วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน ก็อาทิตย์นึงจะมีวันหยุดตั้งสองวัน ขอทำงานให้เต็มที่หน่อย อยู่เฉยๆ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ ฮ่าๆ
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” ฉันกล่าวทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ
“เอาเอสเพรสโซ่ร้อนที่หนึ่งครับ” เขาพูดเสียงเรียบพลางก้มมองโทรศัพท์
“ได้ค่ะ เชิญคุณผู้ชายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ แล้วเขาก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตามที่ฉันบอก
ผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนใจดี แต่ทำไมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้
“แหนะ...นินทาลูกค้าอยู่ล่ะสิ” พี่เจนที่กำลังชงกาแฟหันมาพูดล้อฉัน
“เปล่านะคะ ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย”
“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เรานี่ร้อนตัวเชียว ฮ่าๆ” พี่เจนหัวเราะเบาๆ
3 นาทีผ่านไป
“เสร็จแล้ว ยกไปเสิร์ฟได้จ้ะ” พี่เจนพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยกาแฟใส่ถาดให้ฉัน
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกถาดกาแฟเดินไปที่โต๊ะของลูกค้า พยายามรักษามารยาทตามที่พี่เจนสอนมา
“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“.....”
เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิม
พอเสิร์ฟเสร็จฉันก็รีบเดินกลับมาที่เดิมทันที...
“เขาพึ่งมาเหรอคะพี่เจน? ฟ้าไม่คุ้นหน้าลูกค้าคนนี้เลย” ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ใช่แหละมั้ง พี่ก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกัน” พี่เจนตอบพลางทำหน้านิ่วอย่างครุ่นคิด
เราคุยกันได้สักพักก็มีลูกค้าใหม่เข้ามาในร้าน
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ?” ฉันทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม
“ขอเป็นลาเต้เย็นค่ะ”
“ได้ค่ะ เชิญคุณลูกค้ารอที่โต๊ะได้เลยนะคะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ มองตามผู้หญิงคนนั้นเพื่อที่จะได้รู้ว่าต้องเอาไปเสิร์ฟโต๊ะไหน แต่พอเห็นว่าเธอไปนั่งตรงไหนก็ยิ้มอ่อน
อ๋อ... ที่แท้ก็มารอสาวนี่เอง ฉันคิดในใจ
“ไปเสิร์ฟค่ะ” เสียงพี่เจนดึงฉันออกจากห้วงความคิด
“ค่ะ” ฉันรีบรับคำและยกถาดกาแฟไปเสิร์ฟที่โต๊ะ
“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดขณะวางกาแฟลงบนโต๊ะ
“พี่เรย์คะ ทำไมวันนี้ถึงได้มาหาลูกตาลถึงที่นี่เลยล่ะ” เสียงผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นอย่างอ้อนๆ ขณะที่ฉันกำลังเสิร์ฟ
“คิดถึงน้องลูกตาลไงคะ” เขาตอบกลับด้วยเสียงหวาน หึ! ที่แท้ก็พวกเสือผู้หญิงนี่เอง แล้วทำไมฉันต้องมาสนใจเรื่องของคนอื่นด้วยเนี่ย!
ฉันรีบเดินออกมาทันที ไม่อยากให้พวกเขาคิดว่าฉันเสียมารยาทที่มายืนฟังเขาคุยกัน แต่ก่อนที่จะเดินออกมา ฉันรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนั้นมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆ หรือฉันจะคิดไปเองนะ?
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดทันที แต่คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่น
“ว่าไง ทัพ” ฉันกดรับสายแล้วพูดอย่างเป็นกันเอง
“อยู่ไหน” กองทัพถาม
“อยู่ที่ร้านกาแฟ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เย็นนี้ว่างไหม? ไปเที่ยวกัน” กองทัพถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย
“ไปเที่ยวไหน? ถ้าไปผับ ไม่ไปนะ” ฉันตอบทันที ไปเที่ยวตอนเย็นแบบนี้คงมีที่เดียวที่เขาชอบไป ผับแน่ๆ
“ไปเถอะน่า ไปด้วยกันนะ มีเพื่อนผู้หญิงไปด้วยนะ” เขาพยายามโน้มน้าว ใครคือเพื่อนผู้หญิงที่ว่าล่ะเนี่ย?
