1 เดือนต่อมา
ช่วงนี้ชีวิตของฉันแฮปปี้มาก พี่เจนที่ทำงานที่ร้านกาแฟก็ดูแลฉันดีมาก ไหนจะพี่ทิพย์อีก ที่คอยถามไถ่และดูแลฉันอย่างดีเสมอ
“พี่เจนขา~” ฉันเรียกพี่เจนด้วยเสียงหวาน
“ขา~ หนูฟ้าคนสวย” พี่เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารักไม่แพ้กัน
“อุ๊ย! เขินจัง”
“วันนี้ฟ้ามีงานที่มหาวิทยาลัย คงเข้ามาค่ำๆ นะคะ” ฉันบอกพี่เจนตามจริง ที่ร้านนี้จะคิดค่าแรงตามชั่วโมงที่ทำงาน วันไหนว่างก็มา เวลาไหนก็ได้ตามสะดวก
“ได้จ้ะ ตั้งใจทำงานนะน้องฟ้า”
“ขอบคุณค่ะ ฟ้าไปก่อนนะ จุ๊บๆ”
ตอนนี้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พี่วินหน้าคอนโดนี่แหละที่คอยรับส่งฉันเวลาไปไหนมาไหน...
ส่วนไอ้คุณกองทัพล่ะ? ตั้งแต่ฉันได้ที่อยู่ใหม่ เขาก็ไม่ค่อยได้มารับมาส่งฉันบ่อยนัก บางวันก็แอบไปส่งสาวๆ ตามประสาคนหล่อ มีเพื่อนหล่อแถมรวยก็ต้องทำใจค่ะ
Ray Part
“ไอ้เรย์! มึงชวนพวกกูมาฉลองที่ร้านเพราะได้กำไรดี แต่ตัวมึงดันสนใจแต่น้องโคนมเนี่ยนะ!” ไอ้เตอร์… ก่อนที่มึงจะพูดอะไร ดูตัวเองหน่อยเถอะ นั่นก็พันธุ์โคนมดีๆ เหมือนกันนั่นแหละ
“มึงดูตัวเองก่อนดีไหม ก่อนจะไปว่ามัน” เยี่ยมมากบิล วันนี้พูดได้ถูกใจสุดๆ ไอ้เพื่อนรัก
“เพื่อนบิลพูดถูก”
“ทีอย่างนี้ละเพื่อนบิลๆ สัส!” อ้าว... กูชมเพื่อนแท้ๆ ดันโดนด่าซะงั้น น่าน้อยใจจริงๆ
หลังจากที่เรียนจบแล้ว ผมก็ตัดสินใจอยากหาอะไรทำ เลยไปคุยกับพ่อแม่ว่าอยากเปิดผับ ท่านก็อนุญาต ตอนนี้ผับของผมทำกำไรได้มากมายมหาศาล วันนี้เลยชวนพวกมันมาฉลองกันหน่อย ยกเว้นไอ้ธีม ที่ไม่ยอมมา เอาแต่นั่งซึมกอดขวดเหล้าอยู่คนเดียว ตั้งแต่เมียกับลูกมันหนีไป
ขอแนะนำตัวหน่อย ผมชื่อ ‘เรย์’ รูปหล่อ พ่อรวย มีสาวๆ สวยๆ เพียบ! แค่กระดิกนิ้ว พวกเธอก็พร้อมจะขึ้นเตียงกับผม ผมเป็นคนกวนๆ ขี้เล่น ปากหวานมาก โดยเฉพาะกับสาวๆ สโลแกนของผมคือ “คืนเดียวจบ ไม่คบไม่ผูกพัน” สาวๆ ทุกคนต้องจำไว้ให้ดี
“แล้ววิวมันไปไหนวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ก่อนที่เรื่องจะเข้าตัวอีก
"โน่น" ไอ้เตอร์ชี้ให้ดู ผมหันไปตามทิศทางที่มันบอก ก็เห็นวิวกำลังเต้นอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่ม ตั้งแต่อิงหนีไอ้ธีมไป เวลามาเที่ยวกับพวกเรา วิวมักจะไม่ค่อยสนุก มันเลยไปคุยถูกคอกับเพื่อนใหม่อีกสองคน หนึ่งในนั้นเป็นสาวสอง และอีกคนเป็นผู้หญิงสวย แต่ปากหมา วันนี้พวกเขาก็มาด้วยกัน แต่แยกออกไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ เพราะถ้าอยู่โต๊ะเดียวกับพวกเรา จะไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบพวกเขา
“เรย์ขา~” กำลังนั่งคุยกันอยู่ดีๆ เสียงหวานๆ ของสาวโคนมอีกคนเรียกผมขณะกำลังคุยกับเพื่อนๆ
“ว่าไงคะ เบบี๋” ผมตอบรับทันที คืนนี้ยังไงก็พร้อม
“มินนี่มาหาแล้วค่ะ” เธอบอกก่อนจะเดินเข้ามาใกล้และนั่งลงบนตักผมอย่างยั่วยวน
“ไม่ลืมหรอกครับ เบบี๋” ผมพูดจบก็ก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม มือก็ลูบไล้ไปตามร่างกาย ก่อนจะบีบหน้าอกที่ผ่านหมอมาไม่รู้กี่ครั้ง มันใหญ่จนล้นชุดออกมาครึ่งเต้า
“อะ อื้อ อ๊ะ…เรย์ อ่าส์” หึ! ฟังจากเสียงครางแล้วคงอยากโดนไม่น้อย
“ไอ้เชี่ยเรย์! มึงไปเอากันให้เสร็จไปเลย” ไอ้บิลพูดขึ้น ไอ้นี่ก็ไม่เบา! เห็นเงียบๆ แต่มันเก็บเรียบนะครับ
“งั้นไปต่อที่ห้องกันนะเบบี๋” ผมบอกแล้วดันตัวเธอขึ้น พอเดินมาถึงหน้าห้องทำงานผม เธอก็รีบเข้ามาประกบปากจูบผมอย่างเร่าร้อน
“อ๊ะๆ เรย์ขา~ มินนี่ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊ะ…”
