All Chapters of พลิกชะตาคุณชายตัวปลอม: Chapter 21 - Chapter 30

40 Chapters

บทที่ 21

ฝูเวิ่นเฟิงหัวเราะเยาะเฉินสิงเจวี๋ยกลับพูดว่า “ข้าเพียงแต่คิดว่าทุกครั้งให้พวกเจ้าชิงลงมือก่อน รู้สึกว่าพวกเราเสียเปรียบ จุดนี้แย่ยิ่งนัก มิสู้ครั้งนี้ให้พวกเราพูดก่อน จะใช้หัวข้อใดแต่งกลอน!”จากนั้น ฝูเวิ่นเฟิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ท่านรีบออกหัวข้อเถอะ หากผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งของแคว้นเป่ยเช่นข้าพ่ายแพ้ เช่นนั้นจะบั่นคอลงมาเป็นเก้าอี้ให้ท่านนั่ง”“ล้างหูฟังให้ดีก็พอ!”“ดีมาก เจ้าเป็นคนเด็ดขาดคนหนึ่ง” เฉินสิงเจวี๋ยหัวเราะอีกครั้ง จู่ๆ ก็พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา“ดาบลายทองคำประดับหยกขาว แสงสกาวพาดผ่านบานบัญชรทหารกล้าวัยห้าสิบไซร้ไร้อนุสรณ์ ดาบในกรวาดเหวี่ยงทั่วทิศาอยู่เมืองหลวงผูกไมตรีเหล่าผู้กล้า ร่วมฟันฝ่าเป็นตายไปพร้อมกันร้างนามพันปีฤาหฤหรรษ์ กมลมั่นแทนคุณขัติยานับแต่ข้าร่วมทัพริมฝั่งฮั่น ผาใต้นั้นหิมะหยกปลกสง่าโอ้! สามวงศาแคว้นฉู่ล่มแคว้นฉิน ฤาข้าสิ้นวีรชนคนกล้า?”ยามเฉินสิงเจวี๋ยเอ่ยปากท่องกวีออกมา คนแคว้นเป่ยทั้งหมดล้วนตกอยู่ในภวังค์ความเงียบส่วนคนในราชสำนักของแคว้นต้าฮั่น สีหน้าล้วนเปลี่ยนไป!เป็นกวียอดเยี่ยมที่คาดไม่ถึงอีกหนึ่งบท!อิ๋งหย่าเกอตกตะลึงเบิกตากว
Read more

บทที่ 22

“ใครก็ได้ พวกเราให้คุณชายฝูดูหน่อยเถอะ ธูปนี้ใกล้ดับแล้ว หากธูปดับเจ้ากลับไม่สามารถแต่งกวีออกมาได้ นั่นก็คือพวกเจ้าแคว้นเป่ยแพ้แล้ว นี่คือกฎที่พวกเจ้าตั้ง”“กระหม่อม พระองค์ นี่...”ฝูเวิ่นเฟิงได้รับสายตาของทุกคน ทั้งตัวคนสั่นสะท้านขึ้นมาแล้ว ชนิดที่ว่าคล้ายถูกสัตว์ตัวโตทับกระดูกสันหลัง ทำให้แผ่นหลังของเขาค้อมลงไม่ว่าใครก็แต่งบทกวีได้ แต่ต้องการเหนือกว่าเฉินสิงเจวี๋ย นั่นยากเกินไปอย่างแท้จริงยิ่งไปกว่านั้นเวลายังสั้นถึงเพียงนี้เฉินสิงเจวี๋ยย่อมรู้ว่าเวลาสั้นมาก เป้าหมายที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อให้อีกฝ่ายเกิดความคิดตกอยู่ในจุดวิกฤต ยามเขาร้อนใจ ยิ่งร้อนใจก็ยิ่งแต่งกวีไม่ออกดังนั้นเขาจึงกดดันมากขึ้น “ผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งของแคว้นเป่ยก็เพียงแค่นี้ หากเจ้าแต่งออกมาไม่ได้ก็อย่าทำให้ตนเองลำบากเลย?”ต่อให้อีกฝ่ายแต่งออกมาได้ ตนเองก็มีหนทางทำให้เหนือกว่ากวีของเขา ย่อมไม่พ่ายแพ้ให้อีกฝ่ายฝูเวิ่นเฟิงเห็นท่าทางกระหยิ่มใจของเขา ทันใดนั้นจากอายกลายเป็นพาลโกรธ“ฮึ เจ้าตัวไร้ประโยชน์ไม่ร่ำเรียนไร้ความสามารถคนหนึ่ง ข้าไม่มีวันแพ้เจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ฮึ ทาสมิอาจเชิดหน้าชูตาได้คนหนึ
Read more

