Semua Bab ชายาแพทย์พลิกชะตา: Bab 1481 - Bab 1490

1544 Bab

บทที่ 1481

อย่างไรก็ตาม สกุลหลี่ใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่นเช่นนี้ การอาศัยอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีกู้หว่านเยว่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง อาศัยการปกปิดจากห่อผ้า หยิบน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์กาหนึ่งและยาบำรุงครรภ์ขวดหนึ่ง รวมถึงตั๋วเงินสองพันตำลึงที่อยู่ข้างในออกมา “น้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ข้านำมาจากเทียนซาน ท่านดื่มวันละนิด สามารถบำรุงร่างกายให้แข็งแรงได้นี่คือยาบำรุงครรภ์ กินวันละหนึ่งเม็ด จะช่วยให้ท่านคลอดบุตรได้ง่ายนี่คือตั๋วเงินสองพันตำลึง ท่านเก็บไว้ก่อนเถิด”กู้หว่านเยว่คิดว่า พวกเขายังไม่ได้พบใต้เท้าหลิว ไม่รู้ว่าหลิวชวี่ผู้นั้นมีความคิดอย่างไรกันแน่หากเขาปฏิเสธที่จะยอมจำนน เช่นนั้นสงครามใหญ่ก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงเมื่อถึงเวลานั้น นางค่อยมารับหลิ่วเพียวเพียวไป หรือไม่ก็เอาไปไว้ในมิติ หรือจัดหาที่อยู่ปลอดภัยให้หากว่าหลิวชวี่ยอมเปิดประตูเมืองโดยไม่ต้องมีการนองเลือดเช่นนั้นก็ให้คนสกุลเจี่ยนำตั๋วเงินสองพันตำลึงนี้ ไปซื้อบ้านสักหลังในเมืองจางโจวเพื่อพักอาศัยชั่วคราวก่อนรอจนกระทั่งหลิ่วเพียวเพียวคลอดบุตรแล้ว ค่อยพานางและลูกกลับไปยังเมืองเหยาหลังจากนั้นจะกลับไปยังเจดีย์หนิงกู่ หรือว่าคนสกุ
Baca selengkapnya

บทที่ 1482

“รอข่าวจากน้องหญิง หากน้องหญิงบอกว่าพวกเราสามารถกลับไปได้ พวกเราก็ค่อยกลับไปจากสกุลหลี่”หลิ่วเพียวเพียวนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงรีบกำชับ“ท่านแม่ ท่านพี่ ฐานะของน้องหญิงและน้องเขยนั้นพิเศษ เรื่องที่ได้พบพวกเขาในคืนนี้ หวังว่าพวกท่านจะไม่บอกใคร”ทั้งสองคนเป็นคนมีเหตุผล ไม่ต้องให้หลิ่วเพียวเพียวกำชับพวกเขาก็เข้าใจ ตอนนี้จึงรีบพยักหน้า“น้องหญิงวางใจเถิด ข้าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงออกจากจวนหลี่แล้ว ก็รีบพุ่งตัวไปยังจวนแม่ทัพ“ท่านพี่ ท่านว่าแม่ทัพหลิวผู้นั้นจะยอมเปิดประตูเมืองหรือไม่?”กู้หว่านเยว่คิดถึงแผนการรับมือ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว หากแม่ทัพหลิวผู้นี้ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็จับตัวเขาไปเลยดีกว่า จับกลับไปเป็นตัวประกันซูจิ่งสิงหรี่ตาลงเล็กน้อย“ตามความเข้าใจของข้าที่มีต่อเขา เขาน่าจะยินยอม”กู้หว่านเยว่คิด ๆ ดูแล้วก็เห็นด้วย หลิวชวี่ผู้นี้สามารถเป็นสหายกับซูจิ่งสิง แสดงว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน“เช่นนั้นพวกเราไปดูกันก่อนเถอะ”ทั้งสองคนวาร์ปเข้าไปในจวนแม่ทัพ กู้หว่านเยว่เปิดระบบขึ้นมาโดยตรง ให้ระบบค้นหาห้องที่แม่
Baca selengkapnya