“ได้เลย รับรองถึงใจ”
คอนโดFah Part เฮ้อ…เหนื่อยจัง ทั้งงานโปรเจคที่มหาวิทยาลัย ไหนจะงานที่ร้านกาแฟอีก ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนที่พักที่คอนโดนี้ แถมยังมีคนนอกเข้ามานั่งจิบกาแฟที่ร้านด้วย แต่ละวันแทบไม่ได้พักเลยครืด ครืด ครืด“ฮัลโหล~” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างที่ชอบทำหลังจากเห็นชื่อที่หน้าจอ(เลิกงานแล้วเหรอ ไปกินข้าวกัน) กองทัพ โทรเข้ามาทุกวันเช่นเคย“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เหนื่อยด้วย” ฉันที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนโซฟาตอบอย่างเกียจคร้าน(ใจร้าย)“วันหลังเถอะ จะได้ไปหาซื้อพวกอุปกรณ์ทำงานด้วย” เวลามีงานโปรเจค กองทัพนี่แหละที่พาไปหาซื้อของ(ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้นะ จะได้รีบทำไว้แต่เนิ่นๆ) กองทัพตอบรับ“อื้ม งั้นแค่นี้นะ”(ฝันดีนะฟ้า)“เช่นกัน กองทัพ”หลังวางสายจากกองทัพ ฉันก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทำงานต่อ เช้าก็เรียนและทำงาน ตกดึกก็ทำการบ้านและอ่านหนังสือ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถ้าเกรดตกอาจโดนไล่ออกจากทุนฟรีก็ได้ ดังนั้นฉันต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเช้าวันต่อมาวันนี้ฉันลางานที่ร้านกาแฟ 1 วัน เพราะต้องไปหาซื้อของกับกองทัพ และยังมีเรียนอีกด้วย วันหนึ่งมีหลายเรื่องให้ทำจนแทบไม่มีเวลาว่าง“ตกลงจะไปที่ไหน?” ฉันถา
วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน ก็อาทิตย์นึงจะมีวันหยุดตั้งสองวัน ขอทำงานให้เต็มที่หน่อย อยู่เฉยๆ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ ฮ่าๆ“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” ฉันกล่าวทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ“เอาเอสเพรสโซ่ร้อนที่หนึ่งครับ” เขาพูดเสียงเรียบพลางก้มมองโทรศัพท์“ได้ค่ะ เชิญคุณผู้ชายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ แล้วเขาก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตามที่ฉันบอกผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนใจดี แต่ทำไมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้“แหนะ...นินทาลูกค้าอยู่ล่ะสิ” พี่เจนที่กำลังชงกาแฟหันมาพูดล้อฉัน“เปล่านะคะ ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย”“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เรานี่ร้อนตัวเชียว ฮ่าๆ” พี่เจนหัวเราะเบาๆ3 นาทีผ่านไป“เสร็จแล้ว ยกไปเสิร์ฟได้จ้ะ” พี่เจนพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยกาแฟใส่ถาดให้ฉัน“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกถาดกาแฟเดินไปที่โต๊ะของลูกค้า พยายามรักษามารยาทตามที่พี่เจนสอนมา“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ“.....”เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิมพอเสิร์ฟเสร็จฉันก็รีบเดินกลับมาที่เดิมทันที...“เขาพึ่งมาเหรอคะพี่เจน? ฟ้าไม่คุ้นหน้าลูกค้
