จู่ๆ ก็มีแม่สาวน้อยฝีปากกล้า ตกตุ๊บ! ลงมาในอ้อมแขนโดยไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายที่หัวใจถูกปิดตายมาเนิ่นนานอย่าง ‘ฟินิกซ์ อีเมอร์สัน’ จึงจำต้องอ้าแขนรับแม่นกน้อยเอาไว้ในกรงทอง ด้วยตำแหน่ง ‘เมียขัดดอก’ จดหมายของคุณย่าผู้ล่วงลับ นำพาให้ ‘มิริน’ ต้องเดินทางข้ามขุนเขามาเพื่อพบกับเขา ฟินิกซ์ อีเมอร์สัน พ่อเทพบุตรนกไฟ ผู้ชายเย่อหยิ่ง เขาขโมยหัวใจสาวไปตั้งแต่แรกสบตา และยิ่งได้รู้ว่าเขาคือผู้ชายที่กำลังจะได้ครอบครองพรหมจารีที่แสนหวงแหนของตัวเอง หญิงสาวก็ยิ่งเต็มไปด้วยความพรั่นพรึงที่แสนวาบหวาม
View Moreที่นี่คือจังหวัดเชียงราย... เป็นหนึ่งในหลายสิบจังหวัดที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นหล่อนไม่เคยเยือนมาก่อน และครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เหยียบลงบนพื้นดินของจังหวัดที่อยู่เหนือสุดแห่งสยามแห่งนี้
‘ดินแดนแห่งขุนเขา’ กำลังต้อนรับการมาเยือนของสาวน้อยแห่งเหมือนกรุงเช่นหล่อน
มิริน อนันตกาล หรือน้องหนู สาวสวยใบหน้าหวานปานน้ำผึ้ง หญิงสาวได้รับคำสั่งเสียสุดท้ายจากคุณย่าเพ็ญศรี อนันตกาลคุณย่าแท้ๆ ที่พึ่งถึงแก่กรรมไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนให้เดินทางมาที่นี่...
ไร่ชาอีเมอร์สัน
ลมหายใจอ่อนล้าถูกผ่อนออกมาจากริมฝีปากอิ่มสีแดงธรรมชาติแผ่วเบา ดวงตากลมโตที่หวานไม่แพ้ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง คุณย่าเพ็ญศรีคือคนที่มีพระคุณอุปการะเลี้ยงดูหล่อนมาตั้งแต่แบเบาะ หลังจากที่พ่อแม่บังเกิดเกล้าเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางน้ำตั้งแต่หล่อนเกิดได้เพียงห้าเดือน ดังนั้นความต้องการสุดท้ายของท่าน หล่อนจะต้องทำให้สำเร็จ ท่านจะได้ไปสู่สุคติ จะได้ไม่ต้องมีห่วงเพราะหล่อนอีก
แต่ถึงแม้จะพยายามเข้มแข็ง กระนั้นหยาดน้ำตาก็อดที่จะเอ่อซึมออกมาไม่ได้ ความสูญเสียทำให้หล่อนต้องพลัดพรากจากผู้มีพระคุณอันเป็นที่รัก ต้องพลัดพรากจากคนที่รักหล่อนมากที่สุด และที่สำคัญหล่อนยังไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณเลย ท่านก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
มือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจจะลบเลือนได้ ใบหน้างดงามแหงนขึ้นมองท้องฟ้าสีครามเบื้องหน้าด้วยความอาลัยรัก
‘น้องหนู... ไปหาเจ้าของไร่อีเมอร์สัน และมอบจดหมายของย่าให้กับเขา น้องหนูของย่าต้องทำให้ได้นะ จำเอาไว้’
คำสั่งเสียของผู้มีพระคุณล้นบ่าทำให้หล่อนต้องเดินทางเกือบพันกิโลเมตร เพื่อมาที่นี่... ที่ที่เต็มไปด้วยขุนเขาและความเขียวขจีจากไร่ชาหลายร้อยไร่
‘ไร่ชาอีเมอร์สัน’
ป้ายไม้ที่ทางเข้าของไร่ชากว้างใหญ่เขียนบอกเอาไว้ ซึ่งมันก็ทำให้หล่อนรู้ว่าลุงขับรถสองรับจ้างคนที่ขับมาส่งไม่ได้หลอกลวง เพราะในที่สุดหล่อนก็เดินทางมาถึงที่หมายจนได้
มือเล็กข้างซ้ายยกขึ้นป้ายเม็ดเหงื่อจากหน้าผากมนและตามไรผม ในขณะที่มืออีกข้างก็กระชับกระเป๋าเดินทางใบหย่อมให้แน่นขึ้น สองเท้าก้าวเดินไปตามทางกว้างที่โรยด้วยหินเม็ดสีเทาอมดำอย่างระมัดระวัง ในใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวระคนหวั่นเกรง
เส้นทางตรงหน้ากว่าจะถึงตัวคฤหาสน์ไม้หลังงามค่อนข้างจะไกลพอสมควร เห็นได้จากเม็ดเหงื่อที่ไหลย้อนลงมาจากไรผมจนเปื้อนแก้มนวลทั้งสองข้าง แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความพยายามของหล่อน เมื่อในที่สุดคฤหาสน์หลังงามก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อีกนิดเดียว...
