บททั้งหมดของ ทุ่มเท​รัก​ เยียวยาใจ​เธอ: บทที่ 11 - บทที่ 20

40

บทที่ 11

จะตายแล้วเหรอ?ฤทธิ์ยานอนหลับทำให้ฉันเบลอไปหมด ฉันเปิดประตูมองกู้เยี่ยนชิงแล้วถามอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นว่า “เจียงอี๋จะตายแล้วเหรอ?”คำพูดนี้ทำให้เขาโกรธมาก“เจียงหว่าน! คุณอย่าร้ายกาจให้มันมากนัก!” กู้เยี่ยนชิงสีหน้าบึ้งตึงซึ่งเป็นท่าทางที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนฉันขมวดคิ้วแน่น ไม่อยากจะทะเลาะกับเขาเลยผลักเขาออกไปแล้วเตรียมจะปิดประตูแต่กู้เยี่ยนชิงไวกว่าฉัน เขาใช้เท้าถีบประตูเข้ามาอย่างแรงและจับแขนฉันไว้“กู้เยี่ยนชิง นี่คุณทำอะไร! บุกรุกเข้ามาในบ้านคนอื่นแบบนี้ ฉันจะแจ้งตำรวจ!” ฉันโกรธมากพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง และตบหน้าเขาไปอีกหนึ่งฉาดด้วยความโมโหสุดขีดกู้เยี่ยนชิงไม่สนใจ เขาดึงฉันออกจากบ้านแล้วยัดฉันเข้าไปในรถของเขา“กู้เยี่ยนชิง คุณเป็นบ้าอะไร! ปล่อยฉันลงจากรถนะ!”“เจียงอี๋ป่วยหนักใกล้ตายแล้ว คุณต้องไปโรงพยาบาลกับผม!” กู้เยี่ยนชิงเหยียบคันเร่ง รถพุ่งทะยานไปในความมืดมิดยามราตรีฉันไม่เข้าใจ “เธอใกล้ตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย? ฉันไม่ใช่หมอสักหน่อย”กู้เยี่ยนชิงไม่พูดอะไร ใบหน้าด้านข้างเคร่งขรึม สีหน้าตึงเครียด เขาเอาแต่เร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆฉันรู้สึกก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 12

ฉันมองไปที่กู้เยี่ยนชิง รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไปแล้วจึงพูดเย้ยหยันว่า “คุณเพิ่งจะรู้ตอนนี้เหรอ? ทั้งเจียงอี๋และเจียงฮ่าวเป็นน้องพ่อเดียวกันกับฉัน”กู้เยี่ยนชิงตกใจยิ่งกว่าเดิม “พ่อเดียวกัน? แต่พวกเขาอายุน้อยกว่าคุณแค่สองปี…”“ใช่แล้ว พ่อใจร้ายของฉันนอกใจแม่ตอนฉันอายุได้แค่หนึ่งขวบหรืออาจจะก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ เขาพยายามทำทุกวิถีทางบีบให้แม่หย่า เพื่อที่จะได้พานางจิ้งจอกนั่นกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน”สายตาตกตะลึงของกู้เยี่ยนชิงมองสลับไปมาระหว่างเจียงไห่หยางกับถังซิ่วเอ๋อ“เรื่องนี้...คุณไม่เคยบอกผมเลย” เขาพึมพำเสียงเบา สีหน้าสับสนและยากจะอ่านออก ราวกับว่าเขาตระหนักได้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป“เรื่องน่าอายในครอบครัวไม่ควรป่าวประกาศ แล้วฉันจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม? คุณเองก็อวดฉลาดมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่เคยรู้เลยล่ะ?”กรุ๊ปเลือดหายากขนาดนี้ ฉันกับเจียงอี๋ดันมีเลือดกรุ๊ปเดียวกัน เป็นใครก็ต้องสงสัยใช่ไหมล่ะ?เมื่อเห็นกู้เยี่ยนชิงเงียบไม่พูดอะไร ฉันจึงถามต่อว่า “ตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงได้รังเกียจเจียงอี๋ขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ยอมช่วยชีวิตเธอ”ฉันคิดว่ากู้เยี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 13

