“พราว!!! เธอ...ทำไมเธอไม่โทรบอกฉันเลยยัยเพื่อนบ้า ฮึก รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแทบแย่ ฮือ...”
สองวันหลังจากที่เพชรพราวคลอดลูก เจสิก้าที่พึ่งได้รู้เรื่องจากแอนนารีบกลับมาทันทีเมื่อพยายามติดต่อเพชรพราวเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย เลยโทรมาหาแอนนาและก็ได้รู้ว่าเพชรพราวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเลยหนีงานกลับมาทันที
“เจสซี่...มาได้ยังไงไหนว่าไปอีกสองอาทิตย์ไง”
เพชรพราวที่ยกมือขึ้นโอบกอดร่างของเพื่อนสนิทที่โถมเข้าหาพร้อมกับถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ
“ก็ฉันโทรหาเธอแล้วไม่ยอมรับสายเลยโทรหาแอนนาน่ะสิ แล้วเป็นยังไงบ้าง หลานๆของฉันด้วย”
“ปลอดภัยดี คุณพยาบาลพึ่งพากลับไปที่ห้อง น่าจะพามาอีกทีหกโมงเย็นน่ะ”
“ฮือๆๆ ฉันเป็นห่วงจนแทบบ้ารู้ไหม...เจ็บมากไหม”
“อือ แต่ตอนนี้ไม่เจ
“อ่าว คุณมนัสครับ จะรีบร้อนไปไหนครับนั่น”“อ่าวคุณไบรอัน! มาทำอะไรครับ ขอโทษทีพอดีผมรีบ เมื่อกี้ยัยพราวโทรมาบอกว่าคลอดลูกแล้ว”“อะไรนะ!!! หนูพราวคลอดลูก!! แล้วนี่กำลังจะไปโน่นเหรอครับ ผมไปด้วยๆ เดี๋ยวโทรบอกให้ภรรยาผมออกมาเลย แล้วไปยังไงครับ”“ผมจองตั๋วเอาไว้หนึ่งทุ่ม”“ไม่ต้องๆเอาเครื่องส่วนตัวไปเลยเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้ โอ๊ย นี่พึ่งคลอดเหรอครับ”“เดี๋ยวไปคุยกันบนรถดีกว่าครับ”ทั้งคุณปู่และคุณตาแทบทำอะไรกันไม่ถูก เมื่อตื่นเต้นดีใจจนเนื้อเต้นพากันรีบเดินตรงไปที่รถของคุณไบรอันที่คนขับยังจอดรออยู่หน้าตึก ดีที่เขากับภรรยาพึ่งไปเที่ยวมาเมื่อสองเดือนก่อนแต่ทำวีซ่ายาวเป็นปีเลยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าใหม่กัน
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เพชรพราวก็ต้องพาเด็กๆบินกลับประเทศไทย เมื่อไรอันถูกบังคับให้กลับไปทำงานหลังจากสองอาทิตย์แรกที่เด็กๆเกิดมา เพราะมันร่วมเดือนแล้วที่ชายหนุ่มบินไปที่อเมริกา และเมื่อไรอันบินกลับมา คุณปู่ คุณย่าและคุณตาก็อาสาอยู่เลี้ยงเด็กๆอยู่ที่โน่นจนกระทั่งกลับมาประเทศไทยพร้อมกันในวันนี้ เพราะคุณพ่อลูกสามทนคิดถึงลูกๆไม่ไหว ขู่เช้าขู่เย็นว่าจะลาออกจากบริษัทจนสุดท้ายเพชรพราวทนคำรบเร้าไม่ไหวพาเด็กๆบินกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย“อ๊าย!!! นี่มันพี่ไรอันตอนเด็กๆนี่คะ มาให้คุณอาอุ้มหน่อยสิหนุ่มๆ โอ๊ย อุ้มใครดีเนี่ย เหมือนกันไปหมดเล้ยยยย”พอมาถึงบ้าน ไรอาที่รอรับอยู่ถึงกับกรี๊ดกร๊าดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอโดดงานที่โรงพยาบาลมารออยู่บ้านร่วมชั่วโมงแล้ว ก่อนจะวิ่งไปรับเอาหนึ่งในสามมาอุ้มอย่างแสนตื่นเต้นดีใจที่สุดท้ายก็ได้เจอหลานๆตัวจริงๆสักที“หึหึหึ ไรอันก็เหมือนไรอานั่นแหละน่า ทำเป็นพูดไป ถ้าเอารูปมาเทียบกันแม่นึกว่าแฝดห้าเลยล่ะ&rd
