เฟิ่งเชียนอวี่ดึงผ้าห่มออก เตรียมตัวลงจากเตียง จู่ๆ ก็เหมือนรู้สึกมีอะไรมาเกาะที่แขน นางอดไม่ได้ที่จะเกาผ่านเสื้อ พลันการกระทำชะงักสัมผัสนี้…นางขมวดคิ้ว เมื่อเลิกแขนเสื้อดู เบิกตากว้างกะทันหันนี่มันบ้าอะไร? มาได้อย่างไร?เห็นเพียงบนแขนที่ขาวนุ่มละมุน จู่ๆ ก็มีเส้นสีแดงเข้มสองเส้นปรากฏขึ้นข้างบนหนึ่งเส้น ข้างล่างหนึ่งเส้น เหมือนกับรากต้นไม้เหี่ยวที่บิดงอและหนา ดูแล้วน่ากลัวเล็กน้อยมีเรื่องเช่นนี้แต่เช้าเลย ค่อนข้างน่าตื่นเต้นใบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เต็มไปด้วยความตกใจ ร่างกายแข็งทื่อ อดไม่ได้ที่จะยื่นมืออันสั่นเทาไปสัมผัสแล้วสัมผัสอีก จับแล้วแข็งๆ ไม่เจ็บและไม่คันนางงงงวยไปหมดแล้ว นี่มันบ้าบออะไรกันเนี่ย?เฟิ่งเชียนอวี่ประหลาดใจมาก นางจ้องของสิ่งนี้จนอยากขุดออกมาเสียเดี๋ยวนี้หรือว่า…โรคผิวหนัง?ไม่ๆ ไม่ใช่ นางอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ อย่าคิดจะมาหลอกนาง นางไม่เคยเห็นโรคผิวหนังที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนดีหรือไม่?ทันใดนั้น นางส่ายศีรษะ เมื่อครู่ยังรู้สึกตื่นตัวมากอยู่เลย เวลานี้มึนๆ หนักๆ เล็กน้อยวินาทีต่อมา ภาพตรงหน้าเฟิ่งเชียนอวี่ดับลง หมดสติอย่างสมบูรณ์“อ๊ะ พระชายา…”
เฟิ่งเชียนอวี่จะรังเกียจได้อย่างไร คนที่หิวโซมักอยากกินของอร่อยนางกินอาหารทั้งหมดหนึ่งรอบ จึงรู้สึกสบายขึ้นไม่น้อยตงฟางจิ่งเห็นนางกินเสร็จแล้ว จึงให้หลวงจีนน้อยที่รับใช้อยู่ด้านนอกเข้ามาเก็บกวาด จากนั้นให้เขาไปเรียนเชิญไต้ซือ ต่อมาจึงเริ่มสอบถาม“รอยแผลบนมือเจ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่หันมองแขนตัวเอง แล้วเบะปาก “ไม่แน่ใจ พอหลับไปหนึ่งตื่นก็โผล่ขึ้นมาเอง”ตงฟางจิ่งขมวดคิ้ว “เจ้าไม่รู้หรือ?”นางชะงักไปเล็กน้อย “ไม่รู้นะสิ”เจ้าหมอนี่ทำหน้าอะไรกัน ทำเหมือนนางหลอกเขา แล้วนางต้องรู้อย่างนั้นละเขาเงียบไปสักครู่จึงเอ่ยขึ้น “ที่เจ้าหมดสติไปสามวัน เป็นเพราะมันหรือ”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า เรื่องนี้นางพอเดาได้ขณะนี้ ประตูถูกเปิดอีกครั้ง มีหลวงจีนที่สวมจีวร มือถือลูกประคำ สีหน้าสงบนิ่ง ดวงตายิ้มแย้มเดินเข้ามา“ท่านอ๋องหก พระชายาหก เจริญพร”ตงฟางจิ่งลุกขึ้น “ไต้ซือเกรงใจเกินไปแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่าย “ท่านอ๋อง ท่านนี้คือ?”“ท่านนี้คืออู๋เหวยไต้ซือ”เฟิ่งเชียนอวี่ถลึงตา แล้วพูดโพล่งออกไป “ตาแก่ต้มตุ๋นนั่นหรือ?”ตงฟางจิ่ง “...”อู๋เหวย “...”“พระชายาของข้าค