มิรินบอกตัวเองเบาๆ ในอกอย่างดีใจ
กี่เพียงแค่ไม่ถึงสองร้อยเมตร หล่อนก็จะได้พบกับเจ้าของไร่ชาอีเมอร์สัน คนที่คุณย่าต้องการให้หล่อนเดินทางมาพบ
เท้าบอบบางในรองเท้าผ้าใบสีฟ้าคาดเทาชะงักเล็กน้อย เมื่อสมองพยายามจะคิดถึงใบหน้าของชายเจ้าของไร่ชากว้างใหญ่
“คงจะอายุไล่เลี่ยกับคุณย่า... หรือบางทีอาจจะเด็กกว่าคุณย่าสักสองสามปีมั้ง”
ภาพผู้ชายศีรษะขาวโพลนผุดขึ้นมาในหัวอย่างแจ่มชัด มิรินระบายยิ้มกว้าง เพราะคาดหวังว่าชายที่ตัวเองกำลังคิดถึงจะต้องใจดี มีเมตตาไม่ต่างอะไรไปจากคุณย่าอย่างแน่นอน
สองเท้ากำลังจะก้าวย่างอีกครั้งเพื่อที่จะเดินให้เข้าไปใกล้ตัวคฤหาสน์ไม้หลังงามให้มากที่สุด แต่ยังไม่ทันได้ขยับ เสียงเครื่องยนต์จากยานพาหนะหรูก็ดังใกล้เข้ามาเสียก่อน
มันดังใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นจน... จน...
ปริ๊นนนนน...!!!
“ว๊ายยยย!!!”
ร่างอรชรของมิรินเสียหลักเซถลาล้มลงไปกองกับพื้นข้างทางกะทันหัน พร้อมกับเสียงล้อรถครูดกับผิวของก้อนหินดังลั่น หัวเข่าที่แม้จะอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ถูกก้อนหินบนพื้นต่ำจนเจ็บระบม ดวงหน้าหวานละมุนบิดเบ้ด้วยความตกใจระคนไม่พอใจ
“ขับรถอะไรของคุณเนี้ย ไม่มองคนเดินเลยหรือไงคะ”
แม้จะยังไม่ได้ลุกขึ้นยืน แต่ปากช่างเจรจาก็อดที่จะตะโกนถามออกไปไม่ได้
ประตูรถคันงามฝั่งของคนขับถูกดันให้เปิดกว้างออก ก่อนที่ช่วงขากำยำที่ซ่อนอยู่ในกางเกงยีนส์ขายาวสีซีดจะก้าวลงมาสัมผัสกับก้อนหินบนพื้นของถนน มิรินจับจ้องผู้ชายคนขับไม่วางตา มองอย่างไม่พอใจ และต้องการให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่พอได้เห็นใบหน้าของผู้ร้ายที่เกือบจะทำให้ตัวเองพิกลพิการชัดเจนเต็มสองตาแล้ว มิรินก็จำต้องอ้าปากค้าง น้ำลายในลำคอเหนียวเป็นยางจนเกือบไม่ลงปล่อยให้มันไหลซึมออกมาทางมุมปากอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ไอ้อาการแบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ
ตะลึง!