“บอกให้ไรอันกลับมา เดี๋ยวนี้!”“คุณพ่อ ไรอา...ไรอาไม่รู้ว่าพี่ไรอันอยู่ไหนจริงๆนะคะ”“คุณคะ ฮึก! ใจเย็นๆก่อน บางทีไรอันอาจไปหาเพื่อน เดี๋ยวคงกลับมาเอง ใจเย็นก่อนนะคะ”เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นไม่หยุด เมื่อผู้เป็นสามีเอาแต่เกรี้ยวกราดเพราะบุตรชายเพียงคนเดียวของตนก่อเรื่องทะเลาะวิวาทร้ายแรงจนคู่อริเกือบตายทั้งๆที่อยู่เพียงมัธยมปลายกันเท่านั้น และตอนนี้ก็มาหนีหายหลังจากโดนทำโทษอย่างหนักจากผู้เป็นบิดา“ถ้ามันไม่ยอมกลับมาภายในคืนนี้ ผมกับมันขาดกัน!”“คุณพ่อคะ แต่พี่ไรอันไม่ผิด พี่ไรอันแค่...”“ผิดไม่ผิดก็ไม่มีสิทธิทำร้ายคนอื่นเกือบถึงตายแบบนั้น! ส่วนเรา กลับขึ้นห้องไปได้แล้ว เตรียมตัวไว้เลย พ่อจะย้ายเรากับพี่เราไปเรียนที่อังกฤษ!”“คุณ! ฮือๆๆๆ ไม่นะไบรอัน!!!!”ร่างใหญ่ของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไม่แม้แต่จะหันกลับมามองภรรยากับบุตรสาวที่ยืนกอดกันร้องไห้อย่างหนักที่เขาทำโทษบุตรชายโดยที่ไม่ฟังเหตุผลจากใครเลยอย่างนั้น“ทำยังไงดีคะคุณแม่ ป่านนี้ไม่รู้พี่ไรอันไปอยู่ไหน เจ็บตัวขนาดนั้น ฮึก ไรอาเป็นห่วงพี่ไรอันจังเลยคะ”“โธ่ แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วลูก พี่ชายเราก็ร้อน พ่อเราก็ร้อน เดี๋ยวแม่ลองคุยกับคุณพ่อ
“อ๊ะ! อ๊า! นาย อื้อ นายคะ ลูกน้ำจะไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อื้อ เจ็บ นะ...นาย...”เสียงร้องครวญครางทรมานดังขึ้นไม่ขาดสายเมื่อวันนี้ลูกน้ำ เด็กใหม่ในคาสิโนถูกเรียกให้ขึ้นมาบำเรอกามให้กับไรอัน ด้วยความด้อยประสบการณ์เพราะพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบปี ทำให้หญิงสาวแทบทานทนต่อบทรักอันรุนแรงและหนักหน่วงของมาเฟียหนุ่มไม่ไหว แต่ไรอันกลับไม่ได้สนใจ มือใหญ่กอบกำสะโพกผายเอาไว้แน่นพร้อมกับกระหน่ำกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าใส่อย่างเอาเป็นเอาตายตามความต้องการอันมากมายและดุดันของตัวเองพับ!พับ! พับ! พับ! พับ!พับ!พับ!พับ! “ฮึ่ม! หยุดแหกปากสักที หรืออยากให้พวกนั้นลากออกไปต่อ ห๊ะ!”เสียงแหบแห้งจากการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงมาร่วมครึ่งชั่วโมงเอ่ยขึ้น ทำเอาลูกน้ำรีบดึงผ้าขึ้นมากัดเอาไว้แน่นกันเสียงของตัวเองเล็ดลอดออกมา เมื่อก่อนที่จะขึ้นมาที่นี่พวกเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกันเตือนเอาไว้ว่าอย่าขัดใจมาเฟียหนุ่มเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นอาจโดนโทษหนักกว่าแค่ทนมอบความสุขให้แก่เขาก็ได้ตอนไหนจะเสร็จสักที จะทนไม่ไหวอยู่แล้วลูกน้ำได้แต่คิดขึ้นมาในใจ เมื่อแรงที่มีกำลังจะหมดลงพร้อมกับตากลมเริ่มปรือหลับเล็กลงเรื่อยๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป“อ๊
