เช้าวันต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังอยู่บนหัวเตียง ทำให้ธามไทที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกตัวตื่นก่อน มือหนารีบคว้าโทรศัพท์มาปิดเสียงด้วยความรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนแฟนเด็กที่กำลังนอนหลับซบอยู่บนอกแกร่งใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางในยามหลับนั้นช่างไร้เดียงสา จนคนเพิ่งเคยมีแฟนอดใจไม่ไหวก้มหน้าลงไปสัมผัสแก้มหอมอย่างชื่นใจเพราะแรงสัมผัสที่แม้ว่าจะแผ่วเบาและอ่อนโยน แต่กลับทำให้เปลือกตาของไออุ่นขยับยุกยิกแล้วค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธามไทรีบปิดตาลงเพื่อแกล้งหลับ ด้วยอยากรู้ว่าเด็กสาวจะทำอย่างไรเมื่อตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา“หล่อจัง”เสียงหวานเอ่ยชมแฟนหนุ่มทันทีที่ลืมตาตื่น ทำเอาคนที่แกล้งหลับเกือบหลุดยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามตีเนียนแกล้งหลับต่อไปเพื่อไม่ให้เธอจับได้มือบางค่อย ๆ ยกขึ้นลูบใบหน้าของธามไทอย่างเบามือ รอยยิ้มสวยค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิดอย่างมีความสุขกับความรักครั้งแรก และผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ครั้งนี้เธอยินยอมเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ“หนูไอรักเฮียไทม์นะคะ”ไออุ่นสารภาพความรู้สึกในใจของเธอให้เขาได้ฟังอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้คนที่แกล้งหลับท
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด“มาทำงานเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กเวร”ทันทีที่ปลายสายกดรับโทรศัพท์ เสียงตะโกนด่าก็ดังเข้ามาในสายจนธามไทดึงโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน ก่อนที่เสียงปลายสายจะเงียบไปถึงได้เอาโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง“บอกว่ามาทำงานไม่ได้ยินหรือไงไอ้หลานเวร”ลูกไม้ตื้น ๆ ของธามไทไม่สามารถหลอกท่านประธานโรงพยาบาล N ที่เป็นถึงมาเฟียใหญ่ได้เลยสักนิด คนเป็นหลานถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อตาลุงกฤษฎิ์เริ่มสวดเขาไม่หยุด แต่คุณหมอก็น้อมรับผิดด้วยการไม่เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูยอมฟังคำบ่นแต่โดยดี“เลิกบ่นได้แล้วครับ ยังไม่แก่สักหน่อย ทำบ่นเป็นตาแก่ไปได้อะลุง น่ารำคาญชะมัดยาด”กฤษฎิ์ที่กำลังอ่านเอกสารสำคัญอยู่ฟังแล้วก็ต้องพยายามระงับโทสะที่กำลังพุ่งขึ้น เมื่อเจ้าหลานชายตัวดีไม่ยอมโทรมาลางาน และยังไม่ยอมรับสายเขาที่พยายามโทรหาหลายสายอีกนี่ถ้าอยู่ต่อหน้านะพ่อจะหยุมหัวให้ดู โตแล้วแต่ยังทำตัวเหมือนเด็กที่ตื่นสายไม่มีผิด อ้อ ไม่ใช่สิ เพราะติดเมียต่างหาก“หุบปากไปเลยนะไอ้หมอปากหมา นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ฉันโทรหาแกตั้งหลายสายแต่แกไม่ยอมรับสายฉันเลย นี่ขนาดเพิ่งคบกันนะ ถ้าแต่งงานกันไปแกไม่ลางานมันอาทิตย์ละสามวันเลยหรือยังไง”