บทที่ 1483

หลิวชวี่ไม่รีรอ มอบตราบัญชาการออกมาโดยตรง“ท่านอ๋อง มอบให้ท่านขอรับ”ตราบัญชาการนี้ เขาอยากจะมอบให้ซูจิ่งสิงนานแล้ว“แหะ ๆ ขอบอกท่านอ๋องตามตรง”หลิวชวี่เกาหัว“ตั้งแต่วันที่ท่านยกทัพที่เจดีย์หนิงกู่ ข้าก็คิดอยู่เสมอว่า เมื่อไรท่านจะยกทัพมาถึงเมืองจางโจว ถึงตอนนั้น จะต้องมอบตราบัญชาการให้ท่านด้วยสองมือ”เขาค่อนข้างรู้สึกดีใจ“รอแล้วรอเล่า ในที่สุดก็ได้พบท่านแล้ว”ซูจิ่งสิงมองหลิวชวี่อย่างลึกซึ้ง “เจ้ามีน้ำใจแล้ว”ในเมื่อหลิวชวี่ยอมจำนน เรื่องต่อจากนี้ก็ง่ายดายแล้ว เพียงแค่นำกองทัพเคลื่อนพลเข้าเมืองก็พอ“พรุ่งนี้ ข้าจะสั่งให้คนนำทัพเข้าเมือง เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็เปิดประตูเมือง”“ขอรับ”หลิวชวี่รีบพยักหน้ามอบตราบัญชาการออกไปแล้วจะเปิดประตูเมืองหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดแล้วหลิวชวี่ยังอยากจะรำลึกความหลังกับซูจิ่งสิงต่อ ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบดังขึ้น“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพแย่แล้วขอรับ”“มีเรื่องอะไร?”หลิวชวี่ขมวดคิ้วถาม เขาได้สั่งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า คืนนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ห้ามมารบกวนเขา“คุณหนูอาการกำเริบอีกแล้
Baca selengkapnya

บทที่ 1484

“ในที่สุดก็มีที่ให้พักผ่อนแล้ว คิดไม่ถึงว่าคืนนี้จะราบรื่นถึงเพียงนี้ ยังนึกว่าพวกเราจะต้องออกจากเมืองจางโจวกลางดึก แล้วกลับไปยังค่ายใหญ่เสียอีก”แผนเดิมของกู้หว่านเยว่ หลิวชวี่จะต้องไม่ยอมจำนนง่าย ๆ อย่างแน่นอนไม่ว่าจะจับตัวหรือบุกโจมตี ก็ต้องกลับไปปรึกษากับหนานหยางอ๋องและคนอื่น ๆ เพื่อหาหนทางที่เป็นไปได้ผลปรากฏว่า หลิวชวี่เปิดฉากด้วยการมอบตราบัญชาการแล้วแบบเขานี่เรียกว่ายอมจำนนที่ไหนกัน?นี่มันคือการเฝ้ารอให้พวกเขามายึดเมืองจางโจวไปชัด ๆ “น้องหญิง เหนื่อยหรือไม่?”ซูจิ่งสิงเดินไปหากู้หว่านเยว่ นั่งลงข้างเตียง จากนั้นยื่นนิ้วเรียวยาวออกไป นวดขมับทั้งสองข้างให้นางเบา ๆ จะว่าไปแล้ว ก็นับว่าสบายมากจริง ๆ กู้หว่านเยว่หรี่ตาลงอย่างมีความสุข แล้วเหลือบมองซูจิ่งสิงภายใต้แสงเทียน ชายหนุ่มหล่อเหลาจนไม่อาจละสายตาไปนางขยับเข้าไปใกล้ซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าพบว่าท่านมีเสน่ห์จริง ๆ ” เสน่ห์เฉพาะตัว!ซูจิ่งสิงยิ้มเล็กน้อย จ้องมองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาเป็นประกาย“เทียบไม่ได้กับเจ้าแม้เพียงเศษเสี้ยว”บุรุษผู้นี้ก็รู้จักประจบประแจงแล้ว กู้หว่านเยว่ค่อนข้างพึงพอใจสองสามีภรรยาพูดคุย
Baca selengkapnya

