五
“ทำไงได้...ก็เฮียดันมาทำให้หนูตกใจเองนี่...” เธอกล่าวเสียงเบา พร้อมกับหลบสายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้ง หยวนหลงยื่นมือมาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ “หน้าแดงขนาดนี้ เป็นไข้รึเปล่า?” คำพูดของเขาแฝงความห่วงใย แต่สายตานั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกมองทะลุถึงหัวใจ หัวใจของถังหูลู่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา... เธอหลบสายตาและรีบเบี่ยงตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “ไปกินข้าวกันเถอะ...” เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย หยวนยิงและหยวนหลงมองแผ่นหลังเล็กที่ลับสายตาไป ก่อนที่ทั้งสองจะหันมายิ้มให้กันอย่างเข้าใจความหมายในใจของกันและกัน... ในห้องครัว โต๊ะอาหารยาวเหยียดถูกจัดเตรียมไว้อย่างประณีต บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจีนหลากหลายเมนูที่ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของถังหูลู่ ถ้วยและจานกระเบื้องลายครามบรรจงจัดวางอยู่คู่กับตะเกียบไม้ไผ่ที่มันวาว เธอเห็นทั้ง ‘เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ’ ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศโชยขึ้นมาทำให้น้ำลายสอ ‘หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว’ ที่ดูนุ่มจนแทบละลาย เพียงมองก็รู้ว่าตุ๋นด้วยไฟอ่อนมาหลายชั่วโมง และยังมี ‘กุ้งอบวุ้นเส้น’ ที่มีกลิ่นของกระเทียมเจียวและพริกไทยลอยมาแตะจมูกอย่างเย้ายวนใจ นอกจากนี้ยังมี ‘ข้าวผัดหยางโจว’ ที่แต่งหน้าด้วยกุ้งสดและหมูแดงหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เสริมด้วยผักดองและซุปกระดูกหมูที่ยังคงไอร้อนกรุ่นอยู่ในหม้อเคลือบสีขาว ทุกอย่างดูเหมือนเป็นงานศิลปะที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด “ว้าว! น่ากินจังเลยค่ะ!” ถังหูลู่เบิกตากว้างขณะที่เธอหันมามองอาหารตรงหน้า น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข เธอสูดกลิ่นหอมจากอาหารที่ลอยขึ้นมาอย่างเต็มปอดจนเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว หยวนชิงหลานที่พึ่งจะถอดผ้ากันเปื้อนหมาด ๆ เดินเข้ามาลูบหัวเธอเบา ๆ “กินเลยสิจ๊ะ อาหารพวกนี้น้าทำเพื่อน้องถังโดยเฉพาะเลยนะ” น้ำเสียงของเธออบอุ่นและเต็มไปด้วยความเอ็นดู ราวกับจะบอกว่าทุกจานนั้นใส่ใจและตั้งใจทำเพื่อถังหูลู่เพียงคนเดียว ยังไม่ทันที่ถังหูลู่จะได้เอ่ยปากขอบคุณ เสียงหยอกล้อก็ดังขึ้นจากฝั่งหนึ่งของโต๊ะ “เพราะม๊าให้ท้ายแบบนี้ไงล่ะ อาหมวยถึงได้กลายเป็นเด็กตะกละ” หยวนหลงพูดขึ้นพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางกึ่งขี้เล่นกึ่งยียวน สายตาของเขาจงใจจ้องมาที่ถังหูลู่ซึ่งเริ่มหน้าขึ้นสีเล็กน้อย หยวนยิงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันเสริมทัพด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ใช่ม๊า…ม๊าก็เห็นใช่ไหมว่าน้องถังทำอะไรในวันแต่งงาน...” เขาหมายถึงเหตุการณ์ที่ถังหูลู่แอบกินหมูตุ๋นอยู่ แต่กลับถูกเปิดโปงโดยช่อดอกไม้จากหยวนชิงหลานที่ตกลงมาใส่จานหมูตุ๋นของเธอ ถังหูลู่รีบหันขวับไปมองพวกเขาด้วยดวงตาที่วาวโรจน์เล็กน้อย “พวกเฮียนี่แหละ! พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย!” เธอเถียงกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก แต่ในใจกลับรู้สึกอับอายจนอยากจะหายตัวไปจากโต๊ะ หยวนชิงหลานเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปรามลูกชายทั้งสอง “พวกเฮียก็เกินไป…เลิกแกล้งน้องได้แล้ว ล้อน้องมาสามวันติดแล้วนะ” คำพูดของเธอเหมือนจะดุ แต่แววตาที่มองพวกเขากลับมีแต่ความเอ็นดู “ครับ ๆ …” หยวนหลงตอบรับอย่างไม่จริงจังนัก พลางยักไหล่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก “ผมจะพยายามครับ” หยวนยิงพูดเสียงเรียบเหมือนเดิม แต่แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ “แต่ฟังไว้เลยนะ อย่าให้ม๊าต้องพูดเรื่องนี้อีก ถ้าคราวหน้าเห็นพวกเฮียในสภาพเหงื่อซกแล้วมานั่งทานข้าวแบบนี้อีก ม๊าไม่ยอมแน่” น้ำเสียงของหยวนชิงหลานเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความหวังดี เธอไม่ได้ตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรง เพียงแต่ต้องการสอนให้รู้จักรักษาความสะอาดและมารยาท ถังหูลู่ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พลางตักข้าวเข้าปากด้วยท่าทางขำ ๆ แอบคิดในใจ ‘ถึงจะบอกว่าไม่พูดก็เถอะ แต่น้าชิงหลานก็พูดจนได้อยู่ดี…’ เธอได้แต่ยิ้มบาง ๆ และไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา หยวนหลงและหยวนยิงที่รู้ตัวว่าถูกดุเบา ๆ ก็รีบขานรับพร้อมกัน “ครับ…” “เข้าใจแล้วครับ…” แม้ทั้งคู่จะดูยอมรับ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของพวกเขา “ชิงหลานที่รัก…มานั่งกินข้าวกันเถอะ พวกเด็ก ๆ คงเข้าใจแล้วล่ะ” ถังไห่เฉิงสามีของหยวนชิงหลานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นขณะที่วางมือลงบนบ่าของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “อืม…” หยวนชิงหลานพยักหน้ารับอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ ขณะที่ถังไห่เฉิงคอยช่วยเธอจัดการเสิร์ฟอาหารเพิ่มเติม บรรยากาศในครอบครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยหยอกล้อสัพเพเหระ ถังหูลู่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจแม้ว่าเธอจะเขินกับคำแซวของพวกพี่ชายก็ตาม ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงวันธรรมดา แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกถึงคำว่าครอบครัวอย่างแท้จริง... ถังหูลู่เดินขึ้นห้องด้วยท่าทีอิดโรยเล็กน้อยหลังจากอิ่มเต็มที่จากมื้ออาหารที่แสนอร่อย พอประตูห้องนอนปิดลง เธอก็เอนตัวลงบนเตียงนุ่ม ตรึงสายตาไปยังเพดานที่มีลวดลายเรียบง่าย มือบางยกขึ้นทาบที่หน้าอกของตัวเองที่ยังเต้นตุบ ๆ อย่างรุนแรงจากบางสิ่งที่เธอพยายามห้ามใจไม่ให้คิด แต่เหมือนยิ่งห้าม ความคิดก็ยิ่งผุดพรายเหมือนน้ำพุในฤดูใบไม้ผลิ “อา…อิ่มแปล้เลย…” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกแขนขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินอาย ‘เราจะคิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นไม่ได้…’ แต่ถึงอย่างนั้น ภาพในหัวกลับไม่ได้เป็นไปตามคำที่เธอพยายามห้าม ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงในห้องออกกำลังกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นกระชับ และเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั่วร่างจนมันวาวยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจ ทั้งกลิ่น ทั้งลมหายใจ และน้ำเสียงทุ้มต่ำเองก็ไม่ได้จางหายไปไหน มันก่อกวนเธอและทำให้เธออ่อนไหวมากขึ้นทุกวินาที ‘อื๊อ~ หุ่นของพวกอาเฮียนี่…แซ่บจริง ๆ เลย…’ เธอครางเบา ๆ ออกมาขณะที่ครุ่นคิดในใจ รู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นในอกและลามไปทั่วร่างกาย ‘แต่เราคิดอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ! เรามันแย่…เรามันผู้หญิงลามก…’ เธอพยายามตำหนิตัวเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนเสียงภายในใจอีกด้านกำลังกระซิบปลอบเธอว่า ‘แต่ใครจะห้ามความคิดตัวเองได้ล่ะ...ว่างั้นไหม?’ ใบหน้าของถังหูลู่ร้อนผ่าว หัวใจเต้นถี่เหมือนกลองศึกที่ถูกเร่งจังหวะ เธอยิ่งนึกถึงหุ่นสมส่วนและกล้ามเนื้อที่ดูเหมือนแกะสลักของหยวนยิงและหยวนหลง ยิ่งทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มพูนจนเหมือนจะระเบิดออกมา เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างอึดอัด ความรู้สึกนี้มันเกินจะควบคุม ‘ไม่ไหว…ไม่ไหวแล้ว…เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง…’ เธอกัดริมฝีปากแน่น สายตาเริ่มเหลือบมองไปที่กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพตัวเองในชุดนอนบางเบาเนื้อผ้าลื่นไหล เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง แล้วค่อย ๆ ดึงสายชุดนอนลงจากไหล่เล็ก ๆ ของเธอ เนื้อผ้าสีอ่อนค่อย ๆ เลื่อนลงจากเนินไหล่ที่ขาวราวกับหยก ผ่านกระดูกไหปลาร้าสวยงามที่เหมือนถูกวาดด้วยพู่กัน จนเผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดราวกับผ้าซาติน หยดเหงื่อบาง ๆ เกาะพราวที่หน้าอกขนาดพอเหมาะที่สะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ ในห้อง เธอค่อย ๆ เลื่อนชุดนอนลงไปอีกจนมันหลุดไปกองอยู่ที่ปลายเท้า