บททั้งหมดของ ทาสสาวพราวพิลาส: บทที่ 201 - บทที่ 210

625

บทที่ 201

หลินซวงเอ๋อร์มองเขาอย่างงุนงงโกรธงอน?เหตุใดเขาถึงพูดแบบเดียวกันกับตงเหมย?นางโบกมืออย่างต่อเนื่อง แล้วกล่าวว่า "ท่านเป็นเจ้านาย ข้าจะกล้าโกรธงอนท่านได้อย่างไร?"นางมีท่าทีที่ถ่อมตัวเป็นอย่างมาก และเป็นท่าทีที่สาวรับใช้ควรมีจริงๆแต่เยี่ยเป่ยเฉิงอดรนทนไม่ได้อย่างเห็นได้ชัดเขาไม่ชอบให้หลินซวงเอ๋อร์ประพฤติตัวอยู่ในกฎระเบียบต่อหน้าเขา เขาจำได้ว่า ตอนที่อยู่ต่อหน้าฉีหมิงนางไม่ได้ประพฤติตัวอยู่ในกฎระเบียบขนาดนี้ อย่างน้อยนางก็เรียกเขาว่าพี่ แถมยังยิ้มแย้มให้เขาแต่ต่อหน้าเขา นางมักจะระมัดระวังแบบนี้อยู่เสมอ เพราะกลัวว่าจะทำอะไรผิดไป!เขารู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก็ทำใจไม่ได้ที่จะเกรี้ยวโกรธใส่นาง ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ระงับอารมณ์เอาไว้แล้วพูดว่า: "ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นเจ้านาย ก็ไม่ควรทำให้ข้าโกรธอยู่บ่อยๆ"หลินซวงเอ๋อร์เม้มริมฝีปาก ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีนางไม่คิดว่าตนเองจะเป็นคนฉลาดที่สามารถอ่านคำพูดและสีหน้าของคนอื่นได้ และไม่สามารถเดาความคิดของ เยี่ยเป่ยเฉิงได้เช่นกัน นางแค่รู้สึกว่าช่วงเวลาที่เขาอยู่ข้างกายนาง มักจะทำให้เขาเกรี้ยวโกรธอยู่เสมอช่างมันเถิดอย่างไรเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 202

หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น แล้วยื่นมือที่พันด้วยผ้ากอซไปที่ตรงหน้าเยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด พอเยี่ยเป่ยเฉิงเห็นหลินซวงเอ๋อร์มีลักษณะท่าทางเช่นนี้ ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดในใจหลินซวงเอ๋อร์ผู้หญิงคนนี้ รูปลักษณ์ภายนอกดูเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย แต่ถ้ากระต่ายขาวตัวน้อยเกรี้ยวโกรธขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกรำคาญใจเป็นอย่างมาก“เจ้าหมดสติไปสามวัน กินอะไรก่อนเถิด” เยี่ยเป่ยเฉิงระงับความโกรธเอาไว้ แล้วพูดเปลี่ยนหัวข้ออีกครั้งหลินซวงเอ๋อร์เม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร“อยากจะให้ข้าพูดเป็นครั้งที่สามหรือ?”จู่ๆบรรยากาศรอบตัวก็ควบแน่น ความรู้สึกกดดันที่คุ้นเคยก็ประทังเข้ามาหลินซวงเอ๋อร์สูดจมูกอันปวดแสบ และปฏิเสธที่จะลุกขึ้นนางไม่ยอมจำนน นางรู้ว่า ถ้าตนเองยอมจำนน เยี่ยเป่ยเฉิงคงจะไม่ยอมเอ่ยถึงเรื่องสัญญาซื้อขายบุคคลอีกแน่นางไม่เข้าใจว่า เหตุใดเยี่ยเป่ยเฉิงต้องทำให้นางลำบากใจ ทั้งๆที่นางไม่ได้ทำอะไรเลยเมื่อเห็นว่านางไม่ยอมลุกขึ้น ทันใดนั้นเยี่ยเป่ยเฉิงก็ยกมือขึ้น คว้าคอเสื้อของนางเอาไว้ แล้วยกนางขึ้นมาอย่างง่ายดายหลินซวงเอ๋อร์ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ถูกเขาตรึงนางไว้บนเตียงที่อ่อนนุ่ม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 203

