十二
ถังหูลู่ตะลึงค้าง ดวงตาเบิกกว้าง เธอหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังยืนขวางประตู ร่างสูงใหญ่และแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว ความเงียบงันในห้องนั้นอึดอัดจนเธอแทบหายใจไม่ออก“เฮีย… เฮียจะทำอะไรกับหนู...” เธอพูดเสียงสั่น ขณะที่ก้าวถอยหลังช้า ๆ ราวกับกวางที่พยายามหนีจากเงื้อมมือของเสือที่พร้อมจะขย้ำหยวนยิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ตอบ แต่สายตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ราวกับว่าเขาคือผู้ล่า และเธอคือเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอด...บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลา 23:59 น. ตัวเลขสีขาวบนพื้นหลังดำระยับสะท้อนแสงวูบไหวถังหูลู่พยายามรวบรวมสติจัดการไฟล์งานสุดท้ายอย่างรีบเร่ง ก่อนจะกดส่งให้เพื่อน ๆ เสร็จสิ้นตรงตามเวลา ร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมที่หยวนยิงเคยนั่งเมื่อครู่ ทว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางเวทีที่มีสายตาของผู้ชมคอยจับจ้องอยู่และผู้ชมคนนั้นก็คือหยวนยิง...ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของเธอ แขนข้างหนึ่งเท้าพนักพิงเก้าอี้ไว้ราวกับกำลังล้อมกรอ十三 ‘งื้อ~พอมาเห็นกับตาชัด ๆ แล้วมันใหญ่...ใหญ่มาก...ใหญ่มากเลยจริง ๆ ! ทำไมมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้กันล่ะเนี่ย...ใหญ่ซะจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นโคยของคน...เฮียเขาคิดยังไงถึงอยากให้เราอมมัน...โคตรจะน่ากลัว...’ ถังหูลู่กัดริมฝีปากล่างแน่น ความรู้สึกหวั่นไหวระคนความอายทำให้เธอไม่กล้าเงยหน้าสบตาหยวนยิงได้เต็ม ๆ เสียงหัวใจที่เต้นถี่เร็วอยู่ในอกนั้นแทบจะดังกลบความคิดของเธอไปหมด ท่อนเนื้อตรงหน้า แม้ว่าจะเย้ายวนใจ แต่มันก็ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างอดไม่ได้ ทั้งขนาดและความยาวที่พอ ๆ กับแขนเล็ก ๆ ของถังหูลู่ เส้นเอ็นที่ปูดโปนล้อมรอบ รวมถึงความกระตือรือร้นของมันที่ชูชันอย่างเต็มที่ ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวสำหรับเธอ “หนูไม่ไหวหรอกค่ะ...มันเกินไปสำหรับหนู...เฮียก็เห็นนี่คะว่าปากหนูมันเล็กแค่ไหน...มันเล็กมากเลยใช่ไหมล่ะคะ?” เสียงของเธอสั่นไหว แต่เธอยังคงพยายามรวบรวมความกล้าไว้ในน้ำเสียง ท่าทางทำปากจู๋ที่เธอแสดงออกมาแม้จะดูน่าขัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสาที่ยากจะมองข้าม หยวนยิงจ้องมองเธอด้วยแววตาคมกริบที่เหมือนอ่านทะลุทุกความคิดของเธอได้หมด “ดูท่าแล้วน้องถังของเฮียคงจะชอบแบบที่โดนบังคับมากกว่าน
十四 ในขณะที่หยวนยิงกดดันอย่างหนักหน่วง ความอึดอัดที่เริ่มต้นจากลำคอของถังหูลู่ก็ค่อย ๆ ทวีความรุนแรง ร่างกายของเธอเหมือนถูกกักขังอยู่ในความทรมานที่ไม่อาจหนีหาย แต่ในขณะเดียวกันความซ่านเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วก็เหมือนกระแสไฟฟ้าที่วิ่งผ่านเส้นประสาท นัยน์ตาสีดำภายใต้กรอบแว่นของถังหูลู่เหลือกลอย น้ำตาคลอขอบตาราวกับจะไหลพรั่งพรู ขณะที่ริมฝีปากอ้าค้าง น้ำลายใส ๆ หยดลงมาตามมุมปากไหลลามไปจนถึงปลายคาง เธอพยายามจะกลืนน้ำลายเพื่อบรรเทาความแน่นในลำคอ แต่กลับกลายเป็นว่ามันยิ่งทำให้เธอสำลักจนเสียง “อั่ก ๆ” ดังออกมาจากลำคอ ร่างกายของเธอสั่นระริก สองมือจิกลงบนหน้าขาของเขาเพื่อหวังจะยุติสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “อื๊อออ~!!” เสียงร้องของเธอดังลอดออกมาพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่า มันไม่ใช่เสียงแห่งการปฏิเสธแต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความผสมปนเปของความทรมานและความสุขที่แสนจะบิดเบี้ยว ‘เฮีย... มันแน่นเกินไปแล้ว!’ เธอพยายามที่จะตะโกนออกมาด้วยเสียงสั่นเครือราวกับจะขาดใจ แต่เสียงที่เล็ดลอดก็อู้อี้เกินกว่าที่จะเข้าใจความหมาย มือหนึ่งยังคงจิกหน้าขาเขาอย่างหนักหน่วง ส่วนอีกมือกำลำคอของตัวเองจนแน่น ราวกับจะหาที่พึ่งพิงจ
十五 อ๊อก! อ๊อก! อ๊อก! เสียงที่ดังถี่รัวเหมือนจังหวะของกลองศึกเร่งเร้าอารมณ์ให้ทวีคูณ หยวนยิงส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายเขาเกร็งจนเส้นเลือดปูดขึ้นตามแขนและลำคอ ความร้อนที่กักเก็บไว้พุ่งทะยานจนถึงขีดสุด “อีกนิดเดียว...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่เสียงสะอื้นสุดท้ายจะดังขึ้นพร้อมกับการปลดปล่อยทุกความรู้สึก “อื๊อออ~!!” เสียงครางลากยาวของถังหูลู่ดังลั่น เธอปล่อยร่างกายให้ไหลไปตามกระแสความสุขสม ดวงตาเหลือกขึ้นจนเห็นเพียงตาขาว เธอรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายไปทั้งตัว ร้อนวาบบริเวณลำคอและโพรงปาก ร่างกายเธอสั่นสะท้านราวกับคลื่นไฟที่ลามไปทั่วทุกอณู หยวนยิงที่ถึงจุดปลดปล่อยรีบถอนตัวเองออกมา น้ำของเขาพวยพุ่งอย่างไม่อาจหักห้าม มันราดรดไปทั่วทั้งโพลงปากและปลายลิ้นของถังหูลู่ ก่อนที่จะออกมาด้านนอกและกระเด็นกระดอนไปทั่วใบหน้าของเธอ ของเหลวอุ่น ๆ สีขาวขุ่นที่พรมลงมาแปดเปื้อนทั่วใบหน้าของเธอ มอบสัมผัสที่ร้อนรุ่มและชุ่มฉ่ำ แม้ในด้านหนึ่งจะน่าขยะแขยง แต่ในอีกด้านหนึ่งมันกลับน่าหวาดเสียวจนทำให้ใจสั่นเทา กลิ่นคาวใคร่และความเหนียวเหนอะหนะ เธอได้สัมผัสถึงพวกมันได้เป็นอย่างดี
十六“เฮียหยิง...กล่องกระดาษลังที่ใส่หนังสือของผมอยู่ที่เฮียรึเปล่า...” เสียงจากอีกฝั่งของประตูดังขึ้น เป็นเสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยที่แฝงความติดตลกตามแบบฉบับของผู้พูดหยวนยิงที่กำลังพยายามจัดการตัวเองให้ดูเรียบร้อย ตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อยู่...แปปนะ...” เขาหันกลับมามองถังหูลู่ที่กำลังลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน ผมยุ่งเหยิง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เธอพยายามจะปรับเสื้อผ้าให้เข้าที่ด้วยมือสั่น ๆ “หลบในนี้ก่อนนะ...” หยวนยิงเอ่ยพลางดึงประตูห้องน้ำเปิดออก เขาชี้มือเข้าไปข้างในพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน “คะ...ค่ะ...” ถังหูลู่ตอบรับด้วยเสียงสั่น พยักหน้ารับเบา ๆ เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หยวนยิงจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี สายตาคมคู่นั้นมองใบหน้าของเธอที่ยังมีคราบของเขาเปื้อนอยู่ เขาเอื้อมมือมาลูบหัวเธอเบา ๆ ราวกับปลอบโยนลูกแมวที่กำลังหวาดกลัว ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลงอย่างนุ่มนวล ภายในห้องน้ำแคบ ๆ ถังหูลู่ยืนพิงประตู ใจเธอเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากอก เธอหลับตา พยายามสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนในหัว ‘รู้สึกตื่นเต้นดีจัง...’
