บททั้งหมดของ ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ: บทที่ 91 - บทที่ 100

114

91 : คุณชายใหญ่เสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่งขอรับ     

91 : คุณชายใหญ่เสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่งขอรับ แม่ทัพโหย่วนั่งมองแผนการรบตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ท่อนอ๋องห้าไม่สามารถส่งกองทหารมาช่วยได้ เขายังพอเข้าใจเพราะสถานการณ์ชายแดนฝั่งนั้นอันตราย แต่เหตุใดราชสำนักถึงไม่ส่งกองหนุนมาให้ เช่นนี้ไม่เท่ากับละทิ้งเมืองเว่ย์หรอกรึ “ท่านแม่ทัพมีเรื่องรายงานขอรับ” “เข้ามา !” “ฝั่งคุณชายใหญ่เกิดเรื่องแล้วขอรับ ข้าศึกบุกโจมตีค่ายเมื่อคืน คุณชายใหญ่กับคุณชายรองเสียทีให้กับพวกมัน คุณชายใหญ่เสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่งขอรับ” เพล้ง ! แม่ทัพโหย่วกวาดกาน้ำชาบนโต๊ะลงพื้นด้วยความโมโห บุตรชายคนโตทายาทคนต่อไปของตระกูลโหย่ว กลายเป็นคนพิการเหลือแขนข้างเดียวไปแล้ว เขาพยายามสงบสติอารมณ์ลง ทรุดตัวลงนั่งบนตั่งเหมือนคนหมดแรง ราวหนึ่งเค่อทหารได้เข้ามารายงานเขาอีกครั้ง “เรียนท่านแม่ทัพท่านอ๋องเจ็ดเชิญท่านที่กระโจมขอรับ” ครั้งนี้ท่านอ๋องเจ็ดเป็นคนนำทัพออกรบด้วยตัวเอง มีบรรดาบุตรชายทั้งหกคนของเขาตามติดมาด้วย เพราะเป็นสงครามครั้งสำคัญของเมืองเว่ย์ โอกาสพ่ายสงครามนั้นมีสูง เนื่องจากจำนวนทหารที่ต่างกันถึงเท่าตัว แ
อ่านเพิ่มเติม

92 : อพยพออกจากเมืองเว่ย์

92 : อพยพออกจากเมืองเว่ย์ เซี่ยซือซือตุนเสบียงไว้ในมิติพิเศษค่อนข้างมากพอ นางยังได้จัดหาอาวุธสองสามชนิดเอาไว้อีกด้วย ตอนมีข่าวเรื่องสงครามลุกลามมาใกล้ นางได้จ้างโรงหล่อเหล็กทำอาวุธให้ นางมีความรู้สึกว่าอาจต้องได้ใช้มันในสักวัน ตอนถานจ้านเห็นนางเก็บของพวกนี้ในมิติพิเศษ เขานึกตัวเองตาฝาดอาวุธมากมายหายวับไปกับตา จากนั้นนางก็เก็บอาหารกับข้าวของทั้งหมด ไม่เหลือไว้เลยสักอย่าง “ของข้าเยอะนี่เจ้าค่ะ” นางบอกอย่างเก้อเขินเล็กน้อย เมื่อเห็นสามีทำหน้าประหลาดใจแบบสุดขั้ว “เช่นนั้นหนังสือพวกนี้ของข้าเจ้าเก็บไปด้วยได้หรือไม่” “ได้เจ้าค่ะ เอาเข้าไปทั้งชั้นเลยนะเจ้าคะ ในกระท่อมมีพื้นที่ว่างอยู่” นางหลับตาจับไปที่ชั้นวางตำรา สักพักมันก็หายวับเข้าไปอยู่ในมิติพิเศษของนาง “ข้าจะพยายามทำตัวให้ชินกับเรื่องนี้” ถานจ้านถอนหายใจเบา ๆ ออกมา “เช่นนั้นเจ้าก็เอาของในเรือนหลังนี้ เข้าไปในมิติพิเศษของเจ้าให้หมดก็แล้วกัน” “กระท่อมข้าเล็กนิดเดียวเก็บแค่เสบียงกับยาก็เต็มแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากเอาทิ้งไว้ด้านนอกกระท่อม ในมิติพิเศษของข้าก็มีสัตว์มีแมลงเหมือนกันนะเ
อ่านเพิ่มเติม