บทที่ 23

“ได้ เห็นแก่เจ้าที่ครั้งนี้สร้างชื่อเสียงให้แก่แคว้น เราจะฟังเจ้าสักครั้ง”ฮ่องเต้ต้าเฉียนอารมณ์ดีมาก ไม่ถือสามากมายนัก สั่งให้ทหารราชองครักษ์ถอยออกไป บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายมากขึ้นเฉินสิงเจวี๋ยเดินมาหยุดต่อหน้าฝูเวิ่นเฟิง “แหม สหายฝู ก่อนหน้านี้พูดไว้ หากข้าพ่ายแพ้จะคุกเข่าเห่าเหมือนสุนัข แต่หากพวกเจ้าพ่ายแพ้จะเปลื้องผ้ารับทัณฑ์โบย บัดนี้ถึงตาเจ้ายอมรับผลลัพธ์นี้แล้วกระมัง”“เฉินสิงเจวี๋ย! เจ้าต้องรู้จักให้อภัยคนเสียบ้าง”“เหตุใดข้าต้องเข้าใจหลักการให้อภัยคนด้วยเล่า? หากวันนี้ข้าแพ้ พวกเจ้าทูตแคว้นเป่ยจะปล่อยข้าไปกระนั้น? หรือว่าบัดนี้พวกเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้? หากไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ก็รีบยกดินแดนจ่ายเงินชดเชยเสียเถอะ!”“เจ้า เจ้า เจ้า”“ฝูเวิ่นเฟิงเป็นบัณฑิต ได้รับการสั่งสอนจากปราชย์ผู้ยิ่งใหญ่ ไฉนเลยจะเปลื้องผ้ารับทัณฑ์โบยของพวกเจ้าที่นี่ได้?”ขุนนางของแคว้นเป่ยแต่ละคนร้อนใจแทบแย่พวกเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับฮ่องเต้ต้าเฉียน แต่เผชิญหน้ากับเฉินสิงเจวี๋ย นั่นเผยท่าทางคล้ายจะกินเขา ยังโยนสิ่งที่อยู่ในมือทั้งหมดลงบนตัวเฉินสิงเจวี๋ยอีกด้วยเฉินสิงเจวี๋ยไม่
Read more

บทที่ 24

“แต่ชื่อเสียงภายนอกเลวร้าย คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความสามารถเช่นนี้...”“นี่ยังมิได้หมายความว่าจวนจิ้งหนานอ๋องสั่งสอนได้ดีอีกหรือ? สมเป็นหลานชายสายตรงเพียงหนึ่งเดียวของท่านอ๋องผู้เฒ่าหลัว ยังรัศมีของท่านอ๋องผู้เฒ่าจริงๆ!”“ยังมิใช่อีกหรือ ข้าคิดว่า เขาเทียบกับหลัวเฟิงซื่อจื่อคนนี้แล้วคล้ายคนจวนจิ้งหนานอ๋อง คล้ายท่านอ๋องผู้เฒ่ามากกว่า!”เสียงซุบซิบดังเจื้อยแจ้ว แต่ส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางเฉินสิงเจวี๋ยประการแรก กวีสองบทนั้นยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงประการที่สอง เฉินสิงเจวี๋ยปกป้องแคว้นอย่างสง่างาม ทำให้พวกเขาภาคภูมิใจในเกียรติยศนี้อย่างไรเสีย ไม่ใช่ทุกคนล้วนสามารถเมินข้ามความเป็นความตายและความรุ่งโรจน์อดสู ขันอาสาออกมาในช่วงเวลาสำคัญสีหน้าอิ๋งหย่าเกอเศร้าหมองนางเองก็ถูกรัศมีบนตัวของเฉินสิงเจวี๋ยยับยั้งไว้แล้ว“เฉินซื่อจื่อ ท่านทำเช่นนี้คือกำลังหยามเกียรติบัณฑิตอย่างแท้จริง ระหว่างพวกเราสองแคว้น ทูตมาเยือน ไม่สมควรถูกหยามเกียรติ หากท่านยังฝืนทำเช่นนี้ รอพวกเรากลับไปทูลกษัตริย์ของแคว้นเป่ย ท่านไม่กลัวจะก่อให้เกิดความขัดแย้งของสองแคว้นหรือ?”“จิ๊ๆ ๆ องค์หญิงช่างน่าขันโดยแท้ คนต้องการเดิม
Read more