“ฟ้าไม่ไปหรอก ทัพไปเถอะ ไว้ครั้งหน้าละกัน” ฉันปฏิเสธ เพราะไม่อยากไปจริงๆ ครั้งก่อนที่ไปก็กลายเป็นเรื่อง เพราะฉันดื่มไม่เก่ง เมาตั้งแต่แก้วแรก แล้วยังต้องให้กองทัพลำบากพากลับมาส่งอีก
“ก็ได้ๆ แต่ครั้งหน้าห้ามปฏิเสธนะ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะทัพ ลูกค้าเยอะมาก”
“โอเคๆ”
ที่จริงแล้วลูกค้าไม่เยอะหรอก ฉันแค่ไม่อยากคุยต่อ เดี๋ยวกองทัพก็จะรบเร้าให้ฉันไปด้วยจนได้ สู้อยู่ทำงานที่ร้านยังดีกว่า รายจ่ายแต่ละเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย
หลังเลิกงานเมื่อเลิกงานแล้ว ฉันก็แวะไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง มันถูกและประหยัดกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป ซื้อทีนึงก็ทำกินได้หลายวัน“จะทำอะไรกินดีน้า” ฉันพูดกับตัวเองขณะเข็นรถเข็นไปตามทางเดิน“เอาแค่นี้แล้วกัน” ฉันเลือกของเสร็จแล้วก็มาจ่ายเงิน จากนั้นรีบเดินกลับคอนโดทันที โชคดีที่ซูเปอร์กับคอนโดฉันอยู่ไม่ไกลกัน แค่ข้ามถนนมาก็ถึงแล้ววันต่อมาสายแล้ว! วันนี้ต้องโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ก็สายแล้ว ฮือ...ทำไงดี ไหนจะของที่ต้องหอบไปเรียนอีก เยอะกว่าปกติมาก นั่งวินไปคงลำบาก งั้นแท็กซี่แล้วกัน หวังว่าใกล้แค่นี้เขาจะยอมไปส่งนะ“ไปมหาลัยค่ะ...ด่วนๆ เลยพี่” ฉันบอกคนขับแท็กซี่อย่างเร่งรีบทันทีที่ขึ้นรถได้คนขับพยักหน้าแล้วออกรถทันที ฉันนั่งลุ้นในใจ หวังว่าจะไปทันก่อนที่อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียน สัปดาห์นี้เพิ่งเริ่มต้นเอง ฉันไม่อยากเริ่มด้วยการถูกดุหรือเสียคะแนนไปพอรู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเข้าเรียนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินไปที่โรงอาหารของคณะ หวังว่าจะหาอะไรลงท้องก่อน มาสายแถมข้าวก็ยังไม่ได้กิน ชีวิตหนอชีวิต...“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับน้องฟ้า” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ฉ
หลังจากเลิกคลาส ฉันก็รีบไปคุยรายละเอียดกับอาจารย์ทันที อาจารย์บอกให้ฉันทำโปรเจคนี้เพราะเห็นว่าถ้าลูกค้าถูกใจ เขาจะจ่ายไม่อั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่เขาอาจไม่ถูกใจก็ได้ แถมงานนี้ต้องออกแบบร้านเหล้า ซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ทั้งชีวิตเคยเข้าผับแค่ครั้งเดียว แต่ก็รับปากไปแล้วว่าจะทำ... ถอนตัวทันไหมเนี่ย?“นี่คือรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลติดต่อของลูกค้า” อาจารย์ยื่นเอกสารสามสี่แผ่นให้ฉัน“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ สู้ๆ นะ เก่งๆ อย่างเธอไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้ฉันช่วยดูก็บอกได้เสมอ”“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันกล่าวลาและเดินออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วตรงไปหากองทัพที่นั่งรออยู่หน้าตึก“เป็นไงบ้าง ได้งานไหม?” พอฉันมาถึง กองทัพก็ถามทันที“อืม ได้แล้วล่ะ ขอบคุณนายนะที่ช่วยแนะนำ”“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ปะ กลับกัน เดี๋ยวไปส่ง” กองทัพพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยฉันถือของแล้วพาเดินไปที่รถคอนโดพอมาถึงห้อง ฉันก็นั่งลงและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบภายในที่ได้รับมอบหมาย เขากำหนดเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ คิดว่าน่าจะทัน มีเวลาตั้ง