ใช่... หล่อนกำลังตื่นตะลึงกับรูปโฉมของผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายที่หล่อนตั้งใจว่าจะด่าให้เสียคน แต่สุดท้ายกลับทำได้แค่เพียงแหงนหน้าขึ้นมองเขาราวกับไม่เคยเห็นผู้ชายมาก่อนในชีวิต
ฝรั่งที่หล่อที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเห็นมาก่อน...!
มิรินคิดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขณะไล่สายตาสำรวจเรือนร่างของผู้ชายตัวสูงใหญ่ราวกับตึกสิบชั้นตรงหน้า
บทที่ 42. ตอนอวสาน“ฉันก็รักคุณค่ะฟินิกซ์ รักเหลือเกิน... รักจนเจ็บปวดไปทั้งตัวใจ”“แต่ผม... กำลังเจ็บปวดเจ้านี่น่ะ... มันร้องจะกินคุณอีกแล้ว” มือใหญ่จับท่อนชาย และหัวเราะขบขัน มิรินหน้าแดงก่ำ ขณะหรี่ตาแคบจ้องมองเจ้าแท่งเนื้อที่ใหญ่กว่าท่อนแขนของตัวเองด้วยความขัดเขิน“แล้วถ้า... ฉันจะกินคุณก่อนล่ะคะ”“มิริน...”“เอ่อ ฉันหมายถึง... ฉันจะกินคุณด้วยปาก...”หล่อนช้อนตาขึ้นมองสามี ในขณะที่มือเล็กแย่งแท่งเนื้อมากอบกุมเอาไว้ด้วยสองมือของตัวเอง“จะใช้ปากของฉัน... พร้อมกับลิ้นของฉัน กับเจ้านี่ของคุณ”“มิริน...”แค่ได้ยินคำพูดของภรรยาสาว ฟินิกซ์ก็เสียวกระสันรอคอยจนไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ซะแล้ว นอกจากครางชื่อของหล่อน“ถ้าคุณจะไม่ขัด... ข้อง...”“อย่าช้า... มิริน... ดูดมัน... โอ้ว...”ไม่ต้องให้ฟินิกซ์สั่งซ้ำ เพราะแค่เสี้ยววินาทีต่อมา อุ้งปากสาวก็ครอบครองปลายยอดของแท่นชายเอาไว้ หญิงสาวค่อยๆ ละเมียดด้วยริมฝีปาก ตวัดเลียตามรอยหยักสากด้วยลิ้นนุ่ม“โอ้ว... อู๊ยยย... เมียจ๋า... ไม่ไหวแล้ว... โอ้ว...”ฟินิกซ์คำราม ครวญคราง นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนเตียง อยู่ภายในการครอบครองของมิริน“โอ้ว... มิรินจ๋า... ทูนหั
บทที่ 41.“นั่งบนขอบเตียงคนสวย แล้วนอนหงายลงไป ใช่แบบนั้นแหละ แยกขาออก ยกขาสวยๆ ของคุณมาพาดบ่าของผมทั้งสองข้าง ไม่ต้องอาย... มันจะสนุก คุณจะชอบ เชื่อผมนะเมียจ๋า...”หล่อนทำตามอย่างว่าง่าย สองขาของหล่อนพิงกับบ่ากำยำ กลีบสาวแยกแย้มออกจากกันจนมองเห็นเนื้อนุ่มสีแดงระเรื่อภายใน หล่อนเห็นเขามองแล้วอมยิ้ม ก่อนจะจับท่อนชายฝังลงไป“อ๊า... อ๊า...”หล่อนครางให้กับความใหญ่โตของแก่นกายร้อนจัด ก่อนจะยัดก้นสูงขึ้นเพื่อให้เขาได้เข้าไปอย่างล้ำลึกที่สุด“ว้าว... แน่นเหลือเกิน ทูนตัว...”