All Chapters of คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: Chapter 631 - Chapter 640

910 Chapters

บทที่ 631

อย่างไรก็ตาม เสิ่นซือเหนียนไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าและยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความลังเล “น้องสาวของลูกขึ้นรถแล้ว ลูกกังวลอะไรจ๊ะ? เราทิ้งน้องสาวของลูกไว้ตามลำพังไม่ได้หรอกนะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็จูงมือของซือเหนียนแล้วเดินขึ้นไปบนรถ การกระทำของฉินเย่ที่อุ้มเหมิงเหมิงขึ้นมาบนรถอย่างหน้าเฉยควบคุมเธอได้อยู่หมัดจริงๆ ตราบใดที่เขาพาเด็กๆไปด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะทิ้งลูกๆของเธอไปได้ หลังจากที่เห็นเธอขึ้นมาบนรถ ฉินเย่ก็ยกริมฝีปากบางของเขาขึ้น จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็อุ้มเสิ่นเหมิงเหมิงขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของเขา วันนี้เขาไม่ได้ขับรถเอง มีคนขับอยู่ข้างหน้า หลังจากที่เธอกับเสิ่นซือเหนียนขึ้นรถแล้ว หลี่มู่ถิงซึ่งรออยู่ด้านนอกรถก็ขึ้นรถตามไปด้วย หลังจากที่หลี่มู่ถิงขึ้นรถ สายตาของเขาก็ไม่สามารถละออกไปจากเสิ่นหยินอู้และเด็กๆทั้งสองได้เลย เขาตกใจมากในตอนที่รู้ว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของประธานฉิน ฉินเย่ที่เป็นเช่นก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าประธานของเขาอาจจะต้องแก่ตายตามลำพัง แต่ตอนนี้เขามีลูกแฝดชายหญิงอย่างละคน นั่นทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก และที่สำคัญที่สุดคือ ว่าที่ภรรยาของประธานเป็นคนหน้
Read more

บทที่ 632

"อืม" ฉินเย่ตอบอย่างเย็นชา “ถ้างั้นประธานฉิน... ในเมื่อคุณหนูเสิ่นไปที่สถานีรถไฟใต้ดินแล้ว เรากลับไปที่บริษัทกันเถอะครับ ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในบริษัท ถ้าไม่ไปจัดการ…” หลี่มู่ถิงไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายต่อ แต่ฉินเย่ก็เข้าใจได้ด้วยตัวเอง มุมปากบางของเขาค่อยๆเป็นเส้นตรง และในที่สุดเขาก็ละสายตาออกไปแล้วพูดว่า "ไปที่บริษัท" - เสิ่นหยินอู้เข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินได้สักพัก เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง เมื่อพบว่าไม่มีใครตามมา เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะแอบผิดหวังอยู่ในใจเล็กๆ แต่ในไม่ช้า อารมณ์อันเล็กน้อยนี้ก็ถูกเธอกำจัดไป และเธอก็รีบไปซื้อตั๋ว หลังจากถึงบริษัท เสิ่นหยินอู้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานเลย แม้แต่ในระหว่างการประชุม เธอก็ยังสติหลุดลอยออกไป หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมด้วยความมึนงง ขณะที่อู๋อี้ไห่ตามหลังเสิ่นหยินอู้ออกไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางเธอไว้ “ผมว่านะเถ้าแก่ สองวันที่ผ่านมาคุณมีเรื่องไม่สบายใจใช่ไหม?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไป แต่เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขา “เถ้าแก่ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” อู๋อี้
Read more

