All Chapters of แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Chapter 1161 - Chapter 1170

1174 Chapters

บทที่ 1161

แม่ทัพแคว้นเจิ้งหาได้โง่เขลา เขารู้แจ้งแก่ใจว่าจุดประสงค์ของเป่ยเยี่ยนคืออะไร จึงกลับคำข่มขู่ราชทูตเป่ยเยี่ยน “หากไม่มีปืนมังกรไฟ พวกเราอย่างมากก็เพียงพ่ายศึกและยอมจำนน หรือไม่ก็รู้ว่ามิอาจต่อสู้การร่วมมือระหว่างกองทัพแคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉี ก็เพียงถอนทัพกลับเสียก็พอ “ทว่า สถานการณ์ของเป่ยเยี่ยน หาใช่ง่ายดายเช่นนี้ไม่ “แคว้นหนานฉีชนะศึกกับทั่วแว่นแคว้น กำลังอิทธิพลเพิ่มพูน ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นหนานฉีเชื่อมสัมพันธ์กัน พันธไมตรีแน่นแฟ้นมิอาจทำลาย “หากแคว้นหนานฉีกลืนกินแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้แล้วไซร้ ทั่วทั้งแดนตะวันตกย่อมตกอยู่ในอำนาจแห่งแคว้นหนานฉี ครานั้นเป่ยเยี่ยนจักสูญเสียพันธมิตรทางใต้และทางตะวันตก กลายเป็นโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง!” สายตาราชทูตเป่ยเยี่ยนฉายแววบูดบึ้ง แม่ทัพคนนี้ที่เชี่ยวชาญเพียงการศึก กลับมีสติปัญญาอยู่บ้าง แม่ทัพแคว้นเจิ้งเห็นราชทูตจนถ้อยคำ จึงพูดต่อถึงข้อดีข้อเสีย “ราชทูตนำความทูลฮ่องเต้เป่ยเยี่ยน รีบยืมปืนมังกรไฟมาโดยไว เช่นนี้ยังมีโอกาสสังหารฮ่องเต้ฉีได้ หากแคว้นหนานฉีวุ่นวาย เป่ยเยี่ยนจึงจักมีโอกาสโต้กลับแคว้นหนานฉี ช่วง
Read more

บทที่ 1162

กองทัพแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง อาศัยว่ามีปืนมังกรไฟ แผดเสียงเกรี้ยวกราด “เร่งเปิดประตูเมือง หาไม่แล้ว อย่าหมายว่าผู้ใดจะรอดชีวิต!” เฉินจี๋ล่วงรู้ฤทธานุภาพของปืนมังกรไฟ เขอเสนอ “ฝ่าบาท ถอยทัพก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” คาดว่าฮองเฮาก็มิปรารถนาให้ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตราย สายตาเซียวอวี้ล้ำลึก ดวงตาฉายแววเยืยกเย็น “สั่งให้ทหารทั้งหมดล่าถอยออกไปยี่สิบลี้ก่อน” ฤทธานุภาพแห่งปืนมังกรไฟ มิใช่อันที่มนุษย์จะสามารถต้านรับได้ ดังนั้น จึงไม่อาจเผชิญหน้าตรง ๆ …… ณ ชายแดนด้านตะวันตกแคว้นหนานฉี ฝนพรำไม่ขาดสายหลายวันติดกัน จนแผ่นดินชุ่มโชกเป็นโคลนเหลว ปืนมังกรไฟมีน้ำหนักมาก ล้อรถจมลึกลงพื้นดิน หนึ่งแรงคนมิอาจเข็นขยับได้โดยง่าย ครั้นข่าวล่วงรู้ถึงหูหนานซานอ๋อง เขาถึงโกรธทั้งร้อนใจ “ในยามสำคัญ เหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้!” ฮ่องเต้ยังอยู่ในแคว้นซีหนี่ว์ หากแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งบุกโจมตี ใครจะรับรองความปลอดภัยของฝ่าบาท! “ท่านอ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะสายฝน...” “อย่าพูดไร้สาระ เร่งหาไม้กระดาน หาก้อนหิน เร่งขนส่งปืนมังกรไฟไปยังแคว้นซีหนี่ว์ให้ได้โดยเร็ว!” หนานซานอ
Read more