ระหว่างที่แย่งชิงชะตาชีวิตกัน จะไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ทว่าเมื่อใดที่ชะตาของอีกฝ่ายถูกช่วงชิงไปจนหมดสิ้น ฝ่ายนั้นต้องตายอู๋เหวยไต้ซือเอ่ยเชื่องช้า “โลหิตนำพาเป็นมนต์ดำที่หายสาบสูญมานับร้อยปี นึกไม่ถึงว่าอาตมายังมีวันได้พบเห็น”ขณะนี้ ห้องที่ใหญ่โตเงียบสงัดเฟิ่งเชียนอวี่มองอู๋เหวยอย่างระอา แล้วก่นด่าอยู่ในใจ เจ้าหมอนี่เป็นพวกหลอกลวงจริงสินะ เจ้าคนต้มตุ๋นเอ๊ย ถึงกับกล้ามาหลอกนางเชียวหรือสร้างเรื่องราวเสียดิบดี จนนางเกือบจะเชื่ออยู่แล้วเชียว“ไต้ซือเห็นว่าข้านอนมานานจนรู้สึกเบื่อ จึงมาพูดเรื่องพิศวงลึกลับกับข้าหรือ?”อู๋เหวยชะงัก เมื่อเห็นแววตาไม่หวังดีของนาง เขาเงียบไปสักครู่แล้วเอ่ยขึ้น “พระชายาหก สีของคำสาปทำให้รู้ว่าท่านเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เหตุใดจึงทำเช่นนี้?”ตงฟางจิ่งเองก็หันมองนาง “เรื่องที่สำคัญขนาดนี้ เจ้าไม่น่าจะจำไม่ได้ ลองนึกดูให้ดีสิ”คิดบ้าคิดบออะไร นางบ้าไปแล้วถึงได้สร้างของบ้านี่ใส่ตัวเอง นาง...ความคิดเฟิ่งเชียนอวี่หยุดกึก ทันใดนั้นชะงักไป ไม่ใช่สิ นางย่อมทำเรื่องอย่างนี้ไม่เป็น ทว่า...นางไม่ใช่เฟิ่งเชียนอวี่ที่แท้จริงนางสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นค่อย ๆ หรี่ตาลง
เจ้าของร่างเดิมดูจากสมุดเล่มนั้น แล้วใช้เลือดที่เหลืออยู่บนตัวนางหลี่ วาดภาพบนพื้นด้วยเลือดจากนั้น นางได้เคลื่อนย้ายศพของนางหลี่เข้าไปวางไว้ตรงกลางภาพวาด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เป็นเวลาใกล้รุ่งแล้วเจ้าของร่างเดินไม่รอช้า นางนั่งอยู่บนพื้น กรีดนิ้วมือตัวเอง แล้วหยดเลือดลงบนภาพวาดหลังจากเสร็จสิ้น นางถึงโล่งอก แล้วมองนางหลี่ด้วยดวงตาพร่ามัว ต่อมาคุกเข่าคำนับมารดาสามครั้ง ก่อนจะจากไปด้วยน้ำตาวันรุ่งขึ้น ศพของนางหลี่ถูกจัดการเรียบร้อยหลายวันต่อมา คนของจวนเสนาบดียังอยู่ดี ไม่ได้ยินข่าวคราวว่ามีใครตาย เจ้าของร่างเดิมผิดหวังมาก แต่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักนางในตอนนั้น เพียงทดลองทำตามวิธีในสมุดเท่านั้น ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เมื่อไม่ได้ผลก็ไม่ได้ใส่ใจ พอเวลานานไป กลับทำให้ลืมเรื่องนี้เสียสนิทเจ้าของร่างเดิมไม่รู้เลย ว่าบ่าวที่ไปจัดการศพนางหลี่ ไม่ได้มองเห็นรอยเลือดบนพื้นเลยแม้แต่น้อย ราวกับภาพวาดเลือดที่นางวาด ไม่เคยปรากฏมาก่อนเฟิ่งเชียนอวี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วนวดหัวที่ปวดตุบ ๆ“เป็นอะไร หรือจำอะไรได้บ้างแล้ว?” ตงฟางจิ่งเอ่ยถามมุมปากนางกระตุก แล้วกระแอมเสียงค่อย “คือว่า นึกข
เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ “พูดยาก แต่ต้องเป็นคนในตระกูลเฟิ่งแน่นอน อีกอย่าง นางหลิ่วและเฟิ่งหลิงหลงน่าสงสัยมากที่สุด”จากความทรงจำ ประโยชน์ของโลหิตนำพาคือหาตัวคนร้าย หาตัวคนร้ายที่ทำให้นางหลี่คลอดยากจนตาย นางหลิ่วจึงน่าสงสัยที่สุดอีกอย่าง เฟิ่งหลิงหลงลูกสาวของนางก็อาจจะมีส่วนร่วม“ตกลงจะเป็นพวกนางสองคนหรือไม่ คงต้องลองดูก่อน” นางถอนหายใจตงฟางจิ่งลูบหัวนาง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะช่วยเจ้าเอง”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”ท่าทางเหมือนประธานบริษัทที่แสดงออกมาคืออะไรกันตงฟางจิ่งยินดีช่วยนาง นางย่อมไม่ปฏิเสธ ไม่แน่อาจมีช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหมอนี่จริง ๆ นางจึงยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น“เช่นนั้นขอขอบพระคุณท่านอ๋องล่วงหน้า”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่กลับเรือนชิงหลาน นางอยู่ในห้องเพียงลำพัง แล้วเข้าไปในห้องทดลองนางมองดูปานสีแดงสองรอยที่น่ากลัวบนแขนตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย มุมปากยิ้มเยือกเย็น ดวงตาดุร้าย อีกทั้งมั่นใจมาก“ฮึ ก็แค่รอยแผลเป็นสองรอยไม่ใช่หรือ ข้าไม่เชื่อว่าจะกำราบเจ้าไม่ได้ วันนี้ข้าจะดูสิว่าตกลงเจ้าคือสิ่งใดกันแน่”เฟิ่งเชียนอวี่นอนลงภายในอุโมงค์สแกน แล้วเ
มนต์ดำคือเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เฮ้อเฟิ่งเชียนอวี่ท้อแท้สิ้นหวังอยู่ในเรือนตัวเองสองวันถึงจะกลับมาเป็นปกติช่างเถอะ ไม่ว่าอย่างไร ยังดีที่นางรู้ว่าต้องแก้ไขเจ้าสิ่งนี้อย่างไร ก็ยังดีกว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากเป็นนางหลิ่วกับเฟิ่งหลิงหลงยิ่งดี เพราะนางมีความแค้นกับทั้งสองอยู่แล้ว ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องแตกหักกันอย่างสิ้นเชิงตอนนี้ แค่มีเหตุผลที่ต้องต่อกรกับพวกนางสองแม่ลูกมากขึ้นหนึ่งข้อเท่านั้นเอง นางรับได้อย่างน้อยดูจากตอนนี้ ชะตาของนางเหมือนจะไม่เลว เมื่อเทียบกันแล้ว นางหลิ่วสองแม่ลูกดูโชคร้ายกว่านาง จึงไม่จำเป็นต้องกังวลชั่วคราวหลังจากเฟิ่งเชียนอวี่คิดจนเข้าใจ จึงไม่ลังเลอีกต่อไปกิจการของฮ่วนเหยียนยังคึกคักเหมือนเดิม ทุกวันจะมีลูกค้าเยอะมาก ตอนนี้เป็นเดือนที่แปดของปีแล้วยังเหลืออีกสองเดือนก่อนเดือนสิบ จะมีขบวนพ่อค้าและพ่อค้าจากเมืองอื่นนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนในเมืองหลวง เพื่อขายสินค้านำเงินกลับไปฉลองปีใหม่ และซื้อสินค้าใหม่เตรียมขายปีหน้าหลังปีใหม่เมืองหลวงในตอนนั้นจะยิ่งคึกคักมากขึ้น เชื่อว่ากำไรของฮ่วนเหยียนจะทวีคูณขึ้นไปพ่อบ้านนำเทียบเชิญอีกใบมาที่เรือนชิงหลาน
