บทที่ 24 อ่อนไหว20:00อีริคนั่งอยู่ปลายเตียงนอน โดยคนโปรดนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง เธอมองแผ่นหลังกำยำตาพร้อมกะพริบปริบ ๆ จนอีริคเอี้ยวหน้ากลับมามอง“ทำไมยังไม่นอนอีก หรือต้องให้กล่อมแล้วตีก้นเหมือนเด็ก”“...”!“เธอหลับตอนไหนฉันก็กลับตอนนั้น นั่นเป็นข้อตกลงที่เธอขอมา”“แต่โปรดนอนไม่หลับนี่คะ”“นั่นปัญหาของเธอนะ”คำพูดไร้เยื่อใยของอีริคทำเอาเธอรู้สึกน้อยใจนิด ๆ แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาคงไม่ชอบรออะไรนาน ๆ แบบนี้ แต่เธอดันนอนไม่หลับเนี่ยสิ จิตใจว้าวุ่นไปหมด ไม่สงบนิ่งเลย“คุณอีริคกลับไปก่อนก็ได้นะคะ โปรดโอเค” เขาไม่จำเป็นต้องทำตามที่เธอขอด้วยซ้ำ แต่ก็ยังทำ ตอนนี้เธอทั้งรู้สึกดีและรู้สึกว้าวุ่นกับความรู้สึกตัวเองมาก ยิ่งคำพูดของอีริคที่ว่า 'ความรักไม่มีในโลก' วนเวียนอยู่ในหัวแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกสับสน“นอนเถอะ” คราวนี้เขาหันหน้ามาพูดเสียงเรียบ น้ำเสียงน่าฟังกว่าเมื่อหลายนาทีก่อนมาก คนโปรดพยักพเยิดหน้าเข้าใจแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมศีรษะ แต่ความรู้สึกเหมือนอีริคกำลังเดินอ้อมมาที่ฝั่งเธอนอน ด้วยผ้าห่มไม่ได้หนาขนาดนั้นเธอจึงมองเห็นเงาดำกำลังโน้มลงมาหาพรึบ!คนโปรดเปิดผ้าห่มออกจากใบหน้า ทำให้เห็นว่าอีริคโน้ม
บทที่ 25 'กระต่ายจะอยู่ข้างพระจันทร์เสมอ'ตลอดทั้งวันเธอเอาแต่คิดอยู่เรื่องเดียว และไม่ได้สนใจว่าใครจะโทรมาหากระทั่งเสียงเคาะประตูดังสองครั้ง ตามด้วยเสียงลูกน้องของอีริคที่เอ่ยถาม“คนโปรด นายถามว่าทำไมไม่รับสาย” เสียงตะโกนถามทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิดตัวเองแล้วคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงนอนมากดดู ปรากฏว่ามีสายไม่ได้รับสองสายด้วยกัน“ขอโทษค่ะ พอดีโปรดจัดต้นไม้อยู่” เธอตะโกนบอกคนที่รอเอาคำตอบอยู่หน้าห้อง แล้วจึงรีบโทรกลับไปหาอีริค(ถ้ามันวุ่นวายขนาดนั้นฉันจะให้ลูกน้องรื้อเอาไปทิ้งให้หมด) เสียงเข้มกรอกเข้ามาในสายทันทีที่เขากดรับ อันที่จริงอีริครู้ว่าเธอน่ะนั่งเหม่อมานานเป็นชั่วโมงแล้ว เพราะดูกล้อง“โปรดขอโทษนะคะ ใจลอยไปหน่อยเลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์”(วันนี้ฉันจะไปสนามม้า เตรียมตัวด้วยล่ะ)“ค่ะ”(แค่นี้นะ)“ค่ะ” เธอไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงพยักหน้าเข้าใจที่เขาบอก เมื่ออีริคตัดสายไปแล้วจึงเอนตัวไปพิงเตียงนอน “ทำไมโปรดรู้สึกเศร้าแบบนี้คะ” เธอไม่อาจขจัดความกังวลออกไปได้สองชั่วโมงต่อมา ณ.สนามม้าคนโปรดเดินตามหลังพาเวลมาในห้องพักซึ่งเป็นห้องเดิมที่เธอเคยอยู่ตอนที่ป่วยนอนให้น้ำเกลืออยู่ในนี้
