หัวใจเธอเต้นแรงมาก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถึงตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปข้างในเธอรู้ว่าคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มาก โอ่อ่ามาก สว่างมาก แต่ยังเป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ในนี้ ตกแต่งตามสไตล์อเมริกา ใช้สีน้ำตาลเทาและดำขาวเป็นหลัก เรียบง่ายกลับมีความหรูหราที่เด่นขึ้นมาจากรายละเอียดอย่างไม่ได้จงใจสือมู่ซีเคยลงเรียนวิชาวิเคราะห์ศิลปะเป็นวิชาเลือก จำได้ว่าภาพที่แขวนอยู่บนผนังเป็นของฉีไป๋สือ การจัดวางรอบ ๆ ก็มีมูลค่าไม่น้อย แม้แต่ถังขยะที่ไม่สะดุดตายังประทับโลโก้ของ ‘หลุยส์ วิตตอง’ผ่านห้องอาหารไปก็คือสวนดอกไม้ในห้องที่ดูแลอย่างตั้งใจ ด้านข้างมีห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องฟิตเนส ตรงมุมยังมีชุดไม้กอล์ฟได้ยินว่าชุมชนคฤหาสน์นี้มีสนามกอล์ฟอยู่เธอหยิกฝ่ามือ ก่อนจะเจอกับเจียงอี้หวย ของหรูหราที่สุดที่เธอเคยเจอก็คือแอร์เมสหนังจระเข้รุ่นเคลลีรุ่นลิมิเต็ดของดีไซเนอร์ที่เพื่อนเรียนใช้ ตลาดมือสองมีราคาประมาณหนึ่งล้านหาแสน ซื้อห้องชุดสามห้องนอน หนึ่งห้องรับแขกที่บ้านเดิมของเธอได้เลย แต่คฤหาสน์หลังนี้ กลับมีลาย ‘แอร์เมส’ ที่เธอมิอาจเอื้อมอยู่เต็มไปหมด พวงกุญแจ ไพ่นกกระจอก ไฟแช็ก...ถ้า...เธอสามารถอยู่ข้างกายเจียงอี้หวยไ
“หือ?” เจียงอี้หวยเลิกคิ้ว“พี่กล้าเซฟลายนิ้วมือฉันเข้าไปไหมคะ?” สือมู่ซีชี้ไปที่ล็อกบนประตู ทำหน้าเศร้าสร้อยเหมือนลูกหมาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม “ฉันรอพี่อยู่หน้าบ้านตั้งหลายครั้งแล้วนะ พี่ดูสิ มือฉัน ขาฉัน หนึ่ง สอง สาม...ตุ่มเยอะอย่างนี้ พี่ทำใจเห็นถูกยุงกัดน่าสงสารอย่างนี้เหรอ?”เจียงอี้หวย “ทำใจไม่ได้”“เย่!” สือมู่ซีดีใจกระโดดโลดเต้น “ความจริงฉันจงใจต่างหาก ฉันแค่อยากเซฟลายนิ้วมือฉันเอาไว้ ต่อไปจะได้มาหาพี่ได้อยากเปิดเผยไง”เจียงอี้หวยหลุดหัวเราะ “ทำไมถึงอย่างกับเด็ก ๆ เลยนะ...”เจียงอี้หวยบันทึกลายนิ้วมือให้เธอนึกถึงโจ๊กข้าวฟ่างที่วันนี้เธอตั้งใจมาส่งกับตุ่มแดงบนแขนขาแล้วก็ลูกศีรษะเธอ “นี่เป็นบัตรเสริมของฉัน ทุกเดือนจะมีวงเงินห้าแสน เอาไว้ซื้อของที่ตัวเองชอบเถอะ”สือมู่ซีกัดริมฝีปากแบบกลัว ๆ “ไม่ ๆ ๆ...ฉัน ฉันจะเอาเงินของพี่ได้ยังไง?”“ผู้หญิงใช้เงินของผู้ชายเป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว”“เหรอคะ...”“รับไว้เถอะ ไม่ต้องคิดมาก”“งั้น ก็ได้ค่ะ” สือมู่ซียิ้มแฉ่ง ดวงตาสุกใส “งั้นพรุ่งนี้ฉันจะเอาโจ๊กข้าวฟ่างมาให้พี่อีกนะคะ”เจียงอี้หวยโบกมือ “ไม่ต้องแล้ว”ไม่ใช่รสนั้น กินเท่า
