สังคมในเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างรีบเร่งไปทำหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับฉันในตอนนี้ ที่กำลังจะไปสายเพราะปัญหารถติด!
“จะทันไหมเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยืนเบียดอยู่บนรถเมล์ที่แออัดไปด้วยผู้คน
“ชิดในหน่อยเพ่! ชิดในหน่อย!!” เสียงกระเป๋ารถเมล์ดังลั่น เหมือนว่ายังไม่ชิดพอใช่ไหม?
“ชิดในอีกนิดเพ่!” อยากจะลงตอนนี้แต่คงไม่ทันแล้ว นึกอยากจะบ้าตาย ไหนๆ ก็สายแล้ว ทนยืนเบียดๆ แบบนี้ไปก่อนก็แล้วกัน
ครืด ครืด...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ว่าไงกองทัพ” ฉันกรอกเสียงตอบกลับทันทีที่กดรับสาย
“ฟ้า สายแล้วนะ อยู่ไหน?” เสียงปลายสายถามกลับมา
“อยู่บนรถเมล์ รถติด คนแน่น ร้อนก็ร้อน”
“จะให้รอไหม?” กองทัพถามด้วยความห่วงใย
“ไม่ต้องๆ นายเข้าไปรอก่อนได้เลย” ฉันตอบอย่างเกรงใจ ถ้ารอฉัน เขาคงต้องเข้าเรียนสายไปด้วยแน่
“ได้ๆ งั้นแค่นี้นะ รีบๆ มาล่ะ”
“ค่า~~” ฉันวางสายจากกองทัพ เสียงกระเป๋ารถเมล์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ชิดในหน่อยเพ่~ ชิดใน!” โว้ย! ไอ้นี่ไม่เห็นหรือไงว่ามันแน่นขนาดไหน… ฮึ่ย!
ฉันตัดสินใจลงที่ป้ายถัดไปทันที เพราะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งรำคาญและหงุดหงิดเต็มที ถึงแม้จะเหลืออีกตั้งสองป้ายกว่าจะถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็เอาเถอะ ลงไปแล้วค่อยไปขึ้นวินต่อก็ได้ ชีวิตแบบฟ้ามันก็ต้องสู้ทนแบบนี้แหละ
ว่าแต่คุณอยากรู้จักฉันแล้วใช่ไหม? เอาล่ะค่ะ ฉันชื่อ ‘ฟ้า’ เป็นนักศึกษาปี 2 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง กำลังเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงมาโหนรถเมล์ ทั้งๆ ที่เรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังแบบนี้ ก็เพราะฉันไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนคนอื่นๆ ที่นี่น่ะสิ สิ่งที่พาฉันมาเรียนที่นี่คือความสามารถล้วนๆ ฉันสอบได้ทุนเรียนฟรีค่ะ
อ้อ ฉันสวยมากค่ะ (หลงตัวเองนิดหน่อย) แต่เพราะฐานะทางบ้านอาจจะทำให้ไม่มีใครอยากคบกับฉันเท่าไหร่ ก็มีเพื่อนอยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ มีเพียง ‘กองทัพ’ เพื่อนสุดหล่อของฉันที่ยังคบกับฉันอย่างไม่รังเกียจ
ส่วนเรื่องครอบครัวน่ะเหรอ? ฉันโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แม่ปอง ผู้ดูแลและเปรียบเสมือนแม่ของฉัน และคนอื่นๆ ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นเหมือนครอบครัวของฉัน ท่านมีบุญคุณมาก ส่งฉันเรียนจนจบมัธยมต้น แล้วฉันก็เริ่มหางานทำเพื่อส่งตัวเองเรียนมาตลอด จนถึงตอนนี้ที่พึ่งจะย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี้เอง
มหาวิทยาลัย
“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปรับ แต่เธอก็ไม่ยอมมาด้วยกัน เห็นไหมล่ะ เข้าสายเลย” ทันทีที่ฉันมาถึงห้องเรียน กองทัพก็เริ่มบ่น
“ก็ฉันไม่อยากรบกวนนายนี่ ทัพ”
“ไม่เห็นจะรบกวนอะไรเลย เราเพื่อนกันนะ ฟ้า”
“ขอบคุณนะ ทัพ เอ้อ! ตอนนี้เรียนถึงไหนแล้วเนี่ย” ฉันถามพลางเปิดหนังสือ เตรียมตัวเรียน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ละวันต้องหอบข้าวของเหมือนจะย้ายบ้าน
“แล้ววันนี้จะไปหาที่พักอีกไหม?” กองทัพถาม ใช่ค่ะ! ฉันกำลังหาที่พักใหม่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย เพราะหอพักปัจจุบันอยู่ไกลมาก ต้องตื่นเช้ากว่าใครเพื่อน แล้วยังต้องหอบหิ้วอุปกรณ์เรียนขึ้นรถเมล์ทุกวัน เอาตรงๆ เลย ฉันเหนื่อยมาก!
