All Chapters of ทาสสาวพราวพิลาส: Chapter 611 - Chapter 620

625 Chapters

บทที่ 611

มาหวนคิดอีกที ที่แท้คือการหลอกลวงทั้งสิ้นโลกนี้ไม่มีคำมั่นสัญญาที่คงอยู่นิรันดร์ ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงวาทะกรรมของผู้คนเท่านั้นเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “ใครว่าเชื่อไม่ได้ คำพูดที่ข้าเคยกล่าวต่อซวงเอ๋อร์ ล้วนเป็นจริงทุกคำ สัญญาที่ให้ไว้ ก็ล้วนเป็นความสัตย์จริง” จู่ๆ หลินซวงเอ๋อร์หัวเราะออกมา แต่สักครู่ก็ตามด้วยน้ำตาไหลริน“ข้ายังจดจำ คำสัญญาที่ท่านอ๋องเคยกล่าวไว้ทุกคำ ข้าบอกว่า หากวันใดท่านอ๋องตระบัดสัตย์ ซวงเอ๋อร์จะขอตายแทนท่าน ยินดีตกนรกหมกไหม้แทน แต่จนวันนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่”เยี่ยเป่ยเฉิงมักคิดว่าคำพูดนางประโยคนี้มีความนัยแอบแฝง จึงจับใบหน้านางแล้วกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ซวงเอ๋อร์พูดอันใด ข้าเคยตระบัดสัตย์เมื่อไหร่กัน ข้าบอกว่าจะรักและปกป้องซวงเอ๋อร์ชั่วชีวิต ข้าพูดคำไหนคำนั้นเสมอ”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวทั้งน้ำตา “ใช่เจ้าค่ะ ท่านอ๋องเคยรับปากเช่นนั้น”แต่เขาก็ทำให้นางผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ซวงเอ๋อร์...” เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก พลางกล่าว “เจ้าไม่ได้เรียกข้าว่าท่านพี่นานแล้ว...”หลินซวงเอ๋อร์หันข้างให้เขา เนิ่นนานก่อนจะกล่าวเสียงเบา “สำหรับท่านอ๋องแล้ว นี่เป็นสิ่งส
Read more

บทที่ 612

หลังจากเยี่ยเป่ยเฉิงออกไปแล้ว หลินซวงเอ๋อร์จึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดธรรมดา พร้อมหยิบห่อผ้าที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมา เตรียมตัวจะจากไปตงเหมยมารอแต่เช้าตรู่แล้ว ครั้นเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงออกไป นางจึงเข้ามาในห้องทันทีในยามนี้ หลินซวงเอ๋อร์ได้จัดเก็บสัมภาระเสร็จสิ้น เตรียมตัวออกเดินทางตงเหมยรีบมากอดนางไว้ กล่าวด้วยความอาวรณ์ “ซวงเอ๋อร์ คิดดีแล้วหรือว่าจะไปที่ใด? รอข้าไถ่ตัวได้ จะรีบไปอยู่ด้วยทันที”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “ตอนนี้ยังไม่ได้คิด แต่แผ่นดินกว้างใหญ่ คงมีที่ให้ข้าได้อยู่บ้าง”ตงเหมยนำขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาเมื่อวานใส่ในกล่องอาหารใบหนึ่ง พร้อมยื่นให้หลินซวงเอ๋อร์และกล่าว “ไปจากที่นี่แล้ว ต่อไปคงไม่ได้กินของเหล่านี้อีก ข้าตั้งใจซื้อมาให้เจ้า เอาไว้กินระหว่างทางเถิดนะ”หลินซวงเอ๋อร์รับไว้แล้วกล่าวต่อตงเหมย “ขอบใจเจ้ามาก ตงเหมย อุตส่าห์เตรียมของเหล่านี้เพื่อข้าอีก”ตงเหมยขอบตาแดงเรื่อขึ้น นางสูดจมูกเล็กน้อยพลางกล่าว “อย่าเกรงใจเลย เพียงแค่ของกินเล็กน้อยเท่านั้น ไยจึงต้องซาบซึ้งถึงเพียงนี้”หลินซวงเอ๋อร์ตบไหล่ตงเหมย พลางกล่าว “อย่าเสียใจมากนัก เราไม่ได้ตายจากกันเสียหน่อย ถือว่าข
Read more