หลังเลิกงานเมื่อเลิกงานแล้ว ฉันก็แวะไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง มันถูกและประหยัดกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป ซื้อทีนึงก็ทำกินได้หลายวัน“จะทำอะไรกินดีน้า” ฉันพูดกับตัวเองขณะเข็นรถเข็นไปตามทางเดิน“เอาแค่นี้แล้วกัน” ฉันเลือกของเสร็จแล้วก็มาจ่ายเงิน จากนั้นรีบเดินกลับคอนโดทันที โชคดีที่ซูเปอร์กับคอนโดฉันอยู่ไม่ไกลกัน แค่ข้ามถนนมาก็ถึงแล้ววันต่อมาสายแล้ว! วันนี้ต้องโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ก็สายแล้ว ฮือ...ทำไงดี ไหนจะของที่ต้องหอบไปเรียนอีก เยอะกว่าปกติมาก นั่งวินไปคงลำบาก งั้นแท็กซี่แล้วกัน หวังว่าใกล้แค่นี้เขาจะยอมไปส่งนะ“ไปมหาลัยค่ะ...ด่วนๆ เลยพี่” ฉันบอกคนขับแท็กซี่อย่างเร่งรีบทันทีที่ขึ้นรถได้คนขับพยักหน้าแล้วออกรถทันที ฉันนั่งลุ้นในใจ หวังว่าจะไปทันก่อนที่อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียน สัปดาห์นี้เพิ่งเริ่มต้นเอง ฉันไม่อยากเริ่มด้วยการถูกดุหรือเสียคะแนนไปพอรู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเข้าเรียนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินไปที่โรงอาหารของคณะ หวังว่าจะหาอะไรลงท้องก่อน มาสายแถมข้าวก็ยังไม่ได้กิน ชีวิตหนอชีวิต...“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับน้องฟ้า” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ฉ
หลังจากเลิกคลาส ฉันก็รีบไปคุยรายละเอียดกับอาจารย์ทันที อาจารย์บอกให้ฉันทำโปรเจคนี้เพราะเห็นว่าถ้าลูกค้าถูกใจ เขาจะจ่ายไม่อั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่เขาอาจไม่ถูกใจก็ได้ แถมงานนี้ต้องออกแบบร้านเหล้า ซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ทั้งชีวิตเคยเข้าผับแค่ครั้งเดียว แต่ก็รับปากไปแล้วว่าจะทำ... ถอนตัวทันไหมเนี่ย?“นี่คือรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลติดต่อของลูกค้า” อาจารย์ยื่นเอกสารสามสี่แผ่นให้ฉัน“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ สู้ๆ นะ เก่งๆ อย่างเธอไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้ฉันช่วยดูก็บอกได้เสมอ”“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันกล่าวลาและเดินออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วตรงไปหากองทัพที่นั่งรออยู่หน้าตึก“เป็นไงบ้าง ได้งานไหม?” พอฉันมาถึง กองทัพก็ถามทันที“อืม ได้แล้วล่ะ ขอบคุณนายนะที่ช่วยแนะนำ”“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ปะ กลับกัน เดี๋ยวไปส่ง” กองทัพพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยฉันถือของแล้วพาเดินไปที่รถคอนโดพอมาถึงห้อง ฉันก็นั่งลงและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบภายในที่ได้รับมอบหมาย เขากำหนดเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ คิดว่าน่าจะทัน มีเวลาตั้ง
อาจารย์หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า “สวัสดีจ้ะ นี่คือคุณลูกค้าที่เธอจะต้องนำเสนอแบบงานให้เขาดู”“นี่คุณบิลนะ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย” อาจารย์แนะนำเขาให้ฉันรู้จัก“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ให้เร็วที่สุด ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเชียว ต้องทำตัวดีๆ“สวัสดีครับน้องฟ้า” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง“เชิญนั่งก่อนครับ” เขาบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม แต่เสียงเขาไม่เหมือนกับที่คุยกับฉันวันนั้นเลยนะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ?“มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าฉันจ้องหน้าเขานานเกินไป“ไม่มีค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันรีบขอโทษ เกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ แล้วเกิดยกเลิกทุนเรียนฟรีของฉันขึ้นมาจะทำยังไง“ผมไม่ได้เป็นคนที่จะซื้อแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพื่อนผม วันนี้มันติดงานด่วน ก็เลยให้ผมมาแทน” เขาอธิบายอย่างสุภาพ“อ๋อค่ะ นี่ค่ะ แบบที่ฉันออกแบบไว้…” ฉันยื่นแบบให้เขาดู พร้อมกับใจที่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง คนที่สั่งแบบไม่มา คนที่มาดูกลับไม่ใช่คนสั่ง“อาจารย์มีเด็กฝีมือดีแบบนี้ ทำไมไม่เคยบอกผมเลยครับ” เขาพูดพลางดูแบบในมืออย่างตั้ง