บทที่ 1485

“รู้หรือยัง? ท่านแม่ทัพของพวกเรายอมจำนนเสียแล้ว”“ยังไม่ได้สู้รบก็ยอมจำนนแล้ว รอให้กองทัพใหญ่ของเจดีย์หนิงกู่เข้ามาแล้ว คงไม่ฆ่าล้างเมืองหรอกกระมัง?”“เหลวไหล กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ไม่มีทางฆ่าล้างเมือง ได้ยินมาว่าตอนที่พวกเขาเข้าเมืองเหยาและเมืองซุ่ยโจว ยังแจกจ่ายยาและอาหารให้ชาวบ้านด้วย”“มีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยหรือ เช่นนั้น ที่ท่านแม่ทัพยอมจำนนก็เพื่อประชาชนอย่างเราสินะ”ประตูเมืองเพิ่งเปิดออก เรื่องที่หลิวชวี่ยอมจำนนโดยไม่สู้รบ ก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองจางโจวแล้วเวลานี้ร้านน้ำชา โรงเตี๊ยม และร้านสุราต่าง ๆ ในเมืองจางโจวล้วนกำลังพูดคุยถึงเรื่องนี้“เดิมทียังคิดว่าเกิดสงคราม ก็จะขายทรัพย์สินในบ้านทั้งหมด พาครอบครัวหนีเอาชีวิตรอด”“คิดไม่ถึงว่าจะไม่ต้องหนีแล้ว”ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็ดีใจก็เป็นเพราะเจดีย์หนิงกู่ได้สร้างชื่อเสียงที่ดีในช่วงก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์ฆ่าล้างเมือง เผา ฆ่าปล้นสะดมเกิดขึ้นตรงกันข้าม หลังจากเข้าเมืองแล้ว ยังแสดงความเมตตาต่อชาวบ้านอย่างกว้างขวางยิ่งไปกว่านั้น การที่ซูจิ่งสิงยกทัพ ก็ไม่ใช่การรุกรานชนเผ่าอื่น ดังนั้น ชาวบ้านจึงยอมรับได้มากประกอบกั
Baca selengkapnya

บทที่ 1486

“ฝ่าบาท อย่าทรงคิดมากเกินไป เรื่องนี้ยังมีทางแก้ไขพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีที่อยู่ข้าง ๆ ก้าวออกมาเสนอความคิดเห็น“เพียงแค่ซูจิ่งสิงตาย...”เพียงแค่ซูจิ่งสิงตาย เจดีย์หนิงกู่ก็จะแตกพ่ายไปเองมู่หรงถิงจะไม่รู้หลักการนี้ได้อย่างไร แต่ชีวิตของซูจิ่งสิงนั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เขาไม่มีทางทำอะไรได้เลย“การจะฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าล้มเหลวมาหลายครั้งแล้ว”อีกทั้งตอนนี้รอบกายซูจิ่งสิงก็มีคนมากมายต่อให้ตนจะส่งมือสังหารไป ก็คงไม่สามารถเข้าใกล้ตัวได้“ฝ่าบาท กระหม่อมมีความคิดโง่ ๆ อย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าพระองค์จะยินดีรับฟังหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”“ในเมื่อมีความคิดเห็น ก็รีบพูดมา”มู่หรงถิงเร่งเร้าอย่างไม่สบอารมณ์ ตอนนี้เขาเหมือนคนป่วยหนักที่รักษาไม่ถูกจุดขุนนางบู๊บุ๋นทั้งราชสำนักต่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดอะไรไม่ออก เขาสามารถมองออกว่าจิตใจของคนบางคน ได้ค่อย ๆ เอนเอียงไปทางซูจิ่งสิงแล้ว“ฝ่าบาท คนของพวกเรายากที่จะเข้าใกล้เจิ้นเป่ยอ๋อง แต่สิ่งที่เจิ้นเป่ยอ๋องอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้คืออะไร...”สายตาของขันทีมีความหมายแฝง มู่หรงถิงก็เข้าใจในทันที“เจ้าหมายถึงเรื่องของอดีตรัชทายาท?”“ฝ่าบาท ในวังไม่ได้มีผู้
Baca selengkapnya