“ไปสิ บ่ายนี้ไม่มีเรียนพอดี” ฉันตอบกลับ
“ฉันมีที่นึงจะแนะนำ สนใจไหม?”
“ที่ไหนล่ะ ถ้าแพงมากฉันไม่ไหวนะ ตอนนี้เงินค่ากินก็ยังหมุนไม่ทันเลย”
“เป็นคอนโดที่ฉันรู้จักกับเจ้าของ เดี๋ยวช่วยคุยให้ ข้างล่างมีร้านกาแฟด้วย ถ้าเธอสนใจอาจจะทำงานไปด้วยได้” กองทัพอธิบาย ข้อเสนอนี้ฟังดูไม่เลวเลย ถ้ามีงานให้ทำด้วยก็จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้อีก
“ลองไปดูหน่อยก็ได้ เผื่อจะถูกใจ” ฉันตอบกลับ คิดว่าถ้ากองทัพช่วยคุยให้อาจจะได้ราคาที่พอรับไหว แถมยังมีงานให้ทำเพิ่มอีก
“งั้นไปดูกันเลยไหม?” กองทัพถาม
“อื้ม ไปเลยดีกว่า เผื่อไม่ชอบจะได้หาที่ใหม่ต่อ” ฉันตอบตกลง พลางคิดว่าสาวๆ ที่มหาวิทยาลัยคงจะหมั่นไส้ฉันไม่น้อย ก็แหม มีเพื่อนสนิทสุดหล่อและรวยล้นฟ้าแบบนี้ ชักรู้สึกว่าชีวิตเริ่มไม่ปลอดภัยซะแล้ว ฟ้าเอ๊ย…
คอนโด
ฉันกับกองทัพมาถึงคอนโดแห่งหนึ่ง ก็คือคอนโดที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้แหละ ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ขับรถแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว
“สอบถามเรื่องห้องพักครับ” กองทัพเดินไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ เอาจริงๆ ก็ดูหรูอยู่เหมือนกันนะ “สวัสดีค่ะคุณกองทัพ ตอนนี้เหลือห้องว่างอยู่ 2 ห้องค่ะ ราคาเช่าเดือนละ 3X,XXX” ทำไมมันแพงแบบนี้!นี้!“สวัสดีค่ะคุณกองทัพ ตอนนี้มีห้องว่างอยู่ 2 ห้องค่ะ ราคาเช่าเดือนละ 3X,XXX บาท” ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้!
คุณวิชัยอยู่ไหมครับ ผมขอคุยกับเขาหน่อย” กองทัพถามพนักงาน
“สักครู่นะคะ เชิญไปที่ห้องทำงานของท่านเลยค่ะ” พนักงานต้อนรับที่ดูเป็นมิตรนำทางเราไปยังห้องหนึ่ง
“สวัสดีครับคุณอา สบายดีนะครับ นี่ฟ้า เพื่อนที่ผมบอกว่ากำลังหาห้องพักอยู่” เมื่อเข้ามาในห้อง กองทัพก็ทักทายเจ้าของคอนโดอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้คุณอาของกองทัพอย่างนอบน้อม
“เอาล่ะๆ นั่งคุยกันก่อน ส่วนคุณทิพย์ คุณก็นั่งด้วยเลยนะ จะได้ช่วยดูแลแม่หนูคนนี้ด้วย”
“ค่ะ ท่าน”
หลังจากพูดคุยกันสักพัก เราก็สามารถตกลงรายละเอียดเรื่องราคาและสัญญาต่างๆ ได้เรียบร้อย แถมคุณอาของกองทัพยังเสนอให้ฉันทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟในคอนโดด้วย
“งั้นเอาตามนี้นะ” คุณอาของกองทัพสรุป
“ขอบคุณมากนะครับ คุณอา” กองทัพยกมือไหว้คุณอาของเขา
“ไม่เป็นไรๆ ทัพเป็นหลานอา มีเพื่อนดีๆ แบบนี้ก็ต้องช่วยกันสิ”
“นี่คือคุณทิพย์นะหนูฟ้า ถ้ามีอะไรต้องการความช่วยเหลือ ก็บอกคุณทิพย์ได้เลย”
“ขอบคุณมากนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะคุณทิพย์” ฉันกล่าวอย่างเกรงใจ
