All Chapters of โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น: Chapter 171 - Chapter 180

208 Chapters

บทที่ 171

ฮ่องเต้น้อยพอใจมากที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร แต่คุณูปการกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครเล่าอยากจะตรวจอ่านฎีกาทั้งวัน......ตอนที่พระราชโองการมาถึงจวนซิ่นหยางโหวทุกคนในจวนล้วนออกมาฟังพระราชโองการ พระราชโองการมอบให้สกุลฉี หรงจือจือไม่ใช่คนของสกุลฉีแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกไปฟัง ต่อให้คนในราชสำนักถามหาความรับผิดชอบ ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง ดังนั้นนางจึงไม่มาคนของสกุลฉีเพียงคิดว่ามีสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น ไหนเลยจะสนใจว่าหรงจือจือจะมาหรือไม่ แต่พอฟังเจตนารมณ์ของราชโองการจบ ก็รู้สึกราวกับท้องฟ้าถล่มลงมาแล้วนางถานถึงขนาดอยากจะไปเรือนหลันเพื่อฆ่าหรงจือจือ!ขันทีที่ถ่ายทอดพระราชโองการยังกล่าวอีกว่า “ข้าน้อยขออนุญาตตักเตือนอีกสักประโยค ตอนนี้ในจวนของท่าน มีเพียงฉีจื่อฟู่ผู้เดียวที่เป็นขุนนางขั้นหก ส่วนแม่นางหรงกลับเป็นบุตรสาวคนโตสายตรงของขุนนางระดับสูงขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่ควรล่วงเกิน ต่อไปพวกท่านยังคงอย่าล่วงเกินจะดีกว่า!”ระหว่างทางมาถ่ายทอดพระราชโองการ เขาได้พบกับเซินเฮ่อแพทย์แผนจีนกรมขุนนาง ลูกศิษย์ของท่านเสนาบดี ใต้เท้าเซินให้ตนเองมาบอกประโยคนี้ ขันทีที่ไหนจะไม่รู้ว่า ความคิดของใต้เท้าเซิน
Read more

บทที่ 172

ฉีอวิ่น “....”ขันทีน้อย “อย่าให้ใต้เท้าของสำนักฮั่นหลินต้องรอจนหงุดหงิดเลย!”ผู้ที่รับผิดชอบในการติเตียน ก็คือบัณฑิตขั้นห้าของสำนักฮั่นหลินท่านหนึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน ตำแหน่งขุนนางแค่นี้ ย่อมไม่คู่ควรให้ซิ่นหยางโหวชายตามองด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ฉีอวิ่นเป็นคนธรรมดาแล้ว ยังมีค่าพอให้คนอื่นรอที่ไหนกัน?เขาขานรับด้วยหน้าถอดสีเสียงหนึ่ง “ขอรับ!”ขันทีน้อยนั่นยังตักเตือนฉีจื่อฟู่อีกหนึ่งประโยคว่า “ใต้เท้าฉี อย่าลืมโขกศีรษะด้วยนะขอรับ!”พูดจบเขาก็แอบกลอกตา ปกติไปประกาศพระราชโองการที่ไม่ดีในบ้านผู้ใด ทั้งครอบครัวจะกอดกันร้องไห้ และปลอบใจซึ่งกันและกันมีเพียงสกุลฉีเท่านั้น ที่โทษซึ่งกันและกัน คิดว่าความผิดเป็นของคนรอบกาย วันนี้เขาก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้วฉีจื่อฟู่ขานรับด้วยความหงุดหงิดแต่ก่อนฉีอวิ่นจะออกไป ยังมองฉีจื่อฟู่ด้วยความดุร้ายอีกหนึ่งครั้ง “หลังโขกศีรษะแล้วไปเกลี้ยกล่อมหรงจือจือให้ข้า แล้วบอกให้นางไปขอร้องพ่อตาเจ้าเพื่อครอบครัวเราด้วย!”ในความคิดของฉีอวิ่น ในเมื่อมหาราชครูหรงมีอิทธิพลทำให้ครอบครัวเขาถูกปลดจากตำแหน่งได้ก็สามารถมีอิทธิพลให้ครอบครัวพวกเขากลับมาสู่จุดสูงสุดได้อีก
Read more