ภายใต้การนำของเขา ประสิทธิผลของซูอวี่เหมียนเพิ่มขึ้นไม่น้อยตลอดช่วงเช้าก็ทำแบบทดสอบไปแล้วสองชุดในตอนที่เหอซ่งเฉิงช่วยตรวจให้เธอ พบอย่างประหลาดว่าแบบทดสอบทั้งสองชุดมีอัตราความถูกต้องสูงถึงร้อยละเก้าสิบห้าเห็นว่าซูอวี่เหมียนเรียนจบมาสามปีแล้ว ช่วงนี้เพิ่งจะจับหนังสือใหม่ ไม่นึกว่า...เก่งเกินคนไปแล้ว!มิน่าศาสตราจารย์โอวหยางถึงให้ความสำคัญกับเธอขนาดนั้นซูอวี่เหมียนไม่รู้ความคิดของเหอซ่งเฉิง บอกกล่าวคำหนึ่งแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำอีกด้านหนึ่ง สือมู่ซีเห็นแล้วจึงตามไปทันที“เดี๋ยว”ซูอวี่เหมียนหันกลับไป ไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของเธอสักนิด “มีธุระเหรอ?”“เมื่อคืนฉันไปส่งโจ๊กข้าวฟ่างที่คฤหาสน์ของเขามาด้วย เขาชอบมากเลยแหละ กินหมดเกลี้ยงเลย”สือมู่ซียิ้มระรื่นให้เห็นลักลิ้มทั้งสองข้าง “นอกจากนี้นะ พี่หวยยัง...ให้ฉันอยู่ค้างคืนด้วย”“ฉันเพิ่งรู้เลยนะ ที่แท้เขาก็มีด้านที่ดิบเถื่อนเซ็กซี่อย่างนี้ ทำจนฉันแทบไม่ได้หลับทั้งคืนเลย”เธอจงใจกุเรื่องขึ้นมา ก้มหน้ากระมิดกระเมี้ยน แพขนตากระพือเบา ๆ ท่าทางเขินอายที่ถูกเติมเต็มอย่างหนักซูอวี่เหมียนเจ็บแปลบในใจ ลมหายใจติดขัด“อิจฉาเหรอ?” สือ
มือของผู้ชายข้อกระดูกชัดเจน เรียวยาวสวย เธอเบนสายตาไปเล็กน้อย เห็นในรถเข็นของเขามีแต่อาหารกึ่งสำเร็จรูป ครั้นเคลื่อนสายตาขึ้นบน เจ้าของมือก็ก้มลงมามองเธอพอดีซูอวี่เหมียนยิ้ม “ของพวกนี้คงไม่ใช่มื้อเย็นของคุณหรอกนะคะ?”“แค่ก! บางทีกลับบ้านดึก ไม่อยากสั่งดิลิเวอรีก็เลยกินง่าย ๆ น่ะครับ” เส้าเวินไป๋ตอบเรียบ ๆ“ผมคำนวณมาแล้ว ของพวกนี้มีโปรตีนกับวิตามินที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน แล้วยังมีคาร์โบไฮเดรตด้วย”ซูอวี่เหมียนเห็นท่าทางอธิบายอย่างจริงจังของเขาแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “ดูท่าศาสตราจารย์เส้าจะพิจารณาทุกอย่างจากการคำนวณทางวิทยาศาสตร์และควบคุมอย่างแม่นยำสินะคะ”“แต่ถ้ามีอาหารสดใหม่ร้อน ๆ กับของพวกนี้ว่างอยู่ตรงหน้าให้เลือก คุณจะเลือกอะไรคะ?”เส้าเวินไป๋นิ่งเงียบ คำตอบชัดเจนมาก ถ้ามีอาหารร้อน ๆ ใครจะไปอยากกินอาหารจานด่วนกัน?ซูอวี่เหมียนยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพราะฉะนั้น ศาสตราจารย์เส้าคะ ฉันจะทำมื้อเย็นเอง เพื่อเป็นการตอบแทน คุณแค่ช่วยฉันทำเรื่องหนึ่งก็พอแล้วค่ะ”ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เส้าเวินไป๋มองปลาบนเขียง “...ดูเหมือนว่ามันจะจัดการยากอยู่นะครับ”ซูอวี่เหมียนกระแอมกระไอเบา ๆ “ความจริงปกต
ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่เธอถ่ายเส้าอวี่เวย ตอนนั้นเพิ่งลงจากรถไฟเหาะ อย่างกับหนีจากความตายอย่างนั้นแหละ พอเธอเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ไถไปจนถึงรูปสุดท้ายเหลือแต่รูปเดี่ยวของเธอ เธอคิดจะปิดมือถือ กลับพบว่าในหมู่คนสัญจรในแบ็กกราวนด์มีคนที่คุ้นเคยอยู่สองคนเธอเม้มริมฝีปาก คงไม่ทันระวังถ่ายติดสือมู่ซีกับเจียงอี้หวยด้วยนั่นแหละในรูปเธอคือตัวเอง คนที่อยู่ข้างหลังเป็นแค่แบ็กกราวนด์ แต่ทั้งสองจับมือกันตลอด กลับดูเหมือนเป็นเธอที่บุกรุกเข้าโลกของคนอื่น……“ป้าหวัง ป้าหวัง!”เจียงอี้หวยกุมท้อง เรียกสองทีทั้งหน้าซีดทว่าคฤหาสน์เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆเช้ามาเขาปวดท้องจนตื่นอาการปวดบิดส่งมาจากกระเพาะ เขาตัวเย็นไปหมด คลื่นไส้อยากอาเจียนกลับอาเจียนไม่ออกความรู้สึกนี้คุ้นเคยมาก โรคกระเพาะกำเริบแล้วนึกถึงยากระเพาะที่เตรียมไว้ในบ้าน เจียงอี้หวยย้อนรอยความคิดแล้วเริ่มรื้อค้นทว่าเหลือยาแค่กล่องเดียวแล้ว และยาในนั้นก็หมดแล้วด้วยเขาอดทนต่อความเจ็บปาดแล้วโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วย“ซื้อยากระเพาะแล้วส่งมาที่คฤหาสน์หน่อย”พอผู้ช่วยได้ยินก็ไม่กล้ารอช้า ไปซื้อมากล่องจากหนึ่งร้านยาทันทีเมื่อขั
อีกทางหนึ่ง ซูอวี่เหมียนอึ้ง ในหัวผุดภาพที่เขาจูงมือกับสือมู่ซียิ้มแย้มตอบไปเรียบ ๆ “ไม่สบายก็ไปโรงพยาบาล ฉันไม่ใช่หมอ”พูดจบก็วางสายน้ำเสียงราบเรียบง่าย ๆ ราวกับที่คุยอยู่เป็นแค่คนแปลกหน้าจริง ๆเจียงอี้หวยโกรธจนกัดฟันกรามแน่น ตัวสั่นเทา เขวี้ยงโทรศัพท์มือถือกับพื้นจนแหลกไปเลยป้าหวังที่อยู่ด้านข้าง “?”นั่นมันโทรศัพท์มือถือของเธอนะ!!เจียงอี้หวยถูกซูอวี่เหมียนทำให้โมโหเลือดลมพลุ่งพล่าน กระเพาะก็ยิ่งเจ็บจึงฝืนตัวเองขึ้นชั้นบนขังตัวเองอยู่ในห้องประชดเสียเลยเธอนึกว่าเขาไม่มีเธอแล้วจะอยู่ไม่ได้เหรอ?!น่าหัวเราะ!ป้าหวังมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ต้องรายงานว่ากลายเป็นขยะแล้วก็นึกถึงการโทรศัพท์เมื่อครู่ ตามด้วยส่ายหน้าถอนหายใจก็ไม่รู้ว่าคุณชายคิดอย่างไร คุณซูเป็นผู้หญิงที่ดีออกอย่างนั้น เขากลับตัดใจไล่เธอไปได้จริง ๆ...ตอนบ่าย ป้าหวังทำความสะอาดเสร็จ เคาะประตูห้องนอนก่อนไป“คุณชาย?”ไม่มีการตอบรับ เธอนึกว่าเจียงอี้หวยกำลังโกรธ ไม่ได้คิดอะไรมากก็กลับก่อนตอนบ่ายเจียงฉีถิงขับรถมาที่คฤหาสน์ หลังจากปลดล็อกด้วยลายนิ้วมืออย่างคล่องแคล่วแล้วก็เปิดประตูเข้าบ้าน“พี่ ฉันมาถ่
เจียงฉีถิงก็งงอยู่เหมือนกันถ้าเป็นแต่ก่อน พี่ชายเธอเข้าโรงพยาบาล ซูอวี่เหมียนจะมายื่นน้ำเอาใจ น้ำตาคลอเบ้าอยู่ข้างเตียงนานแล้ว ครั้งนี้ทำไมไม่เห็นแม้แต่เงา?พอพูดออกมาอย่างนี้ ความเงียบที่เหมือนกับความตายก็ขยายตัวออกไปเจียงอี้หวยเงียบ ใบหน้าเฉยเมย พวกเฉิงโจวกับกู้อี้โจวที่รู้เรื่องก็ไม่กล้าปริปากเหมือนกันยังเป็นเสิ่นสือเยี่ยนที่พูดชืด ๆ อยู่อีกทางหนึ่ง “พวกเขาเลิกกันแล้ว พวกคุณป้าไม่รู้เหรอครับ”ซูอวี้ฉินขมวดคิ้ว “ทำไมยังทะเลาะกันอีก? นี่มันตั้งกี่วันแล้ว? อารมณ์ก้าวหน้านี่!”