ร้านอาหารญี่ปุ่น“อ้าว คุณหมอธามไทบังเอิญจังเลยนะคะ”ปัณณ์ทิชาคุณหมอสาวแผนกสูตินรีเวช เอ่ยทักทายเพื่อนร่วมงานคนหล่อด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจ เมื่อเธอบังเอิญเจอเขาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ทว่ารอยยิ้มของคุณหมอสาวค่อย ๆ จางหายไป เมื่อข้างกายของธามไทที่เคยว่างเปล่ากลับมีสาวน้อยหน้าตาน่ารักยืนกุมมืออยู่เคียงข้างกัน“ครับ”ธามไททำแค่เพียงตอบรับคำพูดของคุณหมอสาวเท่านั้น ด้วยไม่ได้สนิทสนมกับปัณณ์ทิชาถึงขั้นที่ต้องเอ่ยประโยคยาว ๆ เพื่อทักทายเธอขนาดนั้น ถึงแม้เขาจะรับรู้มาตลอดว่าคุณหมอสาวที่กำลังส่งยิ้มให้แอบชอบเขาอยู่ก็ตาม“วันนี้คุณหมอเข้าเวรไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมถึงได้พาเอ่อ...น้องสาวมาทานอาหารที่นี่ได้คะเนี่ย”เพราะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นอยู่ในสถานะใด ปัณณ์ทิชาจึงคิดเข้าข้างตัวเองเอาไว้ก่อนว่า เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้น่าจะเป็นน้องสาวของหมอธามไท เพราะเขานั้นอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วคงไม่น่าจะคบกับเด็กอายุน้อยกว่าหรอก“พอดีวันนี้ผมขอลางานพาแฟนมาเดตน่ะครับ”คำพูดที่ชัดเจนนั้นทำให้ปัณณ์ทิชาหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองไปยังไออุ่นที่ส่งยิ้มมาให้เธออย่างเป็นมิตร แต่แล้วเธอก็ต้องหุบยิ้
เช้าวันต่อมา“วันนี้จะทักผมเปียทรงไหนให้หนูไอคะ”เอ่ยถามคนพี่ที่รับหน้าที่เป็นทั้งผู้ปกครองที่ดีและแฟนที่น่ารัก ด้วยการเตรียมถักเปียให้เธอไปโรงเรียน มือใหญ่ที่ชำนาญในการจับมีดผ่าตัดยามนี้ไม่ได้ลงมีดผ่าตัดเป็นอย่างเดียวแล้วเมื่อมีแฟนเด็กเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลาย ธามไทก็ต้องเปลี่ยนมาจับหวีและยางรัดผมแทนมีดผ่าตัดชั่วคราว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดเลยแม้แต่น้อย แต่คนเพิ่งมีแฟนเด็กครั้งแรกกลับตั้งใจเรียนรู้และฝึกฝน จนสามารถถักเปียให้แฟนสาวได้อย่างสวยงาม“ทรงหัวใจเต็มดวงค่ะ เฮียฝากหัวใจของเฮียไว้ตรงนี้ให้หนูไอช่วยดูแลด้วยนะคะ”ไออุ่นอมยิ้มกับคำพูดหวานซึ้งของเขา หัวใจดวงน้อย ๆ เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป“เฮียไทม์คนเก่าของหนูไอหายไหนน้า คนที่ปากแซ่บ ๆ พูดจากวน ๆ ยังอยู่แถวนี้หรือเปล่าเอ่ย”แกล้งแซวแฟนหนุ่มที่เอาแต่ส่งยิ้มมาให้ มองเขาที่เอนเอียงใบหน้ามาหาเธอ ดวงตาสองคู่ต่างสอดประสานกันด้วยความหวานซึ้ง มือเล็กยกขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน“ก็ไม่ได้หายไปไหนนี่นา เฮียไทม์ของหนูไออยู่ตรงนี้นี่เอง จุ๊บ”กดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มของแฟนหนุ่มแผ่วเบา ผละออกมามอง
โรงพยาบาล N“ถึงเวลาประชุมแล้วนี่หว่า ไปกันไทม์เดี๋ยวตาแก่ขี้บ่นจะสวดเอาอีก”เพลิงกัลป์หันมาเอ่ยปากชวนเพื่อน ที่กำลังตั้งใจอ่านชาร์ตรายงานอาการป่วยของคนไข้ คุณหมอปากแซ่บพยักหน้ารับ แล้วหันไปคว้าโทรศัพท์ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีสายเรียกเข้ามาพอดีคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เมื่อชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคือชื่อของไออุ่น แต่ถึงจะแปลกใจที่เด็กสาวโทรหาเขาในเวลานี้ เขาก็ไม่รอช้ารีบกดรับสายคนสำคัญในทันที“ว่าไงคะที่รักของเฮีย”“เฮียไทม์ขา...”น้ำเสียงออดอ้อนของไออุ่นทำให้ธามไทยิ้มน้อย ๆ ในหน้า เขาเดินคุยโทรศัพท์ไปหยิบเอกสารการประชุมมาถือเอาไว้ พร้อมกับรับฟังเรื่องราวที่ทำให้รอยยิ้มของเขาค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เครียดขึงแทนในชั่วพริบตา เมื่อไออุ่นเปิดปากเล่าถึงวีรกรรมสุดแสบของเธอในวันนี้ให้ฟัง“เข้าใจแล้วค่ะ เฮียจะรีบไปเดี๋ยวนี้ หนูไอรอเฮียก่อนนะคะเด็กดี”ถึงแม้จะรู้สึกโกรธที่ไออุ่นโดนเพื่อนต่างห้องรุมทำร้ายร่างกาย เพราะเข้าไปช่วยเพื่อนอีกคน แต่ธามไทก็ตอบรับปลายสายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกับว่า กำลังปลอบใจแฟนเด็กที่กำลังขวัญเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะถึงแฟนเด็กของเขาถึงจะด
คอนโดธามไท“จัดการทุกคนที่ใส่ร้ายเมียฉันวันนี้ให้หมด อ้อ ผู้อำนวยการโรงเรียนนั่นด้วย ทำยังไงก็ได้ให้มันหลุดจากตำแหน่ง”คุณหมอธามไทสั่งงานลูกน้องมือขวาอย่างไดสุเกะ ที่ก้มหน้ารับคำสั่งอย่างเข้าใจความหมายของเจ้านายดีเมื่อได้รับคำสั่งครบแล้วก็ค่อย ๆ ถอยหลังเดินออกไปจากห้องทำงานของผู้เป็นนายเงียบ ๆ ซึ่งหลังจากที่สั่งงานลูกน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธามไทก็กลับมาสนใจหนังสือเล่มใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าต่อแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเปิดอ่านหน้าต่อไป ประตูบานใหญ่ก็ถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของแฟนเด็กที่อยู่ในชุดนอนผ้าลื่น ซึ่งชุดนี้เขาไม่เคยเห็นเธอใส่มาก่อน ทว่าเพียงแค่เห็นแวบแรกก็ถูกใจจนลอบเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายชุดนอนนี้ช่างเซ็กซี่ยั่วยวนจนเขาอยากจะจับร่างบางขึ้นมาขยี้บนโต๊ะทำงานเสียให้รู้แล้วรู้รอด“เจ็บแผลเหรอคะเด็กดีของเฮีย”เมื่อไออุ่นนั่งลงบนตักแกร่ง ธามไทก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยแฟนสาวที่มีแผลฟกช้ำตามลำตัว บางจุดก็ขึ้นเป็นรอยเขียวจ้ำ เพราะถูกออมกับเพื่อนผลักจนลงไปนอนกองอยู่บนพื้นไออุ่นส่ายหน้าปฏิเสธน้อย ๆ แล้วซบแก้มกลมลงบนแผงอกกำยำอย่างแสนรัก ไหนจะแอบสูดดมความหอมจากซอกค