เขาก้มหน้าลงมองใบหน้าของภรรยา ก่อนจะโน้มตัวลงไปละเลงยอดถันด้วยสองนิ้วมือ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทั้งบนทั้งล่าง“อู๊ยยยย... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”“ชอบไหมคนสวย ชอบสิ่งที่ผมมอบให้ไหม”“ชอบค่ะ ชอบมาก อ๊า... โยกเถอะค่ะ ไม่ไหวแล้ว... ฉันรอไม่ไหวแล้ว โยกสิคะ อ๊า...”เมื่อเขาทำตามคำสั่ง หล่อนก็กรีดร้องด้วยความเสียวกระสันรับในทันที หญิงสาวดิ้นพล่าน หยัดยกร่างกายเพื่อให้เขาได้ล่วงล้ำอย่างกระตือรือร้าน ปากอิ่มเผยอกรีดร้องตลอดเวลา“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”หล่อนเสียว... เสียวซ่านเหลือเกิน รู้สึกร้อนผ่าวไปจนถึงป
บทที่ 40.ชุดเจ้าสาวแบบเกาะอกถูกระชากให้หลุดลงไปกองอยู่ที่บั้นเอว และคนตัวโตจอมตะกละก็ผลักร่างเปลือยท่อนบนให้ชนกับขอบหน้าต่าง ส่วนตัวเองก็ก้มลงดูดอมจงอยถันงามเอาไว้เต็มปากเต็มคำ“อ๊า... อ๊า ฟิกซ์ขา...”จากที่เคยทัดทานตอนนี้ส่ายร่อนระริกรับการรุกรานของปากร้อนจัด ลิ้นแกว่งไกว่ และนิ้วมือที่ช่ำชอง“อ๊า... ซี๊ดดด... อ๊า...”ชุดเจ้าสาวที่ค้างคาบนเอวคอด มือถูกเล็กของเจ้าของร่างดันให้มันหล่นไปกองที่ข้อเท้า ก่อนจะสลัดให้มันออกไปพ้นตัว จนตอนนี้เรือนร่างสาวน้อยเปลือยเปล่าขาวเนียนอวดแสงจันทร์“เมียจ๋า... อวบ ขาว เหลือเกิน”ฟินิกซ์เงยหน้าขึ้นจากทรวงอกอวบ แต่มือยังคงเฝ้าขยำตลอดเวลา หญิงสาวกัดปาก เงยหน้าครางเสียวซ่าน“อ๊า... ฟิกซ์ขา... อ๊า...”ยิ่งยามที่จงอยถันถูกปากร้อนจัดดูดอม และกึ่งกลางลำตัวถูกนิ้วแกร่งจู่โจม หล่อนก็แทบจะสุขสมเสียให้ได้ หล่อนเสียวซ่าน กระสันไปทั่วทุกอณูกาย“อ๊ะ... ซี๊ดดด... ฟิกซ์ขา... ไม่ไหวแล้ว...”หล่อนวิงวอน ส่ายร่างสาวระรัวรับการโรมรันชำนาญของชายหนุ่ม ไม่นานเขาก็เลิกดูดอมยอดถัน คุกเข่าลงตรงหน้าของหล่อนแทน หล่อนก้มลงประสบสานสายตากับเจ้าบ่าวสุดหล่อ ก่อนจะต้องยกมือที่ยันกับขอบ
บทที่ 39.“ผมแทบเป็นบ้า ตอนที่เห็นคุณล้มลงไป และมีเลือดออกเต็มหลัง”“ฉันถูกยิงนี่คะ ก็ต้องมีเลือดสิ”“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน ผมแทบขาดใจ... ตอนที่เห็นคุณสลบไป ผม... ผมนึกว่าผมจะต้องเสียคุณไปเสียแล้ว มิริน... อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ อย่าก้าวออกห่างจากผมแม้แต่ก้าวเดียว ผมคงทนเห็นคุณถูกทำร้ายไม่ได้อีกแล้ว...”“ขอบคุณค่ะ ที่เป็นห่วงฉัน” หล่อนยิ้มกว้าง มองเขาทั้งน้ำตา“คุณเจ็บก็เพราะผม ผมขอโทษ...”