บทที่ 1163

แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งหมายมาดกำจัดแคว้นซีหนี่ว์ให้สิ้นซาก ศึกครั้งนี้ พวกเขานำกองกำลังทั้งหมดเข้าสู่สมรภูมิหากมุ่งหมายทำลายสองแคว้นให้ย่อยยับ เพียงแค่ทำลายกำลังพลกลุ่มนี้เสีย พวกเขาก็จะไร้หนทางกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกด้วยเหตุนี้ เซียวอวี้กำลังรอโอกาสอันเหมาะสม อาศัยสายฝนกระหน่ำครั้งนี้ ฝังกลบกองกำลังของทั้งสองแคว้นไว้ ณ ที่นี้เขาได้แจ้งแผนการแก่เฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วณ พระราชวังเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ใต้ชายคาพระตำหนัก แลเหลียวมองสายฝนอันพรั่งพรูภายนอก ในใจรู้สึกอึดอัดมิใช่น้อยแต่ก่อนเป็นเพียงฝนโปรย แต่ยามนี้ กลับกลายเป็นพายุฝนตกหนักมิรู้สิ้นสภาพอากาศนี้ ช่างประหลาดนักนางกำนัลที่อยู่เบื้องหลังพูดขึ้นมา“ท่านประมุข ดินแดนแห่งนี้โดยปกติเมื่อถึงเดือนเจ็ด ฝนจะตกไม่ขาดสาย บ่อยครั้งก่อให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยอุทกภัยน้ำท่วมหรือ เช่นนี้ ปืนมังกรไฟก็มิอาจนำมาใช้ได้ในขณะเดียวกันในค่ายทหารแคว้นเจิ้งเหล่าทหารทั้งหลายต่างขุ่นเคืองใจต่อฝนที่ตกหนักไม่หยุด“ท่านแม่ทัพ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เสบียงอาหารของเราคงร่อยหรอจนหมดสิ้นแนะ!”แม่ทัพแคว้นเจิ้
Read more

บทที่ 1164

แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งปราศจากเหล่าทหารรักษาการณ์ ก็มิผิดอันใดกับเนื้อบนเขียง มิอาจขัดขืนต่อคมดาบของผู้ใด เพียงสองวัน เป่ยเยี่ยนก็บุกเข้าสู่เขตแดนทั้งสองแคว้น อีกทั้งยังยึดครองกว่าครึ่งของแผ่นดินไว้ในอุ้งมือ ครั้นกองทัพทางเหนือของแคว้นฉีเคลื่อนพลมาถึง ก็หาได้ทันการณ์ไม่ ในกระโจมหลัก ชายแดนตะวันตกแคว้นหนานฉี หลังจากอ๋องหนานซานได้รับข่าวสาร ก็โกรธโมโหอย่างยิ่ง “เป่ยเยี่ยนช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!”ขุนพลใต้บังคับบัญชา ต่างพากันโกรธเกรี้ยว “ท่านอ๋อง! เป็นเราที่สกัดกองทัพทั้งสองแคว้นไว้ เป่ยเยี่ยนจึงสบโอกาสฉวยประโยชน์ในยามเพลิงลุกโชน เช่นนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลย” อ๋องหนานซานพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “การศึกในบรรดาแว่นแคว้น ย่อมมิมีสิ่งใดเรียกว่าความเป็นธรรม นำเรื่องนี้กราบทูลต่อฝ่าบาทโดยพลัน!” ณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ได้รับการสถาปนาเป็นพระสวามี เป็นที่ริษยาของเหล่านางใน “พระสวามีองค์ใหม่ ทั้งเชี่ยวชาญอักษรศาสตร์และพิชัยยุทธ์ เอาใจองค์ประมุขได้ ยังออกรบได้อีก ถึงว่าได้เป็นคนโปรดปรานคนใหม่ของประมุข” “รอประมุขให้กำเนิดพระโอรส พระสวามีเซียวจะไม่ยิ่งเป็นที่
Read more

