All Chapters of ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม: Chapter 261 - Chapter 270

382 Chapters

บทที่ 261

"ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย
Read more

บทที่ 262

เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข
Read more

บทที่ 263

ฮองเฮาฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "เพื่อนเจ้าโชคดีนัก""ฮูหยินกินสิ่งใดหรือยัง หากยัง อาหารเหล่านี้จะขอยกให้ฮูหยิน"ไม่รอฮองเฮาฉู่ตอบ ซิ่งเอ๋อร์พลันปฏิเสธเสียงแข็ง "สำรับอาหารเช้าของฮูหยินข้าทำเสร็จแล้ว ไม่รบกวนคุณชายหรอก กับข้าวที่คุณชายทำเก็บไว้กินเองเถอะ"เพียงประโยคเดียว ทำเอาความหวังของเยี่ยเฟิงพังทลาย เขาฝืนยิ้มขมขื่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ย "ขออภัยด้วย" แล้วถือตระกร้าสำรับเดินออกไปไม่รู้เพราะแผ่นหลังที่ดูโดดเดี่ยวเดียวดายของเขา หรือเพราะใบหน้าที่ดูคุ้นตา ฮองเฮาฉู่ถึงได้รู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด"ช้าก่อน"ฮองเฮาฉู่สาวเท้าเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ฉายยิ้มบางๆ "กับข้าวที่คุณชายทำชั่งหอมหวนนัก ข้าหิวจนท้องร้องแล้ว หากคุณชายไม่รังเกียจ กับข้าวนี้ข้าขอรับไว้""ฮูหยิน" ซิ่งเอ๋อร์ตะลึงนอกจากสำรับอาหารที่พวกเขาทำเองกับมือ ฮูหยินก็ไม่เคยกินของด้านนอกเลย วันนี้เหตุใดถึงได้ยอมกินกับข้าวของคนแปลกหน้าได้นางกระซิบกระซาบ "ฮูหยิน เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ใดยังไม่ทราบแน่ชัด หากเมื่อวานได้เจอกับพวกเราเพราะความบังเอิญ วันนี้จะบังเอิญได้อีกเช่นไร ทั้งยังนำอาหารมาให้อีก จากที่บ่าวดู เขาจงใจเข้าใกล้ฮู
Read more

บทที่ 264

เยี่ยเฟิงพลันใจสั่นระรัว "กับข้าวที่ข้าทำไม่ดีหรอกหรือ""แน่อยู่แล้ว ฮูหยินของข้ากลัวรสชาตินี้ที่สุด ท่านรีบนำอาหารของท่านออกไปเถอะ" ซิ่งเอ๋อร์ถือโอกาสเอ่ย"ซิ่งเอ๋อร์"ฮองเฮาฉู่ดุอีกครั้ง น้ำเสียงจริงจังเข้มงวดกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ทำเอาซิ่งเอ๋อร์ตกใจจนเกือบทรุดนางยกแขนเสื้อขึ้นมา แล้วเช็ดหยดน้ำตาที่หางตาเบาๆ พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "คุณชายอย่าไปฟังที่นางพูดเรื่อยเปื่อย อาหารสามอย่างนี้ ข้าชอบกินที่สุดแล้ว"นางหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบรากบัวเข้าปากหนึ่งคำ ราวบัวทั้งกรอบทั้งหอม ให้รสชาติที่กลมกล่อมทันทีที่เข้าไปในปาก เป็นรสชาติในความทรงจำของนาง"อร่อย ข้าไม่ได้กินอาหารที่อร่อยเช่นนี้มานานแล้ว""ฮูหยินชอบ เช่นนั้นก็กินเยอะๆ หน่อยเถิด ท่านวางใจได้ กับข้าวเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาหารมังสวิรัต ไม่ได้ใส่เนื้อสัตว์""คุณชายก็ไม่ชอบกินเนื้อหรอกหรือ""ขอรับ" ด้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากเห็นสัตว์เหล่านั้นต้องถูกเข่นฆ่าอย่างทรมาน อีกด้านเป็นการสะสมบุญให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเขา เขาจึงไม่กินเนื้อสัตว์มาตั้งแต่เด็ก เว้นเสียแต่...เว้นเสียแต่ถูกนายท่านหลันบังคับกับข้าวเหล่านี้ถูกปากของฮองเฮาฉ
Read more