“เรียกพี่ทิพย์ก็ได้จ้ะน้องฟ้า พี่ไม่ถือ” พี่ทิพย์บอกพร้อมรอยยิ้ม ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้อยู่คอนโดนี้ในราคาพิเศษ แม้จะไม่ถูกมากนัก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะกองทัพและคุณอาของเขายกเว้นค่าส่วนกลางทั้งหมดให้ฟรีๆ ฉันต้องจ่ายแค่ค่าห้องที่ลดราคาให้อีก ไม่รู้จะขอบคุณกองทัพยังไงดี
“ค่ะ พี่ทิพย์”
“น้องฟ้าจะย้ายเข้ามาอยู่วันไหนคะ? ส่วนเรื่องงานที่ร้านกาแฟ เริ่มพรุ่งนี้ได้เลยนะ พี่เจนทำอยู่คนเดียว คงดีใจที่มีคนมาช่วย”
“งั้นฟ้าคงจะย้ายมาพรุ่งนี้เลยนะคะ”
“ได้จ้ะ…”
หลังจากที่เราคุยกันจนได้ข้อสรุปทั้งหมด กองทัพก็ขับรถมาส่งฉันที่หอพักเก่า
"ขอบใจมากนะ ทัพ" ฉันกล่าวขอบคุณเขาจากใจจริง
"อืม...ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันนี่ ยังไงทัพก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว"
“โหย...น่ารักที่สุด” ฉันพูดพร้อมกับยกมือไปหยิกแก้มเขาเบาๆ อย่างหยอกล้อ ก่อนจะลงจากรถและเดินขึ้นห้องไป โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของคนที่มาส่งนั้นมองตามด้วยความรู้สึกที่ซ่อนเร้นบางอย่าง
เมื่อขึ้นห้องมา ฉันรีบเก็บของทั้งหมดใส่กล่องและกระเป๋า รอแค่พรุ่งนี้ที่กองทัพจะมาช่วยขนของ ต่อไปนี้ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยตื่นก่อนเวลาสองสามชั่วโมงอีกแล้ว
"อืม...ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันนี่ ยังไงทัพก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว"
1 เดือนต่อมาช่วงนี้ชีวิตของฉันแฮปปี้มาก พี่เจนที่ทำงานที่ร้านกาแฟก็ดูแลฉันดีมาก ไหนจะพี่ทิพย์อีก ที่คอยถามไถ่และดูแลฉันอย่างดีเสมอ“พี่เจนขา~” ฉันเรียกพี่เจนด้วยเสียงหวาน“ขา~ หนูฟ้าคนสวย” พี่เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารักไม่แพ้กัน“อุ๊ย! เขินจัง”“วันนี้ฟ้ามีงานที่มหาวิทยาลัย คงเข้ามาค่ำๆ นะคะ” ฉันบอกพี่เจนตามจริง ที่ร้านนี้จะคิดค่าแรงตามชั่วโมงที่ทำงาน วันไหนว่างก็มา เวลาไหนก็ได้ตามสะดวก“ได้จ้ะ ตั้งใจทำงานนะน้องฟ้า”“ขอบคุณค่ะ ฟ้าไปก่อนนะ จุ๊บๆ”ตอนนี้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พี่วินหน้าคอนโดนี่แหละที่คอยรับส่งฉันเวลาไปไหนมาไหน...ส่วนไอ้คุณกองทัพล่ะ? ตั้งแต่ฉันได้ที่อยู่ใหม่ เขาก็ไม่ค่อยได้มารับมาส่งฉันบ่อยนัก บางวันก็แอบไปส่งสาวๆ ตามประสาคนหล่อ มีเพื่อนหล่อแถมรวยก็ต้องทำใจค่ะRay Part“ไอ้เรย์! มึงชวนพวกกูมาฉลองที่ร้านเพราะได้กำไรดี แต่ตัวมึงดันสนใจแต่น้องโคนมเนี่ยนะ!” ไอ้เตอร์… ก่อนที่มึงจะพูดอะไร ดูตัวเองหน่อยเถอะ นั่นก็พันธุ์โคนมดีๆ เหมือนกันนั่นแหละ“มึงดูตัวเองก่อนดีไหม ก่อนจะไปว่ามัน” เยี่ยมมากบิล วันนี้พูดได้ถูกใจสุดๆ ไอ้เพื่อนรัก“เพื่อนบิลพูดถูก”“ทีอย่างนี้ละเพื่อนบิลๆ สัส!