“มีอะไรครับ เห็นเด็กบอกว่าให้ตามผม”“อืม นั่งก่อนสิ”เช้าวันต่อมา ไรอันที่ถูกเรียกตัวมาหาเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะนานแล้วที่จอห์นไม่ได้เรียกเขามาคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้“ไม่คิดจะกลับบ้านบ้างรึไง”“อ่าว ทำไมพ่อถามผมแบบนั้นล่ะก็นี่ไงบ้านผม จะให้ผมไปไหนอีก”ไรอันตอบออกมาพร้อมกับเสไปมองที่อื่นเหมือนกับไม่สนใจที่จอห์นพูดออกมาทั้งๆที่รู้ดีว่าในคำพูดนั้นหมายถึงอะไร ส่วนจอห์นได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ“ฉันรู้ว่าแกรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง นี่ก็สิบปีแล้วที่แกหนีมา ยังไม่ถึงเวลาต้องกลับอีกเหรอ หรือแกคิดจะตัดขาดพ่อกับแม่ของแกจริงๆ”“............”“ทุกอย่างมันมีเวลาของมันไรอัน อย่าคิดทำอะไรในวันที่มันสายเกินไป เพราะคนที่จะเสียใจที่สุดก็คือแก ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย”“............”ไรอันไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะเดินออกมาจากห้องของจอห์นโดยไม่มีคำเอื้อนเอ่ยใดใดอีก ส่วนจอห์น เขาไม่สามารถบังคับอะไรไรอันได้นอกจากแค่พูดให้ได้คิดบ้าง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก“ผมคิดว่าบางทีนายอาจต้องมาหาไรอันด้วยตัวเอง”“แกคิดว่ามันจะฟังฉันเหรอ ถ้ามันยอมฟังฉันมันคงไม่หนีออกจากบ้านเป็นสิบๆปีอย่างนี้หรอก”“แล้วนาย
และสุดท้ายไรอันก็ดื้อจนถึงที่สุด เมื่อตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้ก็สามวันแล้วที่คุณไบรอันต้องรอคำตอบจากบุตรชาย เมื่อไรอันไม่ยอมกลับไปกับเขาแถมยังตีเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดจอห์นที่พยายามแล้วก็ยังไม่สำเร็จแถมโดนไรอันโกรธเข้าให้อีกคน“ไรอันไปไหน”“อยู่ห้องทำงานครับนาย”“อืม ไปบอกมาหาฉันที่สระน้ำหลังคาสิโนหน่อยไป”“ครับ”พอสั่งเสร็จก็เดินกลับเข้าห้องทำงานไป เมื่อนี่คงเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำให้ไรอันกลับไปกับคุณไบรอันแล้ว ส่วนไรอัน เมื่อลูกน้องเดินไปบอกว่าจอห์นให้ไปพบเขาก็แทบอยากหนีออกจากคาสิโนไป แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อหนีไปไหนก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี เลยตัดสินใจเดินออกไปหาบิดาตามที่สั่งมา“ลูกว่าอะไรนะ! คุณแม่...คุณแม่หกล้มเข้าโรงพยาบาลเหรอ! แล้วตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง! งั้นเดี๋ยวพ่อจะบินกลับไปวันนี้เลย ใจเย็นๆแล้วคอยรายงานพ่อ ไม่นานพ่อคงถึง โอเคๆ”“คุณแม่...คุณแม่เป็นอะไร...”ไรอันที่เดินเข้ามาเหมือนกับคนละเมอ เมื่อเขาได้ยินที่คุณไบรอันคุยโทรศัพท์เมื่อกี้“แกสนใจด้วยเหรอ ตั้งแต่แกหนีออกจากบ้าน แม่แกก็ร่างกายย่ำแย่ไม่แข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ตอนนี้ฉันหมดเวลาที่นี่แล้ว ถ้าแกไม่กลับไ