93 : พบกันที่อำเภอเหอ    

93 : พบกันที่อำเภอเหอ การเดินทางเป็นไปอย่างตึงเครียด ระหว่างทางเจอชาวบ้านที่กำลังอพยพกันอยู่เป็นระยะ พวกเขาเดินทางด้วยเท้าจึงทำให้ขบวนรถม้าแซงหน้าไปได้ เซี่ยซือซือได้แต่ถอดถอนหายใจไปตลอดทาง สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายกว่า ตอนหนีมาจากหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่เสียอีก “เมื่อก่อนพวกเราก็เดินเท้าเจ้ายังจำได้หรือไม่” ถานจ้านเอ่ยขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงความหดหู่ผ่านทางสายตาของภรรยา “ข้าจำได้เจ้าค่ะ เพียงแต่ข้าอดสงสารพวกชาวบ้านไม่ได้” “เราช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้หรอก ทุกคนต่างมีชีวิตของตัวเอง วาสนาคนเราไม่เหมือนกัน” “ก็คงเป็นเช่นนั้น เสียดายที่พวกเราไม่สามารถหยุดสงครามได้ เสียดายที่ท่านอ๋องเจ็ดมีทหารไม่มากพอ เสียดายที่ราชสำนักไม่ส่งกองหนุนมาให้ ข้าเสียดายเรือนที่เมืองเว่ย์ด้วย” “เจ้านี่มีเรื่องให้เสียดายมากมายไปหมด” รอยยิ้มของถานจ้านบอกถึงความเอ็นดู ในตัวของภรรยาเป็นอย่างมาก “ก็มันจริงนี่เจ้าคะ” ขบวนอพยพจากจวนแม่ทัพโหย่ว ใช้เวลาเดินทางสองวันเต็ม ๆ กว่าจะถึงอำเภอเหอ ชาวบ้านที่นี่พากันอพยพออกไปกันหมดแล้ว จวนนายอำเภอในตอนนี้เป
อ่านเพิ่มเติม

94 : เหตุใดเจ้าถึงเพิ่งเอาเรื่องนี้มาบอกข้าจิ่นฟาน

94 : เหตุใดเจ้าถึงเพิ่งเอาเรื่องนี้มาบอกข้าจิ่นฟาน หยวนหย่งเล่ออยู่เล่นกับเสี่ยวซือหยาง และพูดคุยกับคนอื่น ๆ ในบ้าน ราวสองเค่อเขาก็ขอตัวกลับ เนื่องจากต้องรายงานท่านอ๋องเจ็ดเรื่องยาของเซี่ยซือซือ แต่ก่อนกลับเขาดึงเซี่ยซือซือไปถามเรื่องบางอย่างตามลำพัง “ข้าได้ข่าวว่าคุณหนูสามของจวนแม่ทัพโหย่ว นั่งเกี้ยวเจ้าสาวไปเมืองเสียนหยาง อยู่ในขบวนอพยพครั้งนี้ด้วย” “ใช่เจ้าค่ะ” “แล้วคนของซื่อจื่อที่มารับตัวเจ้าสาวนั้น ใครเป็นคนคุ้มกันมารึ” “หืม ?” เซี่ยซือซือมองเขาอย่างพินิจพิจารณา ท่าทางเลิ่กลั่กนี่มันคืออันใด หากเขาอยากรู้เรื่องของจวนแม่ทัพโหย่ว เขาน่าจะเข้าถึงข่าวพวกนั้นง่ายกว่านางไม่ใช่รึ “เจ้าอย่ามองข้าแปลก ๆ เรื่องเรือนหลังของผู้อื่นข้าจะไปถามมั่วซั่วไม่ได้” “อ้อ เลยมาถามเอากับข้า ที่เป็นคนนอกนี่นะเจ้าคะ นายท่านหยวนเหตุใดถึงคิดว่าข้ารู้ล่ะ” “เจ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ข้าคงคาดหวังมากเกินไป” หยวนหย่งเล่อหมุนตัวกำลังจะกลับ แต่เสียงของเซี่ยซือซือดังไล่หลังเขามา “หัวหน้าขบวนคือท่านหลัวจง ส่วนหัวหน้าคุ้มกันขบวนคือ
อ่านเพิ่มเติม