พยาบาลขมวดคิ้วถามฉันว่า “คุณกินยานอนหลับไปเหรอคะ?”“ค่ะ ก่อนนอนกินไปสองเม็ด จนถึงตอนนี้…” ฉันเหลือบมองนาฬิกาตรงประตูห้องฉุกเฉิน “น่าจะราว ๆ สี่ชั่วโมงแล้วค่ะ”พยาบาลส่ายหน้าทันที “ไม่ได้นะคะ แบบนี้ตรวจเลือดไม่ผ่านค่ะ”ฉันแบมือทั้งสองข้างอย่างช่วยไม่ได้พลางมองสายตาตื่นตระหนกของพวกเขาแล้วพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า “ขอโทษด้วยนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วย แต่ฉันช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ”เจียงไห่หยางโกรธจัด ตะคอกใส่ฉันว่า “เจียงหว่าน เธอหลอกพวกเรา! รู้ทั้งรู้ว่าบริจาคเลือดไม่ได้ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก?”“มาโทษฉันแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ จู่ ๆ กู้เยี่ยนชิงลากฉันออกมาจากบ้านเอง ฉันไม่รู้อะไรด้วยเลย” ฉันกะพริบตาปริบ ๆ อย่างใสซื่อ มองสบตาพวกเขาไปทีละคน“เจียงหว่าน คุณ…” กู้เยี่ยนชิงจ้องฉันเขม็ง เขากัดฟันกรอดอย่างขุ่นเคืองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางจนตรอกของพวกเขา อารมณ์ฉันก็ดีขึ้นมาทันทีทันใดนั้นประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก พยาบาลวิ่งหน้าตาตื่นออกมาถามว่า “เลือดสำรองไม่พอแล้ว หาคนบริจาคเลือดได้หรือยัง เร็วเข้า!”ถังซิ่วเอ๋อได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนเข่าอ่อน รีบคว้าตัวเจียงไห่หยางแล้วผลักไป “รีบไปบริจาคเลือ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 14

“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มาเลยจ่ายเงินไม่ได้”สาวน้อยตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ยังไม่ได้เปิดระบบเหมือนกัน ส่วนเรื่องค่ารถ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วค่อยว่ากันก็ได้ค่ะ”“...” ฉันอึ้งไปกว่าเดิม พูดอะไรไม่ออกฉันบอกที่อยู่บ้านไป สาวน้อยก็กดจุดหมายปลายทางลงในระบบนำทางของรถแล้วค่อย ๆ หมุนพวงมาลัยออกจากที่จอดขับรถออกไปได้ไม่ไกล โทรศัพท์ของสาวน้อยก็ดังขึ้นเธอใส่หูฟังบลูทูธแล้วกดรับ “ฮัลโหล พี่... ฉันมีธุระด่วนเลยต้องออกมาก่อน พี่ให้คนขับรถไปรับแทนนะ ... แหม มันกะทันหันจริง ๆ ฉันยังไม่มีเวลาบอก เดี๋ยวค่อยอธิบายให้ฟังทีหลังนะ ... รับรองว่าพี่ต้องชมว่าฉันตัดสินใจถูกต้อง! แค่นี้นะคะ ฉันขับรถอยู่”เมื่อได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ ฉันก็เผลอมองไปที่กระจกมองหลังโดยอัตโนมัติฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าตาฝาดไปหรือเปล่า บริเวณริมถนนตรงหน้าโรงพยาบาล ปรากฏร่างสูงโปร่งสง่างามท่ามกลางแสงตะวันยามเช้า ความเย็นชาและอบอุ่นหลอมรวมอยู่รอบกายเขาอย่างลงตัวเขายืนอยู่ตรงนั้น ราวกับจะกลืนกินความวุ่นวายรอบข้างให้เงียบสงบลงในพริบตา ช่างเป็นบุคลิกที่โดดเด่น งดงามราวกับกล้วยไม้หยกชายผู้นั้นยกมือข
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 15