เทศกาลจงหยวนตรงกับวันที่ยี่สิบสองเดือนแปด วันที่สิบเก้า เฟิ่งเชียนอวี่พาเหล่าสาวใช้นั่งรถม้ากลับจวนตระกูลเฟิ่งอย่างยิ่งใหญ่อลังการนางพาคนกลับไปไม่น้อย นอกจากพวกหลิวซูเหลิ่งหนิงทั้งสี่คน ยังมีหญิงรับใช้เฒ่าอีกหกคนพร้อมองครักษ์อีกสิบสองนาย ล้วนแล้วแต่รับใช้นางเพียงคนเดียว ดูยิ่งใหญ่ไม่น้อยอาจเพราะเฟิ่งอวี้เทียนแจ้งล่วงหน้า ทำให้หน้าประตูตระกูลเฟิ่งมีคนรอต้อนรับนางไม่น้อยนางกวาดมองคร่าว ๆ นอกจากนางหลิ่วและเฟิ่งหลิงหลง สตรีในจวนตระกูลเฟิ่งล้วนออกมาต้อนรับหวังซินเหอยิ้มพร้อมเดินเข้าไป แล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “ยัยหนูสามกลับมาแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่มองนางเยือกเย็น “เจ้าเรียกพระชายาอย่างข้าว่าอะไรนะ?”รอบด้านเงียบสงัดทันใดหวังซินเหอสีหน้าชะงัก ไม่คาดฝันว่าเฟิ่งเชียนอวี่จะมีท่าทีเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็ตกใจเช่นกันเพราะอย่างไรเฟิ่งเชียนอวี่เพิ่งออกเรือนไปแค่ไม่กี่เดือน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางได้พบอีกฝ่ายหลังแต่งงาน ภาพจำที่พวกนางมีต่อเฟิ่งเชียนอวี่ ยังเป็นภาพจำที่ฝังรากลึกอยู่บนเจ้าของร่างเดิมเจ้าของร่างเดิมเป็นอย่างไรหรือ?ยามปกติไม่กล้าสบตากับผู้อื่น ขี้ขลาดตาขาวอย่างที่สุด เป็นคนเ
เฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองบนอยู่ในใจ เฟิ่งชิงอวี่อายุน้อยหรือ? สมองมีปัญหามากกว่า ในอันดับคุณหนูตระกูลเฟิ่ง อันดับของนางอยู่ข้างหน้าตน อายุมากกว่าตนหนึ่งปีด้วยซ้ำนางยังคงมองเฟิ่งชิงอวี่ หรี่ตาลงแล้วเอ่ยเสียงเย็น “หากเจ้ายังกล้าจ้องอีก ข้าจะควักลูกตาของเจ้าออกมา”เฟิ่งชิงอวี่เบิกตาโต “เจ้ากล้าหรือ”เฟิ่งเชียนอวี่แค่นหัวเราะเหลิ่งหนิงที่ยืนข้างกันรีบก้าวเข้ามาบีบคอเฟิ่งชิงอวี่เอาไว้อย่างแรง จากนั้นดึงมีดสั้นออกมาหนึ่งเล่ม ปลายมีดแนบกับเปลือกตาของนาง แล้วออกแรงกดเชื่องช้า เฟิ่งชิงอวี่เบิกตาโต ความเจ็บปวดที่ส่งมาจากเปลือกตาทำให้นางหวาดกลัวสุดขีด นางคิดไม่ถึงว่าเฟิ่งเชียนอวี่จะกล้าลงมือกับนางนางอ้าปากกว้าง อยากจะกรีดร้อง แต่ถูกบีบคอ อาการขาดอากาศทำให้นางตะโกนออกมาไม่ได้“อย่านะ หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้ารีบหยุดสิ”หวังซินเหอใบหน้าขาวซีด แล้วคุกเข่าลงพื้นดังตุบ “พระชายา ขอร้องท่านโปรดปล่อยคุณหนูรองด้วยเถอะ คุณหนูรองไม่ได้ตั้งใจ ขอท่านโปรดเมตตาด้วยเถอะเพคะ”“หากท่านอยากลงโทษจริง ลงโทษข้าแทนเถอะ ควักลูกตาข้าแทน ขอร้องท่านละ ปล่อยคุณหนูรองไปเถอะ ขอร้องท่าน...”นางขอร้องไปด้วยคำนับไปด้วยขณะน
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