All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 191 - Chapter 200

310 Chapters

บทที่ 191  

ครั้นได้รับเทียบเชิญ คนทั้งตระกูลชีต่างรู้สึกประหลาดใจและไม่มั่นใจเล็กน้อย สาเหตุเพราะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในสกุลโจว ดังนั้นระยะนี้ชีฟางอวิ๋นจึงต้องพำนักอยู่ที่เรือนมารดามาตลอด พอได้ยินข่าวนี้ก็เผลอมองชีหยวนหลายครั้งอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็แอบกระซิบถามฮูหยินผู้เฒ่าชีว่า: “ท่านแม่ พี่หยวนนางเป็น…” เป็นใครมาจากไหนกันแน่? เรื่องที่ทำไมตอนนี้ทุกคนในตระกูลชีถึงยอมรับกลาย ๆ ว่านางเป็นผู้นำบังไม่เท่าไร ทว่าเหตุใดแม้กระทั่งบรรดาบุคคลผู้มีชื่อเสียงนอกเรือนยังพากันให้ความสำคัญกับนางมากถึงเพียงนี้อีก? งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว ใช่ว่าจวนหย่งผิงโหวจะไม่เคยได้รับเทียบเชิญมาก่อนเสียเมื่อไร ทว่าแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคยระบุเจาะจงชัดเจนว่าเชิญผู้ใดอย่างเช่นตอนนี้ แบบนี้จะไม่แปลกเกินไปหน่อยหรือ? ชีหยวนเพิ่งจะกลับมาได้เพียงไม่นาน ตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในเมืองหลวงมีใครบ้างเกรงว่ายังรู้จักไม่ครบเสียด้วยซ้ำไป นับดูให้ดีแล้วที่ออกไปเยี่ยมเยียนเป็นแขกก็มีเพียงตระกูลเซี่ยงตระกูลเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเป็นการไปที่มิใช่เรื่องน่ายินดี แวะไปเพียงครู่เดียวก็กลับแล้ว จวนอ๋องโจวมีเหตุผลใดถึงต้องเจาะจ
Read more

บทที่ 192  

นางไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว เพียงแต่บอกให้พวกชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าวางใจ มีลูกหลานที่มีความสามารถเก่งกาจเกินไปก็มิใช่เรื่องน่ายินดีอะไรนัก เพราะเมื่อใดที่เราอยากเป็นผู้ตัดสินใจบ้างก็เป็นเรื่องที่ยากมากเกินไปจริง ๆ ทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นต่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี หนนี้กลับเป็นฮูหยินผู้เฒ่าที่รู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุด: “ให้น้าสะใภ้รองของเจ้าพาเจ้าไปสิ! ข้าจะให้คนไปตัดอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เมื่อถึงยามนั้นเจ้าจงเที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ” เที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ… ชีเจิ้นคล้ายจะเอ่ยบางอย่างแต่ชะงักไป ชีหยวนกลับผุดยิ้มพลางกล่าวขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าชี จากนั้นก็หยัดกายขึ้นและกลับไปที่หอหมิงเยว่ ครั้นกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เหลียนเฉียวมารออยู่หน้าประตูเรือนได้พักหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นนางก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะสืบเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน: “คุณหนู ท่านกลับมาแล้ว!” จากนั้นก็กดเสียงลงเอ่ยว่า: “ท่านอ๋องอยู่ด้านในเจ้าค่ะ” นางแทบจะตกใจตายให้ได้เลยจริง ๆ ก่อนหน้าตอนที่นางเข้าไปในห้อง ครั้นเห็นเซียวอวิ๋นถิงนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในตอนนั้น ก็เกือบจะตกใจตายแล้ว ช่วงนี้มันอย่าง
Read more