คอนโดFah Part เฮ้อ…เหนื่อยจัง ทั้งงานโปรเจคที่มหาวิทยาลัย ไหนจะงานที่ร้านกาแฟอีก ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนที่พักที่คอนโดนี้ แถมยังมีคนนอกเข้ามานั่งจิบกาแฟที่ร้านด้วย แต่ละวันแทบไม่ได้พักเลยครืด ครืด ครืด“ฮัลโหล~” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างที่ชอบทำหลังจากเห็นชื่อที่หน้าจอ(เลิกงานแล้วเหรอ ไปกินข้าวกัน) กองทัพ โทรเข้ามาทุกวันเช่นเคย“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เหนื่อยด้วย” ฉันที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนโซฟาตอบอย่างเกียจคร้าน(ใจร้าย)“วันหลังเถอะ จะได้ไปหาซื้อพวกอุปกรณ์ทำงานด้วย” เวลามีงานโปรเจค กองทัพนี่แหละที่พาไปหาซื้อของ(ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้นะ จะได้รีบทำไว้แต่เนิ่นๆ) กองทัพตอบรับ“อื้ม งั้นแค่นี้นะ”(ฝันดีนะฟ้า)“เช่นกัน กองทัพ”หลังวางสายจากกองทัพ ฉันก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทำงานต่อ เช้าก็เรียนและทำงาน ตกดึกก็ทำการบ้านและอ่านหนังสือ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถ้าเกรดตกอาจโดนไล่ออกจากทุนฟรีก็ได้ ดังนั้นฉันต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเช้าวันต่อมาวันนี้ฉันลางานที่ร้านกาแฟ 1 วัน เพราะต้องไปหาซื้อของกับกองทัพ และยังมีเรียนอีกด้วย วันหนึ่งมีหลายเรื่องให้ทำจนแทบไม่มีเวลาว่าง“ตกลงจะไปที่ไหน?” ฉันถา
วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน ก็อาทิตย์นึงจะมีวันหยุดตั้งสองวัน ขอทำงานให้เต็มที่หน่อย อยู่เฉยๆ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ ฮ่าๆ“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” ฉันกล่าวทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ“เอาเอสเพรสโซ่ร้อนที่หนึ่งครับ” เขาพูดเสียงเรียบพลางก้มมองโทรศัพท์“ได้ค่ะ เชิญคุณผู้ชายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ แล้วเขาก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตามที่ฉันบอกผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนใจดี แต่ทำไมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้“แหนะ...นินทาลูกค้าอยู่ล่ะสิ” พี่เจนที่กำลังชงกาแฟหันมาพูดล้อฉัน“เปล่านะคะ ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย”“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เรานี่ร้อนตัวเชียว ฮ่าๆ” พี่เจนหัวเราะเบาๆ3 นาทีผ่านไป“เสร็จแล้ว ยกไปเสิร์ฟได้จ้ะ” พี่เจนพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยกาแฟใส่ถาดให้ฉัน“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกถาดกาแฟเดินไปที่โต๊ะของลูกค้า พยายามรักษามารยาทตามที่พี่เจนสอนมา“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ“.....”เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิมพอเสิร์ฟเสร็จฉันก็รีบเดินกลับมาที่เดิมทันที...“เขาพึ่งมาเหรอคะพี่เจน? ฟ้าไม่คุ้นหน้าลูกค้
