บททั้งหมดของ ทุ่มเท​รัก​ เยียวยาใจ​เธอ: บทที่ 21 - บทที่ 30

40

บทที่ 21

แต่ฉันจำได้แม่นยำว่าไม่เคยรู้จักคนตระกูลซูมาก่อน“นี่คุณเจียงใช่ไหม? สวยจริง ๆ หุ่นก็ดี แถมดูมีชีวิตชีวา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเก่งขนาดนี้” คุณหญิงซูกล่าวทักทายฉัน แค่เปิดปากมาก็ชมไม่หยุดฉันอึ้งไปเล็กน้อย รู้สึกราวกับได้รับเกียรติอย่างมากจากคำชมเหล่านี้แม้จะโดนชมว่าเป็นคนสวยมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วมักจะชื่นชมตัวเองในกระจกอยู่บ่อยครั้งก็เถอะแต่ระดับตระกูลซูเนี่ยนะ มีสาวงามแบบไหนที่พวกเขาไม่เคยพบเจออีกบ้าง เห็นฉันแล้วยังชมว่าสวยได้อีกเหรอ?คงเป็นเพราะคุณหญิงผู้เฒ่าได้รับการอบรมมาอย่างดี และมีความฉลาดทางอารมณ์สูงเมื่อเห็นฉันยืนอึ้งไป พ่อบ้านโจวผู้ดูแลบ้านจึงกระซิบเตือน “นี่คุณหญิงผู้เฒ่าครับ”ฉันรีบยิ้มแล้วพยักหน้า “สวัสดีค่ะคุณหญิงซู ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ”“อืม เสียงก็เพราะด้วย”“…” ฉันหน้าแดงไปหมด ได้แต่พูดตอบไปตามมารยาท “จริง ๆ ไม่ควรเรียกว่าคุณหญิงผู้เฒ่าเลยค่ะ เพราะหน้าตาคุณหญิงยังดูอ่อนวัยมาก”คุณหญิงผู้เฒ่าหัวเราะแล้วพูด “เดือนหน้าฉันก็หกสิบแล้วนะ!”คุณหญิงผู้เฒ่าซูเป็นคนใจดี ไม่มีท่าทีถือตัว ต่างจากภาพลักษณ์ของคุณนายตระกูลใหญ่ในความคิดของฉันโดยสิ้นเชิงหลังจากทักทายกันส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 22

คุณหญิงผู้เฒ่าซูขมวดคิ้ว “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเธอ เธอเป็นผู้ถูกกระทำต่างหาก”“ขอบคุณที่ปลอบใจค่ะ”“แบบนี้แปลว่าว่า เธอยังรักคุณชายตระกูลกู้อยู่เหรอ?”ฉันกำลังวัดตัวให้คุณหนูท่านหนึ่ง จึงตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ค่ะ ตอนนี้ฉันอยากโฟกัสกับงานเท่านั้น”พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงโปร่งก็ก้าวลงมาจากบันไดอีกฝั่งในตอนแรกฉันไม่ได้สังเกตจนกระทั่งมีคนทักขึ้น “เซิ่งหลินลงมาแล้ว พวกเรารบกวนงานของเธอหรือเปล่า?”“ไม่เลยครับ ผมทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เสียงทุ้มใสสะอาดของชายหนุ่มดังขึ้น ทำให้ฉันนึกถึงคุณชายรองซูท่านนั้นที่เคยยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ฉันในวันแต่งงานเสียงของเขายังคงนุ่มนวลใสกระจ่าง สามารถทะลุผ่านความวุ่นวายรอบข้างได้ฉันที่ได้ยินเสียงจึงหันไปมอง และเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาคือใคร หน้าตาแบบไหนนี่ต่างจากความรู้สึกที่เห็นเขาเพียงแวบเดียวในงานแต่ง คุณชายรองซูคนนี้ยังหนุ่มแน่นและหล่อเหลามาก ไม่เข้ากับคำว่า "ท่าน" เลยสักนิดเขามีคิ้วดั่งคมกระบี่ ดวงตาคมเข้ม รูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางสง่างามราวกับทหาร บุคลิกโดยรวมช่างสูงศักดิ์น่านับถือ เป็นคนที่เพียงแค่มองก็รู้สึกว่าห่างไกลเกินเอื้อมทว่าคำพูด ท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 23

