แชร์

บทที่ 177

ผู้แต่ง: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฉีหมิงรู้สึกเจ็บปวดราวกับว่ามีลูกธนูนับพันแทงทะลุหัวใจของเขา เขาจับไหล่ของนาง เอาไว้แน่น และถามนางด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า: "เหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้เขาสัมผัสตัวเจ้า? หลินซวงเอ๋อร์ เจ้าอยากจะเกาะผู้มีสถานะสูงส่งใช่หรือไม่?อยากเป็นพระชายาของท่านอ๋องเยี่ยขนาดนั้นเลยหรือ?ตอนนี้ข้าเป็นจ้วงหยวนคนใหม่แล้ว แต่งงานกับพี่ก็มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติได้เช่นกัน! เหตุใดเจ้าถึงเลือกเยี่ยเป่ยเฉิง?"

หลินซวงเอ๋อร์ถูกถามจนตะลึงงัน เมื่อต้องเผชิญกับฉีหมิงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ เก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

"หลินซวงเอ๋อร์! เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด?เจ้าตอบพี่มานะ!"

“พี่ฉี...ไม่ใช่แบบนั้น ข้าไม่ได้อยากที่จะเกาะคนที่มีสถานะสูงส่ง แต่ท่านอ๋องดีกับข้ามากจริงๆนะ…”

“อย่าพูดถึงเขาอีก!” ฉีหมิงก็จับหน้าของนางเอาไว้ โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วจูบนาง

ทันทีที่ริมฝีปากและฟัน บรรจบกัน หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้ลิ้มรสเลือด

เขากัดริมฝีปากของนางจนเป็นแผล เหมือนว่าจูบเพื่อลงโทษนาง

หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัว รีบเบือนหน้าหนี น้ำตาไหลออกมาจากในดวงตา: "พี่ฉี... "

ฉีหมิงเพิกเฉยต่อคำวิงวอนขอร้อง แล้วกดนางลงบนกำแพงลานจวนอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 178

    จากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากกลับไปที่จวนโหวทันทีเขาเดินเร็วมาก ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องวิ่งเหยาะๆตลอดทางเพื่อจะได้ตามเขาให้ทันมือที่จับข้อมือของนางเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ราวกับว่าจะบดขยี้กระดูกข้อมือของนางให้แหลกหลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าร้องว่าเจ็บ แม้แต่ความเจ็บปวดที่เกิดจากข้อเท้าเคล็ดเมื่อสักครู่นี้นางก็ต้องทนเอาไว้เขาผ่านเรือนด้านหน้า เดินผ่านเรือนตรงกลาง ในที่สุดก็เดินไปถึงเรือนฝั่งตะวันออกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เสวียนอู่ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตูลานจวนทันทีที่เขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิง เสวียนอู่ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเขาติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาหลายปีแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรเขารู้ดีที่สุดเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้ แม้ว่าดูผิวเผินแล้วจะสงบนิ่ง แต่ภายใต้ความสงบนิ่ง ก็มีความโกรธอันเดือดดาลซ่อนอยู่เสวียนอู่ไม่กล้าถามสักประโยค เพราะเกรงกว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะพาลโกรธเขาด้วย จึงรีบไปยืนอยู่ด้านข้างจากนั้นก็แอบชำเลืองมองหลินซวงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังเยี่ยเป่ยเฉิงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่านางถูกเยี่ยเป่ยเฉิงลากเข้ามาในลานจวนอย่างเดินกะโผลกกะเผลก เขาก็เข้าใจไ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 179

    เจตนาในการข่มขู่ เกินคำบรรยาย หลินซวงเอ๋อร์จะกล้าให้เขาไปหานางได้อย่างไร ถ้าให้เขาไปจริงๆ นางคงจะไม่ได้แค่ถูกลงโทษเท่านั้นสุดท้ายแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินไปอย่างช้าๆ ด้วยขาที่สั่นเทา เพียงแต่ว่า นางไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป จึงอยู่ห่างจากเยี่ยเป่ยเฉิงสองสามก้าวคิดไม่ถึงว่า จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วใช้มือโอบเอวนางเอาไว้ แล้วดึงนางเข้าไปในอ้อมแขนแล้วกลับมานั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์นั่งอย่างมั่นคงลงบนตักของเขา และใช้มือขนาดใหญ่ของเขาจับเอวของนางเอาไว้ ทำให้นางไม่สามารถขยับได้“ท่านอ๋อง …” หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวสุดขีด กลิ่นไอความเย็นที่อยู่รอบตัวเขาทำให้ใจนางสั่นสะท้าน“เขาเคยจูบเจ้าหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงกดนางไว้บนตัก แล้วใช้นิ้วบีบคางของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วลูบและเช็ดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าเปื้อนสิ่งสกปรกอะไรอยู่ทั้งร่างของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาไปหมด ริมฝีปากถูกเขาใช้แรงถู จนแดงบวมเล็กน้อย“ข้า... สลัดเขาไม่ออก” ในขณะที่นางพูด น้ำเสียงของนางก็สั่นเทาเยี่ยเป่ยเฉิงในตอนนี้น่ากลัวที่สุด ราวกับว่ามีเมฆพายุซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าอันสงบนิ่งเยี่ยเป่ยเฉ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 180