หลินซวงเอ๋อร์มองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างโหยหา ด้วยท่าทางที่ดูน่ารักเป็นอย่างมาก เยี่ยเป่ยเฉิงยกริมฝีปากขึ้น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเขาค่อยๆหยิบขนมอมถั่วสนขึ้นมาทีละเม็ด แล้วยืนไปที่ข้างปากนางทีละเม็ดหลินซวงเอ๋อร์ยึดหลักการห้ามสิ้นเปลือง เขาป้อนแค่ไหนนางก็กินแค่นั้น แม้แต่นิ้วของเขาและกินให้มากที่สุดเท่าที่เขากินเข้าไป แม้แต่เศษบนนิ้วของเขาก็เลียเข้าไปในปากด้วยเพียงแต่ว่า การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่าขนมถั่วสนมีขนาดเล็กจนเกินไปในเวลานี้ เสวียนอู่เดินเข้ามาจากด้านนอกเมื่อเห็นว่าหลินซวงเอ๋อร์ก็อยู่ด้วย เสวียนอู่ก็ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่มองไปที่เยี่ยเป่ยเฉิงอย่างลังเลใจเยี่ยเป่ยเฉิงป้อนอาหารต่อไปไม่หยุด จากนั้นก็เอ่ยปากพูดว่า:"มีเรื่องอะไรหรือ?"เสวียนอู่กล่าวว่า: "จ้าวชิงชิงกลับไปที่จวนหนิงหวังในชั่วข้ามคืน"เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ แค่มองดูหลินซวงเอ๋อร์ที่ก้มศีรษะลงแล้วงับขนมลูกสนที่อยู่บนนิ้วของเขาเป็นระยะ แล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า: " นางหนีไปเร็วเหมือนกันนี่ "เสวียนอู่ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูดว่า: "จ้าวชิงชิงกลับไปที่จวนหนิงหวังเช่นนี้ ท่านอ๋อง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 204

ภายในห้องอันกว้างขวาง ทันใดนั้นอากาศก็เปลี่ยนไปเป็นอึดอัดทันทีหลินซวงเอ๋อร์ถูกวางไว้ตรงนั้นราวกับว่าเป็นหุ่นเชิด ไม่กล้าขยับไปไหนเลยเยี่ยเป่ยเฉิงไม่เคยมองนางด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังขนาดนี้ เขาที่เป็นแบบนี้ ขาดความเย็นชาของเจ้านายไป แต่แรงกดดันที่อยู่บนเขายังคงมีอยู่หลินซวงเอ๋อร์ไม่อาจสบตาเขาตรงๆได้ เพราะถ้าสบตากับเขาตรงๆ นางจะรู้ว่าตนเองหายใจไม่ทั่วท้อง ร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรงนางเบือนหน้าหนี และอยากจะหนีไปให้พ้นเยี่ยเป่ยเฉิงกลับปฏิเสธ เขาจับหน้าของนางเอาไว้ แล้วบังคับให้นางมองเขา“หลบอะไร หลินซวงเอ๋อร์ ตอนนี้ข้ากำลังคุยเรื่องสำคัญกับเจ้าอยู่นะ!”ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ลมหายใจอันร้อนแรงของเขาก็ตกกระทบไปบนใบหน้าของนางทันใดนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกหายใจเร็วขึ้น อารมณ์ที่ถูกตนเองฝืนระงับเอาไว้ในใจก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง พลุ่งพล่าน โหมซัดสาดไปมา ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากนางรู้ว่าตนเองไม่ควรมีความคาดหวังอะไรอีกต่อไปแล้ว และนางกลัวว่านี่จะเป็นความสุขที่ว่างเปล่าอีกครั้งริมฝีปากของนางสั่นเทา น้ำเสียงของนางสั่นเล็กน้อย: "ท่านอ๋อง ท่านอย่าพูดล้อเล่นแบบนี้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 205

