Lahat ng Kabanata ng ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s: Kabanata 61 - Kabanata 70

บทที่ 62 ช่วยเหลือหญิงสาว“พ่อค้ามนุษย์เหรอคะ แล้วผู้หญิงที่หายตัวไป ใช่กลุ่มเดียวกันกับที่เวลานี้ในเมืองมีหญิงสาวหายไปหลายคนหรือเปล่าคะ อาเหมยก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกัน” ถังลู่เหมยได้ยินก็ถามออกไปอย่างตกใจ เธอไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเธอและพี่ชายก็ตามสืบสองเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน“คิดว่าใช่กลุ่มเดียวกันนะ” ฉินหยางตงตอบกลับมาอย่างจริงจัง“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าสหายของพี่ทั้งสองคนที่มาด้วยก็เป็นตำรวจเหมือนกันสินะ” หญิงสาวเริ่มมองออกแล้วว่าอีกสองคนคงเป็นตำรวจเหมือนกัน แต่ก็ถามเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วล่ะ ทั้งสองเป็นลูกน้องคนสนิทของพี่เอง พวกเราทำเรื่องมาสืบคดีที่นี่ด้วยกันน่ะ อาเหมยรู้แล้วว่าพี่เป็นใคร น้องโกรธพี่หรือเปล่า ที่พี่ปิดบังตัวตนจนถึงวันนี้” เขาตอบอย่างไม่ปิดบังและถามเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย เพราะกลัวเธอโกรธที่เขาปิดบัง“ไม่เลยค่ะ อาเหมยไม่โกรธเลย และอาเหมยยินดีที่จะช่วยและสนับสนุนสามีทุกอย่าง” ถังลู่เหมยโอบกอดเอวของเขาไว้และตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม“พี่ขอสั่งห้ามไม่ให้ภรรยาทำอะไรเสี่ยงเด็ดขาด เข้าใจไหมครับ” แต่กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มรีบสั่งห้ามท

บทที่ 64 แกล้งมาทำดีด้วย“คุณพี่ก็พูดเกินไปค่ะ ซินหงยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ยังไงก็ฝากคุณพี่เอ็นดูซินหงด้วยนะคะ” ผู้เป็นแม่เมื่อถูกเยินยอก็จีบปากจีบคอตอบ ในใจนั้นพองโตขึ้นมา หวังว่าเมื่อลูกสาวได้เป็นสะใภ้แล้ว ตนเองจะได้เกี่ยวดองกับตระกูลฉินผู้ทรงอิทธิพลและมั่งคั่งของปักกิ่งไปด้วยทั้งหมดยังนั่งคุยกันอย่างออกรสและเยินยอกันไปมาด้วยความฝัน ป๋ายหลานนั้นฝันจะได้ลูกสะใภ้ที่เพียบพร้อม หลี่ซินหงฝันจะภรรยาของชายที่หมายปอง ส่วนแม่ของเธอก็ฝันอยากเกี่ยวดองกับตระกูลใหญ่ โดยไม่คาดคิดเลยว่าความฝันของทั้งสามคนพังไม่เป็นท่าไปแล้ว เพราะฉินหยางตงได้แต่งงานกับหญิงสาวที่เขารักแล้วส่วนทางด้านลั่วเค่อหยาง เมื่อลูกน้องส่งข่าวว่างานที่ให้ทำถูกบุคคลปริศนาทำลายไม่มีชิ้นดี ทำให้เขาโมโหมากจนระบายโทสะด้วยการขว้างปาข้าวของแตกกระจาย“ไปสืบมาให้ได้ว่าพวกมันเป็นใคร ถึงได้กล้าสอดเท้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้” ลั่วเค่อหยางออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราด“ครับเจ้านาย” อาซินค้อมหัวตอบรับทันที เขารู้ดีว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้เจ้านายสูญเสียผลประโยชน์ไปเท่าไรเมื่อลูกน้องออกไปแล้ว ลั่วเค่อหยางจึงหันมาพูดกับถังถงซินที่อยู่นอนบนเตียงด

บทที่ 66 จับผู้ต้องสงสัยหลังจากจบมื้อเย็น ชายหนุ่มของบ้านรองถังและลูกน้องคนสนิทของฉินหยางตงก็ทำหน้าที่ต่อ นั่นคือการออกลาดตระเวนตรวจตรารอบ ๆ หมู่บ้าน โดยมีคนจากบ้านใหญ่อย่างถังเจี้ยนเฉียวไปด้วย ทุกคนต่างตรวจตราอย่างแข็งขัน เพราะไม่ต้องการให้เกิดเรื่องร้ายกับหมู่บ้านของตนเองอีก“อาเหมยคิดว่าหมู่บ้านของเราจะมีฆาตกรจริงเหรอ” เหนียงฟางถามขึ้นมาขณะที่อยู่ห้องนั่งเล่น“ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ เรื่องนี้ไม่มีใครตอบได้ ต้องดูว่ามีคนน่าสงสัยในหมู่บ้านเราหรือเปล่า พี่ใหญ่กับพี่หยางตงลาดตระเวนมาหลายวันแล้ว ก็ไม่เห็นวี่แววของคนน่าสงสัยเลย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นหมู่บ้านอื่นก็ได้”ถังลู่เหมยตอบออกไปอย่างกลาง ๆ เธอไม่อยากบอกแม่หรือคนในบ้านว่ามียุวปัญญาชนที่น่าสงสัยว่าจะเป็นฆาตกร เนื่องจากกลัวว่าทุกคนจะตกใจและกังวลใจ“พ่อคิดว่าไม่น่าจะใช่คนในหมู่บ้านเราหรอก แม้ว่าศพของหญิงสาวทั้งสี่รายจะมาติดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน แต่อย่าลืมว่าที่ตรงนั้นมันอยู่ระหว่างสองหมู่บ้าน เลยทำให้ไม่รู้ว่าฆาตกรนั้นอยู่ในหมู่บ้านไหน” ถังเยี่ยวิเคราะห์ดูแล้วพูดออกมา เขาคิดว่าฆาตกรไม่น่าใช่คนในหมู่บ้านนี้แน่“พ่ออย่าชะล่าใจไปค่ะ เรื่องนี้