พอเจียงอี้หวยได้ยินก็หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม“แค่กๆ! คุณป้าครับ ครั้งนี้ เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับ...” เสิ่นสือเยี่ยนมองซูอวี้ฉินแวบหนึ่ง“หมายความว่ายังไง? ซูอวี่เหมียนยังวางมาดอีกเหรอ?!”“แม่” เจียงอี้หวยพูดตัดบทด้วยสีหน้าขึงขัง น้ำเสียงเย็นเยียบ “ครั้งนี้เลิกแล้วจริง ๆ ผมบอกเลิกเอง”“...อะไรนะ?” ซูอวี้ฉินอึ้งเจียงฉีถิงก็ทำหน้าตกตะลึงเหมือนกันพอนับดูเวลา ครั้งนี้ซูอวี่เหมียนโกรธนานจริง ๆ...ซูอวี้ฉินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาลก็โทรศัพท์หาซูอวี่เหมียนทันทีเพิ่งรับสาย ปลา
พอซูอวี่เหมียนกลับบ้านก็ตรวจสอบตู้เย็น ผักที่ซื้อเมื่อวานยังเหลือเยอะ จึงเตรียมจะทำสตูว์เนื้อตุ๋นมันฝรั่ง ซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน มะเขือเทศผัดไข่ แล้วก็ทำ...ผัดผักอีกอย่างเธอล้างผัก หั่นผักเร็วมาก ทำให้เหอซ่งเฉิงที่ทำกับข้าวไม่เป็นตกตะลึง“คนสมัยนี้ส่วนมากจะสั่งดิลิเวอรีหรือไม่ก็ออกไปกินกันทั้งนั้น แต่ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเองอย่างเธอนี้น้อยลงทุกที”ซูอวี่เหมียนยิ้มน้อย ๆ “รูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ฉันแค่ชินกับการทำกับข้าวกินเองเท่านั้น”เหอซ่งเฉิงมองหลังที่กำลังยุ่งงวดของเธอ แล้วมองดูรอบ ๆ รอบหนึ่งห้องไม่ใหญ่ แต่เก็บได้สะอาดมาก การจัดวางตั้งใจมากเหมือนกันห้องรับแขกมีชั้นเล็ก ๆ อยู่ชั้นหนึ่ง เต็มไปด้วยหนังสือ เขามองดูแวบหนึ่ง เห็นว่าเป็นหนังสือวิชาเอกทั้งหมด แต่หนึ่งในนั้นดูแปลกแยกเล็กน้อย เพราะมันคือหนังสือด้านฟิสิกส์แต่เขารู้สึกว่าการมองประเมินห้องของผู้หญิงแบบนี้ไม่ค่อยมีมารยาทสักเท่าไร ดังนั้นจึงไม่กล้าดูมากไม่นานอาหารหลายจานก็ขึ้นโต๊ะ บวกกับข้าวสวยร้อน ๆ กลิ่นหอมมุดเข้ารูจมูกเหอซ่งเฉิงชิมซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานคำหนึ่ง ทึ่งจนเบิกตาโพลง “อร่อยสุด ๆ ไปเลย! ฝี
ซูอวี่เหมียนวิ่งตอนเช้าเสร็จ พออาบน้ำออกมาก็เห็นไม้อิ่มน้ำสีเขียวทรงต่าง ๆ ที่เรียงเป็นทิวแถวตรงระเบียงมีสีชมพูเพิ่มมากระถางหนึ่งเธอเอานิ้วชี้จิ้ม ๆ เห็นต้นไม้นุ่มนิ่มแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น เธอเห็นชื่อ ‘เฉิงโจว’ ปรากฏบนหน้าจอแล้วก็รับสายด้วยความแปลกใจ“เฉิงจื่อ? ทำไมโทรหาฉันเวลานี้ล่ะ? มีธุระเหรอ?”“พี่อวี่เหมียน ช่วงนี้เป็นไงบ้างครับ?”“ก็โอเคนะ นายล่ะ?”โอกาสมาแล้ว!เฉิงโจวนั่งตัวตรงทันที “ผม...ไม่ค่อยดีครับ”ซูอวี่เหมียนขมวดคิ้ว “เป็นไรไปเหรอ?”