หลังเลิกงานเมื่อเลิกงานแล้ว ฉันก็แวะไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง มันถูกและประหยัดกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป ซื้อทีนึงก็ทำกินได้หลายวัน“จะทำอะไรกินดีน้า” ฉันพูดกับตัวเองขณะเข็นรถเข็นไปตามทางเดิน“เอาแค่นี้แล้วกัน” ฉันเลือกของเสร็จแล้วก็มาจ่ายเงิน จากนั้นรีบเดินกลับคอนโดทันที โชคดีที่ซูเปอร์กับคอนโดฉันอยู่ไม่ไกลกัน แค่ข้ามถนนมาก็ถึงแล้ววันต่อมาสายแล้ว! วันนี้ต้องโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ก็สายแล้ว ฮือ...ทำไงดี ไหนจะของที่ต้องหอบไปเรียนอีก เยอะกว่าปกติมาก นั่งวินไปคงลำบาก งั้นแท็กซี่แล้วกัน หวังว่าใกล้แค่นี้เขาจะยอมไปส่งนะ“ไปมหาลัยค่ะ...ด่วนๆ เลยพี่” ฉันบอกคนขับแท็กซี่อย่างเร่งรีบทันทีที่ขึ้นรถได้คนขับพยักหน้าแล้วออกรถทันที ฉันนั่งลุ้นในใจ หวังว่าจะไปทันก่อนที่อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียน สัปดาห์นี้เพิ่งเริ่มต้นเอง ฉันไม่อยากเริ่มด้วยการถูกดุหรือเสียคะแนนไปพอรู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเข้าเรียนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินไปที่โรงอาหารของคณะ หวังว่าจะหาอะไรลงท้องก่อน มาสายแถมข้าวก็ยังไม่ได้กิน ชีวิตหนอชีวิต...“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับน้องฟ้า” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ฉ
หลังจากเลิกคลาส ฉันก็รีบไปคุยรายละเอียดกับอาจารย์ทันที อาจารย์บอกให้ฉันทำโปรเจคนี้เพราะเห็นว่าถ้าลูกค้าถูกใจ เขาจะจ่ายไม่อั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่เขาอาจไม่ถูกใจก็ได้ แถมงานนี้ต้องออกแบบร้านเหล้า ซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ทั้งชีวิตเคยเข้าผับแค่ครั้งเดียว แต่ก็รับปากไปแล้วว่าจะทำ... ถอนตัวทันไหมเนี่ย?“นี่คือรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลติดต่อของลูกค้า” อาจารย์ยื่นเอกสารสามสี่แผ่นให้ฉัน“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ สู้ๆ นะ เก่งๆ อย่างเธอไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้ฉันช่วยดูก็บอกได้เสมอ”“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันกล่าวลาและเดินออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วตรงไปหากองทัพที่นั่งรออยู่หน้าตึก“เป็นไงบ้าง ได้งานไหม?” พอฉันมาถึง กองทัพก็ถามทันที“อืม ได้แล้วล่ะ ขอบคุณนายนะที่ช่วยแนะนำ”“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ปะ กลับกัน เดี๋ยวไปส่ง” กองทัพพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยฉันถือของแล้วพาเดินไปที่รถคอนโดพอมาถึงห้อง ฉันก็นั่งลงและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบภายในที่ได้รับมอบหมาย เขากำหนดเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ คิดว่าน่าจะทัน มีเวลาตั้ง
อาจารย์หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า “สวัสดีจ้ะ นี่คือคุณลูกค้าที่เธอจะต้องนำเสนอแบบงานให้เขาดู”“นี่คุณบิลนะ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย” อาจารย์แนะนำเขาให้ฉันรู้จัก“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ให้เร็วที่สุด ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเชียว ต้องทำตัวดีๆ“สวัสดีครับน้องฟ้า” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง“เชิญนั่งก่อนครับ” เขาบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม แต่เสียงเขาไม่เหมือนกับที่คุยกับฉันวันนั้นเลยนะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ?“มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าฉันจ้องหน้าเขานานเกินไป“ไม่มีค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันรีบขอโทษ เกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ แล้วเกิดยกเลิกทุนเรียนฟรีของฉันขึ้นมาจะทำยังไง“ผมไม่ได้เป็นคนที่จะซื้อแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพื่อนผม วันนี้มันติดงานด่วน ก็เลยให้ผมมาแทน” เขาอธิบายอย่างสุภาพ“อ๋อค่ะ นี่ค่ะ แบบที่ฉันออกแบบไว้…” ฉันยื่นแบบให้เขาดู พร้อมกับใจที่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง คนที่สั่งแบบไม่มา คนที่มาดูกลับไม่ใช่คนสั่ง“อาจารย์มีเด็กฝีมือดีแบบนี้ ทำไมไม่เคยบอกผมเลยครับ” เขาพูดพลางดูแบบในมืออย่างตั้ง
