Share

บทที่ 176

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-08-04 18:00:00
หลังจากนั้นไม่นาน หลินซวงเอ๋อร์ก็ตั้งสติได้ และตระหนักได้ว่าฉีหมิงกอดนางแน่นจนเกินไป

“พี่ฉี พี่อย่าทำแบบนี้ พี่ปล่อยข้านะ” หลินซวงเอ๋อร์พยายามดิ้นรน เพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขา

แต่ฉีหมิงกลับกระชับมือของเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แทบจะบดขยี้หลินซวงเอ๋อร์ให้แหลก

ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่เปียกโชกไปทั้งตัว ทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก

“พี่ฉี พี่เป็นอะไรกันแน่?”

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าวันนี้ฉีหมิงผิดปกติไปเล็กน้อย ไม่เหมือนพี่ฉีที่นางรู้จักมาก่อนเลย

พี่ฉีในอดีตเป็นคนอ่อนโยนสง่างาม และไม่เคยบังคับอะไรนาง ตอนที่พูดคุยกับนาง ก็มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ

แต่ตอนนี้ฉีหมิงเปลี่ยนไป เขามักจะไม่ตั้งใจฟังตนเองพูด และมักจะบังคับให้นางทำเรื่องบางอย่างที่ไม่ชอบ

พี่ฉีที่เป็นแบบนี้ นางไม่ชอบเลย ทำให้นางอยากจะอยู่ห่างจากเขาตามสัญชาตญาณ

“พี่ฉี ปล่อยข้านะ ข้าจะกลับไปแล้ว เดี๋ยวท่านอ๋องจะไม่เบิกบานใจ”

ตนเองออกมาเป็นเวลานานแล้ว บางทีเยี่ยเป่ยเฉิงอาจจะกำลังตามหานางอยู่ ถ้านางไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาให้ทันเวลา บางทีเขาอาจจะเกรี้ยวโกรธขึ้นมาอีกครั้งก็ได้

เพราะอย่างไรเสีย เขาเป็นคนใจแคบมาก แถมย
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 177

    ฉีหมิงรู้สึกเจ็บปวดราวกับว่ามีลูกธนูนับพันแทงทะลุหัวใจของเขา เขาจับไหล่ของนาง เอาไว้แน่น และถามนางด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า: "เหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้เขาสัมผัสตัวเจ้า? หลินซวงเอ๋อร์ เจ้าอยากจะเกาะผู้มีสถานะสูงส่งใช่หรือไม่?อยากเป็นพระชายาของท่านอ๋องเยี่ยขนาดนั้นเลยหรือ?ตอนนี้ข้าเป็นจ้วงหยวนคนใหม่แล้ว แต่งงานกับพี่ก็มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติได้เช่นกัน! เหตุใดเจ้าถึงเลือกเยี่ยเป่ยเฉิง?"หลินซวงเอ๋อร์ถูกถามจนตะลึงงัน เมื่อต้องเผชิญกับฉีหมิงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ เก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร"หลินซวงเอ๋อร์! เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด?เจ้าตอบพี่มานะ!"“พี่ฉี...ไม่ใช่แบบนั้น ข้าไม่ได้อยากที่จะเกาะคนที่มีสถานะสูงส่ง แต่ท่านอ๋องดีกับข้ามากจริงๆนะ…”“อย่าพูดถึงเขาอีก!” ฉีหมิงก็จับหน้าของนางเอาไว้ โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วจูบนางทันทีที่ริมฝีปากและฟัน บรรจบกัน หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้ลิ้มรสเลือดเขากัดริมฝีปากของนางจนเป็นแผล เหมือนว่าจูบเพื่อลงโทษนางหลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัว รีบเบือนหน้าหนี น้ำตาไหลออกมาจากในดวงตา: "พี่ฉี... "ฉีหมิงเพิกเฉยต่อคำวิงวอนขอร้อง แล้วกดนางลงบนกำแพงลานจวนอ