เรื่องวุ่นวายในงานแต่งงาน ทำให้ฉันกลายเป็นข่าวโด่งดังตื่นเช้ามาฉันก็ต้องตกใจกับสายเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคยจำนวนมาก จนโทรศัพท์แทบจะระเบิดฉันรู้สึกถึงลางร้ายและรู้ว่าปัญหาใหญ่กำลังจะตามมาไม่กี่วันต่อมาข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบริษัทของฉันก็ถูกแฉว่อนเน็ต ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเช้าวันหนึ่งขณะกำลังจะลงจากรถที่บริษัท ฉันก็ถูกฝูงนักข่าวสายบันเทิงรุมล้อมจนแทบไม่มีทางเดินโชคดีที่เสี่ยวอิงเถาเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วยฉันออกมาได้ทั้ง ๆ ที่เจียงอี๋เป็นคนผิด แต่เพียงเพราะเธอป่วยหนัก ชาวเน็ตเกือบทั้งหมดกลับหันมารุมประณามฉัน ไม่เพียงแต่โจมตีฉันเป็นการส่วนตัว ร้านค้าหลักอย่างเป็นทางการของบริษัทก็ถูกถล่มจนแทบจะดำเนินกิจการตามปกติไม่ได้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็เร่งใช้แผนฉุกเฉินแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนักฉันหัวหมุนวุ่นวายไปหมด เลยขอให้ทนายมาช่วยปรึกษาเรื่องร่างแถลงการณ์ เตรียมใช้กฎหมายปกป้องสิทธิ์ของตัวเองฉันเร่งทำงานจนดึกดื่น พอเห็นว่านักข่าวที่ดักรออยู่หน้าออฟฟิศเริ่มทยอยกลับกันไปแล้ว ก็เตรียมตัวเก็บของกลับบ้านแต่ฉันยังไม่ทันได้ลุกจากโต๊ะก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 16

“...” ฉันพูดไม่ออกจึงหันหลังเดินอ้อมไปอีกฝั่งของโต๊ะทำงานแล้วเดินออกไปกู้เยี่ยนชิงวิ่งตามออกมา “เสี่ยวหว่าน ผมรู้ว่าคุณคงไม่อาจให้อภัยผมได้ในเร็ววัน แต่ความสัมพันธ์หกปีของเราไม่ใช่ว่าใครจะตัดใจได้ง่าย ๆ คนที่ผมรักคือคุณ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันเปลี่ยน แต่ผมเห็นเจียงอี๋ มาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นคนอ่อนแออยู่แล้ว ตอนนี้ป่วยหนักก็ยิ่งอ่อนไหวและรู้สึกด้อยค่า ผมมองเธอเป็นน้องสาวมาตลอด ผมทิ้งเธอไปไม่ได้จริง ๆ”ฉันถูกเขาขวางทางไว้ อารมณ์เลยระเบิดออกมา“กู้เยี่ยนชิง คุณเป็นบ้าหรือเปล่า? ฉันก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้คุณไปดูแลเธอ คุณวิ่งมาพูดเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ พวกนี้กับฉันทำไม? ยังเห็นว่าฉันเจอเรื่องแย่ ๆ เพราะพวกคุณไม่พออีกหรือไง?”กู้เยี่ยนชิงจับแขนฉันอีกครั้งแล้วพูดปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวหว่าน ผมรู้ว่าคุณกำลังหงุดหงิด ผมมาก็เพื่อจะช่วยคุณ”“คุณจะช่วยฉันงั้นเหรอ?” ฉันยิ้มเยาะพลางถอยหลังหนีเขา “ช่วยยังไง? ไปช่วยฉันด่ากับพวกนักเลงคีย์บอร์ดรึไง?”“ไม่ใช่” กู้เยี่ยนชิงส่ายหน้าก่อนจะให้คำแนะนำอย่างจริงจัง “จริง ๆ แล้ว แค่คุณออกแถลงการณ์ว่าที่พูดไปในงานแต่งงานเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จากนั้นก็ไปเยี่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 17

