บททั้งหมดของ มารดาผู้นี้จะรีดไถเงินบิดาที่ไม่เคยเลี้ยงดูให้หมดตัวเลย: บทที่ 1 - บทที่ 10

63

บทนำ

เจ้าสาวถูกพาตัวเข้ามาเพื่อทำพิธี เจ้าบ่าวยืนรออยู่ก่อนหน้า แขกเหรื่อผู้มีหน้ามีตาเข้าร่วมกันเต็มไปหมด บรรยากาศล้วนชื่นมื่น เมื่อเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวได้มาพบกัน และเตรียมคำนับฟ้าดินเพื่อผ่านการเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ตามพิธีกรรมที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แต่แล้วอยู่ๆ กลับปรากฏว่ามีกองกำลังหนึ่งก็พุ่งตรงเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ “ท่านหลี่ลู่ซือ เสนาบดีกรมคลัง โปรดไปกับพวกเรา!” หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น พวกเขาคือหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ภายใต้สังกัดสำนักบูรพาที่ขึ้นตรงกับองค์จักรพรรดิ “เราตรวจสอบและมีหลักฐานชัดเจนว่าท่านอาจจะเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าข้าวและเกลือให้พวกหยวน เราต้องการสอบสวนท่านเพิ่มเติม เพื่อความบริสุทธิ์ใจ โปรดอย่าขัดขืน และตามเราไปแต่โดยดี!” “เกิดอะไรขึ้น! ข้าไม่รู้เรื่อง ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ทำ!” ความวุ่นวายโกลาหลบังเกิด เมื่อบิดาของเจ้าสาวถูกจับกุมตัว เสียงอื้ออึงอลหม่านของผู้คนที่มาร่วมพิธีดังวุ่นวายไปหมด หลี่ฮูหยินเป็นลมไปในทันทีเมื่อเห็นว่าสามีถูกจับกุมตัว “หวังซู่ ช่วยท่านพ่อข้าด้วย ท่านพ่อเป็นขุนนางที่ซื่อตรง ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดแน่!” หลี่ซูเจินผ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

1.1

“ฮือๆๆ เกิดอะไรขึ้น ข้าไม่เข้าใจเลย” ซูเจินเดินโซซัดโซเซโดยมีเพื่อนสนิทอย่างสวี่อ้ายฉิงคอยประคอง “ฉิงเอ๋อร์ บอกข้าทีว่าหวังซู่จะกลับมาช่วยข้าใช่ไหม ฮือ...ข้าหมั้นหมายกับเขามานาน รู้จักกันมากที่สุด ข้าเชื่อว่าเขาต้องมา ฮือ...” “ใจเย็นๆ ก่อนซูเจิน หวังซู่ต้องกลับมาช่วยเจ้าแน่ แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก” หญิงสาวหันมองรอบๆ ว่าปลอดคนใช่หรือไม่ เพราะเหตุการณ์นี้จะมีคนอื่นรู้อีกไม่ได้ ว่านางล่อลวงหลี่ซูเจินออกมาจากบ้านที่กำลังวุ่นวายเพราะสิ้นไร้ประมุขกะทันหัน ด้วยอยู่ๆ เสนาบดีกรมคลังอย่างหลี่ลู่ซือก็เกิดเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุภายหลังถูกกุมตัว “ซูเจิน วันนี้เจ้าอ่อนล้านัก พักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้อะไรๆ มันคงดีขึ้นเอง” “ข้าอยากกลับบ้าน ใช่สิ ข้าต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ ตอนนี้ท่านแม่ไม่มีใครแล้ว หลิงเอ๋อร์! หลิงเอ๋อร์! อยู่แถวนี้หรือเปล่า มาประคองข้าที” ซูเจินถูกมอมสุราจนเมามายไร้สติ เรียกหาสาวใช้ประจำตัวโดยลืมไปเสียสนิทว่านางหนีออกมาคนเดียวและมาเจออ้ายฉิงรออยู่ด้านหน้า ก่อนจะพากันมาจบที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ดื่มกินเสียจนแทบจะลืมโลกเพราะอ้ายฉิงรินให้ไม่หยุด ดื่มจน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