บทที่ 26 ไว้ใจความใกล้ชิดทำให้คนโปรดเผลอนั่งเหม่อและมองหน้าอีริค ความคิดในหัวกำลังตีกันวุ่นวายไปหมดจนกระทั่งสัมผัสจากฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะเธอเบา ๆ“คะ?” คนโปรดรีบหันกลับมามองคนข้าง ๆ“เหม่ออะไร นั่งอยู่ด้วยกันแท้ ๆ ยังเหม่อได้อีกเหรอ”“ขอโทษค่ะ พอดีโปรดรู้สึกมวนท้องนิดหน่อย น่าจะไม่ได้กินข้าวเที่ยงมั้งเลยรู้สึกแบบนี้” เธอรีบแก้ต่างเมื่อถูกจับตามอง “ว้าว น้ำซุปร้อนแล้วค่ะ กินเถอะ”“มันร้อนนานแล้วต่างหาก เธอกำลังคิดเรื่องที่พาเวลพูดงั้นเหรอ”“...”!“หึหึ ใช่จริง ๆ สินะ”“คุณริคทำอะไรพี่พาเวลหรือเปล่า”“ฉันจะทำอะไรมันได้ มันเป็นลูกน้องฉันนี่”“...”“ฉันไม่ชอบพูดอะไรที่ทำให้ไม่เจริญอาหาร ไม่พูดถึงมันดีกว่า” เขาคีบหมูที่ลวกสุกแล้วมาพักในถ้วย จากนั้นก็ตักไข่แดงดองซีอิ๊วมาราดหมูก่อนจะตักเข้าปาก คนโปรดอมยิ้มหวาน“ชอบกินแบบนี้เหรอคะ คุณริคกินได้น่าอร่อยมากเลย”“มั้ง” ตอบแบบขอไปที“คุณริค”“ถ้าเรียกอีกครั้ง ฉันจะหยุดกินแล้วจับเธอกินแทน”“...”! คนโปรดปิดปากเงียบกริบ แต่ก็พลอยยิ้มตามอีริค นี่คงเป็นมุมสบาย ๆ ที่เขาไม่เคยแสดงให้ใครเห็นมาก่อนสินะ “โปรดอยากกินเต้าหู้ปลา” พูดจบอีริคก็คีบเต้าหู้ปลาในน
บทที่ 27 คำขู่หลายนาทีต่อมาพาเวลขมวดคิ้วและมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้ว แต่คนโปรดยังไม่ออกมาจากห้องน้ำเลย“ทำอะไรอยู่” พาเวลาพึมพำและตั้งท่าจะเคาะประตูห้องน้ำ ทว่าประตูกลับเปิดออกเสียก่อน คนโปรดทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ “อย่าให้นายรอนาน เดี๋ยวเธอก็ได้เรื่องหรอก”“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าเดินกลับไปหาอีริคที่รออยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น พอเธอเดินเข้ามานั่ง อาหารที่อีริคสั่งไว้รอก็มาเสิร์ฟจะครบแล้ว“หายไปไหนมาตั้งนาน”“โปรดปวดท้องนิดหน่อยค่ะ”“...” อีริคมองใบหน้าแดงซ่านของคนโปรด เธอดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ ทว่าตอนที่เขายกมือขึ้นจะหยิบแก้วน้ำ คนโปรดกลับสะดุ้งโหยงตกใจจนหน้าถอดสี “เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเธอดูหวาดกลัวแปลก ๆ” ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาอีริคไปได้“ปะ เปล่าค่ะ”“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร”“ค่ะ” รอยยิ้มที่เธอส่งมาให้เขามันแฝงไปด้วยความกลัวบางอย่างที่แสดงออกชัดเจน อีกทั้งแววตาที่แสดงออกถึงความกลัว คนโปรดนั่งกินอาหารญี่ปุ่นที่อีริคคีบให้ ทั้งระแวงคนรอบ ๆ จนทำให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามรู้สึกหงุดหงิดไปด้วย“ฉันเริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะคนโปรด” เจ้าของน้ำเสียงแข็งกร้า
