All Chapters of ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว: Chapter 181 - Chapter 190

212 Chapters

บทที่ 181

ก่อนหน้านี้ที่เฟิ่งเชียนอวี่รักษาให้ตงฟางเย่า เพราะนางถูกราชโองการของฮ่องเต้เทียนหยวนเชิญเข้าวังต่อหน้าบิดามารดาของเขา และยังเป็นภายใต้สถานการณ์บิดายังเป็นฮ่องเต้อีก ตอนนั้นนางจึงยากจะเอ่ยปากขอค่ารักษากับพวกเขา เรื่องราวหลังจากนั้นนางยังรู้สึกเสียใจมาโดยตลอด รู้สึกว่าตัวเองขาดทุนแล้วแต่ในเมื่อตอนนี้ตงฟางเย่ามาหาถึงบ้านเอง เฟิ่งเชียนอวี่ก็สามารถขอค่ารักษาจากเขาที่เป็นเจ้าของเรื่อง ไม่มีอะไรผิดปกติตงฟางจิ่งนึกถึงโรคเห็นแก่เงินของนาง นิ่งเงียบ“เจอกันได้ แต่เจ้าเป็นคนกำหนดสถานที่ กำหนดไว้ที่บ้าน”เฟิ่งเชียนอวี่กะพริบตาปริบๆ “เช่นนี้ยุ่งยากเกินไปกระมัง” “ยุ่งยากอย่างไร?” ตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว“ต้อนรับแขกอะไรเอย…”“ไม่เห็นเขาเป็นแขกก็พอ”“...”เหตุผลดีมากและทรงพลังมาก เฟิ่งเชียนอวี่มองสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของตงฟางจิ่ง จิบชาสงบสติอารมณ์คำหนึ่งเปลี่ยนสถานที่แล้ว ทางตงฟางเย่าก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นสองวันก็มาตามนัดเฟิ่งเชียนอวี่แต่งตัวเป็นรูปลักษณ์ของนักพรตเฟิง เลือกเรือนที่เงียบสงบหลังหนึ่ง ให้คนไปเก็บกวาด และได้เตรียมอาหารกับเหล้าไว้หนึ่งโต๊ะตงฟางจิ่งมาจวนอ๋องหกอย่างยิ่งใหญ่
Read more

บทที่ 182

นี่เป็นผู้ป่วยที่ใจกว้างที่สุดในบรรดาผู้ป่วยที่นางเคยรักษาที่นี่อย่างแน่นอน คิดไม่ถึงว่าหมอนี่จะรู้ใจเช่นนี้ เฟิ่งเชียนอวี่มองตงฟางจิ่งไม่ถูกชะตาในพริบตาแน่นอนว่าตื่นเต้นก็ส่วนตื่นเต้น นางยังไม่ลืมบทบาทของตัวเอง ในตอนนี้ นักพรตต้องมีความหนักแน่นเฟิ่งเชียนอวี่มองกล่องผ้าแพรด้วยสีหน้าที่สุขุมแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเรียบเฉย “ท่านอ๋องสามเกรงใจแล้ว ตามค่ารักษาของข้า ท่านอ๋องสามให้เยอะเกินไปแล้ว” ตงฟางเย่ารีบกล่าว “ไม่เยอะๆ เงินทองเป็นของนอกกาย นักพรตเฟิงเป็นผู้บำเพ็ญอันสูงส่ง ไม่รังเกียจเงินทองที่เป็นของทางโลกเหล่านี้ก็พอ”“โปรดรีบๆ รับเอา ไม่เช่นนั้นข้าไม่สบายใจ”เฟิ่งเชียนอวี่บ่ายเบี่ยงเป็นพิธีหนึ่งครั้ง ก็ไม่เกรงใจแล้ว นางรับกล่องมา “เช่นนั้นข้าก็ขอน้อมรับไว้ตามความปรารถนาของท่านแล้ว”นางกลัวตัวเองบ่ายเบี่ยงหลายครั้งจนพลาด หากบ่ายเบี่ยงจนตั๋วทองคำเหล่านี้หายไปในพริบตา นางจะไปร้องไห้ฟ้องใคร บ่ายเบี่ยงเป็นพิธีหนึ่งครั้งก็พอแล้วจุๆ ห้าพันตำลึงทองเลยนะ สัมผัสกล่องใบนี้แล้วรู้สึกถึงความแตกต่างได้เลย ไม่เลวๆตงฟางจิ่งจิบเหล้าคำหนึ่งอย่างช้าๆ หางตาเหลือบมองเฟิ่งเชียนอวี่แวบหนึ่ง ราวกับส
Read more