“อืม” ฉันเอียงศีรษะ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาเสี่ยวอิงเถาผู้ยืนอยู่ข้างกายจ้องมองฉันด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็นและมีเลศนัย ราวกับว่าสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ“คุณซู กรุณายกแขนขึ้นกางออกตรง ๆ ด้วยค่ะ” ฉันเปลี่ยนไปใช้สายวัดที่ยาวขึ้น แล้วบอกเขาอย่างสุภาพซูเซิ่งหลินยืนนิ่งตรงหน้าส่วนฉันเดินอ้อมไปด้านหลัง เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่าเขาสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรโชคดีที่ฉันสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร หากเตี้ยกว่านี้คงต้องเหยียบเก้าอี้วัดตัวให้เขาเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนกระทั่งฉันวัดช่วงบนสำเร็จลุล่วงเมื่อถึงคราววัดรอบเอวและสะโพก ก็พลันเกิดความกังวลขึ้นฉันลังเลใจว่าจะวัดจากด้านหน้าหรือด้านหลังดี น่าประหลาดใจที่บรรดาหญิงสาวซึ่งส่งเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วก่อนหน้านี้พลันเงียบสงัดพลางจ้องมองมาทางฉันเป็นจุดเดียวฉันรู้สึกประหม่าขึ้นมา หูร้อนผ่าวอย่างไม่มีสาเหตุและตอนนี้ก็อาจจะแดงก่ำ“คุณเจียงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ซูเซิ่งหลินสังเกตเห็นความลังเลและเอ่ยถามอย่างสงสัย“อ๋อ เปล่าค่ะ... แค่คุณสูงเกินไปหน่อย” ฉันพูดออกไปโดยไม่ทันยั้งคิด“แล้วผมต้องย่อตัวลงไหมครับ?”“ไม่ ๆ ไม่ต้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 24

ฉันสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อช่วงล่างที่แข็งแกร่งและทรงพลัง แม้มีเนื้อผ้ารองกั้นฉันประเมินคร่าว ๆ ว่าอัตราส่วนเอวต่อสะโพกของเขาอยู่ที่ประมาณศูนย์จุดแปด ไหล่กว้างสะโพกแคบ รูปร่างสูงโปร่งสมบูรณ์แบบเทียบได้กับนายแบบมืออาชีพ"เสี่ยวอิงเถา จดไว้หมดแล้วใช่ไหม?" ฉันหันไปถามผู้ช่วย พลางคลายบรรยากาศอึดอัด"ค่ะ จดไว้หมดแล้ว"ฉันพยักหน้าก่อนเก็บเครื่องมือ แล้วสอบถามความต้องการของลูกค้าแต่ละคนบางคนชอบแบบเข้ารูป บางคนชอบแบบหลวม แม้จะเป็นชุดกระโปรงเหมือนกัน แต่ผู้สูงวัยชอบกระโปรงยาว คนหนุ่มสาวชอบกระโปรงสั้นฉันบันทึกรายละเอียดทั้งหมดในแท็บเล็ต เพื่อออกแบบชุดให้ตรงตามความต้องการเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็ใกล้เที่ยงวันแล้วคุณนายซูชวนเราทานอาหารกลางวันด้วยกัน แต่ฉันเกรงใจจึงรีบปฏิเสธโดยอ้างว่ายังมีงานอีกมากซูเซิ่งหลินยกข้อมือดูนาฬิกา คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย "ผมมีนัดทานอาหารกับอาจารย์เฉินตอนเที่ยง ต้องไปแล้วเหมือนกัน""อืม" คุณนายซูลุกขึ้นพยักหน้า "งั้นเธอไปส่งคุณเจียงด้วยเลยก็ดี""คุณนายไม่ต้องค่ะ ฉัน…""คุณเจียง เชิญครับ" ฉันยังไม่ทันปฏิเสธ ซูเซิ่งหลินก็ผายมือเล็กน้อยเขามีมารยาทดี สุภาพอ่อนโ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 25