บทที่ 173

เขาแทบจะคิดว่า ฮ่องเต้องค์ก่อนตอนนั้นได้ขอให้ตนเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทนจริง หรือว่าตนเองจำผิดมาเป็นเวลานานหลายปี เลยประเมินอิทธิพลของตนเองต่ำเกินไป?นางหวังกล่าว “ท่านพี่ดีทุกอย่างมาโดยตลอด ราวกับพระจันทร์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า แล้วลูกศิษย์ก็มีมากมาย การมีอำนาจเช่นนี้ แล้วมันมีอะไรน่าแปลกหรือเจ้าคะ?”มหาราชครูหรงกลับรู้สึก เกรงว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นเวลานี้ พ่อบ้านเข้ามารางงานพอดี “นายท่าน ใต้เท้าสวีเจ๋อเสนาธิการฝ่ายซ้ายกรมโยธาธิการขอเข้าพบขอรับ”คิดว่าสวีเจ๋อคงมาเพราะเรื่องนี้เช่นกัน มหาราชครูหรงจึงกล่าวว่า “เชิญเขาไปที่ห้องหนังสือของข้า!”นางหวังรีบกล่าว “ข้าจะไปเตรียมขนมเข้ามาด้วยตนเองนะเจ้าคะ”สวีเจ๋อเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่ภาคภูมิใจของมหาราชครูหรง เขาโดดเด่นมากในหมู่รุ่นน้อง และมักจะเรียกนางหวังว่าอาจารย์แม่ นางหวังจึงสนิทสนมกับเขาอย่างมากมหาราชครูหรงพยักหน้าตอนที่นางหวังเข้ามาในห้องหนังสือ ก็บังเอิญได้ยินสวีเจ๋อกับมหาราชครูหรงคุยกัน ว่าเรื่องนี้ท่านเสนาบดีเข้ามาแทรกแซงแล้วมหาราชครูฟังจนนิ่งเงียบไปเล็กน้อยแต่สวีเจ๋อกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ท่านอาจารย์ ตอนน
Read more

บทที่ 174

นางหวังมองนางทีหนึ่ง พลางกล่าวตำหนิ “ช่างไร้ยางอายเสียจริง ข้ากับท่านพ่อเจ้าพูดคุยกัน เจ้ามาแอบฟังทำไม?”หรงเจียวเจียว “มีหนึ่งลวดลายที่ปักไม่สวยเท่าท่านแม่ จึงคิดจะมาขอให้ท่านแม่สอน ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังสักหน่อยเจ้าค่ะ”ขณะที่พูดใบหน้าของนางยิ่งแดงมากขึ้นแล้วนางแตกต่างกับหรงจือจือ หรงจือจือมักจะไม่ไปงานเลี้ยงเพราะท่านย่า แต่หรงเจียวเจียวยังคงไปกับมารดาอยู่หลายครั้งครั้งแรกที่นางเห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่น ก็รู้สึกว่าบนโลกไม่มีผู้ใดสง่างามและโดดเด่นไปกว่าเขาอีกแล้ว นางเก็บเขาไว้ในใจมาสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้มารดาคิดจะหาคู่ให้นาง นางมักจะปฏิเสธอยู่เสมอนางหวังรู้ถึงความในใจของนาง แต่อัครมหาเสนาบดีเสิ่นกล่าวไว้ว่าอุทิศตนเพื่อแผ่นดิน นางจะกล้าพูดมากได้อย่างไร? กระทั่งครั้งนี้เห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่นมีท่าทีเป็นมิตร นางจึงเอ่ยปากกับมหาราชครูหรงมหาราชครูหรงมองหรงเจียวเจียวอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ในเมื่อเตรียมจะพูดคุยเรื่องแต่งงาน เจ้าก็ควรทิ้งภาพลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์จากอดีตนั่นเสียบ้าง อย่าได้แต่งเข้าบ้านสามีแล้วยังไม่รู้ความเช่นนี้อีก มันจะทำให้สกุลหรงของพวกเราขายหน้า!”หรงเจียวเจียวกล่าว “ท่า
Read more