95 : อย่างไรถานจ้านก็เป็นสายเลือดของข้า

95 : อย่างไรถานจ้านก็เป็นสายเลือดของข้า รุ่งเช้าก่อนออกเดินทาง แม่ทัพโหย่วได้มาขอพบนางถานที่เรือน พวกเขานั่งคุยกันในห้องโถง โดยไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าไปในนั้น แม้แต่คนสนิทยังถูกสั่งให้รออยู่ด้านนอก “เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกความจริงกับข้าเรื่องถานจ้าน” แม่ทัพโหย่วมองนางถานด้วยสายตาเฉยชา เขาไม่สามารถจดจำสาวใช้ในเรือนของตัวเองได้จริง ๆ “ท่านแม่ทัพท่านจำข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้าคิดว่าไม่ควรเอ่ยถึงเรื่องในอดีตอีกต่อไปเจ้าค่ะ” นางถานเงยหน้ามองสบสายตากับเขา ความเย็นชาในดวงตาคู่ตรงหน้า ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “เจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไรกับเรื่องนี้เหลียนฮวา” นางถานมองหน้าแม่ทัพโหย่วอีกครั้ง นางสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ในดวงตาคู่นี้ไม่เคยมีนางอยู่ในนั้นเลย ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน นางยังต้องการสิ่งใดอีกรึ “ทำเหมือนท่านไม่เคยรู้เรื่องนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ” “เหลวไหล ! อย่างไรถานจ้านก็เป็นสายเลือดของข้า เมื่อรู้แล้วจะทำเป็นไม่รู้ได้อย่างไร” แม่ทัพโหย่วนอนคิดมาตลอดทั้งคืน ถึงได้มาขอพบนางถานในเช้าวันนี้ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปเมืองเสียนหยาง และชั
อ่านเพิ่มเติม

96 : อยู่ให้ห่างจากขบวนสองลี้ก็แล้วกัน

96 : อยู่ให้ห่างจากขบวนสองลี้ก็แล้วกัน การเดินทางผ่านเทือกเขาชุนเทียน ขบวนสองจวนรวมกันมีทหารอารักขาอีกกองทัพหนึ่งย่อย ๆ ทำให้เซี่ยซือซือต้องแยกรถม้าของพวกนางออกมาจากขบวน พวกทหารไม่ยอมให้พวกนางแทรกเข้าไปในแถวได้ นางกับอาจารย์ฮู่จึงทำได้เพียงเดินทางตามหลังขบวนพวกเขาไป “อาจารย์ฮู่ขบวนนำหน้าเป็นท่านอ๋องเจ็ดกับครอบครัว ทหารคุ้มกันหนาแน่นเช่นนี้ พวกเราคงแทรกเข้าไปในขบวนไม่ได้แน่ ตามหลังพวกเขาไปติด ๆ ก็แล้วกันนะเจ้าคะ” เมื่อถูกกันออกมาจากขบวน เซี่ยซือซือจึงต้องคุยกับอาจารย์ฮู่ให้เข้าใจ “พวกเขาทำถูกแล้วล่ะซือซือ นี่เป็นยามคับขันของท่านอ๋องเจ็ด พวกเราก็อย่าไปรบกวนขบวนของท่านเลย” เมื่ออาจารย์ฮู่เห็นด้วยเช่นนี้ รถม้าสองคันจึงได้วิ่งตามหลังทหารม้าคนสุดท้ายไปติด ๆ แต่เหมือนทหารม้านายหนึ่งจะสงสัย ถึงกับขี่ม้ากลับมาถามถานจ้านกับเซี่ยซือซือว่าพวกเขาเป็นใคร “พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงได้มาตามหลังขบวนท่านอ๋องเจ็ดเช่นนี้” “พวกข้าเป็นชาวบ้านในเมืองเว่ย์ กำลังลี้ภัยสงครามไปเมืองเสียนหยางขอรับ” ถานจ้านตอบอย่างนอบน้อม “เจ้าชื่อแซ่อันใด มาจา
อ่านเพิ่มเติม

