All Chapters of หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: Chapter 51 - Chapter 60

386 Chapters

บทที่ 51

“อะไรนะ? นางสาดน้ำใส่เจ้า? เมื่อวานก็ด้วยหรือ?”เวินจื่อเฉินตกใจระคนโกรธเกรี้ยวเวินเยวี่ยยิ้มด้วยความขมขื่น แสร้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่องว่า “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะพี่รอง นี่ไม่สำคัญเลย แค่โดนสาดน้ำนิดหน่อยเท่านั้น ข้าไม่เป็นไร เรื่องที่สำคัญคือพี่หญิงห้านางไม่ยอมกลับบ้านเจ้าค่ะ”“ไม่สำคัญตรงไหน!”เวินจื่อเฉินโกรธจนไฟโทสะลุกโชนขึ้นมาทันที “เวินซื่อนางช่างใช้ไม่ได้เกินไปแล้วจริง ๆ! บอกว่านางจิตใจต่ำช้า นางก็ยังไม่ยอมรับ! รังแกได้แม้กระทั่งน้องสาวของตนเอง นางไม่ต่ำช้าแล้วผู้ใดจะต่ำช้ากัน?!”“พี่รอง! ท่านอย่าว่าพี่หญิงห้าเลย ไม่ว่าก่อนหน้านี้พี่หญิงห้าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ท่านต้องช่วยข้าคิดหาวิธีรีบพาพี่หญิงห้ากลับมาให้ได้จริง ๆ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!” เวินเยวี่ยจงใจทำเป็นไม่สนใจความน้อยอกน้อยใจของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะกระทืบเท้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรนและเกินความเป็นจริงเวินจื่อเฉินถูกคำว่า ‘เรื่องใหญ่’ จากปากของนางดึงดูดความสนใจตามที่คาดเอาไว้เลย“น้องหกพูดเช่นนี้หมายความว่าอะไร? เวินซื่อยังก่อเรื่องอื่นในอารามสุ่ยเยว่อีกหรือไร?”“พี่หญิงห้านาง...”“นางทำอันใด?” เวินเยวี่ย
Read more

บทที่ 52

ซือไท่ด้านในออกมาเพราะเสียงเอะอะ ตะโกนสั่งห้ามให้เวินจื่อเฉินหยุดโดยมีประตูกั้นกลาง “ข้าไม่สนใจว่าจะปิดหรือไม่ ตอนนี้จงเรียกเวินซื่อออกมาเดี๋ยวนี้! ไม่เช่นนั้นอย่าโทษที่ข้าเตะประตูผุพังนี้จนแตกละเอียด แล้วทำลายอารามสุ่ยเยว่ของพวกเจ้า!” เวินจื่อเฉินตัดบทของซือไท่ด้านในอย่างหมดความอดทน ข่มขู่อย่างเผด็จการวางอำนาจบาตรใหญ่ซือไท่ได้ยินคำพูดนี้ของเขาก็รู้ว่าผู้มาไม่หวังดี ไฉนเลยยังกล้าเปิดประตูให้เขา ผลคือคิดไม่ถึงว่าเวินจื่อเฉินร้องเรียกติดต่อกันสามครั้ง เห็นนางไม่เปิดประตูให้ก็ยกเท้าเตะประตูจริง ๆ“ปัง! ปัง! ปัง!”อารามสุ่ยเยว่นั้นเรียบง่ายมาก ประตูใหญ่นี้ก็เป็นเพียงประตูไม้สองบานที่ไม่ถือว่าหนาและหนักมากนักเวินจื่อเฉินเข้าไปเตะแรง ๆ ไม่กี่ที ซือไท่ผู้นั้นยังไม่ทันได้ห้ามไว้ก็เห็นประตูถูกเตะจนเปิดดัง “โครม”เวินจื่อเฉินก้าวยาว ๆ เดินเข้ามา มองซือไท่ด้วยความเย็นชาแวบหนึ่งแล้วก็ตรงเข้าไปข้างใน “ประสกหยุดนะ! นี่ท่านจะทำอะไร! บุรุษห้ามบุกรุกเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่นะ!”“แม่ชีเฒ่าอย่างเจ้ากล้าขวางข้าอีก ข้าจะเตะเจ้าไปด้วย!” เวินจื่อเฉินผลักซือไท่ที่พยายามขวางหน้าเขา ก่อนจะฝ่าปร
Read more

