บททั้งหมดของ ทาสสาวพราวพิลาส: บทที่ 171 - บทที่ 180

625

บทที่ 171

สิ่งเหล่านี้ แม่ของนางเคยสอนนางเอาไว้ จะต้องรู้สถานะของตนเอง อย่าไปคาดหวังอะไรที่ไม่ใช่สิ่งของของตนตงเหมยถอนหายใจแล้วพูดว่า: "ข้ามองออกว่า ท่านอ๋องดีกับเจ้าเป็นพิเศษจริงๆ แม้แต่ชิวจวี๋ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เมื่อคืนเจ้ามีไข้สูง ท่านอ๋องก็ดูแลเจ้าทั้งคืน"เมื่อได้ยินสิ่งที่ตงเหมยพูด หลินซวงเอ๋อร์ก็หวั่นไหวอยู่ในใจครู่หนึ่งบางครั้ง นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่เยี่ยเป่ยเฉิงมีต่อนาง แต่ความเมตตาของเขาทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงนางไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดโลภ เพราะกลัวว่าถ้านางโลภแล้ว จะติดอยู่ในภวังค์ จนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ท่านอ๋องเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงส่ง แม้ว่าเขาจะดีต่อข้า ข้าก็ควรจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณ แทนที่จะไปคาดหวังอะไรที่มันเกินตัว"อาธิเช่น ให้เขามาชื่นชอบตนเอง แล้วรับตนเองเป็นอนุภรรยาสิ่งเหล่านี้เป็นการคาดหวังเกินตัวที่ไม่ควรมีตงเหมยกลับไม่เข้าใจ: "ท่านอ๋องไม่ดีอย่างไร?เทียบกับหนุ่มจ้วงหยวนคนนั้นไม่ได้ตรงไหน?ซวงเอ๋อร์ เจ้าอย่าออกจากจวนไปเลย อยู่กับท่านอ๋องเถิด ท่านอ๋องจะคอยปกป้องเจ้า และมอบสถานะใหม่ให้แก่เจ้า ซึ่งเป็นสถา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 172

เสวียนอู่กำลังรออยู่นอกประตู เยี่ยเป่ยเฉิงก็ผลักเปิดประตูแล้วเดินออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ดูใบหน้าของเขาไม่ได้เหนื่อยล้าเลย ในทางตรงกันข้ามกลับดูสดชื่นดูเหมือนว่า วันนี้ท่านอ๋องจะอารมณ์ดีมากเสวียนอู่เดินตามหลัง แล้วถามว่า “วันนี้ท่านอ๋องจะไปที่ไหนหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า"ไปที่เรือนด้านหน้า"เสวียนอู่ถามว่า: "จะไปแสดงคารวะนายหญิงหรือขอรับ?"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า:"ต้องแวะไปคารวะอยู่แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะต้องทำในวันนี้!"เสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับท่าน..."เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า "มีเรื่องอะไรก็เอาไว้คุยกันทีหลัง"วันนี้ เขาอยากจะจัดการเรื่องสำคัญที่อยู่ในใจก่อน! เขารอไม่ไหวแม้แต่ช่วงเวลาเดียว!ทั้งสองเดินตามกันไปจนถึงเรือนด้านหน้า เท้าหน้ายังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปในลานจวน ก็เห็นจ้าวชิงชิงกระพือปีกมาราวกับว่าเป็นผีเสื้อ"พี่เป่ยเฉิง"จ้าวชิงชิงแต่งกายด้วยชุดสีแดงเข้ม กระโดดโลดเต้นจนไปถึงที่ตรงหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้แล้วเริ่มออดอ้อนว่า: "พี่เป่ยเฉิง ชิงชิงไม่ได้เจอท่านมานา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 173