หลินซวงเอ๋อร์ไม่จริงจัง กับคำพูดแบบนี้ของเขาแน่นอน“เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?” เสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ มือที่โอบเอวของนางเอาไว้ก็กระชับแน่นขึ้น" ข้ารักษาคำพูด เคยพูดเรื่องล้อเล่นเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? "จู่ๆเขาก็เกรี้ยวโกรธขึ้นมา ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ทำตัวไม่ถูกนางกลัวมากจนมีเหงื่อไหลออกมา ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาเมื่อสังเกตเห็นความหวาดกลัวของนาง เยี่ยเป่ยเฉิงถึงได้รู้ว่า เขาได้สูญเสียการควบคุมตนเองต่อหน้านางแล้วเพียงแต่ว่าเขาทนไม่ได้ ที่ความรู้สึกของเขา เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นในสายตาของนางเขาเคยสนใจผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และเคยสัญญาเรื่องเหล่านี้กับใครเสียที่ไหน?มีเพียงแค่นางเท่านั้น ที่ทำให้เขาทำลายบรรทัดฐานครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อก่อน เขาคิดแค่ว่าคำสาบานชั่วนิรันดร์เหล่านี้เป็นคำสัญญาที่ไร้ประโยชน์ที่สุด จนกระทั่งเขาได้พบกับหลินซวงเอ๋อร์ เขาก็เริ่มเชื่อในคำสัญญาที่ไม่มีอยู่จริงเหล่านี้แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากพูดสิ่งเหล่านี้กับผู้หญิงคนหนึ่ง จะทำให้นางไม่ไว้วางใจเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์จ้องมองตนเองด้วยสายตาที่โศกเศร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 206

หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยความไม่เชื่อ และไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานในสามัญทัศน์ของนาง เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นท่านอ๋องเทพแห่งสงครามที่สูงส่ง เย็นชา และเป็นคนที่นิสัยแปลกโดยตลอดแต่ตอนนี้เขาบอกตนเองว่า วันนั้นที่ขับไล่นางออกไป เป็นเพราะความหึงหวง!หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าโลกทัศน์ของตนเองได้พังทลายลงทีละน้อยเยี่ยเป่ยเฉิงก็หึงหวงเป็นด้วย?เขาหึงหวงอะไรกัน?เมื่อย้อนกลับไปที่ต้นเหตุ นางก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นทันที ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่นางกับฉีหมิงนัวเนียกันท่ามกลางสายฝนหรือว่าจะอิจฉาฉีหมิง?หลังจากที่นางเข้าใจสิ่งเหล่านี้ หัวใจของนางก็เริ่มเต้นตุบตับอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง“วันนั้น...ข้ากับพี่ฉีพบกันโดยบังเอิญ” นางรู้สึกว่า นางก็ควรจะอธิบายให้เขาฟังบ้าง“แต่เจ้าปล่อยให้เขากอด ปล่อยให้เขาจูบ! พวกเจ้านัวเนียกันท่ามกลางสายฝน!” แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เยี่ยเป่ยเฉิงถงได้คิดมากขนาดนั้น ทุกครั้งที่นึกถึงภาพเหตุกาณ์นั้น เขาก็เหมือนมีไฟลุกโชนอยู่ในใจหลินซวงเอ๋อร์รู้ว่า ไม่ว่าตนเองจะอธิบายอย่างไร เรื่องแบบนั้นก็ได้เกิดขึ้นแล้วนางปล่อยให้เขากอด แล้วปล่อยให้เขาจูบจริงๆนางไม่รู
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 207