“สามหมื่นเลยเหรอคะ?”“นี่ถือว่าน้อยไปแล้วนะ เพราะยังไงเธอก็ไม่ยอมรับมากกว่านี้ เอาเป็นว่าถ้ามีงานออกแบบอีก ผมจะติดต่อผ่านอาจารย์นะครับ ผมขอตัวก่อน” เขาพูดจบก็เดินออกไปทันที ทำให้ฉันไม่สามารถปฏิเสธได้อีกอาจารย์หันมาพูดกับฉันอย่างเหนื่อยๆ “รับๆ ไว้เถอะฟ้า ถ้าเธอเข้าใจมากกว่านี้จะรู้ว่ามันมีค่ามากนะ”“ขอบคุณนะคะอาจารย์” ฉันพูดด้วยความซาบซึ้งยกมือขึ้นไหว้อาจารย์อาจารย์ยิ้มบางๆ “เอาไว้มีงานออกแบบอีกจะบอกนะ แล้วคราวหน้าอาจารย์จะช่วยตีราคาให้ก่อนนำไปให้ลูกค้า ต่ำสูงยังไงจะได้พิจารณาถูก”ฉันคุยกับอาจารย์สักพักก็เดินออกมา เมื่อได้เช็คแล้ว ฉันตัดสินใจไปขึ้นเงินและเก็บเข้าบัญชีทันที สามหมื่นบาทถือว่าเยอะมากสำหรับฉัน ถือว่าเป็นงานใหญ่ชิ้นแรกที่สำคัญที่สุดในชีวิต ส่วนเงินนี้จะเก็บไว้ในบัญชี คงไม่ได้ใช้อะไรมากมายขนาดนั้น ที่ทำงานอยู่ตอนนี้ก็พอใช้ได้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันยิ้มออกมาไม่หุบเลยทีเดียวRay Partวันนี้ผมมีนัดดูงานเขียนแบบของเด็กชื่อฟ้า รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย เธอรับทำงานออกแบบให้ผม แต่ดันมีนัดกับสาวๆ ซะก่อน เลยต้องให้ไอ้บิลไปคุยแทน พร้อมกับเช็คอีกหนึ่งแสนบาท สำหรับผม แค่นี้จิ๊บๆ เพร
เสียงเบรกดังสนั่น ฉันตกใจจนตัวแข็งทื่อ! รถคันนั้นพยายามหักหลบอย่างรวดเร็ว โชคดีที่รถแท็กซี่ของฉันไม่เป็นอะไร แต่รถคันนั้นกลับเสียหลักพุ่งชนต้นไม้อย่างแรง เสียงกระแทกดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณฉันยืนนิ่งด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวในอก ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป... ฉันเผลอทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างนี้ ฉันต้องรับผิดชอบยังไงดี?คนขับรถคันนั้นค่อยๆ ออกมาจากรถ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาเขา หัวใจยังเต้นระรัวเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“ขะ...ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ!” ฉันพูดเสียงสั่น พยายามหายใจเข้าออกช้าๆ ยกมือไหว้เขาอย่างประหม่า สายตาของเขาจ้องมาที่ฉันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขายืนหายใจแรงๆ มองมาที่ฉัน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ“เธอไม่ดูเลยหรือไงว่ารถกำลังมา! รู้ไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน จะลงรถก็หัดแหกตาดูหน่อยว่ามีรถมั้ย ไม่ใช่นึกอยากจะเปิดตอนไหนก็เปิด!” ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางสายฝน รู้สึกหน้าชาและใจเสียเต็มที่ ไม่รู้จะตอบอะไรดี นอกจากพูดคำขอโทษซ้ำๆ เท่านั้น“ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะคะ ฉ
