บททั้งหมดของ คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: บทที่ 861 - บทที่ 870

910

บทที่ 861

“ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 862

ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 863

อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 864

"ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 865

หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลี่มู่ถิงยังคงยุ่งอยู่กับการเข็นกระเป๋าเดินทางให้เธอ เสิ่นหยินอู้เพียงแค่พาลูกๆสองคนเดินไปข้างหน้าเท่านั้น อาจเพราะกังวลว่าเรื่องลักพาตัวเธอครั้งก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงมีบอดี้การ์ดร่างสูงกำยำหลายคนเดินขนาบข้างเธอ บอดี้การ์ดแทบจะล้อมอยู่รอบๆข้างกายเธอ ด้านหน้าหนึ่งคน หลังหนึ่งคน ซ้ายหนึ่งคน หนึ่งขวาคน จากมุมมองของคนนอก เธอกับลูกๆสองคนของเธอจะต้องปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าใครคิดที่จะทำอะไรกับเธอ คงไม่ได้แม้แต่จะคิด หลี่มู่ถิงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังเธอไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจึงพูดเตือนออกมา: "คุณหนูเสิ่น คุณผู้หญิงฉินกับคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่ทางออก เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วครับ" เมื่อเขาเตือนเธอ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้า "อืม" จากนั้นเธอก็ก้มลงและกระซิบบอกเด็กน้อยทั้งสอง: "เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน ได้ยินแล้วใช่ไหม? อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าแล้วนะ จำได้ไหมว่าหม่ามี๊บอกพวกหนูตอนที่อยู่บนเครื่องบินว่าอะไร?" "จำได้ค่า" “ไม่ต้องห่วงค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงกับพี่ชายมีมารยาทให้มากที่สุดค่ะ” เด็กน้อยสองคนทำให้เธอมั่นใจได้อย่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 866

“ตอนคุณคิดบัญชีกับเขา ผมไปขวางคุณเมื่อไร? นับตั้งแต่ที่คุณแต่งงานเข้ามาในตระกูลฉิน คุณไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างมาโดยตลอดหรอกเหรอ?” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉินซวีโก้วก็รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก นับตั้งแต่หยินอู้หย่ากับฉินเย่และจากไป นิสัยของคุณแม่ฉินก็เปลี่ยนไปมาก บวกกับการจากไปของคุณนายฉินก็ทำให้อารมณ์ของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่อดทนกับลูกชายเหมือนเมื่อก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าการจากไปของหยินอู้จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องลูกชายของเธออย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอทั้งคู่ก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานกันแล้วเหมือนกัน หากผู้หญิงยังต้องการจะจากไป แสดงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนใจ แต่เธอเห็นหยินอู้เติบโตมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอก็เข้าใจอารมณ์ของหยินอู้ได้อย่างลึกซึ้ง ในความคิดของคุณแม่ฉิน เด็กคนนั้นไม่มีทางจะทำอะไรที่เป็นผลร้ายแรงต่อเรื่องการแต่งงานอย่างแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือการที่ลูกชายของเธอทำอะไรสักอย่างผิด เมื่อลูกชายทำผิด แม่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเธอสอนลูกไม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 867

จากระยะไกล คุณแม่ฉินสามารถมองเห็นเสิ่นหยินอู้และลูกๆทั้งสองได้ เด็กๆที่อยู่ข้างๆเธอเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และพวกเขาก็ดูมีหน้าตาที่คล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกัน เธอตกใจมากเมื่อหลี่มู่ถิงโทรหาเธอก่อนหน้านี้ “ลูกเหรอ? เป็นลูกของฉินเย่กับหยินอู้หรอ?” "ครับคุณผู้หญิง" “นี่...หยินอู้มีลูกกับฉินเย่จริงๆเหรอ? อายุเท่าไรแล้ว?” เมื่อหลี่มู่ถิงบอกเธอว่าเด็กสองคนอายุห้าขวบและเป็นฝาแฝดหญิงชาย คุณแม่ฉินก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากท่าทางที่ไม่สนใจใครของฉินเย่ก่อนหน้านี้ บวกกับการที่หยินอู้ไม่ต้องการที่จะมาเจอพวกเขาอีก คุณแม่ฉินจึงคิดว่าฉินเย่คงจะไม่มีคู่ครองอีกแล้วในชีวิตนี้ และเธอคงไม่มีโอกาสที่ได้อุ้มหลานๆแล้ว เรื่องนี้ทำให้เธอต้องเตรียมใจอยู่เป็นเวลานาน คุณแม่ฉินโน้มน้าวตัวเองอย่างยากลำบากว่าหากเธอไม่มีหลานก็ช่างมันไปเถอะ สำหรับลูกชายของเธอ ไม่ว่าเขาจะมีลูกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรกังวล ฉินเย่ไม่ได้กังวล แล้วเธอจะกังวลอะไรล่ะ? เธอไม่คิดว่าเรื่องเหนือความคาดหมายจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลว่าเธอจะไม่มีหลานอยู่เลย แต่ผ่านไปไม่เท่าไรก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 868