เปิดเผยทุกสัดส่วนบนร่างกายนี้อย่างไม่หมกเม็ด ร่างกายของถังหูลู่เหมือนประติมากรรมที่ถูกสลักอย่างวิจิตร ทุกส่วนโค้งเว้าดูสมบูรณ์แบบ ผิวของเธอเรียบเนียนและเปล่งประกาย เธอยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของตัวเองที่ยังคงแดงเรื่อ แล้วเลื่อนมือลงมาที่หน้าอกอย่างลังเล หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง ‘โทษทีนะอาเฮีย…’ เธอคิดในใจอย่างละอาย แต่ก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ‘หุ่นกับเบ้าหน้าหล่อ ๆ ของพวกเฮียทำให้หนูอดใจไม่ไหวจริง ๆ …’ เธอหลับตาแน่นปล่อยให้จินตนาการพาเธอไปไกล ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่ยิ้มมุมปากและมองเธอด้วยสายตาคมกริบปรากฏขึ้นในหัว เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นภายในร่างกาย ในขณะที่มือข้างหนึ่งเกาะกุมเนินเนื้อเอาไว้พร้อมปัดเขี่ยยอดปทุมถันสีชมพูหวานนั้นอย่างละเล่น มืออีกข้างยกนิ้วนางกับนิ้วกลางขึ้นมาเลื้อยไล้ลงไปเรื่อย ๆ ตามหน้าท้องแบนราบก่อนที่จะจรดลงตรงร่องรักสีชมพูหวานซึ่งหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสเหนียวหนืด ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวที่ก่อตัวขึ้นทุกครั้งที่มือของเธอเลื่อนต่ำลง ความคิดของเธอยิ่งเร่งเร้าตัวเองด้วยภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่กำลังโน้มตัวลงมาหาเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของทั้งคู่ปรากฏเด่นชัดจนเหมือนจริง To be continued...六‘หนูขอจินตนาการภาพของเฮียสองคนในเชิงสวาทเลยนะ…ถึงเฮียจะไม่อนุญาต แต่มันก็ไม่ทันแล้ว…’ เธอคิดอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ปนเปด้วยความสุขที่ยากจะอธิบายเสียงลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น ท่ามกลางห้องที่เงียบสงบ เสียงกระซิบของจินตนาการและความปรารถนาของเธอดังขึ้นอย่างชัดเจนในใจ ทุกสัมผัสที่เธอมอบให้ตัวเองเต็มไปด้วยความเร้าอารมณ์ ราวกับไฟที่โหมกระหน่ำไม่ยอมมอดดับในตอนนั้นเอง ถังหูลู่รู้เพียงอย่างเดียวว่า เธอไม่อาจหนีจากความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป…หยวนหลงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างกายยังคงชุ่มไปด้วยละอองน้ำที่เกาะพราวตามแผงอกและกล้ามเนื้อแน่นกระชับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบสะโพกของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของความเป็นชายที่น่าหลงใหล ความคิดเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นในหัวทันทีเมื่อเขานึกถึงถังหูลู่ น้องสาวบุญธรรมที่เขาชอบกลั่นแกล้งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร‘สงสัยจะต้องแกล้งให้เธอหน้าแดงเล่นอีกแล้ว...’ หยวนหลงยิ้มมุมปาก เดินตรงไปยังห้องของถังหูลู่ด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาหมุนลูกบิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะตามนิสัย และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะร่างเปล
七หยวนหลงไม่ได้ตอบในทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ สายตาคมกริบของเขาจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตา และทันทีที่ถังหูลู่เหลือบมองไปยังผ้าขนหนูตรงช่วงล่างของเขา เธอก็ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความตกใจ เพราะสิ่งที่เธอเห็นใต้ผ้าขนหนูนั้น โป่งนูนจนยากจะปฏิเสธว่าเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เพิ่งเห็น‘หรือว่าเฮียเขาจะมีอารมณ์กับเรา?’ ถังหูลู่อดคิดไม่ได้“เฮียสิที่ต้องถามว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่...” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความดุร้าย ปลายประโยคเปรียบเสมือนคำสั่งที่กดดัน‘อา...อย่าบอกนะว่าเธอกำลังครางเรียกเราอยู่...ร้ายไม่เบาเลยนะอาหมวย...’ เขาเองก็ยากที่จะปฏิเสธความคิดที่แสนโสมมของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับได้ในขณะนี้หยวนหลงหยุดยืนตรงข้างเตียง จ้องมองเธอที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาคู่นั้นของเขาราวกับสัตว์ร้ายที่เพิ่งพบเหยื่ออันโอชะ“เฮีย...คือ...เอ่อว่า...หนู...” เสียงของถังหูลู่ขาดห้วง เธอไม่รู้จะหาคำอธิบายอะไรให้ตัวเองดี ความจริงมันชัดเจนเกินไป ภาพที่หยวนหลงเห็นนั้นได้บอกทุกสิ่งที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้‘ทำไงดี...ทำไงดี...ทำ