ฉันถอนหายใจเบาๆ รู้สึกว่าถูกกดดันให้ยอมรับข้อเสนอ แต่ถ้ามันจะทำให้เรื่องนี้จบลงโดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมาก ฉันก็อาจต้องยอมไปตามน้ำ“โอเคค่ะ แค่แก้วเดียวนะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงยอมจำนน หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดีนะฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยว่าจะดื่มกับพวกเขา แต่เขากลับชงเหล้าและยื่นมาให้ฉันอย่างไม่รอคำตอบ ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจเขาได้ไหม แต่ถ้าเขายอมยกค่าเสียหายให้ การดื่มสักแก้วก็คงไม่เสียหายมาก...หรือเปล่า?“รับสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ ฉันจึงต้องรับแก้วมาอย่างจำยอม“เธอชื่ออะไรนะ” เขาถามฉัน“ชื่อฟ้าค่ะ”“ฉันเรย์นะ ส่วนนี้ไอ้เตอร์ ส่วนไอ้บิลเธอคงรู้จักแล้ว” เขาแนะนำทุกคนบนโต๊ะให้ฉันรู้จักและพี่บิลก็คือคนที่ไปเอาแบบวันนั้น"สวัสดีค่ะ พี่เตอร์ พี่บิล" ฉันยกมือไหว้พวกพี่เขา คนที่ชื่อพี่เตอร์พยักหน้าส่วนพี่บิลก็ส่งยิ้มให้ จากนั้นฉันก็นั่งโง่ๆ มองแก้วเหล้าอยู่แบบนั้น“แล้วทำไมไม่ดื่มล่ะ?” เขาย้ำอีกครั้ง เหมือนจะให้ฉันดื่มให้ได้เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วฉันตัดสินใจยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว รสชาติขมและแย่กว่าที่ฉันคิด ทำไมคนถึงชอบดื่มกันจังนะ?“
“จะกลับบ้านไปอยู่กับแม่ปอง อึก!” เสียงสะอื้นของเธอทำเอาผมเจ็บในใจ“จะกลับได้ไง...”“กลับได้สิ ในเมื่อนายไม่ได้รักฉัน ที่นายอยู่กับฉันก็อาจจะเป็นเพราะแค่ความต้องการ นายคงไม่เข้าใจหรอกว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันเจ็บ” เธอพูดเร็วเหมือนกลัวว่าผมจะแย่งพูด“ใครบอกว่าฉันไม่รู้สึก ใครบอกว่าฉันไม่รัก? ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ!” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมรู้ว่าผมผิดที่ทำให้เธอเข้าใจแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมเสียเธอไปแน่ๆเธอมองหน้าผมนิ่งๆ ทั้งน้ำตา กัดริมฝีปากแน่น ความเจ็บปวดสะท้อนในดวงตาของเธอ“ฟ้า...ฉันรักเธอนะ” ผมพูดออกไปในที่สุด ทั้งหมดที่อยู่ในใจมันถูกปลดปล่อยออกมาเสียที ผมยอมเธอมาตั้งนานแล้ว ยอมที่จะรักเธออย่างหมดหัวใจ และตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องพูดทุกอย่างออกมาให้ชัดเจน“ขอโทษ... ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ขอโทษที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกเธอเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าฉันจะทำผิด” คำขอโทษที่ผมไม่เคยคิดจะพูดกับเธอ มันออกมาจากปากผมแล้วตอนนี้ ด้วยความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ในใจมาตลอด ความรู้สึกผิดที่ก่อตัวอยู่ในใจผมมันหนักอึ้งมาตลอด ผมรู้ตัวว่าตัวเองพลาด ผิดที่ทำให้เธอเจ็บ ผิดที่ไม่เคยพูดสิ่งที่
“หนูฟ้า มาหาแม่สิลูก” ฟ้าที่ถูกเรียกถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่รอช้า เธอลุกจากที่นั่งแล้วเดินมานั่งลงบนพื้นตรงหน้าแม่ของเรย์อย่างนอบน้อม“อุ๊ย! ขึ้นมานั่งข้างแม่มาสิลูก” แม่ของเรย์พูดด้วยความตกใจเมื่อเห็นฟ้านั่งบนพื้น ก่อนจะจับไหล่บางและพยุงเธอขึ้นมานั่งข้างๆ“แม่ขอโทษนะ ทั้งสองคนเลย” แม่ของเรย์เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แล้วหยุดเล็กน้อยเพื่อมองหน้าฟ้า“เอาเป็นว่า...