บทที่ 193  

เซียวอวิ๋นถิงขมวดคิ้วพลางจ้องมองชีหยวนซึ่งอยู่ตรงหน้า เห็นนางยังผงกศีรษะ ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้: “ที่แห่งนั้นไม่เหมาะกับเจ้า!” กลัวว่าชีหยวนจะคิดเรื่องนี้ง่ายดายเกินไป เซียวอวิ๋นถิงจึงเอ่ยปากแนะนำด้วยเสียงเคร่งขรึม: “พูดถึงอ๋องโจว ก็เป็นท่านปู่น้อยของข้า เขาเป็นพี่น้องร่วมครรภ์มารดาเดียวกับเสด็จปู่ของข้า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งนัก และด้วยเหตุผลนี้ พระธิดาของเขาจึงได้รับความรักความโปรดปรานเป็นที่สุด นับแต่เยาว์วัยก็ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงลั่วชวนแล้ว อีกทั้งยังได้รับการเลี้ยงดูในวังหลวงโดยไทเฮาด้วย” ชีหยวนเพียงส่งเสียงอืมรับคำ นางรู้อยู่แล้ว “องค์หญิงที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตมาอย่างสูงศักดิ์เลิศล้ำเช่นนี้ ในสายตาในหัวใจยอมรับได้เพียงแค่พวกนางกันเองเท่านั้น” เซียวอวิ๋นถิงกลัวว่าชีหยวนจะไม่เข้าใจ ก็อธิบายคำพูดเมื่อครู่ให้ชัดเจนกระจ่างขึ้นอีกหน่อย: “ข้าบอกเจ้าง่าย ๆ แล้วกัน บรรดาดรุณีผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวง สามารถแบ่งคร่าว ๆ ออกมาได้ห้าลำดับขั้น ลำดับขั้นแรก แน่นอนว่าต้องเป็นเหล่าองค์หญิงของราชสำนักอย่างเช่นองค์หญิงลั่วชวน องค์หญิงเสียนหนิงกลุ่มนั้น ส่วนอั
Read more

บทที่ 194  

เซียวอวิ๋นถิงจ้องมองชีหยวนอยู่ครู่ใหญ่: “ไฉนชีวิตเจ้าจะต้องต่ำต้อยไร้ค่า?” ในน้ำเสียงของเขาเจือด้วยโทสะที่ปกปิดไม่มิด นั่นกลับทำให้ชีหยวนที่ตอนแรกยังอยู่ในความตื่นเต้นฮึกเหิมสงบลง นางลูบปอยผมของตนเองที่หลุดลงมาอย่างสุขุมเยือกเย็น: “ข้าน้อยพูดผิดไปแล้ว ขอบคุณท่านอ๋องที่ชี้แนะ ข้าน้อยจะจดจำใส่ใจเจ้าค่ะ” นางสำนึกผิดรวดเร็วเพียงนี้ ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลใดโทสะแต่เดิมที่ไม่รู้มาจากไหนของเซียวอวิ๋นถิงกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นมา ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด ประโยคนั้นที่ว่าชีวิตต่ำต้อยหนึ่งชีวิตของข้า กลับทำให้สายใยบางอย่างในใจของเขาสั่นไหวขึ้นมา ความรู้สึกอึดอัดแล่นพล่านอยู่ภายในใจของเขา ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง พลางจ้องชีหยวนและกล่าวว่า: “เจ้าอย่าเอาตัวไปเสี่ยงอันตราย หากมีเรื่องอันใด ข้าสามารถช่วยเหลือเจ้าได้” ชีหยวนไม่ตอบกลับ เรื่องราวในชาตินี้ไม่มีอะไรแน่นอน พึ่งพิงขุนเขาขุนเขาก็อาจจะถล่มลงมา สิ่งเดียวที่สามารถพึ่งพิงได้ มีเพียงตนเอง เพียงแต่เรื่องแบบนี้ ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปโต้เถียงกับผู้ใดอีกแล้ว นางยิ้มพลางกล่าวขอบคุณในน้ำใจและความหวังดีของเซียวอวิ๋นถิง จากนั้นค่อยเล่าข้อ
Read more