บทที่ 28 จุดอ่อนหลายนาทีต่อมาคนโปรดร้องไห้จนสะอึกสะอื้นจนตัวเองหลับใหลไปในอ้อมแขนแกร่งของอีริค ในเวลาต่อมา อีริคนั่งมองใบหน้าแดงซ่านของคนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยผมออกจากใบหน้าเธออย่างเบามือที่สุด“เฮ้อ~” อีริคถอนหายใจออกพรืดหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องพัก “เฝ้าเธอไว้ให้ดี และถ้าเธอถามหาฉันบอกไปว่าออกไปทำธุระข้างนอก ให้เธอพักอยู่ในนี้จนกว่าฉันจะสั่งให้พากลับ”“ครับนาย” ลูกน้องหนุ่มตอบรับคำสั่งเสียงเข้ม อีริคปรายตามองบานประตูเพียงนิดแล้วเดินออกมาหลายชั่วโมงต่อมาคนโปรดปรือตาหนักอึ้งขึ้น มองไปรอบห้องที่แสนคุ้นเคยด้วยอาการมึนศีรษะเล็กน้อย ปกติที่ลืมตาขึ้นมาเธอต้องเจอกับอีริคที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข้ามุมตัวนั้น ทว่าตอนนี้ในห้องเงียบกริบ มีเพียงเธอคนเดียวและไร้เงาอีริค“คุณริคไปไหน” หญิงสาวพึมพำเสียงอ่อน มองหาอีริคอยู่พักใหญ่กระทั่งแม่บ้านที่คอยดูแลเธอเปิดประตูนำอาหารเย็นเข้ามาให้คนโปรด “ป้าคะ คุณริคไปไหนเหรอคะ"“คุณริคออกไปทำธุระข้างนอกมั้ง” เธอตอบแบบขอไปที เพราะไม่รู้แจ้งว่าเจ้านายนั้นออกไปทีี่ไหน“อ๋อค่ะ” คนโปรดไม่ได้ถามอะไรเซ้าซี้กว่
บทที่ 29 ของเล่นหรือของหวง“คนโปรดอยู่ไหนเหรอ” ทันทีที่ซินซินเปิดประตูก้าวลงจากรถ เธอก็หันไปถามลูกน้องของอีริคที่มารอรับกระเป๋า ลูกน้องหนุ่มไม่ได้เอ่ยตอบซินซินในทันที แต่เขาผายมือไปที่สวนด้านหน้าห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากโรงจอดรถมากนัก “อยู่ที่นั่นนานแค่ไหนแล้ว”“พักใหญ่ ๆ แล้วครับคุณซิน”“อืม เดี๋ยวฉันดูแลเอง” เธอยกถุงไวน์ให้ลูกน้องเอาไปเก็บในห้องพัก แล้วเดินไปหาคนโปรดที่สวน พอเดินมาถึงซินซินก็หยุดยืนมองคนที่นั่งเหม่ออยู่ ร่างบอบบางผอมกว่าที่เคยเจอเมื่อครั้งก่อน แถมคนโปรดยังไม่รับรู้การมาของเธออีกซินซินทำเสียงกระแอมกระไอสองครั้ง จนคนที่นั่งเหม่ออยู่นานหลายนาทีหลุดออกจากภวังค์ คนโปรดหันมามองซินซินแล้วคลี่ยิ้ม ทว่าดวงตากลับฉายแววเศร้าสร้อย“พี่ซิน”“ว่าไงสาวน้อย มานั่งอะไรตรงนี้คนเดียวเนี่ย”“พอดีโปรดออกมาสูดอากาศน่ะค่ะ แล้วนี่พี่ซินมานานแล้วเหรอคะ”“ก็นานนะ นานจนเห็นว่าใครบางคนนั่งเหม่ออยู่”“...”! หญิงสาวก้มหน้าหลบสายตาซินซิน“เป็นอะไรคะคนสวย ปกติหนูสดใสกว่านี้นี่”“เปล่าค่ะ”“เปล่าจริงเหรอ”“...” เธอมองหน้าซินซินอย่างลังเลใจ ก่อนตัดสินใจพูดความในใจและบอกความจริงให้รุ่นพี่รู้ ผ่านไปนาน