บทที่ 25

สรุปว่าเขาวาสนาไม่ดี เผชิญหน้ากับตน“เฉินซื่อจื่อ ยินดีด้วยจริงๆ พวกท่านต้าเฉียนชนะแล้ว” อิ๋งหย่าเกอพูดได้เพียงแค่นี้เดิมทีนางก็ไม่อยากยอมรับว่าพวกเขาแคว้นเป่ยมิอาจสู้ได้ แต่บัดนี้ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องมีความมั่นใจหนึ่งร้อยส่วน ถึงขั้นพลิกสถานการณ์กลับมาได้สำเร็จวันนี้พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว ดังนั้นองค์หญิงแคว้นเป่ยคนนี้คิดว่ายังไม่สู้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ หลีกเลี่ยงมิให้ภายภาคหน้าเสียหน้าไปยิ่งกว่านี้ขุนนางในราชสำนักของต้าเฉียนแต่ละคนอยากกลับไปเฉลิมฉลองเสียเดียวนี้เลย!สายตาทอประกายระยับของพวกเขาทำร้ายหัวใจของทูตแคว้นเป่ยอย่างสาหัส!ฮ่องเต้ต้าเฉียนเองก็รู้สึกเหลือจะเชื่อ คิดไม่ถึงเลยว่าสวรรค์จะคุ้มครองต้าเฉียน!พวกเขาชนะแล้ว!อิ๋งหย่าเกอพูดอย่างมิอาจหักใจ “ฮึ ทางด้านบทกวี พวกท่านชนะแล้ว แต่ ดีดพิณเดินหมากกวีวาดภาพ พิณ หมาก วาดภาพ พวกท่านยังมิได้แข่ง พวกเราเองก็ยังไม่สิ้นหวัง!”นางยิ่งพูดก็ยิ่งมั่นใจในตนเอง อย่างไรเสียทางด้านนี้แคว้นเป่ยก็กดดันพวกเขาแคว้นต้าเฉียนไว้ทั้งหมด“อ้อ งั้นหรือ?”“ใช่ พวกท่านจะแข่งต่อเยี่ยงไร?”นางคิดว่า เพียงแต่ชนะบทกวี พวกเขายังแข่งกันไม่จบ ย่อมต้องเ
Read more

บทที่ 26

ทว่าตอนนี้กลับถูกคนใช้เงินมาตีราคา นี่จะให้พวกเขายอมรับได้อย่างไร?ขณะบรรยากาศกำลังตึงเครียด เฉินสิงเจวี๋ยมองทางฮ่องเต้ต้าเฉียน พบว่าอีกฝ่ายเผยสายตาละโมบอยู่รางๆเฉินสิงเจวี๋ยเข้าใจในทันใด ห้าล้านตำลึงทอง สำหรับต้าเฉียนแล้วเป็นจำนวนไม่น้อย คาดว่าต้าเฉียนต้องการเงินเหล่านี้มาเติมเต็มคลังหลวงทว่าเขากลับอยากเห็นคนของแคว้นเป่ยขายหน้า นี่ถึงสามารถคลายโทสะได้ เงินนับเป็นอะไรกัน?เดิมทีเฉินสิงเจวี๋ยอยากปฏิเสธ แต่ฮ่องเต้ต้าเฉียนที่ไม่พูดอะไรมาโดยตลอดกลับกระแอมเบาๆ เฉินสิงเจวี๋ยได้ยินจึงหันไปมอง พบว่าฮ่องเต้ต้าเฉียนพยักหน้าเบาๆดังนั้น เขาจึงยักไหล่ พูดอย่างไม่ยี่หระ “ก็ได้ ห้าล้านตำลึงก็ห้าล้านตำลึง!”ได้ยินเฉินสิงเจวี๋ยพูดเช่นนี้ เหล่าขุนนางต้าเฉียนล้วนพูดไม่ออกยังห้าล้านตำลึงก็ห้าล้านตำลึงอีกหรือ?เจ้าเด็กนี่ เขารู้ว่าห้าล้านตำลึงทองมากน้อยเพียงใดหรือไม่?แม้ว่าสำหรับแคว้นเป่ยที่ร่ำรวยจะคล้ายหนึ่งเมล็ดข้าวในมหาสมุทรแต่สำหรับต้าเฉียนก็คือสมบัติล้ำค่าตลอดทั้งปีคลังหลวงได้รับของมาก็แค่เล็กน้อยฮ่องเต้ต้าเฉียนกลับเข้าใจ แม้ว่าต้าเฉียนเองก็เป็นหนึ่งในเจ็ดแคว้นแต่ระดับความร่ำรวยก
Read more