十七หยวนหลงหัวเราะในลำคออีกครั้ง “ไม่ใช่วันนี้สิเฮีย...ผมแค่พูดไว้ก่อน...ไว้เราค่อยมาคุยกันอีกที” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากทั้งคู่ทำให้ถังหูลู่ที่แอบฟังอยู่รู้ระส่ำระสายเข้าไปใหญ่ ‘อะไรล่ะเนี่ย...ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง...เราจะได้เสือกอย่างรู้ความ...แบบนี้มันก็ค้างคาน่ะสิ...พวกเฮียเนี่ย...นิสัยไม่ดีเลยจริง ๆ ’หยวนยิงเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงนิ่ง “ตามใจแกเลย...แต่นี่ห้องเฮีย ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป...เฮียจะนอน” หยวนหลงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็ยังทำตัวทะเล้น “โธ่~เฮีย...ผมเข้ามาแค่แป๊บเดียวเอง” “รกหูรกตา...ออกไป” หยวนยิงพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินตรงไปจับลูกบิดประตู เตรียมจะปิดใส่น้องชาย หยวนหลงยิ้มมุมปากอย่างยอมแพ้ “ครับ ๆ ...ผมไปแล้วก็ได้” เขาหันหลังเดินออกไปอย่างไม่รีบร้อน “เออ ๆ ไปให้พ้นสักที” หยวนยิงพูดไล่หลัง ก่อนจะปิดประตูและล็อกมันอย่างเรียบง่าย เมื่อหยวนหลงออกไปแล้ว ถังหูลู่ก็หันกลับมามองเงาของตัวเองในกระจก เธอสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะถอดแว่นตาออกและวางไว้ตรงขอบอ่างเปิดน้ำล้างหน้าล้างตา เพื่อลบคราบที่หลงเหลือจากเหตุการณ์ก่อนหน้า น้ำเย็
十八หยวนยิงยิ้มบาง ๆ มองเธอด้วยสายตาที่ลึกล้ำราวกับจะมองทะลุหัวใจเธอ “น้องถัง...เรื่องระหว่างเรา...มันเกินกว่าคำว่าพี่น้องไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะ...” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแต่มั่นคง และคำพูดนั้นก็เสียบแทงหัวใจเธอโดยตรงสายตาของเขาทำให้ถังหูลู่ร้อนรุ่ม เธอไม่อาจทนมองนัยน์ตาคู่นั้นได้ เธอหลบสายตาแต่กลับพบว่าขาของตัวเองก้าวเดินเข้าไปหาเขาโดยไม่รู้ตัว “ถ้าเฮียต้องการ...” คำพูดที่แผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบของเธอทำให้เขาเผยรอยยิ้มที่แฝงความพึงพอใจออกมา หยวนยิงมองเธอเดินเข้ามาใกล้จนยืนอยู่ตรงหน้า เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางเอื้อมมือขึ้นมาเชยคางเธอ “ไม่ปฏิเสธเลยเหรอ?” เขาถามพร้อมแววตาที่ดูจะล้อเล่น แต่กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางหนี ‘เฮียหยิง...เขาช่างน่ากลัวและเจ้าเล่ห์...แต่เขาก็ดึงดูดหัวใจเรา...เขาทำให้เราห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่...’ เธอคิดในใจ หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบจะได้ยินเสียงมันสะท้อนอยู่ในหู หยวนยิงปล่อยมือจากคางของถังหูลู่ เขาเลือกที่เอื้อมแขนไปกอดเธอและค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาใกล้ ร่างเล็กของเธอถูกพามานั่งลงบนต้นขาของเขาอย่างแผ่วเบาถังหูลู่ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืน
十九 “อ่ะ...ใครเป็นคนพับผ้าปูที่นอนให้เราล่ะเนี่ย...?” เธอพึมพำเบา ๆ สีหน้าผสมระหว่างความแปลกใจและความประทับใจ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผ้าที่เพิ่งอบเสร็จลอยขึ้นมาแตะจมูก เธอจ้องมองผ้าปูที่นอนในตะกร้า สัมผัสได้ถึงความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฝงอยู่ในสิ่งนี้ ใครบางคนในบ้านอาจพยายามช่วยเหลือเธอโดยไม่ได้พูดอะไรเลย หัวใจของเธอที่ยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและคำถามมากมายเริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงเล็กน้อย แม้ความสัมพันธ์นี้จะเต็มไปด้วยความซับซ้อนและข้อห้าม แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้กลับทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้อยู่ลำพังในเส้นทางที่ยากลำบากนี้ ‘ใครกันนะ...เฮียหลงหรือเฮียหยิง?’ เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบตะกร้าผ้าแล้วเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง พร้อมหัวใจที่ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ยากจะบรรยาย เวลา 06:30 น. เช้าที่เงียบสงบในบ้านหลังใหญ่ถูกเติมเต็มด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในห้องนอนของถังหูลู่ สาวแว่นที่เช้านี้กลับไม่ได้สวมแว่นตาคู่ใจ เสียงลมหายใจเบา ๆ ของเธอผสมกับเสียงกรนแผ่ว ๆ จาก เป่าเปา แมวอ้วนพันธุ์แร็กดอลล์แสนซุกซนที่นอนขดตัวอยู่ข้าง ๆ สภาพของทั้งคู่ดูไม่ต่างกัน—น้
二十“ก็ได้...อาบน้ำก็อาบน้ำ...” เธอพูดตัดบทพร้อมคว้าผ้าขนหนูจากปลายเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำสายตาของหยวนยิงมองตามเธอไป รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากขณะเขายืนเล่นกับเป่าเปาต่อไป ส่วนถังหูลู่ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำกลับยังคงรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้เธอยืนพิงประตูห้องน้ำ มือหนึ่งจับที่อกตัวเอง พยายามปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติในห้องน้ำอันเงียบสงบ เสียงน้ำที่หยดเบา ๆ จากก๊อกใหม่เอี่ยมดังสะท้อนอยู่ในอากาศ ถังหูลู่ยืนอยู่หน้ากระจก ใบหน้าของเธอสะท้อนออกมาพร้อมกับดวงตาที่ดูหม่นหมองและแฝงไปด้วยความสับสน‘อืม...เมื่อวานเราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...รู้สึกเหมือนภาพตัดไม่มีผิด...’ เธอคิดในใจ ขณะปล่อยมือสัมผัสกระจกเย็น ๆ เหมือนต้องการปลุกตัวเองให้กลับมามีสติเธอค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น ความเย็นของอากาศกระทบกับผิวเนียนละเอียดของเธอ เผยให้เห็นร่างที่สมส่วนราวกับงานศิลป์ที่ถูกปั้นแต่งด้วยความพิถีพิถัน กระจกตรงหน้าสะท้อนความงามของเธอ แต่ความคิดในหัวกลับหมุนวนเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานอย่างหยุดไม่ได้หยวนหลง... ภาพของเขาเข้ามาในหัว เธอจำได้ดีถึงสัมผัสของเขา นิ้วที่ลากผ่านร่องรักของเ
