All Chapters of มังกรหวนคืนบัลลังก์: Chapter 11 - Chapter 20

46 Chapters

ตอนที่11.ไม่เอ่ยวาจา

“ข้าขอบอกเจ้าไว้ตรงนี้ หากเจ้าแอบอ้างว่าเป็นหลานแม่ทัพ แล้วถูกทางการจับไป โทษนี้เป็นของเจ้าผู้เดียว ข้าไม่เกี่ยว”เจียวมี่กัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทำตาเขียวใส่หนุ่มน้อย“วางใจเถอะ ข้าไม่สุมไฟใส่ศีรษะท่านแน่นอน”เฉินเฉิงตอบเสียงราบเรียบ แผ่นหลังยังคงตั้งตรง ใบหน้าเชิดขึ้นเล็ก ๆ เมื่อยามเผลอมือขวาไพล่หลัง มือซ้ายกำไว้หลวม ๆ ยกขึ้นเล็กน้อยในระดับเอวเช่นเดิมเจียวมี่เม้มริมฝีปากแน่น เหลือบตามองบนอย่างนึกหมั่นไส้ในการวางท่าสูงส่งเกินวัยของเขา พลางนึกในใจว่า - แต่ถ้าหากท่านแม่ทัพยอมรับว่าเจ้าเป็นหลานชายจริง ข้าก็จะคิดบัญชีค่าเสียหายทั้งต้นทั้งดอก –แล้วความคิดของนางก็หยุดลง เมื่อประตูจวนเปิดขึ้นอีกครั้ง พ่อบ้านประจำจวนได้เชิญทั้งสองเข้าไปเจียวมี่เบิกตากว้างมองซ้ายขวาสำรวจความโอ่โถงของจวนแม่ทัพอย่างตื่นตา ส่วนเฉินเฉิงนั้นเดินตามหลังผู้อาวุโสไปอย่างเงียบ ๆ ฝีเท้ามั่นคง แววตามองตรง ไม่สอดส่ายไปที่ใดแม่ทัพหลี่นั่งรออยู่ในเรือนใหญ่ เมื่อพ่อบ้านนำคนเข้ามาเขามองก็กวาดสายตามองบุรุษหนุ่ม และสตรีนางหนึ่งด้วยอากัปกิริยาสงบนิ่งเจียวมี่ยอบตัวโค้งศีรษะลงคารวะแม่ทัพอย่างนอบน้อม จากนั้นก็หันไปสะกิดเด็กหนุ่มด
last updateLast Updated : 2024-12-05
Read more

ตอนที่12. ไม่เป็นไร

“ฝ่าบาททรงอภัยให้กระหม่อมด้วย ที่ใช้วาจาล่วงเกินพระองค์ กระหม่อมไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าฝ่าบาทจะทรงอยู่ในร่างนี้”ดวงตาที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาของชายชรามองบุรุษหนุ่มตรงหน้าด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง“ตอนแรกข้าก็แทบไม่เชื่อเช่นกันว่าจะฟื้นจากความตายขึ้นมาแล้วมาอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มเช่นนี้”เฉินเฉิงทอดถอนหายใจ“นั่นอาจจะเป็นพระว่าสวรรค์ทรงห่วงใยใต้ล่า คืนชีวิตให้กับฝ่าบาทเพื่อทวงคืนบัลลังก์มังกร !”แม่ทัพหลี่กล่าววาจาหนักแน่นเหี้ยมหาญ ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ เขาทนกับการอยู่ภายใต้การปกครองของสตรีมานานแล้วแววตาของเฉินเฉิงวูบไหวเพียงเล็กน้อย แล้วกลับมาเป็นแน่วแน่เช่นเดิม เอ่ยวาจาว่า“เพราะเหตุนี้ ข้าจึงต้องมาขอให้ท่านช่วยเหลือ”“ฝ่าบาท....”ความน้อยเนื้อต่ำใจมหาศาลเคลื่อนขึ้นมาจุกที่ลำคอทำให้เขาไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้“ท่านแม่ทัพมีสิ่งใดลำบากใจหรือไม่ โปรดเอ่ยวาจามาเถอะ”“หากเป็นเมื่อก่อนข้าพร้อมที่จะยกกำลังทหารบุกเข้าวังหลวงเพื่อชิงบัลลังก์จากจักรพรรดินีให้ฝ่าบาท แต่ตอนนี้ข้าไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือแม้แต่นายเดียว เป็นแม่ทัพเพียงแค่ในนามเท่านั้น”แม่ทัพหลี่เอ่ยออกมาอย่างสลดหดหู่ ใบหน้าข
last updateLast Updated : 2024-12-05
Read more