บทที่ 53

เวินจื่อเฉินเจ็บจนร้องโหยหวน สะบัดฝ่ามือตบไปที่ศีรษะของเวินซื่อตามจิตใต้สำนึก“เวินซื่อ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ยังไม่รีบคลายปากอีก!” เวินซื่อไม่ฟังเขาเลยคนที่บ้าไม่ใช่นางแต่เป็นเวินจื่อเฉิน!นางหนีออกมาจากสกุลเวินแล้ว เวินจื่อเฉินมีสิทธิ์อะไรมาทำลายชีวิตในตอนนี้ของนางอีก!ทุกคนที่อยากลากนางกลับไปยังนรกแห่งนั้นล้วนเป็นศัตรูของนางทั้งสิ้น! เวินซื่อกัดแขนของเวินจื่อเฉินแน่นยิ่งเวินจื่อเฉินตบนาง นางก็ยิ่งกัดแรงขึ้น กัดจนเลือดไหลออกมาแล้ว แต่นางก็ไม่คลายปากเวินจื่อเฉินเจ็บจนสบถด่าเสียงดัง “นังบ้า! นังบ้า ๆ!” “ดูสิว่าวันนี้ข้าจะไม่ตีเจ้าให้ตาย!”เวินจื่อเฉินเปลี่ยนจากตบมาเป็นทุบตีทันที ชกไปที่ร่างกายของเวินซื่อหมัดแล้วหมัดเล่า ร่างบางเล็กของเวินซื่อจะทนรับการทุบตีเช่นนี้ของเขาไหวที่ไหน เจ็บ เจ็บเหลือเกินน้ำตาของเวินซื่อไหลออกมาไม่หยุด กลิ่นสนิมพลันทะลักขึ้นมาในลำคอ ปะปนกับเลือดบนแขนของเวินจื่อเฉินที่อยู่ในปากนางแยกแยะไม่ได้แล้วว่าเป็นเลือดของใครกันแน่ บรรดาซือไท่และแม่ชีน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็ตกใจจะแย่แล้ว อยากจะแยกพวกเขาสองคนออกจากกัน แต่สองคนนี้ไม่มีใครยอมใคร
Read more

บทที่ 54

สิ่งที่เวินจื่อเฉินไม่รู้เลยก็คือนั่นไม่ใช่ภาพหลอนของเขา เพราะเวินซื่ออยากสังหารเขาจริง ๆในตอนที่เวินจื่อเฉินพยายามบังคับพาตัวนางไป นางก็แอบนำยาพิษที่นางเพิ่งคิดค้นเมื่อคืนออกมาจากในมิติหยก หลังจากนั้นตอนที่กัดเวินจื่อเฉิน นางถึงขนาดอมยาพิษไว้ในปากเวินจื่อเฉินได้รับพิษแล้ว แน่นอนว่านางเองก็ได้รับเช่นกันยิ่งไปกว่านั้นนางยังไม่ทันได้คิดค้นยาถอนพิษของยาพิษนี้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงรอความตายเท่านั้น“ฮ่า ๆๆๆ...” เวินซื่อทรุดตัวนั่งลงกับพื้นทันที เลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากค่อย ๆ ดำขึ้นเหมือนกับบาดแผลบนแขนของเวินจื่อเฉินชั่วขณะหนึ่งนางอยากหัวเราะอยู่บ้าง แต่ก็อดอยากร้องไห้ไม่ได้จะจบลงแค่นี้หรือ?ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้มีชีวิตใหม่ แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะฆ่าได้แค่เวินจื่อเฉินคนเดียว นางก็ต้องตายอีกครั้งในใจของเวินซื่อรู้สึกไม่ยินยอมมากจริงๆแต่เวินจื่อเฉินบีบบังคับซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางจนปัญญาแล้วจริง ๆในขณะที่เวินซื่อใกล้จะหลับตาลงเตรียมตัวรอความตาย บรรดาซือไท่และศิษย์พี่หญิงที่ร้อนใจอยู่ทางด้านข้างพลันตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจ“ศิษ
Read more