อาจารย์หันมายิ้มให้ก่อนจะพูดว่า “สวัสดีจ้ะ นี่คือคุณลูกค้าที่เธอจะต้องนำเสนอแบบงานให้เขาดู”“นี่คุณบิลนะ ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย” อาจารย์แนะนำเขาให้ฉันรู้จัก“สวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้ให้เร็วที่สุด ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเชียว ต้องทำตัวดีๆ“สวัสดีครับน้องฟ้า” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง“เชิญนั่งก่อนครับ” เขาบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม แต่เสียงเขาไม่เหมือนกับที่คุยกับฉันวันนั้นเลยนะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ?“มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าฉันจ้องหน้าเขานานเกินไป“ไม่มีค่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันรีบขอโทษ เกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ แล้วเกิดยกเลิกทุนเรียนฟรีของฉันขึ้นมาจะทำยังไง“ผมไม่ได้เป็นคนที่จะซื้อแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพื่อนผม วันนี้มันติดงานด่วน ก็เลยให้ผมมาแทน” เขาอธิบายอย่างสุภาพ“อ๋อค่ะ นี่ค่ะ แบบที่ฉันออกแบบไว้…” ฉันยื่นแบบให้เขาดู พร้อมกับใจที่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง คนที่สั่งแบบไม่มา คนที่มาดูกลับไม่ใช่คนสั่ง“อาจารย์มีเด็กฝีมือดีแบบนี้ ทำไมไม่เคยบอกผมเลยครับ” เขาพูดพลางดูแบบในมืออย่างตั้ง
หลังจากเลิกคลาส ฉันก็รีบไปคุยรายละเอียดกับอาจารย์ทันที อาจารย์บอกให้ฉันทำโปรเจคนี้เพราะเห็นว่าถ้าลูกค้าถูกใจ เขาจะจ่ายไม่อั้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่เขาอาจไม่ถูกใจก็ได้ แถมงานนี้ต้องออกแบบร้านเหล้า ซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ทั้งชีวิตเคยเข้าผับแค่ครั้งเดียว แต่ก็รับปากไปแล้วว่าจะทำ... ถอนตัวทันไหมเนี่ย?“นี่คือรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลติดต่อของลูกค้า” อาจารย์ยื่นเอกสารสามสี่แผ่นให้ฉัน“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ สู้ๆ นะ เก่งๆ อย่างเธอไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนหรืออยากให้ฉันช่วยดูก็บอกได้เสมอ”“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันกล่าวลาและเดินออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วตรงไปหากองทัพที่นั่งรออยู่หน้าตึก“เป็นไงบ้าง ได้งานไหม?” พอฉันมาถึง กองทัพก็ถามทันที“อืม ได้แล้วล่ะ ขอบคุณนายนะที่ช่วยแนะนำ”“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ปะ กลับกัน เดี๋ยวไปส่ง” กองทัพพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะช่วยฉันถือของแล้วพาเดินไปที่รถคอนโดพอมาถึงห้อง ฉันก็นั่งลงและเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบภายในที่ได้รับมอบหมาย เขากำหนดเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ คิดว่าน่าจะทัน มีเวลาตั้ง