八 “เป็นไงบ้าง...ชอบรึเปล่า?” เสียงกระซิบของหยวนหลงดังใกล้ใบหู ทำให้ขนอ่อนบนร่างกายของเธอลุกชัน ความอบอุ่นจากลมหายใจของเขาทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบจนแทบลุกเป็นไฟ ‘อื๊อ~เฮีย...อย่ามาพูดใกล้ ๆ หูแบบนี้สิ...มันยิ่งทำให้หนูเงี่ยน...' เธอคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา “เฮีย...หนูเสียว...อ๊า...เสียวมากเลย...” ส่วนคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของถังหูลู่ก็แทบจะกลืนหายไปกับเสียงครางหวาน ร่างกายของเธอร้อนระอุจนหยาดเหงื่อไหลซึมออกมาตามไรผมและแผ่นหลัง เธอพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หลุดปล่อยความรู้สึกออกมามากกว่านี้ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของนิ้วของหยวนหลงกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกผลักให้จมลึกลงไปในห้วงแห่งความเสียวซ่าน “ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว...” เขาถามด้วยน้ำเสียงเจือความสนุก ราวกับพึงพอใจที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ถังหูลู่หลบสายตาคมกริบของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก “ก็ตั้งแต่ที่กินข้าวเสร็จ...อึ๊ก...อ๊า...” เธอตอบออกมาพร้อมเสียงสะอื้นอย่างขัดเขิน ใบหน้าของเธอแดงซ่านจนลามไปถึงลำคอ แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงน้ำที่ดังขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างนิ้วของเขาและร่องรักของเธอทำให้เธอยิ่งอับอาย แต่กลับไม่สามารถหยุ
九 หลังประตู เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ทำลายความเงียบที่เพิ่งกลับคืนมาในห้อง ถังหูลู่สะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นระส่ำเมื่อเสียงนั้นมาพร้อมกับน้ำเสียงที่คุ้นเคย “น้องถัง! เห็นเฮียหลงบ้างไหม?” เสียงของหยวนยิงดังขึ้นจากอีกฟากของประตู หยวนยิงอยู่ในชุดนอนลำลอง ผ้าขนหนูพาดบ่า บ่งบอกว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ผมเปียกยังมีหยดน้ำเกาะพราว บ่งบอกถึงความสดชื่นที่ตัดกับสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นภายในห้อง ถังหูลู่รีบปรับสีหน้าพลางตอบกลับไปด้วยเสียงที่พยายามทำให้ราบเรียบ แต่ไม่อาจปิดความร้อนรนในน้ำเสียงได้ทั้งหมด “ไม่เห็นเลยค่ะ...” หยวนยิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงสงสัย “แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่?” “อาบน้ำอยู่ค่ะ...แป๊บนะเฮีย...” เสียงตอบกลับดังออกมาจากหลังประตูอย่างเร่งรีบ เธอเหลือบมองหยวนหลงที่นั่งสงบอยู่บนเตียง ขณะที่ตัวเธอพยายามรวบรวมสติและทำให้ดูเป็นปกติที่สุด หยวนยิงยืนรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงปลดล็อกประตูจะดังขึ้น ประตูแง้มออกเพียงเล็กน้อยพอให้เห็นร่างของถังหูลู่ที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูพันรอบกาย ผ้าขนหนูผืนน้อยเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน และช่วงขาเรียวเล็กที่ชวนมองโดยไม่ตั้งใจ
十 ‘ทำอะไรของเขาเนี่ย…’ ถังหูลู่คิดในใจ แม้จะอยากปฏิเสธ แต่เธอกลับไม่อาจต่อต้านได้ ความอบอุ่นจากมือของเขาที่ลูบไล้แผ่นหลังของเธอ และสัมผัสราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้หัวใจของเธอ ทำให้เธอคล้อยตามไปโดยไม่รู้ตัว หยวนหลงผละออกช้า ๆ น้ำลายใสเชื่อมโยงระหว่างเขาและเธอ ริมฝีปากของเขายังเปื้อนรอยยิ้มเล็ก ๆ “เอาไว้ก่อนนะ...” เขาพูดขณะที่มองดูเธอที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์ แก้มแดงเรื่อของเธอทำให้เขายิ่งมองด้วยความพึงพอใจ “ถึงหนูจะตะกละ...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ก่อนจะยิ้มกว้าง “แต่เฮียกก็รักหนูนะ...อาหมวยของเฮีย” พูดจบ หยวนหลงก็เดินไปทางหน้าต่าง ก่อนจะทำสิ่งที่ทำให้ถังหูลู่ตกใจจนแทบลืมหายใจ เขากระโดดลงจากหน้าต่างชั้นสองราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ “เฮีย!” ถังหูลู่รีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ใจหายวาบ แต่เมื่อมองลงไปก็เห็นเขายืนอย่างปลอดภัย เขายิ้มพร้อมทำรูปหัวใจด้วยแขนทั้งสองข้าง ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอางี้เลยเหรอ... ประตูก็มีไหม?” ถังหูลู่พึมพำกับตัวเองด้วยความตกใจ ก่อนจะเผลอยกมือแตะริมฝีปากของตัวเองที่ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสจากเขา รสชาติ กลิ่น และสัมผัสอันอบอุ่นยังคงหลงเหลืออยู่ใน