มิรินส่ายศีรษะน้อยๆ“ไม่ใช่เพราะคุณสักหน่อยค่ะ แต่เป็นเพราะฉัน... งี่เง่าเองต่างหาก ถ้าฉันไม่วิ่งหนีออกมา เรื่องร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น”ฟินิกซ์คว้ามือนุ่มมากุมเอาไว้ พลางยกขึ้นแนบกับแก้มสากของตัวเอง “ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าคุณจะได้ยินอะไรมา ได้โปรด... ถามผมก่อนนะมิริน... ผมสัญญาว่าจะไม่มีความลับระหว่างเราอีกแล้ว ผม... ผมจะบอกกับคุณทุกเรื่อง ผมขอโทษ...”“ฟินิกซ์คะ คุณไม่ได้ผิดอะไร ฉันต่างหากที่ผิด คนที่ควรขอโทษคือฉันค่ะ ไม่ใช่คุณ”“แต่ถ้าผมยอมบอกเหตุผลที่พาขวัญตาเข้ามาในไร่อีกครั้งให้คุณฟัง คุณก็คงจะไม่หึงหวงผมจนเข้าใจผิดแบบนั้น”มิรินแก้มแดงก่ำ และเสหลบตาด้ว
บทที่ 38.“ขวัญ... ปล่อยมิรินเถอะครับ ผมขอร้อง”“อย่าเข้ามานะคะฟิกซ์ ขวัญยิงนังมิรินจริงๆ ด้วย”“ฟินิกซ์...” มิรินมองชายคนรักผ่านม่านน้ำตา เพราะหล่อนผิดเอง โง่เองทุกอย่างจึงต้องมาเป็นแบบนี้“ฉันขอโทษ... ฉัน... ขอโทษ...”“คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษผมมิริน”“รักกันเหลือเกินนะ มานี่นังมิริน”ขวัญตากระชากผมของมิรินแรงๆ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”มิรินพ้อด้วยความเจ็บร้าวบนศีรษะ“อย่าทำอะไรมิรินนะขวัญตา อย่าทำ...”ขวัญตาไม่สนใจคำพูดของใครอีกแล้ว หล่อนรีบดันร่างของมิรินให้ขึ้นไปบนรถ และกำลังจะก้าวขึ้นไป แต่ถูกฟินิกซ์กระโจนเข้าชาร์ตเอาไว้เสียก่อน ปืนในมือของขวัญตาถูกปัดจนกระเด็นห่างออกไป“ปล่อยนะ ปล่อยสิ” ขวัญตาดิ้นรนและจะกระโจนไปคว้าปืน แต่ถูกฟินิกซ์ผลักจนล้มไปกับพื้น“มิรินออกมาเร็วครับ”มิรินรีบทำตามที่ชายหนุ่มบอก ก้าวลงจากรถ และกำลังจะวิ่งเข้าไปกอดเขา แต่สองหูของหล่อนก็ได้ยินเสียงกัมปนาทแผดร้องขึ้นเสียงก่อน พร้อมๆ กับความเจ็บลึกที่บริเวณบั้นเอวปัง!“มิริน!”ฟินิกซ์ตกใจแทบช็อก เมื่อพบว่ามิรินถูกขวัญตาที่ไปคว้าปืนกลับมาได้ตอนไหนก็ไม่รู้ยิงเข้าเต็มๆ หนึ่งนัด ร่างของมิรินกำลังจะร่วงลงกับพื้น เขารีบถลาไป
บทที่ 37.ขวัญตาก็กำลังจะทำตาม และคนงานเอาท่อนไม้มาขวางหน้ารถเอาไว้ จนไม่สามารถไปต่อได้“มันเอาไม้มาขวาง ทำไงดีล่ะ” ขวัญตาหันไปขอความคิดเห็นไอ้สามคน“ก็แค่ปล่อยฉันลงไป แล้วฉันจะบอกกับฟินิกซ์ไม่ให้เอาเรื่องพวกคุณ” มิรินที่ใจชื้นขึ้นมาแล้วเพราะมีคนมาช่วยรีบพูดขึ้น แต่กลับถูกขวัญตาตวาดลั่นด้วยความฉุนเฉียว“อย่ามาสะเออะออกความคิดเห็น