หลังเลิกงานเมื่อเลิกงานแล้ว ฉันก็แวะไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินเอง มันถูกและประหยัดกว่าซื้ออาหารสำเร็จรูป ซื้อทีนึงก็ทำกินได้หลายวัน“จะทำอะไรกินดีน้า” ฉันพูดกับตัวเองขณะเข็นรถเข็นไปตามทางเดิน“เอาแค่นี้แล้วกัน” ฉันเลือกของเสร็จแล้วก็มาจ่ายเงิน จากนั้นรีบเดินกลับคอนโดทันที โชคดีที่ซูเปอร์กับคอนโดฉันอยู่ไม่ไกลกัน แค่ข้ามถนนมาก็ถึงแล้ววันต่อมาสายแล้ว! วันนี้ต้องโดนอาจารย์ด่าแน่ๆ เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ก็สายแล้ว ฮือ...ทำไงดี ไหนจะของที่ต้องหอบไปเรียนอีก เยอะกว่าปกติมาก นั่งวินไปคงลำบาก งั้นแท็กซี่แล้วกัน หวังว่าใกล้แค่นี้เขาจะยอมไปส่งนะ“ไปมหาลัยค่ะ...ด่วนๆ เลยพี่” ฉันบอกคนขับแท็กซี่อย่างเร่งรีบทันทีที่ขึ้นรถได้คนขับพยักหน้าแล้วออกรถทันที ฉันนั่งลุ้นในใจ หวังว่าจะไปทันก่อนที่อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียน สัปดาห์นี้เพิ่งเริ่มต้นเอง ฉันไม่อยากเริ่มด้วยการถูกดุหรือเสียคะแนนไปพอรู้ว่ายังไงก็ไม่ทันเข้าเรียนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจเดินไปที่โรงอาหารของคณะ หวังว่าจะหาอะไรลงท้องก่อน มาสายแถมข้าวก็ยังไม่ได้กิน ชีวิตหนอชีวิต...“พี่ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับน้องฟ้า” เสียงทักดังขึ้น ทำให้ฉ
วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน ก็อาทิตย์นึงจะมีวันหยุดตั้งสองวัน ขอทำงานให้เต็มที่หน่อย อยู่เฉยๆ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ ฮ่าๆ“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” ฉันกล่าวทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ“เอาเอสเพรสโซ่ร้อนที่หนึ่งครับ” เขาพูดเสียงเรียบพลางก้มมองโทรศัพท์“ได้ค่ะ เชิญคุณผู้ชายไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ” ฉันตอบอย่างสุภาพ แล้วเขาก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตามที่ฉันบอกผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนใจดี แต่ทำไมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้“แหนะ...นินทาลูกค้าอยู่ล่ะสิ” พี่เจนที่กำลังชงกาแฟหันมาพูดล้อฉัน“เปล่านะคะ ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อย”“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เรานี่ร้อนตัวเชียว ฮ่าๆ” พี่เจนหัวเราะเบาๆ3 นาทีผ่านไป“เสร็จแล้ว ยกไปเสิร์ฟได้จ้ะ” พี่เจนพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยกาแฟใส่ถาดให้ฉัน“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกถาดกาแฟเดินไปที่โต๊ะของลูกค้า พยายามรักษามารยาทตามที่พี่เจนสอนมา“ขอโทษนะคะ ขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ“.....”เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิมพอเสิร์ฟเสร็จฉันก็รีบเดินกลับมาที่เดิมทันที...“เขาพึ่งมาเหรอคะพี่เจน? ฟ้าไม่คุ้นหน้าลูกค้
คอนโดFah Part เฮ้อ…เหนื่อยจัง ทั้งงานโปรเจคที่มหาวิทยาลัย ไหนจะงานที่ร้านกาแฟอีก ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนที่พักที่คอนโดนี้ แถมยังมีคนนอกเข้ามานั่งจิบกาแฟที่ร้านด้วย แต่ละวันแทบไม่ได้พักเลยครืด ครืด ครืด“ฮัลโหล~” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างที่ชอบทำหลังจากเห็นชื่อที่หน้าจอ(เลิกงานแล้วเหรอ ไปกินข้าวกัน) กองทัพ โทรเข้ามาทุกวันเช่นเคย“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ เหนื่อยด้วย” ฉันที่กำลังนอนกลิ้งไปมาบนโซฟาตอบอย่างเกียจคร้าน(ใจร้าย)“วันหลังเถอะ จะได้ไปหาซื้อพวกอุปกรณ์ทำงานด้วย” เวลามีงานโปรเจค กองทัพนี่แหละที่พาไปหาซื้อของ(ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้นะ จะได้รีบทำไว้แต่เนิ่นๆ) กองทัพตอบรับ“อื้ม งั้นแค่นี้นะ”(ฝันดีนะฟ้า)“เช่นกัน กองทัพ”หลังวางสายจากกองทัพ ฉันก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทำงานต่อ เช้าก็เรียนและทำงาน ตกดึกก็ทำการบ้านและอ่านหนังสือ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถ้าเกรดตกอาจโดนไล่ออกจากทุนฟรีก็ได้ ดังนั้นฉันต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเช้าวันต่อมาวันนี้ฉันลางานที่ร้านกาแฟ 1 วัน เพราะต้องไปหาซื้อของกับกองทัพ และยังมีเรียนอีกด้วย วันหนึ่งมีหลายเรื่องให้ทำจนแทบไม่มีเวลาว่าง“ตกลงจะไปที่ไหน?” ฉันถา
1 เดือนต่อมาช่วงนี้ชีวิตของฉันแฮปปี้มาก พี่เจนที่ทำงานที่ร้านกาแฟก็ดูแลฉันดีมาก ไหนจะพี่ทิพย์อีก ที่คอยถามไถ่และดูแลฉันอย่างดีเสมอ“พี่เจนขา~” ฉันเรียกพี่เจนด้วยเสียงหวาน“ขา~ หนูฟ้าคนสวย” พี่เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารักไม่แพ้กัน“อุ๊ย! เขินจัง”“วันนี้ฟ้ามีงานที่มหาวิทยาลัย คงเข้ามาค่ำๆ นะคะ” ฉันบอกพี่เจนตามจริง ที่ร้านนี้จะคิดค่าแรงตามชั่วโมงที่ทำงาน วันไหนว่างก็มา เวลาไหนก็ได้ตามสะดวก“ได้จ้ะ ตั้งใจทำงานนะน้องฟ้า”“ขอบคุณค่ะ ฟ้าไปก่อนนะ จุ๊บๆ”ตอนนี้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พี่วินหน้าคอนโดนี่แหละที่คอยรับส่งฉันเวลาไปไหนมาไหน...ส่วนไอ้คุณกองทัพล่ะ? ตั้งแต่ฉันได้ที่อยู่ใหม่ เขาก็ไม่ค่อยได้มารับมาส่งฉันบ่อยนัก บางวันก็แอบไปส่งสาวๆ ตามประสาคนหล่อ มีเพื่อนหล่อแถมรวยก็ต้องทำใจค่ะRay Part“ไอ้เรย์! มึงชวนพวกกูมาฉลองที่ร้านเพราะได้กำไรดี แต่ตัวมึงดันสนใจแต่น้องโคนมเนี่ยนะ!” ไอ้เตอร์… ก่อนที่มึงจะพูดอะไร ดูตัวเองหน่อยเถอะ นั่นก็พันธุ์โคนมดีๆ เหมือนกันนั่นแหละ“มึงดูตัวเองก่อนดีไหม ก่อนจะไปว่ามัน” เยี่ยมมากบิล วันนี้พูดได้ถูกใจสุดๆ ไอ้เพื่อนรัก“เพื่อนบิลพูดถูก”“ทีอย่างนี้ละเพื่อนบิลๆ สัส!
สังคมในเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างรีบเร่งไปทำหน้าที่ของตนเอง เช่นเดียวกับฉันในตอนนี้ ที่กำลังจะไปสายเพราะปัญหารถติด!“จะทันไหมเนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยืนเบียดอยู่บนรถเมล์ที่แออัดไปด้วยผู้คน“ชิดในหน่อยเพ่! ชิดในหน่อย!!” เสียงกระเป๋ารถเมล์ดังลั่น เหมือนว่ายังไม่ชิดพอใช่ไหม?“ชิดในอีกนิดเพ่!” อยากจะลงตอนนี้แต่คงไม่ทันแล้ว นึกอยากจะบ้าตาย ไหนๆ ก็สายแล้ว ทนยืนเบียดๆ แบบนี้ไปก่อนก็แล้วกันครืด ครืด...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น“ว่าไงกองทัพ” ฉันกรอกเสียงตอบกลับทันทีที่กดรับสาย“ฟ้า สายแล้วนะ อยู่ไหน?” เสียงปลายสายถามกลับมา“อยู่บนรถเมล์ รถติด คนแน่น ร้อนก็ร้อน”“จะให้รอไหม?” กองทัพถามด้วยความห่วงใย“ไม่ต้องๆ นายเข้าไปรอก่อนได้เลย” ฉันตอบอย่างเกรงใจ ถ้ารอฉัน เขาคงต้องเข้าเรียนสายไปด้วยแน่“ได้ๆ งั้นแค่นี้นะ รีบๆ มาล่ะ”“ค่า~~” ฉันวางสายจากกองทัพ เสียงกระเป๋ารถเมล์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ชิดในหน่อยเพ่~ ชิดใน!” โว้ย! ไอ้นี่ไม่เห็นหรือไงว่ามันแน่นขนาดไหน… ฮึ่ย!ฉันตัดสินใจลงที่ป้ายถัดไปทันที เพราะทนไม่ไหวแล้ว ทั้งรำคาญและหงุดหงิดเต็มที ถึงแม้จะเหลืออีกตั้งสองป้ายกว่าจะถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็เอาเถอะ ลง