十一เป่าเปาเบิกตากว้าง รีบหันไปมองทางหนีทีไล่ ราวกับจะหนีจากชะตากรรมที่ถูกตัดสินไปแล้ว แต่สุดท้ายมันก็เดินวนกลับมาหาเธอ พร้อมส่งเสียงร้อง “แง๊ว~!” อีกครั้งอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าที่น่ารักน่าชังของมันดูน่าสงสารเสียนี่กระไรหลังจากทะเลาะกับแมวอ้วนไปอีกพักใหญ่ ถังหูลู่ก็นั่งลงพร้อมกับความคิดที่ถาโถมเข้ามา ‘จะทำไงดีนะ...เราไม่อยากโดนพวกนั้นด่ากราดที่ไม่ส่งงานให้ทันเวลา แถมเลทไปให้วันหนึ่งแล้วด้วยเพราะเรื่องย้ายบ้าน…’ ขณะที่กำลังเคาะปากกากับโต๊ะด้วยความเครียด จู่ ๆ ความทรงจำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว ‘ถ้าจำไม่ผิด...ไฟล์เราบันทึกไว้ในคราวด์นี่...ยังดึงข้อมูลออกมาได้อยู่!’ ดวงตาเธอเปล่งประกายทันทีที่เจอทางออก “ดีล่ะ! ไปขอใช้คอมเฮียหยิงดีกว่า หวังว่าจะยังไม่นอนนะ...” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนหันไปมองเป่าเปาที่กำลังนั่งจ้องมาด้วยสายตาออดอ้อนน่าเอ็นดู “ส่วนแก! เป่าเปา...แม่จะลดอาหารแกเป็นการลงโทษที่ทำคอมแม่พัง ถือเป็นโอกาสดีที่แกจะได้ลดน้ำหนักด้วย” เธอยิ้มเยาะใส่แมวอ้วน “แง๊ววว~!” เป่าเปาร้องเสียงดังราวกับจะประท้วง แต่ถังหูลู่ไม่สนใจ เธอเดินไปที่ประตูพร้อมพูดทิ้งท้าย “อย่ามาง้อเสียให้ยาก!” เป่าเป
十二ถังหูลู่ตะลึงค้าง ดวงตาเบิกกว้าง เธอหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังยืนขวางประตู ร่างสูงใหญ่และแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว ความเงียบงันในห้องนั้นอึดอัดจนเธอแทบหายใจไม่ออก“เฮีย… เฮียจะทำอะไรกับหนู...” เธอพูดเสียงสั่น ขณะที่ก้าวถอยหลังช้า ๆ ราวกับกวางที่พยายามหนีจากเงื้อมมือของเสือที่พร้อมจะขย้ำหยวนยิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ตอบ แต่สายตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ราวกับว่าเขาคือผู้ล่า และเธอคือเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอด...บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลา 23:59 น. ตัวเลขสีขาวบนพื้นหลังดำระยับสะท้อนแสงวูบไหวถังหูลู่พยายามรวบรวมสติจัดการไฟล์งานสุดท้ายอย่างรีบเร่ง ก่อนจะกดส่งให้เพื่อน ๆ เสร็จสิ้นตรงตามเวลา ร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมที่หยวนยิงเคยนั่งเมื่อครู่ ทว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางเวทีที่มีสายตาของผู้ชมคอยจับจ้องอยู่และผู้ชมคนนั้นก็คือหยวนยิง...ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของเธอ แขนข้างหนึ่งเท้าพนักพิงเก้าอี้ไว้ราวกับกำลังล้อมกรอ
十三 ‘งื้อ~พอมาเห็นกับตาชัด ๆ แล้วมันใหญ่...ใหญ่มาก...ใหญ่มากเลยจริง ๆ ! ทำไมมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้กันล่ะเนี่ย...ใหญ่ซะจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นโคยของคน...เฮียเขาคิดยังไงถึงอยากให้เราอมมัน...โคตรจะน่ากลัว...’ ถังหูลู่กัดริมฝีปากล่างแน่น ความรู้สึกหวั่นไหวระคนความอายทำให้เธอไม่กล้าเงยหน้าสบตาหยวนยิงได้เต็ม ๆ เสียงหัวใจที่เต้นถี่เร็วอยู่ในอกนั้นแทบจะดังกลบความคิดของเธอไปหมด ท่อนเนื้อตรงหน้า แม้ว่าจะเย้ายวนใจ แต่มันก็ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างอดไม่ได้ ทั้งขนาดและความยาวที่พอ ๆ กับแขนเล็ก ๆ ของถังหูลู่ เส้นเอ็นที่ปูดโปนล้อมรอบ รวมถึงความกระตือรือร้นของมันที่ชูชันอย่างเต็มที่ ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวสำหรับเธอ “หนูไม่ไหวหรอกค่ะ...มันเกินไปสำหรับหนู...เฮียก็เห็นนี่คะว่าปากหนูมันเล็กแค่ไหน...มันเล็กมากเลยใช่ไหมล่ะคะ?” เสียงของเธอสั่นไหว แต่เธอยังคงพยายามรวบรวมความกล้าไว้ในน้ำเสียง ท่าทางทำปากจู๋ที่เธอแสดงออกมาแม้จะดูน่าขัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสาที่ยากจะมองข้าม หยวนยิงจ้องมองเธอด้วยแววตาคมกริบที่เหมือนอ่านทะลุทุกความคิดของเธอได้หมด “ดูท่าแล้วน้องถังของเฮียคงจะชอบแบบที่โดนบังคับมากกว่าน