บทที่ 633

เดิมทีเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ แต่หลังจากพูดถึงเรื่องลูกแล้ว ความสนใจของอู๋อี้ไห่ก็เปลี่ยนไปในทันที “เถ้าแก่ ลูกแฝดของคุณเป็นหญิงหรือชายหรอครับ?” เสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างเรียบเฉย "เพื่อนของฉัน" อู๋อี้ไห่: "ครับครับ เพื่อนคุณ งั้นฝาแฝดที่เพื่อนของคุณคลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงครับ?" “มันสำคัญหรอว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?” “สำคัญสิครับ ผมอยากรู้นี่” “...แฝดชายหญิง” “ว้าว งั้นถ้าประธานฉินแย่งไปได้ เขาก็จะได้ไปทั้งลูกชายแล้วก็ลูกสาวสิ?” เสิ่นหยินอู้: "อดีตสามีของเพื่อนฉัน" “ครับครับ อดีตสามีของเพื่อนคุณ ผมพูดผิด พูดผิดน่ะครับ” “แต่ว่าประธาน...ทำไมเพื่อนของคุณถึงคิดว่าอดีตสามีของเธอต้องการแย่งลูกไปจากเธอแทนที่จะคิดว่าเขาอยากเลี้ยงลูกด้วยกันกับเธอล่ะครับ?” “เลี้ยงด้วยกัน คุณล้อเล่นเหรอ? เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย” “มันต้องมีเหตุผลสินะ ทำไมเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ?” อู๋อี้ไห่เลิกคิ้วแล้ววิเคราะห์: “อดีตสามีของคุณ ไม่สิ อดีตสามีของเพื่อนคุณเก่งมากเลยสินะ? เขามีทั้งสถานะในสังคมและตำแหน่งที่สูงส่ง ถ้ามีเขามาช่วยเลี้ยงดูลูกๆ มันคงจะเป็นเรื่
Read more

บทที่ 634

อู๋อี้ไห่: "นี่นี่ เถ้าแก่ ผมก็คิดว่าคุณไม่ได้สนใจเลยสักนิด ที่แท้คุณก็ยังฟังอยู่" เสิ่นหยินอู้: "..." เธออดทน อดทนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป และพูดกับอู๋อี้ไห่ว่า: "ผู้จัดการอู๋ คุณอยากโดนไล่ออกไหม?" “ไม่ครับ ไม่ ผมแค่ล้อเล่นเพื่อคลายเครียดเอง ถ้าคุณตอบกลับ ผมก็รู้ว่าคุณกำลังฟังอยู่”เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเสิ่นหยินอู้ไม่ดีอย่างรุนแรง อู๋อี้ไห่จึงทำได้เพียงพูดว่า: "เอาล่ะๆ ผมจะพูดต่อ" “ในตอนนั้นทุกคนคิดว่าพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมั้นกัน เพราะแม้กระทั่งวันหมั้นก็ได้ประกาศออกมาแล้ว และคนในแวดวงต่างก็โพสต์คำเชิญเข้าร่วมงานกันหลายคนเลยด้วย” เมื่อได้ยิน คิ้วที่ของเสิ่นหยินอู้ก็ขมวดเล็กน้อย "แล้วไงต่อ?" “เถ้าแก่อย่าเพิ่งเร่งครับ ฟังผมให้จบก่อน” เสิ่นหยินอู้: "..." เธอไม่ได้เร่ง “ต่อมา หลายๆคนได้รับคำเชิญ แม้แต่ภายสถานที่จัดงานหมั้นก็ถูกถ่ายภาพไว้แล้ว ในเวลานั้น ทั่วทั้งหลานเฉิงแพร่ข่าวลือเรื่องที่ว่าทั้งสองกำลังจะหมั้นกัน แค่เพียงรอวันหมั้นที่กำลังจะมาถึง ถึงขั้นมีนักข่าวมามุงอัดกันอยู่ที่ประตูบ้านของตระกูลฉินเพียงเพื่อจะถามเกี่ยวกับเรื่องการหมั้นหมาย แต่เดาส
Read more

บทที่ 635

เสิ่นหยินอู้ใช้เวลาอยู่นานก่อนที่จะพูดออกมาได้ “เขาไม่ได้ไปเหรอ?” อู๋อี้ไห่พยักหน้าอย่างจริงจัง "ไม่ได้ไป" หลังจากได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินก็ลดสายตาลงและเงียบไป เดิมทีเขาเป็นหนี้บุญคุณเจียงฉูฉู่ ถ้าเขาไม่ไป นั่นไม่ใช่การเอาตัวเองไปเผาบนกองไฟหรอ? แต่ถึงไม่ไปแล้วมันจะทำไม เรื่องราวก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด “ตอนนั้นสื่อหลายที่รีบไปที่นั่นเพราะคิดว่าจะได้เห็นงานหมั้นที่ยิ่งใหญ่ ใครจะรู้ว่าหนึ่งในตัวละครหลักจะหายไป ผมได้ยินมาว่าวันนั้นเจียงฉูฉู่อับอายมากเพราะเธอเป็นคนเดียวที่มาในพิธีหมั้น เธอหน้าแตกยับเยินจนหมอไม่รับเย็บ ตระกูลเจียงก็หน้าแตกไปตามๆกันเพราะเธอ แต่ว่าหลังจากนั้นพวกสื่อก็ถ่ายรูปอะไรมาไม่ได้อีก ถึงจะถ่ายมาได้ แต่มันก็ถูกลบทิ้งจนหมด” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย “เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นแค่การบังหน้า แต่จริงๆแล้วมันไม่มีพิธีหมั้นอะไรเลย?” เสิ่นหยินยังไม่เชื่อว่าฉินเย่จะไม่ไป ท้ายที่สุดในตอนนั้นเขาก็แต่งงานปลอมๆกับเธอ รวมถึงที่เขาไม่ต้องการลูกด้วย มันไม่ใช่เพราะคนในใจของเขาคือเจียงฉูฉู่หรอ? เป็นไปได้อย่างไรกันที่เจียงฉูฉู่ถึงกับบังคับให้เขาไปง
Read more

บทที่ 636

สรุปก็คือ ถ้าเขาต้องการแย่งเด็กๆไป เธอก็จะไม่มีทางตกลงเด็ดขาด - ในตอนใกล้เวลาเลิกงาน เสิ่นหยินอู้ได้รับข้อความหนึ่ง ข้อความนี้ส่งมาจากลุงเย่มู่ที่เป็นเพื่อนของเธอใน WeChat “วันนี้ผมไม่มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำที่บริษัท ก็เลยเลิกงานก่อนแล้วก็ไปโรงเรียน ผมรับลูกๆกลับบ้านมาแล้ว คุณเลิกงานแล้วก็มาที่นี่ได้เลยนะ” เมื่อเห็นข้อความ เสิ่นหยินอู้ก็ลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือจะเชื่อแต่แล้วเธอก็ได้สติและตอบกลับทันทีว่า: "ฉันไม่เห็นด้วย" ฉินเย่: "ไม่เห็นด้วยยังไง?" เสิ่นหยินอู้: "ฉันไม่เห็นด้วยกับการที่คุณพาลูกๆของฉันไปที่บ้าน กรุณาเคารพความต้องการของฉันด้วย" อีกฝ่ายเงียบไปนานแล้วจึงตอบเธอ: "หยินอู้ ต้องให้ผมเตือนคุณไหม? เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนก็เป็นลูกของผมเหมือนกัน" เสิ่นหยินอู้: "คุณไม่จำเป็นต้องเตือนฉัน ฉันเลี้ยงดูพวกเขามาจนโต ฉันรู้ดีว่าลูกๆเป็นลูกของใคร ยังไงพวกเขาไม่ใช่ลูกของคุณอยู่แล้ว" ฉินเย่: "จริงเหรอ? งั้นให้ผมพาพวกเขาไปตรวจดีเอ็นเอไหม?" เสิ่นหยินอู้: "..." เสิ่นหยินอู้: "สรุปนะ กรุณาอย่าพาลูกของฉันไปไหนอีก" หลังจากส่งข้อความไปแล้ว เป็นเว
Read more