บทที่ 1487

เมื่อปรึกษาหารือกับซูจิ่งสิงเสร็จสิ้น กู้หว่านเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมองหลิวชวี่ เปิดเผยตัวตนอย่างตรงไปตรงมา“ท่านแม่ทัพหลิว ข้าคือผู้อาวุโสแห่งหุบเขาราชาโอสถ ข้ากับหมอเฒ่าเป็นสหายกัน และมีความรู้ด้านการแพทย์เช่นกัน น้องสาวของท่านป่วยเป็นโรคอะไร พาข้าไปดูก่อนก็ได้”หลิวชวี่ได้ยินมานานแล้วว่ากู้หว่านเยว่เก่งกาจ ไม่คิดว่านางจะมีความรู้ทางการแพทย์ด้วย“ท่านเป็นผู้อาวุโสแห่งหุบเขาราชาโอสถหรือ?”เขาไม่อยากจะเชื่อ กู้หว่านเยว่อายุเท่าไรกันเชียว เป็นผู้อาวุโสแห่งหุบเขาราชาโอสถแล้วหรือ?“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่กุมขมับอายุน้อยเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีไปเสียทุกอย่างไม่มีความน่าเชื่อถือเลย!“ข้าน้อยตาไม่ถึง มองไม่ออกแม้แต่น้อย พระชายาโปรดอย่าถือสา”หลิวชวี่ลูบศีรษะ เรื่องนี้น่าอับอายมิใช่หรือ?เจ้าหุบเขาแห่งหุบเขาราชาโอสถตัวจริงอยู่ตรงหน้า เขากลับมองไม่ออก ยังอุตส่าห์ขอร้องให้คนไปยังเจดีย์หนิงกู่เพื่อแนะนำในเมื่อกู้หว่านเยว่บอกว่า นางมีความรู้ทางการแพทย์ หลิวชวี่ก็ไม่เรื่องมาก รีบเชิญนางไปยังเรือนด้านหลัง “น้องเล็กของข้าป่วยเป็นโรคประหลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้วแม้ว่าท้องจะหิว แต่เมื่อเห็นอาหา
Baca selengkapnya

บทที่ 1488

“บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”อิงเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกยังดีที่ท่านแม่ทัพมาแล้วมิฉะนั้น หากคุณหนูเกิดอาการกำเริบขึ้นมา นางก็ไม่รู้จะรับมืออย่างไรจริง ๆ นางคล่องแคล่วว่องไว ไม่นานห้องก็ถูกเก็บกวาดจนสะอาดแล้วหลิวชวี่จึงออกไปข้างนอก เชิญกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเข้ามา“พระชายา ต้องขออภัยจริง ๆ น้องเล็กเพิ่งจะอาการกำเริบ”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า“ไม่เป็นไร”แค่ฟังหลิวชวี่บรรยายในห้องหนังสือ ก็รู้ว่าโรคของหลิวหว่านอี้มีอารมณ์แปรปรวนเวลานี้ หลิวหว่านอี้กลับไปนอนอยู่บนเตียงแล้วนางจะอารมณ์พลุ่งพล่านมากในเวลาที่อาการกำเริบ โดยปกติแล้วก็จะนอนอยู่บนเตียงไม่ได้ทานอาหาร ไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นมานั่งนาน ๆ กู้หว่านเยว่เดินไปที่ข้างเตียง ตกใจกับสภาพของหลิวหว่านอี้เป็นอย่างมากเมื่อครู่ตอนที่อยู่นอกประตู ได้ยินเสียงพูดของนางก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นตัวจริงก็พบว่า คนผอมจนกลายเป็นหนังหุ้มกระดูกแล้วทั้ง ๆ ที่อายุเพียงสิบห้าปี เป็นวัยที่สดใสงดงามราวกับดอกไม้ แต่กลับซูบผอมเหมือนคนอายุสามสิบปี“คารวะท่านอ๋อง พระชายา”หลิวหว่านอี้กล่าวอย่างอ่อนแรง คิดจะลุกขึ้นทำความเคาร
Baca selengkapnya

