บททั้งหมดของ ไม่อภัย ไม่คืนดี คุณซูแม่สาวใจเด็ด: บทที่ 21 - บทที่ 30

40

บทที่ 21

“เข้าไปได้แล้ว”ด้านหลังพนักงานคือผ้าม่านแหวกกลาง ลมเย็นยะเยือกพัดมาจากด้านใน พอแง้มผ้าม่านมุมหนึ่งขึ้นก็เห็นทางเดินมืดตึ๊ดตื๋อเสียงกรีดร้องดังมาเป็นระยะ เส้าอวี่เวยกลืนน้ำลายลงคอ จับมือซูอวี่เหมียนและเดินเข้าไปแบบอืดอาดยืดยาดซูอวี่เหมียนแทบต้องลากเธอเดิน เห็นท่าทางประหวั่นพรั่นพรึงของเธอแล้วก็รู้สึกน่าขำอยู่หน่อย ๆ “ไม่งั้นเราก็อย่าเข้าไปเลยนะ?”“ไม่ได้! มาก็มาแล้ว!”“...” มาก็มาแล้วมันช่างทำร้ายคนจริง ๆทั้งที่เส้าอวี่เวยกลัวจนขี้หดตดหาย แต่ก็ยังไม่ยอมรับ ทำเป็นใจกล้าลากซูอวี่เหมียนเข้าไปแล้วจู่ ๆ ก็มีคนแต่งตัวน่ากลัวกระโดดออกมา “อ๊ากก เหมียนเหมียนช่วยฉันด้วย!”เจียงอี้หวยหันขวับไปด้านหลัง เมื่อกี้เหมือนว่าเขาจะได้ยินคนร้องว่า...เหมียนเหมียน?ทว่ามองดูรอบ ๆ กลับไม่เห็นคนคุ้นเคยคนนั้นเขาอดขมวดคิ้วไม่ได้สือมู่ซีไม่ได้สังเกตว่าอีกฝ่ายใจลอย เธอคล้องแขนเขาด้วยท่าทางกลัว “พี่หวย ฉันกลัว เดี๋ยวพี่ต้องปกป้องฉันนะ ได้ไหมคะ...”เจียงอี้หวยดึงสติกลับมา อื่อทีหนึ่งไปงั้น ๆตรงหน้ามืดสนิท มีเพียงแสงสีแดงมืดสลัวกะพริบเป็นบางครั้ง สือมู่ซีเกาะแขนอีกฝ่ายแน่น ๆ กลัวจนขดตัวอยู่ข้าง ๆ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 22

ไม่นานพื้นที่ตรงนี้ก็เหลือเธอเพียงคนเดียวดีที่พอเครื่องเตือนภัยดังแล้ว ไฟก็สว่างกว่าก่อนหน้านี้หน่อย เดินหน้าไปสองก้าวก็มีภาพสัญลักษณ์เมื่อผ่านด่านที่สองไปอย่างราบรื่น เธอก็ได้ยินเสียงคนเอะอะจากจุดที่ไม่ไกลเธอขมวดคิ้วมองไปทางนั้นแวบหนึ่ง น่าจะเพราะตรงทางออกมีคนเยอะจึงอัดกันแต่พอซูอวี่เหมียนลังเลว่าจะเบียดไปทางนั้นไหม ข้างหลังก็มีคนมาอีกกลุ่มหนึ่ง ทำให้เธอเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่ได้ไม่รู้ว่าใครเบียดเธอไปอยู่ตรงริม ๆ แล้วยังเหยียบเธอซ้ำอีกหน กว่าจะรู้ตัวซูอวี่เหมียนก็ติดกับผนังขรุขระแล้ว หน้าอกถูกครูด เจ็บจนเธอสูดปากทันใดนั้นเธอรู้สึกถึงเส้นสายตาหนึ่งที่ตกอยู่บนตัว จึงปรายตามองไปตามสัญชาตญาณและสบกับสายตาของชายคนหนึ่งเข้าพอดีเจียงอี้หวยเห็นเธอที่สะบักสะบอมแล้วก็รู้สึกปวดใจขึ้นมานิด ๆ ขณะเดียวกันก็โกรธด้วยใช่เธอจริง ๆ เสียงที่เรียก ‘เหมียนเหมียน’ เมื่อกี้ เขาไม่ได้หูฝาดแต่พอคิดดูอีกที เธอกลับมีใจมาผจญภัยในบ้านผีสิง ดูท่าหลังจากเลิกกันก็จะความสุขดีนะ“พี่หวยคะ?” สือมู่ซีรีบแกว่งแขนของเจียงอี้หวย สายตาที่มองซูอวี่เหมียนฉายแววป้องกันเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัวซูอวี่เหมี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 23