    Last Updated : 2024-08-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 178

    จากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากกลับไปที่จวนโหวทันทีเขาเดินเร็วมาก ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องวิ่งเหยาะๆตลอดทางเพื่อจะได้ตามเขาให้ทันมือที่จับข้อมือของนางเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ราวกับว่าจะบดขยี้กระดูกข้อมือของนางให้แหลกหลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าร้องว่าเจ็บ แม้แต่ความเจ็บปวดที่เกิดจากข้อเท้าเคล็ดเมื่อสักครู่นี้นางก็ต้องทนเอาไว้เขาผ่านเรือนด้านหน้า เดินผ่านเรือนตรงกลาง ในที่สุดก็เดินไปถึงเรือนฝั่งตะวันออกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เสวียนอู่ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตูลานจวนทันทีที่เขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิง เสวียนอู่ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเขาติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาหลายปีแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรเขารู้ดีที่สุดเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้ แม้ว่าดูผิวเผินแล้วจะสงบนิ่ง แต่ภายใต้ความสงบนิ่ง ก็มีความโกรธอันเดือดดาลซ่อนอยู่เสวียนอู่ไม่กล้าถามสักประโยค เพราะเกรงกว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะพาลโกรธเขาด้วย จึงรีบไปยืนอยู่ด้านข้างจากนั้นก็แอบชำเลืองมองหลินซวงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังเยี่ยเป่ยเฉิงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่านางถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากเข้ามาในลานจวนอย่างเดินกะโผลกกะเผลก เขาก็เข้าใจไ

    Last Updated : 2024-08-04
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 179

    เจตนาในการข่มขู่ เกินคำบรรยาย หลินซวงเอ๋อร์จะกล้าให้เขาไปหานางได้อย่างไร ถ้าให้เขาไปจริงๆ นางคงจะไม่ได้แค่ถูกลงโทษเท่านั้นสุดท้ายแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินไปอย่างช้าๆ ด้วยขาที่สั่นเทา เพียงแต่ว่า นางไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป จึงอยู่ห่างจากเยี่ยเป่ยเฉิงสองสามก้าวคิดไม่ถึงว่า จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วใช้มือโอบเอวนางเอาไว้ แล้วดึงนางเข้าไปในอ้อมแขนแล้วกลับมานั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์นั่งอย่างมั่นคงลงบนตักของเขา และใช้มือขนาดใหญ่ของเขาจับเอวของนางเอาไว้ ทำให้นางไม่สามารถขยับได้“ท่านอ๋อง …” หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวสุดขีด กลิ่นไอความเย็นที่อยู่รอบตัวเขาทำให้ใจนางสั่นสะท้าน“เขาเคยจูบเจ้าหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงกดนางไว้บนตัก แล้วใช้นิ้วบีบคางของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วลูบและเช็ดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าเปื้อนสิ่งสกปรกอะไรอยู่ทั้งร่างของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาไปหมด ริมฝีปากถูกเขาใช้แรงถู จนแดงบวมเล็กน้อย“ข้า... สลัดเขาไม่ออก” ในขณะที่นางพูด น้ำเสียงของนางก็สั่นเทาเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้น่ากลัวที่สุด ราวกับว่ามีเมฆพายุซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าอันสงบนิ่งเยี่ยเป่ยเฉ

    Last Updated : 2024-08-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 180

    ตอนที่ออกมาจากเรือนอวิ๋นซวน ดวงตาของหลินซวงเอ๋อร์เป็นสีแดง ริมฝีปากบวมเล็กน้อยนางกลับไปที่ห้องของตนเองอย่างเงียบๆ ก้มหน้าแล้วเริ่มเก็บข้าวของเตอนที่ตงเหมยมาหานาง นางได้เก็บข้าวของของตนเองไว้เรียบร้อยแล้วตงเหมยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าท่านอ๋องอยากจะรับนางเป็นภรรยาบ่าว แต่ก็คงจะไม่ทำรวดเร็วปานนี้?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะย้ายไปที่ไหน?”ถ้ายกระดับเป็นภรรยาบ่าว ก็คงจะพักอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เรือนฝั่งตะวันออกมีห้องที่ใหญ่กว่านี้มากมาย บางทีอาจจะจัดเตรียมสถานที่ดีๆไว้ให้นางก็ได้เดิมทีข้าวของของหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้เยอะอะไร ตอนที่นางย้ายเข้ามามีเพียงเสื้อผ้าเก่าๆ สองสามชุดเท่านั้น ตอนนี้ใครจะไปคิดว่าตอนย้ายออกไป ข้าวของจะเยอะขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ของชิ้นเล็กชิ้นน้อย มีแทบทุกอย่าง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของที่เยี่ยเป่ยเฉิงมอบให้นางหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้ตอบ ยกมือขึ้นแล้วจัดสัมภาระชิ้นสุดท้ายตงเหมยดึงหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้แล้วถามต่อไปว่า: "ท่านอ๋องให้เจ้าไปอยู่ที่เรือนหน่วนเซียงหรือเรือนจุ้ยอวิ๋นซวน?"หลินซวงเอ๋อร์มองไปที่ตงเหมย จู่ๆก็กล่าวว่า: "ท่านอ๋องบอกว่าไม่อยากพบข้าอีก แล้วบอกให้ข้า

