“คุกเข่า!” จิ้งหนานอ๋องตวาดอย่างเฉียบขาดด้วยโทสะว่า “เจ้ามันขวัญสูงเทียมฟ้าไปแล้ว” “เรื่องใหญ่เช่นนี้ยังกล้ารับมาอีก รู้หรือไม่ว่าหากเจ้าพ่ายแพ้ เจ้าจะทำให้ทุกคนต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย?!” จิ้งหนานอ๋องฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะ โต๊ะไม้พะยูงตัวนั้นส่ายไปมาทันที เฉินสิงเจวี๋ยมองผู้เป็นบิดาที่อยู่เบื้องหน้า ครั้งหนึ่งในอดีต เขาก็เคยตั้งความหวังอย่างสูงต่อตนเช่นกัน กระทั่งสอนเขาขี่ม้ายิงธนูด้วยตนเอง แม้ต่อมาจะเชิญอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงมาให้การศึกษา ก็ยังไม่ลืมคอยชี้แนะอยู่เป็นประจำ ว่าไปแล้ว เขาก็เป็นบิดาที่ดีคนหนึ่ง ทว่าหลังจากที่หลัวเฟิงถูกรับกลับมา ท่านพ่อก็มิใช่ท่านพ่อของเขาอีกต่อไปแล้ว สีหน้าของหลัวเมิ่งอวิ๋นก็เต็มไปด้วยความโมโหเช่นกัน “สิงเจวี๋ย วันนี้เจ้าวู่วามไปแล้วจริงๆ หากเจ้ายังรู้ความก็ควรเข้าวังไปชี้แจงต่อฝ่าบาทเดี๋ยวนี้ ว่าแท้จริง เจ้าในวาดภาพไม่เป็นแม้แต่น้อย อย่างน้อยก็ยังรั้งม้าที่หน้าผาไว้ได้ทัน! ไม่เช่นนั้น แม้แต่พวกเราก็คงช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว” เฉินสิงเจวี๋ยมองไปรอบๆ วันนี้ยามท่านปู่เข้าวัง ก็ได้ฝืนสังขารที่เจ็บป่วยไปอย่างยากลำบาก ดังนั้น เวลานี้จึงเข้าไปพักผ่อนที
อ่านเพิ่มเติม