ประจวบเหมาะกับตอนนี้เอง เสียงพนักงานดังมาจากปากทาง“แก้ปัญหาเส้นทางขัดข้องเรียบร้อยแล้วครับ นักท่องเที่ยวที่ติดอยู่กรุณาต่อแถวออกมาตามลำดับด้วยครับ...”เมื่อมีคนควบคุม ไม่นานสถานการณ์ความวุ่นวายก็คลี่คลายซูอวี่เหมียนขี้เกียจจะมองจึงสาวเท้าเดินเร็วออกไปเจียงอี้หวยชักมือออกและตามไปเหมือนกันสือมู่ซีกัดฟันกรอด “พี่หวย รอฉันด้วย...”ตรงที่ตรวจบัตร เส้าอวี่เวยออกมานานแล้ว พอได้ยินว่าเส้นทางในนั้นเกิดเหตุขัดข้องจนเกือบไฟไหม เธอจึงนึกได้ว่าซูอวี่เหมียนยังไม่ได้ออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนขวางเอาไว้ เธอคงพุ่งตัวเข้าไปแล้วยังดีที่ซูอวี่เหมียนออกมาอย่างปลอดภัยในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเส้าอวี่เวยรีบไปหา “ไม่บาดเจ็บใช่ไหม? เมื่อก่อนฉันได้ยินเสียงเตือนภัยเกือบตกใจตายแล้ว”“ฉันก็อยู่นี่ดี ๆ แล้วไง ไปกันเถอะ กลับกัน”สนุกมาทั้งวัน เธอชักจะเหนื่อยแล้วจริง ๆเส้าอวี่เวยพยักหน้า “งั้นเรา...หืม? นั่นไม่ใช่เจียงอี้หวยเหรอ?”ยังไม่ทันพูดจบก็เห็นเจียงอี้หวยออกมากับสือมู่ซีตามลำดับ“ทำไมออกมาเที่ยวต้องมาเจอตัวซวยนี่ด้วยนะ”ซูอวี่เหมียนปราดตามองแล้วถอนสายตากลับ “อย่าโมโหเลย ก็แค่บังเอิญเจอ เราไปก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 24

เจียงอี้หวยกำลังดื่มด่ำอาหารใต้แสงเทียนกับสือมู่ซีที่ร้านอาหารตะวันตก ในตอนที่เห็นข้อความก็หน้าตึงทันทีสือมู่ซีเห็นอีกฝ่ายหน้าขรึมกะทันหัน จึงถามอย่างระมัดระวัง “มีอะไรเหรอคะ?”เจียงอี้หวยสะกดอารมณ์ ไม่ตอบลากเส้นเปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วตอบไปคำหนึ่ง [เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย]เสิ่นสือเยี่ยนดูหน้าห้องแชต ยกยิ้มมุมปากที่มีความหมายลึกซึ้ง[สงสัยครั้งนี้นายกับซูอวี่เหมียนจะเลิกกันจริง ๆ แล้ว?]เจียงอี้หวยเหลือบมองแล้วลอบกัดฟัน ทว่าตัวหนังสือที่ส่งไปกลับเรียบง่าย[อ่าฮะ นายมีปัญหา?]เสิ่นสือเยี่ยน [ไม่ ฉันจะกล้ามีปัญหาที่ไหน]แล้วยังแนบสติกเกอร์ยกมือยอมแพ้ไปอีกหนึ่งเสิ่นสือเยี่ยน [งั้นถ้ามีคนอื่นจีบซูอวี่เหมียนล่ะ นายคงไม่มีปัญหาเหมือนกันสินะ?]จู่ ๆ กู้อี้โจวก็โดดออกมา [ทำไม นายจะจีบเธอเหรอ?]เสิ่นสือเยี่ยนแววตามืดไปเล็กน้อย ตอบกลับด้วยภาพเคลื่อนไหว [อื่ม ๆ gif]เฉิงโจว [ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ]กู้อี้โจว [นายนี่ก็จริง ๆ เลย]ไม่มีใครเชื่อว่าจริงสักคนเจียงอี้หวยเห็นสติกเกอร์แล้วไม่จริงจัง พิมพ์ตอบกลับไปว่า [ได้ เชิญนายจีบไปเถอะ]เสิ่นสือเยี่ยนที่บรรลุเป้าหมายปิดโทรศัพท์มือถือแค่ไม่รู้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 25