บทที่ 55

“เกิดอะไรขึ้น? ใครทำร้ายนาง?”แวบแรกที่เห็นเวินซื่อที่ได้รับบาดเจ็บ โทสะพลันพรั่งพรูขึ้นมาในหัวใจของเป่ยเฉินหยวนเขาสาวเท้ายาว ๆ เดินไปหาเวินซื่อ ระหว่างนั้นก็เห็นสภาพแวดล้อมรอบด้านอย่างรวดเร็ว และเห็นเวินจื่อเฉินที่นอนกองกับพื้นอีกทางด้านหนึ่ง กอปรกับปฏิกิริยาตอบสนองของผู้คนในอารามสุ่ยเยว่ เป่ยเฉินหยวนแทบจะคาดเดาได้เกือบทั้งหมดในพริบตา“เจ้าเด็กสกุลเวินผู้นี้บุกเข้ามาทำร้ายอู๋โยวหรือ?” อู๋โยวคือฉายาทางธรรมของเวินซื่อ นับตั้งแต่ที่เวินซื่อบอกกับเป่ยเฉินหยวนว่านางไม่ใช่คุณหนูห้าสกุลเวินอีกต่อไป เป่ยเฉินหยวนก็ไม่เคยเรียกนามนั้นของนางอีกเลย ม่อโฉวพยักหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา “หลายคนในอารามล้วนอยู่ในเหตุการณ์และเห็นกับตาว่าเวินจื่อเฉินฝืนบุกเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่ พยายามจับตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์ไป อีกทั้งยังลงมือทำร้ายนางอย่างหนักด้วย” ม่อโฉวซือไท่รู้สึกโกรธจัด แต่ยังคงเล่าเรื่องออกมาอย่างใจเย็น ท้ายที่สุดก็อุ้มเวินซื่อพลางลุกขึ้นมาก่อนจะพานางกลับไปที่ห้อง ม่อโฉวมองเวินจื่อเฉินที่อยู่บนพื้นด้วยความผิดหวังอย่างยิ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “เรื่องสร้างความเดือดร้อนใหญ่หลวงให้อาราม
Read more

บทที่ 56

เป่ยเฉินหยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีพนักพิงข้างเตียง หลุบตาจ้องมองท่าทางงุนงงทำอะไรไม่ถูกของนางผ่านไปสองวินาทีเขาถึงค่อยอธิบายว่า “ที่นี่ไม่ใช่ห้องของท่าน” “เช่นนั้นที่นี่คือ?” “วังหลวง” เวินซื่อประหลาดใจ นางถูกส่งมาที่วังหลวงได้อย่างไร? เป่ยเฉินหยวนที่ราวกับดูออกว่านางกำลังคิดอะไรจึงอธิบายต่ออย่างเรียบนิ่งว่า “อาการบาดเจ็บบนตัวของท่านสาหัสไม่น้อยเลย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพิธีขอพรในภายภาคหน้า หลังจากที่ข้าหารือกับม่อโฉวซือไท่แล้ว ฝ่าบาทก็ทรงเห็นชอบ ย้ายท่านมาพักฟื้นในวังหลวงชั่วคราว” “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง” เวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามอย่างลังเลใจว่า “แล้วดวงตาของข้า...” ตอนนี้นางอยากยืนยันให้แน่ใจมากว่า นางตาบอดแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่โชคดีที่เป่ยเฉินหยวนบอกนางว่า “วางใจเถิด ไม่ได้ตาบอดหรอก อาจารย์ม่อโฉวของท่านช่วยถอนพิษให้ท่านแล้ว ผ่านไปสักสองวันก็จะค่อย ๆ หายดีขึ้น” เวินซื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอกแรง ๆ ทันทีดีเหลือเกินนางไม่เพียงยังมีชีวิตอยู่ ดวงตาก็ยังไม่บอดอีกด้วย! นี่เป็นข่าวดีที่สุดสำหรับเวินซื่อแล้ว แต่นางคิดไม่ถึงว่ายังมีข่าวที่ดีกว่านั้น“เมื
Read more