บทที่ 265

"เสร็จแล้ว ช่วงสองสามวันนี้อย่าเพิ่งโดนน้ำ อีกไม่กี่วันก็น่าจะหายแล้ว"เยี่ยเฟิงมองดูผ้าพันแผลหนาเตอะบนมือสองข้างของตน หัวใจพลันรู้สึกถูกเติมเต็มเขาอยากจะบอกว่า เทียบกับสิ่งที่เขาเจอมาก่อนหน้า เรื่องพวกนี้ไม่นับอะไรเลย ไม่มีความจำเป็นต้องห่วงแต่เขาไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมา เพียงแค่ขานรับเบาๆ ท่าทางว่าง่ายฮองเฮาฉู่เก็บกล่องยา ไม่ทันระวังขอบกล่องไปเกี่ยวกับแขนเสื้อของเยี่ยเฟิง เผยให้เห็ยรอยแผลทั้งแนวตั้งและแนวขวางพาดสลับกันทั่วทั้งแขนบนแขนของเขามีทั้งรอยไฟนาบ แผลจากแส้ฟาด น้ำร้อนลวก แผลจากดาบ ง้าวและอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลายบริเวณที่ถูกกัดจนเนื้อหายไปหลายส่วน แทบจะหาบริเวณที่ไม่บุบสลายไม่ได้เลยฮองเฮาฉู่และซิ่งเอ๋อร์ต่างก็ตะลึงงัน สีหน้าพลันซีดเผือดในพริบตาเยี่ยเฟิงลนลาน รีบดึงแขนเสื้อของตนลง สายตาเฉยชาคู่นั้นไม่ได้ใจเย็นเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปเขาเองก็ไม่รู้ว่าฮองเฮาฉู่เห็นรอยแผยบนแขนของเขาหรือไม่ ทำได้เพียงแค่อธิบายด้วยความร้อนรน "หนังข้าเหนียว บาดแผลเหล่านี้..."ซิ่งเอ๋อร์พูดแทรกกะทันหัน "พระเจ้าช่วย ท่านเป็นใครกันแน่ เหตุใดบนตัวถึงได้มีแผลเป็นมากมายเพ
Read more

บทที่ 266

"เช่นนั้นบ้านเจ้ายังมีผู้ใดอีก""ข้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก"เมื่อได้ยินคำว่าเด็กกำพร้า ฮองเฮาฉู่พลันรู้สึกบีบคั้นหัวใจขึ้นมาแวบหนึ่ง"เด็กน้อยน่าสงสาร เช่นนั้นเจ้าเติบโตมาเช่นไร""ข้าดวงดี ได้พบกับคนใจดีมากมาย พวกเขาเลี้ยงข้าจนเติบใหญ่ ข้ายังมีท่านยายอีกคน แม้ดวงตาคู่นั้นของนางจะสูญเสียการมองเห็น แต่นางก็ปฏิบัติต่อข้าราวกับลูกแท้ๆ"เยี่ยเฟิงคลี่ยิ้ม รอยยิ้มฉาบไว้ด้วยหยดน้ำตาเล็กๆ เห็นแล้วสงสารจับใจดวงดีที่ว่า ฮองเฮาฉู่ไม่เชื่อแต่อย่างใดหากดีจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงได้มีบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น แผลบนแขนของเขา มีทั้งเก่าและใหม่ แผลเก่าก็ไม่รู้ว่าผ่านมานานเพียงใดแล้วเด็กคนนี้...ตั้งแต่เล็กจนโต คงพบเจอกับความลำบากมาไม่น้อยเป็นแน่"ข้าก็เคยมีลูกชายแท้ๆ คนหนึ่ง น่าเสียดาย วันที่ข้าเกิดเขาออกมา เขาก็ถูกชิงตัวไป ข้ายัง...ไม่เคยได้กอดเขาเลยเสียด้วยซ้ำ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ น่าจะอายุไล่เรี่ยกับเจ้า" ฮองเฮาฉู่ปาดน้ำตาเบาๆในที่ที่ฮองเฮาฉู่มองไม่เห็น เยี่ยเฟิงกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น เขาพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ฟันกลับสั่นกระทบกันอย่างควบคุมไม่อยู่"เหตุใด...เหตุใดถึงถูกชิงต
Read more