ตอนที่13.เมื่อเปิดผ้าคลุมหน้าออก

เมื่อเปิดผ้าคลุมหน้าออก ทั้งใบหน้า และรูปร่างไม่เหมือนโจรที่ซ่อนอยู่ในป่าแม้แต่น้อย เพราะผิวพรรณไม่เปรอะเปื้อนคราบสกปรก อีกทั้งกล้ามเนื้อยังกำยำไม่ใช่โจรที่อดมื้อกินมื้อแน่ ๆ- สงสัยโจรคงไม่ใช่โจรแล้วกระมัง –แล้วข้อความในกระดาษของพระนางก็วาบขึ้นมาในความคิด แววตาของใต้เท้าจ้านก็สว่างวูบขึ้นมาทันที เขาถึงกับรำพันออกมาว่า“หรือที่เมืองซานซีจะซ่อนภัยต่อแผ่นดินไว้จริง ๆ”พิธีการคัดเลือก “หลวนถง” หรือชายบำเรอขององค์จักรพรรดินีนั้น จะจัดขึ้นในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี เพื่อสรรหาบุรุษผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและรูปโฉมไว้อุ่นเตียงจักรพรรดินีได้ทันก่อนฤดูหนาวจะมาเยือนรถม้าของจวนแม่ทัพหลี่แล่นมาจนถึงหน้าประตูกรมพิธีการฝ่ายใน ซึ่งตั้งอยู่ประตูทิศตะวันตกของพระราชวังเฉินเฉิงก้าวลงจากรถม้า อาภรณ์สีขาวปลิวสะบัดตามแรงลม ตะวันยามเช้าส่งแสงลงกระทบเรือนกายบุรุษ ขับเน้นให้ความผุดผ่องของเขาเจิดจ้ามากขึ้น ทำให้ทั้งบุรุษแลสตรีที่อยู่ในบริเวณต่างนั้นหันมองเขาเป็นจุดเดียวเขาไม่สนใจกับแววตาของผู้คนเหล่านั้น เฉินเฉิงเงยขึ้นมองกำแพงวังรู้สึกสายตาพร่าเลือนขึ้นมาชั่วขณะจึงรีบกะพริบตาไล่หยาดน้ำออกจากตาพระราชวังอ
last updateLast Updated : 2024-12-05
Read more

ตอนที่14.รูปโฉมงดงามยิ่ง

ณ ตำหนักเฉียนชิงตำหนักใหญ่ที่สุดในวังหลัง ที่เคยเป็นตำหนักของฮองเฮาในอดีต เมื่อจักรพรรดินีขึ้นครองบัลลังก์แทนฮ่องเต้ ตำหนักแห่งนี้ก็ถูกครอบครองโดย อี้หลวนถง (ชายบำเรออันดับที่ 1 ) ยศและศักดิ์นั้นล้วนเทียบเท่ากับฮองเฮาในอดีตผู้ที่ครอบครองตำแหน่งอี้หลวนถงในปัจจุบัน คือ หยวนเยว์ บุตรของใต้เท้าหยวนรุ่ย อัครเสนาบดีเดิมทีนั้นหยวนรุ่ยมีตำแหน่งเป็นรองอัครเสนาบดี มีความสัมพันธ์อันดีกับใต้เท้าฉือ อัครเสนาบดี หรือบิดาของจักรพรรดินีในตอนนี้ซึ่งสมัยนั้นพระนางทรงมีพรรษาเพียงสิบห้าปี นามว่า ฟางเหริน มีรูปโฉมงดงามยิ่ง หาใครเปรียบได้ไม่ ตนใคร่ครวญแล้วเห็นว่า หากเกี่ยวดองกับสกุลฉือเห็นจะมีแต่ประโยชน์ จึงคิดวางแผนให้ธิดาใต้เท้าฉือ และบุตรของตนต้องใจกันและกัน ทุกครั้งที่ไปจวนอัครเสนาบดีจึงพาหยวนเยว์ไปด้วยเสมอแต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อถึงวัยที่ฟางเหรินต้องออกเรือน ใต้เท้าฉือกลับส่งธิดาน้อยเข้าวังหลวง ตอนนั้นหยวนรุ่ยคับแค้นใจผู้เป็นนายนักที่ไม่ยอมเกี่ยวดองกับตนยิ่งฟางเหรินก้าวสู่ตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใต้เท้าฉือยิ่งได้รับความเมตตาจากฮ่องเต้มากมายเช่นกัน หยวนรุ่ยก็ยิ่งคับแค้นใจแต่แล้วความคับ
last updateLast Updated : 2024-12-05
Read more