二十“ก็ได้...อาบน้ำก็อาบน้ำ...” เธอพูดตัดบทพร้อมคว้าผ้าขนหนูจากปลายเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำสายตาของหยวนยิงมองตามเธอไป รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากขณะเขายืนเล่นกับเป่าเปาต่อไป ส่วนถังหูลู่ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำกลับยังคงรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้เธอยืนพิงประตูห้องน้ำ มือหนึ่งจับที่อกตัวเอง พยายามปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติในห้องน้ำอันเงียบสงบ เสียงน้ำที่หยดเบา ๆ จากก๊อกใหม่เอี่ยมดังสะท้อนอยู่ในอากาศ ถังหูลู่ยืนอยู่หน้ากระจก ใบหน้าของเธอสะท้อนออกมาพร้อมกับดวงตาที่ดูหม่นหมองและแฝงไปด้วยความสับสน‘อืม...เมื่อวานเราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...รู้สึกเหมือนภาพตัดไม่มีผิด...’ เธอคิดในใจ ขณะปล่อยมือสัมผัสกระจกเย็น ๆ เหมือนต้องการปลุกตัวเองให้กลับมามีสติเธอค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น ความเย็นของอากาศกระทบกับผิวเนียนละเอียดของเธอ เผยให้เห็นร่างที่สมส่วนราวกับงานศิลป์ที่ถูกปั้นแต่งด้วยความพิถีพิถัน กระจกตรงหน้าสะท้อนความงามของเธอ แต่ความคิดในหัวกลับหมุนวนเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานอย่างหยุดไม่ได้หยวนหลง... ภาพของเขาเข้ามาในหัว เธอจำได้ดีถึงสัมผัสของเขา นิ้วที่ลากผ่านร่องรักของเ
十九 “อ่ะ...ใครเป็นคนพับผ้าปูที่นอนให้เราล่ะเนี่ย...?” เธอพึมพำเบา ๆ สีหน้าผสมระหว่างความแปลกใจและความประทับใจ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผ้าที่เพิ่งอบเสร็จลอยขึ้นมาแตะจมูก เธอจ้องมองผ้าปูที่นอนในตะกร้า สัมผัสได้ถึงความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฝงอยู่ในสิ่งนี้ ใครบางคนในบ้านอาจพยายามช่วยเหลือเธอโดยไม่ได้พูดอะไรเลย หัวใจของเธอที่ยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและคำถามมากมายเริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงเล็กน้อย แม้ความสัมพันธ์นี้จะเต็มไปด้วยความซับซ้อนและข้อห้าม แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้กลับทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้อยู่ลำพังในเส้นทางที่ยากลำบากนี้ ‘ใครกันนะ...เฮียหลงหรือเฮียหยิง?’ เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบตะกร้าผ้าแล้วเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง พร้อมหัวใจที่ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ยากจะบรรยาย เวลา 06:30 น. เช้าที่เงียบสงบในบ้านหลังใหญ่ถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในห้องนอนของถังหูลู่ สาวแว่นที่เช้านี้กลับไม่ได้สวมแว่นตาคู่ใจ เสียงลมหายใจเบา ๆ ของเธอผสมกับเสียงกรนแผ่ว ๆ จาก เป่าเปา แมวอ้วนพันธุ์แร็กดอลล์แสนซุกซนที่นอนขดตัวอยู่ข้าง ๆ สภาพของทั้งคู่ดูไม่ต่างกัน—น้
十八หยวนยิงยิ้มบาง ๆ มองเธอด้วยสายตาที่ลึกล้ำราวกับจะมองทะลุหัวใจเธอ “น้องถัง...เรื่องระหว่างเรา...มันเกินกว่าคำว่าพี่น้องไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะ...” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแต่มั่นคง และคำพูดนั้นก็เสียบแทงหัวใจเธอโดยตรงสายตาของเขาทำให้ถังหูลู่ร้อนรุ่ม เธอไม่อาจทนมองนัยน์ตาคู่นั้นได้ เธอหลบสายตาแต่กลับพบว่าขาของตัวเองก้าวเดินเข้าไปหาเขาโดยไม่รู้ตัว “ถ้าเฮียต้องการ...” คำพูดที่แผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบของเธอทำให้เขาเผยรอยยิ้มที่แฝงความพึงพอใจออกมา หยวนยิงมองเธอเดินเข้ามาใกล้จนยืนอยู่ตรงหน้า เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางเอื้อมมือขึ้นมาเชยคางเธอ “ไม่ปฏิเสธเลยเหรอ?” เขาถามพร้อมแววตาที่ดูจะล้อเล่น แต่กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางหนี ‘เฮียหยิง...เขาช่างน่ากลัวและเจ้าเล่ห์...แต่เขาก็ดึงดูดหัวใจเรา...เขาทำให้เราห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่...’ เธอคิดในใจ หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบจะได้ยินเสียงมันสะท้อนอยู่ในหู หยวนยิงปล่อยมือจากคางของถังหูลู่ เขาเลือกที่เอื้อมแขนไปกอดเธอและค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กของเธอถูกพามานั่งลงบนต้นขาของเขาอย่างแผ่วเบาถังหูลู่ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืน
十七หยวนหลงหัวเราะในลำคออีกครั้ง “ไม่ใช่วันนี้สิเฮีย...ผมแค่พูดไว้ก่อน...ไว้เราค่อยมาคุยกันอีกที” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากทั้งคู่ทำให้ถังหูลู่ที่แอบฟังอยู่รู้ระส่ำระสายเข้าไปใหญ่ ‘อะไรล่ะเนี่ย...ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง...เราจะได้เสือกอย่างรู้ความ...แบบนี้มันก็ค้างคาน่ะสิ...พวกเฮียเนี่ย...นิสัยไม่ดีเลยจริง ๆ ’หยวนยิงเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงนิ่ง “ตามใจแกเลย...แต่นี่ห้องเฮีย ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป...เฮียจะนอน” หยวนหลงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็ยังทำตัวทะเล้น “โธ่~เฮีย...ผมเข้ามาแค่แป๊บเดียวเอง” “รกหูรกตา...ออกไป” หยวนยิงพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินตรงไปจับลูกบิดประตู เตรียมจะปิดใส่น้องชาย หยวนหลงยิ้มมุมปากอย่างยอมแพ้ “ครับ ๆ ...ผมไปแล้วก็ได้” เขาหันหลังเดินออกไปอย่างไม่รีบร้อน “เออ ๆ ไปให้พ้นสักที” หยวนยิงพูดไล่หลัง ก่อนจะปิดประตูและล็อกมันอย่างเรียบง่าย เมื่อหยวนหลงออกไปแล้ว ถังหูลู่ก็หันกลับมามองเงาของตัวเองในกระจก เธอสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะถอดแว่นตาออกและวางไว้ตรงขอบอ่างเปิดน้ำล้างหน้าล้างตา เพื่อลบคราบที่หลงเหลือจากเหตุการณ์ก่อนหน้า น้ำเย็
十六“เฮียหยิง...กล่องกระดาษลังที่ใส่หนังสือของผมอยู่ที่เฮียรึเปล่า...” เสียงจากอีกฝั่งของประตูดังขึ้น เป็นเสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยที่แฝงความติดตลกตามแบบฉบับของผู้พูดหยวนยิงที่กำลังพยายามจัดการตัวเองให้ดูเรียบร้อย ตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อยู่...แปปนะ...” เขาหันกลับมามองถังหูลู่ที่กำลังลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน ผมยุ่งเหยิง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เธอพยายามจะปรับเสื้อผ้าให้เข้าที่ด้วยมือสั่น ๆ “หลบในนี้ก่อนนะ...” หยวนยิงเอ่ยพลางดึงประตูห้องน้ำเปิดออก เขาชี้มือเข้าไปข้างในพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน “คะ...ค่ะ...” ถังหูลู่ตอบรับด้วยเสียงสั่น พยักหน้ารับเบา ๆ เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หยวนยิงจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี สายตาคมคู่นั้นมองใบหน้าของเธอที่ยังมีคราบของเขาเปื้อนอยู่ เขาเอื้อมมือมาลูบหัวเธอเบา ๆ ราวกับปลอบโยนลูกแมวที่กำลังหวาดกลัว ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลงอย่างนุ่มนวล ภายในห้องน้ำแคบ ๆ ถังหูลู่ยืนพิงประตู ใจเธอเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากอก เธอหลับตา พยายามสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนในหัว ‘รู้สึกตื่นเต้นดีจัง...’
十五 อ๊อก! อ๊อก! อ๊อก! เสียงที่ดังถี่รัวเหมือนจังหวะของกลองศึกเร่งเร้าอารมณ์ให้ทวีคูณ หยวนยิงส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายเขาเกร็งจนเส้นเลือดปูดขึ้นตามแขนและลำคอ ความร้อนที่กักเก็บไว้พุ่งทะยานจนถึงขีดสุด “อีกนิดเดียว...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่เสียงสะอื้นสุดท้ายจะดังขึ้นพร้อมกับการปลดปล่อยทุกความรู้สึก “อื๊อออ~!!” เสียงครางลากยาวของถังหูลู่ดังลั่น เธอปล่อยร่างกายให้ไหลไปตามกระแสความสุขสม ดวงตาเหลือกขึ้นจนเห็นเพียงตาขาว เธอรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายไปทั้งตัว ร้อนวาบบริเวณลำคอและโพรงปาก ร่างกายเธอสั่นสะท้านราวกับคลื่นไฟที่ลามไปทั่วทุกอณู หยวนยิงที่ถึงจุดปลดปล่อยรีบถอนตัวเองออกมา น้ำของเขาพวยพุ่งอย่างไม่อาจหักห้าม มันราดรดไปทั่วทั้งโพลงปากและปลายลิ้นของถังหูลู่ ก่อนที่จะออกมาด้านนอกและกระเด็นกระดอนไปทั่วใบหน้าของเธอ ของเหลวอุ่น ๆ สีขาวขุ่นที่พรมลงมาแปดเปื้อนทั่วใบหน้าของเธอ มอบสัมผัสที่ร้อนรุ่มและชุ่มฉ่ำ แม้ในด้านหนึ่งจะน่าขยะแขยง แต่ในอีกด้านหนึ่งมันกลับน่าหวาดเสียวจนทำให้ใจสั่นเทา กลิ่นคาวใคร่และความเหนียวเหนอะหนะ เธอได้สัมผัสถึงพวกมันได้เป็นอย่างดี