บทที่ 175

เพียงเพราะตนเองคุกเข่านานเกินไป แต่ก็ไม่ได้สนใจพอกลับมาถึงเรือน อวี้ม่านหว่าก็หลั่งน้ำตา เมื่อเห็นหมอประจำจวนพันแผลให้เขา “ท่านพี่ฟู่ เห็นท่านเป็นเช่นนี้ ข้าปวดใจเหลือเกินเจ้าค่ะ”ฉีจื่อฟู่ได้ยินก็ซาบซึ้งใจแค่ตนเองทุกข์นิดหน่อย ม่านหวาก็หลั่งน้ำตาแล้ว แต่จือจือเล่า? นางเป็นคนทำร้ายตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้!ท่านพ่อตำหนิที่เมื่อวานตนเองไม่ยอมไปเกลี้ยกล่อมจือจือ หากไม่ใช่เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งบิดา เขาคงอยากจะถามว่า เมื่อเทียบกับท่าทีของพวกนางที่มีต่อเขา เขาไม่ควรอยู่ข้างกายม่านหวาหรอกหรือ?หลังหมอประจำจวนจากไป ฉีจื่อฟู่ก็นอนลง พลางกล่าวช้า ๆ ว่า “เจ้าเป็นองค์หญิง เพราะติดตามข้า ช่วงนี้กลับโดนตบตีอยู่เสมอ แถมยังไม่ได้รับความเคารพนับถืออีก ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย!”อวี้ม่านหวา “ตราบใดที่สามารถอยู่กับท่านพี่ฟู่ได้ ข้ายินดี เพียงแต่...”ฉีจื่อฟู่มองนางทีหนึ่ง ในดวงตาล้วนเต็มไปด้วยความระมัดระวัง “เพียงแต่อะไรหรือ?”จือจือรักเขาเพราะมีเงื่อนไข ว่าต้องรับประกันตำแหน่งภรรยาเอกของนาง แถมยังต้องหมุนรอบตัวนาง และทำทุกอย่างเพื่อนางก่อน มิเช่นนั้นนางก็จะสร้างความวุ่นวายให้ตนเองหรือว่าความรักที่
Read more

บทที่ 176

หรงจือจือ “เป็นไปได้หรือไม่ ว่านกแก้วตัวนี้จะจำทางผิดเอง?”เจาซี “...ไม่น่าจะเป็นไปได้กระมัง?หรงจือจือมองพวงดอกไม้นั่นอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่ากิ่งก้านที่อยู่ในพวง เคยถูกขัดเงาอย่างประณีตมาก่อน จนกลมกลึงอย่างยิ่ง แม้หน้าผากนางจะมีบาดแผลเล็ก ๆ หากสวมเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก็ไม่อาจทำให้หน้าผากเจ็บได้แต่เจาซีในเวลานี้ ยังนึกอะไรขึ้นมาได้อีก “คุณหนู จู่ ๆ ข้าน้อยนึกขึ้นได้ว่า ตอนพวกเราพบท่านเสนาบดีที่ได้รับบาดเจ็บในปีนั้น บนศีรษะของท่าน ก็สวมพวงดอกไม้ ดูสวยงามมากทีเดียว หรือว่าจะเป็น...”ท่านเสนาบดีคิดว่าท่านชอบ?ดอกไม้ของปีนั้น ล้วนเป็นดอกไม้ที่พบตอนไปเก็บผลไม้ป่าในป่า หลังหรงจือจือเด็ดมันลงมา ก็สานทำเป็นพวงดอกไม้ แล้วสวมบนศีรษะ อายุสิบหกปีเป็นวัยแห่งความไร้เดียงสาพอดีแม้อารมณ์ในตอนนี้จะแตกต่างจากเมื่อก่อน แต่พอมองสิ่งที่งดงามเช่นนี้ ก็ยังคงทำให้อารมณ์ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรงจือจือก็รู้ว่าเจาซีกำลังคาดเดาถึงผู้ใดแต่ไม่มีหลักฐาน จึงไม่มีอะไรน่าคาดเดา นางวางพวงดอกไม้ลง “ลองดูวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีคนมาขอรับไปหรือไม่”เจาซี “เจ้าค่ะ! หากวันพรุ่งนี้ตอนกลางวันยังไม่มีใครมา ท่านก็สวมเ
Read more