บทที่ 195  

งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจวมิได้จัดขึ้นที่จวนอ๋องโจวจริง ๆ ทว่าจัดที่เรือนพักนอกเมืองของจวนอ๋องโจว ซึ่งอยู่นอกเขตเมืองหลวง และต่อให้จวนในเมืองหลวงจะใหญ่โตกว้างขวางสักเพียงใด ทว่าจะสร้างสนามตีคลีขึ้นสักหนึ่งสนามนั้นก็ค่อนข้างลำบากเกินไปอยู่ดี แต่กับนอกเขตเมืองหลวงนั้นแตกต่างกัน สนามตีคลีของจวนอ๋องโจวใหญ่จนน่าอัศจรรย์ใจ อีกทั้งรอบข้างยังสร้างที่นั่งซึ่งมีลักษณะเป็นขั้นบันไดไล่ขึ้นไปจากต่ำไปสูง เพื่อให้ผู้ชมสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในสนามแข่งขันได้จากทุกทิศทาง ตอนที่ฮูหยินรองชีพาชีหยวนไปถึง บรรยากาศในงานยังไม่เร่าร้อนคึกคัก นางพาชีหยวนไปกล่าวทักทายพระชายาโจวก่อน พระชายาโจวกำลังยุ่ง อันที่จริงเหตุผลที่ส่งเทียบเชิญให้ตระกูลชี พูดตามตรงแล้วก็เป็นเพราะว่าเห็นแก่หน้าฮูหยินซื่อจื่อฉู่กั๋วกงซึ่งเป็นพี่สาวผู้พี่ของนางต่างหาก และแน่นอนว่านางไม่มีความจำเป็นจะต้องลดเกียรติลงไปสนทนากับชีหยวนด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้เองกระทั่งฮูหยินรองชีทำความเคารพแล้ว นางไม่แม้แต่มองให้ชัดเจนด้วยซ้ำว่าชีหยวนรูปโฉมโนมพรรณเป็นอย่างไร เพียงแต่อมยิ้มพลางเอ่ยกับฮูหยินรองชีว่า: “พวกเด็ก ๆ ต่างอยู่ในตำหนักเถาฮวาอู้ที่ลาน
Read more

บทที่ 196  

กลับกัน นางมีความเก่งกาจโดดเด่นมาโดยตลอดจนเรียกว่าแข่งกับองค์หญิงลั่วชวนในทุก ๆ เรื่อง แม้กระทั่งการเล่นตีคลีก็เช่นกัน งานแข่งตีคลีครั้งนี้ นับเป็นการลงสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการหลังพิธีปักปิ่นของพวกนางสองคน ทั้งคู่ต่างแบ่งกลุ่มมาก่อนเรียบร้อยแล้ว บัดนี้หลิ่วหมิงจูกำเริบเสิบสานไร้ความยำเกรง ในสายตาขององค์หญิงลั่วชวนมองแล้วชัดเจนว่าจงใจยั่วโทสะอย่างไม่ต้องสงสัย หลิ่วหมิงจูกลั้วหัวเราะเสียงเบา: “ชนะข้า? องค์หญิง หากท่านคิดอยากจะชนะข้า…ชนะคนอื่นให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด” สีหน้าของนางดูราบเรียบ เอ่ยด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม: “ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชีแห่งจวนหย่งผิงโหว ได้รับการชี้แนะอบรมโดยตรงจากองค์หญิงใหญ่ ฝีมือการขี่อาชาเรียกว่าโดดเด่นไม่เป็นรอง หากองค์หญิงสามารถเอาชนะนางได้ ข้าก็จะยอมรับความพ่ายแพ้ โดยที่ไม่ต้องแข่งขัน เช่นนั้นเป็นอย่างไร?” แต่ไหนแต่ไรมาองค์หญิงใหญ่โปรดปรานการเล่นตีคลีเป็นที่สุด แม้แต่บรรดาพระเชษฐาอย่างอ๋องโจวและอ๋องอู๋ยังไม่สามารถเอาชนะนางได้ ดังนั้นได้ยินหลิ่วหมิงจูเอ่ยเช่นนี้ขึ้น องค์หญิงลั่วชวนก็ขมวดคิ้วขึ้นและโพล่งถามออกไปทันใด: “ใครกัน?
Read more