97 : เทือกเขาชุนเทียนถูกปิดล้อม 

97 : เทือกเขาชุนเทียนถูกปิดล้อม ถานจ้านกับอาจารย์ฮู่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถละทิ้งบ้านเมืองได้จริง ๆ เซี่ยซือซือไม่แปลกใจในการตัดสินใจของทั้งคู่ ตัวนางก็เห็นด้วยเช่นกัน ผู้คนที่ติดอยู่บนภูเขาลูกนี้มีหลายคนที่นางรู้จัก ไม่อาจเพิกเฉยความเป็นตายหนนี้ได้จริง ๆ เมื่อคนในครอบครัวเข้าไปนั่งในรถม้ากันหมดแล้ว เซี่ยซือซือจึงเอ่ยกับอาจารย์ฮู่ที่อยู่ด้านข้าง “พวกเขาออกเดินทางไปกันแล้วเจ้าค่ะ” “ใครกันซือซือ” “ครอบครัวของท่านอ๋องเจ็ดกับแม่ทัพโหย่วเจ้าค่ะ” “พวกเราอยู่ห่างจากพวกเขาตั้งสองลี้ ต่อให้เร่งอย่างไรก็ไม่ทันหรอกเจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือเอ่ยไปตามที่นางเห็น “ทำเช่นไรดีขอรับอาจารย์ฮู่” ถานจ้านอยากช่วยแต่ไม่มีความสามารถเพียงพอ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องเร่งเดินทางไปให้ทันพวกเขา” “ทหารของท่านอ๋องปักหลักอยู่ที่ภูเขาลูกข้างหน้า ข้าคิดว่าท่านอ๋องคงคิดตั้งฐานลับของทหารไว้ที่นั่น พวกเราไปถึงที่นั่นแล้วเข้าไปแจ้งข่าวเรื่องนี้ ให้พวกเขาส่งทหารม้าเร็ว ไปแจ้งขบวนที่เดินทางไปเมืองเสียนหยางดีหรือไม่”
อ่านเพิ่มเติม

98 : ติดอยู่บนเทือกเขาชุนเทียน

98 : ติดอยู่บนเทือกเขาชุนเทียน “เป็นไปไม่ได้ที่สตรีชาวบ้านเช่นเจ้า จะสามารถมองเห็นกองทหารข้าศึกได้ทั้งหมดนี้ เจ้าบอกข้ามาตามตรงเซี่ยซือซือ เจ้าใช้เล่ห์กลอันใดกันแน่” ท่านอ๋องเจ็ดเอ่ยหลังจากอยู่ตามลำพังกับพวกเขา “นางมีตาทิพย์ขอรับ” ถานจ้านรู้ว่าไม่มีข้ออ้างใดดีไปกว่าการพูดความจริง “หวังว่าท่านอ๋องจะเก็บเป็นความลับให้ภรรยาของข้า นางมีความสามารถพิเศษเช่นนี้เกรงว่าจะนำภัยมาสู่ตัวเอง พวกเราเลยไม่กล้าเอ่ยต่อหน้าคนอื่นขอรับ” ท่านอ๋องเจ็ดเลิกคิ้วขึ้นสูง มองพิจารณาถานจ้านอีกครั้ง “เจ้ารู้จักปกป้องภรรยาของตัวเองจริง ๆ หากนางมีตาทิพย์จริง ข้าคงต้องขอให้นางอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือการทำศึกสงคราม เจ้าจะว่าอย่างไร” “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแทนนางไม่ได้ขอรับ” “เช่นนั้นรึ” ท่านอ๋องเจ็ดหันไปทางเซี่ยซือซือแทน “เจ้าล่ะ” “ข้าจะไปที่ใดได้เจ้าคะ ข้างล่างก็ข้าศึกบนภูเขาก็ข้าศึก คงต้องอยู่ที่นี่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านอ๋องไปก่อนสักพัก” “ฮึ เจ้าเข้าใจพูดนะเซี่ยซือซือ เป็นสตรีแต่กลับไม่มีแววตาหวาดกลัวแม้แต่น้อย หากเรื่องที่เจ้าบอกมาเป็นความจริง ข้
อ่านเพิ่มเติม