เสิ่นสือเยี่ยนไม่ถามอะไรมาก เพียงยิ้มมุมปาก “เพิ่งจะเปิดเบอร์กันดี สักแก้วไหม?”เขาพูดพลางเทครึ่งแก้วละส่งไปเจียงอี้หวยรับมาจิบคำหนึ่ง “ใช้ได้”เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วถามลอย ๆ ขึ้นมา “ไหนเมื่อกี้นายบอกว่าซูอวี่เหมียนก็อยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เห็นเธอเลยล่ะ?”“นายคงไม่ได้ตั้งใจมาหาเธอหรอกนะ?” เสิ่นสือเยี่ยนวางแก้วทรงสูงพลางยิ้มแบบที่เหมือนไม่ได้ยิ้ม“เหอะ” เจียงอี้หวยสีหน้าเฉยเมยบางส่วน “ก็แค่บังเอิญอยากมาดื่มเหล้านิดหน่อยเท่านั้น ในเมื่อเจอหน้ากัน จะทักทายสักหน่อยมันผิดกฎหมายเหรอ?” เสิ่นสือเยี่ยนยักไหล่? “เจอที่ทางเดิน เธอมาดื่มเหล้าน่ะ ตอนนี้คงกลับไปนานแล้วมั้ง?”เจียงอี้หวยไม่พูด แต่สีหน้าผ่อนคลายมากขึ้นไม่น้อยดังคาด ซูอวี่เหมียนไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมอย่างนี้...เขาวางแก้วเหล้าแล้วลุกขึ้นยืน “พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน ไปก่อนละ ที่กินวันนี้ลงบัญชีฉัน”เสิ่นสือเยี่ยนมองเงาหลังที่จากไปของเขา แววตาลุ่มลึกบางส่วนครู่หนึ่งแล้วจึงถอนหายใจเบา ๆ “โทษทีเพื่อน”……ทั้งสองคนอยู่ในห้องวีไอพีไม่ถึงชั่วโมง เนื่องจากเส้าอวี่เวยดื่มเหล้าไปครึ่งขวด จึงหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวซูอวี่เหมียนก็ก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 26

ชีวิตในการทบทวนความรู้จืดชืดและน่าเบื่อ แต่ซูอวี่เหมียนกลับเคยชินอย่างประหลาดพอจบการเรียนอีกวันหนึ่ง กลับถึงบ้านเธอก็นวดไหล่และคิดจะพักผ่อนสักหน่อย ไม่นึกว่าจะได้รับสายโทรศัพท์ของศาสตราจารย์โอวหยางศาสตราจารย์ถามว่าเธอทบทวนไปถึงไหนแล้วก่อนซูอวี่เหมียนรายงานความคืบหน้าพอสังเขปโอวหยางเหวินชิวจึงไม่ได้ถามรายละเอียด คล้ายวางใจเธอมากซูอวี่เหมียนขำพรืด แล้วได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า “พรุ่งนี้เช้าเธอมาบ้านฉันหน่อย”พูดจบก็รีบวางสาย อย่างกับกลัวว่าวินาทีต่อมาซูอวี่เหมียนจะปฏิเสธวันถัดมา ซูอวี่เหมียนตื่นแต่เช้า ใช้เวลาเตรียมอาหารเช้าครึ่งชั่วโมง และแน่นอนว่าเธอไม่ลืมเตรียมให้เส้าเวินไป๋ที่อยู่ข้างห้องด้วยชุดหนึ่งเมื่อวานจนหลับ เธอไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเปิดประตูของข้างห้องเลย จึงเดาว่าเขาคงโต้รุ่งที่ห้องทดลองอีกแล้วพอเปิดประตูก็เจอกับเขาที่เพิ่งกลับมาอย่างที่คิดจากคืนวันที่ฝนตกครั้งนั้นได้ผ่านไปสองสัปดาห์แล้ว คงเพราะเพิ่งกลับมาจากห้องทดลอง เส้าเวินไป๋ที่ให้ความสำคัญกับความเรียบร้อยมาตลอด แขนเสื้อยับย่น ความอ่อนล้าตรงหว่างคิ้วเด่นชัดซูอวี่เหมียนนึกถึงบทสนทนาครั้งก่อน จึงเดาว่าเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 27