บทที่ 1165

ตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว ทุกวันยังต้องจัดการราชกิจอีกเซียวอวี้คอยอยู่ข้างกายนางและลูก อาหารที่นางกิน เขาล้วนทำให้นางด้วยตนเอง นางกินอาหารฝีมือเขาจนเคยชินนายหญิงเฟิ่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตา จึงพูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นการส่วนตัว“สงครามจบลงแล้ว เหตุใดยังไม่กลับแคว้นหนานฉีไปกับฝ่าบาทอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างรวบรัด“เรื่องยังไม่จบ”ต่อให้จะจากไป นางก็ยังต้องเลือกผู้มีความสามารถให้แคว้นซีหนี่ว์ แล้วยกตำแหน่งประมุขแคว้นให้คนนั้นทว่าเป็นเวลาที่จะส่งท่านแม่กลับแคว้นหนานฉีแล้วนายหญิงเฟิ่งอยากกลับแคว้นหนานฉีมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าแคว้นซีหนี่ว์จะดี ทว่านางก็ไม่คุ้นเคยอยู่ดีทว่ายามนี้จิ่วเหยียนกำลังตั้งครรภ์ นางกังวลว่าข้าหลวงในวังจะไม่คล่องแคล่ว ดูแลจิ่วเหยียนได้ไม่ดีเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกนาง “ชายแดนมีความขัดแย้งกันมากมาย ถือโอกาสที่ตอนนี้สถานการณ์สงบชั่วคราว จากไปตอนนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว”ด้วยเหตุนี้ นายหญิงเฟิ่งจึงได้แต่รับปากทว่าก่อนที่จะไป นายหญิงเฟิ่งยังมีบางอย่างอยากบอกนาง“ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ไม่อาจเทียบกับเด็กในท้องของเจ้าได้“แล้วก็ฝ่าบ
Read more

บทที่ 1166

เซียวอวี้นึกไม่ถึงมาก่อนเลย ที่ว่าโอวหยางเหลียนมาหาเขาเพราะมีเรื่องด่วน ก็เพื่อให้จิ่วเหยียนเติมเต็มวังหลังนางถึงกับต้องการให้เขาไปพูดโน้มน้าวจิ่วเหยียนโอวหยางเหลียนใช้ผลประโยชน์เป็นเหยื่อล่อ หวังให้เซียวอวี้เห็นด้วยหารู้ไม่ว่า พระสวามีที่สวมหน้ากากอยู่ด้านหน้านี้ ที่จริงแล้วคือฮ่องเต้แคว้นหนานฉี เขาไม่สนใจเงินทอง ลาภยศพวกนั้นเลยแม้แต่น้อยโอวหยางเหลียนพูดอยู่นาน แลกมาเพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากเซียวอวี้“ใต้เท้าโอวหยาง ท่านดูถูกข้าเกินไปแล้ว”หลังทิ้งประโยคนี้ออกไป เซียวอวี้ก็เดินจากไปความโกรธพลันปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่แก่ชราของโอวหยางเหลียนจนกระทั่งเซียวอวี้จากไปไกลแล้ว หูย่วนเอ๋อร์ก็เดินออกมาจากภูเขาจำลองด้านหลังนางคำสนทนาเมื่อครู่ของคนทั้งสอง หูย่วนเอ๋อร์ได้ยินทั้งหมด“ใต้เท้าโอวหยาง พระสวามีเซียวท่านนี้ไม่ต้องการอะไรนอกจากความโปรดปรานของท่านประมุข บางทีคนผู้นี้อาจจะใช้งานได้”โอวหยางเหลียนขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจะใช้อย่างไร?”หูย่วนเอ๋อร์ค่อย ๆ ตอบ“ท่านประมุขทรงโปรดปรานคนผู้นี้ พวกเราก็ใช้คนผู้นี้ทำให้ท่านประมุขอยู่ที่นี่ต่อ”น้ำเสียงของโอวหยางเหลียนเคร่งขรึม“ท่านแม
Read more