บทที่ 57

เวินซื่อถูกคำพูดของเขากระตุ้นให้เกิดความสงสัยใคร่รู้อย่างมากตามที่คาดเอาไว้จริง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาทันทีว่า “อยาก!” เป่ยเฉินหยวนหัวเราะอย่างไร้เสียง และไม่เล่นตัวอะไร เลียนแบบบรรดาขุนนางเล่าให้นางฟัง...“พวกเขากล่าวว่า ท่านเจิ้นกั๋วกงผู้ยิ่งใหญ่เหิมเกริมปล่อยให้บุตรชายเย่อหยิ่งวางอำนาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาถึงเพียงนี้ หากไม่ลงโทษอย่างหนัก เกรงว่าวันหน้าบุตรชายของเขาอาจจะกำเริบเสิบสานก่อเภทภัยไปทั่ว” ขุนนางเหล่านั้นเอ่ยคำพูดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การส่งสัญญาณของเป่ยเฉินหยวนราวกับว่าวันหน้าเวินจื่อเฉินจะกลายเป็นภัยร้ายแรงขึ้นมาจริง ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งถึงกับหาทางลงไม่ได้เลย อย่าว่าแต่กล่าวโทษเลย คนของฝ่ายขุนพลแทบจะฉีกดวงหน้าชราของเขาหมดแล้วชั่วขณะหนึ่ง ท่ามกลางเสียงประณามกล่าวโทษร่วมกันของเหล่าขุนนางครึ่งหนึ่ง ฮ่องเต้น้อยทำได้เพียงมีพระบัญชาให้ลงโทษอย่างหนักด้วย ‘ความจนปัญญา’ และรับเอา ‘คำแนะนำ’ ที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเสนอขึ้นในเวลาที่เหมาะสมมาใช้ให้คนสกุลเวินได้รับการให้อภัยจากเวินซื่อก่อน ถึงค่อยพิจารณาว่าจะปล่อยตัวเวินจื่อเฉินหรือไม่ เวินเฉวียนเซิ่งไม
Read more

บทที่ 58

แต่ตอนนี้พอฟื้นขึ้นมาก็เหลือเวลาแค่เก้าวันเท่านั้น! เวินซื่อโอดครวญในใจทันทีนางยังมีบทสวดขอพรอีกมากมายที่ต้องท่องจำ เวลาเก้าวันจะเพียงพอได้อย่างไร!“ไม่ได้การ ๆ ข้าต้องกลับไปแล้ว”ไม่กลับไปไม่ได้เมื่อนึกได้ว่ายังมีบทสวดกองเป็นภูเขาที่ต้องท่องจำ นางยังจะสนใจคนสกุลเวินอะไรนั่นที่ไหนกัน!“ท่านอ๋อง รบกวนท่านให้คนเตรียมรถม้าให้ข้าสักคัน ส่งข้ากลับไปที่อารามได้หรือไม่?”ครั้งนี้เวินซื่อที่มองอะไรไม่เห็นลุกขึ้นมานั่งด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะยื่นมือไปคลำรอบ ๆผลปรากฏว่าคลำโดนต้นแขนที่แข็งแรงข้างหนึ่งโดยไม่ระวังเวินซื่อไม่ได้โง่งม สัมผัสจากมือที่ได้ลูบคลำไปนั้นเป็นความอบอุ่นที่สัมผัสได้โดยมีเนื้อผ้ากั้นกลาง นอกจากร่างกายมนุษย์แล้วยังจะเป็นอะไรได้อีก?นอกจากนี้ภายในห้องไม่มีบุคคลที่สามเอ่ยวาจามาโดยตลอด นอกจากนางแล้วก็เหลือเพียงเป่ยเฉินหยวนเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่ตระหนักได้ว่านางสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย มือของนางก็เหมือนกับถูกลวกขึ้นมาทันที ตกใจจนอยากจะรีบหดมือกลับผลปรากฏว่าเพิ่งจะหดกลับไปได้ครึ่งทางก็ถูกมือใหญ่จับข้อมือไว้ “บอกแล้วว่าอย่าขยับส่งเดช”เสียงของเป่ยเฉินหยวนฟั
Read more