บทที่ 68 ตามที่คิด“จะไปไหนเหรออาเหมย” ชาวบ้านเมื่อเห็นว่าถังลู่เหมยเดินมาจึงร้องถามด้วยรอยยิ้ม“อาเหมยจะไปเก็บของป่าค่ะ” หญิงสาวยังคงตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้างคล้ายคนบ้าเหมือนเดิม“หน็อย บ้านมีเงินมากมายขนาดนั้น ยังมาแย่งอาหารคนอื่นอีกเหรอ เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ” จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เสียงที่พูดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจียยิ่นสะใภ้สามบ้านถังนั่นเองถังลู่เหมยได้ยินกลอกตามองบนเล็กน้อย เนื่องจากเธอเองไม่ต้องการมีปัญหากับใครเวลานี้ นั่นเพราะรีบอย่างไรล่ะ อีกทั้งไม่คิดว่าจะมาเจออาสะใภ้สามอยู่ที่นี่ด้วย แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งลอยหน้าลอยตาตอบโต้กลับไปตามประสาหญิงบ้า“ทำไมล่ะ ถึงบ้านอาเหมยมีเงินเยอะแยะ แต่ป่านี้ก็ไม่ใช่ของอาสะใภ้สามสักหน่อย อาเหมยมีสิทธิ์”“นังลู่เหมย!! นี่แกยอกย้อนฉันเหรอ นังเด็กบ้า” เจียยิ่นที่ถูกโต้กลับจากหญิงบ้าก็ชี้หน้าเธอ พร้อมกับพูดตวาดออกไปอย่างโมโห“อาเหมยไม่ได้ยอกย้อนนะ แต่อาเหมยพูดความจริงนี่ อาสะใภ้สามมาว่าอาเหมยไม่ได้นะ อาเหมยไม่ผิด” ถังลู่เหมยโต้กลับด้วยใบหน้าไร้เดียงสา พูดจบเธอเดินจากไปทันทีส่วนเจียยิ่นที่ถูกโต้กลับอีกครั้ง ก็ได้แต่กร

บทที่ 70 ปิดคดีค้ามนุษย์“นี่แกหายบ้าแล้วเหรอนังลู่เหมย” ถังถงซินได้ยินอย่างก็ตกใจสุดขีด ไม่คิดว่าหญิงบ้าประจำหมู่บ้านจะกลายเป็นคนปกติแล้ว“ฉันบ้าหรือไม่บ้า มันสำคัญด้วยเหรอ” เธอตอบกลับไปเพียงเท่านี้ ก่อนจะหันมาหาหญิงสาวที่ถูกหลอกมาจากหมู่บ้าน พร้อมกับพูดว่า “พวกเธอรีบไปหาที่ซ่อนก่อนเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเอง”ที่ถังลู่เหมยบอกไปอย่างนั้น ไม่ใช่เธอย่ามใจคิดว่าตนเองเพียงคนเดียวจะมีความสามารถที่จะจัดการคนตรงหน้านี้ได้ทั้งหมด แต่เพราะเมื่อครู่นี้เธอส่งสัญญาณออกไปเรียกทุกคนมาแล้ว คาดว่าตอนนี้พี่ชายและสามี รวมถึงคนอื่น ๆ น่าจะรออยู่แล้วเหมือนกัน“พูดแบบนี้คิดว่าจัดการพวกฉันได้สินะ”ลั่วเค่อหยางได้เห็นอย่างนั้นก็รีบปรับเปลี่ยนท่าที คล้ายกับระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม เวลานี้เขาเริ่มรับรู้แล้วว่าหายนะกำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง นั่นก็เพราะว่าเห็นถังลู่เหมยเหมือนจะส่งสัญญาณบางอย่างออกไป แต่ตอนนี้ถึงจะรู้ตัวก็คงจะไม่ทันแล้วสินะปัง!!เสียงถีบประตูดังขึ้น พร้อมกับมีร่างของใครหลายคนเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคู่ปรับเก่าของลั่วเค่อหยาง และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากฉินหยางตง ผู้กองฉินจากปักกิ่งนั่น