แต่เมื่อเห็นจ้าวชิงชิงร้องไห้ เขากลับรู้สึกรำคาญ! ช่างน่ารำคาญมากจริงๆ!จ้าวชิงชิงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้เดินจากไปแล้ว โดยที่ไม่ชายตามองนางเลย“พี่เป่ยเฉิง พี่นอชิงชิงด้วย…” จ้าวชิงชิงรู้สึกเสียใจ แต่นางยังคงติดตามเขาไปต้อยๆในเวลานั้น ห้องโถงด้านหน้าได้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อกงชิงเยวี่ยเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมาสาย และมีสีหน้าที่ไม่เบิกบานใจ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยจ้าวชิงชิงติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาถึงตรงหน้ากงชิงเยวี่ย ท่าทางของนางดูเหมือนว่ากำลังจะร้องไห้ คงจะพูดคุยกับเยี่ยเป่ยเฉิงได้ไม่ราบรื่นนักกงชิงเยวี่ยเหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างไม่พอใจก่อน จากนั้นก็ให้จ้าวชิงชิงนั่งข้างตน และกล่าวปลอบใจว่า: "ชิงชิง อย่าโกรธไปเลยนะ นั่งลงกินข้าวก่อน เจ้าดูอาหารบนโต๊ะนี้สิ ล้วนทำตามความชอบของเจ้าทั้งนั้น รีบชิมดูเร็ว ว่าอาหารถูกปากหรือไม่"จ้าวชิงชิงเป็นบุตรีของท่านอ๋องอานหนิง และไทเฮาคนปัจจุบันเป็นเสด็จป้าของนาง ตอนนี้เป็นท่านหญิงที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง!ในแง่ของสถานะ นางมีสถานะที่เท่าเทียมกันกับเยี่ยเป่ยเฉิงตอนนี้ นางก็เพิ่งจะเข้าสู่วัยแต่งงาน รูปร่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 174

สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตอนที่หลินซวงเอ๋อร์ออกจากจวน บนท้องฟ้าก็มีฝนตกปรอยๆ โชคดีที่ตอนออกขากจวนนางพกร่มกระดาษน้ำมันติดตัวไปด้วยทันทีที่เขาออกจากจวน นางก็พบกับฉีหมิงที่ปากทางเขายืนอยู่ข้างกำแพงลานจวน และสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวพระจันทร์ตัวหนึ่งฝนตกไม่หนัก แต่ยังทำให้เสื้อผ้าของเขายังเปียกโชกนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่คิดว่าเขาจะยืนรออยู่ตรงนั้นตลอดเวลา แม้ว่าฝนจะตกก็ไม่รู้จักหลบฝนเมื่อเห็นฉีหมิง หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกลังเลใจ ตะลึงอยู่กับที่ครู่หนึ่ง และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีนางสัญญากับเหยาซื่อแล้วว่า ตั้งแต่นี้ไปนางจะไม่ข้องแวะกับเขาอีกขณะที่นางกำลังจะหันหลังกลับแล้วจากไป หลินซวงเอ๋อร์ก็หยุดเดินอีกครั้ง สุดท้ายก็วิ่งไปข้างหน้า และยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าฉีหมิงทันทีที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ ใบหน้าที่สงบนิ่งของฉีหมิงก็เผยรอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเวลานานออกมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตั้งแต่วินาทีแรกที่หลินซวงเอ๋อร์ปรากฏตัว เขาก็อยู่ใกล้นางตลอดเวลา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปกปิดความเบิกบานใจเอาไว้ได้ว่า: "ซวงเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ออกมาพบพี่แล้ว..."เขาได้ไว้ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 175

ดังนั้น เขาจึงโกหกนาง หลอกล่อนาง ผูกมัดนางในนามของพี่ชาย เพื่อป้องกันไม่ให้นาง ติดต่อกับผู้ชายคนไหน แถมยังเกลี้ยกล่อมให้นางตอบรับคำขอแต่งงานของตนอีกด้วยแต่ว่า...ในที่สุดสาวน้อยผู้ไร้เดียงสาก็เติบโตขึ้นมาแล้ว และเข้าใจความรู้สึกของตนเองในที่สุด...เมื่อเห็นว่าเขาจับมือของตนเอง ความรู้สึกแปลกๆก็ผุดขึ้นมาในใจหลินซวงเอ๋อร์ นางไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความยินดี แถมยังรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจอีกด้วยนางขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงมือออกมาจากในฝ่ามือของเขา แล้วพูดว่า "พี่ฉี พี่จะจับมือข้าแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ"ฉีหมิงมองไปที่มือที่ว่างเปล่า รู้สึกว่างเปล่าในใจ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: "ทำไมหรือ? เมื่อก่อนข้าก็จับมือเจ้าแบบนี้ไม่ใช่หรือ?"เมื่อก่อนเขาเลยจูงมือนาง เคยกอดแม้กระทั่งนาง เหตุใดตอนนี้ถึงทำไม่ได้แล้ว?หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้ ตอนนี้ซวงเอ๋อร์โตแล้ว"พอเติบโตแล้ว ก็เข้าใจเหตุผลบางอย่าง และรู้ว่าชายหญิงมีความแตกต่างกัน อีกอย่าง เขาไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของตนเองสักหน่อย ดังนั้นจะมาอยากจะจับก็จับ อยากจะกอดก็กอดตามใจชอบไม่ได้...หลินซวงเอ๋อร์เอามือไปไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 176