“ได้ข่าวว่าแกจีบลูกสาวเจ้าของโรงบาลติดเหรอวะ ฮ่าฮ่าฮ่า คิดยังไงยอมคบกับคนอย่างแกวะเนี่ย”“โธ่ หล่อๆแบบฉันหายากนะเว้ย”“ฉันก็เข้าใจ แต่ผีพนันอย่างแก มีหวังยัยนั่นได้หมดตัวในหนึ่งเดือนแน่”“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่หรอก แกรู้ไหมว่าครอบครัวไรอารวยขนาดไหน ฉันรู้มานะว่ารวยแบบโคตรๆ รวยจริงรวยจังแถมเธอยังเป็นลูกคนเดียวอีกนะเว้ย คิดดูสิถ้าฉันได้มาเป็นเมียนะ สบายไปทั้งชาติ”“อ่าวไหนบอกมีพี่ชาย”“ตายไปแล้วมั้ง ไม่เคยมีใครเห็นนี่ สงสัยตายไปแล้วล่ะ”“!!!!!!”ขณะที่ไรอันกำลังจะเดินไปทางบันไดหนีไฟ เขากลับได้ยินการสนทนาที่แค่ได้ยินก็รู้ได้ทันทีเลยว่ากำลังพูดถึงครอบครัวของเขาอยู่ ชายหนุ่มหยุดฟังจนกระทั่งทนไม่ไหวก่อนจะเดินเข้าไปยืนต่อหน้าของทั้งสองคน ทำเอาคนที่กำลังพูดอยู่ถึงกับตกตะลึงตาค้างเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่ม“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไร”ไรอันกดเสียงต่ำพร้อมกับกัดฟันแน่น จับจ้องไปที่ผู้ชายสองคนที่มองมาที่เขาอย่างตะลึงงัน เมื่อมาเฟียหนุ่มนั้นมีหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับน้องสาวฝาแฝดไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแค่ส่วนสูงและทรงผมเท่านั้นที่ต่างกัน“ฉันถามว่าพวกแกพูดว่ายังไง!”ไรอันตะโกนถามอย่างไม่สนใจว่าที่นี่คือที่ไหน สองขาก้าวเข้า
“อืม ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ฉันจัดการได้”“ครับ ผมคงต้องอยู่นี่นานหน่อย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็โทรมาเลยนะผมจะได้ขึ้นไป”“อืม พ่อของแกน่ะ ยกโทษให้ได้แล้ว แกลงโทษเขามานานมากพอแล้วนะไรอัน”“มันก็นานพอกับที่ผมลงโทษตัวเอง งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องจัดการอีกหลายอย่าง ไว้เดี๋ยวผมจะโทรหาอีกที”ไรอันกดวางสายทันทีที่พูดจบเมื่อไม่อยากฟังที่จอห์นบ่น ก่อนจะหันมาหาหาเตชิน ที่พาลูกน้องอีกสี่ห้าคนตามมาคอยปกป้องไรอันตามที่จอห์นสั่งเอาไว้“ไปหาซื้อคอนโด เอาที่ปลอดภัยและกว้างขวางพอที่จะอยู่ได้หมดนี่ ฉันคงต้องอยู่ที่นี่นานหน่อย”“ครับนาย เดี๋ยวผมจัดการให้เลย น่าจะไม่เกินพรุ่งนี้”“ต้องได้วันนี้”“ครับ...”เตชินรีบรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไปทันที ส่วนไรอันตอนนี้เขาคงต้องคอยรับมือกับอีกหลายเรื่อง เมื่อยังไงก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่วันต่อมา ไรอันก็เข้ามาทำงานที่สำนักงานใหญ่ของโรงพยาบาล ที่แยกออกมาตั้งอยู่ที่ตึกสูงเสียดฟ้าไม่ไกลจากโรงพยาบาลใหญ่เท่าไหร่นัก“อะไรนะ! ลูก...ลูกชายของท่านประธานอย่างนั้นเหรอ? ไหนใครว่าตายไปแล้ว ไหนว่า...”“อย่าพูดออกมานะครับท่าน เห็นว่าเมื่อวานมีคนโดนซ้อมเพราะดันไปโม้ว่ากำลังคบกับค