เขายืนนิ่งแล้วหันมามองฉัน ก่อนเตือนด้วยอารมณ์หยอกล้อฉันเงยหน้ามองเขาอย่างเกร็ง ๆ "คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติ ลูกค้าคือพระเจ้า...""แต่ผมยังอยากเป็นคนธรรมดามากกว่า"คำตอบขี้เล่นของเขาทำให้ฉันกลั้นยิ้มไม่อยู่และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก "ค่ะ ฉันจำไว้แล้ว""วันนี้รบกวนคุณเจียงมากเลยครับ ลาก่อน" ซูเซิ่งหลินมีมารยาทดีเยี่ยม ทุกคำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกสบายใจหลังจากกล่าวลาฉัน เขายังกำชับคนขับรถ "ลุงจาง ขับรถระวัง ๆ ส่งคุณเจียงกับผู้ช่วยกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วย""ครับ คุณชายรอง"ซูเซิ่งหลินยิ้มพยักหน้าให้ฉันก่อนหันหลังเดินขึ้นรถอาวดี้เอแปดที่จอดรออยู่ฉันรู้สึกประหลาดใจเขาทั้งมีอำนาจและฐานะที่สูงส่ง แต่กลับใช้รถอาวดี้เอแปดเป็นพาหนะเนี่ยนะ?ไม่แปลกใจที่คนภายนอกร่ำลือกันว่าตระกูลซูนั้นถ่อมตน คมในฝักและลึกลับรถของซูเซิ่งหลินนำหน้าเราอยู่ตลอดทางลงเขาเสี่ยวอิงเถามองออกไปนอกหน้าต่างรถพลางชื่นชมทิวทัศน์ของเขาอวี้ซานส่วนฉันนั้นใจสับสนวุ่นวาย สายตาคอยแต่จะจับจ้องรถคันหน้า มือขวากำแน่นโดยไม่รู้ตัวภาพความรู้สึกตอนสัมผัสตัวเขาวูบเข้ามา ฉันรู้สึกว่าตัวเองนั้นแสนจะลามก ฉันคิดเรื่องแบบนั้นได้ย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 26

อะไรนะ?ฉันชะงักไปครู่หนึ่งแล้วแค่นหัวเราะออกมา “เจียงอี๋ ในที่สุดเธอก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ”หลายปีมานี้เธอแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา อ่อนแอ และน่าสงสารมาโดยตลอดแม้กระทั่งในทุกครั้งที่ฉันถูกด่า ถูกตี หรือถูกลงโทษอย่างหนัก เธอก็ยังช่วยพูดขอร้องให้ฉัน ทำทีเป็นคนใจอ่อนและมีเมตตาในที่สุดวันนี้ก็ไม่ต้องเสแสร้งอีกต่อไปแล้ว“ฉันแสดงธาตุแท้อะไรออกมา? ฉันก็เป็นแบบนี้มาตลอดแต่เธอไม่ชอบฉันเอง” เจียงอี๋ยังคงพูดจาเหลวไหล“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากต่อปากต่อคำกับเธอ ฝากบอกกู้เยี่ยนชิงด้วยว่าตอนบ่ายสองอย่าผิดนัด กว่าจะนัดได้ก็ยากมาก ถ้าเขาไม่ไปคงต้องรออีกครึ่งเดือน”ฉันพูดจบก็เตรียมจะวางสาย แต่เจียงอี๋เรียกฉันไว้“เจียงหว่าน ช่วงนี้กู้เยี่ยนชิงได้ไปหาเธอรึเปล่า?”น้ำเสียงของเธอเข้มขึ้นทันที เรียกชื่อเต็มของ “ชู้รัก” อย่างไม่ไว้หน้า ท่าทางเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองฉันชะงักไปครู่หนึ่ง สัมผัสได้ว่าพวกเขาทะเลาะกันและรู้สึกสะใจเล็กน้อย “เขามาหาฉัน แล้วจะทำไม?”“เจียงหว่าน เธอไม่อายบ้างเลยเหรอ! เขาเป็นสามีของฉัน พวกเธอแอบคบกันลับหลังฉัน นี่มันต่างอะไรกับเป็นชู้ล่ะ?” เจียงอี๋โกรธขึ้นมาทันที และเริ่มด่าทอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 27