บทที่ 177

เห็นข้าจากมาแล้ว นางจะต้องรู้ว่าตนเองทำเกินไป จากนั้นไม่นาน นางก็จะเข้ามาขอโทษข้าเป็นแน่”ดังนั้นเขาจึงไม่ไปเรือนจวี่ แต่กลับมาที่เรือนของตนเอง เพราะกลัวว่าหรงจือจือจะคิดว่าม่านหวายังอยู่ จึงอายเกินกว่าจะขอโทษตนเองเขาคิดแทนจือจือรอบคอบเช่นนี้แล้ว นางไม่ยังไม่มาอีก ก็ดูจะไร้เหตุผลไปหน่อย ชิวยี่ตกตะลึง “ฮะ? ฮูหยินรองจะมาหรือขอรับ?”ความจริงท่าทีที่ฮูหยินรองมีต่อคุณชายในตอนนี้ ดูเฉยชามากจริง ๆ นางถึงขนาดเข้าไปฟ้องบ้านมารดาให้เปลี่ยนจวนโหวให้กลายเป็นคนธรรมดาได้ แล้วยังจะสงสารคุณชายอยู่อีกหรือ? นี่ไม่เหมือนท่าทางของความสงสารเลยปากของฉีจื่อฟู่พูดเช่นนั้น แต่ความจริงเมื่อนึกถึงท่าทีในช่วงนี้ของจือจือ ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนักตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่รู้ว่าพูดให้ชิวยี่ฟัง หรือว่าปลอบใจตนเองกันแน่ “เจ้าลืมแล้วหรือ? เมื่อก่อนจือจือดีต่อข้าเช่นนั้น ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเช่นนี้ นางจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร​?”“ก็แค่อารมร์ฉุนเฉียวของพวกผู้หญิง อยากให้ข้าสงสาร และเอาใจใส่นางเหมือนสงสารม่านหวาบ้างก็เท่านั้น!”เมื่อพูดจบ ฉีจื่อฟู่ก็สงบลงไปบ้างแล้ว หลังอาบน้ำและล้มตัวลงนอนอยู่บนเตียง ก็รอหรง
Read more

บทที่ 178

ชิวยี่ “...ขอรับ!”อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่อวี้ม่านหวายังตะลึงงันตอนนี้หรงจือจือเกลียดชังและเย็นชาต่อฉีจื่อฟู่ จนแทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้ว เขายังคงพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ ก็ไม่รู้ว่าสติเลอะเลือนไปหรือไม่ไม่รอให้นางจะพูดอะไรฉีจื่อฟู่ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าอย่ามองว่าช่วงนี้จือจือมักไม่สนใจข้า ความจริงแล้วนางงอนข้าอยู่เท่านั้น เพียงแต่ความโกรธของนางรุนแรงเกินไปหน่อย”“ข้าแค่ต้องให้โอกาสนางอีกสักหน่อย นางต้องยอมอ่อนข้อเป็นแน่”อวี้ม่านหวาถึงกับไม่กล้าบอกเขาว่าพูดถูกอย่างที่ผ่านมา เพราะกังวลว่าหากตนเองส่งเสริมเขาแล้ว หรงจือจือกลับไม่ไปส่งจริง ๆ หากเขาต้องหิวทั้งวัน และกลับมาโทษตนเองที่ส่งเสริมเขามั่วซั่วจะทำอย่างไร?หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คิดวิธีที่ไม่ข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ “ช่วงนี้ฮูหยินรองค่อนข้างเอาแต่ใจ หากไม่ไปจริง ๆ......ท่านพี่ฟู่นำขนมใส่กล่องไปบ้างไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ พอถึงที่ว่าการแล้วหิวขึ้นมา ก็ยังพอกินรองท้องได้บ้าง”จากนั้นฉีจื่อฟู่ก็โบกมือ พลางกล่าว “ไม่ล่ะ! หากนำไป จือจือจะคิดว่าข้าจริงใจได้อย่างไร? เรื่องของซี่อวี่เจ้าวางใจ วันนี้ข้าจะไปสอบถามที่อยู่ของนา
Read more