一百二十ริมฝีปากบางแนบเข้ากับท้องน้อยของหยวนยิง ในขณะที่ความรู้สึกที่ราวกับกำลังกลืนหินร้อนก้อนใหญ่ลุกลามไปทั่วหอคอยของเธอ!“อื๊ออ~!!”เสียงครางแผ่วต่ำดังลอดออกจากในลำคอเล็ก ความร้อนระอุแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูร่างกาย เธอรู้สึกถึงแรงกดที่ส่งผ่านจากฝ่ามือของเขา กล้ามเนื้อของถังหูลู่ตึงเครียด ก่อนจะผ่อนคลายลงในจังหวะต่อมา หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำเร็วขึ้นทุกขณะ‘อา...น้ำของเราที่เคลือบอยู่ทั่วกับน้ำเชื้อของเขาที่ล้นปริ่มออกมา...ทั้งหมดกำลังคลอเคลียอยู่ในช่องปากเรา...และรสชาติของมันก็...!’ ถังหูลู่ครุ่นคิดด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่ประสาทสัมผัสทั้งหมดถูกถาโถมด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย—รสชาติที่ปะปนกันระหว่างคาว ขม และหวาน กลิ่นฉุนที่แทรกซึมจนทำให้รู้สึกวิงเวียน และความอึดอัดที่ชวนให้ขยะแขยง ทว่ากลับกระตุ้นความตื่นเต้นให้พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจร่างบางสั่นสะท้านขณะที่เธอเผลอยกมือขึ้นเกาะสะโพกแกร่งของเขาเพื่อพยุงตัว ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาคู่โตเหลือกลอยขึ้นในวินาทีนั้นความรู้สึกเสียดเสียวและหวาดหวั่นประสมปนเปกันไปหมด น้ำใสเอ่อล้นออกจากมุมปาก หยดย้อยลงมาตามแนวคางเรียว ทว่าเธอกลับไม
一百一十九‘เราเมามากจนเราไม่ทันได้นึกถึงเรื่องนี้...อา...แถมเราก็ยังโคตรที่เงี่ยนเลยด้วยตอนนี้...เราก็เลยพึ่งจะมารู้สึกตัว...ถึงมันจะรู้สึกดีกว่าแบบใส่ถุงก็เถอะ...แต่นี่มันน่ากลัวมากหากเฮียหยิงเผลอแตกในขึ้นมา...!’ด้วยความวิตกกังวลในหัวใจ ถังหูลู่อดไม่ได้จริง ๆ ที่จะเอ่ยแบบนั้นออกมาด้วยความตื่นตระหนก“เฮียอย่าแตกในหนูนะคะ!”เสียงหวานที่เปล่งออกมาแผ่วเบา ทว่าแฝงไปด้วยความสั่นไหว เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านกระจกอีกครั้ง แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวหยวนยิงกำลังยิ้ม—รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำให้เธอหนาวสั่นไปทั้งร่าง“แล้วอยากไหมล่ะ?” เขาถามเสียงต่ำ ดวงตาคมปลาบจับจ้องใบหน้าของเธอในกระจก ราวกับกำลังท้าทาย“อยากค่ะ...แต่อย่าเลย...หนูขอร้อง...หนูยังไม่อยากท้องตอนนี้...”เธอตอบไปตามตรง แต่ปลายเสียงนั้นขาดหาย ความอับอายทำให้เธอก้มหน้าลงต่ำ มือกำขอบอ่างล้างหน้าแน่นเพื่อระงับความรู้สึกที่สับสนอย่างไรก็ตาม...ความซ่านสยิวและซาบซ่านถึงทรวงในก็ยังคงประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านท่อนเนื้อของเขาที่ชอนไชอยู่ภายในกายเธอไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังเข้าสุดออกสุดในทุกครั้ง ปะทะชนเข้ากับปากมดลูกในทุกห
一百一十八หน้าห้องน้ำชั้นล่างใกล้กับห้องครัวเวลา 22:40 น.แม้พื้นที่จะไม่กว้างขวางนัก แต่ก็มากพอให้เกิดบรรยากาศอบอุ่นและลึกลับในยามค่ำคืน แสงไฟขาวสลัวจากโคมด้านบนทำให้เงาของคนสองคนทอดลงบนผนัง ราวกับกำลังบรรเลงบทละครแห่งความลุ่มหลงถังหูลู่ที่ถือผ้าขนหนูเอาไว้ในมือ เงยหน้ามองหยวนยิงอย่างออดอ้อน ริมฝีปากสีระเรื่อเผยอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือคว้าเสื้อเชิ้ตของเขาไว้เบา ๆ“เฮียไม่อาบด้วยน้ำเหรอคะ...?”