หลังจากนั้นไม่นาน หลินซวงเอ๋อร์ก็ตั้งสติได้ และตระหนักได้ว่าฉีหมิงกอดนางแน่นจนเกินไป“พี่ฉี พี่อย่าทำแบบนี้ พี่ปล่อยข้านะ” หลินซวงเอ๋อร์พยายามดิ้นรน เพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขาแต่ฉีหมิงกลับกระชับมือของเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แทบจะบดขยี้หลินซวงเอ๋อร์ให้แหลกฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่เปียกโชกไปทั้งตัว ทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก“พี่ฉี พี่เป็นอะไรกันแน่?”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าวันนี้ฉีหมิงผิดปกติไปเล็กน้อย ไม่เหมือนพี่ฉีที่นางรู้จักมาก่อนเลยพี่ฉีในอดีตเป็นคนอ่อนโยนสง่างาม และไม่เคยบังคับอะไรนาง ตอนที่พูดคุยกับนาง ก็มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอแต่ตอนนี้ฉีหมิงเปลี่ยนไป เขามักจะไม่ตั้งใจฟังตนเองพูด และมักจะบังคับให้นางทำเรื่องบางอย่างที่ไม่ชอบพี่ฉีที่เป็นแบบนี้ นางไม่ชอบเลย ทำให้นางอยากจะอยู่ห่างจากเขาตามสัญชาตญาณ“พี่ฉี ปล่อยข้านะ ข้าจะกลับไปแล้ว เดี๋ยวท่านอ๋องจะไม่เบิกบานใจ”ตนเองออกมาเป็นเวลานานแล้ว บางทีเยี่ยเป่ยเฉิงอาจจะกำลังตามหานางอยู่ ถ้านางไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาให้ทันเวลา บางทีเขาอาจจะเกรี้ยวโกรธขึ้นมาอีกครั้งก็ได้เพราะอย่างไรเสีย เขาเป็นคนใจแคบมาก แถมย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 177

ฉีหมิงรู้สึกเจ็บปวดราวกับว่ามีลูกธนูนับพันแทงทะลุหัวใจของเขา เขาจับไหล่ของนาง เอาไว้แน่น และถามนางด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า: "เหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้เขาสัมผัสตัวเจ้า? หลินซวงเอ๋อร์ เจ้าอยากจะเกาะผู้มีสถานะสูงส่งใช่หรือไม่?อยากเป็นพระชายาของท่านอ๋องเยี่ยขนาดนั้นเลยหรือ?ตอนนี้ข้าเป็นจ้วงหยวนคนใหม่แล้ว แต่งงานกับพี่ก็มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติได้เช่นกัน! เหตุใดเจ้าถึงเลือกเยี่ยเป่ยเฉิง?"หลินซวงเอ๋อร์ถูกถามจนตะลึงงัน เมื่อต้องเผชิญกับฉีหมิงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ เก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร"หลินซวงเอ๋อร์! เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด?เจ้าตอบพี่มานะ!"“พี่ฉี...ไม่ใช่แบบนั้น ข้าไม่ได้อยากที่จะเกาะคนที่มีสถานะสูงส่ง แต่ท่านอ๋องดีกับข้ามากจริงๆนะ…”“อย่าพูดถึงเขาอีก!” ฉีหมิงก็จับหน้าของนางเอาไว้ โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วจูบนางทันทีที่ริมฝีปากและฟัน บรรจบกัน หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้ลิ้มรสเลือดเขากัดริมฝีปากของนางจนเป็นแผล เหมือนว่าจูบเพื่อลงโทษนางหลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัว รีบเบือนหน้าหนี น้ำตาไหลออกมาจากในดวงตา: "พี่ฉี... "ฉีหมิงเพิกเฉยต่อคำวิงวอนขอร้อง แล้วกดนางลงบนกำแพงลานจวนอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 178

จากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากกลับไปที่จวนโหวทันทีเขาเดินเร็วมาก ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องวิ่งเหยาะๆตลอดทางเพื่อจะได้ตามเขาให้ทันมือที่จับข้อมือของนางเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ราวกับว่าจะบดขยี้กระดูกข้อมือของนางให้แหลกหลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าร้องว่าเจ็บ แม้แต่ความเจ็บปวดที่เกิดจากข้อเท้าเคล็ดเมื่อสักครู่นี้นางก็ต้องทนเอาไว้เขาผ่านเรือนด้านหน้า เดินผ่านเรือนตรงกลาง ในที่สุดก็เดินไปถึงเรือนฝั่งตะวันออกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เสวียนอู่ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตูลานจวนทันทีที่เขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิง เสวียนอู่ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเขาติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาหลายปีแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรเขารู้ดีที่สุดเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้ แม้ว่าดูผิวเผินแล้วจะสงบนิ่ง แต่ภายใต้ความสงบนิ่ง ก็มีความโกรธอันเดือดดาลซ่อนอยู่เสวียนอู่ไม่กล้าถามสักประโยค เพราะเกรงกว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะพาลโกรธเขาด้วย จึงรีบไปยืนอยู่ด้านข้างจากนั้นก็แอบชำเลืองมองหลินซวงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังเยี่ยเป่ยเฉิงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่านางถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากเข้ามาในลานจวนอย่างเดินกะโผลกกะเผลก เขาก็เข้าใจไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 179

เจตนาในการข่มขู่ เกินคำบรรยาย หลินซวงเอ๋อร์จะกล้าให้เขาไปหานางได้อย่างไร ถ้าให้เขาไปจริงๆ นางคงจะไม่ได้แค่ถูกลงโทษเท่านั้นสุดท้ายแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินไปอย่างช้าๆ ด้วยขาที่สั่นเทา เพียงแต่ว่า นางไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป จึงอยู่ห่างจากเยี่ยเป่ยเฉิงสองสามก้าวคิดไม่ถึงว่า จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วใช้มือโอบเอวนางเอาไว้ แล้วดึงนางเข้าไปในอ้อมแขนแล้วกลับมานั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์นั่งอย่างมั่นคงลงบนตักของเขา และใช้มือขนาดใหญ่ของเขาจับเอวของนางเอาไว้ ทำให้นางไม่สามารถขยับได้“ท่านอ๋อง …” หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวสุดขีด กลิ่นไอความเย็นที่อยู่รอบตัวเขาทำให้ใจนางสั่นสะท้าน“เขาเคยจูบเจ้าหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงกดนางไว้บนตัก แล้วใช้นิ้วบีบคางของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วลูบและเช็ดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าเปื้อนสิ่งสกปรกอะไรอยู่ทั้งร่างของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาไปหมด ริมฝีปากถูกเขาใช้แรงถู จนแดงบวมเล็กน้อย“ข้า... สลัดเขาไม่ออก” ในขณะที่นางพูด น้ำเสียงของนางก็สั่นเทาเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้น่ากลัวที่สุด ราวกับว่ามีเมฆพายุซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าอันสงบนิ่งเยี่ยเป่ยเฉ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 180

ตอนที่ออกมาจากเรือนอวิ๋นซวน ดวงตาของหลินซวงเอ๋อร์เป็นสีแดง ริมฝีปากบวมเล็กน้อยนางกลับไปที่ห้องของตนเองอย่างเงียบๆ ก้มหน้าแล้วเริ่มเก็บข้าวของเตอนที่ตงเหมยมาหานาง นางได้เก็บข้าวของของตนเองไว้เรียบร้อยแล้วตงเหมยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าท่านอ๋องอยากจะรับนางเป็นภรรยาบ่าว แต่ก็คงจะไม่ทำรวดเร็วปานนี้?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะย้ายไปที่ไหน?”ถ้ายกระดับเป็นภรรยาบ่าว ก็คงจะพักอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เรือนฝั่งตะวันออกมีห้องที่ใหญ่กว่านี้มากมาย บางทีอาจจะจัดเตรียมสถานที่ดีๆไว้ให้นางก็ได้เดิมทีข้าวของของหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้เยอะอะไร ตอนที่นางย้ายเข้ามามีเพียงเสื้อผ้าเก่าๆ สองสามชุดเท่านั้น ตอนนี้ใครจะไปคิดว่าตอนย้ายออกไป ข้าวของจะเยอะขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ของชิ้นเล็กชิ้นน้อย มีแทบทุกอย่าง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของที่เยี่ยเป่ยเฉิงมอบให้นางหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้ตอบ ยกมือขึ้นแล้วจัดสัมภาระชิ้นสุดท้ายตงเหมยดึงหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้แล้วถามต่อไปว่า: "ท่านอ๋องให้เจ้าไปอยู่ที่เรือนหน่วนเซียงหรือเรือนจุ้ยอวิ๋นซวน?"หลินซวงเอ๋อร์มองไปที่ตงเหมย จู่ๆก็กล่าวว่า: "ท่านอ๋องบอกว่าไม่อยากพบข้าอีก แล้วบอกให้ข้า
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1617181920
...
63
DMCA.com Protection Status