“อาจเพราะอดนอนกับดื่มเหล้า กระเพาะไม่สบาย พี่อวี่เหมียน ไม่รู้ว่าเป็นอะไรสิ ตอนนี้ผมไม่อยากกินอะไรเลย คิดถึงแต่โจ๊กบำรุงกระเพาะที่พี่ตุ๋น มันอยากมาก ๆ ๆจริง ๆ...พี่จะสะดวกไหมครับ?”เขาไม่กล้าบอกว่าเจียงอี้หวยอยากกิน จึงได้แต่พูดอ้อมโลกถึงเธอจะรู้จักกับเฉิงโจวผ่านทางเจียงอี้หวย แต่หลังจากคลุกคลีกันหลายปีนี้ ถ้าตัดเจียงอี้หวยออก ซูอวี่เหมียนมีสัมพันธ์ไม่เลวกับเขาอีกฝ่ายเอ่ยปากแล้ว แถมกระเพาะไม่สบายจริง ๆ...ซูอวี่เหมียนมองนาฬิกาข้อมือทีหนึ่ง “สะดวก ตอนนั้นฉันจะออกไปซื้อของก่อน นายมาเอา
สำหรับซูอวี่เหมียน นี่คือโอกาสหายาก“ถ้าคุณสนใจก็เอากลับไปอ่านอย่างละเอียดได้”เขาหยิบแฟลชไดร์ฟออกมาแล้ววางตรงหน้าเธอ “ในนี้มีข้อมูลการทดลองอย่างละเอียดครับ”ซูอวี่เหมียนชายตามอง ดวงตากระจ่างใสกระเพื่อมวงคลื่น “ขอบคุณค่ะ ฉันจะพิจารณาอย่างจริงจังนะคะ”สิบโมง ซูอวี่เหมียนควรกลับห้องแล้วเส้าเวินไป๋ส่งเธอถึงหน้าประตู“ฉันอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้เอง คุณไม่ต้องเจาะจงส่งฉันหรอกค่ะ” ซูอวี่เหมียนหลุดหัวเราะเส้าเวินไป๋กลับมองนิ้วที่โผล่ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจของเธอ ก่อนจะเตือนเรียบ ๆ “ปลาสเตอร์จะติดนานเกินไปไม่ได้ ต้องใช้เบตาดีนล้างเชื้อโรค ทางที่ดีก็เปิดแผล”ซูอวี่เหมียนงอนิ้วชี้ตามสัญชาตญาณ “ขอบคุณค่ะ ฉันรู้แล้ว”เส้าเวินไป๋ไม่พูดมาก แค่ผงกศีรษะน้อย ๆ หันไปหยิบไม้อวบน้ำสีชมพูกระถางเล็ก “นี่ให้คุณ”ซูอวี่เหมียนกะพริบตาปริบ ๆ แบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อย มองดูไม้อวบน้ำขนาดเท่าฝ่ามือ ใบป้อม ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีชมพู ทรงสวยมาก“น่ารักอย่างนี้ จะให้ฉันจริงเหรอคะ?”“ครับ หลายวันก่อนผ่านร้านดอกไม้ เห็นเหลืออยู่กระถางหนึ่งน่าสงสารก็เลยซื้อมา ถือเป็นการขอบคุณที่เลี้ยงปลาผมครั้งก่อนแล้วกันครับ”ซูอ
ต้นเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิสุงขึ้นเรื่อย ๆ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสีแดงอุณหภูมิสูงสามสิบห้าองศาหนึ่งสัปดาห์แล้ว การทดลองของเส้าเวินไป๋หลังจากคำนวณพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็มีความคืบหน้ากว่าจะมีเวลาพัก เขาลากร่างอันอ่อนล้าขึ้นชั้นเจ็ด เตรียมจะนอนเสริมกำลังสักหน่อย แต่จู่ ๆ ฝั่งตรงข้ามก็มีเสียงดังขึ้นมาเขาที่กำลังจะเปิดประตูหยุดชะงัก หันมองประตูที่ปิดสนิท แล้วไปเคาะประตู “ซูอวี่เหมียน คุณอยู่ห้องหรือเปล่า?”ไม่มีคนตอบกลับ เขาจึงเคาะอีกทียังคงเงียบเหมือนเดิมเขาลังเลสองวินาที ในตอนที่กำลังลังเลว่าจะแจ้งความดีไหมก็ได้ยินเสียง “แกร๊ก” ประตูเปิดออกแล้วซูอวี่เหมียนชะโงกหัวออกมาจากหลังประตู เหลือเพียงช่องว่างหนึ่ง“มีอะไรเหรอคะ?”