จู่ๆร่างกายของเยี่ยเป่ยเฉิงก็เกร็งเดิมทีแค่อยากจะแกล้งนาง ต่อมาก็คิดว่าได้อะไรตอบแทนก็ยังดีแต่ตอนนี้ เขากลับไม่พึงพอใจเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์ถูกจูบแรงมากจนรู้สึกมึนหัว นางค่อยๆพร่ามัว และอดไม่ได้ที่จะตอบสนองกลับเบาๆการตอบสนองของนาง คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำลายสติของเยี่ยเป่ยเฉิงที่ข้างหู การหายใจของเขาหนักหน่วงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าถูกห่อด้วยลูกบอลไฟ ที่กำลังแผดเผานางแต่หลินซวงเอ๋อร์ยังคงพอมีสติอยู่บ้างนางรู้ว่า ทำแบบนี้ไม่ถูกอีกอย่าง เสวียนอู่ยังคงรออยู่นอกประตู ถ้าร้องขึ้นมาแล้วเขาได้ยินเข้าจะทำอย่างไร?“ไม่...ไม่ได้” นัยน์ตาของนางพร่ามัว แม้แต่เสียงก็แฝงไปด้วยเสน่ห์เล็กน้อยเยี่ยเป่ยเฉิงยืนขึ้นเล็กน้อย ในนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์เสน่หาอย่างชัดเจน“ไม่ได้อะไร?”ริมฝีปากของหลินซวงเอ๋อร์แดงบวมจากการถูกเขาดูด แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อเล็กน้อย ผมเผ้าของนางก็สยายอยู่บนหมอนปักอย่างยุ่งเหยิงเห็นได้ชัดว่ามีท่าทางที่ยั่วยวนมาก แต่นางกลับไม่รู้ตัว สิ่งนี้ทำให้ดวงตาคู่นั้นดูสะอาดบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นเยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว คิ้วที่ผ่อนคลายขมวดกันแน่น นัยน์ตาที่เต็มไปด้ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 208

จ้าวชิงชิงถูกคนห้ามกลับจวนหนิงหวังตอนที่นางถูกส่งตัวกลับมา สีหน้าของนางซีดเซียว ร่างกายเปียกโชกไปด้วยเลือด และมีรอยแส้อันน่าสะพรึงกลัวสองที่บนร่างกายจ้าวชิงชิงไม่สามารถทนได้ตั้งนานแล้ว ตอนที่กลับมา นางได้หมดสติไปแล้วพระชายาจ้าวรักบุตรสา่วเป็นอย่างมาก จึงรีบตามแพทย์หลวงมาที่จวนอย่างรวดเร็วโชคดีที่แพทย์หลวงมาได้ทันเวลา ฝังเข็มห้ามเลือดให้นาง และต้มยาให้นางดื่ม ถึงรักษาชีวิตเอาไว้ได้พอหนิงหวังจ้าวหย่วนโหวทราบข่าว ก็รีบกลับมาจากพระราชวังทันทีหลังจากที่ทั้งสองได้สอบถามแล้ว ถึงได้รู้ว่าจากปากผู้ติดตามว่า บุตรสาวสุดที่รักของพวกเขาถูกเยี่ยเป่ยเฉิงเฆี่ยนตีจนมีสภาพเป็นเช่นนี้...“ เยี่ยเป่ยเฉิงตัวดี กล้าดีอย่างไรถึงได้ทำกับลูกสาวของข้าแบบนี้! ”จ้าวหย่วนโหวโกรธมาก และบอกว่าเขาจะไปฟ้องไทเฮา ฟ้ององค์จักรพรรดิ เพื่อให้พวกเขาทวงความยุติธรรมให้ลูกสาวของเขาไทเฮาคือท่านป้าของจ้าวชิงชิง และเป็นน้องสาวทางสายเลือดของเขา คงจะไม่ยอมเพิกเฉยเรื่องนี้อย่างแน่นอน! เยี่ยเป่ยเฉิงจะต้องเอาเรื่องเยี่ยเป่ยเฉิงให้ได้! ให้เขาได้รับการลงโทษอย่างสาสม!แต่พระชายาจ้าวกับห้ามเขาเอาไว้ได้ทันเวลา“ท่านไม่ได
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 209