บทที่ 267

"แต่ฮองเฮาฉู่ก็ยังคงมาอาศัยอยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นเป็นเวลาหนึ่งเดือนทุกปี ส่วนสาเหตุว่าเหตุใดต้องเป็นวัดไป๋อวิ๋น ข้าน้อยก็ไม่ทราบได้ ข้าน้อยรู้เพียงว่า เหล่าขุนนางแคว้นฉู่สนับสนุนให้จักรพรรดิฉู่รับสนมคนใหม่มาตลอด แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่เรื่อยไป""ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ บังเอิญถึงเพียงนี้เชียวหรือ"หากเยี่ยเฟิงเป็นโอรสของฮองเฮาฉู่จริง เช่นนั้นเยี่ยเฟิงก็คือองค์ชาย ทั้งยังเป็นองค์ชายเพียงพระองค์เดียวของแคว้นฉู่ ว่าที่ฮ่องเต้ของแคว้นฉู่เช่นนั้นหรือไม่สิ...ไม่ถูกๆหากฮองเฮาฉู่คือแม่แท้ๆ ของเยี่ยเฟิง เยี่ยเฟิงถูกหยามเกียรติรังแกตั้งแต่เล็กจนโต เขาจะกล้าไปแนะนำตัวเองได้อย่างไรหากฮองเฮาฉู่เป็นคนธรรมดาสามัญชน บางทีเยี่ยเฟิงอาจจะไปเปิดเผยตัวกับนางได้แต่องค์จักรพรรดิ...ฐานะนี้สูงศักดิ์เกินไป จากนิสัยที่คำนึงถึงผู้อื่นเสมอของเยี่ยเฟิง นี่ไม่มีความเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อยกู้ชูหน่วนกลับหวังว่าแม่แท้ๆ ของเขาจะเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปในศาลาเหลียนฮวาฮองเฮาฉู่และเยี่ยเฟิงคุยกันอย่างถูกคอฮองเฮาฉู่สั่งให้คนยกหีบใหญ่ใบหนึ่งออกมา ดูเหมือนนางจะรักหีบนี้มาก เช็ดถูลูบไล้ไปมาอยู่สักพักถึงจะค่อยๆ เปิดออก
Read more

บทที่ 268

น้ำเสียงเผด็จการแฝงไว้ด้วยความข่มขู่ ราวกับว่าหากมีผู้ใดกล้าเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียว นั่นจะกลายเป็นจุดจบของเขาทันทีทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ร่างของเยี่ยเฟิงสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงท่าทางที่ผิดแปลกไปของเขาทำให้ฮองเฮาฉู่แปลกใจเยี่ยเฟิงกำลังกลัวสิ่งใด"ปัง......"ชายหนุ่มที่ตกลงมาจากฟ้ามาหยุดตรงหน้าเยี่ยเฟิง ด้วยพละกำลังมหาศาล ทำให้พื้นสั่นสะเทือน ก้อนอิฐเหล่านั้นค่อยๆ แตกทีละชั้น แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกำลังภายใน"เสี่ยวเฟิงเอ๋อร์ เจ้าช่างหาตัวง่ายเสียจริง"ผู้ที่ปรากฏตัวคือชายวัยสี่สิบกว่า รูปร่างบึกบึน กำยำล่ำสัน ดวงตาแหลมคมดุจเหยี่ยว ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นหวาดกลัวจนตัวสั่น รูปร่างของเขาสูงกว่าเยี่ยเฟิงหนึ่งศีรษะด้านหลังของเขา ยังมีองครักษ์อีกสี่คน นั่นคือสี่เทพผู้พิทักษ์ของเขาทุกคนล้วนแต่รูปร่างกำยำสูงใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ"นาย...นายท่าน..."เยี่ยเฟิงเปล่งเสียงออกมาด้วยใบหน้าที่ขาวซีด และฟันที่สั่นกระทบกันด้วยความกลัวปีนี้เขาอายุสิบแปด ตั้งแต่ห้าขวบก็ถูกส่งไปอยู่ข้างกายนายท่านหลัน ถูกข่มเหงรังแกเป็นระยะเวลาถึงสิบสามปี เรียกได้ว่า ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของเขา ล
Read more