ถังซิ่วเอ๋อปล่อยความอัดอั้นตันใจมาเต็มที่ และฉันก็ซวยซ้ำซ้อนรับกระสุนเข้าพอดี จึงโดนเธอด่ากราดไม่ยั้ง“ฉันโทรหากู้เยี่ยนชิงแต่เธอเสนอหน้ารับสายเอง มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?” ฉันเองก็อัดอั้นตันใจเหมือนกัน เมื่อโดนด่าจึงสวนกลับทันที “คุณก็อย่าเอาแต่โมโหโทโสทั้งวัน ระวังเวรกรรมจะตกกับลูกสาวคุณเป็นสองเท่า”“เจียงหว่าน! แกมันใจร้ายเกินไปแล้ว!” ถังซิ่วเอ๋อคำรามด้วยความโกรธจนคอแทบแตก “เก่งจริงตลอดชีวิตนี้ก็อย่าป่วยล่ะ!”ฉันหมดอารมณ์จะทะเลาะกับเธอแล้ว จึงพูดเสียงเบา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นี่นา ใครจะรู้ว่าโทรศัพท์ของ กู้เยี่ยนชิงจะอยู่ที่ห้องคนไข้…”“เยี่ยนชิงเป็นน้องเขยแกแล้ว ไม่รู้จักหลีกเลี่ยงบ้างรึไง? มีอะไรทำไมไม่ฝากคนอื่นบอก? ฉันว่าแกยังไม่ยอมแพ้ อยากจะมาอ่อยเยี่ยนชิงอีกแต่โชคดีที่เจียงอี๋มาเจอทัน!”อะไรนะ? ฉันหวังดีอธิบาย แต่กลับโดนเธอใส่ร้ายโจมตีแบบนี้?ความโกรธที่เพิ่งกดไว้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ทำฉันโกรธจนแทบหน้ามืดเมื่อตั้งสติได้ฉันจึงกัดฟันสั่ง “งั้นช่วยไปบอกลูกเขยคุณ น้องเขยฉันด้วย ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าสำนักงานเขต ถึงเวลานัดหมายแล้ว ให้เขารีบมาทำเรื่องหย่าซะ! ไม่งั้นลูกสาวคุณจะเป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 28

แน่นอนว่าสถานการณ์ของฉันยากลำบาก และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วไม่ว่าตระกูลเจียงจะรวยแค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวกับฉันฉันเป็นแค่คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจียงแต่ในนามเท่านั้นแม้ว่าแบรนด์เสื้อผ้าที่ฉันก่อตั้งเองจะไปได้สวย แต่ก็ช่วงไม่กี่ปี เงินที่หามาได้ยังหมดไปกับการตกแต่งบ้านหลังนั้น“รอคุณกลับมาค่อยคุยกันเถอะ ยังไงฉันก็ไม่เอาเปรียบคุณหรอก จะได้ไม่ต้องให้เจียงอี๋รู้แล้วมาทะเลาะกับฉันอีก”พูดจบ ฉันก็วางสายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบขณะที่อารมณ์เสียอย่างถึงที่สุด ฉันยังนั่งอยู่ในรถพลางหันไปมองประตูสำนักงานเขต ด้วยความไม่พอใจอย่างมากเสียงโทรศัพท์ดัง “ติ๊ง” เมื่อฉันหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่ากู้เยี่ยนชิงส่งข้อความมา[เสี่ยวหว่าน คุณวางใจได้ เรื่องพวกนี้เจียงอี๋จะไม่รู้ คุณทุ่มเทเพื่อผมมามาก ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมชดเชยให้คุณ]พอเห็นข้อความนั้น จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกแสบร้อนที่จมูก ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาอีกครั้งผู้ชายชาติหมาคนนี้สุดท้ายก็ยังมีสำนึกอยู่บ้างแต่ฉันกลับเกลียดจิตสำนึกที่มาช้าของเขาถ้าเขาเลวมาตลอด ฉันก็ยังยืนหยัดได้ สู้กับเขาให้ถึงที่สุด ตัดขาดกันไปเลยแต่เขาเลวได้ครึ่งทางจู่ ๆ ก็กลับใจมาทำดี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 29

