เมื่อสิ้นเสียง ฝีเท้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็หยุดชะงัก พลางหันหน้ากลับไปมองท่านย่า ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังตะโกนให้นางหยุดด้วยความขุ่นเคืองอยู่เลย เวลานี้กลับสงบนิ่งอีกครั้ง แววตาอ่อนโยนก็จริง การขอร้องผู้อื่นก็ควรต้องมีท่าทีขอร้อง นับว่ามีไหวพริบยิ่งนัก หากเป็นเมื่อก่อน คงหลุดปากด่าว่านางอกตัญญู ด่าว่านางไร้หัวใจ ด่าว่านางไม่คำนึงถึงสกุลไปแล้วนางยิ้มพลางถาม “ท่านย่ายังมีธุระอันใดอีกหรือเจ้าคะ?”ฮูหยินผู้เฒ่าเมิ่งหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความเดือดดาลที่อยู่ภายในก้นบึ้งของจิตใจ พยายามรักษาความอบอุ่นที่อยู่ในน้ำเสียงอย่างเต็มที่ “อาเหยา เฉิงซิงเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเบา ๆ “ข้ารู้เจ้าค่ะ แล้วอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”ฮูหยินผู้เฒ่าเมิ่งใช้ใจแลกใจ ใช้เหตุผลแลกเหตุผล “อาเหยา ย่ารู้ว่าเจ้าขุ่นเคืองที่มารดาของเจ้าก้าวก่ายเรื่องสินเดิมของมารดาผู้ให้กำเนิดเจ้า ทว่าน้องสามของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ ถึงเจ้าจะโกรธมารดาเจ้าเพียงไร ก็ไม่ควรคิดแค้นน้องสามของเจ้าไปด้วย”สำนักศึกษาหลิงซานเป็นสำนักศึกษาที่บรรดาบัณฑิตในใต้หล้าแห่แหนกันไป เมื่อเข้าไปที่สำนักศึกษาหลิงซานแล้ว ก็จะเข้าใกล้จิ้นซื่อ
ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19 อ่านเพิ่มเติม