บทที่ 27

สีหน้าขุนนางแคว้นเป่ยเขียวแล้ว!“องค์หญิงทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่ได้เป็นอันขาด”“ท่านเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์ของแคว้นข้า ไฉนเลยจะเดิมพันกับคนต่ำต้อยเช่นนี้ได้?”“ใช่แล้ว องค์หญิงได้โปรดส่งสารถามความเห็นจากฝ่าบาทด้วยเถอะ จะทำเช่นนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”“องค์หญิง โปรดถอนคำพูดด้วย!”พวกเขาล้วนกลัวขึ้นมาแล้ว ก่อนนี้พ่ายแพ้หนึ่งครั้ง ทำให้บัดนี้พวกเขาไม่มีความเชื่อมั่น หากชนะนั่นก็ไม่เป็นไร หากแพ้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นไม่ได้กำไรแล้วยังขาดทุนอีกนะ พวกเขาพาองค์หญิงออกมา หากครั้งนี้องค์หญิงไม่สามารถกลับไปอย่างสมบูรณ์ได้ เช่นนั้นศีรษะของพวกเขาก็เตรียมตกพื้นเถอะ ประหารเก้าชั่วโคตรไม่ใช่เรื่องที่สามารถนำมาล้อเล่นได้ฮ่องเต้ต้าเฉียนหรี่ตา “องค์หญิงอิ๋ง นี่เจ้ามิได้กำลังล้อเล่นหรอกกระมัง?”“พวกท่านไม่เชื่อ ข้าสามารถเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรได้”ดูท่าแล้วนางอึดอัดคับข้องใจที่ต้องพ่ายแพ้ให้เฉินสิงเจวี๋ยจริงๆชนิดที่ว่ายังถลึงตาใส่เฉินสิงเจวี๋ย ภายในสายตาล้วนคือความไม่ยอมแพ้นางสูงส่งล้ำค่ามากเพียงใด อีกทั้งยังไม่เคยถูกดูหมิ่นมาก่อน วันนี้ถูกเฉินสิงเจวี๋ยทำให้โมโหแย่แล้วมิหนำซ้ำยังเป็นคนไร้ค่าเช่นนี้!เปลี
Read more

บทที่ 28

นางเชิญปรมาจารย์นักวาดมาได้จริงหรือ?สีหน้าเหล่าขุนนางแคว้นต้าเฉียนล้วนเขียวแล้วใต้เท้าหัวหน้าสำนักศึกษารีบเอ่ยว่า “ฝ่าบาท จะเดิมพันไม่ได้เป็นอันขาด!”“ใช่แล้ว ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าหากเผชิญหน้ากับหูจื่อเว่ย นั่นคือไม่มีโอกาสชนะพ่ะย่ะค่ะ!”เสนาบดีกงลิ่งอี๋เองก็เผยสีหน้าไม่เห็นด้วย “ปรมาจารย์นักวาดฝีมือยอดเยี่ยมดุจเซียน ไม่ใช่คนธรรมดาจะสามารถเทียบได้ พวกเราต้องแพ้แน่!”“กระหม่อมโชคดีเคยรับชมภาพวาดมาก่อน สามารถยืนยันได้ว่านี่เป็นเรื่องจริง! ต้าเฉียนไม่มีคนสามารถเทียบได้ อาจารย์สวินเองก็ไม่ได้!”ทุกคนล้วนไม่เห็นด้วยให้แข่งขันแต่เฉินสิงเจวี๋ยกลับรู้ปรมาจารย์นักวาดหูจื่อเว่ยนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วหล้าเมื่อสามสิบปีก่อนตอนนั้น ฝีมือการวาดภาพของเขาเหนือชั้นอย่างยิ่ง ไร้คู่ต่อสู้ โดยเฉพาะภาพวาดหงส์มังกร มีชีวิตราวกับเป็นจริง คล้ายสามารถบินออกมาได้ทุกเมื่อ ภาพวาด ‘ภูเขานทีหมื่นลี้’ ชวนให้ตกตะลึงพรึงเพริด!แต่ในช่วงเวลารุ่งโรจน์ที่สุด เขากลับหายตัวไปอย่างกะทันหัน สามสิบปีมานี้ ในแวดวงจิตรกรรมมีอาจารย์มากมายปรากฏขึ้น กลับไม่มีใครสามารถเทียบหูจื่อเว่ยได้หากองค์หญิงแคว้นเป่ยเชิญเขา
Read more