ข่าวการย้ายโรงเรียนอย่างกะทันหันของออมและเพื่อน ๆ ทำให้ไออุ่นรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ถ้าจะบอกว่าย้ายเพราะมีเรื่องตบตีกับเธอก็ไม่น่าจะใช่ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออมมีเรื่องกับเพื่อนต่างห้อง ที่ผ่านมาออมก็มีเรื่องตบตีเป็นประจำจนขึ้นชื่อซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ย้ายโรงเรียนหนี ก็คือคนที่ออมกับเพื่อนนั้นไปหาเรื่องเขาก่อน แต่มาครั้งนี้กลับแปลกออกไป ตรงที่ออมกับเพื่อนเป็นฝ่ายย้ายโรงเรียนอย่างกะทันหันแทนซึ่งมันน่าเสียดายตรงที่ว่าเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายแล้ว ออมกับเพื่อนน่าจะเรียนให้จบก่อน เพราะการย้ายไปกลางเทอมแบบนี้มันค่อนข้างลำบากในการปรับตัวไม่น้อย“แปลกจัง มีเรื่องกันแค่นี้เองทำไมต้องถึงกับย้ายโรงเรียนด้วยนะ”“อืม นั่นน่ะสิแปลกจริง ปกติเห็นแต่คนที่มีเรื่องกับมันที่ลาออกไป แต่เพราะอะไรน้า ครั้งนี้มันถึงพากันย้ายออกไปยกคอกเลย”เสียงพูดที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ไออุ่นสะดุ้งน้อย ๆ ด้วยความตกใจเธอหันขวับไปมองเจ้าของคำพูดที่ยืนอยู่ข้างเธอ เป็นเฌอแตมที่ยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ ก่อนที่เธอจะคว้าข้อมือของเพื่อนต่างห้องให้เดินตามเธอไปท่ามกลางความมึนงงของไออุ่น"เฌอแตมเธอจะพาเราไปไหนอะ"เสียงหวานร้องถามเฌอแตมที่จู
การมีเพื่อนใหม่อย่างเฌอแตมทำให้ชีวิตของไออุ่นมีสีสันมากขึ้น เพราะอะไรที่เด็กสาวไม่เคยทำมาก่อน เฌอแตมจะพาไออุ่นลองทำในสิ่งนั้นเสมอ ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกต้องมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันและประสบการณ์ชีวิตให้แก่เด็กสาวที่เรียบร้อยและอยู่ในกรอบมาตลอดได้ดีซึ่งความสนิทสนมในระยะเวลาอันรวดเร็วของสองสาว ทำให้ทั้งคู่เลือกเรียนคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะต่างคนต่างมีความชอบคล้ายกันโดยคณะที่เลือกสอบเข้านั้นคือคณะทันตแพทย์ศาสตร์ ด้วยตัดสินใจแล้วว่าอยากจะเป็นคุณหมอฟันกันทั้งคู่แต่วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ต้องสมัครสอบ ไออุ่นกลับลืมบัตรประชาชนเอาไว้ที่คอนโด ทำให้เธอต้องรีบโทรหาธามไทเพื่อรบกวนให้เขาเอามาให้ที่โรงเรียน ซึ่งโชคดีมากที่วันนี้เป็นวันหยุดของเขา“หนูไอนะหนูไอ วันสำคัญทั้งทีดันลืมเอกสารสำคัญเสียได้”“หนูไอไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่หนูไอแกล้งลืมต่างหากล่ะ เฮียไทม์จะได้เอามาให้หนูไอที่โรงเรียน เพราะตอนนี้หนูไอน่ะคิดถึงเฮียไทม์มาก คิก คิก”แค่ก แค่ก แค่กคำพูดของไออุ่นทำให้เฌอแตมที่กำลังดูดน้ำหวานอยู่สำลักน้ำหน้าแดง จนไออุ่นต้องยกมือขึ้นลูบหลังให้เพื่อนด้วยความเป็นห่วง“เลี่ยนเกินไปปะ