แกไม่มีทางรอดเงื้อมือฉันได้หรอก”“แต่คุณก็ไม่มีทางรอดเหมือนกัน” มิรินเถียง และพยายามหาหนทางที่จะลงไปจากรถคันนี้ให้ได้“ถ้าฉันไม่รอด แกก็ไม่รอดนังมิริน เฮ้ย... ไอ้ยักษ์พาลูกน้องแกลงไปจัดการพวกมันให้ยับ”“แต่มันหลายคนนะเจ๊ แถมแต่ละคนอาวุธครบมือ”“แล้วพวกแกไม่มีอาวุธเลยหรือไง ลงไป! ฉันบอกให้ลงไปสู้กับพวกมัน”ขวัญตาตวาดดังลั่น ตอนนี้ทั้งแค้นทั้งหวาดกลัวผสมรวมกันไปหมด“ถ้าไม่สู้พวกแกก็ต้องติดคุก แต่ถ้าสู้ บางทีอาจจะชนะ”“ก็ได้เจ๊ เฮ้ย... ลงไปจัดการพวกมันเร็วเข้า” ไอ้คนเป็นลูกพี่เปิดประตูนำลงไปก่อนที่ลูกน้องจะทำตาม จากนั้นก็ควักมีดที่เหน็บเอวเอาไว้ออกมาขู่คนงานของฟินิกซ์“พวกแกอย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันแทงจริงๆ ด้วย”“ปล่อยเมียฉันซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องอะไรพวกแ
บทที่ 36.“คุณขวัญตา...” มิรินไม่เข้าใจการกระทำของขวัญตา “คุณทำอะไรคะ”ขวัญตาหัวเราะ ดวงตาเต็มไปด้วยไฟริษยา “ฉันก็จะทำให้แก ถูกพวกมันจับตัวไปยังไงล่ะ”“คุณขวัญตา!”“ไม่ต้องมาทำหน้าตาตี่นแบบนั้นหรอก ฉันจะบอกให้ก็ได้นะ ว่าไอ้สามคนนั้นน่ะ เป็นคนของฉันเอง”มิรินแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สองหูได้ยิน “คุณ... คุณขวัญตาหมายความว่ายังไงคะ”“นังโง่! ฉันก็แค่จะทำทุกทาง เพื่อให้แกระเห็จออกไปจากชีวิตของฟิกซ์น่ะสิ”“แม้แต่วิธีผิดกฎหมายเหรอคะ”ขวัญตาแค่นยิ้มหยัน กระชากเส้นผมของมิรินเอาไว้แน่น“ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ!” มิรินพยายามดิ้นรนช่วยตัวเอง แต่หนทางรอดมันกลับติดลบเหลือเกิน“แกจะไม่ใช่แค่เจ็บ แต่แกจะต้องตายทั้งเป็นนังมิริน!”มิรินเงยหน้าน้ำตาไหล มองขวัญตาด้วยความเดือดดาล “คุณมันก็แค่ขี้แพ้ชวนตี พอไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็พาลคนอื่น เพราะแบบนี้ไง ฟินิกซ์ถึงไม่รักคุณแล้ว”เพี๊ยะ!!!ใบหน้านวลของมิรินสะบัดไปตามแรงปะทะจากฝ่ามือของขวัญตา“ถ้าแกตายซะคน ฉันก็จะเป็นคนชนะ นังมิริน” ขวัญตาบีบคางของมิรินแรงๆ และบังคับให้คู่กรณีเผชิญหน้า“แต่ก่อนตาย แกจะต้องถูกรุมโทรมเสียก่อน”“คุณไม่มีวันชนะฉันได้หรอก ไม่ว่าคุณจะทำ