    ตอนที่ออกมาจากเรือนอวิ๋นซวน ดวงตาของหลินซวงเอ๋อร์เป็นสีแดง ริมฝีปากบวมเล็กน้อยนางกลับไปที่ห้องของตนเองอย่างเงียบๆ ก้มหน้าแล้วเริ่มเก็บข้าวของเตอนที่ตงเหมยมาหานาง นางได้เก็บข้าวของของตนเองไว้เรียบร้อยแล้วตงเหมยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าท่านอ๋องอยากจะรับนางเป็นภรรยาบ่าว แต่ก็คงจะไม่ทำรวดเร็วปานนี้?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะย้ายไปที่ไหน?”ถ้ายกระดับเป็นภรรยาบ่าว ก็คงจะพักอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เรือนฝั่งตะวันออกมีห้องที่ใหญ่กว่านี้มากมาย บางทีอาจจะจัดเตรียมสถานที่ดีๆไว้ให้นางก็ได้เดิมทีข้าวของของหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้เยอะอะไร ตอนที่นางย้ายเข้ามามีเพียงเสื้อผ้าเก่าๆ สองสามชุดเท่านั้น ตอนนี้ใครจะไปคิดว่าตอนย้ายออกไป ข้าวของจะเยอะขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ของชิ้นเล็กชิ้นน้อย มีแทบทุกอย่าง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของที่เยี่ยเป่ยเฉิงมอบให้นางหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้ตอบ ยกมือขึ้นแล้วจัดสัมภาระชิ้นสุดท้ายตงเหมยดึงหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้แล้วถามต่อไปว่า: "ท่านอ๋องให้เจ้าไปอยู่ที่เรือนหน่วนเซียงหรือเรือนจุ้ยอวิ๋นซวน?"หลินซวงเอ๋อร์มองไปที่ตงเหมย จู่ๆก็กล่าวว่า: "ท่านอ๋องบอกว่าไม่อยากพบข้าอีก แล้วบอกให้ข้า

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 181

    ตงเหมยไม่กล้ารับประกันกับนางจริงๆว่า ท่านอ๋องชอบนางจริงๆ หรือแค่รู้สึกว่านางสดใหม่แน่นอนว่า นางเชื่ออย่างหลังมากกว่าความสดใหม่ มักจะเป็นสิ่งเน่าเสียง่ายที่สุด...ตงเหมยร่วมกับกลับไปที่ห้องเล็กๆในเรือนฝั่งตะวันออกกับหลินซวงเอ๋อร์ที่นั่นคือห้องที่หลินซวงเอ๋อร์เคยพักอาศัยอยู่ตอนที่ยังกวาดลานจวนคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่ทั้งสองคนออกไป ก็บังเอิญพบกับสตรีที่สวมเสื้อผ้างดงามคนหนึ่งสัมภาระที่อยู่ในมือตกลงไปบนพื้น ทำให้ของข้างในก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นตงเหมยกำลังจะต่อว่าผู้มาเยือน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกคนที่มาก็คือจ้าวชิงชิงตงเหมยยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ชิวจวี๋ที่ติดตามจ้าวชิงชิงก็พูดโจมตีก่อนว่า: "เดินอย่างไรเนี่ย? ไม่มีตาหรือ?""เจ้า..." ตงเหมยโกรธมาก และกำลังจะตอบโต้ แต่กังวลเกี่ยวกับสถานะของจ้าวชิงชิง ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมานางได้ยินมานานแล้วว่ามีแขกผู้สูงศักดิ์มาที่จวน นั่นก็คือท่านหญิงที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง ถ้านางเดาไม่ผิด ก็คงจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้“เจ้าอะไร? ไม่ดูตาม้าตาเรือ! กล้าดีอย่างไรถึงได้มาชนท่านหญิง! อีกสักพักข้าจะไปรายงานนา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 182