บทที่ 1167

ต้วนเจิ้งมาที่แคว้นซีหนี่ว์ คิดอยากจะพบเฟิ่งจิ่วเหยียนซักครั้งเขาอยากจะถามนางว่าทำไมถึงทอดทิ้งเขา ไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ชายของเขาเมื่อข้าหลวงนำทางเข้ามาในห้องทรงพระอักษร ในที่สุดต้วนเจิ้งก็ได้พบกับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่าคำถามที่คิดเอาไว้ดิบดี กลับถูกดึงกลับเข้าไปจนหมดจมูกของเขาแสบร้อน ดวงตาบวม“พวกเขาล้วนหลอกลวงข้า...เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้ว่าเขามาที่แคว้นซีหนี่ว์ทำไม นางแววตาเรียบเฉย“ขาของเจ้าหายรึยัง”ต้วนเจิ้งพยักหน้าติด ๆ กัน ยังดูเป็นเด็กน้อยเหมือนแต่ก่อน“ข้าตัวคนเดียว โดเดี่ยวมาก หากเป็นท่านพี่ เขาไม่มีทางทิ้งให้ข้าอยู่คนเดียว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดแบบขวานผ่าซาก“ต่อให้เป็นพี่เจ้า ก็ไม่มีทางอยู่เป็นเพื่อนเจ้าไปตลอดชีวิตได้ อาเจิ้ง เจ้าควรจะโตได้แล้ว เซียวเหยาจวีที่ยกให้เจ้า ยังไม่พอหรือ? หรือเจ้ายังต้องการให้ข้าดูแลเจ้าไม่ห่าง?”ใบหน้าหล่อเหลาของต้วนเจิ้งปกคลุมไปด้วยความอึดอัดแขนที่ห้อยอยู่ข้างกายทั้งสองข้างของเขาเกร็งแน่น เขากำหมัดเบา ๆ“ข้าก็แค่อยากมาเยี่ยมท่าน อยากรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือไม่“ข้าไม่ได้อยากจะตัวติดกับท่าน“หลังจากท่านพี่ตาย ข
Read more

บทที่ 1168

ภายในคุกหลวงสายลับแคว้นเป่ยเยี่ยนถูกคุมขังเอาไว้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากประมุข ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้าเยี่ยมได้อู๋ไป๋ถูกสั่งให้มาสอบปากคำคนผู้นี้สายลับผู้นี้สารภาพออกมาตรง ๆ อย่างสบาย ๆ“ข้าเป็นองค์ชายเจ็ดของแคว้นเป่ยเยี่ยน ไม่รู้ว่าแคว้นท่านควบคุมตัวข้าไว้ด้วยเหตุใด”เขาไม่มีมาดอย่างองค์ชาย ทว่ากลับซักถามด้วยน้ำเสียงที่ปนความสงสัยหากเขาเป็นแค่สายลับทั่วไป จับมาก็แล้วไป ต่อให้ฆ่าเขาทิ้ง แคว้นเป่ยเยี่ยนก็ไม่มีทางมาถามหาความรับผิดชอบจากแคว้นซีหนี่ว์ทว่าเขาเป็นองค์ชายของแคว้นเป่ยเยี่ยน เรื่องนี้จึงจัดการยากอยู่บ้างอู๋ไป๋จึงรายงายเรื่องนี้ต่อท่านประมุขทันทีหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ก็มีสีหน้านิ่งเฉย“ส่งเขากลับเป่ยเยี่ยนซะ”การเก็บคนผู้นี้ไว้ สำหรับแคว้นซีหนี่ว์เป็นการเพิ่มปัญหา และมีแต่จะเป็นการให้เหตุผลแคว้นเป่ยเยี่ยนในการบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์เท่านั้นอู่ไป๋ไม่เห็นด้วยนักจึงเตือนนาง“ท่านประมุข ยังไม่ได้สืบเจตนาของคนผู้นี้ให้ชัดเจน หากเขามีเจตนาไม่ดี การปล่อยเขากลับไป จะไม่เป็นการปล่อยเสือกลับเขาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่คิดเช่นนั้นเมื่อวานนางได้ยินเซียวอวี้พูดม
Read more