บทที่ 613

หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มๆ พลางกล่าว “เป็นความจริงรึ? เจ้าไม่คิดว่าข้าเพ้อเจ้อหรอกหรือ?”ตงเหมยส่ายหน้า พลางกล่าว “ไม่เลย ตั้งแต่รู้จักเจ้ามา ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เคยพูดโกหก แม้ว่าอาจเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ข้าก็เชื่อว่าเจ้าพูดจริง”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกตื้นตันใจยิ่งที่แท้ คนที่ไม่เชื่อนาง สุดท้ายกลับมีแต่เยี่ยเฉิงเป่ยเพียงผู้เดียวหลินซวงเอ๋อร์เก็บงำความขมขื่นในใจไว้ พลางกำชับต่อตงเหมย “เมื่อคืนได้ยินท่านอ๋องบอกว่า ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยหลายคนที่ไม่ได้รับการรักษา แต่เพราะเขาไม่เชื่อข้า เจ้าจงเอาเลือดของข้าไปหาองค์หญิง ให้นางออกหน้า ถือว่าเลือดนี้เป็นยาถอนพิษไปมอบให้แก่ท่านอ๋อง”ตงเหมยมองดูข้อมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของนาง พลางกล่าวด้วยความปวดใจ “หมายความว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยโรคระบาดหลายคน ล้วนดื่มเลือดของเจ้าจึงได้หายดีกระนั้นรึ?”หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มเจื่อน “ใช่ น่าอัศจรรย์ใช่หรือไม่? ที่เลือดของข้าสามารถรักษาโรคระบาดได้ แต่กลับช่วยตัวเองไม่ได้”ตงเหมยกล่าว “ถ้าเช่นนั้นเจ้ากรีดมาแล้วกี่หน? เสียเลือดไปมากเท่าใด? เจ็บมากหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์เกือบร้องไห้ออกมามีหรือจะไม่เจ
Read more

บทที่ 614

เสียงล้อรถค่อยๆ ห่างไกลไปทุกทีท้องฟ้าด้านนอกขาวโพลนจนดูแสบตา หลินซวงเอ๋อร์เลิกผ้าม่านมองดูความคึกคักของเมืองฉางอันเป็นครั้งสุดท้ายคนควบรถม้ายังคงทำหน้าที่ได้ดี พารถม้ามุ่งสู่แผ่นดินที่กว้างใหญ่ขึ้นและในเวลานี้ ความรู้สึกในใจหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกสับสนยิ่งอารมณ์อันหลากหลาย มีทั้งอาลัยอาวรณ์ ทั้งความโล่งใจ มากกว่านั้นก็คือการหลุดพ้นจากกันครั้งนี้ ผ่านเขาสูงสายน้ำไกล ทุกสิ่งในเมืองหลวง จะไม่เกี่ยวข้องกับนางอีกรถม้ายังคงวิ่งผ่านถนนที่ทอดยาว จนใกล้จะออกนอกเมือง เสียงกึกกักของฝีเท้าม้าชวนให้รู้สึกง่วงงุนอยู่ไม่น้อย หลินซวงเอ่อร์เริ่มจะง่วงนอนวุ่นวายมาทั้งคืน นางรู้สึกอ่อนล้าเต็มที จึงค่อยๆ ปล่อยผ้าม่านลง ตั้งใจจะหลับตางีบเสียหน่อย แต่จู่ๆ ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้น หลินซวงเอ๋อร์สะดุ้งพร้อมเงยหน้า จึงเห็นร่างสูงสง่าร่างหนึ่งขวางอยู่หน้ารถม้าของนางร่างของเขาย้อนแสงก็จริง แต่ยังแลดูสง่าผ่าเผย สูงโปร่งสะโอดสะอง คล้ายดั่งจันทราสายลม ให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตาเมื่อได้พบเห็นชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าคล้ายภาพจำของนางในวัยเยาว์ไม่มีผิดฉีหมิงนั่นเองที่มาอยู่เบื้องหน้ารถม้า“หยุดรถ” หลิน
Read more

