยู่หมัด ฝ่ามือซีดขยับโบกไปมาหน้าดวงตาคมเข้ม ก่อนจะจับมือซ้ายที่สวมถุงมือสีขาวอยู่ยกขึ้นลงเหมือนเล่นกับตุ๊กตา ไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อต้านของร่างใหญ่ให้เห็น “หึ อัลฟ่าหรือจะสู้แวมไพร์” คนที่ใจพองโตกับความรู้สึกของการกลับมาเป็นผู้ล่าอีกครั้ง ใช้มือทั้งสองกดบ่ากว้างของคนที่นั่งอยู่ไว้แน่น เขี้ยวเล็กสองซี่ที่โผล่ขึ้นมาฝังลงไปบนลำคอแกร่งที่ยังคงเผยให้เห็นเส้นเลือดสวยไม่ต่างจากเดิม ของเหลวสีแดงที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานแพร่กระจายความอุ่นวาบลงสู่หลอดอาหาร ระเบิดรสชาติกลมกล่อมซาบซ่านในปากจนถึงคอ กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งร่างให้เปิดออก หลังจากดื่มไปในปริมาณที่เพียงพอแล้ว ข้อสอบก็หยุดยั้งตัวเองได้อย่างเฉียบขาดอย่างแวมไพร์มืออาชีพ ไอ้อยากน่ะก็อยากอยู่หรอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status