บทที่ 197  

พวกนางสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝ่ายมารดา แต่กลับมิได้สนิทสนมกันเหมือนมารดาของพวกนาง ทว่าแข่งขันกันมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย แข่งกันว่าใครมีรูปโฉมงดงามกว่า ใครมีเนื้อผ้าตัดกระโปรงดูดีกว่า ใครโดดเด่นเลิศล้ำมากกว่า และใครเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาลูกหลานขุนนางในเมืองหลวงมากกว่า จะเรื่องใดล้วนนำมาเปรียบเทียบกันและกันได้ทั้งสิ้น อันที่จริงหากพูดถึงฐานะแล้ว เดิมหลิ่วหมิงจูไม่มีทางจะเทียบเท่าองค์หญิงลั่วชวนได้เลย แต่เพราะว่า หลิ่วหมิงจูนางมีท่านป้าซึ่งเป็นกุ้ยเฟยที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากที่สุด และหลิ่วกุ้ยเฟยก็ปฏิบัติกับนางไม่ต่างอะไรกับพระธิดาของพระองค์เอง ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้หลิ่วหมิงจูมีสิทธิ์และมีความคิดแข่งขันเปรียบเทียบว่าใครเหนือกว่าใครกับองค์หญิงลั่วชวน ยามนี้ได้ยินชีหยวนกล่าวว่าต้องการประลองฝีมือกับหลิ่วหมิงจูก่อน ปลายหางตาขององค์หญิงลั่วชวนพลันฉายประกายดูแคลน: “เจ้ามิได้อยากแข่งกับข้าหรอกหรือ? เอาเถิด วันนี้เจ้าเอาชนะนางให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หลิ่วหมิงจูหันขวับมามองชีหยวนซึ่งอยู่ด้านข้างทันใด สายตาคมกริบดุจมีด นางสวะชั้นต่ำคนนี้! หากมิใช่เพราะมารดาตั้งใจกำชับเป็
Read more

บทที่ 198  

น่าเสียดาย ชีหยวนกลับเป็นเหมือนก้อนหินแข็งแกร่ง หัวแข็ง ไม่สะทกสะท้านหวาดหวั่นแม้แต่น้อย ทว่า ก็มีคนส่งเสียงคัดค้านออกมาทันใด: “เช่นนี้ไม่เหมาะสม! จะแข่งขันก็แข่งขัน ทำแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน?” ชีหยวนเอียงศีรษะเล็กน้อย ครั้นมองเห็นดรุณีที่เอ่ยวาจาออกมาเมื่อครู่สวมเสื้อคลุมตัวสั้นสีเหลืองอ่อน ท่อนล่างมัดกระโปรงร้อยจีบสีชาขาว ยามนี้กำลังมองมายังตนเองด้วยท่าทางเป็นกังวล หัวใจของนางสั่นไหวเล็กน้อย แม่นางท่านนี้ช่างดูคุ้นหน้าคุ้นตานัก และในขณะนั้นเอง แม่นางที่เมื่อครู่เสนอให้ตัดมือก็กล่าวแย้งด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม: “หวังฉาน เจ้าจะเสแสร้งอะไรนักหนา? ที่ว่าใช้ได้ที่ไหนกันคืออะไร? เจ้าคงกลัวว่าลูกพี่ลูกน้องของตนเองจะแพ้การแข่งมากกว่ากระมัง? ใครไม่รู้บ้างว่าจวนติ้งหย่วนป๋อและจวนหย่งผิงโหวของพวกเจ้าเกี่ยวดองเป็นญาติกัน!” จวนติ้งหย่วนป๋อ เป็นบุตรีของนางหลู่ป้าสะใภ้เองหรือ ชีหยวนเข้าใจในทันที มิน่านางถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าหวังฉานนัก ที่แท้ก็เพราะหวังฉานหน้าเหมือนนางหลู่ นางผงกศีรษะให้หวังฉานอย่างเป็นมิตร ก่อนจะดึงดูดสายตาของทุกคนกลับมาอย่างแนบเนียน : “มิใช่ว่าจะต้องประลองกันแล้วหรือ?
Read more