อาจารย์หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า “สวัสดีจ้ะ นี่คือคุณลูกค้าที่เธอจะต้องนำเสนอแบบงานให้เขาดู”“นี่คุณบิลนะ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย” อาจารย์แนะนำเขาให้ฉันรู้จัก“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ให้เร็วที่สุด ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเชียว ต้องทำตัวดีๆ“สวัสดีครับน้องฟ้า” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง“เชิญนั่งก่อนครับ” เขาบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม แต่เสียงเขาไม่เหมือนกับที่คุยกับฉันวันนั้นเลยนะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ?“มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าฉันจ้องหน้าเขานานเกินไป“ไม่มีค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันรีบขอโทษ เกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ แล้วเกิดยกเลิกทุนเรียนฟรีของฉันขึ้นมาจะทำยังไง“ผมไม่ได้เป็นคนที่จะซื้อแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพื่อนผม วันนี้มันติดงานด่วน ก็เลยให้ผมมาแทน” เขาอธิบายอย่างสุภาพ“อ๋อค่ะ นี่ค่ะ แบบที่ฉันออกแบบไว้…” ฉันยื่นแบบให้เขาดู พร้อมกับใจที่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง คนที่สั่งแบบไม่มา คนที่มาดูกลับไม่ใช่คนสั่ง“อาจารย์มีเด็กฝีมือดีแบบนี้ ทำไมไม่เคยบอกผมเลยครับ” เขาพูดพลางดูแบบในมืออย่างตั้ง
สังคมในเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างรีบเร่งไปทำหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับฉันในตอนนี้ ที่กำลังจะไปสายเพราะปัญหารถติด!“จะทันไหมเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยืนเบียดอยู่บนรถเมล์ที่แออัดไปด้วยผู้คน“ชิดในหน่อยเพ่! ชิดในหน่อย!!” เสียงกระเป๋ารถเมล์ดังลั่น เหมือนว่ายังไม่ชิดพอใช่ไหม?“ชิดในอีกนิดเพ่!” อยากจะลงตอนนี้แต่คงไม่ทันแล้ว นึกอยากจะบ้าตาย ไหนๆ ก็สายแล้ว ทนยืนเบียดๆ แบบนี้ไปก่อนก็แล้วกันครืด ครืด...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น“ว่าไงกองทัพ” ฉันกรอกเสียงตอบกลับทันทีที่กดรับสาย“ฟ้า สายแล้วนะ อยู่ไหน?” เสียงปลายสายถามกลับมา“อยู่บนรถเมล์ รถติด คนแน่น ร้อนก็ร้อน”“จะให้รอไหม?” กองทัพถามด้วยความห่วงใย“ไม่ต้องๆ นายเข้าไปรอก่อนได้เลย” ฉันตอบอย่างเกรงใจ ถ้ารอฉัน เขาคงต้องเข้าเรียนสายไปด้วยแน่“ได้ๆ งั้นแค่นี้นะ รีบๆ มาล่ะ”“ค่า~~” ฉันวางสายจากกองทัพ เสียงกระเป๋ารถเมล์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ชิดในหน่อยเพ่~ ชิดใน!” โว้ย! ไอ้นี่ไม่เห็นหรือไงว่ามันแน่นขนาดไหน… ฮึ่ย!ฉันตัดสินใจลงที่ป้ายถัดไปทันที เพราะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งรำคาญและหงุดหงิดเต็มที ถึงแม้จะเหลืออีกตั้งสองป้ายกว่าจะถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็เอาเถอะ ลง