1.2

อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้นางพูดแบบนั้น อาจเป็นจิตใต้สำนึกก็เป็นได้ และแล้วเมื่อร่างทั้งสองเปลือยเปล่าคลอเคล้าเคียงกาย มือของซูเจินก็สัมผัสไปที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ รู้สึกได้ถึงไฝอีกสามเม็ดเรียงกันเป็นเส้นแนวขวาง นางกำลังจะครวญครางเพราะความเสียวกระสัน แต่เพราะอยู่ๆ ถูกสอดเสียดในความคับแคบอย่างไม่ทันตั้งตัว เลยกลายเป็นหวีดร้องแทน “อ๊า...” “ฮึ่ม...” ชายปริศนาคำรามตอบ เขาเริ่มกระแทกกระทั้นความแน่นหนั่นเป็นจังหวะสวบสาบ หญิงสาวปล่อยมือจากหน้าท้องเขาแล้วไปกำผ้าปูที่นอนไว้แทน เจ็บแปลบอย่างไม่เคยพบเจอแต่เพียงครู่เดียวก็กลายเป็นความหรรษา ดวงตาคู่งามปรือขึ้นเพื่อจะเพิ่งหน้ามองอีกฝ่ายให้ได้ แต่กลับเห็นเพียงเรือนกายและโครงหน้าที่นางเชื่อว่าเขาเป็นคนหนุ่มรูปงาม แต่ก็เพียงเท่านั้น เพราะการร่วมรักด้วยความเมามันมิได้จบแค่ครั้งเดียว มันยังถูกกระทำต่อเนื่อง เปลี่ยนท่วงท่าไปเรื่อยๆ จนขาเตียงแทบโยกคลอน “ขะ...ข้าไม่ไหว ข้าไม่ไหวแล้ว” ซูเจินจิกเล็บลงไปที่ต้นขาแกร่งตอนที่นางถูกจับพลิกหลัง เป็นท่าที่สอดประสานได้แนบแน่นจนขนลุกชูชัน “ช่วยด้วย ข้าเหมือนกำลังจะ...จะแตกเป็
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

2.1

หกปีผ่านไป...“ยายเฒ่า! ยายเฒ่า!” เสียงเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน หญิงสาวสองคนที่เพิ่งกลับมาถึงหมาดๆ และกำลังเตรียมทำอาหารอยู่ในครัวได้แต่มองหน้ากัน คนเด็กกว่าทำท่าจะออกไปดู แต่เป็นอีกคนที่ยกมือปราม“หลิงเอ๋อร์ เจ้ามือเลอะแล้วเพราะกำลังผสมเครื่องปรุง แต่ข้ายังไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากล้างผัก เดี๋ยวข้าไปดูเอง”“เจ้าค่ะ คุณหนู” ตอบรับด้วยความเคยชินก่อนจะสะดุดเมื่อเห็นสายตาดุๆ ที่มองมา นางเลยเปลี่ยนคำพูดแล้วเสียงก็อ่อนลง “จ้ะ พี่ซูเจิน” เช็ดมือลวกๆ กับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินออกจากครัว เห็นมารดากำลังพยายามประคองตัวเองด้วยไม้เท้า สีหน้าตกใจไม่แพ้กัน หญิงสาวจึงไปเปิดประตูออกอย่างแรง ก็พอดีคนที่ทุบประตูปังๆ เกือบได้หน้าทิ่ม “อ้าว วันนี้เจ้าอยู่บ้านหรืออาเจิน” เป็นแม่ค้าขายปลาในตลาดที่คุ้นเคยกัน แต่ไม่ค่อยจะเป็นในทางที่ดีนัก “อยู่ก็ดี เพราะข้าเบื่อจะคุยกับแม่เฒ่า นี่แนะดูฝีมือลูกสาวเจ้าเสียก่อน มาทำอาเต้าของข้าปากแตกจนได้เลือด เจ้าเป็นแม่จะรับผิดชอบยังไงหา!” “รับผิดชอบ?” หญิงสาวทวนคำเสียงสูง หันมองเด็กชายตัวอ้วนกลมทรงเดียวกับแม่ของเขา เห็นปากบวมเจ่อมีคราบเลือดจริง ก็เลยหันไปหาเด็กตั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