เธอสีหน้าราบเรียบ การเปิดประตูก็ดูเหมือนเพราะจู่ ๆ เขาเคาะประตู ส่วนน้ำเสียงก็ปกติ ไม่มีอะไรแปลกแต่ที่น่าแปลกคือ เส้าเวินไป๋รู้สึกได้ว่าตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ไม่ดีมากเหมือนกับดอกกุหลาบที่ไม่ได้รดน้ำ ใกล้เฉาเต็มที เส้าเวินไป๋นิ่งไปครู่หนึ่งซูอวี่เหมียนมองเขาด้วยความสับสนแล้วจู่ ๆ อีกฝ่ายก็พูดว่า “ครั้งก่อนคุณบอกว่าคุณกำลังเขียนวิทยานิพนธ์
ทั้งที่เป็นอาหารกลิ่นสีรสครบเครื่อง แต่เหอซ่งเฉิงกลับกินอย่างไม่เป็นตัวของตัวเองกว่าจะกินเสร็จ เขาก็รีบกล่าวลากลับไปจู่ ๆ ในห้องก็เงียบ ขณะซูอวี่เหมียนเก็บถ้วยตะเกียบ คำพูดของเจียงฉีถิงกลับวนเวียนอยู่ในสมองอย่างไม่รู้ตัวกระเพาะทะลุ...พอใจลอย มือก็ลื่นทำถ้วยหล่นแตกเธอใช้มือเก็บตามจิตใต้สำนึก ไม่ระวังจับถูกเศษถ้วย เธอสุดปากทีหนึ่ง น้ำตาตกอยู่บนหลังมืออย่างควบคุมไม่อยู่หกปี ไม่ใช่หกวัน และไม่ใช่หกเดือน ความเคยชินบางอย่างฝังลึกอยู่ในกระดูกนานแล้ว วินาทีที่ได้ยินว่าเจียงอี้หวยนอนโรงพยาบาล เธอก็กังวลขึ้นมาแบบอัตโนมัติ ทีแรกอยากไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอยู่เหมือนกันดีที่สติสัมปชัญญะสกัดจิตใต้สำนึกนี้ไว้ซูอวี่เหมียนคิด เธอจะค่อย ๆ ชินกับการไม่เป็นห่วงอีก และจะไม่หลั่งน้ำตาให้เขาอีกเธอกับเจียงอี้หวยจากที่สดใสด้วยความรัก ถึงอยู่เฝ้าอย่างแหนงหน่าย กระทั่งเลิกราในที่สุด ไม่รู้ว่ารอยร้าวเริ่มปรากฏตั้งแต่เมื่อไรอาจเป็นเพราะการผิดคำพูดครั้งแรก หรืออาจเป็นการโกหกครั้งแรกของเขา...ตอนนี้นึกดูแล้วกลับเหลือเพียงความทรงจำคลุมเครือหกปี มันสามารถสรรเสริญจนคนน้ำตาร่วงได้ แต่ก็ไม่คู่ควรให้กล่า
พอซูอวี่เหมียนกลับบ้านก็ตรวจสอบตู้เย็น ผักที่ซื้อเมื่อวานยังเหลือเยอะ จึงเตรียมจะทำสตูว์เนื้อตุ๋นมันฝรั่ง ซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน มะเขือเทศผัดไข่ แล้วก็ทำ...ผัดผักอีกอย่างเธอล้างผัก หั่นผักเร็วมาก ทำให้เหอซ่งเฉิงที่ทำกับข้าวไม่เป็นตกตะลึง“คนสมัยนี้ส่วนมากจะสั่งดิลิเวอรีหรือไม่ก็ออกไปกินกันทั้งนั้น แต่ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเองอย่างเธอนี้น้อยลงทุกที”ซูอวี่เหมียนยิ้มน้อย ๆ “รูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ฉันแค่ชินกับการทำกับข้าวกินเองเท่านั้น”เหอซ่งเฉิงมองหลังที่กำลังยุ่งงวดของเธอ แล้วมองดูรอบ ๆ รอบหนึ่งห้องไม่ใหญ่ แต่เก็บได้สะอาดมาก การจัดวางตั้งใจมากเหมือนกันห้องรับแขกมีชั้นเล็ก ๆ อยู่ชั้นหนึ่ง เต็มไปด้วยหนังสือ เขามองดูแวบหนึ่ง เห็นว่าเป็นหนังสือวิชาเอกทั้งหมด แต่หนึ่งในนั้นดูแปลกแยกเล็กน้อย เพราะมันคือหนังสือด้านฟิสิกส์แต่เขารู้สึกว่าการมองประเมินห้องของผู้หญิงแบบนี้ไม่ค่อยมีมารยาทสักเท่าไร ดังนั้นจึงไม่กล้าดูมากไม่นานอาหารหลายจานก็ขึ้นโต๊ะ บวกกับข้าวสวยร้อน ๆ กลิ่นหอมมุดเข้ารูจมูกเหอซ่งเฉิงชิมซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานคำหนึ่ง ทึ่งจนเบิกตาโพลง “อร่อยสุด ๆ ไปเลย! ฝี