บทที่ 269

ให้เยี่ยเฟิงจัดการเช่นนั้นหรือหากเยี่ยเฟิงเอาชนะเขาได้ แล้วจะยังทนถูกรังแกอย่างทุกข์ทรมานเช่นนั้นอีกหรือยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยเฟิงห้าคนก็ยังไม่สามารถเอาชนะฝูกวงคนเดียวได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนายท่านหลันเลยกู้ชูหน่วนอับจนหนทางไม่รอให้นางได้คิดหาหนทาง องครักษ์ลับของฮองเฮาฉู่ก็เริ่มเปิดฉากต่อสู้กับคนของนายท่านหลันน่าเสียดายที่แม้องครักษ์ลับของฮองเฮาฉู่จะมีวิทยายุทธที่เลิศล้ำ ทว่ากลับสู้สี่เทพผู้พิทักษ์ของนายท่านหลันไม่ได้ แทบจะแพ้ราบคาบ แต่ละคนหากไม่ตายก็สาหัส กู้ชูหน่วนเองยังทนดูสภาพการณ์น่าอนาถของพวกเขาไม่ไหวเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ สร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าพระสงฆ์ในวัดไป๋อวิ๋น พระวัดไป๋อวิ๋นล้อมคนของนายท่านหลันเอาไว้ ดูท่าทางแล้วพร้อมจะโจมตีทุกเมื่อกู้ชูหน่วนรู้ดี หากมีการปะทะกันขึ้นมา วัดไป๋อวิ๋นอาจจะต้องนองเลือดเห็นสถานการณ์ตึงเครียด กู้ชูหน่วนไม่มีเวลาให้คิดมาก บิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย มือข้างหนึ่งกุมมือที่เย็นยะเยือกของเยี่ยเฟิง ปากก็พลอยพูดจาถากถางเหน็บแนม"ข้าก็คิดว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็เจ้างั่งห้าตัวนี่เอง"ฟู่วววอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศพลันล
Read more

บทที่ 270

ฝูกวงพลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นดอกไม้ไฟล่องหนก็ระเบิดขึ้นไป พวยพุ่งอยู่กลางอากาศดอกไม้ไฟไร้สีไร้กลิ่น ยามที่ลอยฟุ้งอยู่กลางอากาศก็ไร้ซึ่งเสียง นี่คือสัญญาณขอความช่วยเหลือระดับสูงสุดของสำนักซิวหลัว คนของสำนักที่ซ่อนตัวอยู่ละแวกนั้นจะรีบมาในทันทีฝูกวงยิ้มเยาะคิดจะฆ่าเจ้าสำนักของพวกเขา มีแต่จะต้องข้ามศพคนทั้งสำนักซิวหลัวไปก่อน“บังอาจ วันนี้ข้าจะปลิดชีวิตเจ้าก่อนเอง”โครม...พละกำลังมหาศาลถูกปลดปล่อยอย่างกะทันหัน เหล่าพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ๆ ถูกบดขยี้ราบติดกับพื้น บางส่วนถูกพัดปลิวไปไอสังหารที่รุนแรงพุ่งตรงไปทางกู้ชูหน่วนฝูกวงชักดาบสองเล่มออกมาดังฟึบ รวบรวมกำลังภายในไว้บนดาบ พร้อมที่จะปล่อยท่าไม้ตายของตนทุกเมื่อกู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก ส่งเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ขณะที่เผชิญหน้ากับการโจมตีรุนแรงถึงชีวิต นางไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว แต่กลับถือโอกาสบุกเข้าไปด้านหน้าด้วยการใช้หมอกพิษในมือ"ตู้ม..."ไอสังหารถึงแก่ชีวิตยังไม่มาถึงกู้ชูหน่วน ก็ค่อยๆ สลายหายไปเบาๆไม่ไกลออกไป น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบเครือที่เนิบนาบแต่เด็ดขาดดังขึ้นช้าๆ"ผู้ใดกล้าสังหารคู่หมั้นของข้า"ทุกคนเงยหน้าไป กลับเห็นเป็นชิงเฟิง
Read more
PREV
1
...
2526272829
...
39
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status