ตอนที่15. โปรดแสดงตัวออกมา

ยามโฉ่วหน่วยทหารรักษาพระองค์กองหนึ่งออกตรวจตราเวรยามรอบพระราชวัง โดยเฉพาะบริเวณฝั่งทิศตะวันตกใกล้กับกรมพิธีการฝ่ายใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักบุปผาเมฆา ถูกกำชับให้เฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรือนรับรองว่าที่หลานถงทั้งหลายแห่งองค์จักรพรรดินีบุรุษครึ่งร้อยชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อรอรับการทดสอบคุณสมบัติขั้นต่อไปสำหรับการเป็นหลวนถงที่ดีในอนาคตหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์ควบม้าเหยาะย่างฝ่าความมืดสลัวเลียบไปตามกำแพงวังหลวง เมื่อผ่านเขตของตำหนักบุปผาเมฆาไปแล้วจะเป็นแยกวกกลับไปยังทิศใต้ของพระราชวัง ซึ่งเป็นเขตของวังหลังแสงของดวงจันทร์ทอกระทบบางสิ่งที่อยู่อีกด้านของกำแพงทำให้เกิดเงาร่างคล้ายมนุษย์ทาบลงบนพื้น หัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์จึงยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้บริวารเบื้องหลังหยุดขบวน จากนั้นจึงตวาดไปยังมุมกำแพงอีกฝั่ง“ผู้ใดยืนอยู่ตรงนั้น ในยามวิกาลเช่นนี้ โปรดแสดงตัวออกมา ก่อนที่เจ้าจะไม่มีลมหายใจ”จากนั้นเขาก็กลั้นหายใจรอฟังคำตอบ พลางขยับมือกำรอบดาบเตรียมจู่โจมทันทีหากว่าเงาร่างนั้นเป็นโจรผ่านไปชั่วอึดใจ เงาตรงมุมกำแพงมิได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ และไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาจึงส่งสัญญ
last updateLast Updated : 2024-12-05
Read more

ตอนที่16. ไต่ถาม

นางจึงต้องเรียกผู้ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้เข้ามาไต่ถาม“เช่นนั้นข้าก็วางใจ หวังว่าการคัดเลือกหลวนถงปีนี้คงจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก”แม้นางจะเอ่ยวาจาประดับรอยยิ้ม แต่ผู้ฟังกลับหายใจไม่ทั่วท้องอี้หลวนถงหยวนเยว์ รีบประสานมือ ก้มหน้าลงต่ำ แล้วกล่าวยืนยันหนักแน่นว่า“ขอพระนางโปรดทรงวางพระทัยกระหม่อมจะทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อให้พิธีการคัดเลือกหลวนถงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”เลี่ยงซูที่อยู่ข้างพระวรกายของจักรพรรดินีได้ยินเช่นนั้น ริมฝีปากบางของเขาก็เบ้ขึ้นเล็ก ๆ แล้วขยับเหน็บแนมว่า“หากจัดการเรียบร้อยได้จริง ชื่อเสียงของพระนางในวันนี้จะมัวหมองหรือ.... อี้หลวนถง”เลี่ยงซูจงใจเน้นคำท้ายซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของวังหลัง เพื่อให้ผู้คนรับรู้ว่าหยวนเยว์ไม่สมควรที่จะอยู่ตำแหน่งนี้อีกต่อไปเขาเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างไม่เกรงอาญาเพราะถือว่าตนเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดินี อีกทั้งยังเป็นหลานชายของเจ้ากรมการคลัง หากแม้ว่าไม่มีหยวนเยว์ยืนขวางเอาไว้ ตำแหน่งอี้หลวนถงก็ควรจะเป็นของตนไปนานแล้ว หยวนเยว์ยืดกายขึ้นอย่างผึ่งผาย ตวัดสายตามองบุรุษใบหน้าสวยคล้ายอิสตรี แล้วขบกรามแน่น เพียงแค่ฝ่ายนั้นอ้าปาก เขา
last updateLast Updated : 2024-12-06
Read more