    Last Updated : 2024-08-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 181

    ตงเหมยไม่กล้ารับประกันกับนางจริงๆว่า ท่านอ๋องชอบนางจริงๆ หรือแค่รู้สึกว่านางสดใหม่แน่นอนว่า นางเชื่ออย่างหลังมากกว่าความสดใหม่ มักจะเป็นสิ่งเน่าเสียง่ายที่สุด...ตงเหมยร่วมกับกลับไปที่ห้องเล็กๆในเรือนฝั่งตะวันออกกับหลินซวงเอ๋อร์ที่นั่นคือห้องที่หลินซวงเอ๋อร์เคยพักอาศัยอยู่ตอนที่ยังกวาดลานจวนคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่ทั้งสองคนออกไป ก็บังเอิญพบกับสตรีที่สวมเสื้อผ้างดงามคนหนึ่งสัมภาระที่อยู่ในมือตกลงไปบนพื้น ทำให้ของข้างในก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นตงเหมยกำลังจะต่อว่าผู้มาเยือน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกคนที่มาก็คือจ้าวชิงชิงตงเหมยยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ชิวจวี๋ที่ติดตามจ้าวชิงชิงก็พูดโจมตีก่อนว่า: "เดินอย่างไรเนี่ย? ไม่มีตาหรือ?""เจ้า..." ตงเหมยโกรธมาก และกำลังจะตอบโต้ แต่กังวลเกี่ยวกับสถานะของจ้าวชิงชิง ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมานางได้ยินมานานแล้วว่ามีแขกผู้สูงศักดิ์มาที่จวน นั่นก็คือท่านหญิงที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง ถ้านางเดาไม่ผิด ก็คงจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้“เจ้าอะไร? ไม่ดูตาม้าตาเรือ! กล้าดีอย่างไรถึงได้มาชนท่านหญิง! อีกสักพักข้าจะไปรายงานนา

    Last Updated : 2024-08-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 182

    ความกังวลของจ้าวชิงชิงหายไปเพราะคำพูดของชิวจวี๋แต่นางจะลงโทษหลินซวงเอ๋อร์อย่างไร กลับกลายเป็นปัญหาอีกครั้งนางมองไปที่ชิวจวี๋ ด้วยท่าทางที่ลำบากใจเล็กน้อย: "ลงโทษเล็กน้อยก็พอแล้ว ในเมื่อเป็นคนของจวนโหว เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกัน"จ้าวชิงชิงโยนโจทย์ที่ยากลำบากนี้ให้ชิวจวี๋อย่างสมเหตุสมผลชิวจวี๋ยินดีที่จะทำเรื่องนี้อย่างแน่นอนนางไม่ชอบหลินซวงเอ๋อร์มาตั้งนานแล้ว แต่ท่านอ๋องปกป้องนางมาก แม้ว่านางจะทำผิด คนในจวนก็ไม่สามารถลงโทษนางได้ในที่สุดตอนนี้ท่านอ๋องก็รังเกียจนาง ดังนั้นชิวจวี๋จะพลาดโอกาสดีๆอย่างนี้ไปได้อย่างไร!“ท่านหญิง วางใจเถิด ข้ารู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”ตงเหมยมองกลอุบายระหว่างทั้งสองคนออกทันที จึงพูดขึ้นมาทันทีว่า: "ท่านหญิง! ท่านเป็นแขกที่เดินทางมาจากแดนไกล แม้ว่าสาวใช้ของจวนโหวจะกระทำผิด ท่านก็ไม่ควรลงโทษ หากพวกข้าทำผิดอะไร พวกข้าจะให้นายหญิงเป็นคนตัดสินเอง"ทันทีที่พูดจบ ชิวจวี๋ก็ง้างมือตบไปที่หน้าของนางหนึ่งครั้งอย่างแรง“นังสาวใช้สารเลว! ท่านหญิงมีสถานะเป็นอย่างไร เจ้ามีสถานะเป็นอย่างไร เจ้ามีสิทธิ์พูดตั้งแต่เมื่อไหร่? ”ตงเหมยเอามือกุมหน้า