1 เดือนต่อมาช่วงนี้ชีวิตของฉันแฮปปี้มาก พี่เจนที่ทำงานที่ร้านกาแฟก็ดูแลฉันดีมาก ไหนจะพี่ทิพย์อีก ที่คอยถามไถ่และดูแลฉันอย่างดีเสมอ“พี่เจนขา~” ฉันเรียกพี่เจนด้วยเสียงหวาน“ขา~ หนูฟ้าคนสวย” พี่เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารักไม่แพ้กัน“อุ๊ย! เขินจัง”“วันนี้ฟ้ามีงานที่มหาวิทยาลัย คงเข้ามาค่ำๆ นะคะ” ฉันบอกพี่เจนตามจริง ที่ร้านนี้จะคิดค่าแรงตามชั่วโมงที่ทำงาน วันไหนว่างก็มา เวลาไหนก็ได้ตามสะดวก“ได้จ้ะ ตั้งใจทำงานนะน้องฟ้า”“ขอบคุณค่ะ ฟ้าไปก่อนนะ จุ๊บๆ”ตอนนี้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พี่วินหน้าคอนโดนี่แหละที่คอยรับส่งฉันเวลาไปไหนมาไหน...ส่วนไอ้คุณกองทัพล่ะ? ตั้งแต่ฉันได้ที่อยู่ใหม่ เขาก็ไม่ค่อยได้มารับมาส่งฉันบ่อยนัก บางวันก็แอบไปส่งสาวๆ ตามประสาคนหล่อ มีเพื่อนหล่อแถมรวยก็ต้องทำใจค่ะRay Part“ไอ้เรย์! มึงชวนพวกกูมาฉลองที่ร้านเพราะได้กำไรดี แต่ตัวมึงดันสนใจแต่น้องโคนมเนี่ยนะ!” ไอ้เตอร์… ก่อนที่มึงจะพูดอะไร ดูตัวเองหน่อยเถอะ นั่นก็พันธุ์โคนมดีๆ เหมือนกันนั่นแหละ“มึงดูตัวเองก่อนดีไหม ก่อนจะไปว่ามัน” เยี่ยมมากบิล วันนี้พูดได้ถูกใจสุดๆ ไอ้เพื่อนรัก“เพื่อนบิลพูดถูก”“ทีอย่างนี้ละเพื่อนบิลๆ สัส!
คอนโดFah Part เฮ้อ…เหนื่อยจัง ทั้งงานโปรเจคที่มหาวิทยาลัย ไหนจะงานที่ร้านกาแฟอีก ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนที่พักที่คอนโดนี้ แถมยังมีคนนอกเข้ามานั่งจิบกาแฟที่ร้านด้วย แต่ละวันแทบไม่ได้พักเลยครืด ครืด ครืด“ฮัลโหล~” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างที่ชอบทำหลังจากเห็นชื่อที่หน้าจอ(เลิกงานแล้วเหรอ ไปกินข้าวกัน) กองทัพ โทรเข้ามาทุกวันเช่นเคย“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เหนื่อยด้วย” ฉันที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนโซฟาตอบอย่างเกียจคร้าน(ใจร้าย)“วันหลังเถอะ จะได้ไปหาซื้อพวกอุปกรณ์ทำงานด้วย” เวลามีงานโปรเจค กองทัพนี่แหละที่พาไปหาซื้อของ(ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้นะ จะได้รีบทำไว้แต่เนิ่นๆ) กองทัพตอบรับ“อื้ม งั้นแค่นี้นะ”(ฝันดีนะฟ้า)“เช่นกัน กองทัพ”หลังวางสายจากกองทัพ ฉันก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทำงานต่อ เช้าก็เรียนและทำงาน ตกดึกก็ทำการบ้านและอ่านหนังสือ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถ้าเกรดตกอาจโดนไล่ออกจากทุนฟรีก็ได้ ดังนั้นฉันต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเช้าวันต่อมาวันนี้ฉันลางานที่ร้านกาแฟ 1 วัน เพราะต้องไปหาซื้อของกับกองทัพ และยังมีเรียนอีกด้วย วันหนึ่งมีหลายเรื่องให้ทำจนแทบไม่มีเวลาว่าง“ตกลงจะไปที่ไหน?” ฉันถา
อาจารย์หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า “สวัสดีจ้ะ นี่คือคุณลูกค้าที่เธอจะต้องนำเสนอแบบงานให้เขาดู”“นี่คุณบิลนะ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย” อาจารย์แนะนำเขาให้ฉันรู้จัก“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ให้เร็วที่สุด ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเชียว ต้องทำตัวดีๆ“สวัสดีครับน้องฟ้า” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง“เชิญนั่งก่อนครับ” เขาบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม แต่เสียงเขาไม่เหมือนกับที่คุยกับฉันวันนั้นเลยนะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ?“มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าฉันจ้องหน้าเขานานเกินไป“ไม่มีค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันรีบขอโทษ เกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ แล้วเกิดยกเลิกทุนเรียนฟรีของฉันขึ้นมาจะทำยังไง“ผมไม่ได้เป็นคนที่จะซื้อแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพื่อนผม วันนี้มันติดงานด่วน ก็เลยให้ผมมาแทน” เขาอธิบายอย่างสุภาพ“อ๋อค่ะ นี่ค่ะ แบบที่ฉันออกแบบไว้…” ฉันยื่นแบบให้เขาดู พร้อมกับใจที่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง คนที่สั่งแบบไม่มา คนที่มาดูกลับไม่ใช่คนสั่ง“อาจารย์มีเด็กฝีมือดีแบบนี้ ทำไมไม่เคยบอกผมเลยครับ” เขาพูดพลางดูแบบในมืออย่างตั้ง
หลังจากเลิกคลาส ฉันก็รีบไปคุยรายละเอียดกับอาจารย์ทันที อาจารย์บอกให้ฉันทำโปรเจคนี้เพราะเห็นว่าถ้าลูกค้าถูกใจ เขาจะจ่ายไม่อั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่เขาอาจไม่ถูกใจก็ได้ แถมงานนี้ต้องออกแบบร้านเหล้า ซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ทั้งชีวิตเคยเข้าผับแค่ครั้งเดียว แต่ก็รับปากไปแล้วว่าจะทำ... ถอนตัวทันไหมเนี่ย?“นี่คือรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลติดต่อของลูกค้า” อาจารย์ยื่นเอกสารสามสี่แผ่นให้ฉัน“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ สู้ๆ นะ เก่งๆ อย่างเธอไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้ฉันช่วยดูก็บอกได้เสมอ”“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันกล่าวลาและเดินออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วตรงไปหากองทัพที่นั่งรออยู่หน้าตึก“เป็นไงบ้าง ได้งานไหม?” พอฉันมาถึง กองทัพก็ถามทันที“อืม ได้แล้วล่ะ ขอบคุณนายนะที่ช่วยแนะนำ”“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ปะ กลับกัน เดี๋ยวไปส่ง” กองทัพพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยฉันถือของแล้วพาเดินไปที่รถคอนโดพอมาถึงห้อง ฉันก็นั่งลงและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบภายในที่ได้รับมอบหมาย เขากำหนดเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ คิดว่าน่าจะทัน มีเวลาตั้ง
หลังเลิกงานเมื่อเลิกงานแล้ว ฉันก็แวะไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง มันถูกและประหยัดกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป ซื้อทีนึงก็ทำกินได้หลายวัน“จะทำอะไรกินดีน้า” ฉันพูดกับตัวเองขณะเข็นรถเข็นไปตามทางเดิน“เอาแค่นี้แล้วกัน” ฉันเลือกของเสร็จแล้วก็มาจ่ายเงิน จากนั้นรีบเดินกลับคอนโดทันที โชคดีที่ซูเปอร์กับคอนโดฉันอยู่ไม่ไกลกัน แค่ข้ามถนนมาก็ถึงแล้ววันต่อมาสายแล้ว! วันนี้ต้องโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ก็สายแล้ว ฮือ...ทำไงดี ไหนจะของที่ต้องหอบไปเรียนอีก เยอะกว่าปกติมาก นั่งวินไปคงลำบาก งั้นแท็กซี่แล้วกัน หวังว่าใกล้แค่นี้เขาจะยอมไปส่งนะ“ไปมหาลัยค่ะ...