    ความกังวลของจ้าวชิงชิงหายไปเพราะคำพูดของชิวจวี๋แต่นางจะลงโทษหลินซวงเอ๋อร์อย่างไร กลับกลายเป็นปัญหาอีกครั้งนางมองไปที่ชิวจวี๋ ด้วยท่าทางที่ลำบากใจเล็กน้อย: "ลงโทษเล็กน้อยก็พอแล้ว ในเมื่อเป็นคนของจวนโหว เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกัน"จ้าวชิงชิงโยนโจทย์ที่ยากลำบากนี้ให้ชิวจวี๋อย่างสมเหตุสมผลชิวจวี๋ยินดีที่จะทำเรื่องนี้อย่างแน่นอนนางไม่ชอบหลินซวงเอ๋อร์มาตั้งนานแล้ว แต่ท่านอ๋องปกป้องนางมาก แม้ว่านางจะทำผิด คนในจวนก็ไม่สามารถลงโทษนางได้ในที่สุดตอนนี้ท่านอ๋องก็รังเกียจนาง ดังนั้นชิวจวี๋จะพลาดโอกาสดีๆอย่างนี้ไปได้อย่างไร!“ท่านหญิง วางใจเถิด ข้ารู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”ตงเหมยมองกลอุบายระหว่างทั้งสองคนออกทันที จึงพูดขึ้นมาทันทีว่า: "ท่านหญิง! ท่านเป็นแขกที่เดินทางมาจากแดนไกล แม้ว่าสาวใช้ของจวนโหวจะกระทำผิด ท่านก็ไม่ควรลงโทษ หากพวกข้าทำผิดอะไร พวกข้าจะให้นายหญิงเป็นคนตัดสินเอง"ทันทีที่พูดจบ ชิวจวี๋ก็ง้างมือตบไปที่หน้าของนางหนึ่งครั้งอย่างแรง“นังสาวใช้สารเลว! ท่านหญิงมีสถานะเป็นอย่างไร เจ้ามีสถานะเป็นอย่างไร เจ้ามีสิทธิ์พูดตั้งแต่เมื่อไหร่? ”ตงเหมยเอามือกุมหน้า

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 183

    “ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังโกรธอยู่ หากมีเรื่องอะไร รอให้ท่านอ๋องหายโกรธก่อนค่อยพูด!”“แล้วเมื่อไหร่ท่านอ๋องจะหายโกรธ?” พอนึกได้ว่าหลินซวงเอ๋อร์ยังคงถูกลงโทษอยู่ ตงเหมยก็ร้อนใจมากยิ่งขึ้นเสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋องเป็นคนอารมณ์ร้อน ขอแค่เจ้าไปพูดถึงเรื่องที่ไม่ควรจะพูดถึงต่อหน้าท่าน พอถึงเช้าวันพรุ่งนี้ บางทีอาจจะหายโกรธก็ได้"“พรุ่งนี้เช้าหรือ?” ตงเหมยตกตะลึง: “ไม่ได้ ซวงเอ๋อร์นางจะไม่ไหวแล้ว!”ตงเหมยอยากจะบุกเข้าไป แต่นางก็ไม่อาจต้านความแข็งแกร่งของเสวียนอู่ได้ นางพยายามอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไร้ผล จึงทำได้แค่เพียงเหลือบมองเรือนอวิ๋นซวนที่ปิดอยู่ จากนั้นก็หันหลังกลับไปด้วยความผิดหวังเรือนอวิ๋นซวน เยี่ยเป่ยเฉิงมองห้องที่ว่างเปล่า ก็เต็มไปด้วยความโกรธนางกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ไม่เพียงแต่ขาดความจริงใจในการยอมรับข้อผิดพลาดเท่านั้น ตอนนี้แม้แต่คัดอักษรก็ไม่ฝึกแล้ว?ไม่คัดอักษรก็แล้วไป! แต่เขากลับมานานแค่ไหนแล้ว ยังไม่เห็นนางเข้ามาปรนนิบัติเขาอีก!ดูเหมือนว่า เขาจะตามใจนางมากจนเกินไป ตอนนี้นาง จึงได้ไม่รู้จักกฎเกณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ! และไม่เห็นเขาอยู่ในสายตามากขึ้นเรื่อยๆ!เยี่ยเป่ยเฉิง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 184