บทที่ 615

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกลำบากใจยิ่ง ความยึดติดของฉีหมิงใกล้จะถึงขั้นคลุ้มคลั่งก็ว่าได้แต่นางก็รู้ดี แม้นางไม่รักเขา ก็ไม่ควรให้เขาเสียเวลาอีกเพื่อให้เขายอมตัดใจโดยสิ้นเชิง หลินซวงเอ๋อร์จำต้องแข็งใจกล่าว “แต่ข้าไม่รักท่าน ข้าไม่ได้รักท่านจริงๆ...”“ไม่ว่าท่านจะทำเพื่อข้าเท่าใด นอกจากซาบซึ้งแล้ว ข้าไม่อาจมีใจให้ท่านได้ เพราะนับแต่แรกมา ข้าก็เห็นท่านเป็นเพียงพี่ชาย”“พี่ฉี ปล่อยข้าไปเถิดนะ โปรดอย่าดื้อแพ่งอีกเลย ข้าขอร้องท่านล่ะ...”ในที่สุดฉีหมิงก็ยอมปล่อยตัวนางเขายืนยิ่งอยู่ตรงหน้า ประหนึ่งหุ่นเชิดที่ไร้จิตวิญญาณที่แท้ ในสมรภูมิแห่งความรักนี้ เขาไม่มีทางแม้จะต่อสู้ช่วงชิงเสียด้วยซ้ำ“แม้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะทำผิดต่อเจ้า เจ้าก็ไม่ยอมมองข้ากระนั้นรึ?” สายตาเขาโศกเศร้า แต่ยังคงเต็มไปด้วยความหลงใหล เร่าร้อน และความคาดหวังที่ไม่อาจปล่อยวาง“แม้ข้าจะยอมละทิ้งทุกสิ่ง พาเจ้าไปจากเมืองหลวง เจ้าก็ไม่ยอมอยู่กับข้ากระนั้นรึ?”หลินซวงเอ๋อร์เม้มปาก เงียบไปชั่วขณะหนึ่งฉีหมิงยังคงกล่าวต่อ “ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ใช่คนมากรักหลายใจ แต่แรกมา ข้าก็ปักใจต่อเจ้าผู้เดียว แม้ฝันก็ต้องการแต่งงานกับเจ้า อยู่ร่ว
Read more

บทที่ 616

ฉีหมิงยังคงยืนใช้ความคิดอยู่ที่เดิมเนิ่นนาน จวบจนด้านหลังมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้นเขาเพิ่งหันไปดู ก็เห็นไป๋อวี้ถังขี่ม้าตัวหนึ่งห้อตะบึงออกจากเมืองไปอย่างรวดเร็วพริบตาฝุ่นตลบอบอวลขึ้น ฉีหมิงชายเสื้อปลิวไสว กว่าเขาจะตั้งสติกลับมา ฝีเท้าม้าก็วิ่งไปไกล จนค่อยๆ ลับหายจากสายตาของเขา สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดโชยมา เสียงนกน้อยแข่งกันร้องเซ็งแซ่ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง หมอกหนาค่อยๆ เลือนราง แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วแดนดินฟ้าครึ้มและมีฝนตกติดต่อมาหลายวัน ในที่สุดวันนี้ก็ท้องฟ้าแจ่มใส หลังจากฝนซาฟ้าใส ทุกหนแห่งคล้ายมีชีวิตชีวาขึ้นใหม่อีกครั้ง ท้องฟ้ายังมีหมู่เมฆลอยผ่านเป็นครั้งคราวหลินซวงเอ๋อร์โผล่หน้าออกจากตัวรถ มองดูทิวทัศน์ที่ค่อยๆ เลื่อนถอยหลังไป ในใจรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวยิ่งคนควบรถม้าถามนาง “แม่นาง ท่านจะไปที่ใด?”ไปที่ใดน่ะรึ?หลินซวงเอ๋อร์ก็บอกไม่ถูกเช่นกันอำเภอชิงเหอไม่มีบ้านของนางอีกแล้ว มีเพียงอากับอาสะใภ้ที่ยึดครองที่นาไปหมดแต่หากไม่กลับอำเภอชิงเหอแล้วจะไปที่ใดได้อีกนางเติบโตมาจากบ้านนอก ไม่เคยไปอยู่ต่างเมือง ครั้งเดียวที่เดินทางไกลก็คือออกจากอำเภอชิงเหอไปอยู่เมืองหลวงท
Read more

บทที่ 617

ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก
Read more

บทที่ 618

ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน
Read more

บทที่ 619

ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร
Read more

บทที่ 620

เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้
Read more
PREV
1
...
585960616263
DMCA.com Protection Status