ตอนที่17. ณ ตำหนักบุปผาเมฆา

“เจ้าเด็กน้อยนี่ เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยอิจฉาริษยาเฉกเช่นสตรี พระนางทรงโปรดเจ้า เพียงแค่ปากเจ้าไม่แส่หาเรื่อง ตำแหน่งเอ่อร์หลวนถงของเจ้ามีหรือจะถูกแทนที่ได้โดยง่าย”เลี่ยงซูไม่อาจทนฟังวาจาตำหนิได้จึงรีบรับคำว่า“ข้าผิดไปแล้ว... ข้าผิดไปแล้ว ท่านรีบคิดหาวิธีช่วยข้าเถอะ ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นเพียงบุรุษผู้บอบบาง ไหนเลยจะออกไปจับโจรขโมยได้”ใต้เท้าจื่อลู่แค่นเสียงในลำคอเหอะคำหนึ่งแล้วเอ่ยว่า“ถ้าอยากจับฆ่าตกรให้ได้เร็วที่สุด ก็ต้องหาแพะรับบาปสักคน”“แพะรับบาป..... ข้าจะไปหาที่ใดกัน”ใต้เท้าจื่อลู่เอ่ยเพียงสองประโยค“ทองหนึ่งหีบ ข้าจัดการให้”เลี่ยงซูสบตาเรียวเล็กของผู้เป็นลุง มุมปากก็ยกขึ้น ชายชราตรงหน้ามักจะเห็นเขาเป็นถังเงินถังทองให้รีดไถได้เสมอ ว่าจ้างใครสักคนมาเป็นแพะรับบาปใช้ทองคำไม่เกินสิบแท่ง ไหนเลยต้องเอาเป็นหีบ แต่เอาเถอะในเมื่อตอนนี้ทรัพย์สมบัติที่เขาได้รับพระราชทานจากจักรพรรดินีมากกว่าจวนเจ้ากรมการคลัง จ่ายทรัพย์เพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับประโยชน์มากกว่ามีหรือเขาจะไม่ตกลง“อีกสองวันข้าจะให้คนส่งไปที่จวน”ณ ตำหนักบุปผาเมฆาหลังจากที่บุรุษหนุ่มทุกรายได้ยื่นประวัติ และตรวจรูปลักษณ์ภายนอกเร
last updateLast Updated : 2024-12-06
Read more

ตอนที่18. เพื่ออะไรกัน

“ให้ทุกคนคิดว่ากลีบเนื้อส้มเบื้องหน้าคือกลีบเนื้อนาง ทุกคนเอามือไพล่หลังเอาไว้ จากนั้นก็ใช้เพียงปาก ลิ้น และฟัน โลมเลียกลืนกินเนื้อส้มตรงหน้า” “เพื่ออะไรกัน....”ซื่อหมิงที่ยังอ่อนต่อโลกโลกีย์ขมวดคิ้วเป็นปมยิ่งกว่าเดิมต้าเย่ว์ที่นั่งอยู่เบื้องหลังได้ยินเช่นนั้นก็แค่นเสียงเหอะในลำคออย่างดูถูก ส่วนลู่เอินยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจผู้ใดเช่นเคย“ข้าตีระฆังให้สัญญาณสองครั้ง ครั้งแรกเริ่มกลืนกิน ครั้งที่สองให้หยุด”ปรมาจารย์ซือเยว์เอ่ยจบก็ตีระฆังทันทีเคร้ง !เมื่อได้ยินเสียงระฆัง บุรุษหนุ่มทั้งหลายต่างโน้มใบหน้าเข้าหาผลส้มครึ่งซีก ใช้ปาก ลิ้น และฟันโลมเลียชิมรสหวานจากกลีบส้มแต่ละกลีบลู่เอิน บุรุษในอาภรณ์สีดำ ใบหน้าหล่อคมเฉยชา ก้มลงบรรจงขบเม้มกลีบเนื้อส้มไม่สนใจผู้ใด ใช้เรียวลิ้นทะลวงเนื้อส้มอย่างดุดัน ฉับพลันนั้นน้ำก็ทะลักแตกออกเป็นด่างดวงต้าเยว์เป็นบุรุษเสเพลเที่ยวซ่องคณิกาไม่เว้นว่าง ลีลาเรียวลิ้นเขาจึงตวัดอย่างว่องไว ไม่นานนักน้ำหวานจากผลส้มก็สาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนทั้งปากทั้งพื้นโต๊ะเฉินเฉิงค่อย ๆ ไล้ ค่อย ๆ เลีย ค่อย ๆ ลิ้มลองความหวานละมุนลิ้น ตามตำราบำเรอรัก จากนั้นก็ใช้ฟันขบกัดเบา ๆ ให
last updateLast Updated : 2024-12-06
Read more