2.2

“เอ๊ะ นังเด็กบ้านี่ ลูกข้าพูดแบบนั้นเสียที่ไหน ว้าย!” นางหว่านพุ่งเข้ามาหมายจะหยุมหัวเด็กน้อยแต่กลับถูกแม่ของอีกฝ่ายผลักอย่างแรงจนตัวกระเด็น เหมือนที่นางผลักไฉไฉเมื่อครู่ “อาเจิน เจ้าผลักข้าทำไม มันเจ็บนะ” “เมื่อครู่พี่หว่านก็ผลักลูกข้า ลูกข้าก็เจ็บ” ไม่ใช่เพียงเท่านั้นเพราะตอนนี้นางถกแขนเสื้อขึ้นทำท่าจะเอาเรื่อง “อาเต้าอายุเท่านี้ย่อมไม่รู้ความว่าพูดอะไรออกไป เด็กวัยนี้พี่หว่านก็รู้ว่าชอบพูดตามผู้ใหญ่ ดังนั้นคำแปลกๆ แบบนี้ ข้าย่อมเข้าใจได้ว่า อาเต้าฟังมาจากแม่ของเขานั่นเอง” “ใช่ๆ ขอรับน้าเจิน!” อาเต้าเข้าใจว่าเป็นคำชมเลยรีบตอบรับ “ข้าฟังมาจากท่านแม่ ตอนไปคุยกับป้าหวังและป้ามู่ บอกว่าไฉไฉไม่มีพ่อเพราะน้าเจินใจแตก ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าแปลว่าอะไร” “นี่! อาเต้า” แม่ค้าขายปลาห้ามบุตรชายผู้ฉลาดเฉลียวไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ยืนหน้าซีด รีบขยุ้มคอเสื้อลูกแล้วรีบลากออกไปทันที “เอาเถอะๆ ความจริงเด็กๆ ตีกันเป็นเรื่องปกติ ข้าไม่ถือสาหาความก็ได้เพราะไฉไฉก็เจ็บเหมือนกัน อย่างนั้นข้ากลับก่อน ลาแล้วแม่เฒ่า ฮึ่ย! กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยอาเต้า ปากไม่มีหูรูด!” สองแม่ลูกตัววุ่นวาย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

3.1

เป็นมารดาหรืออดีตหลี่ฮูหยินนั่นเอง และซูเจินผู้นี้จะเป็นใครไปเสียมิได้ ถ้าไม่ใช่หลี่ซูเจิน หญิงสาวผู้ถูกทอดทิ้งในวันวิวาห์ และถูกมอมสุราให้ไปเสพสมกับชายแปลกหน้าจนตั้งครรภ์ ก่อให้เกิดไฉไฉสาวน้อยผู้น่ารักนี่เอง “ท่านแม่ ความจริงมันโหดร้ายเกินไปเจ้าค่ะ จะให้ข้าบอกลูกได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ว่าพ่อของนางไม่ใช่ทหารที่มีเกียรติ แต่เป็น...ผู้ชายบำบัดความใคร่ในโรงเตี๊ยม” เป็นเรื่องเจ็บปวดแต่หญิงสาวชาชินแล้วที่จะพูดถึงชายปริศนา“เขาก็คงถูกจ้างมาให้ทำร้ายข้า วันเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ เขาก็คงไม่มีความทรงจำหลงเหลือแล้ว ดีไม่ดียังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ให้ไฉไฉเข้าใจว่าพ่อของนางเป็นทหารดีแล้วเจ้าค่ะ แล้ววันหนึ่งเราค่อยบอกว่าพ่อของนางเสียชีวิตในสนามรบก็ได้ ฟังแล้วมันน่าภูมิใจกว่าบอกว่าพ่อตายเพราะเป็นโรคทางกาม” “ตายแล้ว พูดมาได้อย่างไร” หลี่ฮูหยินตกใจคำพูดลูกสาว หกปีผ่านไปได้ทำลายหลี่ซูเจินผู้อ่อนด้อยต่อโลกนี้ไปจนหมดสิ้น นางกลายเป็นหลี่ซูเจินคนใหม่ที่ไม่เกรงกลัวอะไรอีก อยากพูดอะไรก็พูด และไม่ยอมให้ใครมารังแกนางยังจำวันนั้นได้ เมื่อหลี่ลู่ซือผู้เป็นสามีถูกองครักษ์เสื้อแพรคุมตัวไปแ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