บทที่ 29

พระชายายังอยากพูดอะไร กลับถูกท่านอ๋องผู้เฒ่าถลึงตากลับไป แม้แต่จิ้งหนานอ๋องก็ไม่กล้าเปล่งเสียงแล้วเฉินสิงเจวี๋ยมองหลัวเมิ่งอวิ๋น “อ้อ นายน้อยหลัวหมายความว่ากระไร? จะยอมให้ต้าเฉียนของพวกเรายอมรับว่าด้อยกว่าผู้อื่น? จากนั้นพวกเขาแคว้นเป่ยจากไปด้วยตนเอง? ไม่มาทำให้พวกเราลำบากแล้ว?”หลัวเฟิงคิดไม่ถึงเขาถึงขั้นไม่ไว้หน้าตนต่อหน้าทุกคน ทันใดนั้นอับอายจนพาลโกรธ ต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกบิดาตนดึงกลับไป“พวกเจ้าพี่สาวน้องชายเป็นตัวโง่งมกระนั้น? ไม่เห็นเจตนาของฝ่าบาทหรือ? ยังพูดอีก ระวังศีรษะจะหลุดจากบ่า!”ดังคาด หลัวเฟิงมองไป ฝ่าบาทกำลังจ้องเฉินสิงเจวี๋ยคนนั้นตาเขม็งเฉินสิงเจวี๋ยเดาออกแล้ว ฮ่องเต้ต้าเฉียนไม่อ่อนแอจนถูกเอาเปรียบหาไม่แล้วก็คงจะไม่ใช้คนโดยยึดคุณธรรมเป็นหลัก ให้ความสำคัญต่อแม่ทัพหญิงอย่างมู่หรงเสวี่ย คว้าชัยชนะมาได้ก็ตกรางวัลอย่างงาม!เขาในฐานะผู้ปกครองต้าเฉียน ย่อมไม่สามารถขี้ขลาด แต่เขาต้องคำนึงถึงความคิดของเหล่าขุนนางและราษฎร์พวกเขาไม่อยากวู่วาม อยากใช้ชีวิตสงบสุข ไม่อยากล่วงเกินแคว้นใหญ่ โดยเฉพาะแคว้นเป่ยมหาอำนาจเช่นนี้ส่วนเฉินสิงเจวี๋ยทำลายสมดุล แทงหัวใจท
Read more

บทที่ 30

“ท่านหมายความว่ากระไร?”ดูท่าแล้วอิ๋งหย่าเกอองค์หญิงท่านนี้เป็นเด็กอ่อนหัดคนหนึ่ง ไม่เข้าใจอันใดทว่าเหล่าบุรุษที่นี่ต่างหัวเราะขึ้นมาในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าตกลงสายตากรุ้มกริ่มเหล่านั้นหมายความว่ากระไร? ทั้งตัวคนจากอายพาลเป็นโกรธท่าทางอรชรแบบบางนั้นช่างชวนให้คนเห็นแล้วรู้สึกว่าน่ารักจริงๆหลังนางตอบสนองกลับมาแล้ว ทำเพียงหัวเราะเยาะเฉินสิงเจวี๋ย “เฉินซื่อจื่อถึงขั้นไม่ใช่คนมีความรักลึกซึ้งเหมือนในข่าวลือ ข้าได้ยินข่าวลือผิดไปแล้วจริงๆ ข้ายังคิดว่าท่านปักใจอยู่กับแม่ทัพมู่หรงเสวี่ยเสียอีกนะ! หากไม่ใช่นางไม่วันแต่ง!”“ฮ่าๆ ท่านไปฟังข่าวลือมาจากที่ใดกัน แม่ทัพมู่หรงและนายน้อยหลัวแต่งงานกันตั้งนานแล้ว ถ้อยคำนี้ของท่านไม่กลัวคนเห็นเป็นตัวตลกให้หมิ่นแคลนหรือ!”เฉินสิงเจวี๋ยถึงขั้นพูดเรื่องนี้อย่างเปิดเผยต่อหน้าคนนอก ทำให้คนของจวนจิ้งหนานอ๋องสีหน้าดำทึบทึม!บนใบหน้ามู่หรงเสวี่ยกลับสะท้อนความรำคาญใจอยู่รางๆ!นี่เขาหมายความว่าอะไรกัน?อิ๋งหย่าเกอมองเขาอย่างท้าทายแวบหนึ่ง “โอ้? เช่นนั้นหรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็วางใจแล้ว! หากคุณชายเฉินมีความสามารถ เช่นนั้นข้าก็ไม่คิดบ่ายเบี่ยง
Read more
PREV
1234
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status