“เธอความจำดี ฉันจำได้ว่าในซีรีส์นี้มีเล่มหนึ่งที่พูดถึงการทดสอบยีนโดยเฉพาะ ทำไมถึงหาไม่เจอนะ?”ซูอวี่เหมียนไม่ได้มีพรสวรรค์ที่ผ่านตาแล้วไม่ลืม แค่ว่าเธอจะจำประเด็นสำคัญได้เท่านั้นหนังสือที่ศาสตราจารย์บอก สองวันก่อนเธอเพิ่งค้นในห้องสมุดมาเหมือนกัน สายตากวาดมองไปทางชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็ตาโต “อาจารย์คะ หนังสือที่อาจารย์หาใช่เล่มนี้ไหมคะ?”โอวหยางเหวินชิวดูหน้าปก “ใช่ ๆ เล่มนี้แหละ! ยังเป็นเธอที่สายตาดี ฉันหามาค่อนวันแล้ว ที่แท้ก็อยู่ใต้ตานี่เอง...”“ซ่งเฉิง เธอมานี่ หนังสือเล่มนี้บวกกับข้อมูลวิทยานิพนธ์ในมือก็น่าจะพอใช้อ้างอิงได้แล้ว เธอเอากลับไปก่อน เอาไว้ฉันจะหาดูว่ายังมีเล่มอื่นอีกไหม”“ขอบคุณครับศาสตราจารย์”เหอซ่งเฉิงยื่นมือรับไปช่วงนี้เขากำลังเตรียมตัวเขียนวิทยานิพนธ์ตัวจบของปริญญาโท ข้อมูลบางอย่างยังไม่ครบ ได้ยินว่าที่ศาสตราจารย์โอวหยางมีต้นฉบับจึงมาหาแต่เช้าเมื่อนั้นโอวหยางเหวินชิวจึงนึกขึ้นได้ว่าจะแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เหมียนเหมียนเคยเป็นนักศึกษาของฉัน แต่อีกไม่นานเธอก็จะกลับมาเป็นนักศึกษาของฉันอีกแล้วละ”เหอซ่งเฉิงตกตะลึง ครู่หนึ่งสมองจึงทำงาน “เตรียมจะสอบเป็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 28

ทีแรกตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนเจ็ดโมง แต่สือมู่ซีกลับลุกไม่ขึ้นสักที สุดท้ายจะสายแล้ว ทั้งสองคนจึงวิ่งตาลีตาเหลือกมาตลอดทาง“ชั้นอะไร?” ซูอวี่เหมียนเหลือบมองเธอแวบหนึ่งแล้วถาม“ชั้นสอง” เทียบกับเธอที่สงบนิ่ง สือมู่ซีที่วิ่งมาแบบไม่สนภาพลักษณ์สักนิดกัดฟันอยู่ในใจทั้งสองคนออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน สือมู่ซีนึกอะไรขึ้นได้ พอเห็นข้อมูลการสอบปริญญาโทในมือของเธอ พลันสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย “เธอก็มาทบทวนที่ห้องสมุดเหรอ? เธอคงไม่คิดเตรียมสอบป.โทหรอกนะ?”ซูอวี่เหมียนไม่ตอบ สีหน้าราบเรียบสือมู่ซีบ่นกับตัวเอง “เด็กในม.ตั้งเท่าไรยังสอบไม่ติดเลย เธอเป็นแค่คนที่จบมาตั้งหลายปีแล้ว คงไม่คิดว่าตัวเองจะสอบติดจริง ๆ หรอกนะ?”ซูอวี่เหมียนพูดอย่างเฉยเมย “ฉันจะสอบติดหรือไม่ก็อีกเรื่อง ส่วนเด็กในม.ที่สอบไม่ติดที่เธอว่าคงเป็นตัวเธอเองมั้ง?”พอสือมู่ซีได้ยินก็เกือบคุมอารมณ์ไม่อยู่ปีนี้เธออยู่ปีสามแล้ว ไม่เคยคิดจะทำงาน เพิ่มเตรียมจะสอบปริญญาโท ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกปีหนึ่ง ไม่รีบรูมเมตบางคนเตรียมวางแผนทบทวนนานแล้ว ช่วงเวลาสามปีในมหาวิทยาลัย สือมู่ซีเรียนไปแบบปล่อยผ่าน คิดว่าถ้าสอบติดก็ดีไป ถ้าสอบไม่ติดก็ยั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 29