    ฝนตกหนักมากหลินซวงเอ๋อร์ถูกสั่งให้คุกเข่าอยู่ที่เรือนฝั่งตะวันตกเม็ดฝนก่อตัวเป็นกระแสน้ำ ไหลรินลงมาจากบนศีรษะหลินซวงเอ๋อร์เปียกโชกไปทั้งตัว เลือดฝาดบนใบหน้าก็ค่อยๆจางไปทีละน้อยตงเหมยไปได้สักพักก็กลับมา ตอนที่กลับมานางมีสีหน้าที่บูดบึ้งสุดขีดชิวจวี๋เยาะเย้ยว่า: "อ้าว? กลับมาแล้วหรือ? ท่านอ๋องล่ะ? เหตุใดถึงไม่ได้มาพร้อมกับเจ้า?"หลังจากที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ถูกลงโทษ ตงเหมยก็ไปที่เรือนฝั่งตะวันออก แล้วบอกว่าจะไปขอให้ท่านอ๋องมาตัดสินเรื่องนี้ชิวจวี๋ไม่เชื่อว่านางจะสามารถเชิญท่านอ๋องมาได้จริงๆ นางถึงกับสั่งให้คนไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข่าวที่นางได้รับก็คือ ท่านอ๋องไม่อยากพบนางดูเหมือนว่า หลินซวงเอ๋อร์ถูกท่านอ๋องรังเกียจเสียเต็มประดา!หลังจากได้รับคำตอบนี้ ชิวจวี๋ก็ไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป ลงโทษเล็กน้อยอะไรกัน นางไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรทั้งนั้นตงเหมยทนไม่ได้ที่หลินซวงเอ๋อร์ถูกลงโทษ แต่นางก็ไม่สามารถเชิญท่านอ๋อง ดังนั้นจึงมองนางด้วยความรู้สึกผิดอยู่ครู่หนึ่ง“ซวงเอ๋อร์ วันนี้ท่านอ๋องอารมณ์ไม่ดี…” ประโยคที่จะพูดหลังจากนี้ นางไม่กล้าพูดออกมา นางรู้ว่า ถ้าซวงเอ๋อร์รู้ว่าตอนนี้ท่าน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 185

    หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้า แต่หัวใจกลับเหมือนถูกมีดบาดนางคิดว่า หลังจากที่ได้รับบทเรียนในครั้งนี้แล้ว นางจะจดจำให้ขึ้นใจ เก็บหอมรอมริบ จากนั้นก็ออกจากจวน ออกไปจากสถานที่มีแต่ความวุ่นวายแห่งนี้...ฝนตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของหลินซวงเอ๋อร์ก็ซีดลงมากขึ้นเรื่อยๆตงเหมยเห็นว่าผิดปกติไป จึงพูดอย่างกังวลใจว่า: "ซวงเอ๋อร์ หยุดคุกเข่าเถิด ข้าจะเป็นรับโทษทุกอย่างเอง!"หลินซวงเอ๋อร์สลัดมือนางออกไป แล้วกล่าวด้วยสายตาที่มุ่งมั่นว่า: "ไม่เป็นไร อีกครึ่งชั่วยาม ก็จะไม่ต้องถูกลงโทษแล้ว...""ซวงเอ๋อร์... " ดวงตาตงเหมยเปลี่ยนไปเป็นสีแดงหลินซวงเอ๋อร์ยิ้มอบ่างเศร้าใจ แล้วกล่าวว่า: "ใครใช้ให้ข้าเป็นทาสล่ะ? จะผิดหรือไม่ผิด ขึ้นอยู่กับว่านายท่านจะตัดสินอย่างไร นี่คือโชคชะตา... "แม้ว่านางจะไม่ยอมรับต่อโชคชะตา แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้นางอยู่ในจวนโหว ถ้าทำอะไรผิดไปเพียงนิดเดียว จะต้องแลกด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสและตอนนี้ นางได้ก้าวผิดไปก้าวหนึ่ง นั่นคือการหลงรักเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างจริงใจนางคิดอาจเอื้อมในสิ่งที่ไม่ใช่ของของนาง ดังนั้นถึงได้ตกเป็นเป้าหมายของพวกนางเช่นนี้?ในขณะนี้ ในที่สุดจ้าวชิงชิงก

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status