99 : ขบวนอพยพย้อนกลับมา   

99 : ขบวนอพยพย้อนกลับมา ขบวนอพยพย้อนกลับมาก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงไปแล้ว แม่ทัพโหย่วมอบหมายให้พ่อบ้านหลิว เป็นคนจัดหาสถานที่ตั้งกระโจมให้พวกเขา โดยแบ่งเป็นสองแห่งด้วยกัน แห่งแรกอยู่ใกล้กับกระโจมหลักมากที่สุด เป็นคนของจวนท่านอ๋องเจ็ด อีกแห่งเป็นของจวนแม่ทัพโหย่ว พวกเขาตั้งกระโจมถัดออกไปเล็กน้อย มีเพียงกระโจมของเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ที่ได้อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าค่ายทหาร กระโจมแต่ละแห่งมีทหารคอยคุ้มกันอยู่ ผู้อื่นไม่สามารถเดินผ่านเข้าไปได้ หากไม่ได้รับอนุญาต พอใกล้ค่ำท่านอ๋องเจ็ดได้รับรายงาน จากทหารที่ส่งออกไปสำรวจตามแต่ละจุดบนก้อนหิน และเป็นจริงดั่งที่เซี่ยซือซือเตือนเอาไว้ มีทหารของข้าศึกอยู่ตำแหน่งก้อนหิน ที่นางวางบนแผนที่จริง ๆ หนนี้ท่านอ๋องเจ็ดเรียกเพียงแม่ทัพโหย่ว เข้าไปหารืออย่างเงียบ ๆ “เป็นจริงอย่างที่เซี่ยซือซือเตือนมาหรือขอรับ” แม่ทัพโหย่วเองก็ไม่อยากเชื่อในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน นึกว่านางคงคาดเดาไม่เรื่อย “ใช่ ข้าเองก็ไม่คิดว่านางจะมีความสามารถเช่นนี้” ท่านอ๋องเจ็ดแววตาแข็งกระด้างขึ้นในทันที “รอบตัวข้ามีไส้ศึกกี่คนกันแน่”
อ่านเพิ่มเติม

100 : จับไส้ศึกได้แล้ว

100 : จับไส้ศึกได้แล้ว หลูจิ่นฟานเดินสวนทั้งคู่เข้ามาหาแม่ทัพโหย่ว เพื่อรายงานเรื่องแม่นมหวางมาขอเข้าพบ เพื่อเชิญแม่ทัพโหย่วไปที่กระโจมของโหย่วฮูหยิน เนื่องจากนางมีเรื่องสำคัญต้องการหารือด้วยเป็นการด่วน “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อน” แม่ทัพโหย่วยังกลัดกลุ้มกับเรื่องหาไส้ศึกอยู่ พอได้ยินว่าฮูหยินของตนมีเรื่องสำคัญต้องหารือ ความไม่สบายใจผุดขึ้นในใจทันที หากไม่ใช่เรื่องสำคัญจริง ๆ ฮูหยินของเขาคงไม่อยากพบหน้าในช่วงเวลาเช่นนี้ โหย่วฮูหยินให้ตามบุตรชายทั้งสองมาที่กระโจมของนางด้วย เมื่อแม่ทัพโหย่วมาถึงเขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่เห็นคนในครอบครัว อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเช่นนี้ “มีเรื่องสำคัญอันใดฮูหยิน ถึงได้ตามลูก ๆ มากันหมดเช่นนี้” โหย่วฮูหยินปรายตามองบุตรสาวก่อนตอบ “ท่านพี่เสวี่ยหยาอยากยกเลิกการแต่งงานเจ้าค่ะ” สายตาของทุกคนพุ่งไปที่โหย่วเสวี่ยหยาในทันที แม่ทัพโหย่วหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ส่วนพี่ชายทั้งสองก็ก้มหน้าลง เหมือนไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดออกมา มีเพียงโหย่วเสวี่ยหยาที่อยากรู้ ว่าทุกคนเห็นชอบด้วยหรือไม่ นางมองคนโน้นทีคนนี้ทีด้วย
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
789101112
DMCA.com Protection Status