บทที่ 637

หลังจากที่ฉินเย่พาเด็กๆกลับถึงบ้าน เขาได้เชิญเชฟมาทำอาหารอร่อยๆให้พวกเขาเป็นพิเศษ และยังให้คนไปซื้อของเล่นอีกมากมายมาด้วย เนื่องจากยังไม่รู้ความชอบที่เฉพาะเจาะจงของเด็กสองคนนี้ และเขาไม่เคยซื้อของเล่นมาก่อน เขาจึงให้คนไปซื้อของเล่นมาเป็นกองๆ ซึ่งรวมไปถึงของเล่นต่างๆสำหรับทั้งเด็กผู้หญิงและทั้งเด็กผู้ชายด้วย เด็กน้อยทั้งสองไม่เคยเห็นของเล่นเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นมัน พวกเขาจึงตกตะลึงกันทั้งคู่ พวกเขาทั้งสองหันไปหาฉินเย่พร้อมกัน และเสิ่นเหมิงเหมิงก็ถามเบาๆ: "ลุงเย่มู่ ทั้งหมดนี้ให้เหมิงเหมิงกับพี่ชายหรอคะ?" "อืม" ฉินเย่พยักหน้า: "ถ้าอยากเป็นพ่อของพวกหนู ลุงก็ต้องทำตัวดีๆให้มากๆ นี่แค่เริ่มต้น เข้าไปดูสิว่ามีอันที่ชอบไหม?" หลังจากพูดจบ มือใหญ่ๆของเขาก็วางลงไปบนแผ่นหลังของเด็กทั้งสองคนแล้วผลักพวกเขาเบาๆให้เข้าไป เด็กน้อยทั้งสองเข้าไปในห้องแล้วมองหน้ากัน จากนั้นเหมิงเหมิงก็ถามเสิ่นซือเหนียนเบาๆ “พี่ชาย ของพวกนี้เราดูได้ไหม?” เสิ่นซือเหนียนดูออกว่าจริงๆแล้วเหมิงเหมิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว ที่จริงก็ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แม้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวเมื่อเห็นห้องท
Read more

บทที่ 638

หลังจากแน่ใจแล้ว เสิ่นเหมิงเหมิงก็ส่งเสียงออกมาด้วยความดีใจและไปรื้อเครื่องบินจำลองต่อ หลังจากที่เธอจากไป ฉินเย่ก็มองไปที่เสิ่นซือเหนียนซึ่งยืนอยู่ข้างๆที่แทบไม่พูดอะไรและกำลังพยายามยับยั้งชั่งใจตัวเองอย่างมาก “แล้วเหนียนเหนียนล่ะ?” “อะ อะไรหรอครับ?” เมื่อเขาถูกเรียก ทันใดนั้นเสิ่นซือเหนียนก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา “ความฝันของเหมิงเหมิงคือการเป็นนักบินหญิง แต่เหนียนเหนียนล่ะ?” นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ฉินเย่พูดคุยกับเด็กน้อยอย่างอดทนและเป็นฝ่ายที่ถามเกี่ยวกับความฝันของคนอื่นก่อน ในอดีตเขาไม่อยากฟังสิ่งที่เด็กคนอื่นพูดด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาอยากจะมีเวลามากขึ้นเพื่อทำความรู้จักกับลูกๆสองคนของเขาที่ไม่เคยรู้จักกันเลยห้าปี และเขายังต้องการรู้จักตัวตนของพวกเขาเพิ่มอีกด้วย เสิ่นซือเหนียนมองไปทางอื่น ไม่หันหน้าไปหาฉินเย่และพูดอย่างอึดอัดว่า: "ผมยังไม่ได้คิดเลย" หลังจากได้ยิน สายตาของฉินเย่ก็เลื่อนลง และจับจ้องไปที่มือเล็กๆของเขาที่จับชายเสื้อของตัวเอง สายตาของเขามีความหมายลึกซึ้ง “ยังไม่ได้คิดหรือคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกลุงเย่มู่เหรอ? ดูเหมือนว่าเหนียนเหนียนจะเริ่มไม่ไว้ใจลุงซะแล้วนะเนี่
Read more