หลี่อวิ๋นเวยปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย “เจียงอี๋อาจจะรักคุณอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้รักมากมายอย่างที่คุณคิด ที่เธออยากแต่งงานกับคุณก็แค่ต้องการจะแย่งคุณไปจากเจียงหว่าน ทำให้เจียงหว่านเสียใจเท่านั้นเอง”กู้เยี่ยนชิงหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจนัก “เจียงหว่านบอกคุณอย่างนั้นสินะ? เจียงอี๋ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงบางครั้งจะเอาแต่ใจไปบ้างแต่เธอไม่มีทางเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างที่คุณพูดแน่”หลี่อวิ๋นเวยมีสีหน้าเหมือนลำบากใจที่จะพูด “คุณนี่มันจริง ๆ เลย...ดูท่าทางฉลาดหลักแหลมแต่พอเจอผู้หญิงมารยาเข้าหน่อย กลับทำตัวเหมือนคนไม่มีสมองไปได้”ฉันกลั้นหัวเราะไม่อยู่จนหลุดหัวเราะออกมากู้เยี่ยนชิงมองพวกเราด้วยสีหน้าบึ้งตึง ไม่พอใจและดูเหมือนจะเสียหน้าไม่น้อยเขาหันหลังทำท่าจะเดินจากไป แต่หลี่อวิ๋นเวยไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ เธอพูดต่อว่า “เจียงอี๋อิจฉาเจียงหว่านมาตั้งแต่เด็ก เธอทนไม่ได้ที่เห็นเจียงหว่านได้ดีเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเจียงหว่านชอบอะไร เจียงอี๋ก็จะต้องแย่งไปให้ได้ ถ้าแย่งไม่ได้จริง ๆ ก็จะหาทางทำลายมันเสีย ในสายตาของเจียงอี๋ คุณก็เป็นแค่ของที่เจียงหว่านชอบเท่านั้น อ้อ ไม่สิ คุณไม่ใช่สิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 18

หลี่อวิ๋นเวยแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ฉันว่าตอนแรกยัยนั่นก็แค่อยากแย่งผู้ชายของเธอไปเท่านั้น แต่คงแสดงละครมากไปหน่อย เลยอินจัดเสียเอง”ฉันอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก“กู้เยี่ยนชิงปากก็บอกว่าไม่เชื่อ แต่ฉันว่าลึก ๆ ในใจเขาก็คงเริ่มสงสัยบ้างแล้ว รอดูเถอะอีกไม่นานทั้งคู่ต้องมีเรื่องทะเลาะกันแน่ ป้าเล็กฉันบอกว่าการรักษาโรคมะเร็งมันทรมานมาก เจียงอี๋อาละวาดในห้องพักทุกวัน ทั้งหมอแล้วก็พยาบาลเปลี่ยนไปกี่ชุดก็เอาไม่อยู่ ความรักที่ผู้ชายมีให้ผู้หญิงคนหนึ่งมันจะทนทานได้สักแค่ไหนกันเชียว? แถมที่เขามีก็อาจจะไม่ใช่รักแท้ด้วยซ้ำ”ฉันพยักหน้า “พอเธอพูดแบบนี้ ฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้กู้เยี่ยนชิงถึงมาทำดีกับฉัน”คงเป็นเพราะทนความ “ยุ่งยาก” ของเจียงอี๋ไม่ไหว เลยคิดถึงความดีของฉันขึ้นมา ฝันไปว่าจะได้ความอบอุ่นจากฉันหลี่อวิ๋นเวยพูดเสียงเครียด “เธออย่าใจอ่อน หรือหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีกับเขาเชียวนะ ไม่งั้นฉันตัดเพื่อนกับเธอแน่”“วางใจเถอะ ฉันไม่ลดตัวขนาดนั้นหรอก”ฉันเองก็ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องบริษัทจนแทบไม่มีเวลาหายใจอยู่แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องรักใคร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายห่วย ๆ ที่เคยนอกใจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 19