บทที่ 1169

ท่าทางขององค์ชายเจ็ดแคว้นเป่ยเยี่ยนดูหนักแน่น ต่างจากท่าทางที่ดูสบาย ๆ ก่อนหน้านี้“ตอนแรกเสด็จพี่ของกระหม่อมคนนั้นถูกแคว้นตงซานยุยง จึงร่วมกับแคว้นอื่นล้อมโจมตีแคว้นหนานฉี“พอเกิดสงครามขึ้น แคว้นตงซานกลับไม่ส่งทหารมาเลย น่ารังเกียจกว่าแคว้นซีหนี่ว์ที่หักหลังพันธมิตรเสียอีก“แคว้นตงซานหลอกใช้แคว้นอื่น ๆ เพื่อวางแผนชิงใต้หล้า“หากไม่ใช่เพราะแคว้นหนานฉีอาศัย ‘ใยแมงมุม’ ช่วยในการโจมตีกลับ แผนชั่วของแคว้นตงซานคงจะสำเร็จไปแล้ว“ทว่ายามนี้เสด็จพ่อต้องการแต่งตั้งรัชทายาท แคว้นตงซานแอบสนับสนุนเสด็จพี่หลายคนของกระหม่อมอย่างเงียบ ๆ เพื่อที่จะควบคุมราชสำนักของแคว้นเป่ยเยี่ยน“กระหม่อมไม่อาจทนเห็นพี่น้องทะเลาะวิวาทกัน และเพื่อปกป้องตัวเองไปในเวลาเดียวกัน จึงออกมาจากแคว้นเป่ยเยี่ยน เพื่อช่วยแคว้นเป่ยเยี่ยนชิงแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งมาด้วยตนเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ถึงความทะเยอทะยานของแคว้นตงซานทว่าองค์ชายเจ็ดแคว้นเป่ยเยี่ยนผู้นี้ ก็ไม่ใช่คนบริสุทธ์เช่นกันทุกอย่างที่เขาทำ ต้องทำไปเพื่อแคว้นเป่ยเยี่ยนและตนเองแน่นอน“ระหว่างแคว้นซีหนี่ว์กับแคว้นตงซาน ยังถูกคั่นด้วยแคว้นหนานฉีที่กว้างใหญ่
Read more

บทที่ 1170

แม้เซียวอวี้จะอยู่ที่วังหลัง ทว่ากลับรู้ข่าวสารทั้งหมดทว่าเขายังคงไม่เข้าใจว่าคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียนหมายความว่าอะไรแคว้นเป่ยเยี่ยนยึดครองแคว้นเจิ้งได้ ยังจะมีใครร้อนใจกว่าพวกเขาสองคนอีก?เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบาย“วันนี้หม่อมฉันพบองค์ชายเจ็ดแคว้นเป่ยเยี่ยนแล้ว เขาพูดจริงปนเท็จ ทว่าก็ทำให้หม่อมฉันเข้าใจเรื่องหนึ่ง“ฮ่องเต้เป่ยเยี่ยนอยากแต่งตั้งองค์รัชทายาท ทว่ายังตัดสินใจไม่ได้“องค์ชายเจ็ดมาไกลถึงแคว้นเจิ้ง อยู่เป็นกุนซือในค่ายทหารแคว้นเจิ้ง จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือการช่วยแคว้นเป่ยเยี่ยนยึดคูป้องกันเมืองของแคว้นเจิ้ง แล้วใช้สิ่งนี้เป็นผลงานใหญ่“ยามนี้แคว้นเป่ยเยี่ยนชนะ บุกยึดแคว้นเจิ้งไว้ได้แล้ว ผลงานนี้จะเป็นของผู้ใดกัน?”เซียวอวี้เข้าใจแล้ว“เมื่อเป็นเช่นนี้ พอองค์ชายเจ็ดสร้างผลงานใหญ่ได้ ตำแหน่งรัชทายาทย่อมเป็นของเขา”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้า“ไม่แน่ โดดเด่นมากเกินไป ย่อมมีคนอิจฉา“แคว้นเป่ยเยี่ยนยังมีองค์ชายองค์อื่นอีก พวกเขาจะต้องขัดขวางแน่“ดังนั้นเมื่อครู่หม่อมฉันถึงได้บอกว่ามีคนร้อนใจกว่าพวกเรา ไม่อยากเห็นแคว้นเป่ยเยี่ยนครองแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งสำเร็จ”นี่ก็
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status