บทที่ 639

หลังจากพูดจบ กู้เหยียนซีก็ไม่ลืมที่จะพูดอะไรดีๆเพื่อเทพธิดาของเขา “มึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าช่วงนี้ฉูฉู่คิดถึงมึงมากแค่ไหน มึงนี่จริงๆเลย ต่อให้งานจะยุ่งแค่ไหนมึงก็ไม่ควรไม่รับสายของฉูฉู่นะ” หลังจากได้ยิน จี้ชิงเป่ยก็มองไปที่กู้เหยียนซีด้วย เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าพูดตรงๆกับฉินเย่ เหตุผลแรกก็เพราะทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก และเหตุผลที่สองก็เพราะความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ในครอบครัวของพวกเขาก็ค่อนข้างดีเช่นกัน ดังนั้น ฉินเย่จึงมีความอดทนต่อเพื่อนในวัยเด็กของเขามาก บางคนรู้ว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร แต่คนอย่างกู้เหยียนซีที่ไม่รู้จักไม่รู้กาลเทศะ บางครั้งเขาก็ชอบพูดอะไรที่ไม่สมควรออกมา เขามีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก พูดทุกอย่างตามที่ใจนึก แม้ว่าฉินเย่จะเตือนเขาไปหลายครั้ง แต่เขาก็เปลี่ยนไม่ได้ บางครั้งฉินเย่ก็เหนื่อยที่จะไปสนใจว่าคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเขาจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับตอนนี้ หลังจากที่กู้เหยียนซีพูดเช่นนั้น ฉินเย่ก็ทำเหมือนว่าไม่ได้ยิน และพูดอย่างใจเย็น: "ไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมกูเป็นพิเศษหรอก ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พวกมึงรีบกลับไ
Read more

บทที่ 640

โอ้ใช่แล้ว เธอยังเรียกฉินเย่ว่าลุงเย่มู่ด้วยงั้นเหรอ? ลุงเย่มู่?นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?นอกจากชื่อของเขาแล้ว ฉินเย่ยังมีชื่อเล่นอื่นที่เธอไม่รู้อีกหรอ? เมื่อคิดเช่นนั้น การแสดงออกทางสีหน้าของเจียงฉูฉู่ก็แทบจะระเบิดออกมา เธอมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาที่เย็นชาของฉินเย่และพูดออกมาอย่างยากลำบาก: "เย่ เด็กคนนี้คือใคร?" จี้ชิงเป่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วมองฉินเย่อย่างเงียบๆเพื่อรอคำตอบของเขา หลังจากกู้เหยียนซีได้ยินคำพูดของเจียงฉูฉู่ จู่ๆเขาก็มองไปที่เด็กสาวตัวเล็กๆที่ยืนอยู่ที่บันไดด้วยความประหลาดใจและถามว่า: "เย่ เด็กน้อยคนนี้หน้าเหมือนมึงมาก คงไม่ใช่ลูกมึงหรอกใช่ไหม?" ทันทีที่เขาถามคำถามนี้ สีหน้าของเจียงฉูฉู่ซึ่งไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วก็แย่ลงไปอีก มือที่ห้อยอยู่ข้างๆลำตัวกำแน่นจนเล็บที่เรียวยาวเกือบจะแทงเข้าไปในเนื้อ “เป็นไปไม่ได้หรอกใช่ไหม?” เธอยิ้มเจื่อนๆออกมา: "เมื่อก่อนก็มีเด็กหลายคนที่หน้าเหมือนฉินเย่ถูกพามาหาเขา แต่ก็ตรวจสอบไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ไอพวกบ้าๆจิตวิปริตที่ไปทำศัลยกรรมให้เด็กตัวน้อยๆแล้วคิดจะใช้โอกาสนี้มาเกาะฉินเย่ เด็กคนนี้คงจะเป็นเหมือนกับคนพวกนั้นหรือเปล
Read more
PREV
1
...
6263646566
...
91
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status