คนเลวก็ต้องเจอกับคนเลวด้วยกันเองจริง ๆ“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เจียงอี๋น่ะมันพวกนังคนโกหกจอมเสแสร้ง ถนัดที่สุดก็เรื่องจับผู้ชาย พอหายโกรธก็ทำตัวน่าสงสารหน่อย พูดจาหวาน ๆ ไม่กี่คำผู้ชายก็ใจอ่อนแล้ว” หลี่อวิ๋นเวยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูผู้หญิงประเภทนี้ พูดอย่างคล่องแคล่ว“ช่างมันเถอะ อยากให้พวกเขาสองคนผูกติดกันไปเลย” นี่เป็นคำพูดจากใจจริงของฉันหลี่อวิ๋นเวยมองฉันแวบหนึ่ง สีหน้าดูเคลือบแคลง “เธอแน่ใจนะว่าถ้ากู้เยี่ยนชิงกลับมาขอคืนดี เธอจะหักห้ามใจได้จริง ๆ?”ฉันทำหน้าจริงจังพร้อมพูดอย่างหนักแน่น “แน่นอน! เขาเหยียดหยามฉันขนาดนั้น ถ้าฉันกลับไปคืนดีกับเขา ต้องโดนชาวบ้านหัวเราะเยาะแน่ ๆ คนอื่นเขาจะคิดว่าฉันอยากได้ผู้ชายจนบ้าไปแล้ว”“อีกอย่าง… เธอพูดเองนี่ว่าเขาอาจจะไม่ได้กลับใจเพราะรักฉัน แค่เทียบกับเจียงอี๋แล้วเห็นว่าฉันคุ้มกว่า แถมยังช่วยชีวิตเขาในยามคับขันได้”ฉันพอจะมองออกแล้วว่าคนอย่างกู้เยี่ยนชิงไม่รักใคร นอกจากรักตัวเองอยู่กับผู้ชายแบบนี้ก็เหมือนขุดหลุมให้ตัวเอง เหมือนพร้อมที่จะบินเข้าไปกองไฟ มอดไหม้เป็นจุลได้ทุกเมื่อหลี่อวิ๋นเวยวางใจ “เธอยืนหยัดได้ก็ดีแล้ว ถ้าเงินหย่าไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 30

“ฉันตัวคนเดียว มีที่ไหนจะอยู่ไม่ได้? ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันอยู่บ้านหลังนั้นแล้วอึดอัด” ฉันจงใจพูดให้ดูแย่ แสดงความรังเกียจบ้านหลังนั้นออกมาแต่จริง ๆ แล้ว ฉันชอบมันมาก เพราะทุกอย่างในบ้านหลังนั้นฉันเลือกและตกแต่งอย่างตั้งใจ ทว่าตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ากำไลหยกที่แม่ทิ้งไว้ให้แล้ว“ได้ คุณต้องการเท่าไร?”“สี่สิบล้าน”จริง ๆ แล้วค่าตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์ต้องคิดค่าเสื่อมด้วย แต่ฉันไม่อยากจุกจิกขนาดนั้น เขาทำไม่ดีกับฉันก่อน ทำไมฉันจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของเขาด้วย“ผมให้คุณห้าสิบล้าน พรุ่งนี้บ่ายเราไปทำเรื่องโอนกัน แต่คุณไม่ต้องรีบย้ายออกนะ อยากอยู่ถึงเมื่อไหร่ก็ได้” กู้เยี่ยนชิงใจกว้างมากเกินความคาดหมายของฉัน“ฉันเอาแค่สี่สิบล้าน มากกว่านั้นสักบาทก็ไม่เอา ได้แล้วฉันจะรีบย้ายออกทันที”ถ้าเอาเงินเขามามากกว่านั้น ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าวันหลังเขาป่วยขึ้นมาอีกแล้วให้ฉันถ่ายเลือดให้ เงินสิบล้านที่ให้มาเกินจะกลายเป็นเงินซื้อชีวิตฉันไปโดยปริยายเมื่อกู้เยี่ยนชิงเห็นฉันเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ก็รู้สึกเจ็บปวดใจ “เสี่ยวหว่าน… พวกเราเคยรักกันจริง ๆ ทำไมคุณต้องมาแบ่งแยกกับผม…”“เจอกั
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status