หนูฟ้า มาเป็นลูกแม่อีกคนนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและใจดี ฟ้าที่นั่งเกร็งมาตลอดถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความตื้นตัน“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฟ้าพูดพร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะก้มลงกราบที่อกของแม่เรย์ จากนั้นเธอก็ได้รับอ้อมกอดอันอบอุ่นจากคนที่เคยเป็นแม่สามีในความคิด ร่างเล็กของฟ้าสั่นเล็กน้อยด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอก็ได้รับการยอมรับพ่อของเรย์และเรย์ที่นั่งมองอยู่ต่างก็โล่งใจ เรย์ยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แม่ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ฟ้ามีเรียน เดี๋ยวจะสาย”“ได้จ้ะลูก วันหลังมาหาแม่นะ มาค้างที่บ้าน เอ่อ...อันที่จริง กลับมาอยู่กันที่บ้านก็ดีนะ” แม่พูดด้วยความอ่อนโยน“เอาไว้ค่อยว่ากันครับแม่ ผมกับน้องขอตัวก่อนน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นมาในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นและคุ้นเคยของเขา ความสุขมากจนไม่อาจอธิบายได้ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคงถอนตัวจากเขาไม่ได้ ฉันรักเขาหมดหัวใจ ฉันเงยหน้ามองใบหน้าของเรย์ที่หลับสนิท ขนาดหลับเขายังดูหล่อเหลือเกิน“มองขนาดนั้น ไม่กินฉันเข้าไปเลยล่ะ” เสียงของเขาดังขึ้น ฉันตกใจไม่น้อย“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฉันถามด้วยความเขิน“ตื่นนานแล้ว ตื่นก่อนจะรู้ว่ามีคนแอบมองตั้งนาน”“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ วันนี้ฉันมีเรียน” ฉันรีบหาข้ออ้าง แอบเขินกับสายตาของเขา“ก็เห็นหลับอยู่เลยไม่อยากกวน”“ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน” ฉันรีบลุกขึ้น แต่เขากลับพลิกร่างฉันลงบนเตียงแล้วคร่อมไว้ รวบมือทั้งสองข้างของฉันขึ้นเหนือศีรษะ นัยน์ตาสีดำขลับทอประกายร้อนแรงทำเอาฉันเขินอายไปกับสายตาของเขาจุ๊บ!เขาจูบลงมาที่หน้าผากฉันเบาๆ สัมผัสของเขาทำให้รู้สึกอุ่นซ่านเข้ามาในหัวใจ ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ฉันเขินอายเกินกว่าจะสบตาเขา และเอียงหน้าหนีเขาขำเบาๆ แล้วกดจมูกโด่งลงมาบนแก้มใสหนักๆ แล้วขยี้อย่างมันเขี้ยวทำเอาฉันจั๊กจี้แล้วหัวเราะออกมาเพราะหนวดเคราที่เริ่มขึ้น ฉันยกมือขึ้นดันใบหน้าคมออกหัวเราะไม่หยุดจนน
“น้องออกไปเที่ยวกับเพื่อน วันนี้คงค้างบ้านเพื่อนเลย” แม่ของพี่เรย์ตอบ แต่นัยน์ตายังคงจับจ้องมาที่ฉันไม่วาง ยิ่งเห็นพี่เรย์จับมือฉันแน่นไม่ปล่อย สายตาของเธอก็ยิ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจมากขึ้นไปอีก“แม่ครับ ผมถามอะไรแม่อย่างได้ไหมครับ” พี่เรย์เอ่ยถามเสียงเรียบ“ได้จ้ะ ถามมาเลย” แม่พี่เรย์หันไปมองพี่เรย์แล้วยิ้มออกมา“ถ้าเกิดสมมติว่า...ลูกสะใภ้คนโปรดของแม่ แอบทำเรื่องไม่ดีลับหลัง แถมยังไปนอนกับผู้ชายคนอื่นทั้งๆ ที่หมั้นกับผมแล้ว แม่จะทำยังไงครับ?”“ขนาดแกยังนอนกับคนอื่นได้เลย” พอแม่เขาได้ยินสิ่งที่พี่เรย์ถามสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แล้วตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่บอกให้รู้เลยว่าไม่พอใจ พลางหันมามองฉันอย่างตำหนิ ฉันก้มลงมองมือตัวเองรู้สึกถึงความอึดอัดปะทะใบหน้าจนอยากจะลุกออกไปจากตรงนี้แต่พี่เรย์ก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆ“มันไม่เกี่ยวกับฟ้า ผมบอกแล้วไงว่าเราเป็นแฟนกัน และผมก็ไม่ได้อยากหมั้นกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรก แต่แม่ยังจะยอมรับอยู่ไหม ถ้ามันเป็นแบบที่ผมพูด?” เรย์ถามต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง“หนูฟางข้าวไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ แม่รับรองได้ แม่เป็นแม่ แม่ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่แล้