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังไม่เร่งรีบ เสิ่นหยินอู้กับฉินเย่ซึ่งแต่งงานกันแล้วในเวลานั้นคงจะมีความคิดของตัวเองในแบบของคนหนุ่มสาว พวกเขาในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งมากเกินไป เช่นเดียวกับตอนที่เธอยังเด็ก การตั้งท้องฉินเย่ขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกัน เดิมทีเธอต้องการใช้เวลากับสามีของเธอในโลกของพวกเขาสองคนให้นานกว่านี้ และคุณนายฉินก็ไม่ได้กดดันเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในโลกที่หวานชื่นของพวกเธอสองคนกับสามี และแล้ว...เธอก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจเธอเองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่ต้องการเร่งหยินอู้กับฉินเย่ ใครจะรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะหย่าร้างกัน และหยินอู้ก็จากไปในที่ไกลแสนไกล ต่อมาก็มีคนมาล้อเธอเรื่องหลานมากขึ้น ในเวลานั้นคุณแม่ฉินยิ้มเล็กน้อยและขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้อะไร เธอเพียงแค่ยุติสัญญาระหว่างบริษัททั้งสองหลังจากที่กลับไป เธอทำให้อีกฝ่ายตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ในคืนนั้นอีกฝ่ายมาหาเธอและร้องไห้โดยบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ขอให้ตระกูลฉินปล่อยเขาไป หลังจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี คุณแม่ฉินก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ตอนนี้... เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ คุณแม่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะย่อต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 869

ระหว่างทางกลับบ้าน เธอไม่ได้พูดอะไร คุณแม่ฉินกลับเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ เธอจับมือหยินอู้และลังเลเหมือนจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง นอกจากคุณแม่ฉิน เสิ่นหยินอู้ก็ลังเลที่จะพูดเช่นกันเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร หรือเรียกคุณแม่ฉินอย่างไร แม้ว่าเด็กทั้งสองจะเรียกพวกเขาว่าปู่กับย่า แต่เธอกลับไม่สามารถเรียกคุณแม่ฉินว่าแม่ได้ ท้ายที่สุด...มันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ห้าปี ช่างเป็นตัวเลขที่เนิ่นนานเสียจริง อาจเป็นเพราะสายตาที่สื่อออกมาหรือไม่ก็การแสดงออกของเธอ แม่ฉินจึงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยื่นมือออกไปจับปรอยผมของเธอเบาๆและนำมันไปทัดที่หลังหู จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เด็กดี หลายปีมานี้คงลำบากมามากเลยสินะ” ประโยคเดียวนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา เธอคิดไว้ก่อนแล้วว่าคุณแม่ฉินจะพูดอะไร แต่เธอไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่คุณแม่ฉินจะพูดนั้นจะเป็นประโยคนี้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่ได้ยิน มีความน้อยใจมากมายอยู่ในที่เธอไม่อาจพูดออกมาได้ ความรู้สึกใกล้ชิดกับคนที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอมีความฝันที่จะมีแม่ หรือผู้ปกค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 870

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขายังอยู่ที่ต่างประเทศและร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ก็จางหายไปเล็กน้อย “เอาล่ะ อย่าเพิ่งไปคิดมากเรื่องอื่นเลย นั่งเครื่องบินมาทั้งวัน หิวแย่แล้วใช่ไหม? อาหารในครัวน่าจะใกล้ทำเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวก็ไม่ต้องคิดอะไรสักพักแล้วก็กินข้าวให้อร่อยนะ มีอะไรไว้ค่อยคุยต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะ" อาหารเย็นหลากหลายมากและมีแต่สิ่งที่เธอคุ้นเคย ซึ่งแตกต่างจากที่กินที่ต่างประเทศโดยสิ้นเชิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ... รสชาติของอาหารต่างก็เป็นรสชาติที่คุ้นเคยทั้งนั้น... เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแม่และคุณพ่อฉิน แม้ว่าเธอจะแก้ปมในใจได้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจเพราะเธอหายไปเป็นเวลานานมาก เธอพูดขึ้นมาอย่างขวยเขินและยากลำบากว่า: "พ่อคะ แม่คะ หลายปีมานี้พ่อครัวของบ้านนี้ไม่ได้เปลี่ยนเลยเหรอคะ?" คุณแม่ฉินมองดูเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ได้เปลี่ยนเลยจ๊ะ เขาอยู่กับตระกูลฉินมาหลายปีแล้ว และเราก็ชินกับรสชาติอาหารที่เขาทำมานานแล้ว ทำไมเหรอ กินไปนิดเดียวก็รู้แล้วเหรอจ๊ะ?” “ใช่ค่ะ มันเป็นรสชาติที่น่าคิดถึงมาก” มันเป็นอาหารเธอคุ้นเคย และแม้กระทั
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
8586878889
...
91
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status