บทที่ 35.“ผมหวังว่าคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของมิรินนะขวัญตา” แม้จะยังไม่ได้ค้นหาทั้งไร่ แต่เพราะคำพูดทิ้งท้ายของขวัญตาทำให้ชายหนุ่มคิดเลยเถิดไปไกล“แล้วถ้าใช่ล่ะคะ”“ขวัญตา!”“ถ้าไม่มีมันสักคน คุณก็จะต้องรักขวัญ”“ผมไม่มีวันรักคุณอีกแล้วขวัญตา และถ้าคุณทำร้ายเมียของผม ผมจะลากคุณเข้าตะรางจำเอาไว้ด้วย”“น่ากลัวจังนะคะ”แล้วขวัญตาก็กดตัดสายลงอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ฟินิกซ์ตะโกนอยู่คนเดียวลั่นบ้าน“ขวัญตา! คุณอย่าพึ่งวางสายนะ ขวัญตา!”แต่ไม่ว่าฟินิกซ์จะพยายามต่อสายหาขวัญตาอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับเลย“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณฟิกซ์”ลุงน้อยที่ถูกสาวใช้อย่างมะเฟืองไปตามมา รีบละล่ำละลักถามเจ้านายหนุ่มด้วยความแปลกใจ“มิรินหายไป”“คุณมิรินหายไปเหรอครับ”“ใช่ ลุงน้อยช่วยไประดมคนงานตามหาให้ทั่วไร่ด้วยนะครับ”“ครับคุณฟิกซ์”“ขอบคุณครับ”ฟินิกซ์กล่าวขอบคุณก่อนจะโทรหาตำรวจซึ่งเป็นเพื่อนของตัวเองให้ส่งกำลังมาช่วย เสร็จแล้วก็หันมามองหน้ามะเฟือง“เธอก็ขึ้นไปตามหาบนห้องอีกครั้งนะ”มะเฟืองพยักหน้ารับคำ แต่ก็อดที่จะแสดงความคิดเห็นไม่ได้ “หนูว่าบางที... คุณมิรินอาจจะแค่ไปเดินเล่นนะคะ”“แต่ฉันมีลางส
บทที่ 34.มิรินตะโกนลั่นออกมาอย่างสุดจะทน ก่อนจะวิ่งออกไปนอกบ้าน ขวัญตาหัวเราะตามหลังไปอย่างสะใจ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มะเฟืองวิ่งออกมาดูพอดีมะเฟืองเห็นแผ่นหลังของมิรินไกลๆ ก็แปลกใจ แต่ก็ต้องแปลกใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นขวัญตามาอยู่ในบ้าน“คุณขวัญตา... คุณมาได้ยังไงคะ”“ฉันมาหาฟิกซ์น่ะ แต่เห็นแม่บ้านบอกว่าไม่อยู่”“ใช่ค่ะ คุณฟิกซ์เข้าไร่ไปแล้ว หนูว่าคุณขวัญตากลับไปเถอะค่ะ”ขวัญตาไม่พอใจคำพูดของมะเฟือง แต่ก็จำต้องสะกดกลั้นเอาไว้ “ฉันก็กำลังจะกลับพอดี ไปล่ะ”“เดี๋ยวค่ะ...”ขวัญตาจะเดินไปแต่ก็ต้องชะงักเพราะถูกเรียก“มีอะไรเหรอมะเฟือง”“เมื่อกี้หนูได้ยินเสียงคุณมิรินตะโกนดังลั่น คุณขวัญตาทะเลาะกับคุณ มิรินเหรอคะ”“เปล่านะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรกับมิรินเลย เข้ามาก็เห็นวิ่งสวนออกไปพอดี คงจะรีบเข้าไปหาฟิกซ์ล่ะมั้ง”“คงใช่ค่ะ เพราะคุณฟิกซ์สั่งให้คุณมิรินเข้าไปหาในไร่”หน้าตาของขวัญตาบูดบึงจนปิดไม่มิดทันที ซึ่งมะเฟืองก็มองเห็น จึงรีบกระพือเชื้อไฟต่อ“คุณฟิกซ์เธอเอาอกเอาใจคุณมิรินมากค่ะ สงสัยจะรักจริงๆ”“ไม่จริง! ฟิกซ์ไม่มีทางรักมัน”“คุณขวัญตาพูดว่าอะไรนะคะ”ขวัญตาได้สติจึงรีบกลบเกลื่อน “อ๋
Comments