“สวัสดีทุกคน”“อืม /ดีปราง” พี่เตอร์กับพี่เรย์เอ่ยทักทาย“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้และทักทายด้วยรอยยิ้ม พี่ปรางยิ้มตอบกลับอย่างเป็นมิตร แล้วหันไปมองพี่บิลด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ก่อนจะพูดขึ้น“ยืมรถหน่อยดิ จะกลับบ้าน”“ไม่มีทาง!” พี่บิลตอบเสียงแข็ง หน้าตาดูไม่พอใจนัก“รถฉันเสีย...”“เรื่องของเธอสิ” พี่บิลยังไม่ทันให้พี่ปรางพูดจบก็สวนขึ้น“โอเค ได้..กลับก่อนนะทุกคน” พี่ปรางตัดบทแล้วเดินออกไปแบบไม่สนใจอะไรอีก“อะไรของพวกมึงนักหนาวะ” พี่เรย์ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ฉันเองก็สับสนเหมือนกัน“จะไปไหน?” ฉันถามอย่างงงๆ เมื่อเห็นพี่เรย์ยืนขึ้น“กลับบ้านสิ ลุก!” เขาบอกพร้อมกับดึงให้ฉันลุกแล้วก็จับมือพาฉันออกมาบนรถ“พี่เรย์..จะไม่หายโกรธฉันจริงๆ เหรอ?” ฉันถามเขาขณะที่เขากำลังสตาร์ทรถ มันนานเกินไปแล้วที่เขาทำตัวเย็นชาแบบนี้ มันไม่โอเคเลย“ถ้าไม่หายโกรธ ฉันจะคอยพาไปนั่นไปนี่เหรอ?”“ไม่จริงหรอก การกระทำพี่อาจจะใช่ แต่มันไม่ทั้งหมดไงแล้วคำพูดที่พี่พูดก็ไม่เหมือนเดิม บอกฉันสิว่าฉันต้องทำยังไง” ฉันพูดด้วยความอัดอั้นมองพี่เรย์อย่างมีความหวัง แต่พี่เรย์ก็ยังเงียบพรึบ!ฉันตัดสินใจปืนข้ามไปนั่งบนตักเขา หั
Ray Partหงุดหงิด!! โกรธทั้งโมโห ผมอยากจะฆ่าไอ้บ้านั่นให้ตายตรงนั้นเลย กว่าผมจะรู้ที่อยู่ของมันก็เกือบจะสายเกินไป ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครร่วมมือกับมัน!ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ หวังว่าจะดับไฟความโกรธในใจได้บ้าง ถามว่าผมโกรธมั้ยที่ฟ้าโกหก บอกเลยว่าโกรธมาก แต่ก็ห่วงมากฉิบหายเหมือนกัน ก็แค่บอกผมสักคำว่าจะไปกับมัน ไปงานวันเกิดบ้าๆ อะไรก็ช่าง! แค่บอกให้ผมรับรู้บ้าง ถ้าไม่ได้ไอ้เตอร์ช่วย เธอคงไม่รอดแน่ๆ ผมให้ไอ้เตอร์ไปเค้นถามที่อยู่ของไอ้กองทัพจากเพื่อนมันที่อยู่ในผับของไอ้เตอร์'ถ้ามันไม่บอกก็ฆ่ามันซะ!' นั่นคือสิ่งที่ผมพูดกับไอ้เตอร์ก่อนจะได้ที่อยู่ของกองทัพมา ผมนอนมองฟ้าที่เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จา เดินก้มหน้าไปห้องน้ำ เอ่อ ดี! ไม่คิดจะเล่าอะไรหรือแก้ตัวเลยใช่ไหม?“พี่เรย์ หลับแล้วเหรอคะ” คนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำถามขึ้นหลังจากคลานขึ้นมานอนข้างผม หึ! ตั้งแต่ตอนที่ทำผมโกรธก็พูดเพราะขึ้นมาเชียว พี่เรย์เหรอ..น่ารักชะมัด แต่ผมไม่ยอมหายโกรธเธอง่ายๆ แน่ หายโกรธไวเดี๋ยวก็ดื้ออีก อย่างน้อยต้องให้เธอสำนึกก่อน"พี่เรย์.." เพราะเสียงที่ดังคล้ายจะร้องทำให้ใจแข็งไม
แควก!เสียงเสื้อของฉันถูกฉีกขาด ความกลัวเข้ามาแทนที่ กองทัพไม่สนใจคำอ้อนวอนจากปากของฉันเลย กลับทำตัวป่าเถื่อนยิ่งขึ้น ชุดที่ฉันสวมอยู่ถูกฉีกขาดออกจากร่างอย่างไม่ปรานี“ไม่เอาน่า ร้องไห้ทำไม ไหนๆ ก็เคยมาแล้วนี่” กองทัพพูดด้วยน้ำเสียงหืดหาดในลำคอ เขาดูบ้าไปแล้ว“เธอสวยมากเลยนะฟ้า ไม่เสียดายเลยว่ะที่เลี้ยงเธอไว้ ถึงไม่ซิงก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือ” เขาพูดพร้อมกับก้มลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอฉัน สัมผัสนั้นทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงจนแทบอยากจะหายไปจากตรงนี้ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้? เขายังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหม? ฉันไม่น่าหลงเชื่อคนอย่างเขาเลย สุดท้ายเขาก็เห็นฉันไม่ต่างจากผู้หญิงที่เขาเก็บไว้เล่นสนุก“ไม่! นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! เรย์! เรย์ช่วยฉันด้วย ฮือ... เรย์ นายอยู่ไหน ช่วยด้วย!”