บทที่ 183

ตงฟางจิ่งเผยอปากอย่างพอใจ “เช่นนั้นก็ดี”เขากล่าวจบก็มองไปทางตงฟางเย่า “ได้ยินแล้วนะ?”ตงฟางเย่า “...”เขามองนักพรตเฟิงแล้วมองตงฟางจิ่ง มักจะรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างสองคนนี้มีบางอย่างผิดปกติ แปลกๆ เขาคิดไปเองหรือ?ตงฟางเย่าไม่ได้เซ้าซี้เรื่องนี้มากนัก เปลี่ยนหัวข้อสนทนาแล้วเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง เฟิ่งเชียนอวี่เห็นแก่ตั๋วทองคำห้าใบนั่น ก็ค่อนข้างให้ความร่วมมือเช่นกันคุยไปคุยมาเช่นนี้ เป็นภาพที่คุยกันค่อนข้างสุขสำราญตงฟางเย่าอารมณ์ดีมาก เมื่อเหล้าหลายจอกลงท้อง คำพูดก็เปิดใจทันที เขาโบกมือใหญ่ด้วยความมึนเมา“นักพรตเฟิง ท่านก็คือผู้มีพระคุณของข้า ถ้าหากท่านอยู่จวนอ๋องหกแล้วลำบาก ก็มาหาข้าที่จวนอ๋องสามได้เลย”“ท่านเลือกเรือนในจวนของข้าได้ตามใจชอบ มีเงื่อนไขอะไรก็เสนอเลย”เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองตงฟางจิ่งแวบหนึ่ง สีหน้าของเขาบูดบึ้งเล็กน้อยอย่างที่คิดตงฟางจิ่งเอ่ยปากส่งแขกโดยตรง เขามองไปทางเด็กรับใช้และองครักษ์ที่อยู่ข้างหลังของตงฟางเย่า “นายของพวกเจ้าดื่มเยอะแล้ว ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด รีบกลับจวนเถอะ ข้าก็ไม่ของรั้งพวกเจ้าแล้ว”เด็กรับใช้และองค
Read more

บทที่ 184

อีกฝ่ายสวมกระโปรงผูกอกสีเขียวอ่อนโบราณ ผมสีดำม้วนเป็นมวยอย่างเรียบง่าย และปักปิ่นปักผมไข่มุกสีอ่อนๆ สองสามดอก ระหว่างคิ้วมืดมนเล็กน้อย“เจ้า เจ้าเป็นใคร? เป็นคนหรือผี”นางรู้สึกว่าตัวเองน่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่อยู่ดีๆ ก็นึกไม่ออกอีกฝ่ายเอาแต่จ้องนางทั้งเช่นนี้ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงจะค่อยๆ เอ่ยปาก“เหลือเวลาไม่มากแล้ว ข้าจะไปแล้ว เจ้าดูแลตัวเองดีๆ…”เสียงแผ่วเบา ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายอยู่ห่างจากนางพอสมควร แต่เสียงนี้ก็เหมือนกับดังอยู่ที่ข้างหูนางเฟิงเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ขณะเดียวกันก็งงงวย ไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายตอนที่นางเตรียมตัวถาม อีกฝ่ายค่อยๆ ถอยหลัง หมุนกายอย่างช้าๆ เดินเข้าไปในความมืดทีละก้าว ไม่นานก็หายไปแล้วขณะที่นางรู้สึกประหลาดใจ ก็ขนลุกซู่เล็กน้อยเวลานี้ ความง่วงได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง นางหาวทีหนึ่ง ก็หลับตาลงโดยไม่รู้ตัว“พระชายา ควรลุกแล้วเจ้าค่ะ” หลิวซูเร่งเร้าตามปกติเฟิ่งเชียนอวี่ลืมตาอย่างสะลึมสะลือ บิดร่างกายไปมาบนเตียง “ยามไหนแล้ว”“ยามเฉิน[1]แล้วเจ้าค่ะพระชายา”ดังนั้นเพิ่งเจ็ดแปดโมง?เฟิ่งเชียนอวี่เบะปาก หลับตากล่าว “หลิวซู ต่อไปพวกเราเปลี่
Read more