    Last Updated : 2024-08-05
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 183

    “ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังโกรธอยู่ หากมีเรื่องอะไร รอให้ท่านอ๋องหายโกรธก่อนค่อยพูด!”“แล้วเมื่อไหร่ท่านอ๋องจะหายโกรธ?” พอนึกได้ว่าหลินซวงเอ๋อร์ยังคงถูกลงโทษอยู่ ตงเหมยก็ร้อนใจมากยิ่งขึ้นเสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋องเป็นคนอารมณ์ร้อน ขอแค่เจ้าไปพูดถึงเรื่องที่ไม่ควรจะพูดถึงต่อหน้าท่าน พอถึงเช้าวันพรุ่งนี้ บางทีอาจจะหายโกรธก็ได้"“พรุ่งนี้เช้าหรือ?” ตงเหมยตกตะลึง: “ไม่ได้ ซวงเอ๋อร์นางจะไม่ไหวแล้ว!”ตงเหมยอยากจะบุกเข้าไป แต่นางก็ไม่อาจต้านความแข็งแกร่งของเสวียนอู่ได้ นางพยายามอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไร้ผล จึงทำได้แค่เพียงเหลือบมองเรือนอวิ๋นซวนที่ปิดอยู่ จากนั้นก็หันหลังกลับไปด้วยความผิดหวังเรือนอวิ๋นซวน เยี่ยเป่ยเฉิงมองห้องที่ว่างเปล่า ก็เต็มไปด้วยความโกรธนางกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ไม่เพียงแต่ขาดความจริงใจในการยอมรับข้อผิดพลาดเท่านั้น ตอนนี้แม้แต่คัดอักษรก็ไม่ฝึกแล้ว?ไม่คัดอักษรก็แล้วไป! แต่เขากลับมานานแค่ไหนแล้ว ยังไม่เห็นนางเข้ามาปรนนิบัติเขาอีก!ดูเหมือนว่า เขาจะตามใจนางมากจนเกินไป ตอนนี้นาง จึงได้ไม่รู้จักกฎเกณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ! และไม่เห็นเขาอยู่ในสายตามากขึ้นเรื่อยๆ!เยี่ยเป่ยเฉิง

    Last Updated : 2024-08-06
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 184

    ฝนตกหนักมากหลินซวงเอ๋อร์ถูกสั่งให้คุกเข่าอยู่ที่เรือนฝั่งตะวันตกเม็ดฝนก่อตัวเป็นกระแสน้ำ ไหลรินลงมาจากบนศีรษะหลินซวงเอ๋อร์เปียกโชกไปทั้งตัว เลือดฝาดบนใบหน้าก็ค่อยๆจางไปทีละน้อยตงเหมยไปได้สักพักก็กลับมา ตอนที่กลับมานางมีสีหน้าที่บูดบึ้งสุดขีดชิวจวี๋เยาะเย้ยว่า: "อ้าว? กลับมาแล้วหรือ? ท่านอ๋องล่ะ? เหตุใดถึงไม่ได้มาพร้อมกับเจ้า?"หลังจากที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ถูกลงโทษ ตงเหมยก็ไปที่เรือนฝั่งตะวันออก แล้วบอกว่าจะไปขอให้ท่านอ๋องมาตัดสินเรื่องนี้ชิวจวี๋ไม่เชื่อว่านางจะสามารถเชิญท่านอ๋องมาได้จริงๆ นางถึงกับสั่งให้คนไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข่าวที่นางได้รับก็คือ ท่านอ๋องไม่อยากพบนางดูเหมือนว่า หลินซวงเอ๋อร์ถูกท่านอ๋องรังเกียจเสียเต็มประดา!หลังจากได้รับคำตอบนี้ ชิวจวี๋ก็ไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป ลงโทษเล็กน้อยอะไรกัน นางไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรทั้งนั้นตงเหมยทนไม่ได้ที่หลินซวงเอ๋อร์ถูกลงโทษ แต่นางก็ไม่สามารถเชิญท่านอ๋อง ดังนั้นจึงมองนางด้วยความรู้สึกผิดอยู่ครู่หนึ่ง“ซวงเอ๋อร์ วันนี้ท่านอ๋องอารมณ์ไม่ดี…” ประโยคที่จะพูดหลังจากนี้ นางไม่กล้าพูดออกมา นางรู้ว่า ถ้าซวงเอ๋อร์รู้ว่าตอนนี้ท่าน

    Last Updated : 2024-08-06

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status