เจียงฉีถิงก็งงอยู่เหมือนกันถ้าเป็นแต่ก่อน พี่ชายเธอเข้าโรงพยาบาล ซูอวี่เหมียนจะมายื่นน้ำเอาใจ น้ำตาคลอเบ้าอยู่ข้างเตียงนานแล้ว ครั้งนี้ทำไมไม่เห็นแม้แต่เงา?พอพูดออกมาอย่างนี้ ความเงียบที่เหมือนกับความตายก็ขยายตัวออกไปเจียงอี้หวยเงียบ ใบหน้าเฉยเมย พวกเฉิงโจวกับกู้อี้โจวที่รู้เรื่องก็ไม่กล้าปริปากเหมือนกันยังเป็นเสิ่นสือเยี่ยนที่พูดชืด ๆ อยู่อีกทางหนึ่ง “พวกเขาเลิกกันแล้ว พวกคุณป้าไม่รู้เหรอครับ”ซูอวี้ฉินขมวดคิ้ว “ทำไมยังทะเลาะกันอีก? นี่มันตั้งกี่วันแล้ว? อารมณ์ก้าวหน้านี่!”พอเจียงอี้หวยได้ยินก็หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม“แค่กๆ! คุณป้าครับ ครั้งนี้ เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับ...” เสิ่นสือเยี่ยนมองซูอวี้ฉินแวบหนึ่ง“หมายความว่ายังไง? ซูอวี่เหมียนยังวางมาดอีกเหรอ?!”“แม่” เจียงอี้หวยพูดตัดบทด้วยสีหน้าขึงขัง น้ำเสียงเย็นเยียบ “ครั้งนี้เลิกแล้วจริง ๆ ผมบอกเลิกเอง”“...อะไรนะ?” ซูอวี้ฉินอึ้งเจียงฉีถิงก็ทำหน้าตกตะลึงเหมือนกันพอนับดูเวลา ครั้งนี้ซูอวี่เหมียนโกรธนานจริง ๆ...ซูอวี้ฉินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาลก็โทรศัพท์หาซูอวี่เหมียนทันทีเพิ่งรับสาย ปลา
อีกทางหนึ่ง ซูอวี่เหมียนอึ้ง ในหัวผุดภาพที่เขาจูงมือกับสือมู่ซียิ้มแย้มตอบไปเรียบ ๆ “ไม่สบายก็ไปโรงพยาบาล ฉันไม่ใช่หมอ”พูดจบก็วางสายน้ำเสียงราบเรียบง่าย ๆ ราวกับที่คุยอยู่เป็นแค่คนแปลกหน้าจริง ๆเจียงอี้หวยโกรธจนกัดฟันกรามแน่น ตัวสั่นเทา เขวี้ยงโทรศัพท์มือถือกับพื้นจนแหลกไปเลยป้าหวังที่อยู่ด้านข้าง “?”นั่นมันโทรศัพท์มือถือของเธอนะ!!เจียงอี้หวยถูกซูอวี่เหมียนทำให้โมโหเลือดลมพลุ่งพล่าน กระเพาะก็ยิ่งเจ็บจึงฝืนตัวเองขึ้นชั้นบนขังตัวเองอยู่ในห้องประชดเสียเลยเธอนึกว่าเขาไม่มีเธอแล้วจะอยู่ไม่ได้เหรอ?!น่าหัวเราะ!ป้าหวังมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ต้องรายงานว่ากลายเป็นขยะแล้วก็นึกถึงการโทรศัพท์เมื่อครู่ ตามด้วยส่ายหน้าถอนหายใจก็ไม่รู้ว่าคุณชายคิดอย่างไร คุณซูเป็นผู้หญิงที่ดีออกอย่างนั้น เขากลับตัดใจไล่เธอไปได้จริง ๆ...ตอนบ่าย ป้าหวังทำความสะอาดเสร็จ เคาะประตูห้องนอนก่อนไป“คุณชาย?”ไม่มีการตอบรับ เธอนึกว่าเจียงอี้หวยกำลังโกรธ ไม่ได้คิดอะไรมากก็กลับก่อนตอนบ่ายเจียงฉีถิงขับรถมาที่คฤหาสน์ หลังจากปลดล็อกด้วยลายนิ้วมืออย่างคล่องแคล่วแล้วก็เปิดประตูเข้าบ้าน“พี่ ฉันมาถ่
ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่เธอถ่ายเส้าอวี่เวย ตอนนั้นเพิ่งลงจากรถไฟเหาะ อย่างกับหนีจากความตายอย่างนั้นแหละ พอเธอเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ไถไปจนถึงรูปสุดท้ายเหลือแต่รูปเดี่ยวของเธอ เธอคิดจะปิดมือถือ กลับพบว่าในหมู่คนสัญจรในแบ็กกราวนด์มีคนที่คุ้นเคยอยู่สองคนเธอเม้มริมฝีปาก คงไม่ทันระวังถ่ายติดสือมู่ซีกับเจียงอี้หวยด้วยนั่นแหละในรูปเธอคือตัวเอง คนที่อยู่ข้างหลังเป็นแค่แบ็กกราวนด์ แต่ทั้งสองจับมือกันตลอด กลับดูเหมือนเป็นเธอที่บุกรุกเข้าโลกของคนอื่น……“ป้าหวัง ป้าหวัง!”เจียงอี้หวยกุมท้อง เรียกสองทีทั้งหน้าซีดทว่าคฤหาสน์เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆเช้ามาเขาปวดท้องจนตื่นอาการปวดบิดส่งมาจากกระเพาะ เขาตัวเย็นไปหมด คลื่นไส้อยากอาเจียนกลับอาเจียนไม่ออกความรู้สึกนี้คุ้นเคยมาก โรคกระเพาะกำเริบแล้วนึกถึงยากระเพาะที่เตรียมไว้ในบ้าน เจียงอี้หวยย้อนรอยความคิดแล้วเริ่มรื้อค้นทว่าเหลือยาแค่กล่องเดียวแล้ว และยาในนั้นก็หมดแล้วด้วยเขาอดทนต่อความเจ็บปาดแล้วโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วย“ซื้อยากระเพาะแล้วส่งมาที่คฤหาสน์หน่อย”พอผู้ช่วยได้ยินก็ไม่กล้ารอช้า ไปซื้อมากล่องจากหนึ่งร้านยาทันทีเมื่อขั
มือของผู้ชายข้อกระดูกชัดเจน เรียวยาวสวย เธอเบนสายตาไปเล็กน้อย เห็นในรถเข็นของเขามีแต่อาหารกึ่งสำเร็จรูป ครั้นเคลื่อนสายตาขึ้นบน เจ้าของมือก็ก้มลงมามองเธอพอดีซูอวี่เหมียนยิ้ม “ของพวกนี้คงไม่ใช่มื้อเย็นของคุณหรอกนะคะ?”“แค่ก! บางทีกลับบ้านดึก ไม่อยากสั่งดิลิเวอรีก็เลยกินง่าย ๆ น่ะครับ” เส้าเวินไป๋ตอบเรียบ ๆ“ผมคำนวณมาแล้ว ของพวกนี้มีโปรตีนกับวิตามินที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน แล้วยังมีคาร์โบไฮเดรตด้วย”ซูอวี่เหมียนเห็นท่าทางอธิบายอย่างจริงจังของเขาแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “ดูท่าศาสตราจารย์เส้าจะพิจารณาทุกอย่างจากการคำนวณทางวิทยาศาสตร์และควบคุมอย่างแม่นยำสินะคะ”“แต่ถ้ามีอาหารสดใหม่ร้อน ๆ กับของพวกนี้ว่างอยู่ตรงหน้าให้เลือก คุณจะเลือกอะไรคะ?”เส้าเวินไป๋นิ่งเงียบ คำตอบชัดเจนมาก ถ้ามีอาหารร้อน ๆ ใครจะไปอยากกินอาหารจานด่วนกัน?ซูอวี่เหมียนยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพราะฉะนั้น ศาสตราจารย์เส้าคะ ฉันจะทำมื้อเย็นเอง เพื่อเป็นการตอบแทน คุณแค่ช่วยฉันทำเรื่องหนึ่งก็พอแล้วค่ะ”ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เส้าเวินไป๋มองปลาบนเขียง “...ดูเหมือนว่ามันจะจัดการยากอยู่นะครับ”ซูอวี่เหมียนกระแอมกระไอเบา ๆ “ความจริงปกต