บทที่ 185

เฟิ่งเชียนอวี่ดึงผ้าห่มออก เตรียมตัวลงจากเตียง จู่ๆ ก็เหมือนรู้สึกมีอะไรมาเกาะที่แขน นางอดไม่ได้ที่จะเกาผ่านเสื้อ พลันการกระทำชะงักสัมผัสนี้…นางขมวดคิ้ว เมื่อเลิกแขนเสื้อดู เบิกตากว้างกะทันหันนี่มันบ้าอะไร? มาได้อย่างไร?เห็นเพียงบนแขนที่ขาวนุ่มละมุน จู่ๆ ก็มีเส้นสีแดงเข้มสองเส้นปรากฏขึ้นข้างบนหนึ่งเส้น ข้างล่างหนึ่งเส้น เหมือนกับรากต้นไม้เหี่ยวที่บิดงอและหนา ดูแล้วน่ากลัวเล็กน้อยมีเรื่องเช่นนี้แต่เช้าเลย ค่อนข้างน่าตื่นเต้นใบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เต็มไปด้วยความตกใจ ร่างกายแข็งทื่อ อดไม่ได้ที่จะยื่นมืออันสั่นเทาไปสัมผัสแล้วสัมผัสอีก จับแล้วแข็งๆ ไม่เจ็บและไม่คันนางงงงวยไปหมดแล้ว นี่มันบ้าบออะไรกันเนี่ย?เฟิ่งเชียนอวี่ประหลาดใจมาก นางจ้องของสิ่งนี้จนอยากขุดออกมาเสียเดี๋ยวนี้หรือว่า…โรคผิวหนัง?ไม่ๆ ไม่ใช่ นางอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ อย่าคิดจะมาหลอกนาง นางไม่เคยเห็นโรคผิวหนังที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนดีหรือไม่?ทันใดนั้น นางส่ายศีรษะ เมื่อครู่ยังรู้สึกตื่นตัวมากอยู่เลย เวลานี้มึนๆ หนักๆ เล็กน้อยวินาทีต่อมา ภาพตรงหน้าเฟิ่งเชียนอวี่ดับลง หมดสติอย่างสมบูรณ์“อ๊ะ พระชายา…”
Read more

บทที่ 186

เฟิ่งเชียนอวี่จะรังเกียจได้อย่างไร คนที่หิวโซมักอยากกินของอร่อยนางกินอาหารทั้งหมดหนึ่งรอบ จึงรู้สึกสบายขึ้นไม่น้อยตงฟางจิ่งเห็นนางกินเสร็จแล้ว จึงให้หลวงจีนน้อยที่รับใช้อยู่ด้านนอกเข้ามาเก็บกวาด จากนั้นให้เขาไปเรียนเชิญไต้ซือ ต่อมาจึงเริ่มสอบถาม“รอยแผลบนมือเจ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่หันมองแขนตัวเอง แล้วเบะปาก “ไม่แน่ใจ พอหลับไปหนึ่งตื่นก็โผล่ขึ้นมาเอง”ตงฟางจิ่งขมวดคิ้ว “เจ้าไม่รู้หรือ?”นางชะงักไปเล็กน้อย “ไม่รู้นะสิ”เจ้าหมอนี่ทำหน้าอะไรกัน ทำเหมือนนางหลอกเขา แล้วนางต้องรู้อย่างนั้นละเขาเงียบไปสักครู่จึงเอ่ยขึ้น “ที่เจ้าหมดสติไปสามวัน เป็นเพราะมันหรือ”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า เรื่องนี้นางพอเดาได้ขณะนี้ ประตูถูกเปิดอีกครั้ง มีหลวงจีนที่สวมจีวร มือถือลูกประคำ สีหน้าสงบนิ่ง ดวงตายิ้มแย้มเดินเข้ามา“ท่านอ๋องหก พระชายาหก เจริญพร”ตงฟางจิ่งลุกขึ้น “ไต้ซือเกรงใจเกินไปแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่าย “ท่านอ๋อง ท่านนี้คือ?”“ท่านนี้คืออู๋เหวยไต้ซือ”เฟิ่งเชียนอวี่ถลึงตา แล้วพูดโพล่งออกไป “ตาแก่ต้มตุ๋นนั่นหรือ?”ตงฟางจิ่ง “...”อู๋เหวย “...”“พระชายาของข้าค
Read more