น้ำเสียงหวานเยิ้มชวนให้ใจเต้นแรง ดวงตาคู่นั้นสะท้อนแสงไฟระยิบระยับราวกับกำลังสะกดจิตเขาให้อยู่ใต้มนต์เสน่ห์หยวนยิงระบายยิ้ม รอยยิ้มนั้นต่างจากปกติที่มักจะเรียบนิ่ง แต่คืนนี้ความมึนเมาทำให้มันดูอ่อนโยนขึ้น...อ่อนโยนจนคล้ายกับว่าเขากำลังตกอยู่ในภวังค์...“ไม่เป็นไร...”แต่คำตอบสั้น ๆ ของเขากลับถูกปัดทิ้งอย่างง่ายดายด้วยประโยคต่อมาของเธอ“แน่ใจเหรอคะ...ว่าจะไม่มาอาบด้วยกันกับหนู?”เสียงนั้นคล้ายกระซิบ ลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอของเขา ถังหูลู่ยืนอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกาย หัวไหล่เล็กนั่นสั่นน้อย ๆ ราวกับเด็กสาวขี้อ้อน แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความยั่วยวนหยวนยิงแค่นหัวเราะต่ำ ๆ ก่อนจะส่ายหน้าเ
一百一十七เธอยิ้มเจื่อน ๆ พลางตอบเสียงเรียบ “เจ๊เฟิน...ไม่ใช่ว่าได้ดอกไม้มาแล้วจะต้องมีแฟนพร้อมแต่งงานเลยเสียเมื่อไหร่...”เฟินเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาทอประกายอยากรู้อยากเห็น “แต่เจ๊ถือไง...อีกอย่างเจ๊อยากรู้...”ยังไม่ทันที่ถังหูลู่จะได้ตอบ เสียงแหลมเล็กของเจ๊เล็กแห่งบ้านก็ดังขึ้นแทรกกลางวง“แต่หนูไม่ถือนะ~”หมิงหมิงกล่าวเสียงทะเล้นพร้อมกับใบหน้ายิ้มกวน ๆ ราวกับจะจุดชนวนบทสนทนาใหม่ให้กับค่ำคืนนี้อีกครั้ง“ใครเขาถามหล่อนมิทราบ...” เสียงเนิบเย็นเฉียบดังขึ้น ไม่ใช่จากเฟินที่นั่งกอดอกอยู่ แต่เป็นเมิ่งเหยา เจ้าตัวเอียงคอมองหมิงหมิง คิ้วขมวดชนกันอย่างไม่ปิดบังความไม่พอใจหมิงหมิงกลับไม่สะทกสะท้าน ตรงกันข้าม เธอยิ่งแสยะยิ้มอย่างท้าทาย ก่อนจะเบี่ยงตัวมาทางเมิ่งเหยาพร้อมกับยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้น “หนูไม่ใช่พวกที่ไปเสริมดวงความรักมาแล้วอกหักหรอกนะ” เธอทอดเสียงยั่วเย้า แววตาพราวระยับ ”เพราะหนูรู้ดีว่าต้องทำยังไงผู้ถึงจะรัก ผู้ถึงจะหลง...หรืออย่างน้อยก็ไม่ติดขัดเรื่องผู้ชาย!”ปลายนิ้วเรียวของหมิงหมิงยกขึ้นแตะปลายคางตัวเองอย่างจงใจ ขยับริมฝีปากเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับจะตอกย้ำว่าเธอมีไม้เด็ด
一百一十六บรรยากาศรอบตัวเงียบลงไปชั่วขณะ หยวนชิงหลานกะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าเปลี่ยนจากความมั่นใจเป็นความสับสน“…ม๊าได้ยินผิดรึเปล่า?” เธอถามอีกครั้ง สีหน้าติดตลกแต่ก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อถังหูลู่ส่ายหน้าช้า ๆ “ไม่ผิดค่ะ...”หลังจากพูดคุยปรึกษากับหยวนชิงหลาน ถังหูลู่รู้สึกมั่นใจมากขึ้น และเพื่อเป็นการใช้เวลาร่วมกันทั้งครอบครัว ทุกคนจึงตัดสินใจไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์บรรยากาศในโรงหนังเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถังหูลู่นั่งเคียงข้างหยวนชิงหลาน ทั้งคู่แอบกระซิบกระซาบพูดคุยกันเป็นระยะ โดยเฉพาะเรื่องของหยวนยิงและหยวนหลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของถังหูลู่ทำให้หยวนชิงหลานได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ ขณะฟังเธอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายทั้งสองของเธอหลังจากหนังจบ ทุกคนพากันไปทานชาบูหมาล่าด้วยกัน ร้านประจำที่ครอบครัวนี้มักไปทุกปีเต็มไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศเผ็ดร้อนที่ชวนให้ท้องร้อง พริกหมาล่าที่ใส่มาอย่างจัดเต็มทำให้ทุกคนต้องจิบน้ำเย็นเป็นระยะ แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนานเมื่อมื้อกลางวันจบลง กิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของครอบครัวก็เริ่มต้นขึ้น เช่นเดียวกับทุกปี หยวนยิง หยวนหลง และถังหูลู่เลือกที่จะแข่งขัน
一百一十五เธอเม้มริมฝีปากแน่น ขณะที่สายตาของหยวนชิงหลานสะท้อนแววบางอย่าง... แววตาที่เหมือนรู้ทุกอย่าง—อาจจะมากกว่าที่เธอคิดด้วยซ้ำเธอรู้...ถังหูลู่รู้จักผู้หญิงคนนี้มานาน ตั้งแต่จำความได้ หยวนชิงหลานเคยเป็นเพียงเลขาของพ่อเธอ แต่ด้วยโชคชะตาและกาลเวลา เธอกลับกลายมาเป็น ‘แม่’ คนหนึ่งของถังหูลู่ในที่สุดผู้หญิงคนนี้เป็นมากกว่าคนธรรมดา ชีวิตของเธอผ่านอะไรมาไม่น้อย ตั้งแต่การทำงานเป็นเด็กล้างจานในช่วงวัยเรียน จนกระทั่งไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้จัดการ เป็นเลขา และแม้แต่แม่เล้าในช่วงเวลาหนึ่งที่เธอเคยเป็นหนี้สิน ชีวิตที่ถูกลับคมจากประสบการณ์มากมายทำให้เธอเป็นคนที่เฉียบแหลม อ่านคนขาด และไม่เคยมีสิ่งใดหลุดพ้นสายตาเธอ...รวมถึงความลับของถังหูลู่ด้วย... เธอเป็นคนเดียวที่ถังหูลู่ไว้ใจมาตลอด เป็นคนที่เคยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่แม้แต่เพื่อนสนิทก็ไม่อาจพูดถึง ตั้งแต่เรื่องประจำเดือน การดูแลร่างกาย ไปจนถึงเรื่องของ ‘โลกอีกด้าน’ ที่ผู้หญิงควรรู้จัก และใช่—เธอเคยพาถังหูลู่ไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา ไปสัมผัสกับโลกที่ผู้คนซ่อนเร้น อย่างสถานเริงรมย์ที่มีผู้หญิงออกมาเพื่อค้าบริการทางเพศแต่ในเวลานี้ คำถามของเธอก
一百一十四“ทำเป็นขิงไปได้...” หยวนยิงแค่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือดันแว่นขึ้นจรดสันจมูก เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดเย้าแหย่ของน้องชายหยวนหลงยังคงหาโอกาสยั่วยุต่อไป “อย่างอนล่ะเฮีย ถ้าอาหมวยอยู่กับผมมากกว่า...” เขาเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายด้วยความเจ้าเล่ห์ ความรู้สึกเหนือกว่าที่เมื่อคืนได้ใช้เวลาร่วมกับถังหูลู่มากกว่ากำลังทำให้เขาพึงพอใจหยวนยิงหัวเราะในลำคอ สายตาคมกริบปรายมองน้องชายก่อนจะเอ่ยอย่างท้าทาย “จะงอนไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายก็พอ ๆ กัน...” รอยยิ้มของเขาแฝงความหมายลึกซึ้ง ราวกับต้องการสื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว ถังหูลู่ก็เป็นของพวกเขาทั้งคู่ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบไปมากกว่ากันบรรยากาศระหว่างพี่น้องเต็มไปด้วยแรงกดดันบางเบา แต่ไม่มีใครยอมถอยให้ใคร พวกเขาต่างรู้ดีว่า ‘เกม’ ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับความพ่ายแพ้...ในขณะเดียวกัน ถังหูลู่ที่เพิ่งทำธุระเสร็จในห้องน้ำ กำลังยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ แสงไฟสีขาวนวลสะท้อนภาพหญิงสาวร่างเล็กในเสื้อคอเต่าและกางเกงยีนส์ขายาวพอดีตัวที่ขับเน้นสัดส่วนอ้อนแอ้นของเธอได้อย่างลงตัวเธอเอียงคอเล็กน้อย มอ