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เพชรพราวก็ต้องพาเด็กๆบินกลับประเทศไทย เมื่อไรอันถูกบังคับให้กลับไปทำงานหลังจากสองอาทิตย์แรกที่เด็กๆเกิดมา เพราะมันร่วมเดือนแล้วที่ชายหนุ่มบินไปที่อเมริกา และเมื่อไรอันบินกลับมา คุณปู่ คุณย่าและคุณตาก็อาสาอยู่เลี้ยงเด็กๆอยู่ที่โน่นจนกระทั่งกลับมาประเทศไทยพร้อมกันในวันนี้ เพราะคุณพ่อลูกสามทนคิดถึงลูกๆไม่ไหว ขู่เช้าขู่เย็นว่าจะลาออกจากบริษัทจนสุดท้ายเพชรพราวทนคำรบเร้าไม่ไหวพาเด็กๆบินกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย“อ๊าย!!! นี่มันพี่ไรอันตอนเด็กๆนี่คะ มาให้คุณอาอุ้มหน่อยสิหนุ่มๆ โอ๊ย อุ้มใครดีเนี่ย เหมือนกันไปหมดเล้ยยยย”พอมาถึงบ้าน ไรอาที่รอรับอยู่ถึงกับกรี๊ดกร๊าดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอโดดงานที่โรงพยาบาลมารออยู่บ้านร่วมชั่วโมงแล้ว ก่อนจะวิ่งไปรับเอาหนึ่งในสามมาอุ้มอย่างแสนตื่นเต้นดีใจที่สุดท้ายก็ได้เจอหลานๆตัวจริงๆสักที“หึหึหึ ไรอันก็เหมือนไรอานั่นแหละน่า ทำเป็นพูดไป ถ้าเอารูปมาเทียบกันแม่นึกว่าแฝดห้าเลยล่ะ&rd
“อ่าว คุณมนัสครับ จะรีบร้อนไปไหนครับนั่น”“อ่าวคุณไบรอัน! มาทำอะไรครับ ขอโทษทีพอดีผมรีบ เมื่อกี้ยัยพราวโทรมาบอกว่าคลอดลูกแล้ว”“อะไรนะ!!! หนูพราวคลอดลูก!! แล้วนี่กำลังจะไปโน่นเหรอครับ ผมไปด้วยๆ เดี๋ยวโทรบอกให้ภรรยาผมออกมาเลย แล้วไปยังไงครับ”“ผมจองตั๋วเอาไว้หนึ่งทุ่ม”“ไม่ต้องๆเอาเครื่องส่วนตัวไปเลยเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้ โอ๊ย นี่พึ่งคลอดเหรอครับ”“เดี๋ยวไปคุยกันบนรถดีกว่าครับ”ทั้งคุณปู่และคุณตาแทบทำอะไรกันไม่ถูก เมื่อตื่นเต้นดีใจจนเนื้อเต้นพากันรีบเดินตรงไปที่รถของคุณไบรอันที่คนขับยังจอดรออยู่หน้าตึก ดีที่เขากับภรรยาพึ่งไปเที่ยวมาเมื่อสองเดือนก่อนแต่ทำวีซ่ายาวเป็นปีเลยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าใหม่กัน
“พราว!!! เธอ...ทำไมเธอไม่โทรบอกฉันเลยยัยเพื่อนบ้า ฮึก รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแทบแย่ ฮือ...”สองวันหลังจากที่เพชรพราวคลอดลูก เจสิก้าที่พึ่งได้รู้เรื่องจากแอนนารีบกลับมาทันทีเมื่อพยายามติดต่อเพชรพราวเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย เลยโทรมาหาแอนนาและก็ได้รู้ว่าเพชรพราวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเลยหนีงานกลับมาทันที“เจสซี่...มาได้ยังไงไหนว่าไปอีกสองอาทิตย์ไง”เพชรพราวที่ยกมือขึ้นโอบกอดร่างของเพื่อนสนิทที่โถมเข้าหาพร้อมกับถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ“ก็ฉันโทรหาเธอแล้วไม่ยอมรับสายเลยโทรหาแอนนาน่ะสิ แล้วเป็นยังไงบ้าง หลานๆของฉันด้วย”“ปลอดภัยดี คุณพยาบาลพึ่งพากลับไปที่ห้อง น่าจะพามาอีกทีหกโมงเย็นน่ะ”“ฮือๆๆ ฉันเป็นห่วงจนแทบบ้ารู้ไหม...เจ็บมากไหม”“อือ แต่ตอนนี้ไม่เจ
“อ๊ะ! อื้อ...ทำไมวันนี้ดิ้นแรงนักล่ะลูก ตื่นเต้นที่ได้เจอคุณปู่กับคุณย่าเหรอครับ อู้ย...”พอวางสายจากบิดาไป เพชรพราวก็ต้องครางออกมาอย่างรู้สึกเจ็บเมื่อลูกๆของพากันพร้อมใจกันดิ้นจนหน้าท้องนูนเด่นขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวพยายามลูบท้องเพื่อให้เด็กๆสงบลงเหมือนทุกครั้ง แต่ดูท่าจะไม่ฟังกันเลย เมื่อยิ่งดิ้นหนักเข้าไปใหญ่ จนเพชรพราวแทบทนไม่ไหว ตอนนี้เธอเจ็บจนเหงื่อแตกไหลอาบลงตามไรผมเมื่อเริ่มเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ“ระ...