บทที่ 187

ระหว่างที่แย่งชิงชะตาชีวิตกัน จะไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ทว่าเมื่อใดที่ชะตาของอีกฝ่ายถูกช่วงชิงไปจนหมดสิ้น ฝ่ายนั้นต้องตายอู๋เหวยไต้ซือเอ่ยเชื่องช้า “โลหิตนำพาเป็นมนต์ดำที่หายสาบสูญมานับร้อยปี นึกไม่ถึงว่าอาตมายังมีวันได้พบเห็น”ขณะนี้ ห้องที่ใหญ่โตเงียบสงัดเฟิ่งเชียนอวี่มองอู๋เหวยอย่างระอา แล้วก่นด่าอยู่ในใจ เจ้าหมอนี่เป็นพวกหลอกลวงจริงสินะ เจ้าคนต้มตุ๋นเอ๊ย ถึงกับกล้ามาหลอกนางเชียวหรือสร้างเรื่องราวเสียดิบดี จนนางเกือบจะเชื่ออยู่แล้วเชียว“ไต้ซือเห็นว่าข้านอนมานานจนรู้สึกเบื่อ จึงมาพูดเรื่องพิศวงลึกลับกับข้าหรือ?”อู๋เหวยชะงัก เมื่อเห็นแววตาไม่หวังดีของนาง เขาเงียบไปสักครู่แล้วเอ่ยขึ้น “พระชายาหก สีของคำสาปทำให้รู้ว่าท่านเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เหตุใดจึงทำเช่นนี้?”ตงฟางจิ่งเองก็หันมองนาง “เรื่องที่สำคัญขนาดนี้ เจ้าไม่น่าจะจำไม่ได้ ลองนึกดูให้ดีสิ”คิดบ้าคิดบออะไร นางบ้าไปแล้วถึงได้สร้างของบ้านี่ใส่ตัวเอง นาง...ความคิดเฟิ่งเชียนอวี่หยุดกึก ทันใดนั้นชะงักไป ไม่ใช่สิ นางย่อมทำเรื่องอย่างนี้ไม่เป็น ทว่า...นางไม่ใช่เฟิ่งเชียนอวี่ที่แท้จริงนางสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นค่อย ๆ หรี่ตาลง
Read more

บทที่ 188

เจ้าของร่างเดิมดูจากสมุดเล่มนั้น แล้วใช้เลือดที่เหลืออยู่บนตัวนางหลี่ วาดภาพบนพื้นด้วยเลือดจากนั้น นางได้เคลื่อนย้ายศพของนางหลี่เข้าไปวางไว้ตรงกลางภาพวาด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เป็นเวลาใกล้รุ่งแล้วเจ้าของร่างเดินไม่รอช้า นางนั่งอยู่บนพื้น กรีดนิ้วมือตัวเอง แล้วหยดเลือดลงบนภาพวาดหลังจากเสร็จสิ้น นางถึงโล่งอก แล้วมองนางหลี่ด้วยดวงตาพร่ามัว ต่อมาคุกเข่าคำนับมารดาสามครั้ง ก่อนจะจากไปด้วยน้ำตาวันรุ่งขึ้น ศพของนางหลี่ถูกจัดการเรียบร้อยหลายวันต่อมา คนของจวนเสนาบดียังอยู่ดี ไม่ได้ยินข่าวคราวว่ามีใครตาย เจ้าของร่างเดิมผิดหวังมาก แต่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักนางในตอนนั้น เพียงทดลองทำตามวิธีในสมุดเท่านั้น ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เมื่อไม่ได้ผลก็ไม่ได้ใส่ใจ พอเวลานานไป กลับทำให้ลืมเรื่องนี้เสียสนิทเจ้าของร่างเดิมไม่รู้เลย ว่าบ่าวที่ไปจัดการศพนางหลี่ ไม่ได้มองเห็นรอยเลือดบนพื้นเลยแม้แต่น้อย ราวกับภาพวาดเลือดที่นางวาด ไม่เคยปรากฏมาก่อนเฟิ่งเชียนอวี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วนวดหัวที่ปวดตุบ ๆ“เป็นอะไร หรือจำอะไรได้บ้างแล้ว?” ตงฟางจิ่งเอ่ยถามมุมปากนางกระตุก แล้วกระแอมเสียงค่อย “คือว่า นึกข
Read more