ถนนฉางอานในตลาดริมถนนที่คึกคัก ร่างของคนทั้งสองคนดึงดูดสายตาผู้คนเป็นพิเศษวันนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงอารมณ์ดีมาก จึงนัดหมายไป๋อวี้ถังมาประลองหมากล้อมที่หออวี๋นเซียวไป๋อวี้ถังไม่อยากเล่นกับเขา ประลองกันช่วงแรกๆเขาไม่มีกะจิตกะใจเล่นเลย พอประลองกับเขาไปสองสามเกมแล้ว ก็รู้สึกว่าตนเองชนะได้อย่างไม่สมศักดิ์ศรี หลังจากนั้นก็รู้สึกเบื่อหน่ายไป๋อวี้ถังทนความกระตือรือร้นของเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะเล่นแต่ก็สนองความกระตือรือร้นของเขาอยู่ดีแต่ทว่า ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะอารมณ์ดีจริงๆ ทั้งสองประลองกันเป็นเวลานาน ก็ยังไม่สามารถรู้แพ้รู้ชนะได้ไป๋อวี้ถังเลิกคิ้วให้เยี่ยเป่ยเฉิง แล้วพูดว่า "วันนี้อารมณ์ดีมากเลยหรือ?"เยี่ยเป่ยเฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ยกริมฝีปากบางขึ้นเล็กน้อย: "อารมณ์ดีมาก"ไป๋อวี้ถังอมยิ้ม จากนั้นก็วางหมากล้อมลงไปหนึ่งตัวดูจากท่าทางของเขาแล้ว เกรงว่าจะไม่ใช่แค่อารมณ์ดีเท่านั้นเยี่ยเป่ยเฉิงมาเขามีเพียงสองอารมณ์เท่านั้นถ้าไม่อารมณ์ดีสุดขีดก็อารมณ์ไม่ดีสุดขีดไป๋อวี้ถังพูดล้อเล่นว่า: "ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรถึงได้ทำให้สหายเยี่ยเบิกบานใจเช่นนี้?ข้าจำได้ว่า เจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 210

ตอนที่กลับไป ท้องฟ้ายังไม่มืด ร้านค้าข้างทางเต็มไปด้วยสินค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย บนถนนที่กว้างใหญ่ พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ทำให้ครึกครื้นเป็นอย่างมากตอนที่เดินผ่านร้านขนมที่คุ้นเคย กลิ่นหอมหวานเย้ายวนก็โชยมาเยี่ยเป่ยเฉิงหยุดเดินชั่วคราวไป๋อวี้ถังที่อยู่ด้านข้างจึงกล่าวว่า: "เจ้าไม่ชอบทานขนมหวานเหล่านี้ไม่ใช่หรือ?"ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก ไป๋อวี้ถังจึงรู้ว่าของชื่นชอบอะไร ในความทรงจำของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานและมันเยิ้มเหล่านี้เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่เขากลับจวนหลังจากประชุมงานเสร็จจะซื้อแล้วห่อกลับไปสองชุดทุกครั้งเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "นางชอบกิน"ไป๋อวี้ถังรู้อย่างแน่นอนว่า"นาง"ที่เยี่ยเป่ยเฉิงพูดหมายถึงใคร ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทันทีเขาเงยหน้ามองชื่อร้านอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวในใจว่า " ที่แท้นางก็ชอบกินของพวกนี้ "แต่ว่า เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้คิดที่จะเข้าไป แค่หยุดเดินเพียงครู่หนึ่ง แล้วจากไปโดยที่ไม่ลังเลใจไป๋อวี้ถังรู้สึกงุนงง: "เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าไปซื้อแล้วห่อกลับสองชุด?"เมื่อได้ยินดังนี้ คิ้วของเยี่ยเป่ยเฉิงมีร่องรอยของความโศกเศร้า: "ช่ว
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1920212223
...
63
DMCA.com Protection Status