บทที่ 59

แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไร ม่อโฉวซือไท่พลันเดินเข้ามาจากด้านนอกนางหอบคัมภีร์บทสวดกองหนึ่งไว้ในมือ หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเวินซื่อก็รีบเดินไปที่เตียงของเวินซื่อทันที “เกิดอะไรขึ้น? เจ็บตรงไหนหรือ?” ม่อโฉวซือไท่รีบวางคัมภีร์บทสวดลง ก่อนจะก้าวมาข้างหน้าแล้วกันเป่ยเฉินหยวนออกไป หลังจากนั้นค่อยกอดเวินซื่อที่กำลังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเข้ามาในอ้อมแขน นางใช้มือที่หยาบกระด้างเล็กน้อยของตนเองเช็ดน้ำตาบนแก้มของเวินซื่ออย่างนุ่มนวล เอ่ยด้วยความปวดใจว่า “ไม่เป็นไร ๆ อาจารย์ตรวจดูอาการของเจ้าแล้ว แผลบนหน้าผากจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แผลบนตัวก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ดวงตาก็ด้วย ผ่านไปสักสองวันก็หายแล้ว ทุกอย่างไม่มีปัญหา” เวินซื่อสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่ระมัดระวังข้างนั้น นางจึงเผลอแนบเข้าไปถูไถตามจิตใต้สำนึก เนื่องจากนางนึกถึงตอนที่มารดายังมีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่นางร้องไห้ก็จะโอบกอดปลอบนางไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้เป่ยเฉินหยวนมองภาพนี้อยู่ทางด้านข้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่เงียบไปสักพัก ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากกล่าวว่า “ม่อโฉวซือไท่ อู๋โยวกลัวว่าจะเลื่อนพิธีขอพร
Read more

บทที่ 60

บอกว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงเพิ่งฟื้นขึ้นมาเมื่อสักครู่ เลือกเวลาได้แม่นยำถึงเพียงนี้ ราวกับจงใจทรมานพวกเขาจริง ๆ เวินฉางอวิ้นที่เหนื่อยล้านิดหน่อยเช่นเดียวกันอดบ่นไม่ได้ “น้องห้าช่างทรมานคนจริง ๆ” ตอนเช้าไม่ฟื้น ตอนเย็นไม่ฟื้น แต่มาฟื้นตอนนี้หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นเวินซื่อที่ถูกเวินจื่อเฉินทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสมาก่อน เกรงว่าเขาคงจะสงสัยว่านางฟื้นมาตั้งนานแล้วใช่หรือไม่ เวินเฉวียนเซิ่งที่รู้ว่าบุตรชายกำลังคิดอะไรอยู่กลับหัวเราะหยัน “เวินซื่อยังไม่มีความกล้าหาญพอที่จะกล้าต่อต้านข้าหรอก เกรงว่าคงจะมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เวินฉางอวิ้นตกตะลึง “ความหมายของท่านพ่อคือ?” “นอกจากเป่ยเฉินหยวนแล้ว ยังมีใครในราชสำนักนี้ได้อีก?” เวินเฉวียนเซิ่งทำหน้าเย็นชา แววตาคมกริบ “คนผู้นี้ลงมืออย่างเด็ดขาดฉับไว อาศัยความโปรดปรานของฝ่าบาท กระทำการเผด็จการอย่างยิ่ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่กดดันจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขา เป่ยเฉินหยวนไม่มีทางพลาดโอกาสใด ๆ เลย “ครั้งนี้สกุลเวินของเราพลาดท่าอยู่ในเงื้อมมือของเขา หากไม่ใช่เพราะนังเด็กเหลวไหลอย่างเวินซื่อ เรื่องคงไม่บานปลายมาถึ
Read more
PREV
1
...
45678
...
39
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status