3.2

ดังนั้นซูเจินกับหลิงเอ๋อร์ที่ไม่ยอมไปไหน จึงต้องรับจ้างทำงานในสวนผักของชาวบ้านไปด้วย แม้จะเป็นงานหนักและได้เงินน้อย แต่ข้อดีคือจะมีผักสดๆ เหลือให้เอากลับมาทำอาหารกินได้ทุกวัน บางครั้งก็โชคดีได้เนื้อสัตว์ป่าที่เพื่อนบ้านเมตตาแบ่งปันให้ เพราะเห็นว่าบ้านนางมีแต่ผู้หญิง กระทั่งซูเจินพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ หญิงสาวก็ราวกับว่าเกิดความฮึกเหิมมากขึ้นที่จะมีชีวิตอยู่ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดที่ความผิดพลาดก่อให้เกิดชีวิตใหม่ แต่หลี่ฮูหยินมาคิดๆ ดูแล้ว การมีไฉไฉกลับทำให้แววตาของบุตรสาวกลับมาฉายแววประกายอีกครั้ง แม้ซูเจินจะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยนางก็ไม่คิดสั้น ตอนนี้นางมีความหวังใหม่ คือการเป็นแม่ที่ดีให้ลูกสาวเมื่อรู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ หลี่ฮูหยินจึงค่อยๆ เดินยักแย่ยักยันเข้าบ้าน ซูเจินลอบถอนใจอีกรอบ มารดาเคยเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ที่ได้รับการเคารพนับหน้าถือตาเพราะเป็นคนใจบุญสุนทาน บัดนี้กลายเป็นแม่เฒ่าผู้ตกอับต้องสวมใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ และไหนจะโรคของผู้สูงวัยอีก นางไม่มีเงินมากพอจะซื้อยาดีๆ หรืออาหารบำรุงร่างกายให้ ทำได้แต่ประคองอาการไปวันๆ เห็นมารดาเป็นแบบนี้ ก็อด
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

4.1

“โถ่...ท่านแม่”หลี่ซูเจินแทบทรุดลงไปกับพื้น เจ็บปวดแทบอยากร้องไห้แต่ไม่กล้าร้องเพราะกลัวทุกอย่างจะยิ่งแย่ หญิงหม้ายเหมือนคิดอะไรอยู่นานแล้วแต่ไม่กล้าพูด สุดท้ายก็ยอมเอ่ยเพราะสงสารครอบครัวนี้“อาเจิน อย่าหาว่าข้าดูถูก แต่บ้านนอกมันก็อย่างนี้เอง คงไม่เหมือนเมืองที่พวกเจ้าจากมา” นางว่าช้าๆ “ที่หมู่บ้านข้างๆ ข้าได้ยินว่ามีโรงน้ำชามาเปิดใหม่ หากเจ้าหรือน้องสาวไปขอทำงานที่นั่น หน้าตาสวยๆ อย่างพวกเจ้า บางทีก็อาจจะ...เอ่อ...และคงได้เงินมาก”“ข้าไม่ขายตัว! อาหลิงก็ด้วย พวกเราไม่ขายเรือนร่าง!” ซูเจินแผดเสียงกร้าวเพราะเข้าใจได้ในทันทีว่านางหลิวหมายถึงอะไร แต่เห็นสีหน้าเจื่อนๆ ของอีกฝ่ายก็ใจเย็นลง เพราะเชื่อว่าที่พูดมาคงเพราะหวังดี “ป้าหลิว ให้พวกข้าทำงานอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ขายตัว พวกเราทำได้หมด ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ”“เฮ้อ...อาเจินเอ๋ย พูดก็พูดเถอะ ที่ข้ากับผัวที่ตายจากไปคิดตรงกันเห็นจะมีเรื่องเดียว ก็คืออย่ามีลูก” นางคิดถึงสามีที่ตายไปเป็นสิบๆ ปีแล้ว “ถ้าข้ามีลูกกับตาแก่นั่น ก็มิรู้ว่าจะมีปัญญาเลี้ยงได้ดีหรือไม่ เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตมาได้ต้องกินต้องใช้ตั้งเท่าไร ความจริงหากเจ้าไม่ต้องเลี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