ฉันร้องเรียกเรย์ด้วยความสิ้นหวัง ถ้าฉันเชื่อเขาตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ฉันขอโทษที่ไม่ฟังคำเตือนของเขา"กองทัพ… ฮึก! ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ เราเป็นเพื่อนกันนะทัพ" ฉันอ้อนวอนพร้อมหันหน้าหนีจากริมฝีปากที่กำลังซุกไซ้ฉัน“เพื่อน? เพื่อนบ้าบออะไร เธอก็แค่คนที่ฉันเก็บไว้เล่นสนุกๆ เท่านั้นแหละ คิดเหรอว่าฉันจะคบผู้หญิงจนๆ
Ray Partจริงๆ แล้ว ผมไม่ได้อยากทิ้งยัยตัวแสบของผมไว้ที่ห้องคนเดียวเลยนะ แต่ก็พาไปด้วยไม่ได้ เพราะผมต้องกลับไปทานข้าวกับแม่ที่บ้าน และว่าจะเข้าผับต่อ หวังว่าปล่อยให้อยู่คนเดียวคงไม่เป็นไร“มาแล้วเหรอลูก? มาๆ เข้าบ้านก่อน” แม่รีบออกมาต้อนรับทันทีที่ผมลงจากรถ“ครับแม่ วันนี้พ่ออยู่บ้านด้วยใช่มั้ยครับ?”“ใช่จ้ะ”“พี่เรย์ สวัสดีค่ะ! มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนนะคะ” ...ยัยนี้อีกแล้ว! นี่แหละเหตุผลที่ผมไม่ค่อยอยากกลับมาบ้าน เพราะยัยต้นหญ้านี่ไง!“พ่อครับ สวัสดีครับ” ผมไม่สนใจยัยนั้น แต่หันไปหาพ่อที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องรับแขกแทน“สบายดีนะ ไอ้เสือ?”“สบายดีครับ แล้วพ่อช่วงนี้เป็นไงบ้างครับ” ผมกับพ่อไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไรนัก ส่วนมากพ่อจะชอบออกไปกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ตีกอล์ฟกันบ้างตามประสา“ก็เรื่อยๆ นะ คนแก่แล้วก็เป็นแบบนี้แหละ” พ่อหัวเราะเบาๆ“ฟางข้าว หนูไปช่วยแม่จัดโต๊ะดีกว่า ให้สองหนุ่มเขาคุยกัน” แม่พูดพร้อมโอบไหล่ฟางข้าว ว่าที่ลูกสะใภ้ที่แม่รักนักหนา“ค่ะ คุณแม่” ฟางข้าวตอบอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะเดินตามแม่ไป“แล้วกับหนูฟ้าเป็นไงบ้าง?” พ่อถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงว่ารู้เรื่องผมทุกอย่าง“ก็ดีครับ แต่จ
“ยังไม่ชินอีกเหรอ ต้องแรงๆ สิถึงจะมันส์” เขามองฉันอย่างกับจะกลืนกินฉันไปทั้งตัว ตอนนี้เราต่างก็ร่วมรักรุนแรงภายในกระตุกเกร็งเพราะความเสียวที่ไม่อาจทัดทานได้ อารมณ์ราคะที่ครอบงำทำให้ฉันเร่งขย่มเองรัวเร็วไม่แพ้กัน“อ๊ะๆๆ อื้อ! เรย์ เบา..อ๊ะ” เขาเร่งจังหวะตอกสวนระรัว ไม่นานนักเสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ดังลั่นห้องไปหมด ฉันร้องครางออกมาด้วยความเสียว สองมือจิกต้นขาแกร่งแน่นตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยาน“อ๊ะ!! สะ...เสียว”“อืม อ่า..สุดยอดเลยเบบี๋ จุ๊บ”“อื้อ มันเสียวอะ! ชะ...ช่วยเบา อื้อ..เสียว” ฉันบอกเขาพร้อมกับเปลี่ยนไปกอดคอเขา เสียงหวานหลุดออกมาทุกครั้งที่เขากระแทกดุดัน แม้พยายามกลั้นเสียงหวีดร้องแต่มันก็เผลอหลุดออกมาทุกครั้ง พอจะอ้าปากต่อว่ากลับกลายเป็นเสียงหอบกระเส่าน่าอาย"เรย์..ไม่ไหวแล้ว อื้อ.."ฉันร้องขอความเมตตาจนเสียงแหบแห้ง“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ อ่าส์” เขาจับฉันให้นอนราบลงกับเตียงแทนแล้วก็โถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งจนตอนนี้ฉันเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้า“อ่าส์…เรย์ ขยับแรงๆ กว่านี้หน่อย” ตับ ตับ ตับ!“อ๊ะๆ อื้อ”“อะ! เรย์ มะ...ไม่ไหวแล้ว” ด้วยความเสียวซ่าน ฉันจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อถูกกระทั้