ตอนที่19. ภารกิจสำคัญ

“ที่สุดของความสุขดุจเทพเซียน คือพระนาง ขอพระนางทรงโปรดเมตตา ถวายลูกแก้วทองคำด้วยเถิด”“หลวนถงทั้งหลายของข้าจงลุกขึ้นเถิด”พระสุรเสียงของจักรพรรดินีกังวานแจ่มใสดุจระฆังแก้ว เพียงแค่นางเอื้อนเอ่ย ใจของบุรุษทุกคนต่างสั่นไหวจากนั้น เด็กรับใช้ก็นำลูกแก้วสีทองนับพันลูกโยนลงไปในบ่อน้ำอุ่น สายตาทุกคนต่างจับจ้องลูกแก้วเหล่านั้นด้วยใจระทึก เพราะต่อจากนี้จะเป็นการละเล่นเริงสำราญในกามที่สำคัญ นั่นคือ ภายในลูกแก้วทองแต่ละลูกจะบรรจุภาพท่าทางการเสพกามในแบบต่าง ๆ กันนับพันแบบ แต่ลูกแก้วบางลูกก็ไม่มีสิ่งใดบรรจุไว้หากหลวนถงคนใดคว้าได้ลูกแก้วที่ไม่มีสิ่งใดบรรจุไว้ จะถูกเชิญให้ออกจากงานทันที แต่หากได้ภาพท่าทางการเสพกาม หลวนถงผู้นั้นจะต้องบำเรอพระนางในท่วงท่าที่ตนได้รับ และถ้าหากหลวนถงคนใด บำเรอพระนางให้มีความสุขที่สุดในคืนนี้ ก็จะได้รับรางวัลใหญ่ซึ่งในปีที่ผ่านมาเลี่ยงซูสามารถคว้ารางวัลใหญ่ได้ติด ๆ กันถึงเจ็ดครั้ง จึงทำให้เลื่อนตำแหน่งจากซื่อหลวนถง (ชายบำเรออันดับที่ 4) เป็นเอ่อร์หลวนถงภายในระยะเวลาอันสั้น“คืนนี้อี้หลวนถง และเอ่อร์หลวนถงล้วนติดภารกิจสำคัญมิอาจมาร่วมสนุกกับพวกเราได้ ดังนั้น บุรุษที่จ
last updateLast Updated : 2024-12-06
Read more

ตอนที่20.อย่างเป็นกันเอง

ในขณะที่จักรพรรดินีกำลังเริงสำราญกับเหล่าหลวนถงคนเก่านั้น บรรดาว่าที่หลวนถงคนใหม่ก็กำลังนั่งรับประทานอาหารรวมกันที่เรือนอาหารซื่อหมิงดึงเฉินเฉิงให้มานั่งร่วมโต๊ะกับลู่เอิน เพราะอยากทำความรู้จักกับตระกูลคุ้มภัยที่มีชื่อเสียง“ข้าซื่อหมิง มาจากตระกูลซื่อ ทำการค้าเกลือมากว่าสิบชั่วอายุคนแล้ว”ซื่อหมิงแนะนำตัวเองอย่างเป็นกันเอง ลู่เอินไม่แม้แต่แนะนำตัวตอบ แม้กระทั่งใบหน้าเขายังไม่เหลือบมองซื่อหมิงแม้แต่น้อย เขายังคงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารของตนต่อไปเรื่อย ๆเฉินเฉิงเห็นความพยายามของซื่อหมิงที่พยายามจะผูกมิตรกับผู้คนไปทั่วก็กระตุกยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ซื่อหมิงเห็นสหายยิ้มเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่เขาไปทีหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยกับลู่เอินต่อไปว่า“ส่วนสหายของข้าผู้นี้นามว่า เฉินเฉิง”ลู่เอินชะงักไปเล็กน้อย แล้วทำเสียงในลำคอคล้ายกับจะบอกว่ารับทราบแล้ว“สหาย... ท่านชื่ออะไร” ซื่อหมิงกล่าวอย่างไม่ละความพยายาม เพราะเพื่อขยายเครือข่ายกิจการค้าเกลือของครอบครัวเขาจำเป็นต้องผูกมิตรให้มากเข้าไว้“ลู่เอิน”กล่าวจบบุรุษในอาภรณ์สีดำก็ลุกขึ้น ก่อนเดินออกจากโต๊ะอาหาร เขาแลเหลือบไปที่เฉินเฉิงอย่างสนใจ“สหายลู่เอิน
last updateLast Updated : 2024-12-06
Read more
PREV
12345
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status