บทที่ 189

เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ “พูดยาก แต่ต้องเป็นคนในตระกูลเฟิ่งแน่นอน อีกอย่าง นางหลิ่วและเฟิ่งหลิงหลงน่าสงสัยมากที่สุด”จากความทรงจำ ประโยชน์ของโลหิตนำพาคือหาตัวคนร้าย หาตัวคนร้ายที่ทำให้นางหลี่คลอดยากจนตาย นางหลิ่วจึงน่าสงสัยที่สุดอีกอย่าง เฟิ่งหลิงหลงลูกสาวของนางก็อาจจะมีส่วนร่วม“ตกลงจะเป็นพวกนางสองคนหรือไม่ คงต้องลองดูก่อน” นางถอนหายใจตงฟางจิ่งลูบหัวนาง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะช่วยเจ้าเอง”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”ท่าทางเหมือนประธานบริษัทที่แสดงออกมาคืออะไรกันตงฟางจิ่งยินดีช่วยนาง นางย่อมไม่ปฏิเสธ ไม่แน่อาจมีช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหมอนี่จริง ๆ นางจึงยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น“เช่นนั้นขอขอบพระคุณท่านอ๋องล่วงหน้า”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่กลับเรือนชิงหลาน นางอยู่ในห้องเพียงลำพัง แล้วเข้าไปในห้องทดลองนางมองดูปานสีแดงสองรอยที่น่ากลัวบนแขนตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย มุมปากยิ้มเยือกเย็น ดวงตาดุร้าย อีกทั้งมั่นใจมาก“ฮึ ก็แค่รอยแผลเป็นสองรอยไม่ใช่หรือ ข้าไม่เชื่อว่าจะกำราบเจ้าไม่ได้ วันนี้ข้าจะดูสิว่าตกลงเจ้าคือสิ่งใดกันแน่”เฟิ่งเชียนอวี่นอนลงภายในอุโมงค์สแกน แล้วเ
Read more

บทที่ 190

มนต์ดำคือเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เฮ้อเฟิ่งเชียนอวี่ท้อแท้สิ้นหวังอยู่ในเรือนตัวเองสองวันถึงจะกลับมาเป็นปกติช่างเถอะ ไม่ว่าอย่างไร ยังดีที่นางรู้ว่าต้องแก้ไขเจ้าสิ่งนี้อย่างไร ก็ยังดีกว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากเป็นนางหลิ่วกับเฟิ่งหลิงหลงยิ่งดี เพราะนางมีความแค้นกับทั้งสองอยู่แล้ว ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องแตกหักกันอย่างสิ้นเชิงตอนนี้ แค่มีเหตุผลที่ต้องต่อกรกับพวกนางสองแม่ลูกมากขึ้นหนึ่งข้อเท่านั้นเอง นางรับได้อย่างน้อยดูจากตอนนี้ ชะตาของนางเหมือนจะไม่เลว เมื่อเทียบกันแล้ว นางหลิ่วสองแม่ลูกดูโชคร้ายกว่านาง จึงไม่จำเป็นต้องกังวลชั่วคราวหลังจากเฟิ่งเชียนอวี่คิดจนเข้าใจ จึงไม่ลังเลอีกต่อไปกิจการของฮ่วนเหยียนยังคึกคักเหมือนเดิม ทุกวันจะมีลูกค้าเยอะมาก ตอนนี้เป็นเดือนที่แปดของปีแล้วยังเหลืออีกสองเดือนก่อนเดือนสิบ จะมีขบวนพ่อค้าและพ่อค้าจากเมืองอื่นนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนในเมืองหลวง เพื่อขายสินค้านำเงินกลับไปฉลองปีใหม่ และซื้อสินค้าใหม่เตรียมขายปีหน้าหลังปีใหม่เมืองหลวงในตอนนั้นจะยิ่งคึกคักมากขึ้น เชื่อว่ากำไรของฮ่วนเหยียนจะทวีคูณขึ้นไปพ่อบ้านนำเทียบเชิญอีกใบมาที่เรือนชิงหลาน
Read more
PREV
1
...
171819202122
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status