十四 ในขณะที่หยวนยิงกดดันอย่างหนักหน่วง ความอึดอัดที่เริ่มต้นจากลำคอของถังหูลู่ก็ค่อย ๆ ทวีความรุนแรง ร่างกายของเธอเหมือนถูกกักขังอยู่ในความทรมานที่ไม่อาจหนีหาย แต่ในขณะเดียวกันความซ่านเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วก็เหมือนกระแสไฟฟ้าที่วิ่งผ่านเส้นประสาท นัยน์ตาสีดำภายใต้กรอบแว่นของถังหูลู่เหลือกลอย น้ำตาคลอขอบตาราวกับจะไหลพรั่งพรู ขณะที่ริมฝีปากอ้าค้าง น้ำลายใส ๆ หยดลงมาตามมุมปากไหลลามไปจนถึงปลายคาง เธอพยายามจะกลืนน้ำลายเพื่อบรรเทาความแน่นในลำคอ แต่กลับกลายเป็นว่ามันยิ่งทำให้เธอสำลักจนเสียง “อั่ก ๆ” ดังออกมาจากลำคอ ร่างกายของเธอสั่นระริก สองมือจิกลงบนหน้าขาของเขาเพื่อหวังจะยุติสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “อื๊อออ~!!” เสียงร้องของเธอดังลอดออกมาพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่า มันไม่ใช่เสียงแห่งการปฏิเสธแต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความผสมปนเปของความทรมานและความสุขที่แสนจะบิดเบี้ยว ‘เฮีย... มันแน่นเกินไปแล้ว!’ เธอพยายามที่จะตะโกนออกมาด้วยเสียงสั่นเครือราวกับจะขาดใจ แต่เสียงที่เล็ดลอดก็อู้อี้เกินกว่าที่จะเข้าใจความหมาย มือหนึ่งยังคงจิกหน้าขาเขาอย่างหนักหน่วง ส่วนอีกมือกำลำคอของตัวเองจนแน่น ราวกับจะหาที่พึ่งพิงจ
十三 ‘งื้อ~พอมาเห็นกับตาชัด ๆ แล้วมันใหญ่...ใหญ่มาก...ใหญ่มากเลยจริง ๆ ! ทำไมมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้กันล่ะเนี่ย...ใหญ่ซะจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นโคยของคน...เฮียเขาคิดยังไงถึงอยากให้เราอมมัน...โคตรจะน่ากลัว...’ ถังหูลู่กัดริมฝีปากล่างแน่น ความรู้สึกหวั่นไหวระคนความอายทำให้เธอไม่กล้าเงยหน้าสบตาหยวนยิงได้เต็ม ๆ เสียงหัวใจที่เต้นถี่เร็วอยู่ในอกนั้นแทบจะดังกลบความคิดของเธอไปหมด ท่อนเนื้อตรงหน้า แม้ว่าจะเย้ายวนใจ แต่มันก็ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างอดไม่ได้ ทั้งขนาดและความยาวที่พอ ๆ กับแขนเล็ก ๆ ของถังหูลู่ เส้นเอ็นที่ปูดโปนล้อมรอบ รวมถึงความกระตือรือร้นของมันที่ชูชันอย่างเต็มที่ ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวสำหรับเธอ “หนูไม่ไหวหรอกค่ะ...มันเกินไปสำหรับหนู...เฮียก็เห็นนี่คะว่าปากหนูมันเล็กแค่ไหน...มันเล็กมากเลยใช่ไหมล่ะคะ?” เสียงของเธอสั่นไหว แต่เธอยังคงพยายามรวบรวมความกล้าไว้ในน้ำเสียง ท่าทางทำปากจู๋ที่เธอแสดงออกมาแม้จะดูน่าขัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสาที่ยากจะมองข้าม หยวนยิงจ้องมองเธอด้วยแววตาคมกริบที่เหมือนอ่านทะลุทุกความคิดของเธอได้หมด “ดูท่าแล้วน้องถังของเฮียคงจะชอบแบบที่โดนบังคับมากกว่าน
十二ถังหูลู่ตะลึงค้าง ดวงตาเบิกกว้าง เธอหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังยืนขวางประตู ร่างสูงใหญ่และแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว ความเงียบงันในห้องนั้นอึดอัดจนเธอแทบหายใจไม่ออก“เฮีย… เฮียจะทำอะไรกับหนู...” เธอพูดเสียงสั่น ขณะที่ก้าวถอยหลังช้า ๆ ราวกับกวางที่พยายามหนีจากเงื้อมมือของเสือที่พร้อมจะขย้ำหยวนยิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ตอบ แต่สายตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ราวกับว่าเขาคือผู้ล่า และเธอคือเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอด...บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลา 23:59 น. ตัวเลขสีขาวบนพื้นหลังดำระยับสะท้อนแสงวูบไหวถังหูลู่พยายามรวบรวมสติจัดการไฟล์งานสุดท้ายอย่างรีบเร่ง ก่อนจะกดส่งให้เพื่อน ๆ เสร็จสิ้นตรงตามเวลา ร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมที่หยวนยิงเคยนั่งเมื่อครู่ ทว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางเวทีที่มีสายตาของผู้ชมคอยจับจ้องอยู่และผู้ชมคนนั้นก็คือหยวนยิง...ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของเธอ แขนข้างหนึ่งเท้าพนักพิงเก้าอี้ไว้ราวกับกำลังล้อมกรอ