หัวใจเธอเต้นแรงมาก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถึงตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปข้างในเธอรู้ว่าคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มาก โอ่อ่ามาก สว่างมาก แต่ยังเป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ในนี้ ตกแต่งตามสไตล์อเมริกา ใช้สีน้ำตาลเทาและดำขาวเป็นหลัก เรียบง่ายกลับมีความหรูหราที่เด่นขึ้นมาจากรายละเอียดอย่างไม่ได้จงใจสือมู่ซีเคยลงเรียนวิชาวิเคราะห์ศิลปะเป็นวิชาเลือก จำได้ว่าภาพที่แขวนอยู่บนผนังเป็นของฉีไป๋สือ การจัดวางรอบ ๆ ก็มีมูลค่าไม่น้อย แม้แต่ถังขยะที่ไม่สะดุดตายังประทับโลโก้ของ ‘หลุยส์ วิตตอง’ผ่านห้องอาหารไปก็คือสวนดอกไม้ในห้องที่ดูแลอย่างตั้งใจ ด้านข้างมีห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องฟิตเนส ตรงมุมยังมีชุดไม้กอล์ฟได้ยินว่าชุมชนคฤหาสน์นี้มีสนามกอล์ฟอยู่เธอหยิกฝ่ามือ ก่อนจะเจอกับเจียงอี้หวย ของหรูหราที่สุดที่เธอเคยเจอก็คือแอร์เมสหนังจระเข้รุ่นเคลลีรุ่นลิมิเต็ดของดีไซเนอร์ที่เพื่อนเรียนใช้ ตลาดมือสองมีราคาประมาณหนึ่งล้านหาแสน ซื้อห้องชุดสามห้องนอน หนึ่งห้องรับแขกที่บ้านเดิมของเธอได้เลย แต่คฤหาสน์หลังนี้ กลับมีลาย ‘แอร์เมส’ ที่เธอมิอาจเอื้อมอยู่เต็มไปหมด พวงกุญแจ ไพ่นกกระจอก ไฟแช็ก...ถ้า...เธอสามารถอยู่ข้างกายเจียงอี้หวยไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 30

“หือ?” เจียงอี้หวยเลิกคิ้ว“พี่กล้าเซฟลายนิ้วมือฉันเข้าไปไหมคะ?” สือมู่ซีชี้ไปที่ล็อกบนประตู ทำหน้าเศร้าสร้อยเหมือนลูกหมาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม “ฉันรอพี่อยู่หน้าบ้านตั้งหลายครั้งแล้วนะ พี่ดูสิ มือฉัน ขาฉัน หนึ่ง สอง สาม...ตุ่มเยอะอย่างนี้ พี่ทำใจเห็นถูกยุงกัดน่าสงสารอย่างนี้เหรอ?”เจียงอี้หวย “ทำใจไม่ได้”“เย่!” สือมู่ซีดีใจกระโดดโลดเต้น “ความจริงฉันจงใจต่างหาก ฉันแค่อยากเซฟลายนิ้วมือฉันเอาไว้ ต่อไปจะได้มาหาพี่ได้อยากเปิดเผยไง”เจียงอี้หวยหลุดหัวเราะ “ทำไมถึงอย่างกับเด็ก ๆ เลยนะ...”เจียงอี้หวยบันทึกลายนิ้วมือให้เธอนึกถึงโจ๊กข้าวฟ่างที่วันนี้เธอตั้งใจมาส่งกับตุ่มแดงบนแขนขาแล้วก็ลูกศีรษะเธอ “นี่เป็นบัตรเสริมของฉัน ทุกเดือนจะมีวงเงินห้าแสน เอาไว้ซื้อของที่ตัวเองชอบเถอะ”สือมู่ซีกัดริมฝีปากแบบกลัว ๆ “ไม่ ๆ ๆ...ฉัน ฉันจะเอาเงินของพี่ได้ยังไง?”“ผู้หญิงใช้เงินของผู้ชายเป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว”“เหรอคะ...”“รับไว้เถอะ ไม่ต้องคิดมาก”“งั้น ก็ได้ค่ะ” สือมู่ซียิ้มแฉ่ง ดวงตาสุกใส “งั้นพรุ่งนี้ฉันจะเอาโจ๊กข้าวฟ่างมาให้พี่อีกนะคะ”เจียงอี้หวยโบกมือ “ไม่ต้องแล้ว”ไม่ใช่รสนั้น กินเท่า
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status