4.2

“เป็นอะไรหน้าแดง หรือจะไม่สบาย” ป้าหลิวทักเพราะอยู่ๆ เห็นซูเจินเงียบไปแล้วแก้มก็แดงฉ่ำ หญิงสาวหัวเราะแห้งๆ กลบเกลื่อน เพราะที่หน้าแดงขึ้นมาด้วยนางดันไปคิดถึงฉากลามกเข้า ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันแสนจะประทับติดในความทรงจำ “อาเจิน ลองคิดดูดีๆ ไปหาพ่อของไฉไฉสักครั้ง ไปบอกให้เขารู้ว่าเขามีลูกสาวอยู่ตรงนี้ หรืออย่างน้อยก็ไปเอาเงินจากเขามาสักก้อนเพื่อให้ตั้งตัวได้ จะได้พาแม่เฒ่าไปหาหมอ และจะได้เลี้ยงดูไฉไฉให้ดีกว่านี้ด้วย เจ้าไม่เห็นหรือว่าลูกตัวเองตัวเล็กกว่าลูกคนอื่นมากนัก ข้าว่าคงเพราะนางไม่ค่อยได้กินเนื้อแน่ๆ เฮ้อ...เด็กๆ น่ะต้องกินเนื้อเยอะๆ รู้หรือไม่ จะได้ตัวโตๆ”พูดถึงความป่วยไข้ของมารดา และตัวที่แทบจะเรียกได้ว่าแคระแกร็นของลูกสาว ความหม่นหมองก็เกาะกุมในหัวใจทันที นางยิ้มกลับคืนให้ป้าหลิว“ข้าจะลองไปคุยกับท่านแม่ดูก่อน และอาหลิงด้วย เพราะถ้าข้าไม่อยู่ นางจะดูแลทั้งท่านแม่และไฉไฉไหวหรือเปล่า” พูดแล้วก็ถอนใจรอบที่ร้อย “บางทีข้าคงต้องพาไฉไฉไปด้วย เฮ้อ...ไม่อยากให้ลูกไปด้วยเลย”“เอาน่า สิ่งที่ดีกว่าอาจจะรอเจ้าอยู่เบื้องหน้าก็ได้” หญิงม่ายปลอบ “ถ้าไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ชีวิตเจ้าก็จะดำเนินต่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม

5.1

“ซูเจินหลานรัก ดีจริงๆ ที่ได้พบกัน คิดว่าชาตินี้จะไม่ได้พบหน้าเสียแล้ว” เป็นหลี่เหลียงซือหรืออารองที่พูดไปก็ร้องไห้ไป เห็นสร้อยที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ก็จำได้ว่าเป็นของที่จะให้แค่ผู้หญิงในตระกูล “ตอนพี่สะใภ้ส่งจดหมายมาให้ อาดีใจมาก อยากจะไปเยี่ยมพี่สะใภ้ด้วยตนเองอยู่ไม่น้อย แต่ก็อย่างที่หลานเห็น ชีวิตของอาก็ไม่ได้จะดีสักเท่าใด ผ่านวันเวลามาได้ด้วยความลำบากยากเย็นนัก แล้วนี่อาสะใภ้ของหลานก็มาด่วนจากไปเมื่อปีก่อน อาก็เลยหยุดปิดร้านสักวันก็ยังทำไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะไม่พอค่าเช่าที่กันพอดี...”ซูเจินลูบไล้สร้อยที่ใส่อยู่ มารดาให้ไว้เมื่อวันที่นางจะเดินทางจากมา ความจริงแล้วนางเองก็เคยมีอยู่เส้นหนึ่งใส่ติดตัวตลอดแต่มันหายไปไหนไม่ทราบ พอจะเข้าเมืองหลวงเพื่อความไม่ประมาท เพราะซูเจินกับอารองก็ไม่ได้พบหน้ากันนานแล้ว หลี่ฮูหยินจึงเอาสร้อยประจำตระกูลหลี่ใส่ให้ เมื่อไปถึงจะได้เป็นสัญลักษณ์ไม่ให้ทักผิดตัว“อารอง ท่านแม่สบายดี อย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ พวกเราเข้าใจว่าอารองอยู่ทางนี้ก็คงจะลำบากไม่น้อยเช่นกัน”หลี่เหลียงซือเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของหลี่ซูเจินที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นน้องชายของหลี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234567
DMCA.com Protection Status