บทที่ 30 ดื้อรั้นอีริคเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ยังสนุกสนานอยู่กับความดีใจที่เขามาหาเธอที่นี่ คนโปรดเอามือมาทาบที่แก้มอีริคแล้วเอาหน้าผากมาแนบกับหน้าผากเขา“โปรดดีใจ~” เธอคลี่ยิ้มหวาน คลอเคลียใบหน้าตัวเองกับแก้มสากไปมาอย่างออดอ้อน ก่อนจะถูกอีริครั้งแขนไว้ เขาตั้งท่าจะอุ้มเธอลงจากโซฟาเพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ คนโปรดยิ้มมุมปากแล้วเบี่ยงตัวหลบ “ไม่ให้จับหรอก~”“คนโปรด” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำ แต่เธอไม่ได้มีความหวาดกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย ยังเท้าเอวยกมือขึ้นมาชี้หน้าอีริค“โปรดไม่อยากอยู่ใกล้คุณริคแล้ว โปรดงอน~”“ลงจากโซฟาก่อน ถ้าเธอล้มลงไปฉันจะตีซ้ำแน่!”“ม่าย~ ม่ายเชื่อ~” เธอยิ้มท้าทายอำนาจชายหนุ่ม ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ครอบงำ สติเธอลดน้อยลงจนไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง “อย่ามาจับโปรด!” เธอยังเบี่ยงตัวหลบอีริค“ฉันจะหมดความอดทนกับเธอแล้วนะ”“ดุเหรอ~ ดุโปรดเหรอ” หญิงสาวคลี่ยิ้ม จากนั้นจึงยกมือขึ้นไปจับหว่างคิ้วอีริคแล้วคลายหัวคิ้วเขาเบา ๆ “เหมือนยักษ์เลย ยักษ์ขมูขี” พูดจบก็ป้องปากหัวเราะคิกคัก ในขณะที่อีริคทำหน้านิ่งเรียบมองการกระทำของคนโปรดด้วยความอดทนและข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้“เข้าห้อง” ฝ่ามือหนาคว้าจั
บทที่ 31 สิ่งที่อยากเป็น NCเหมือนเวลาถูกหยุดไว้ อีริคหลับตาและรับจูบจากคนตัวเล็กอย่างเต็มใจ สัมผัสอุ่นจากริมฝีปากจิ้มลิ้มยังคงตราตรึงอยู่บนริมฝีปากเขาขณะที่คนโปรดผละริมฝีปากออกไปได้ครู่หนึ่งแล้ว“โปรดไม่รู้ว่าต้องเอาตัวเองไปไว้ตรงไหนถึงจะถูกใจคุณริค โปรดขอโทษนะคะที่คิดมากเกินไป โปรดจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้เร็วที่สุด” เธอผินหน้าหนีแต่ก็ถูกอีริคจับใบหน้าหันมามองสบตากันเหมือนเดิม“เธอบอกเธอขอโทษฉันเพราะมีความรู้สึกเกินเลยกับฉันงั้นเหรอ”“ค่ะ โปรดรู้ว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ โปรดขะ...” ริมฝีปากเธอถูกครอบครองโดยริมฝีปากของอีริค รสจูบแสนนุ่นนวลนี้อีริคเป็นฝ่ายที่มอบให้คนโปรดเองเนินนานที่เขากับคนโปรดช่วงชิงลมหายใจของกันและกันท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้น มีเพียงเสียงหายใจของทั้งสองที่สอดประสานกันดังขึ้น“เธอไม่ผิดที่คิดแบบนี้”“โปรดควรจัดการกับมันยังไงดีคะ” คนโปรดเงยหน้ามองอีริคด้วยแววตาสั่นระริก เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองยังไง ในเมื่อเผลอใจคิดกับเขามากกว่าสถานะที่ให้ไว้ รู้ทั้งรู้ว่าสถานะตัวเองเป็นได้แค่ไหน แต่ใจมันก็ยังดื้อรั้น “โปรด...” นิ้วชี้ของอีริคแตะลงที่ริมฝีปากเธอ ก่อ