บทที่ 199  

และในขณะเดียวกันนั้น เซียวอวิ๋นถิงซึ่งกำลังทักทายปราศรัยกับอ๋องโจวอยู่บนแท่นยกพื้นก็เห็นว่ามีคนเดินลงสนามแข่งแล้ว กระทั่งเห็นชัดว่าบุคคลผู้นั้นเป็นใคร แทบจะบีบถ้วยน้ำชาจนแตกละเอียด ถ้อยคำกำชับนับพันหมื่นของเขา ล้วนสูญเปล่าทั้งสิ้น! เด็กคนนี้ลงสนามแข่งไปแล้ว! นางคิดจะทำอะไรของนาง? ปลิดชีวิตใครสักคนสามารถอาศัยแรงดุดันป่าเถื่อน หรือความโหดเหี้ยมอำมหิต ทว่าการเล่นตีคลีแตกต่างจากสิ่งเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง และหากว่าพลาดพลั้งร่วงลงมา เป็นอันต้องจบชีวิตแล้ว! งานแข่งตีคลีในเมืองหลวงจะมีปีใดบ้างที่ไม่ต้องสูญเสียชีวิตของผู้ใดไปสักคน? อ๋องโจวกลั้วหัวเราะพลางส่งเสียงร้องแปลกใจ ก่อนจะกวักมือเรียกขันทีน้อยข้างกายเข้ามา: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ? ยังไม่เริ่มรำเพลงอุ่นเครื่องเปิดสนามเลย ไฉนจึงมีคนจูงม้าลงสนามไปแล้ว?” ขันทีน้อยหมุนตัวออกไปด้วยท่าทางร้อนรน ผ่านไปครู่หนึ่งก็กลับมา พร้อมกระซิบรายงานต้นสายปลายเหตุของเรื่องดังกล่าวนี้ให้อ๋องโจวฟังด้วยเสียงเบาหวิว อ๋องโจวอุทานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยออกมา: “เฮอะ มีคนกล้าท้าแม่หนูหลิ่วประลองตัวต่อตัว ตีลูกตีคลีตัดสินในประตูเดียวด้วยหรือ?”
Read more

บทที่ 200  

อ๋องโจวมองเซียวอวิ๋นถิงพลางกลั้วหัวเราะเช่นกัน: “ดูเหมือนอาชาเหงื่อโลหิตจะต้องเป็นของแม่หนูหลิ่วแล้ว” เซียวอวิ๋นถิงยังขมวดคิ้วเล็กน้อยในตอนแรก บัดนี้ได้ยินอ๋องโจวเอ่ยออกมาเช่นนี้ ก็พลันหัวเราะขึ้นมา: “ท่านปู่น้อย ชัยชนะจะตกอยู่ในมือใคร บัดนี้ยังไม่อาจรู้” อ๋องโจวหันกลับมา ก็เห็นชีหยวนตะบึงอาชา พุ่งไปตัดหน้าหลิ่วหมิงจูอย่างบ้าคลั่ง พลิกฝ่ามือสกัดลูกไว้ได้ก็หวดลูกกลับไปอีกฟากตรงข้ามแล้ว ลูกคลีถูกแย่งไปได้สำเร็จแล้วจริง ๆ! “เยี่ยม!” อ๋องโจวส่งเสียงร้องชมเชยออกมาอย่างอดไม่ไหว เสี้ยวขณะนั้นแอบรู้สึกตะลึงงันเล็กน้อย: “แม่หนูคนนี้เป็นใครกัน?” เซียวอวิ๋นถิงกระตุกมุมปาก ฮูหยินใหญ่หลิ่วเหยียดตัวตรงช้า ๆ ในแววตาฉายประกายอึ้งงันและไม่อยากเชื่อ เฝ้าดูบุตรีเล่นตีคลีซ้อมตีคลีมานานหลายปี นางย่อมรู้ดีว่าบุตรีมีความสามารถระดับใด และเพราะเหตุผลนี้ ตอนที่เห็นชีหยวนสามารถตะบึงอาชาเข้าไปตัดลูกคลีของหลิ่วหมิงจูมาได้ นางยิ่งรู้สึกตื่นตะลึงและงงงัน เป็นไปได้อย่างไร?! นางเด็กที่มาจากหุบเขาท้องทุ่งคนนี้ ไยจึงมีความสามารถได้ถึงเพียงนี้?! และในตอนนี้เสียงร้องเฮจากนอกสนามแข่งไม่มีทางจะส่งไปถึง
Read more
PREV
1
...
1819202122
...
31
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status