บทที่ 1489

นานวันเข้า ไม่เพียงแต่จะทำลายกระเพาะอาหารเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นโรคเบื่ออาหารได้ด้วยกู้หว่านเยว่นำการวิเคราะห์ของตนเองมาอธิบายให้หลิวหว่านอี้และหลิวชวี่ฟัง“โรคเบื่ออาหาร?”หลิวชวี่แสดงสีหน้าสับสน“ไม่เคยได้ยินโรคแบบนี้มาก่อน”ซูจิ่งสิงก็รู้สึกแปลกใหม่เช่นกัน แต่เขาได้ยินเรื่องแปลกใหม่จากปากภรรยามาไม่น้อย จึงไม่ได้แสดงสีหน้าประหลาดใจเหมือนกับทั้งสองคนกู้หว่านเยว่ยิ้ม “โรคนี้พบได้ไม่น้อย เพียงแต่ว่า น้อยคนนักที่จะคิดไปถึงเรื่องนี้”“พระชายา เช่นนั้นท่านคิดว่าควรจะรักษาอย่างไรเล่า?”หลิวชวี่รีบเอ่ยถามแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินโรคแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ หมอทั้งหลายไม่สามารถบอกได้เลยว่าน้องเล็กป่วยเป็นโรคอะไร ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุใด ๆ เลย ตอนนี้อย่างน้อยกู้หว่านเยว่ก็ยังสามารถบอกอาการของโรคได้เมื่อมีอาการของโรค ก็ต้องมีวิธีรักษาอย่างแน่นอนได้ลองรักษา ก็ดีกว่าไม่ได้ลองอะไรเลย“โรคนี้จะว่ารักษายากก็ไม่ยาก แต่จะว่ารักษาให้หายก็ไม่ง่ายเช่นนั้น”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด โรคนี้ยังต้องถามให้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากอะไร“คุณหนูหลิว ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่า เมื่อปีก่อนเห
Baca selengkapnya

บทที่ 1490

เมื่อก่อนนางเป็นคนชอบกิน เห็นของอร่อยก็อดใจไม่ไหวเหมือนกับที่กู้หว่านเยว่คิดไว้ หลังจากกินเสร็จแล้ว ในใจของนางก็เริ่มรู้สึกผิด จึงได้แต่พยายามเอานิ้วล้วงคอเพื่อให้อาเจียนอาหารออกมาหลังจากอาเจียนออกมาหนึ่งครั้ง สองครั้ง ก็รู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยสบายต่อมา แม้ว่านางจะรู้สึกหิว แต่พอเห็นอาหารเหล่านั้นก็มีความรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาเองโดยธรรมชาติ“น้องเล็ก เจ้าช่างโง่เขลาจริง ๆ ”หลิวชวี่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้อยู่เบื้องหลัง จึงกำหมัดแน่นด้วยความโกรธในทันที“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกพี่ใหญ่เล่า?”ที่ผ่านมาเขายังคิดว่าหลิวหว่านอี้ป่วย ไม่คิดว่าจะเป็นโรคทางใจหากรู้ว่าเจ้าเด็กสกุลฟ่านนั่นกล้าทำเช่นนี้ เขาก็คงจะง้างหมัดขึ้นมาทุบตีพวกเขาให้ตายไปแล้ว“เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ ข้าไม่กล้าบอกพี่ใหญ่”หลิวหว่านอี้ก้มหน้าลง รู้สึกเศร้าใจ“อีกอย่างพอผอมลง ข้าก็รู้สึกดีใจพวกเขาว่าข้าอ้วนเกินไป ตั้งฉายาให้ข้าว่าหมูอ้วนยังบอกอีกว่าคนที่อ้วนอย่างข้า หากในอนาคตได้เป็นเจ้าสาวคงไม่สวยแน่ ๆ ”น้ำตาของหลิวหว่านอี้ไหลรินลงมาเป็นหยด ๆ หลิวชวี่โกรธจนแทบจะพ่นไฟออกมา น้องสาวถูก
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
147148149150151
...
155
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status