บทที่ 179

หากเป็นเมื่อก่อน อย่างน้อยหรงจือจืออาจจะใส่ใจจริง ๆ แต่ตอนนี้ นางยังมีอะไรให้ต้องใส่ใจอีกหรือ?นางดื่มรังนกเสร็จ ก็หัวเราะช้า ๆ “แก้เคล็ด? เช่นนั้นหวังว่าในคืนเข้าหอของถานผิงถิง นางถานจะมีความสุขขึ้นมาได้จริง ๆ แล้วกัน!”ทำชุดแต่งงานสีแดงสดให้ถานผิงถิงงั้นหรือ?รอให้ถึงวันนั้น เกรงว่านางถานจะมองทุกอย่างที่เป็นสีแดงในจวนนี้แล้ว ต้องรู้สึกขัดหูขัดตาไปเสียหมดเจาอู้กล่าว “เนื่องจากถานผิงถิงบาดเจ็บที่ใบหน้า ทั้งสองสกุลจึงต้องการให้งานแต่งนี้จัดขึ้นโดยเร็วที่สุด คิดว่าความเศร้าเสียใจของนางถานที่จะเกิดขึ้นหลังจากความปีติยินดีถึงขีดสุด คงจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันนี้แล้วเจ้าค่ะ”หรงจือจือ “หลังนางถานส่งสินสอดถึงมือนางหลิว อันธพาลที่นางหลิวเลี้ยงไว้คนนั้น ช่วงนี้คงมีเงินอยู่ในมืออีกแล้วใช่หรือไม่?”เจาอู้ “จะไม่ใช่ได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ? เขายังไปบ่อนอีกด้วย เมื่อคืนเขาเสียเงินไปเยอะมาก เล่นพนันทั้งคืน คิดไม่ถึงว่าจะเสียเงินไปหกพันตำลึงเชียวเจ้าค่ะ!”“พูดขึ้นมาก็บังเอิญ ที่เขาไปก็คือบ่อนที่ก่อนหน้านี้ตงหลิงเคยพาคุณชายสี่ไป หากไปอีกครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะพบกับคุณชายสี่ก็เป็นได้นะเจ้าค่ะ!”เจาซีเข้
Read more

บทที่ 180

เจ้าหน้าที่พวกนั้นหนังศีรษะชาวาบ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าท่านเสนาบดีหมายความว่าอย่างไร เหตุใดดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก? ระดับชั้นที่ต่ำต้อยอย่างพวกเขา ไม่เคยมีโอกาสพบหรงจือจือมาก่อน วันนี้ขอหวังสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรกระมัง?พวกเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย แต่อยากเห็นก็เท่านั้นเองตอนที่ยังไม่เข้าใจความคิดของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ที่ฉลาด มักจะรู้จักรักษาความสงบนิ่งอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยิ่งพูดยิ่งผิดพวกเขาตัวสั่น ต่างก็ไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาเสิ่นเยี่ยนซูมองพวกเขาอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง ก็หมุนกายเดินเข้าไปในโถงหลักที่ว่าการของศาลหลงสิง เจ้าหน้าที่องครักษ์หลงสิงส่วนใหญ่ ล้วนทำงานกันอยู่ด้านในโถงหลักแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นรวมทั้งฉีจื่อฟู่ด้วยเห็นเสิ่นเยี่ยนซูเข้ามา ทุกคนต่างคุกเข่าลง “คารวะท่านสมุหราชเลขาธิการขอรับ!”เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไม่ต้องมากพิธี”ฉีจื่อฟู่เงยหน้ามองอย่างระมัดระวัง หากไม่ใช่เพราะอัครมหาเสนาบดีเสิ่น ม่านหวาคงไม่ใช่แค่อนุ ตนเองก็ไม่ใช่เป็นแค่ขุนนางชั้นหกเล็ก ๆ นี้เท่านั้นอย่างไรก็ตาม แม้ฝ่าบาทยังเคารพอีกฝ่ายในฐานะท่านเสนาบดี แต่
Read more
PREV
1
...
161718192021
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status