ไรอัน อื้อออออ ไรอัน อ๊ะ! อื้อ ไรอัน...ระ...ไรอัน...”เสียงแหบโหยโรยแรงพยายามร้องเรียกไรอันที่ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็นให้เธอ เมื่อเธอบอกว่าอยากทานสปาเก็ตตี้ฝีมือเขาอีกไรอัน...ขอร้อง...เข้ามาที เพล้ง!!!!เพชรพราวที่เจ็บจนหมดแรงพยายามภาวนาให้ไรอันเข้ามาเร็วๆก่อนที่เธ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“คุณว่าอะไรนะ! สะ...สาม ไรอันมีลูกแฝดสามเนี่ยนะ!!!!”กลับมาทางด้านคุณมิรันหลังจากที่ไรอันบินไปหาเพชรพราว เธอพยายามติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจบอกผู้เป็นสามีถึงความลับที่เธอเก็บเอาไว้ เพื่อปรึกษาว่าควรทำยังไงต่อดี และพอคุณไบรอันได้ฟังในทีแรกถึงกับลุกขึ้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นจนไรอาที่พึ่งเดินเข้าบ้านเพราะมารดาโทรตามก็รีบวิ่งเข้ามาตามเสียงของบิดา“มีอะไรคะคุณพ่อ! เสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย เป็นอะไรกันคะ!”“กะ...ก็แม่ของลูก...แม่ของลูกบอกว่ามีแฝดสาม...”“ห๊ะ!! คุณแม่ท้องแฝดสามเลยเหรอคะ!!! เป็นไปได้ยังไง...ไหนว่าประจำเดือนหมดไปแล้ว...”คุณมิรันถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับกับความเหมือนของสองพ่อลูกคู่นี้ ก่อนจะยกมือห้ามเสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาให้รำคาญหัวใจอีก
“อื้ออออ อึดอัด...”เช้าวันต่อมา เพชรพราวที่รู้สึกรำคาญดิ้นไปมาก่อนจะนิ่งไปอีกครั้งเมื่อไรอันค่อยๆยกแขนที่เขากอดเธอเอาไว้ออก ร่างใหญ่ลุกออกจากเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน พอเสร็จชายหนุ่มก็เดินออกไปที่ครัวเพื่อดูว่ามีอะไรที่สามารถเป็นอาหารให้เขากับเธอได้ ก่อนจะเจอเส้น ที่ใช้ทำสปาเก็ตตี้และวัตถุดิบทุกอย่างครบครันเขาเลยลงมือทำทันที เพราะแต่ก่อนเขาก็ทำกินเองบ่อยๆเมื่อตอนไปเรียนที่อังกฤษตุ๊บ!!!“คุณเป็นใคร! เข้ามาในนี้ได้ยังไง!”แอนนาที่พึ่งเข้ามาทำงานตกใจถึงกับปล่อยนมบำรุงครรภ์ที่ซื้อติดมือมาหล่นลงพื้นเมื่อเจอเข้ากับไรอันในร่างเกือบเปลือย มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ ร่างอวบมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้องนอนของเพชรพราวและพบว่าเธอยังปลอดภัยดีก็ถอนหายใจออกมา“ตกลงคุณเป็นใคร เข้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเข้ามาได้ยังไง”แอนนาถามออกมาชุดใหญ่ เมื่อมองดูรอบๆพบว่ามันไม่ได้มีอะไรหายไปหรือแตกหัก แสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย ส่วนไรอันก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเขาลืมไปเสียสนิทว่าแอนนาต้องเข้ามาทำงานที่นี่“เอ่อ คือ...ผม เอ่อ...”“อ่าว สวัสดีค่ะแอนนา มีอะไรกันรึเปล่าคะ”