一百一十三มันคือตารางชีวิตของเธอ และเป้าหมายในอนาคตที่เธอได้วางแผนไว้อย่างละเอียดเธอไม่ได้คิดแค่เรื่องของหยวนหลงและหยวนยิงเพียงอย่างเดียว—เธอมีความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นถังหูลู่มีเป้าหมายอยากเป็นนักเขียนนิยายที่โด่งดัง เธออยากสร้างชื่อเสียงของตัวเองผ่านตัวหนังสือที่มีเอกลักษณ์ เป็นที่รู้จักของผู้คน และได้รับการยอมรับในวงการวรรณกรรมแต่เพียงแค่นั้นไม่พอ...เธอยังต้องการเป็น ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์—ทำ vlog, คลิปเต้น, โปรโมตนิยายของตัวเอง เพื่อให้ผู้คนจดจำเธอในฐานะนักเขียนที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์ เธออยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ให้พวกเขารู้ว่าการเป็นนักเขียนไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่แต่ในห้องแคบ ๆ เท่านั้นเธอวางแผนที่จะเปิดคอร์สสอนเขียนนิยาย และขึ้นเวทีบรรยายเกี่ยวกับการเป็นนักเขียนตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ —เธอจะไม่ใช่แค่ ‘นักเขียน’ แต่เป็น ‘แบรนด์’ ที่คนจดจำเธออยากให้ชื่อ ‘ถังหูลู่’ กลายเป็นที่กล่าวขวัญในวงการวรรณกรรมและวงการเน็ตไอดอลและที่ด้านล่างสุดของตารางชีวิตของเธอ...ความฝันที่แท้จริงของเธอ—ความฝันที่เธอไม่เคยบอกใครเธออยากมีลูกทั้งหมด 6 คน กับ ‘พวกเขาทั้งสองคน’ส
一百一十二“อุต๊ะ...คุณเองก็หล่อมาก ไห่เฉิง...”เธอเอื้อมมือไปตีไหล่เขาเบา ๆ อย่างหยอกเย้า รอยยิ้มประดับใบหน้าแม้จะมีความเขินอยู่จาง ๆ แต่เธอก็ยังคงรักษาท่าทีสง่างามตามแบบฉบับผู้หญิงที่รู้คุณค่าของตัวเองถังไห่เฉิงหัวเราะในลำคอ ริมฝีปากยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “มันก็แน่นอนอยู่แล้ว...”แต่ก่อนที่เขาจะได้ดื่มด่ำกับคำชมจากภรรยาได้นานกว่านั้น เสียงหนึ่งจากด้านหลังก็แทรกขึ้นมาพร้อมน้ำเสียงขี้เล่นที่เต็มไปด้วยความสนุก“อันนี้หนูไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ป๊าแก่มากแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ว่าไปอย่าง...”ถังหูลู่ แก้วตาดวงใจของเขา เปล่งเสียงแซวด้วยรอยยิ้มซุกซน นาน ๆ ทีเธอถึงจะมีโอกาสได้หยอกเย้าพ่อกลับบ้าง และครั้งนี้เธอไม่คิดจะพลาดถังไห่เฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากกระตุกยิ้มขณะปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาวางบนที่วางแขน“ชายแก่เขาว่าเป็นไวน์ยิ่งบ่มนานก็ยิ่งอร่อย” เขาโต้กลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ “คนที่ไม่เคยลิ้มรสไวน์ชั้นดีอย่างอาหมวย จะไปรู้อะไรเกี่ยวกับป๊า...”คำพูดของเขาทำให้หยวนยิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับหัวเราะเบา ๆ ขณะส่ายหน้า ส่วนหยวนหลงก็ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างกับกำลังดูศึกชิ