ด่วนๆ เลยพี่” ฉันบอกคนขับแท็กซี่อย่างเร่งรีบทันทีที่ขึ้นรถได้คนขับพยักหน้าแล้วออกรถทันที ฉันนั่งลุ้นในใจ หวังว่าจะไปทันก่อนที่อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียน สัปดาห์นี้เพิ่งเริ่มต้นเอง ฉันไม่อยากเริ่มด้วยการถูกดุหรือเสียคะแนนไปพอรู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเข้าเรียนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินไปที่โรงอาหารของคณะ หวังว่าจะหาอะไรลงท้องก่อน มาสายแถมข้าวก็ยังไม่ได้กิน ชีวิตหนอชีวิต...“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับน้องฟ้า” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ฉ
วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน ก็อาทิตย์นึงจะมีวันหยุดตั้งสองวัน ขอทำงานให้เต็มที่หน่อย อยู่เฉยๆ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ ฮ่าๆ“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” ฉันกล่าวทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ“เอาเอสเพรสโซ่ร้อนที่หนึ่งครับ” เขาพูดเสียงเรียบพลางก้มมองโทรศัพท์“ได้ค่ะ เชิญคุณผู้ชายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ แล้วเขาก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตามที่ฉันบอกผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนใจดี แต่ทำไมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้“แหนะ...นินทาลูกค้าอยู่ล่ะสิ” พี่เจนที่กำลังชงกาแฟหันมาพูดล้อฉัน“เปล่านะคะ ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย”“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เรานี่ร้อนตัวเชียว ฮ่าๆ” พี่เจนหัวเราะเบาๆ3 นาทีผ่านไป“เสร็จแล้ว ยกไปเสิร์ฟได้จ้ะ” พี่เจนพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยกาแฟใส่ถาดให้ฉัน“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกถาดกาแฟเดินไปที่โต๊ะของลูกค้า พยายามรักษามารยาทตามที่พี่เจนสอนมา“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ“.....”เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิมพอเสิร์ฟเสร็จฉันก็รีบเดินกลับมาที่เดิมทันที...“เขาพึ่งมาเหรอคะพี่เจน? ฟ้าไม่คุ้นหน้าลูกค้
คอนโดFah Part เฮ้อ…เหนื่อยจัง ทั้งงานโปรเจคที่มหาวิทยาลัย ไหนจะงานที่ร้านกาแฟอีก ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนที่พักที่คอนโดนี้ แถมยังมีคนนอกเข้ามานั่งจิบกาแฟที่ร้านด้วย แต่ละวันแทบไม่ได้พักเลยครืด ครืด ครืด“ฮัลโหล~” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างที่ชอบทำหลังจากเห็นชื่อที่หน้าจอ(เลิกงานแล้วเหรอ ไปกินข้าวกัน) กองทัพ โทรเข้ามาทุกวันเช่นเคย“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เหนื่อยด้วย” ฉันที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนโซฟาตอบอย่างเกียจคร้าน(ใจร้าย)“วันหลังเถอะ จะได้ไปหาซื้อพวกอุปกรณ์ทำงานด้วย” เวลามีงานโปรเจค กองทัพนี่แหละที่พาไปหาซื้อของ(ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้นะ จะได้รีบทำไว้แต่เนิ่นๆ) กองทัพตอบรับ“อื้ม งั้นแค่นี้นะ”(ฝันดีนะฟ้า)“เช่นกัน กองทัพ”หลังวางสายจากกองทัพ ฉันก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทำงานต่อ เช้าก็เรียนและทำงาน ตกดึกก็ทำการบ้านและอ่านหนังสือ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถ้าเกรดตกอาจโดนไล่ออกจากทุนฟรีก็ได้ ดังนั้นฉันต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเช้าวันต่อมาวันนี้ฉันลางานที่ร้านกาแฟ 1 วัน เพราะต้องไปหาซื้อของกับกองทัพ และยังมีเรียนอีกด้วย วันหนึ่งมีหลายเรื่องให้ทำจนแทบไม่มีเวลาว่าง“ตกลงจะไปที่ไหน?” ฉันถา
1 เดือนต่อมาช่วงนี้ชีวิตของฉันแฮปปี้มาก พี่เจนที่ทำงานที่ร้านกาแฟก็ดูแลฉันดีมาก ไหนจะพี่ทิพย์อีก ที่คอยถามไถ่และดูแลฉันอย่างดีเสมอ“พี่เจนขา~” ฉันเรียกพี่เจนด้วยเสียงหวาน“ขา~ หนูฟ้าคนสวย” พี่เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารักไม่แพ้กัน“อุ๊ย! เขินจัง”“วันนี้ฟ้ามีงานที่มหาวิทยาลัย คงเข้ามาค่ำๆ นะคะ” ฉันบอกพี่เจนตามจริง ที่ร้านนี้จะคิดค่าแรงตามชั่วโมงที่ทำงาน วันไหนว่างก็มา เวลาไหนก็ได้ตามสะดวก“ได้จ้ะ ตั้งใจทำงานนะน้องฟ้า”“ขอบคุณค่ะ ฟ้าไปก่อนนะ จุ๊บๆ”ตอนนี้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พี่วินหน้าคอนโดนี่แหละที่คอยรับส่งฉันเวลาไปไหนมาไหน...ส่วนไอ้คุณกองทัพล่ะ? ตั้งแต่ฉันได้ที่อยู่ใหม่ เขาก็ไม่ค่อยได้มารับมาส่งฉันบ่อยนัก บางวันก็แอบไปส่งสาวๆ ตามประสาคนหล่อ มีเพื่อนหล่อแถมรวยก็ต้องทำใจค่ะRay Part“ไอ้เรย์! มึงชวนพวกกูมาฉลองที่ร้านเพราะได้กำไรดี แต่ตัวมึงดันสนใจแต่น้องโคนมเนี่ยนะ!” ไอ้เตอร์… ก่อนที่มึงจะพูดอะไร ดูตัวเองหน่อยเถอะ นั่นก็พันธุ์โคนมดีๆ เหมือนกันนั่นแหละ“มึงดูตัวเองก่อนดีไหม ก่อนจะไปว่ามัน” เยี่ยมมากบิล วันนี้พูดได้ถูกใจสุดๆ ไอ้เพื่อนรัก“เพื่อนบิลพูดถูก”“ทีอย่างนี้ละเพื่อนบิลๆ สัส!
สังคมในเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างรีบเร่งไปทำหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับฉันในตอนนี้ ที่กำลังจะไปสายเพราะปัญหารถติด!“จะทันไหมเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยืนเบียดอยู่บนรถเมล์ที่แออัดไปด้วยผู้คน“ชิดในหน่อยเพ่! ชิดในหน่อย!!” เสียงกระเป๋ารถเมล์ดังลั่น เหมือนว่ายังไม่ชิดพอใช่ไหม?“ชิดในอีกนิดเพ่!” อยากจะลงตอนนี้แต่คงไม่ทันแล้ว นึกอยากจะบ้าตาย ไหนๆ ก็สายแล้ว ทนยืนเบียดๆ แบบนี้ไปก่อนก็แล้วกันครืด ครืด...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น“ว่าไงกองทัพ” ฉันกรอกเสียงตอบกลับทันทีที่กดรับสาย“ฟ้า สายแล้วนะ อยู่ไหน?” เสียงปลายสายถามกลับมา“อยู่บนรถเมล์ รถติด คนแน่น ร้อนก็ร้อน”“จะให้รอไหม?” กองทัพถามด้วยความห่วงใย“ไม่ต้องๆ นายเข้าไปรอก่อนได้เลย” ฉันตอบอย่างเกรงใจ ถ้ารอฉัน เขาคงต้องเข้าเรียนสายไปด้วยแน่“ได้ๆ งั้นแค่นี้นะ รีบๆ มาล่ะ”“ค่า~~” ฉันวางสายจากกองทัพ เสียงกระเป๋ารถเมล์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ชิดในหน่อยเพ่~ ชิดใน!” โว้ย! ไอ้นี่ไม่เห็นหรือไงว่ามันแน่นขนาดไหน… ฮึ่ย!ฉันตัดสินใจลงที่ป้ายถัดไปทันที เพราะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งรำคาญและหงุดหงิดเต็มที ถึงแม้จะเหลืออีกตั้งสองป้ายกว่าจะถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็เอาเถอะ ลง