“นายครับ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ...”เตชินที่เดินตามไรอันถามขึ้นอย่างแปลกใจกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม หลังจากออกมาจากห้องทำงานของคุณมนัสได้พักใหญ่ๆไรอันก็เดินเหมือนกับว่าไร้วิญญาณในมือถือกรอบรูปอันเล็กเอาไว้จนเตชินที่ทั้งแปลกใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเขากันแน่อดถามขึ้นไม่ได้“นายครับ นั่นมัน เอ่อ ห้องทำงานไปทางนี้ครับ”“หือ? อือ...”“เป็นอะไรของเขาล่ะเนี่ย หรือว่าคุณมนัสพูดอะไรมา แต่ไม่น่าจะทำให้นายเป็นอย่างนี้ได้นี่”ยิ่งคิดเตชินยิ่งสับสน เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นไรอันเป็นแบบนี้ ก่อนไรอันจะเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วบอกไม่ให้ใครรบกวนเป็นอันขาด“มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมเธอถึง...”ชายหนุ่มยกรูปที่ขอยืมมาจากคุณมนัสขึ้นดู มันเป็นเพียง
“จะไม่กลับไปกับพ่อจริงๆเหรอ ท้องโตอย่างนี้แถมไม่มีคนดูแลอีก กลับไปกับพ่อเถอะนะ”“พราวดูแลตัวเองได้ค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เจสซี่ก็อยู่ คุณพ่อน่าจะอยู่เล่นกับหลานๆนานกว่านี้หน่อย ตั้งแต่คุณพ่อมาเด็กๆก็ไม่ค่อยเกเร...คุณตาจะกลับแล้วบอกลาคุณตาสิครับ”“อุ๊ย ดิ้นกันใหญ่เลย ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยวตาจะบินมาบ่อยๆนะ อย่าดื้ออย่าซนให้มันมากนักไอ้เสือน้อยของตา เข้าใจไหมครับ”“ฮึก คุณพ่ออ่ะ อย่าทำให้พราวร้องไห้สิคะ ไม่ต้องกลับได้ไหมคะ พราวคิดถึงคุณพ่อแล้ว”“โธ่ เด็กขี้แย จะเป็นแม่คนแล้ว”คุณมนัสดึงร่างอวบของบุตรสาวเข้ามากอดพลางน้ำตาซึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อในตอนนี้ไม่ใช่มีแค่ลูกสาวเขาคนเดียวแล้วแต่ยังมีหลานน้อยเพิ่มมาอีกสามคน แล้วจะไม่ให้เขาห่วงเพิ่มเป็นทบเท่าทวีคูณได้ยังไง“เดี๋ยวจะถ
หนึ่งวันหลังจากนั้นคุณไบรอันก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่กรุงเทพฯพร้อมกับจอห์นส่วนไรอันต้องสะสางเรื่องที่คาสิโนและต้องให้ความร่วมมือกับพวกตำรวจสากลที่ต้องการตรวจสอบธุรกิจของเขารวมทั้งบริษัทผลิตอาวุธอีก เลยทำให้วุ่นกันไปหมดเพราะพอที่นี่เสร็จต้องบินไปที่อังกฤษอีก ไรอันแทบไม่ได้หยุดพัก เมื่อจอห์นตัดสินใจแล้วว่าจะขายคาสิโนทิ้งเหลือเอาไว้แค่บริษัทที่อังกฤษ ส่วนไรอันตกลงแล้วว่าจะกลับมารับช่วงต่อที่โรงพยาบาล เมื่อไรอาไม่ยอมที่จะขึ้นบริหารที่นั่น ก็คงเหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ต้องกลับไปรับตำแหน่งต่อจากบิดา“นายครับ ทีมงานจากประเทศไทยพึ่งกับมาถึง น่าจะเข้ามาทำงานกันพรุ่งนี้”“อืม แจ้งไปทางตำรวจสากลให้เข้าตรวจพรุ่งนี้ได้เลย ส่วนเรื่องที่ฉันให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง”“ไม่มีข้อมูลหรือข่าวของเธอเพิ่มเติมเลยครับนาย คุณมนัสไม่ได้ติดต่อหรือไปหา ส่วนที่อเมริกาก็ไม่มีครับยากมากที่จะหาข้อมูลของเธอที่นั่น เพราะแทบไม่มีใครพูดเรื่องส่วนตัวกันเลย บอกแค