“ตายจริง! พี่หว่านคงจะยุ่งจนเบลอไปแล้ว ทั่วทั้งเมืองนี้จะมีสวนซูที่ไหนได้อีก นอกจากสวนของตระกูลซูแห่งเขาอวี้ซาน! ตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากผู้ร่วมก่อตั้งประเทศ ครอบครัวนี้รุ่นแล้วรุ่นเล่าก็ล้วนสูงศักดิ์มั่งคั่ง! ปกติตระกูลซูเก็บตัวเงียบมากแทบไม่เคยมีข่าวคราวปรากฏต่อสาธารณชนแต่วันนี้กลับติดต่อมาหาเราเองเลยนะคะ เขาเชิญพี่หว่านไปตัดเสื้อให้คุณหญิงของตระกูลซู ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป รับรองว่าเหล่าผู้ดีมีเงินทั้งหลายจะต้องแห่กันมาอุดหนุนแบรนด์ของเราแน่!”ผู้จัดการฝ่ายการตลาดตะโกนอย่างตื่นเต้น “บอส คราวนี้เราดังเป็นพลุแตกแน่!”“เดี๋ยวก่อน!” ฉันยืนขึ้นพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วหันไปถามเสี่ยวอิงเถา “เธอลองโหลดแอปของตำรวจมาเช็กดูหน่อยดีไหม? ว่านี่ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงแน่นะ?”เสี่ยวอิงเถาแทบจะเป็นลม “ฉันเช็กแล้วเช็กอีก เขาพูดจาสุภาพมีมารยาทมาก แถมยังบอกว่าจะโอนค่ามัดจำมาก่อนด้วยนะคะ”ฉันถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก“ช่วงนี้พี่หว่านพอมีเวลาว่างบ้างไหมคะ? เดือนหน้าคิวแน่นมากเลย แต่ถ้าพี่ยังพอมีเวลาว่าง รบกวนพี่รีบโทรกลับไปนัดเวลาหน่อยนะคะ”“มีสิ! ยังไงก็ต้องมีอยู่แล้ว!” โอกาสทองมาถึงมือขนา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 20

แต่หงฉีแอลไฟว์นั้นต่างออกไปการได้ครอบครองรถรุ่นนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินที่มั่งคั่งเท่านั้น แต่ยังต้องมีประวัติที่ขาวสะอาด มีสถานะทางสังคมที่น่ายกย่องและได้สร้างคุณูปการอันโดดเด่นแก่สังคมอีกด้วยยิ่งไปกว่านั้นรถรุ่นนี้ยังเป็นเสมือนงานสั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคล ทำให้รถแต่ละคันที่เจ้าของครอบครองนั้น เปรียบเสมือน “ผลงานชิ้นเอก” ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกฉันกับเสี่ยวอิงเถาขึ้นไปนั่งบนรถ เราทั้งคู่รู้สึกประหม่าอยู่บ้างแต่คนขับรถที่สวมถุงมือสีขาวกลับมีท่าทีเป็นกันเอง ชวนเราพูดคุยเล็กน้อยเพื่อให้ผ่อนคลายรถยนต์หรูหราคันงามแล่นไปอย่างนุ่มนวลราวหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะเข้าสู่เขตป่าเขาลำเนาไพรที่เขียวชอุ่มคนขับรถเอ่ยขึ้นว่า “ข้างหน้าคือเขาอวี้ซาน เราใกล้ถึงแล้วครับ”ไม่นานนักก็ปรากฏป้อมยามที่มีทหารพร้อมอาวุธครบมือยืนรักษาการณ์อยู่ให้เห็นเมื่อเห็นรถของเราแล่นเข้ามาใกล้ ทหารนายนั้นส่งสัญญาณให้หยุดรถ คนขับรถจึงลดกระจกลงและแสดงเอกสาร ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ขับผ่านเข้าไปได้เสี่ยวอิงเถาตกตะลึงจนตาค้าง กระซิบถามว่า “พี่หว่านคะ ที่นี่เป็นเขตทหารหรือเปล่า?”ฉันเองก็ประหลาดใจแต่เก็บอาการไว้ค
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status